“คุณหนูเจ้าขา คุณชายตู้ชวนซา อยากดื่มนมแล้วเจ้าค่ะ”
ป้าเหยาพาร่างจ่ำม่ำเข้าในบ้านเสิ่นที่ตอนนี้ยังไม่เรียบร้อยเพราะเพิ่งจะขนของเข้ามา
เปาหลิวเปิดเสื้อขึ้นให้นมทารกน้อยที่เพิ่งจะอยู่ในวัยสี่เดือนอ้วนจ่ำม่ำน่าเอ็นดู ส่งเสียงอ้อแอ้ ตากลมจ้องมองใบหน้าของเปาหลิวเปาหลิวก้มลงจุมพิตที่แก้มเบาๆ ร่างอ้วนดื่มนมอย่างหิวกระหาย
“ลูกแม่”
ดวงตากลมนั้นไม่อาจปฏิเสธว่าเปาหลิวหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบ น้ำตาไหลรินเมื่อเห็นหน้าเขาในครั้งแรก ท่านตู้ร้อนรนอยู่ด้านนอก พอเห็นว่าคลอดออกมาเป็นทารกเพศชายท่านตู้ถึงกับจัดงานเลี้ยงเปิดตัวตู้ชวนซา เคยคิดว่าจะเกลียดเขาแต่เปาหลิวเมื่อเห็นดวงหน้าอ้วนป้อมก็อดที่จะหลงรักเสียไม่ได้ ใบหน้าอ้วนคิ้วดกหนาละม้ายฟ่านหงเหวินอย่างปฏิเสธไม่ได้
เปาหลิวหวนคิดถึงอดีตที่มีทั้งสุขทุกข์ปะปนยิ้มให้กับความสุขแต่ความทุกข์ก็ไม่ลืมว่าเคยเกิดขึ้น
ก่อนจะส่งร่างอ้วนให้กับ ป้าเหยา
“คุณหนูเจ้าขาท่านตู้จะแวะมาทานข้าวที่นี่วันพรุ่งนี้คุณหนูจะต้องให้เตรียมอะไรบ้าง”
ป้าเหยาเอ่ยปาก
“ท่านตู้ไม่ได้มากเรื่อง แค่แวะมาเล่นกับชวนซา คงคิดถึงเจ้าตัวอ้วนไม่น้อย ข้ามาอยู่ที่นี่สองวันแล้ว”
“ท่านตู้ตามใจคุณหนูยิ่งนัก ป้าเหยาได้ยินว่าอีกสองวันคุณชายตู้อี้ซาจะกลับมาจากต่างแคว้น คุณหนูคงไม่บอกนะว่าตั้งใจหลบหน้าเขา”
“อือ ข้าได้ยินว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการที่ท่านตู้แต่งฮูหยินที่สี่ อายุคราวลูกเช่นข้า แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจหลบหน้าอะไรเขา ท่านตู้ดีกับข้าไม่น้อย เรื่องไหนปล่อยวางได้จึงปล่อยวาง ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ฮูหยินทั้งสามก็ไม่เคยระรานด้วยท่านตู้ ปกป้องข้า จนออกนอกหน้า”
“ท่านตู้มอบกิจการบางส่วนให้คุณหนูเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ แม้จะออกมาอยู่แบบนี้ก็ไม่ลำบากท่านตู้เองก็แวะเวียนได้ไม่ยาก เพราะบ้านตู้กับบ้านเสิ่นไม่ไกลกันนัก”เปาหลิวยิ้ม อยากกราบหัวใจท่านตู้ที่ไม่เคยรังเกียจเปาหลิว รับมาไว้ในตำแหน่งฮูหยินสี่แล้วยังดูแลอย่างดี ให้สิทธิ์เท่าเทียมกับฮูหยินทั้งสาม ปกป้องคุ้มครองจนมีชีวิตสะดวกสบายดังเช่นทุกวันนี้
“ข้าก็แค่ อยากมาอยู่บ้านเสิ่นไม่ได้คิดอะไร ท่านตู้เองก็ตามใจ อีกไม่กี่วันก็จะถึงแซยิดของท่านตู้ คุณชายอี้ซาจึงรีบกลับเพื่ออวยพรวันเกิด ข้าเองก็คงต้องหาของขวัญแทนคำขอบคุณที่ท่านตู้ดีกับข้ามาตลอด”
ป้าเหยายิ้ม ตลอดหนึ่งปีมานี้ เปาหลิวแทบจะไม่มีรอยยิ้มครั้งแรกที่เปาเหยาเห็นรอยยิ้มของเปาหลิวก็คือตอนที่คลอดชวนซาตั้งแต่วันที่โซเซกลับมาตอนเช้ามืดวันนั้นใบหน้าก็ไม่เคยมีรอยยิ้ม แล้วยังยินดีรับขอเสนอของท่านตู้แต่ย้ายออกจากบ้านเสิ่นโดยไม่กล่าวคำใดมาอาศัยบ้านตู้จนกระทั่งสองวันนี้ที่ย้ายออกมาอยู่บ้านเสิ่นตามเดิม ป้าเหยาเคยสงสัยว่าคุณหนูหนีอะไรและหนีใครสักคนเป็นแน่
ชวนซาอ้วนหลับไปแล้ว เปาหลิวเก็บของเข้าที่เข้าทาง คิดถึงมารดาที่เคยสั่งสอนเรื่องการครองเรือน หญิงงามที่ดีจะต้องภักดีต่อสามีชั่วนิรันดร์ เปาหลิวจึงเลือกที่จะแต่งเข้าบ้านตู้ แต่คนชั่วนั่นกลับกล้ามาหักหาญน้ำใจในบ้านสามี มือบางจิกเล็บลงบนฝ่ามือจนรู้สึกเจ็บ
