Share

บทที่ 627

Author: ลั่วหูโยว
ในตอนนี้เสิ่นเหมิงเหมิงที่กำลังแอบฟังบทสนทนาของพวกเขามาโดยตลอดได้ปิดปากของเธอไว้และหัวเราะเบาๆ

เสิ่นหยินอู้: "..."

พูดตามตรง เสิ่นหยินอู้รู้สึกโมโหเล็กน้อย

เธอก้มไปมองดูลูกสาวของเธอ และไม่พูดอะไร อีกทั้งก็ไม่ได้แสดงอารมณ์หงุดหงิดออกมา เพียงแค่มองเธอเงียบ ๆ

เสิ่นเหมิงเหมิงที่เดิมทีแอบหัวเราะอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ เมื่อถูกเสิ่นหยินอู้จ้องมองเช่นนี้ รอยยิ้มของเธอก็หายไปในทันทีด้วยความรู้สึกผิด เธอเอามือเล็กๆของเธอลงและเม้มริมฝีปากเล็กๆแน่น ไม่กล้าที่จะแอบหัวเราะอีก เธอดูกระอักกระอ่วนมาก

เนื่องจากลูกๆสองคนของเธอโดยปกติแล้วจะเชื่อฟังมาก เสิ่นหยินอู้จึงไม่ค่อยอารมณ์เสียกับลูกๆ แม้ว่าจะทำผิดพลาด เธอก็จะสอนพวกเขาก่อน หากพวกเขาไม่เชื่อฟังจริงๆ เธอถึงจะจริงจังขึ้นมา

เนื่องจากวิธีการสอนของเธอไม่เหมือนใคร เธอจึงไม่จำเป็นต้องชักสีหน้าบ่อยๆ

ดังนั้นแม้ว่าเธอจะมองเด็กๆอย่างเงียบๆ แต่เด็กๆก็รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด

เช่นเดียวกับตอนนี้ เสิ่นเหมิงเหมิงไม่กล้าพูดอะไร เธอทำได้เพียงก้มศีรษะลงและแอบกวาดสายตาขึ้นมาเพื่อมองเธอเป็นระยะๆ

เมื่อเห็นเสิ่นเหมิงเหมิงเป็นเช่นนี้แล้ว...

หัวใจของเสิ่นหยินอู
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 628

    "ขอบคุณคุณเย่มู่ที่มาเป็นคนขับรถให้นะคะ" ปฏิกิริยาของเธอทำให้ฉินเย่ชะงักไปชั่วคราว เขากวาดสายตาไปมองเธอด้วยความรู้สึกแปลกๆ จากนั้นจึงเปิดปากพูด “ไม่หรอกครับ ผมเต็มใจที่จะทำ” หลังจากที่เขาหันกลับไป รอยยิ้มบนริมฝีปากของเสิ่นหยินอู้ก็หายไปทันที เธอกลับมามีสีหน้าเฉยชาอีกครั้ง เมื่อก้มศีรษะลง เธอก็สบตากับเหนียนเหนียนโดยบังเอิญ เสิ่นหยินอู้ชะงักไป เธอไม่ได้คิดว่าจะถูกเหนียนเหนียนมองอยู่ ดังนั้นเธอจึงยิ้มอีกครั้ง แต่ดูเหมือนเสิ่นซือเหนียนจะไม่แปลกใจเลย เขาเม้มริมฝีปากเล็กๆ กอดแขนเธอแน่นขึ้น และไม่พูดอะไรต่อ ถ้าเป็นไปได้ เธอไม่อยากให้ลูกๆเห็นด้านไม่ดีของเธอเลยจริงๆ แต่เหนียนเหนียน เด็กคนนี้หัวไวเกินไป... ในท้ายที่สุด เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงยื่นมือออกไปลูบหัวของเสิ่นซือเหนียน ในที่สุดรถก็มาจอดอยู่ที่ชั้นล่าง “ขอบคุณลุงเย่มู่ที่มาส่งพวกเรากลับบ้านนะคะ” ทันทีที่พวกเขามาถึง เหมิงเหมิงก็พูดขอบคุณฉินเย่ทันที ฉินเย่สบตาเธอผ่านกระจกมองหลัง พร้อมรอยยิ้มบนริมฝีปากของเขา “อีกหน่อยถ้าลุงเป็นพ่อของหนูแล้ว หนูก็ไม่ต้องขอบคุณลุงอีก มันเป็นสิ่งที่ลุงสมควรทำ” อย่างไรก็ตาม เสิ่นหยินอู้นั่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 629

    เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็ตกใจขึ้นมาทันที เหมิงเหมิงมีความคิดเช่นนี้ได้อย่างไร เธอจะไปคิดถึงเขาได้อย่างไร? เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่จากนั้นก็คลายคิ้วของเธอออกแล้วนั่งคุกเข่าลงและกวักมือเรียกเหมิงเหมิง เสิ่นเหมิงเหมิงเดินเข้ามาซุกตัวในอ้อมแขนของเธอ "หม่ามี๊" “คำพูดเมื่อกี้นี้ ใครเป็นคนสอนลูกหรอ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา หลังจากได้ยิน เหมิงเหมิงก็ตอบเบาๆ : "ไม่มีใครสอนเหมิงเหมิง หม่ามี๊ มันเป็นความคิดของเหมิงเหมิงเองค่ะ เมื่อกี้ที่หม่ามี๊กลับมาถึง หม่ามี๊ก็ไปแอบดูที่หน้าต่าง หม่ามี๊ไม่ได้มองลุงเย่มู่หรอคะ?" เสิ่นหยินอู้: "ไม่ใช่จ๊ะ หม่ามี๊แค่ไปปิดม่านก็เท่านั้นเอง" “แต่หนูเห็นหม่ามี๊แง้มม่านให้มีช่องเล็กๆแล้วแอบดูนะคะ”เสิ่นหยินอู้: "..." เด็กน้อยคนนี้เป็นลูกสาวของใครกันแน่ ทำไมเธอถึงเอาแต่พูดเข้าข้างคนอื่นอยู่เรื่อย เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปหยิกแก้มของเสิ่นเหมิงเหมิงและต่อว่าเบาๆ: "เหมิงเหมิง ทำไมช่วงนี้ลูกถึงชอบคิดต่างจากหม่ามี๊มากขึ้นเรื่อยๆนะ?" เนื้อบนใบหน้าของเสิ่นเหมิงเหมิงทั้งนุ่มนิ่มและละมุน เมื่อถูกเสิ่นหยินอู้บีบ จู่ๆมันก็กลา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 630

    ต่อให้เขาจะลืม ผู้ช่วยเฉินก็ไม่มีทางลืม แต่เพียงแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว จะให้เธอมองโม่ไป๋ไม่ดี เธออก็ไม่สามารถทำได้เสิ่นหยินอู้ทิ้งตัวลงไปบนโซฟา ปล่อยให้ตัวเองจมลงไปในโซฟา หลับตาและพักจิตใจ - เช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อหลบเลี่ยงฉินเย่ เสิ่นหยินอู้จงใจพาลูกๆออกจากบ้านก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง และเตรียมที่จะพาพวกเขาออกไปรับประทานอาหารเช้า เมื่อฉินเย่มาถึง เขาก็จะไม่เจอเธอ เธอคำนวณไว้อย่างดี แต่ทันทีที่เธอลงมาถึงชั้นล่าง เธอเห็นรถ Lincoln จอดอยู่ชั้นล่าง ผู้ช่วยหลี่พิงอยู่ข้างๆรถและกำลังหาว ท่าทางของเขาดูง่วงเหงาหาวนอน ภายในไม่กี่วินาทีที่เสิ่นหยินอู้เห็นเขา ผู้ช่วยหลี่ง่วงนอนมากจนเขาหาวติดต่อกันถึงสองครั้ง เมื่อเขากำลังจะหาวครั้งที่สาม ทันใดนั้นเขาก็เห็นเสิ่นหยินอู้ที่เดินลงมาชั้นล่างพร้อมกับลูกๆสองคน เขาหยุดหาวและหายง่วง เขาเดินเข้าไปหาเธออย่างตื่นตัวกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าในทันที จากนั้นก็เรียกเธอเสียงดัง: "คุณหนูเสิ่น สวัสดีตอนเช้าครับ” เสิ่นหยินอู้: "..." เธอมีสิ่งที่อยากจะพูด หลี่มู่ถิงเดินไปไม่กี่ก้าวและขวางทางของเธอไว้ จากนั้นก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า: "คุณหนูเสิ่น ผมไม่คิดว่า

