Share

บทที่ 610

Author: ลั่วหูโยว
last update Last Updated: 2024-10-09 17:00:01
“คุณหนูเสิ่น ทำไมคุณถึงมาที่นี่ในเวลานี้ล่ะครับ?”

เสิ่นหยินอู้ยิ้มให้อีกฝ่ายและพูดเบาๆว่า : "เอ่อ วันนี้ฉันว่างพอดีค่ะ เลยอยากมาเยี่ยมเด็กๆ ฉันเข้าไปได้ไหมคะ?"

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเปิดประตูและยิ้มพนักหน้า: "แน่นอนครับ เข้ามาเลยครับ"

เสิ่นหยินอู้พยักหน้าตอบ จากนั้นเดินเข้าไปแล้วถามว่า "วันนี้มีผู้ปกครองคนอื่นมาอีกไหมคะ?"

“ดูเหมือนจะไม่มีนะครับ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของเสิ่นหยินอู้ก็เต้นรัว "ไม่มีหรอคะ?"

เธอทำอะไรผิดไปหรือเปล่า? หรือเขารู้ว่าเธอจะมา?

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกาหัว เหมือนกับว่าจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ และทันใดนั้นก็พูดว่า: "ไม่ใช่ ไม่ใช่ ผมลืมไป มีผู้ปกครองมาคนหนึ่งครับ ได้ยินมาว่าเขามาส่งอาหารให้ลูก ช่วงนี้เขามาบ่อยเลยล่ะครับ"

มาบ่อยหรอ? การส่งอาหาร?

หลังจากได้ยิน ในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็มั่นใจ

คนส่งอาหารคนนี้คือคนที่เธอตามหาอยู่ตอนนี้

“จริงสิ คุณหนูเสิ่น ผมเห็นลูกๆของคุณเล่นกับพวกเขาบ่อยๆนะครับ”

“ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวฉันเข้าไปดู”

“โอเคครับ รีบเข้ามาเถอะครับ บางทีอาจจะยังทันที่จะกินข้าวเที่ยงด้วยกันก็ได้”

กินข้าวเที่ยงด้วยกันงั้นหรอ?

Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 611

    หลายปีมานี้ เธอทำงานหนักมากเพื่อเลี้ยงดูลูกๆทั้งสองคนของเธอ เขาบอกว่าจะไปพามาก็ไปพามางั้นเหรอ? เสิ่นหยินอู้อดไม่ได้ที่จะกำมือที่ห้อยอยู่ข้างตัว แล้วจึงค่อยๆเดินไป ฉินเย่ยังคงดื่มด่ำกับความสุขที่ได้เห็นเด็กน้อยสองคนกินข้าว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สังเกตเห็นว่าที่ข้างๆเขามีใครเข้ามาใกล้ จนกระทั่ง…… "หม่ามี๊?" เสิ่นเหมิงเหมิงที่ตอนแรกแทะตีนไก่อยู่ เมื่อจู่ๆเธอก็เห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังฉินเย่ เธอจึงเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าเป็นเสิ่นหยินอู้ เด็กสาวจึงตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจและดีใจ ฉินเย่ที่นั่งอยู่ที่เดิม เมื่อได้ยินชื่อของเสิ่นหยินอู้ รอยยิ้มบนริมฝีปากของเขาก็หายไปทันที ในตอนนี้ เสิ่นซือเหนียนซึ่งกินอยู่เงียบๆมาโดยตลอดหยุดก็กิน เขาเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่ด้านหลังฉินเย่ สายตาของเขากำลังหลบเลี่ยงอย่างเห็นได้ชัด อาจบอกได้ว่า... ฉินเย่เม้มริมฝีปากบางของเขาแน่นขึ้นเล็กน้อย ขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้น เขาก็ได้ยินเสิ่นหยินอู้เรียกเขาว่า: "คุณเย่มู่?" เมื่อได้ยิน ฉินเย่ก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นค่อยๆหรี่ตาลง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็กัดฟัน ลุกขึ้นยืนช้าๆ และสบตากับสายตาของเสิ่นหยิน

    Last Updated : 2024-10-10
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 612

    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเสิ่นเหมิงเหมิงเป็นจอมสร้างปัญหาหรือไม่ หลังจากฟังสิ่งที่เสิ่นหยินอู้พูดแล้ว เธอก็พูดว่า: "แต่หม่ามี๊คะ ตอนไลฟ์สด เราได้เงินจากลุงเย่มู่มาเยอะมากเลยนะคะ แล้วถ้าลุงเย่มู่ยอมเป็นพ่อของเหมิงเหมิงในอนาคต เขาก็จะไม่ใช่คนแปลกหน้าแล้วนะคะ” เสิ่นหยินอู้: "..." ฉินเย่ซึ่งแต่เดิมขมวดคิ้วอยู่ดีใจกับคำพูดของเสิ่นเหมิงเหมิง มุมปากที่เป็นเส้นตรงของเขาโค้งงอขึ้นมา เขายกนิ้วโป้งขึ้นให้เหมิงเหมิง “เหมิงเหมิงพูดถูก” คิ้วของเสิ่นหยินอู้กระตุกเมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น เธอไม่สามารถทำอะไรต่อหน้าลูกๆของเธอได้ เธอไม่อยากให้ลูกๆรู้เรื่องในอดีตบางเรื่องของเธอ นี่เป็นความผิดของเธอ ไม่จำเป็นต้องให้เด็กๆเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ทำได้เพียงพูดกับฉินเย่ว่า "คุณเย่มู่ งั้นเราไปคุยกันที่อื่นดีกว่าไหม?" ฉินเย่เลิกคิ้ว: "ได้ครับ" “เหมิงเหมิง เหนียนเหนียน” หลังจากเรียกชื่อเด็กทั้งสองแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็เห็นเฉาเย่าจู่ที่นั่งอยู่ข้างๆ เมื่อดูจากหน้าตาและนามสกุลของเขาแล้ว เขาคงไม่ใช่ญาติของฉินเย่ อย่างไรเสีย เขาก็เป็นเพียงแค่เด็ก เสิ่นหยินอู้ไม่ต้อง

