แชร์

บทที่ 692

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-30 17:00:00
มีของขาย แล้วก็มีของให้ซื้อ คนส่วนใหญ่ไปตลาดในเวลานี้ หากขับรถเข้าไปก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนออกจะเสียเวลาค่อนข้างนาน

ถ้าวันนี้พวกเขามาที่นี่เพื่อทานอาหารเช้าอย่างเดียวและไม่ต้องรีบไปเรียน พวกเขาก็สามารถขับรถเข้าไปได้

แต่ว่า……

ขณะที่เสิ่นหยินอู้กำลังจะพูด เธอก็ได้ยินฉินเย่ที่อยู่ข้างหน้าพูดว่า: "ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปกันเถอะ"

เขาแย่งเธอพูด

เธอมองที่แผ่นหลังของเขาด้วยความไม่พอใจ

"ไปกันเถอะ" ฉินเย่เก็บกระเป๋านักเรียนของเด็กๆทั้งสองคนแล้วพาพวกเขาลงจากรถ

คนขับพูดขึ้นมาในทันที: "ประธานฉิน เดี๋ยวผมรอพวกคุณอยู่ในรถนะครับ"

ฉินเย่พยักหน้าตอบรับ

เมื่อเห็นเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ทำได้เพียงต้องลงจากรถด้วย

หลังจากลงจากรถ เธอก็มองเสื้อผ้าของฉินเย่แล้วพูดว่า "คุณแน่ใจหรอว่าจะสวมชุดสูทราคาแพงหูฉี่นี้ไปกินปาท่องโก๋ด้วยกันกับเราที่ร้าน?"

ฉินเย่มองไปที่เธอ

“มีปัญหาเหรอ? คุณก็แต่งตัวได้สะดุดตามากเหมือนกัน”

เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็ก้มลงไปมองเสื้อผ้าของเธอโดยไม่รู้ตัว

ที่จริงแล้วเธอแต่งตัวเรียบง่ายมาก กางเกงขายาวสีดำกับเสื้อสเวตเตอร์สีฟ้าโดยมีเสื้อคลุมยาวสีเบจอยู่ด้านนอก

มันไม่มี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 693

    ข้อมูลมากเกินไป เจ้าของร้านไม่สามารถแยกแยะมันได้อย่างชัดเจน เขาเพียงรู้สึกตกใจอยู่ในใจ และเมื่อมองไปยังสายตาของฉินเย่ เขาก็รู้สึกว่ามันแปลกและมีความหมายลึกซึ้งเกินกว่าจะเข้าใจ ฉินเย่: "..." เขามองเธออย่างช่วยไม่ได้ เธอชอบเล่นเกมแบบนี้หรือเธอแค่อยากจะจัดการกับเขา? หลังจากซื้ออาหารเสร็จแล้ว ทางร้านก็ได้จัดเตรียมเก้าอี้เล็กๆไว้ให้ แต่เนื่องจากมันตั้งอยู่ริมถนน มีผู้คนสัญจรไปมา ไม่เพียงแต่ฝุ่นจะเยอะเท่านั้น แต่ที่ข้างๆเก้าอี้ยังมีกระดาษทิชชู่ที่ลูกค้าคนก่อนๆทิ้งไว้เต็มไปหมด ไม่มีตรงไหนเลยที่จะเดินไปได้ ไม่ต้องพูดถึงฉินเย่ แม้แต่เด็กทั้งสองก็ยังตกตะลึง พวกเขาไม่คาดคิดว่าสภาพสุขอนามัยของที่นี่จะแย่ขนาดนี้ โดยเฉพาะเสิ่นเหมิงเหมิงที่อยากมาที่นี่ เมื่อเห็นภาพตรงหน้านี้ เธอก็ไม่กล้าที่จะเดินเข้าไป แต่กลับเงยหน้าขึ้นมองเสิ่นหยินอู้และรู้สึกทำอะไรไม่ถูก: "หม่ามี๊" เมื่อเห็นเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้คิดว่านี่เป็นโอกาส เธอจึงยิ้มเล็กน้อยและคุกเข่าลงต่อหน้าเธอ “เหมิงเหมิงบอกว่าอยากมากินปาท่องโก๋ไม่ใช่หรอ? ตรงนั้นมีที่นั่ง เราไปนั่งตรงนั้นกันเถอะ” “แต่ว่าหม่ามี๊คะ...” เสิ่นเหมิงเหมิงเม้มร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-30
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 694