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 631

    อย่างไรก็ตาม เสิ่นซือเหนียนไม่ได้ก้าวไปข้างหน้าและยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยความลังเล “น้องสาวของลูกขึ้นรถแล้ว ลูกกังวลอะไรจ๊ะ? เราทิ้งน้องสาวของลูกไว้ตามลำพังไม่ได้หรอกนะ” หลังจากพูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็จูงมือของซือเหนียนแล้วเดินขึ้นไปบนรถ การกระทำของฉินเย่ที่อุ้มเหมิงเหมิงขึ้นมาบนรถอย่างหน้าเฉยควบคุมเธอได้อยู่หมัดจริงๆ ตราบใดที่เขาพาเด็กๆไปด้วย เธอก็ไม่มีทางที่จะทิ้งลูกๆของเธอไปได้ หลังจากที่เห็นเธอขึ้นมาบนรถ ฉินเย่ก็ยกริมฝีปากบางของเขาขึ้น จากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็อุ้มเสิ่นเหมิงเหมิงขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนของเขา วันนี้เขาไม่ได้ขับรถเอง มีคนขับอยู่ข้างหน้า หลังจากที่เธอกับเสิ่นซือเหนียนขึ้นรถแล้ว หลี่มู่ถิงซึ่งรออยู่ด้านนอกรถก็ขึ้นรถตามไปด้วย หลังจากที่หลี่มู่ถิงขึ้นรถ สายตาของเขาก็ไม่สามารถละออกไปจากเสิ่นหยินอู้และเด็กๆทั้งสองได้เลย เขาตกใจมากในตอนที่รู้ว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกของประธานฉิน ฉินเย่ที่เป็นเช่นก่อนหน้านี้ เขาคิดว่าประธานของเขาอาจจะต้องแก่ตายตามลำพัง แต่ตอนนี้เขามีลูกแฝดชายหญิงอย่างละคน นั่นทำให้เขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก และที่สำคัญที่สุดคือ ว่าที่ภรรยาของประธานเป็นคนหน้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 632

    "อืม" ฉินเย่ตอบอย่างเย็นชา “ถ้างั้นประธานฉิน... ในเมื่อคุณหนูเสิ่นไปที่สถานีรถไฟใต้ดินแล้ว เรากลับไปที่บริษัทกันเถอะครับ ช่วงนี้มีเรื่องมากมายเกิดขึ้นในบริษัท ถ้าไม่ไปจัดการ…” หลี่มู่ถิงไม่ได้พูดประโยคสุดท้ายต่อ แต่ฉินเย่ก็เข้าใจได้ด้วยตัวเอง มุมปากบางของเขาค่อยๆเป็นเส้นตรง และในที่สุดเขาก็ละสายตาออกไปแล้วพูดว่า "ไปที่บริษัท" - เสิ่นหยินอู้เข้าไปในสถานีรถไฟใต้ดินได้สักพัก เธอก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองข้างหลัง เมื่อพบว่าไม่มีใครตามมา เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ในขณะเดียวกันก็ดูเหมือนจะแอบผิดหวังอยู่ในใจเล็กๆ แต่ในไม่ช้า อารมณ์อันเล็กน้อยนี้ก็ถูกเธอกำจัดไป และเธอก็รีบไปซื้อตั๋ว หลังจากถึงบริษัท เสิ่นหยินอู้ไม่มีอารมณ์ที่จะทำงานเลย แม้แต่ในระหว่างการประชุม เธอก็ยังสติหลุดลอยออกไป หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมด้วยความมึนงง ขณะที่อู๋อี้ไห่ตามหลังเสิ่นหยินอู้ออกไป เขาก็อดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อขวางเธอไว้ “ผมว่านะเถ้าแก่ สองวันที่ผ่านมาคุณมีเรื่องไม่สบายใจใช่ไหม?” เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็ชะงักไป แต่เธอไม่ได้ตอบคำถามของเขา “เถ้าแก่ มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?” อู๋อี้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 633

    เดิมทีเขาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของเธอ แต่หลังจากพูดถึงเรื่องลูกแล้ว ความสนใจของอู๋อี้ไห่ก็เปลี่ยนไปในทันที “เถ้าแก่ ลูกแฝดของคุณเป็นหญิงหรือชายหรอครับ?” เสิ่นหยินอู้มองเขาอย่างเรียบเฉย "เพื่อนของฉัน" อู๋อี้ไห่: "ครับครับ เพื่อนคุณ งั้นฝาแฝดที่เพื่อนของคุณคลอดออกมาเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงครับ?" “มันสำคัญหรอว่าจะเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง?” “สำคัญสิครับ ผมอยากรู้นี่” “...แฝดชายหญิง” “ว้าว งั้นถ้าประธานฉินแย่งไปได้ เขาก็จะได้ไปทั้งลูกชายแล้วก็ลูกสาวสิ?” เสิ่นหยินอู้: "อดีตสามีของเพื่อนฉัน" “ครับครับ อดีตสามีของเพื่อนคุณ ผมพูดผิด พูดผิดน่ะครับ” “แต่ว่าประธาน...ทำไมเพื่อนของคุณถึงคิดว่าอดีตสามีของเธอต้องการแย่งลูกไปจากเธอแทนที่จะคิดว่าเขาอยากเลี้ยงลูกด้วยกันกับเธอล่ะครับ?” “เลี้ยงด้วยกัน คุณล้อเล่นเหรอ? เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้เลย” “มันต้องมีเหตุผลสินะ ทำไมเป็นไปไม่ได้ล่ะครับ?” อู๋อี้ไห่เลิกคิ้วแล้ววิเคราะห์: “อดีตสามีของคุณ ไม่สิ อดีตสามีของเพื่อนคุณเก่งมากเลยสินะ? เขามีทั้งสถานะในสังคมและตำแหน่งที่สูงส่ง ถ้ามีเขามาช่วยเลี้ยงดูลูกๆ มันคงจะเป็นเรื่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 634

