แชร์

บทที่ 696

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
"ได้"

หลังจากที่เสิ่นหยินอู้ลงจากรถ เธอก็ขึ้นไปชั้นบนโดยไม่หันกลับมามองอีก

ขณะที่เธอเข้าไปในลิฟต์ เธอก็คิด

จู่ๆเธอก็ใจเย็นกับเขาขนาดนั้นได้อย่างไรกัน?

เป็นเพราะเรื่องลูก หรือเพราะเธอไม่สนใจแล้ว หรือ... เป็นเพราะเธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่บอกให้เธอไปทำแท้งในตอนนั้น?

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหน เสิ่นหยินอู้ไม่ต้องการจะคิดถึงมันอีกต่อไป ขอแค่ลูกๆทั้งสองของเธอได้รับความรักที่สมบูรณ์ก็เพียงพอแล้ว

เธอกังวลมากว่าเด็กน้อยทั้งสองคนจะเดินตามรอยเธอ

ขณะที่คิด เสิ่นหยินอู้ก็มาถึงห้องทำงานของเธอและเริ่มจัดการเรื่องสัญญาระหว่างทั้งสอง

ในช่วงเวลานี้อู๋อี้ไห่ก็เข้ามาและรายงานให้เธอทราบว่ามีคนหน้าใหม่ๆหลายคนเข้ามาในบริษัท และขอให้เธอไปสัมภาษณ์พนักงานด้วยกัน เมื่อนึกถึงการเติบโตในอนาคตของบริษัท เสิ่นหยินอู้จึงไปกับเขา

หลังจากที่เธอจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว เธอก็กลับไปที่ห้องทำงานและทำเรื่องสัญญาต่อ

ระหว่างเธอกับเขาไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันอย่างแน่นอน หากจะมีความสัมพันธ์เกิดขึ้น มันก็จะเกิดขึ้นกับลูกๆ นอกเหนือจากนั้น พวกเขาก็เป็นเพียงพ่อแม่ที่หย่าร้างกันไปแล้ว

เสิ่นหยินอู้ทำเงื่อนไขในสัญญาทุกข้อ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 697

    คำพูดต่อไป คุณพ่อเสิ่นลังเลเล็กน้อยที่จะพูดออกมา เมื่อสัมผัสได้ถึงความลังเล เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกว่ามันผิดปกติจริงๆ ดังนั้นเธอจึงถามด้วยตนเอง: "เกิดอะไรขึ้นหรอคะ?" ท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่เคยถามถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเธอมาก่อนเลย เป็นไปได้ไหมว่าเรื่องที่เธอกับโม่ไป๋เพิ่งแยกย้ายกันไป คุณพ่อก็รู้เรื่องนี้เข้าแล้ว? “นั่วนั่ว” คุณพ่อเสิ่นเรียกเธอด้วยชื่อเล่น “มันไม่ใช่เรื่องที่พ่ออยากจะเข้าไปยุ่ง แต่... พ่อคิดว่าเรื่องนี้จำเป็นต้องบอกให้ลูกรู้” “ว่าไงคะ” เสิ่นหยินอู้รู้สึกว่าเธอเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมแล้ว “คือว่า ช่วงนี้พ่อได้ยินมาว่าคุณปู่ของเขากำลังมองหาคู่ครองให้เขา” กำลังมองหาคู่ครองให้งั้นหรอ? เสิ่นหยินอู้รู้สึกโล่งใจ "พ่อคะ ที่แท้นี่ก็เป็นเรื่องที่พ่อจะพูดนี่เอง หนูนึกว่า..." “ทำไมหรอ?” คุณพ่อเสิ่นก็เป็นคนอ่อนไหวเช่นกัน “เรื่องนี้ไม่สำคัญสำหรับลูกหรอ? ลูกกับโม่ไป๋…” เสิ่นหยินอู้ไม่ตอบ เมื่อเห็นเธอเงียบไป คุณพ่อเสิ่นก็รู้สึกถึงบางอย่างได้ลางๆ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถอนหายใจ “ทีแรกพ่อก็เป็นห่วงว่าลูกจะน้อยใจ แต่พ่อคิดไม่ถึงเลยว่าลูกกับเขาจะแยกกันแล้ว” “พ่อคะ เขากั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 698