บ้านฟ่าน
“ท่านแม่”
ซีหยินย่อกายลงตรงหน้า มารดาของฟ่านหงเหวิน ฮูหยินฟ่านหงเยว่
“สะใภ้เจ้าไม่ต้องมากพิธี หลายวันมานี้ข้าเห็นว่า คุณชายหน้าดำคร่ำเครียด เจ้ากับเขาทะเลาะกันหรือไร”ซีหยินยิ้มเศร้าๆ
“ท่านแม่ ข้ามิบังอาจจะทะเลาะกับคุณชาย”หงเยว่ถอนหายใจยาว
“ข้าหวังจะได้อุ้มหลานดีใจที่เขาพาเจ้าเข้าบ้าน แต่จนแล้วจนรอดนับวัน หงเหวินยิ่งทำตัวแปลกไปในใจคิดอะไรอยู่ เจ้าไม่รู้ใจหงเหวินบ้างหรือไร”
ซีหยินส่ายหน้า จะรู้ได้อย่างไรในเมื่อที่ผ่านมาซีหยินแค่เพียงปรนนิบัติบนแท่นนอนก็เท่านั้น รสสวาทจืดชืดลงทุกวันนับวันยิ่งห่างเหิน ที่เหลือฟ่านหงเหวินไปไหนไป ทำอะไรไม่อาจรู้ได้
“ข้าคงต้องคุยกับเขาเสียที หงเหวินทำตัวแปลกไป”ซีหยินแค่ยิ้ม ไม่ได้ต่อคำ
“เจ้าค่ะท่านแม่”
“สะใภ้เจ้าก็ไม่ต้องคิดมาก อย่างไรเสียข้าก็ยังถือว่าเจ้าเป็นสะใภ้”
“ท่านแม่ นางไม่ใช่สะใภ้ นางแค่เพียงหญิงในหอนางโลม ท่านแม่เองก็รู้ลูกไม่เคยให้นางเข้ามาในฐานะสะใภ้ นางเองก็รู้ดีแก่ใจฉวยโอกาสนี้มาอยู่บ้านฟ่าน และลูกที่ไม่กล้าไล่นาง ท่านแม่เองก็ถือหางนาง”ซีหยินก้มหน้า
“หงเหวินใจคอเจ้าทำด้วยอะไรนางน่าสงสารเพียงนี้”หงเหวินยิ้มหยัน
“ลูก แวะไปหานางที่หอนางโลมได้ ไม่จำเป็นต้องให้นางพาตัวเองมาถึงนี่ นางเองก็ไม่ได้มีอะไรที่ลูกติดใจอะไรหนักหนา แค่เพียงครั้งสองครั้งก็พอ”ซีหยินสะอื้นเบาๆ“หงเหวินจะมากไปแล้ว”“ท่านแม่ ข้าไม่รับนางในฐานะเมีย อยากจะไล่นางเสียเดี๋ยวนี้”ซีหยินหันหลังวิ่งออกจากตรงนั้น หงเยว่ส่ายหน้าไปมา“เจ้ามีหญิงที่หมายปองหรือไร หงเหวินบอกแม่มาหากเป็นเช่นนั้นข้าจะสู่ขอคนที่เจ้าหมายปองให้นางอยู่ในฐานะฮูหยินรอง อย่างน้อยนางก็น่าสงสาร”หงเหวินทำสีหน้าเรียบเฉย“ไม่มี ข้าไม่มีหญิงใดหมายปอง”ใจกลับคิดถึงเปาหลิวแต่ภาพความทรงจำที่ถูกนางปฏิเสธและเรื่องที่นางไม่เลือกเขาทั้งๆ ที่เป็นของเขาแล้วกลับไปเลือกชายชราคราวพ่อมาเป็นสามียิ่งทำให้ หงเหวินเจ็บแค้น“หรือจะให้แม่สู่ขอลูกสาวบ้านไหน”“ไม่ต้อง ข้าไม่ต้องการใครทั้งนั้น…”น้ำเสียงขาดหายไปในลำคอ มารดาถอนหายใจยาวจ้ำเท้าออกจากตรงนั้นไปยังห้องทำงาน ซีหยิน ในร่างไร้อาภรณ์ร่างเปลือยเปล่ากอดรัดจากทางด้านหลัง“ทำแบบนี้คิดว่าจะผูกใจข้าได้หรือ”“แค่คุณชายเมตตา”หงเหวินผลักร่างเล็กลงบนพื้น ไม่รอช้าบดจูบเร่าร้อน ซีหยินครางกระเส่า“เจ้ามันก็เหมาะแค่นางบำเรอ หญิงพิสุทธิ์น่าหลงใหลกว
แขกทั้งหลายเข้าไปในงานกันจนหมดแล้วเปาหลิวเดินกลับออกมาในงานที่เป็นห้องกว้างจัดโต๊ะอาหารไว้เป็นชุดนั่งดื่มกินแต่ที่มุมห้องนั้น หงเหวินกลับคว้ามือบางไว้“ลืม รสสวาทกันได้ลงคอ เจ้าคลอดลูกแล้วอยากจะลองเล่นรักกันดูอีกสักครั้งไหม”“หยาบช้าที่สุดข้าเกลียดท่านที่สุด ไปให้พ้นไม่อย่างนั้นข้าจะร้องให้คนช่วย”“ฮ่าาาาจะร้องต้องร้องครางด้วยไหม”ประกบริมฝีปากกับปากบางไว้เสีย กอดรัดดันร่างบางชิดมุมห้องไว้แน่น คนที่ผ่านมาจึงไม่รู้ว่าเป็นใครด้วยร่างบางถูกบังไว้จนสิ้น“ปล่อยนะ” ขมเม้มริมฝีปากรสจูบยังติดตรึงใจไม่เปลี่ยน“อือกำลังสนุกจะปล่อยได้อย่างไร"บดเบียดริมฝีปากแน่นเปาหลิวกัดลิ้นอุ่นอย่างจัง“โอ๊ะ เจ้าอย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วข้าจะยอมแพ้ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”ผละออกจากร่างบางของเปาหลิวที่วิ่งแน่บเข้าไปในงานฟ่านหงเหวินสบถเบาๆบรรยากาศในงานครึกครื้น ดื่มกินกันจนพอใจ ฟ่านหงเหวินเดินโซเซไปมา ดื่มไปไม่น้อย แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่เปาหลิวตลอดเวลาท่านตู้เดินขึ้นไปบนเวที ที่จัดไว้สำหรับนางงามมาร่ายรำและดนตรีขับกล่อม“ วันนี้วันมงคล ครบ72ปีของข้า อี้ซาเดินทางมาถึงแล้วในตอนนี้ อี้ซาขึ้นมานี่”อี้ซา ก้าวขายาวๆ
เสิ่นเปาหลิวถอนหายใจผู่หยงดึงมือเปาหลิวให้ขึ้นไปนั่งบนเกี้ยว ซีหยินมองตามร่างอ้อนแอ้นของเปาหลิวไม่วางตาเปาหลิวขึ้นไปนั่งบนเกี้ยวบีบมือไปมา อากาศค่อนข้างหนาว พรุ่งนี้เช้าจึงได้กลับ ห้องที่ล็อกจากด้านในคงพอให้ป้าเหยาคิดว่าเปาหลิวอยู่ในนั้นทั้งคืน พรุ่งนี้จะต้องรีบกลับตั้งแต่รุ่งสาง กันความสังสัยเกี้ยวถูกหามลัดเลาะ ผ่านบ้านเรือนออกไปนอกย่านบ้านเรือนจนกระทั่งไปถึงสองข้างทางที่เป็นป่ารก เปาหลิวบีบมือของตัวเองที่เย็นเฉียบ บางคราความคิดก็สับสนอยากจะเลิกเสียกลางคันบอกให้เกี้ยวหันหลังกลับบางครั้งก็คิดว่ายอมๆ ไปเสียพรุ่งนี้จึงจะมีทอง มาใช้หนี้ทั้งยังเหลือทำทุนได้อีกไม่น้อย พอเลี้ยงคนบ้านเสิ่นที่ตั้งใจอยู่ช่วยกันบางส่วน คิดไปก็ยิ้มไป ก่อนที่จะเห็นแสงไฟท่ามกลางดงไผ่หนาทึบมีบ้านหลังใหญ่ซุกซ่อนอยู่ในนั้นหากมองเผินๆ คงไม่เห็นแต่เมื่อเกี้ยวหยุดลงจึงรู้ว่าบ้านหลังนี้ ใหญ่โตเพียงใด“คุณหนูพรุ่งนี้ช่วงปลายๆ ของยามอิ๋น (03.00.04.59) เกี้ยวจะมารอรับ”คนหามเกี้ยวเอ่ยปากด้วยความนอบน้อมเสิ่นเปาหลิวหยิบก้อนเงินส่งให้คนหามเกี้ยว แล้วยืนนิ่งไม่ไหวติง“คุณหนูรีบเข้าไปเถิดข้างนอกหมาป่าและงูพิษมีมากมาย ในบ้านก็อ
จะเอื้อมมือดึงแขนแต่กลับพบสายตาตำหนิของคนถือตัว เฒ่าแก่เนี๋ยที่เพิ่งจะผ่านวัยสาวไปไม่กี่ปีก็หดมือเสีย คุณชายฟ่านผู้หยิ่งทะนงจะยิ้มหัวก็ไม่ มาที่นี่เพื่อหาความสำราญกับเรือนร่างหญิงงามที่พิสุทธิ์ผุดผ่องไม่นิยมกินของเหลือเดนของใคร“เชิญคุณชาย ซีหยิน เตรียมชงชา”ดวงตาเศร้าเงยขึ้นช้าๆ มองไปยังร่างสูงที่ เคยเห็นแทบจะทุกวันแต่ไม่เคยได้เข้าใกล้ด้วยมิใช่หญิงพิสุทธิ์อย่างที่ คุณชายฟ่านต้องการหลุบตามองพื้นก้าวเดินผ่านร่างสูงที่คว้าข้อมือบางไว้“เดี๋ยว”หัวใจบางๆ รู้สึกพองโต“ข้าขอเปลี่ยนเป็นสุราอุ่น”ดวงตางอนงามเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเแต่เพียงครู่เดียวก็ก้มหน้าดังเดิม“ได้หยินไหมเล่าซีหยิน คุณชายอยากได้สุราอุ่นเจ้าไปที่หอบ่มสุราให้เขายกสุราที่เพิ่งกลั่นเสร็จอุ่นๆ มาที่นี่”ชีหยิน ย่อกายก้าวเดินไป ฟ่านหงเหวินมองตามร่างอ้อนแอ้นอ่อนหวานนั้นจนลับตา“นางน่าสงสารเจ้าค่ะถูกขายตั้งแต่สิบสี่ ป่านนี้ยังไถ่ตัวเองไม่หมด ความจริงซีหยินนางต้องการออกไปทำการค้าเล็กๆ เลี้ยงตัว”ฟ่านหงเหวิน ทำหูทวนลมเสีย“เชิญคุณชาย”นั่งลงบนพื้นที่จัดไว้ ด้านหน้าเป็นโต๊ะตัวเตี้ย ชีหยินยกจอกสุรามาวางลงข้างๆ คุกเข่ารินสุราให้อย่า