    อาจเป็นเพราะเธอขาดความรักของแม่มาตั้งแต่เด็ก เสิ่นหยินอู้จึงต้องการให้เด็กคนหนึ่งมีชีวิตวัยเด็กที่สมบูรณ์แบบ แต่เธอคาดไม่ถึงว่าลูกของเธอจะไม่เพียงแต่เดินตามรอยเธอที่เป็นลูกของแม่เลี้ยงเดี่ยวเท่านั้น แต่เธอมีลูกเพิ่มมาอีกหนึ่งคนด้วยซ้ำ แม้ว่าเธอมักจะพยายามทำตัวให้ยุติธรรมกับเด็กน้อยทั้งสองคนให้มากที่สุด แต่จริงๆแล้วเธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเธอไม่สามารถให้ความเท่าเทียมกับเด็กทั้งสองได้เลยจริงๆ เหนียนเหนียนเป็นคนเก็บตัวและเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ไม่เพียงแต่เขาจะไม่สร้างปัญหาเท่านั้น เขายังคิดแทนเธอเกือบตลอดเวลาอีกด้วย แต่เหมิงเหมิงนั้นไม่เหมือนกัน เธอซุกซน ชอบเล่นชอบกิน และยังอ่อนแอขี้แยมากอีกด้วย เธอมักจะขอให้เสิ่นหยินอู้กอดเธออยู่เสมอ อีกทั้งยังชอบเรียกร้องความสนใจจากเธอเป็นพิเศษ วันนี้เธอให้ความสนใจกับเหมิงเหมิงมาก และสนใจซือเหนียนน้อยกว่า วันแล้ววันเล่า เวลาที่ยาวนานขึ้นมันก็สะสมไปเรื่อยๆ เธอให้ความสนใจเหนียนเหนียนน้อยลงเรื่อยๆ และเหนียนเหนียนก็เข้าใจโลกมากขึ้นเรื่อยๆ เสิ่นหยินอู้รู้สึกผิดมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เมื่อเธอเห็นว่าฉินเย่สามารถดูแลเด็กน้อยทั้งสองคนสลับไปมาด้วยตัวคนเดียวไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-30
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 695

    แม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเธอถึงถามคำถามนี้ แต่สำหรับฉินเย่ นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีอย่างแน่นอน "ใช่" เสิ่นหยินอู้คิดอยู่พักหนึ่งแล้วจึงพูดว่า: "ฉันให้คุณดูแลพวกเขาได้ แต่ฉันมีเงื่อนไข" แน่นอนว่าความพยายามของเขาไม่ได้สูญเปล่า ตั้งแต่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เขารู้ว่าเสิ่นหยินอู้มีจิตใจที่อ่อนโยน ฉินเย่ถามอย่างสงบโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ "เงื่อนไขอะไร บอกผมหน่อย" “ก่อนอื่น ฉันจะยอมให้คุณดูแลพวกเขา ทั้งหมดก็เพราะฉันนึกถึงพวกเขาสองคน ที่ให้คุณดูแลพวกเขาก็แค่เพราะความสัมพันธ์ทางสายเลือดเท่านั้น” “ตกลง” ฉินเย่เห็นด้วยโดยไม่ได้คิดเลยสักนิด เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อนึกอะไรขึ้นได้ เธอก็มองไปที่เขา: "คุณดูแลพวกเขาได้ในนามของคุณลุงเท่านั้น และคุณห้ามพูดต่อหน้าพวกเขาว่าคุณเป็นพ่อของพวกเขา เงื่อนไขนี้ คุณยังจะตกลงอยู่ไหม? ถ้าสัญญาไม่ได้ งั้นต่อจากนี้ก็...” "ผมสัญญา" ประโยคสุดท้ายของเสิ่นหยินอู้ถูกพูดแทรกขึ้นมา บางทีเธอคงคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำเพื่อลูกๆได้เช่นนี้ “ผมแค่อยากทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด” ส่วนเรื่องชื่อ... ตั้งแต่เขารู้ว่าเด็กๆสองคนน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-31
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 696