    เสิ่นหยินอู้ยิ้มเบา ๆ “ใช่ เราเจอกันแล้วค่ะ” เธอสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ให้กับคุณพ่อเสิ่น เมื่อคุณพ่อเสิ่นได้ยิน เขาก็ตกอกตกใจขึ้นมาทันที “อะไรนะ? เขารู้เรื่องลูกด้วยหรอ? ถึงขั้นอยากดูแลลูกๆด้วยกันกับลูกหรอ?” “แค่ดูแลด้วยกัน ไม่ใช่ให้สิทธิ์เลี้ยงดูด้วยกันค่ะ” เสิ่นหยินอู้แก้ไขให้ถูกต้อง “แต่ถ้าเป็นแบบนี้ หลังจากผ่านไปนานแล้ว ลูกแน่ใจหรอว่าเขาจะไม่พรากเด็กๆไป” “หลังจากเซ็นสัญญาแล้ว เขาจะพรากลูกไปจากหนูได้ยังไงคะ?” “เขาจะเซ็นหรอ?” “ถ้าไม่เซ็นหนูก็จะไม่ให้เขาดูแลลูกๆ มองหน้าก็จะไม่มองด้วยซ้ำ มีอะไรยากคะ?” เสิ่นหยินอู้พูดอย่างสบายใจ: "ถึงตอนนั้น หนูจะส่งเด็กๆไปอยู่กับพ่อที่นั่น" คุณพ่อเสิ่นรับปากในทันที “ลูกพูดถูก ถ้าเขากล้าแย่งเด็กๆไป ลูกก็ส่งเด็กๆมาอยู่กับพ่อ” "อืม" "แต่..." น้ำเสียงของคุณพ่อเสิ่นยังคงลังเลมาก: "ลูกไม่คิดที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับเขาจริงๆเหรอ? ที่ลูกแยกย้ายกับโม่ไป๋มันไม่ใช่เพราะเขาจริงๆหรอ?" “เป็นเพราะเขาได้ยังไงล่ะคะ? พ่อคะ พ่อคิดมากไปหรือเปล่า ถึงไม่มีเขา โม่ไป๋กับหนูก็ไปด้วยกันไม่ได้อยู่ดีนี่คะ พ่อน่าจะรู้เรื่องนี้ดี” คุณพ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 699

    ในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็ตัดสายของฉินเย่ไปด้วยความสับสน เธอเอนตัวลงบนเก้าอี้ในออฟฟิศ อารมณ์ของเธอซับซ้อนอย่างถึงขีดสุด เงื่อนไขในสัญญาที่เธอกำหนดขึ้นมา ที่จริงแล้วมันไม่ยุติธรรมกับฉินเย่เป็นอย่างยิ่ง เพราะเธอให้เขาใช้เงินและแรงเพื่อลูก แต่เขาไม่มีสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูก และลูกๆก็จะไม่เรียกเขาว่าพ่อ ถ้าจะให้พูดอีกนัยหนึ่งก็คือเท่ากับว่าเขากำลังเลี้ยงดูลูกของคนอื่น แม้ว่าเด็กสองคนนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับเขาทางสายเลือด แต่นามสกุลของพวกเขาคือ เสิ่น และพวกเขาก็ไม่ได้เรียกเขาว่าพ่อ ด้วยสถานะเช่นนี้ของเขา เขาสามารถที่จะปฏิเสธ หรือแม้แต่ใช้ไม้แข็งกับเธอได้ แต่เขากลับเห็นด้วยกับเธอทุกอย่าง แม้กระทั่ง... เสิ่นหยินอู้เอื้อมมือไปบีบระหว่างคิ้วของตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์และเตือนตัวเอง “นี่ก็แค่แผนการหนึ่งของเขา ไม่ควรไปเชื่อเขาง่ายๆ แล้วก็อย่าได้ลืมความเจ็บปวดเพียงเพราะว่าแผลหายดีแล้ว เรื่องในอดีตมันผ่านไปแล้ว เขาไม่ใช่ฉินเย่ในสมัยเด็กอีกต่อไป” เสิ่นหยินอู้บอกกับตัวเองหลายครั้ง จากนั้นก็ดึงหัวใจที่สั่นไหวของเธอกลับมา หลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เสิ่นหยินอู้ก็เริ่มทำงานอย่างจริงจัง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 700