“วันนี้ข้า เร่งรีบพรุ่งนี้จึงมีเวลามากพอ”ซีหยินก้มหน้าเขินอาย จริตจะก้านราวกับไม่เคยต้องมือชายมาก่อน หงเหวินอยากจะรั้งร่างบางมากดริมฝีปากอีกครั้งหากไม่ติดที่นางกำลังใช้ลิ้นอยู่ใบหน้าเรียบเฉยยกยิ้ม หงเหวินผู้ซึ่งไม่เคยขาดเรื่องบนแท่นนอนแม้แต่คืนเดียวแต่กระนั้นก็ไม่มีฮูหยินเพราะเขาเข็ดกับคำปฏิเสธของเสิ่นเปาหลิวในครั้งนี้ซีหยินหอมหวานถูกใจเขายิ่งนักพรุ่งนี้จึงตั้งใจเสพสมบนเรือนร่างของนางเสียให้พอ เผื่อว่าอีกสองสามวันจะได้ลิ้มรสสวาทของคุณหนูบ้านเสิ่นที่งดงามและหยิ่งทะนงคนนั้นบ้านเสิ่น“คุณหนูเจ้าขา บ้านหลังนี้คงต้องหลุดมือแน่แล้ว เงินหมื่นตำลึงจะหามาจากที่ไหนกัน”“มีเวลาอีกกี่วันป้าเหยา”“ท่านกวงบอกว่าอีกสามวันหลังจากนี้หากยังไม่นำเงินไปที่บ้านกวงเราต้องขนของออกจากบ้านเสิ่นทันที”เปาหลิวยิ้มเศร้าๆ บ้านของมารดาบ้านที่มีไออุ่นของมารดาจะปล่อยให้หลุดมือได้อย่างไร“ข้าจะหาทางนำเงินไปคืน ท่านลุงกวงหากไม่สามารถหาเงินได้ทันเปาหลิวจะลงทุนขอร้องลุงกวงดูสักครั้งป้าเหยา พยักหน้าขึ้นลงยิ้มให้กำลังใจ ในขณะเดียวกัน“กดดันนางให้ถึงที่สุด อย่าได้เห็นแก่อะไรทั้งนั้น ทำอย่างไรก็ได้ให้นางอับจนหนทาง”ร่
เสิ่นเปาหลิวเลือดขึ้นหน้า“ท่านน้าท่านกลับไปเสีย ข้าไม่ขายตัว”“โธ่คุณหนูงานง่ายดาย ได้ทองถึงสี่พันชั่งแค่นอนนิ่งๆ รอนับทองในหีบ”ยังยิ้ม ไม่ได่มีท่าที ตื่นกลัวกับโทสะของเปาหลิว“คุณหนูบอกให้เจ้ากลับไป”ป้าเหยาเอ่ยปากเสียงเข้ม ผู่หยงส่ายหน้าไปมา“ข้าอยู่ที่ หอท้อแดงหากเปลี่ยนใจภายในสามวันนี้”เสิ่นเปาหลิวหลับตาลงช้าๆ เจ็บปวดในใจ บิดาทำให้เปาหลิวไม่เหลือแม้กระทั่งศักดิ์ศรี ลุงกวงยิ้ม บางๆ“คุณหนูความจริงลุงก็อยากจะช่วย แต่ทว่าบิดาของคุณหนูติดหนี้แรมปีอ้างว่า นำเงินมาฟื้นฟูกิจการแต่กลับเอาเงินที่ยืมมาได้ไปเข้าบ่อนเสียสิ้น หนี้ของลุงจึงเป็นหนี้สูญ บ้านหลังนี้มีคนอยากได้ ขายทอดตลาดเป็นเงินไม่มากแต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยลุงยอมขาดทุนให้ได้หนี้ที่ค้างกลับคืนมาบ้างก็พอ”ลุงกวงแวะมาถึงบ้านในทันทีที่ผ่านไป3วันเปาหลิวยิ้มเศร้าๆ“ไม่อาจผัดผ่อนได้เลยหรือไรท่านลุง ข้าสัญญาจะหาเงินมาจนครบในเวลาไม่นาน”“คุณหนูเจ้าหนี้ของลุงก็เร่งรัดมา ยิ่งบิดาของคุณหนูหนีไปแบบนี้เจ้าหนี้ก็ยิ่งร้อนใจ เอาแบบนี้ดีไหม ให้ลุงเอาไปขายเสียก่อนพอคุณหนูหาเงินได้ก็ค่อยไปซื้อคืน” รอยยิ้มยังเศร้าเหมือนเดิมไม่อาจแก้ไขหรือเปลี่ยน
ทิ้งตัวลงทาบทับร่างเล็กไว้ทั้งตัว มืออุ่นปลดแกะอาภรณ์ออกจนไม่เหลือติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว คนที่เคยผ่านหญิงงามมาไม่น้อยเช่นขากลับรู้สึกประหม่า ใจสั่นระรัวเมื่อมองร่างเปลือยขาวผ่องเมื่อต้องแสงไฟสลัว อกอูมอวบอิ่มตั้งเด่นชูชันหงเหวินไม่พูดพล่ามทำเพลงฝังจมูกโด่งลงบนอกนุ่มหอมหวานจนอยากจะกลืนกิน ขบกัดเม็ดบัวที่ยอดอกสีชมพู เปาหลิวบิดตัวหลบหลีกแต่ไม่อาจหนี ลิ้นอุ่นลิ้มรสตั้งแต่เม็ดบัวเแข็ง ริมฝีปากขยำดูดกลืนความหอมหวานของอกอูมไล่ลงมาที่หน้าท้องเนียน มือเรียวลูบต่ำลงไปที่กลีบบุปผาแห้งผากใช้นิ้วนำทางก่อนจะ ใช้ลิ้นตวัดวนรอบๆ คอยสังเกตอาการของเปาหลิวที่พยายามบิดตัว ยิ่งนางดิ้นรนเขายิ่งกระสัน เปาหลิวหนีบขาไว้ทว่าอีกคนกับถ่างมันออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า บัดนี้เปาหลิวไร้เรี่ยวแรงจะต่อกรเพื่อที่จะซุกหน้าลงไปให้ลิ้นอุ่นได้ช่วยกระตุ้นให้บุปผา ได้ปล่อยน้ำหวานฉ่ำเยิ้มออกมา เตรียมความพร้อม“ใต้เท้าได้โปรด อย่าทำบะบะแบบนี้” หงเหวินปลดสายรัดเอวออกค่อยๆ กดเอวลงไปช้าๆ เปาหลิวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หงเหวินกับใช้มือสองข้างดันขาเนียนให้แยกออกจากกันกดบั้นเอวลงไปเบาๆ กลัวว่าอีกคนจะเจ็บปวดมากไปกว่านี้เพราะรู้สึกถึงความคับแ