    "ได้" หลังจากที่เสิ่นหยินอู้ลงจากรถ เธอก็ขึ้นไปชั้นบนโดยไม่หันกลับมามองอีก ขณะที่เธอเข้าไปในลิฟต์ เธอก็คิด จู่ๆเธอก็ใจเย็นกับเขาขนาดนั้นได้อย่างไรกัน? เป็นเพราะเรื่องลูก หรือเพราะเธอไม่สนใจแล้ว หรือ... เป็นเพราะเธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่บอกให้เธอไปทำแท้งในตอนนั้น? ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหน เสิ่นหยินอู้ไม่ต้องการจะคิดถึงมันอีกต่อไป ขอแค่ลูกๆทั้งสองของเธอได้รับความรักที่สมบูรณ์ก็เพียงพอแล้ว เธอกังวลมากว่าเด็กน้อยทั้งสองคนจะเดินตามรอยเธอ ขณะที่คิด เสิ่นหยินอู้ก็มาถึงห้องทำงานของเธอและเริ่มจัดการเรื่องสัญญาระหว่างทั้งสอง ในช่วงเวลานี้อู๋อี้ไห่ก็เข้ามาและรายงานให้เธอทราบว่ามีคนหน้าใหม่ๆหลายคนเข้ามาในบริษัท และขอให้เธอไปสัมภาษณ์พนักงานด้วยกัน เมื่อนึกถึงการเติบโตในอนาคตของบริษัท เสิ่นหยินอู้จึงไปกับเขา หลังจากที่เธอจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว เธอก็กลับไปที่ห้องทำงานและทำเรื่องสัญญาต่อ ระหว่างเธอกับเขาไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันอย่างแน่นอน หากจะมีความสัมพันธ์เกิดขึ้น มันก็จะเกิดขึ้นกับลูกๆ นอกเหนือจากนั้น พวกเขาก็เป็นเพียงพ่อแม่ที่หย่าร้างกันไปแล้ว เสิ่นหยินอู้ทำเงื่อนไขในสัญญาทุกข้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-31
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 697

    คำพูดต่อไป คุณพ่อเสิ่นลังเลเล็กน้อยที่จะพูดออกมา เมื่อสัมผัสได้ถึงความลังเล เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกว่ามันผิดปกติจริงๆ ดังนั้นเธอจึงถามด้วยตนเอง: "เกิดอะไรขึ้นหรอคะ?" ท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่เคยถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเธอมาก่อนเลย เป็นไปได้ไหมว่าเรื่องที่เธอกับโม่ไป๋เพิ่งแยกย้ายกันไป คุณพ่อก็รู้เรื่องนี้เข้าแล้ว? “นั่วนั่ว” คุณพ่อเสิ่นเรียกเธอด้วยชื่อเล่น “มันไม่ใช่เรื่องที่พ่ออยากจะเข้าไปยุ่ง แต่... พ่อคิดว่าเรื่องนี้จำเป็นต้องบอกให้ลูกรู้” “ว่าไงคะ” เสิ่นหยินอู้รู้สึกว่าเธอเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมแล้ว “คือว่า ช่วงนี้พ่อได้ยินมาว่าคุณปู่ของเขากำลังมองหาคู่ครองให้เขา” กำลังมองหาคู่ครองให้งั้นหรอ? เสิ่นหยินอู้รู้สึกโล่งใจ "พ่อคะ ที่แท้นี่ก็เป็นเรื่องที่พ่อจะพูดนี่เอง หนูนึกว่า..." “ทำไมหรอ?” คุณพ่อเสิ่นก็เป็นคนอ่อนไหวเช่นกัน “เรื่องนี้ไม่สำคัญสำหรับลูกหรอ? ลูกกับโม่ไป๋…” เสิ่นหยินอู้ไม่ตอบ เมื่อเห็นเธอเงียบไป คุณพ่อเสิ่นก็รู้สึกถึงบางอย่างได้ลางๆ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถอนหายใจ “ทีแรกพ่อก็เป็นห่วงว่าลูกจะน้อยใจ แต่พ่อคิดไม่ถึงเลยว่าลูกกับเขาจะแยกกันแล้ว” “พ่อคะ เขากั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-31
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 698

    เสิ่นหยินอู้ยิ้มเบา ๆ “ใช่ เราเจอกันแล้วค่ะ” เธอสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ให้กับคุณพ่อเสิ่น เมื่อคุณพ่อเสิ่นได้ยิน เขาก็ตกอกตกใจขึ้นมาทันที “อะไรนะ? เขารู้เรื่องลูกด้วยหรอ? ถึงขั้นอยากดูแลลูกๆด้วยกันกับลูกหรอ?” “แค่ดูแลด้วยกัน ไม่ใช่ให้สิทธิ์เลี้ยงดูด้วยกันค่ะ” เสิ่นหยินอู้แก้ไขให้ถูกต้อง “แต่ถ้าเป็นแบบนี้ หลังจากผ่านไปนานแล้ว ลูกแน่ใจหรอว่าเขาจะไม่พรากเด็กๆไป” “หลังจากเซ็นสัญญาแล้ว เขาจะพรากลูกไปจากหนูได้ยังไงคะ?” “เขาจะเซ็นหรอ?” “ถ้าไม่เซ็นหนูก็จะไม่ให้เขาดูแลลูกๆ มองหน้าก็จะไม่มองด้วยซ้ำ มีอะไรยากคะ?” เสิ่นหยินอู้พูดอย่างสบายใจ: "ถึงตอนนั้น หนูจะส่งเด็กๆไปอยู่กับพ่อที่นั่น" คุณพ่อเสิ่นรับปากในทันที “ลูกพูดถูก ถ้าเขากล้าแย่งเด็กๆไป ลูกก็ส่งเด็กๆมาอยู่กับพ่อ” "อืม" "แต่..." น้ำเสียงของคุณพ่อเสิ่นยังคงลังเลมาก: "ลูกไม่คิดที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับเขาจริงๆเหรอ? ที่ลูกแยกย้ายกับโม่ไป๋มันไม่ใช่เพราะเขาจริงๆหรอ?" “เป็นเพราะเขาได้ยังไงล่ะคะ? พ่อคะ พ่อคิดมากไปหรือเปล่า ถึงไม่มีเขา โม่ไป๋กับหนูก็ไปด้วยกันไม่ได้อยู่ดีนี่คะ พ่อน่าจะรู้เรื่องนี้ดี” คุณพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-31
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 699

    ในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็ตัดสายของฉินเย่ไปด้วยความสับสน เธอเอนตัวลงบนเก้าอี้ในออฟฟิศ อารมณ์ของเธอซับซ้อนอย่างถึงขีดสุด เงื่อนไขในสัญญาที่เธอกำหนดขึ้นมา ที่จริงแล้วมันไม่ยุติธรรมกับฉินเย่เป็นอย่างยิ่ง เพราะเธอให้เขาใช้เงินและแรงเพื่อลูก แต่เขาไม่มีสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูก และลูกๆก็จะไม่เรียกเขาว่าพ่อ ถ้าจะให้พูดอีกนัยหนึ่งก็คือเท่ากับว่าเขากำลังเลี้ยงดูลูกของคนอื่น แม้ว่าเด็กสองคนนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับเขาทางสายเลือด แต่นามสกุลของพวกเขาคือ เสิ่น และพวกเขาก็ไม่ได้เรียกเขาว่าพ่อ ด้วยสถานะเช่นนี้ของเขา เขาสามารถที่จะปฏิเสธ หรือแม้แต่ใช้ไม้แข็งกับเธอได้ แต่เขากลับเห็นด้วยกับเธอทุกอย่าง แม้กระทั่ง... เสิ่นหยินอู้เอื้อมมือไปบีบระหว่างคิ้วของตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์และเตือนตัวเอง “นี่ก็แค่แผนการหนึ่งของเขา ไม่ควรไปเชื่อเขาง่ายๆ แล้วก็อย่าได้ลืมความเจ็บปวดเพียงเพราะว่าแผลหายดีแล้ว เรื่องในอดีตมันผ่านไปแล้ว เขาไม่ใช่ฉินเย่ในสมัยเด็กอีกต่อไป” เสิ่นหยินอู้บอกกับตัวเองหลายครั้ง จากนั้นก็ดึงหัวใจที่สั่นไหวของเธอกลับมา หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เสิ่นหยินอู้ก็เริ่มทำงานอย่างจริงจัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 700

    เขาตอบด้วยน้ำเสียงอู้อี้: "เข้าใจแล้ว" เสิ่นหยินอู้ไม่ได้โล่งใจแต่อย่างใด เธอรู้สึกอยู่เสมอว่าคำพูดของเขาแปลกพิลึกเล็กน้อย ปากบอกว่าตกลง และเข้าใจ แต่ในความเป็นจริงเขาก็ยังคงทำตามใจตัวเอง ตามที่คาดไว้ ก่อนที่เธอจะได้พูดประโยคถัดไป เธอก็ได้ยินฉินเย่พูดว่า: "แต่ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้มีผลอะไรต่อชีวิตของคุณเลย" เสิ่นหยินอู้: "?" “นี่มันยังไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของฉันอีกเหรอ?” อีกฝ่ายเงียบไปสักพักก่อนจะพูดว่า: "ไม่ว่าผมจะมารับคุณหรือไม่ คุณก็ต้องไปส่งลูกๆที่โรงเรียนและกลับบ้านหลังเลิกงาน ถ้าผมมารับ คุณจะได้ประหยัดเงินค่าน้ำมันกับค่าอาหารเช้า” ฉินเย่เป็นคนจ่ายค่าอาหารเช้าเมื่อเช้า เสิ่นหยินอู้: "ถ้างั้นฉันคงต้องขอบคุณสินะ?" “ไม่จำเป็น” เขาพูดอย่างจริงจัง: “การทำอะไรสักอย่างเพื่อแม่ของลูกของผม มันเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว” เสิ่นหยินอู้: "..." ไม่อยากคุยกับเขาเลยจริงๆ “ออกมาเถอะ ผมรอคุณอยู่ข้างนอก” อาจเป็นเพราะเขากลัวว่าเธอจะปฏิเสธ ฉินเย่จึงพูดอีกครั้ง: "อย่าปล่อยให้เด็กๆรอสิ" “……” เขาจับจุดอ่อนของเธอได้อย่างแม่นยำ แต่เสิ่นหยินอู้ดูเหมือนจะไม่ต้องการขึ้นรถของเขาต่อหน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-01