    เขาตอบด้วยน้ำเสียงอู้อี้: "เข้าใจแล้ว" เสิ่นหยินอู้ไม่ได้โล่งใจแต่อย่างใด เธอรู้สึกอยู่เสมอว่าคำพูดของเขาแปลกพิลึกเล็กน้อย ปากบอกว่าตกลง และเข้าใจ แต่ในความเป็นจริงเขาก็ยังคงทำตามใจตัวเอง ตามที่คาดไว้ ก่อนที่เธอจะได้พูดประโยคถัดไป เธอก็ได้ยินฉินเย่พูดว่า: "แต่ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้มีผลอะไรต่อชีวิตของคุณเลย" เสิ่นหยินอู้: "?" “นี่มันยังไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของฉันอีกเหรอ?” อีกฝ่ายเงียบไปสักพักก่อนจะพูดว่า: "ไม่ว่าผมจะมารับคุณหรือไม่ คุณก็ต้องไปส่งลูกๆที่โรงเรียนและกลับบ้านหลังเลิกงาน ถ้าผมมารับ คุณจะได้ประหยัดเงินค่าน้ำมันกับค่าอาหารเช้า” ฉินเย่เป็นคนจ่ายค่าอาหารเช้าเมื่อเช้า เสิ่นหยินอู้: "ถ้างั้นฉันคงต้องขอบคุณสินะ?" “ไม่จำเป็น” เขาพูดอย่างจริงจัง: “การทำอะไรสักอย่างเพื่อแม่ของลูกของผม มันเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว” เสิ่นหยินอู้: "..." ไม่อยากคุยกับเขาเลยจริงๆ “ออกมาเถอะ ผมรอคุณอยู่ข้างนอก” อาจเป็นเพราะเขากลัวว่าเธอจะปฏิเสธ ฉินเย่จึงพูดอีกครั้ง: "อย่าปล่อยให้เด็กๆรอสิ" “……” เขาจับจุดอ่อนของเธอได้อย่างแม่นยำ แต่เสิ่นหยินอู้ดูเหมือนจะไม่ต้องการขึ้นรถของเขาต่อหน้า

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 701

    ไม่ว่าจะเป็นเพราะเขาแอบเปลี่ยนข้อกำหนดในสัญญาจนไม่กล้าให้เธออ่าน หรือเพราะเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ แต่ว่ามันก็เสียสายตาจริงๆถ้าจะอ่านบนรถ อย่างไรเสีย เขาก็เก็บสัญญาลงไปแล้ว และเธอก็ไม่มีทางที่จะอ่านต่อ เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ไม่สนใจที่จะพูดคุยกับเขาอีก ฉินเย่เข้าใจในสิ่งที่เธอคิดอยู่ในหัว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทั้งสองเงียบแบบนี้ไปตลอดทางจนกระทั่งไปถึงโรงเรียน ฉินเย่เป็นคนส่งเด็กๆเข้าไปในโรงเรียนในตอนเช้า และตอนนี้ก็เป็นฉินเย่ที่ลงจากรถไปรับพวกเขา เสิ่นหยินอู้นั่งนิ่งไม่ขยับ และหลังจากนั้นไม่นานเธอก็เห็นฉินเย่พาพวกเขากลับมา ทันทีที่เด็กน้อยทั้งสองขึ้นรถ พวกเขาก็รีบพุ่งเข้าไปหาเธอแล้วทักทายเธอ ก่อนที่ฉินเย่จะขึ้นรถ เหมิงเหมิงถึงกับเงยหน้าขึ้นมาถามเสิ่นหยินอู้เบาๆ: "หม่ามี๊ตกลงที่จะให้ลุงเย่มู่มาเป็นพ่อของเราแล้วใช่ไหมคะ?" คำถามนี้... ริมฝีปากของเสิ่นหยินอู้เปิดออกเล็กน้อย เมื่อเธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เธอก็เห็นฉินเย่กำลังจะขึ้นมาบนรถ ดังนั้นคำพูดที่มาถึงริมฝีปากของเธอจึงหยุดลงและถูกแทนที่ด้วยประโยคอื่น “ลูกรัก คำถามนี้ เดี๋ยวไว้เรากลับถึงบ้านค่อยคุย

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 702

    คนขับเคยเห็นความสามารถของเจียงฉูฉู่ หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด เขาก็ไม่ได้ลงจากรถทันที แต่ถามว่า: "ถ้าคุณเจียงไม่ยอมออกไป จะทำยังไงครับ?" “ถ้างั้นก็โทรไปหาผู้ช่วยหลี่ ให้เขาส่งใครสักคนมา” ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา คนขับก็เข้าใจดี เขาจึงพยักหน้าในทันที “เข้าใจแล้วครับประธานฉิน” หลังจากพูดจบ เขาก็ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วลงจากรถ ท่ามกลางสายลมที่หนาวเหน็บ เจียงฉูฉู่กระชับสายกระเป๋าของเธอให้แน่นขึ้น ข้างในกระเป๋าคือของที่แม่ของเธอให้เธอมา โดยบอกว่ามันจะช่วยให้เธอสำเร็จ มันเพิ่งผ่านไปวันเดียวเท่านั้น และเธอก็มาหาฉินเย่ในเวลานี้ ซึ่งมันไม่มีโอกาสสำเร็จเลยจริงๆ ดังนั้นเดิมทีเธออยากจะเลื่อนออกไปอีกหลายๆวัน แต่แม่ของเธอแนะนำเธอว่าน้ำขึ้นให้รีบตัก ด้วยคำพูดของแม่ของเธอ เจียงฉูฉู่จึงมาที่นี่ เจียงฉูฉู่หายใจเข้าลึกๆ จะสำเร็จหรือจะล้มเหลวมันอยู่ที่การกระทำในครั้งนี้ เธอจะต้องไม่ถอยอย่างเด็ดขาด เธอคาดไม่ถึงเลยว่าคนที่ลงจากรถจะไม่ใช่ฉินเย่ แต่เป็นคนขับของเขา คนขับเดินมาหาเธอ เจียงฉูฉู่มองเข้าไปในรถ แต่มันมีแต่ความมืดมิด เธอไม่เห็นอะไรเลย ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงหันไปหาคนขับเท่านั้น “

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 703

    ฉินเย่สงสัยเล็กน้อยกับสิ่งที่เขาได้ยิน เจียงฉูฉู่มาบอกลาเขาเหรอ? นี่มันอะไรกัน? ฉินเย่หรี่ตาที่เฉี่ยวคมของเขาลงเล็กน้อยแล้วมองไปที่เจียงฉูฉู่ซึ่งยืนอย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางสายลมยามค่ำคืน อากาศดูเหมือนจะหนาวมาก ไม่รู้ว่าเธอสวมชุดอะไรอยู่ด้านใน เธอตัวสั่นระริกจากความหนาวเย็น และแม้แต่แก้มขาวๆของเธอก็กลายเป็นสีแดงเพราะความหนาวเย็น ดูเผินๆแล้ว เธอช่างน่าสงสารและน่าเห็นใจจริงๆ แต่ผู้หญิงแบบนี้เพียงคนเดียว เธอลบข้อความเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเสิ่นหยินอู้ไปอย่างเงียบๆ ถึงขั้นยังให้เงินเธอห้าล้านเป็นการส่วนตัวลับหลังเขาอีกด้วย เธอคิดจะทำอะไร มันชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าเสิ่นหยินอู้ไม่ได้ให้กำเนิดเด็กๆสองคนนั้นออกมาลืมตาดูโลก เขาคงจะสูญเสียลูกของตัวเองถึงสองคนไปแล้วจริงๆเมื่อเขาคิดถึงเด็กน่ารักๆสองคนนั้นที่อาจหายไป หัวใจของฉินเย่รู้สึกเหมือนโดนมีดกรีด เขาไม่สามารถเห็นใจเธอได้ หากพูดถึงบุญคุณ ที่ผ่านมาเขาได้ทำมามากพอแล้วอำนาจของตระกูลฉินถูกตระกูลเจียงของเธอยืมใช้มาโดยตลอด ตราบใดที่บุญคุณนี้ยังคงอยู่ ฉินเย่ก็สามารถให้ตระกูลเจียงของเธอยืมไปได้ตลอดชีวิต ตราบใดที่เธออยู่อย่างสงบสุข

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 704

    “ฉันแค่จะไปแล้ว เลยอยากจะมาคุยกับนายสักหน่อย ได้ไหม?” เจียงฉูฉู่ก้าวไปข้างหน้าและคิดที่จะจับมือของเขา ฉินเย่ถอยหลังไปหนึ่งก้าวแบบเนียนๆ และในที่สุดก็พูดว่า "มีอะไรจะพูดก็พูดมาเลย" เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงฉูฉู่มองเข้าไปข้างในแล้วขอร้องเบาๆ: "ข้างนอกมันหนาวมาก ขอเข้าไปคุยข้างในได้ไหม?" ฉินเย่กวาดสายตาไปมองเธอแล้วเม้มริมฝีปากบางเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดว่า: "เข้าไปสิ วันนี้มีอะไรอยากจะพูดก็พูดให้จบ หลังจากวันนี้ ผมจะไม่ไปเจอเธออีก" เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงฉูฉู่ก็กัดริมฝีปากล่างของเธอ “ฉันเข้าใจแล้ว ไม่ต้องห่วง หลังจากวันนี้ ฉันจะหายไปเอง และจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้านายอีก” - ณ ภายในบ้าน เจียงฉูฉู่นั่งอยู่บนโซฟา โดยมีแก้วน้ำที่ต้มสุกแล้ววางอยู่ข้างหน้าเธอแก้วหนึ่ง หลังจากถูกลมหนาวพัดใส่เป็นเวลานาน ร่างกายซึ่งเย็นเฉียบจนแทบจะไม่รู้สึกอะไรก็ค่อยๆอุ่นขึ้นมา เจียงฉูฉู่จ้องไปที่แก้วน้ำแก้วนั้นเป็นเวลานาน จากนั้นหายใจเข้าลึกๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉินเย่: "มีไวน์ไหม?" เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินเย่ขมวดคิ้ว: "ในเวลานี้ เธอคิดว่าผมจะให้เธอดื่มเหล้าที่นี่หรอ?" เจียงฉูฉู

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status