“สำเร็จหรือไม่”หงเหวินเอ่ยปากถาม ลุงกวงเบาๆ ซีหยินยกจอกน้ำชายื่นส่งให้ตรงหน้าหงเหวินรับมาจิบช้าๆ“เรียบร้อยแล้วขอรับคุณชาย”“นางจะย้ายเข้าเมื่อไหร่กัน”ถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่ภายในใจตื่นเต้นไม่น้อย“ข้าน้อยได้ยินว่า จะย้ายเข้าไปทันที”“สามีชราของนางคงเสียดายแย่ นางเองก็คงเอือมสามีชราที่ไร้น้ำยาจึงอยากจะกลับไปอยู่ที่บ้านเผื่อว่าจะ มีบุรุษโง่งมสักคนหลงเข้าไป”ซีหยินย่อกายเดินออกจากห้องไป“คุณชาย ข้าน้อยไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องทำถึงเพียงนี้ บ้านหลังนั้นราคาไม่ถูกนักคุณชายกับไม่ยอมขายมัน แต่ยกให้ฮูหยินตู้เสียเปล่าๆ ”“ท่านลุงอย่ารู้เลย ข้ามีบางอย่างต้องสะสางกับนาง”หนึ่งปีก่อน“ คุณหนูเสิ่น แต่งเข้าบ้านตู้ในตำแหน่งฮูหยินที่สี่”ฟ่านหงเหวินยิ้มหยัน แม้จะรู้สึกเสียดายรสสวาทที่ฉ่ำหวานของเปาหลิว นางกับแก้เผ็ดเขาโดยการทอดกายให้กับใต้เท้าตู้ ชายชรารุ่นราวคราวเดียวกับบิดา ไม่รับทองคำที่เขาส่งไปยังบ้านเสิ่นคนที่นำทองคำไปที่บ้านเสิ่นบอกว่าพบเพียงความว่างเปล่า ข้าวของและผู้คนหายไปจากบ้านเสิ่นไม่เหลือแม้แต่เงา ไม่นานจึงได้ข่าวนางแต่งเข้าบ้านตู้ ตาแก่ตู้นั่นดีกว่าเขาตรงไหน ลีลาบนแท่นนอนดีกว่าเขาหร
แขกทั้งหลายเข้าไปในงานกันจนหมดแล้วเปาหลิวเดินกลับออกมาในงานที่เป็นห้องกว้างจัดโต๊ะอาหารไว้เป็นชุดนั่งดื่มกินแต่ที่มุมห้องนั้น หงเหวินกลับคว้ามือบางไว้“ลืม รสสวาทกันได้ลงคอ เจ้าคลอดลูกแล้วอยากจะลองเล่นรักกันดูอีกสักครั้งไหม”“หยาบช้าที่สุดข้าเกลียดท่านที่สุด ไปให้พ้นไม่อย่างนั้นข้าจะร้องให้คนช่วย”“ฮ่าาาาจะร้องต้องร้องครางด้วยไหม”ประกบริมฝีปากกับปากบางไว้เสีย กอดรัดดันร่างบางชิดมุมห้องไว้แน่น คนที่ผ่านมาจึงไม่รู้ว่าเป็นใครด้วยร่างบางถูกบังไว้จนสิ้น“ปล่อยนะ” ขมเม้มริมฝีปากรสจูบยังติดตรึงใจไม่เปลี่ยน“อือกำลังสนุกจะปล่อยได้อย่างไร"บดเบียดริมฝีปากแน่นเปาหลิวกัดลิ้นอุ่นอย่างจัง“โอ๊ะ เจ้าอย่าคิดว่าทำแบบนี้แล้วข้าจะยอมแพ้ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”ผละออกจากร่างบางของเปาหลิวที่วิ่งแน่บเข้าไปในงานฟ่านหงเหวินสบถเบาๆบรรยากาศในงานครึกครื้น ดื่มกินกันจนพอใจ ฟ่านหงเหวินเดินโซเซไปมา ดื่มไปไม่น้อย แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่เปาหลิวตลอดเวลาท่านตู้เดินขึ้นไปบนเวที ที่จัดไว้สำหรับนางงามมาร่ายรำและดนตรีขับกล่อม“ วันนี้วันมงคล ครบ72ปีของข้า อี้ซาเดินทางมาถึงแล้วในตอนนี้ อี้ซาขึ้นมานี่”อี้ซา ก้าวขายาวๆ