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 858

    แม้ว่าในที่สุดเขาก็พบเธอ แต่ใครจะกล้ารับประกันกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นได้? "พอได้แล้ว" เมื่อเห็นเธอกัดริมฝีปากล่างและคิดจะพูดอะไรอื่นอีก ฉินเย่ก็เอามือใหญ่โอบไปที่เอวบางของเธอ "ไม่ต้องคิดแล้ว ในเมื่อผมเลือกที่จะอยู่ นั่นก็หมายความว่าผมมั่นใจ" “แต่... เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรทำตั้งแต่แรกนะ” “นั่วนั่ว” ฉินเย่เรียกชื่อเธอด้วยเสียงแผ่วเบา “การจะทำอะไรสักอย่างน่ะ ไม่มีคำว่าควรหรือไม่ควร มีแต่เต็มหรือไม่เต็มใจเท่านั้นแหละ” “ถ้าคุณรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ผมจะอยู่ที่นี่จริงๆ งั้นหลังจากที่ผมกลับไปที่จีนแล้วก็ลองคิดเรื่องที่จะเปลี่ยนสถานะให้ผมดูดีกว่าไหม?” เสิ่นหยินอู้เข้าใจในทันทีว่าเขาหมายถึงเรื่องการเรียกชื่อ เขาต้องการให้เด็กทั้งสองหยุดเรียกเขาว่าลุงเย่มู่และเรียกเขาว่าพ่อแทน หรือจะบอกว่า ที่เขาทำมามากขนาดนั้นก็เพียงเพื่อความปรารถนาเล็กๆน้อยๆเช่นนี้งั้นหรอ? เมื่อเธอคิดได้เช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็นิ่งไป แล้วพูดว่า "คุณจะไม่บอกพวกเขางั้นหรอ?" ริมฝีปากของฉินเย่โค้งขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ได้ตอบกลับคำพูดของเธอ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดเบาๆว่า: "ครั้งนี้ ผมจะไม่ไปเจอพวกเข

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 857

    คำพูดทางจิตวิทยาเช่นนี้... ถ้าเขาบอกว่าเขาชอบลุงโม่ไป๋มากกว่า ถึงตอนนั้น... เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นซือเหนียนก็พูดว่า: "ลุงโม่ไป๋อยู่กับพวกเรามานานกว่า" เมื่อได้ยิน ฉินเย่ก็กลั้นหายใจ "ถ้างั้น……" “แต่ลุงเย่มู่มาดูไลฟ์สดของเราบ่อยๆแล้วก็ให้รางวัลเราตลอดเลยด้วย” คำพูดประโยคหลังทำให้หัวใจที่กำลังจมดิ่งลงไปของฉินเย่ลอยกลับขึ้นมาอีกครั้ง เดิมทีเขาคิดว่าตามความคิดของซือเหนียน เขาคงจะหมดโอกาสแล้ว แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าคำพูดของซือเหนียนจะเปลี่ยนไป ซึ่งมันไม่ต่างกับเป็นการทำให้หัวใจของฉินเย่ลุกเป็นไฟ "แล้วไงต่อ?" ฉินเย่ยังคงรู้สึกประหม่ามากในขณะที่เขาถามคำถามนี้ออกมา เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะสนใจความคิดของเด็กคนหนึ่งมากขนาดนี้ เพราะกลัวว่าเด็กคนนี้จะไม่เลือกเขาแต่ไปเลือกคนอื่นแทน "ก็……"เสิ่นซือเหนียนจงใจพูดเสียงยาว เมื่อเห็นว่าการหายใจของฉินเย่ดูเหมือนจะติดๆขัดๆขึ้นมา เขาก็คิดว่ามันค่อนข้างน่าขันเล็กน้อย เขาจงใจเอียงศีรษะแล้วพูดว่า: "ลุงเย่มู่กับลุงโม่ไป๋เสมอกันครับ" เสมอกัน? ฉินเย่ตกตะลึง “เสมอกันงั้นเหรอ?” “ลุงเย่มู่ หรือว่าลุงคิดว่าลุงจะแพ้ลุงโม่ไป๋เหรอครั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 856