    อู๋อี้ไห่: "นี่นี่ เถ้าแก่ ผมก็คิดว่าคุณไม่ได้สนใจเลยสักนิด ที่แท้คุณก็ยังฟังอยู่" เสิ่นหยินอู้: "..." เธออดทน อดทนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ในที่สุดก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป และพูดกับอู๋อี้ไห่ว่า: "ผู้จัดการอู๋ คุณอยากโดนไล่ออกไหม?" “ไม่ครับ ไม่ ผมแค่ล้อเล่นเพื่อคลายเครียดเอง ถ้าคุณตอบกลับ ผมก็รู้ว่าคุณกำลังฟังอยู่”เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเสิ่นหยินอู้ไม่ดีอย่างรุนแรง อู๋อี้ไห่จึงทำได้เพียงพูดว่า: "เอาล่ะๆ ผมจะพูดต่อ" “ในตอนนั้นทุกคนคิดว่าพวกเขาทั้งสองกำลังจะหมั้นกัน เพราะแม้กระทั่งวันหมั้นก็ได้ประกาศออกมาแล้ว และคนในแวดวงต่างก็โพสต์คำเชิญเข้าร่วมงานกันหลายคนเลยด้วย” เมื่อได้ยิน คิ้วที่ของเสิ่นหยินอู้ก็ขมวดเล็กน้อย "แล้วไงต่อ?" “เถ้าแก่อย่าเพิ่งเร่งครับ ฟังผมให้จบก่อน” เสิ่นหยินอู้: "..." เธอไม่ได้เร่ง “ต่อมา หลายๆคนได้รับคำเชิญ แม้แต่ภายสถานที่จัดงานหมั้นก็ถูกถ่ายภาพไว้แล้ว ในเวลานั้น ทั่วทั้งหลานเฉิงแพร่ข่าวลือเรื่องที่ว่าทั้งสองกำลังจะหมั้นกัน แค่เพียงรอวันหมั้นที่กำลังจะมาถึง ถึงขั้นมีนักข่าวมามุงอัดกันอยู่ที่ประตูบ้านของตระกูลฉินเพียงเพื่อจะถามเกี่ยวกับเรื่องการหมั้นหมาย แต่เดาส

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 635

    เสิ่นหยินอู้ใช้เวลาอยู่นานก่อนที่จะพูดออกมาได้ “เขาไม่ได้ไปเหรอ?” อู๋อี้ไห่พยักหน้าอย่างจริงจัง "ไม่ได้ไป" หลังจากได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหยินก็ลดสายตาลงและเงียบไป เดิมทีเขาเป็นหนี้บุญคุณเจียงฉูฉู่ ถ้าเขาไม่ไป นั่นไม่ใช่การเอาตัวเองไปเผาบนกองไฟหรอ? แต่ถึงไม่ไปแล้วมันจะทำไม เรื่องราวก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด “ตอนนั้นสื่อหลายที่รีบไปที่นั่นเพราะคิดว่าจะได้เห็นงานหมั้นที่ยิ่งใหญ่ ใครจะรู้ว่าหนึ่งในตัวละครหลักจะหายไป ผมได้ยินมาว่าวันนั้นเจียงฉูฉู่อับอายมากเพราะเธอเป็นคนเดียวที่มาในพิธีหมั้น เธอหน้าแตกยับเยินจนหมอไม่รับเย็บ ตระกูลเจียงก็หน้าแตกไปตามๆกันเพราะเธอ แต่ว่าหลังจากนั้นพวกสื่อก็ถ่ายรูปอะไรมาไม่ได้อีก ถึงจะถ่ายมาได้ แต่มันก็ถูกลบทิ้งจนหมด” เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย “เป็นไปได้ไหมว่ามันเป็นแค่การบังหน้า แต่จริงๆแล้วมันไม่มีพิธีหมั้นอะไรเลย?” เสิ่นหยินยังไม่เชื่อว่าฉินเย่จะไม่ไป ท้ายที่สุดในตอนนั้นเขาก็แต่งงานปลอมๆกับเธอ รวมถึงที่เขาไม่ต้องการลูกด้วย มันไม่ใช่เพราะคนในใจของเขาคือเจียงฉูฉู่หรอ? เป็นไปได้อย่างไรกันที่เจียงฉูฉู่ถึงกับบังคับให้เขาไปง

Latest chapter

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status