“ลูก แวะไปหานางที่หอนางโลมได้ ไม่จำเป็นต้องให้นางพาตัวเองมาถึงนี่ นางเองก็ไม่ได้มีอะไรที่ลูกติดใจอะไรหนักหนา แค่เพียงครั้งสองครั้งก็พอ”ซีหยินสะอื้นเบาๆ“หงเหวินจะมากไปแล้ว”“ท่านแม่ ข้าไม่รับนางในฐานะเมีย อยากจะไล่นางเสียเดี๋ยวนี้”ซีหยินหันหลังวิ่งออกจากตรงนั้น หงเยว่ส่ายหน้าไปมา“เจ้ามีหญิงที่หมายปองหรือไร หงเหวินบอกแม่มาหากเป็นเช่นนั้นข้าจะสู่ขอคนที่เจ้าหมายปองให้นางอยู่ในฐานะฮูหยินรอง อย่างน้อยนางก็น่าสงสาร”หงเหวินทำสีหน้าเรียบเฉย“ไม่มี ข้าไม่มีหญิงใดหมายปอง”ใจกลับคิดถึงเปาหลิวแต่ภาพความทรงจำที่ถูกนางปฏิเสธและเรื่องที่นางไม่เลือกเขาทั้งๆ ที่เป็นของเขาแล้วกลับไปเลือกชายชราคราวพ่อมาเป็นสามียิ่งทำให้ หงเหวินเจ็บแค้น“หรือจะให้แม่สู่ขอลูกสาวบ้านไหน”“ไม่ต้อง ข้าไม่ต้องการใครทั้งนั้น…”น้ำเสียงขาดหายไปในลำคอ มารดาถอนหายใจยาวจ้ำเท้าออกจากตรงนั้นไปยังห้องทำงาน ซีหยิน ในร่างไร้อาภรณ์ร่างเปลือยเปล่ากอดรัดจากทางด้านหลัง“ทำแบบนี้คิดว่าจะผูกใจข้าได้หรือ”“แค่คุณชายเมตตา”หงเหวินผลักร่างเล็กลงบนพื้น ไม่รอช้าบดจูบเร่าร้อน ซีหยินครางกระเส่า“เจ้ามันก็เหมาะแค่นางบำเรอ หญิงพิสุทธิ์น่าหลงใหลกว
“คุณหนูเจ้าขา คุณชายตู้ชวนซา อยากดื่มนมแล้วเจ้าค่ะ”ป้าเหยาพาร่างจ่ำม่ำเข้าในบ้านเสิ่นที่ตอนนี้ยังไม่เรียบร้อยเพราะเพิ่งจะขนของเข้ามาเปาหลิวเปิดเสื้อขึ้นให้นมทารกน้อยที่เพิ่งจะอยู่ในวัยสี่เดือนอ้วนจ่ำม่ำน่าเอ็นดู ส่งเสียงอ้อแอ้ ตากลมจ้องมองใบหน้าของเปาหลิวเปาหลิวก้มลงจุมพิตที่แก้มเบาๆ ร่างอ้วนดื่มนมอย่างหิวกระหาย“ลูกแม่” ดวงตากลมนั้นไม่อาจปฏิเสธว่าเปาหลิวหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบ น้ำตาไหลรินเมื่อเห็นหน้าเขาในครั้งแรก ท่านตู้ร้อนรนอยู่ด้านนอก พอเห็นว่าคลอดออกมาเป็นทารกเพศชายท่านตู้ถึงกับจัดงานเลี้ยงเปิดตัวตู้ชวนซา เคยคิดว่าจะเกลียดเขาแต่เปาหลิวเมื่อเห็นดวงหน้าอ้วนป้อมก็อดที่จะหลงรักเสียไม่ได้ ใบหน้าอ้วนคิ้วดกหนาละม้ายฟ่านหงเหวินอย่างปฏิเสธไม่ได้เปาหลิวหวนคิดถึงอดีตที่มีทั้งสุขทุกข์ปะปนยิ้มให้กับความสุขแต่ความทุกข์ก็ไม่ลืมว่าเคยเกิดขึ้นก่อนจะส่งร่างอ้วนให้กับ ป้าเหยา“คุณหนูเจ้าขาท่านตู้จะแวะมาทานข้าวที่นี่วันพรุ่งนี้คุณหนูจะต้องให้เตรียมอะไรบ้าง”ป้าเหยาเอ่ยปาก“ท่านตู้ไม่ได้มากเรื่อง แค่แวะมาเล่นกับชวนซา คงคิดถึงเจ้าตัวอ้วนไม่น้อย ข้ามาอยู่ที่นี่สองวันแล้ว”“ท่านตู้ตามใจคุณหนูยิ่งนัก
“ตาแก่นั่นคงไร้น้ำยา ดูรึยังคับแน่นอยู่เหมือนเดิม”“หยาบคาย”สายคาดเอวมัดอีกคนติดกับแท่นนอนรอยยิ้ม ยียวนภายใต้เแสงไฟ“มารื้อฟื้นความหลังกัน” แหวกชายกระโปรงออกช้าๆ กดศีรษะลงไปลิ้นอุ่นซอกซอนที่กลีบบุปผาใช้ลิ้นอุ่นวน รอบๆ กระดกลิ้นรัวเร็วตรงกลางกลีบบุปผาจนเปาหลิวดิ้นพล่าน“ปล่อยข้านะ”“คนตาบอดยังรู้ว่าเจ้าเองก็ติดใจรสสวาทของข้า”“ไม่มีทาง”ลิ้นอุ่นยังซอกซอนกระดกเลีย จนน้ำหวานจากบุปผาฉ่ำเยิ้ม“อย่าปฏิเสธเลย เจ้าเองก็อยากให้ข้าทำแบบนี้”กดริมฝีปากลงบนปากบางบดเบียดเร่าร้อน เปาหลิวดิ้นรนเอาตัวรอด อุตส่าห์แต่งเข้าบ้านตู้ยังหนีไปไม่พ้นคนผู้นี้เอวหนากดลงบนกลีบบุปผาฉ่ำเยิ้มแต่คับแน่น“เห็นไหมแค่ทีสองทีก็ยังคับแน่นเหมือนเดิม ข้าชักจะชอบเจ้าแล้วสิ ข้ายินดีทุ้มเงินซื้อตัวเจ้าจากตาแก้ตู้นั่นคืน”“หยาบช้าไปให้พ้น ข้าเกลียดท่านท่านมันก็แค่คนมักมากปล่อยข้า”“ไม่มีทาง ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้า ให้ข้าเชยชมอีกสักทีบางที เจ้าอาจติดใจ อย่าทำหยิ่งนัก ทองของข้าเจ้าก็ไม่ยอมรับหนีมาแต่งกับตาแก่นี่”“ข้าเกลียดท่าน ข้าไม่มีทางจะยอมญาติดีกับท่าน ท่านทำลายข้าแล้วทำให้ข้าอับอายแล้ว สมใจท่านแล้ว ยังจะตามรังควานข้าทำไมกั