    “ซือเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของซือเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เขาถามว่ามีคุณสมบัติมากพอหรือไม่ ไม่ใช่ยินยอมหรือไม่ แม้ว่าเสิ่นซือเหนียนจะยังเด็ก แต่ความรู้ที่เขาได้เรียนมาก็มากมายพอสมควร ดังนั้นเขาจึงเข้าใจความหมายของคำพูดที่ฉินเย่พูดได้อย่างรวดเร็ว เขาตกตะลึงอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า "เอ่อ...ต้องดูว่าหม่ามี๊จะยอมหรือไม่ยอมครับ" “ลุงเย่มู่หมายความว่า ถ้าไม่เกี่ยวกับหม่ามี๊ เอาแค่ความเห็นของเหนียนเหนียนเองที่เป็นความคิดที่จากใจจริงที่สุด เหนียนเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของเหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เสิ่นซือเหนียน: "..." "ไม่ต้องกลัว" มือใหญ่ของฉินเย่วางลงบนไหล่ของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: "แค่พูดความจริงก็พอ" สิ่งที่ซือเหนียนต้องการจะพูดอาจทำให้ฉินเย่ไม่พอใจจริงๆ แม้ว่าลุงเย่มู่จะทำอะไรให้พวกเขามากมายในช่วงที่ผ่านมานี้ บวกกับที่ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาดูพวกเขาในห้องไลฟ์สดเสมอ ความยิ่งใหญ่ของชื่อ 'ลุงเย่มู่เฉิน' ยังคงทรงพลังมากสำหรับเด็กน้อยสองคน ตัวอย่างเช่น คนแปลกหน้าคนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นพ่อแท้ๆของพวกเขา แต่หากไม่มีฉา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 855

    จากคำอธิบายของเสิ่นหยินอู้ เด็กน้อยทั้งสองเชื่อว่าตอนนี้โม่ไป๋กำลังป่วยอยู่ และจะดีขึ้นในอนาคต จนกว่าจะถึงตอนนั้น เขาจะยังคงเป็นลุงโม่ไป๋ของพวกเขา หลังจากได้รู้เรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าเด็กน้อยทั้งสองมีความสุขมาก ในเวลานี้ฉินเย่เข้ามาพอดี ทั้งสองจึงเข้าไปเกาะแกะเขา แน่นอนว่าเด็กน้อยทั้งสองยังคงเรียกเขาว่าลุงเย่มู่ เสิ่นซือเหนียนน่ะไม่เท่าไร แต่เสิ่นเหมิงเหมิงกลับไม่คิดอะไรเลย เธอถึงกับเอื้อมมือไปทางฉินเย่เพื่อที่จะให้เขาอุ้ม ฉินเย่ไม่ได้คิดอะไร เมื่อเห็นว่าเธอต้องการให้เขาอุ้ม เขาก็คุกเข่าลงไปหาเธอ เสิ่นหยินอู้เห็นเช่นนั้นจึงรีบเดินเข้าไป “เหมิงเหมิง ลุงเย่มู่ยังบาดเจ็บอยู่” เพียงประโยคเดียวมันก็ทำให้เหมิงเหมิงหยุดการกระทำของเธอลง และมองไปที่ฉินเย่อย่างว่างเปล่า จากนั้นจึงรีบดึงมือของเธอกลับมา จู่ๆเด็กสาวตัวน้อยก็หยุดพูด และถึงกับถอยหลังไปสองก้าวเพื่อเลี่ยงไม่ให้ฉินเย่แตะต้องเธอได้ การกระทำของเธอทำให้ฉินเย่ตกตะลึงเล็กน้อย หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า "มันเป็นแค่แผลเล็กๆน้อยๆเอง อีกอย่าง เธอยังตัวเล็กขนาดนี้ คงไม่ทำให้แผลของผมแย่ลงหรอกมั้ง?" เ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 854

    หลังจากได้ยินเช่นนั้น หลี่มู่ถิงก็พูดเสริมในทันที: "ใช่ครับ คุณหนูเสิ่น ประธานฉินพูดถูก การไม่มีข่าวอะไรเลยเป็นเรื่องที่ดีที่สุด สบายใจเถอะครับ เราจะตรวจสอบต่อไป ถ้ามีโอกาสช่วยเขาออกมา เราก็จะทำอย่างเต็มที่แน่นอน” แม้ว่าพวกเขาจะพยายามปลอบใจเธออย่างเต็มที่ แต่อารมณ์ของเสิ่นหยินอู้ก็ไม่ดีขึ้นเลย เธอเอนตัวพิงไปกับหน้าต่างและมองไปในที่ไกลๆด้วยความสงบ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆเรื่องถึงกลายมาเป็นเช่นนี้ได้ ในตอนแรกทุกคนต่างก็ยังใช้ชีวิตตามปกติของตัวเองอยู่เลยแท้ๆ แต่จู่ๆเรื่องก็กลับร้ายแรงขึ้นมาเช่นนี้“หม่ามี๊ เป็นอะไรไปหรอคะ?” เสียงของเด็กน้อยทั้งสองดังมาจากด้านหลัง ดึงเสิ่นหยินอู้ให้กลับมามีสติอีกครั้ง เมื่อเธอได้สติ เธอก็เห็นเด็กน้อยสองคนมองเธอด้วยความเป็นห่วง “เหมิงเหมิง เหนียนเหนียน”พวกเขาทั้งสองเดินเข้าไปหาเธอพร้อมๆกันและกอดเธอไว้ “หม่ามี๊คะ ช่วงนี้หม่ามี๊ดูไม่แฮปปี้เลยนะคะ” ใช่สิ เธอออกมาแล้ว แต่ทำไมเธอถึงยังไม่มีความสุขล่ะ อาจเป็นเพราะเรื่องราวยังไม่ได้คลี่คลายลงอย่างสมบูรณ์ แต่ต่อหน้าลูกๆทั้งสอง เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถแสดงออกมาให้ชัดเจนเกินไปได้ ดังนั้นเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 853

    ฉินเย่สัญญาว่าจะไปตรวจสอบเรื่องนี้ให้เธอ รวมถึงอาการบาดเจ็บของผู้ช่วยเฉินด้วย คนของเขาสามารถจัดการเรื่องอะไรต่างๆได้อย่างรวดเร็วมาก ในวันถัดมา เสิ่นหยินอู้ก็ได้รับข่าวคราวล่าสุดของพวกโม่ไป๋ เขาก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แต่ยังไม่มีร่องรอยของผู้ช่วยเฉินเลย “ไร้ร่องรอยงั้นเหรอ?” หลังจากที่เสิ่นหยินอู้ได้ยินเช่นนั้น เธอก็มีลางสังหรณ์แย่ๆขึ้นมาทันที เมื่อตอนที่เธอยังอยู่ที่บ้านของโม่ไป๋ ผู้ช่วยเฉินก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาหลายวัน จากนั้นเมื่อเธอถามถึงเขา เขาจึงปรากฏตัวขึ้น แต่เมื่อเขาปรากฏตัว เขากลับได้รับบาดเจ็บสาหัส สิ่งสำคัญคืออาการบาดเจ็บของเขาหนักแค่ไหน เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถรับรู้ได้เลย เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะถอดเสื้อของเขาออกมาเพื่อดูว่าเขาได้รับบาดเจ็บแค่ไหน ต่อมาเขาปล่อยเธอและพาเธอออกมา หลังจากที่เขากลับไป โม่ไป๋ก็คงจะยิ่งไม่เกรงใจเขามากขึ้น ตอนนี้... ไม่รู้เลยว่าเขาจะเป็นเช่นไร นอกจากนี้ โม่ไป๋ยังได้รับบาดเจ็บ เขาคงจะโกรธมากและระบายความโกรธทั้งหมดที่มีใส่ผู้ช่วยเฉินหรือไม่? และที่นี่คือที่ต่างประเทศ ถ้าหากว่า... เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้ เสิ่นหยินอู้ก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 852

    คาดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายจะมีด้านนี้เหมือนกัน เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็หันไปมองเขา “ฉันไม่ได้อึดอัด แต่ตอนนี้คุณบาดเจ็บอยู่ คุณไม่ได้ต้องพักผ่อนเหรอ?” "อืม" ฉินเย่พยักหน้า: "ผมอยากให้คุณอยู่เป็นเพื่อนผม" เสิ่นหยินอู้ถอนหายใจ: "เมื่อคืนนี้ฉันอยู่กับคุณทั้งคืนไปแล้วไม่ใช่เหรอ?" เขาคงจะไม่ได้คิดที่จะให้เธออยู่กับเขาไปตลอดใช่ไหม? เธอยังต้องไปดูแลลูกๆ “นั่วนั่ว” เขาดึงเธอเข้ามาใกล้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา: "ผมเป็นคนป่วย ต้องการคนอยู่ด้วยในระยะยาว" เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ขัดขืน ฉินเย่ก็ดึงเธอขึ้นไปนั่งบนตักเขาแล้วเอามือพยุงไว้ที่เอวของเธอ ก่อนที่เธอจะทันได้โต้ตอบ เธอก็ตกเข้าไปในอ้อมแขนของเขาแล้ว ฉินเย่ก้มศีรษะลงและโน้มตัวเอาหน้าลงไปซุกไว้ที่ซอกคอของเธอ เขาสูดดมกลิ่นของเธอด้วยความละโมบ ลมหายใจอันร้อนรุ่มที่ออกมาทั้งหมดถูกปล่อยออกมาที่ซอกคอของเสิ่นหยินอู้ เธอรู้สึกถึงมันได้อย่างรวดเร็วและกระตุกหลายครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน ดูเหมือนว่าฉินเย่จะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาประทับริมฝีปากบางที่นุ่มนิ่มของเขาลงไปบนซอกคอของเธอ เมื่อเธอรู้สึกได้ถึงความเปียกชื้น ในที่สุดเสิ่นหยินอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 851