“สำเร็จหรือไม่”หงเหวินเอ่ยปากถาม ลุงกวงเบาๆ ซีหยินยกจอกน้ำชายื่นส่งให้ตรงหน้าหงเหวินรับมาจิบช้าๆ“เรียบร้อยแล้วขอรับคุณชาย”“นางจะย้ายเข้าเมื่อไหร่กัน”ถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่ภายในใจตื่นเต้นไม่น้อย“ข้าน้อยได้ยินว่า จะย้ายเข้าไปทันที”“สามีชราของนางคงเสียดายแย่ นางเองก็คงเอือมสามีชราที่ไร้น้ำยาจึงอยากจะกลับไปอยู่ที่บ้านเผื่อว่าจะ มีบุรุษโง่งมสักคนหลงเข้าไป”ซีหยินย่อกายเดินออกจากห้องไป“คุณชาย ข้าน้อยไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องทำถึงเพียงนี้ บ้านหลังนั้นราคาไม่ถูกนักคุณชายกับไม่ยอมขายมัน แต่ยกให้ฮูหยินตู้เสียเปล่าๆ ”“ท่านลุงอย่ารู้เลย ข้ามีบางอย่างต้องสะสางกับนาง”หนึ่งปีก่อน“ คุณหนูเสิ่น แต่งเข้าบ้านตู้ในตำแหน่งฮูหยินที่สี่”ฟ่านหงเหวินยิ้มหยัน แม้จะรู้สึกเสียดายรสสวาทที่ฉ่ำหวานของเปาหลิว นางกับแก้เผ็ดเขาโดยการทอดกายให้กับใต้เท้าตู้ ชายชรารุ่นราวคราวเดียวกับบิดา ไม่รับทองคำที่เขาส่งไปยังบ้านเสิ่นคนที่นำทองคำไปที่บ้านเสิ่นบอกว่าพบเพียงความว่างเปล่า ข้าวของและผู้คนหายไปจากบ้านเสิ่นไม่เหลือแม้แต่เงา ไม่นานจึงได้ข่าวนางแต่งเข้าบ้านตู้ ตาแก่ตู้นั่นดีกว่าเขาตรงไหน ลีลาบนแท่นนอนดีกว่าเขาหร
ทิ้งตัวลงทาบทับร่างเล็กไว้ทั้งตัว มืออุ่นปลดแกะอาภรณ์ออกจนไม่เหลือติดกายแม้แต่ชิ้นเดียว คนที่เคยผ่านหญิงงามมาไม่น้อยเช่นขากลับรู้สึกประหม่า ใจสั่นระรัวเมื่อมองร่างเปลือยขาวผ่องเมื่อต้องแสงไฟสลัว อกอูมอวบอิ่มตั้งเด่นชูชันหงเหวินไม่พูดพล่ามทำเพลงฝังจมูกโด่งลงบนอกนุ่มหอมหวานจนอยากจะกลืนกิน ขบกัดเม็ดบัวที่ยอดอกสีชมพู เปาหลิวบิดตัวหลบหลีกแต่ไม่อาจหนี ลิ้นอุ่นลิ้มรสตั้งแต่เม็ดบัวเแข็ง ริมฝีปากขยำดูดกลืนความหอมหวานของอกอูมไล่ลงมาที่หน้าท้องเนียน มือเรียวลูบต่ำลงไปที่กลีบบุปผาแห้งผากใช้นิ้วนำทางก่อนจะ ใช้ลิ้นตวัดวนรอบๆ คอยสังเกตอาการของเปาหลิวที่พยายามบิดตัว ยิ่งนางดิ้นรนเขายิ่งกระสัน เปาหลิวหนีบขาไว้ทว่าอีกคนกับถ่างมันออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า บัดนี้เปาหลิวไร้เรี่ยวแรงจะต่อกรเพื่อที่จะซุกหน้าลงไปให้ลิ้นอุ่นได้ช่วยกระตุ้นให้บุปผา ได้ปล่อยน้ำหวานฉ่ำเยิ้มออกมา เตรียมความพร้อม“ใต้เท้าได้โปรด อย่าทำบะบะแบบนี้” หงเหวินปลดสายรัดเอวออกค่อยๆ กดเอวลงไปช้าๆ เปาหลิวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หงเหวินกับใช้มือสองข้างดันขาเนียนให้แยกออกจากกันกดบั้นเอวลงไปเบาๆ กลัวว่าอีกคนจะเจ็บปวดมากไปกว่านี้เพราะรู้สึกถึงความคับแ
เสิ่นเปาหลิวเลือดขึ้นหน้า“ท่านน้าท่านกลับไปเสีย ข้าไม่ขายตัว”“โธ่คุณหนูงานง่ายดาย ได้ทองถึงสี่พันชั่งแค่นอนนิ่งๆ รอนับทองในหีบ”ยังยิ้ม ไม่ได่มีท่าที ตื่นกลัวกับโทสะของเปาหลิว“คุณหนูบอกให้เจ้ากลับไป”ป้าเหยาเอ่ยปากเสียงเข้ม ผู่หยงส่ายหน้าไปมา“ข้าอยู่ที่ หอท้อแดงหากเปลี่ยนใจภายในสามวันนี้”เสิ่นเปาหลิวหลับตาลงช้าๆ เจ็บปวดในใจ บิดาทำให้เปาหลิวไม่เหลือแม้กระทั่งศักดิ์ศรี ลุงกวงยิ้ม บางๆ“คุณหนูความจริงลุงก็อยากจะช่วย แต่ทว่าบิดาของคุณหนูติดหนี้แรมปีอ้างว่า นำเงินมาฟื้นฟูกิจการแต่กลับเอาเงินที่ยืมมาได้ไปเข้าบ่อนเสียสิ้น หนี้ของลุงจึงเป็นหนี้สูญ บ้านหลังนี้มีคนอยากได้ ขายทอดตลาดเป็นเงินไม่มากแต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยลุงยอมขาดทุนให้ได้หนี้ที่ค้างกลับคืนมาบ้างก็พอ”ลุงกวงแวะมาถึงบ้านในทันทีที่ผ่านไป3วันเปาหลิวยิ้มเศร้าๆ“ไม่อาจผัดผ่อนได้เลยหรือไรท่านลุง ข้าสัญญาจะหาเงินมาจนครบในเวลาไม่นาน”“คุณหนูเจ้าหนี้ของลุงก็เร่งรัดมา ยิ่งบิดาของคุณหนูหนีไปแบบนี้เจ้าหนี้ก็ยิ่งร้อนใจ เอาแบบนี้ดีไหม ให้ลุงเอาไปขายเสียก่อนพอคุณหนูหาเงินได้ก็ค่อยไปซื้อคืน” รอยยิ้มยังเศร้าเหมือนเดิมไม่อาจแก้ไขหรือเปลี่ยน
“วันนี้ข้า เร่งรีบพรุ่งนี้จึงมีเวลามากพอ”ซีหยินก้มหน้าเขินอาย จริตจะก้านราวกับไม่เคยต้องมือชายมาก่อน หงเหวินอยากจะรั้งร่างบางมากดริมฝีปากอีกครั้งหากไม่ติดที่นางกำลังใช้ลิ้นอยู่ใบหน้าเรียบเฉยยกยิ้ม หงเหวินผู้ซึ่งไม่เคยขาดเรื่องบนแท่นนอนแม้แต่คืนเดียวแต่กระนั้นก็ไม่มีฮูหยินเพราะเขาเข็ดกับคำปฏิเสธของเสิ่นเปาหลิวในครั้งนี้ซีหยินหอมหวานถูกใจเขายิ่งนักพรุ่งนี้จึงตั้งใจเสพสมบนเรือนร่างของนางเสียให้พอ เผื่อว่าอีกสองสามวันจะได้ลิ้มรสสวาทของคุณหนูบ้านเสิ่นที่งดงามและหยิ่งทะนงคนนั้นบ้านเสิ่น“คุณหนูเจ้าขา บ้านหลังนี้คงต้องหลุดมือแน่แล้ว เงินหมื่นตำลึงจะหามาจากที่ไหนกัน”“มีเวลาอีกกี่วันป้าเหยา”“ท่านกวงบอกว่าอีกสามวันหลังจากนี้หากยังไม่นำเงินไปที่บ้านกวงเราต้องขนของออกจากบ้านเสิ่นทันที”เปาหลิวยิ้มเศร้าๆ บ้านของมารดาบ้านที่มีไออุ่นของมารดาจะปล่อยให้หลุดมือได้อย่างไร“ข้าจะหาทางนำเงินไปคืน ท่านลุงกวงหากไม่สามารถหาเงินได้ทันเปาหลิวจะลงทุนขอร้องลุงกวงดูสักครั้งป้าเหยา พยักหน้าขึ้นลงยิ้มให้กำลังใจ ในขณะเดียวกัน“กดดันนางให้ถึงที่สุด อย่าได้เห็นแก่อะไรทั้งนั้น ทำอย่างไรก็ได้ให้นางอับจนหนทาง”ร่
จะเอื้อมมือดึงแขนแต่กลับพบสายตาตำหนิของคนถือตัว เฒ่าแก่เนี๋ยที่เพิ่งจะผ่านวัยสาวไปไม่กี่ปีก็หดมือเสีย คุณชายฟ่านผู้หยิ่งทะนงจะยิ้มหัวก็ไม่ มาที่นี่เพื่อหาความสำราญกับเรือนร่างหญิงงามที่พิสุทธิ์ผุดผ่องไม่นิยมกินของเหลือเดนของใคร“เชิญคุณชาย ซีหยิน เตรียมชงชา”ดวงตาเศร้าเงยขึ้นช้าๆ มองไปยังร่างสูงที่ เคยเห็นแทบจะทุกวันแต่ไม่เคยได้เข้าใกล้ด้วยมิใช่หญิงพิสุทธิ์อย่างที่ คุณชายฟ่านต้องการหลุบตามองพื้นก้าวเดินผ่านร่างสูงที่คว้าข้อมือบางไว้“เดี๋ยว”หัวใจบางๆ รู้สึกพองโต“ข้าขอเปลี่ยนเป็นสุราอุ่น”ดวงตางอนงามเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเแต่เพียงครู่เดียวก็ก้มหน้าดังเดิม“ได้หยินไหมเล่าซีหยิน คุณชายอยากได้สุราอุ่นเจ้าไปที่หอบ่มสุราให้เขายกสุราที่เพิ่งกลั่นเสร็จอุ่นๆ มาที่นี่”ชีหยิน ย่อกายก้าวเดินไป ฟ่านหงเหวินมองตามร่างอ้อนแอ้นอ่อนหวานนั้นจนลับตา“นางน่าสงสารเจ้าค่ะถูกขายตั้งแต่สิบสี่ ป่านนี้ยังไถ่ตัวเองไม่หมด ความจริงซีหยินนางต้องการออกไปทำการค้าเล็กๆ เลี้ยงตัว”ฟ่านหงเหวิน ทำหูทวนลมเสีย“เชิญคุณชาย”นั่งลงบนพื้นที่จัดไว้ ด้านหน้าเป็นโต๊ะตัวเตี้ย ชีหยินยกจอกสุรามาวางลงข้างๆ คุกเข่ารินสุราให้อย่า