    เขาคว้าโทรศัพท์ไปทั้งเครื่อง เสิ่นหยินอู้ไม่ได้จับโทรศัพท์เลย เธอไม่กล้าแย่งมันคืนมาเพราะกลัวว่าระหว่างการแย่งชิงโทรศัพท์กันจะทำให้บาดแผลของเขาฉีกกว้างขึ้น “บทลงโทษอะไรกัน? ต่อให้คุณจะพูดไม่เหมาะสม แต่ก็มันไม่เกี่ยวอะไรกับบาดแผลของคุณเลย” น่าเสียดายที่ไม่ว่าเธอจะพูดอย่างไร ฉินเย่ก็เหมือนจะไม่ได้ยินเธอ ราวกับว่าเขายินยอมที่จะรับบทลงโทษของตัวเอง เมื่อเห็นท่าทางที่นิ่งเฉยของเขา เสิ่นหยินอู้ก็พูดได้เพียงว่า: "ต่อให้คุณจะลงโทษตัวเอง แต่ก็ใช้วิธีอื่นก็ได้" วิธีอื่นเหรอ? ในที่สุดฉินเย่ก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองเธอ “แล้วคุณว่า ต้องลงโทษแบบไหนล่ะ?”เสิ่นหยินอู้คิดอย่างจริงจังอยู่สักพัก "วิธีลงโทษคุณน่ะมี แต่ไม่ใช่ตอนนี้ รอหลังจากที่แผลคุณหายดีแล้วก่อนเถอะ" “งั้นหลังจากลงโทษแล้ว คุณจะยกโทษให้ผมได้ไหม?” “เรื่องนี้ เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีนะ” คำพูดที่เขาพูดในวันนี้มันทำให้เธอโกรธมากจริงๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น สายตาของฉินเย่มืดลงเล็กน้อย แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไรอีก “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน ฉันจะโทรตามคุณหมอมาทำแผลให้คุณใหม่” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดฉินเย่ก็ยื่นโทรศัพท์ให้เธอหลังจ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 850

    รวมถึงโม่ไป๋ด้วย การที่เขาลักพาตัวเธอไปอย่างกะทันหันก็เป็นสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงเช่นกัน แต่สิ่งที่ฉินเย่พูดในตอนนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้ตื่นตระหนกขึ้นมา แต่ในไม่ช้าเธอก็สงบลง “เรื่องนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นเลยนะ มันไม่เหมาะสมที่คุณที่จะยกตัวอย่างแบบนี้ขึ้นมา” คำตอบของเธอทำให้สายตาของฉินเย่มืดลงเล็กน้อย “เป็นเพราะผมยกตัวอย่างที่ไม่เหมาะสมหรือเพราะคุณไม่สามารถตอบคำถามของผมได้เลย หรือจะบอกว่าคำตอบของคุณก็เหมือนกับที่ผมคิดไว้” เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็เม้มริมฝีปาก เธอพยายามจินตนาการถึงภาพนี้ในหัว หากฉินเย่ลักพาตัวเธอ และให้เธอกับลูกๆอยู่ด้วยกันกับเขาไปตลอดชีวิตเท่านั้น ไม่ได้ ต่อให้จะเป็นเขา แต่เธอก็รับไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าพวกเขาจะสนิทสนมเพียงใด เธอก็ไม่สามารถยอมรับเรื่องที่พวกเขาทำผิดกฎหมายได้ เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ไม่สนใจว่าคำพูดถัดไปจะทำร้ายจิตใจของฉินเย่หรือไม่ เธอพูดออกมาตรงๆ “ใช่ คุณพูดถูก ถ้าคุณลักพาตัวฉัน ฉันก็จะไม่อยู่กับคุณ” ดวงตาของฉินเย่มืดลง “แต่ในอีกความหมายหนึ่ง การที่ฉันไม่อยู่กับคุณมันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะไปอยู่กับเขา ถ้าฉันจะอยู่กับคุณมัน

DMCA.com Protection Status