    Last Updated : 2024-10-10
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 613

    “รูปลักษณ์กับหน้าตางั้นเหรอ?” ประโยคนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้ยิ้มเยาะ "รูปร่างหน้าตาของพวกเขามันทำไมหรอ? จะไปเป็นลูกของคุณได้ยังไง? คุณคิดไปเองหรือเปล่า?" ฉินเย่ไม่ถือสาในความโกรธของเธอในขณะนี้ ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็เป็นคนเลี้ยงลูกมาคนเดียวตลอดห้าปีที่ผ่านมา ไม่ว่ายังไง เธอก็มีสิทธิ์ที่จะโกรธเคืองเขา ดังนั้นน้ำเสียงของเขาจึงสงบและอ่อนโยนมาก “ผมคิดไปเองงั้นเหรอ? ก็ได้ งั้นคุณบอกผมหน่อยสิ ถ้าผมไม่ใช่พ่อของพวกเขา แล้วใครเป็นพ่อของพวกเขาล่ะ?” “มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ” “มันไม่เกี่ยวอะไรกับผมหรือคุณพูดออกมาไม่ได้ล่ะ หรือว่าคุณแค่ไม่อยากยอมรับต่อหน้าผมว่าเด็กๆเป็นลูกของผม” เสิ่นหยินอู้โกรธ: "เด็กๆไม่ใช่ลูกของคุณสักหน่อย" “ก็ได้ ถ้าคุณไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร แค่ไปตรวจดีเอ็นเอก็พอ” หลังจากที่เห็นว่าเด็กน้อยทั้งสองคนเป็นลูกของเสิ่นหยินอู้แล้ว ฉินเย่ก็แทบจะมั่นใจได้ในทันทีว่าเด็กสองคนนี้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดที่จะไปตรวจดีเอ็นเอเลย เพราะมันไม่จำเป็นเลยสักนิด ทันทีที่เขาเข้าใกล้เด็กสองคนนี้ เขาก็รู้สึกแตกต่างออกไป มันเป็นความรู้สึกใกล้ชิดและอบอุ่นหัวใจมาก ไม

    Last Updated : 2024-10-10
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 614

    “คุณฝันไปเถอะ” เสิ่นหยินอู้กัดริมฝีปากล่าง การแสดงออกของเธอดุเดือดมาก "จะไม่มีใครมาแตะต้องลูกของฉันได้ รวมทั้งคุณด้วย" หลังจากพูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็หันหลังกลับและเดินจากไป ปล่อยให้ฉินเย่ยืนอยู่ที่เดิมคนเดียว เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเห็นเสิ่นหยินอู้กลับมาอีกครั้ง และเธอเหมือนจะกำลังโกรธมาก เขาจึงไม่กล้าทักทายเธอ และเมื่อครู่นี้ที่เขาแอบดูเธอพูดคุยกับชายคนนั้นจากระยะไกล แม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียง เมื่อดูจากกริยาท่าทางของพวกเขา มันเหมือนว่าพวกเขากำลังทะเลาะกัน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยังสงสัยว่าเขาดูผิดหรือเปล่า แต่เมื่อเห็นเสิ่นหยินอู้เดินเข้ามาโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาก็มั่นใจ จากนั้นไม่นาน ชายคนนั้นก็เดินเข้ามา เมื่อเทียบกับความโกรธของผู้หญิงแล้ว ความเย็นยะเยือกจากร่างกายของชายคนนั้นก็แทบจะปกคลุมไปทั่วบริเวณโดยรอบ หลังจากที่เขาเดินผ่านไป เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น แล้วจึงอุทานออกมาว่าเขาใส่เสื้อผ้ามาน้อยชิ้นเกินไปจริงๆ เสิ่นหยินอู้ที่ยังโกรธอยู่ในตอนแรก เมื่อเธอเข้าไปในประตูโรงเรียน สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที เมื่อเธอเดินไปหาเด็กทั้งสาม เธอก็ก

    Last Updated : 2024-10-10
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 615

    เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าฉินเย่จะหน้าด้านได้ถึงขนาดนี้ ถึงกับบอกว่าเขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็นต่อหน้าลูกๆของเธอ เขาเป็นถึงซีอีโอที่สง่างามแห่งตระกูลฉิน เขายังมีศักดิ์ศรีอยู่ไหม? เธอหายใจเข้าลึกๆ แม้จะอยู่ต่อหน้าลูกๆ เสิ่นหยินอู้ก็ไม่ต้องการที่จะตอบคำถามของเขา “หม่ามี๊คะ ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นคืออะไรหรอคะ?” เสิ่นเหมิงเหมิงเริ่มกลายเป็นเด็กขี้สงสัยอีกครั้ง เสิ่นหยินอู้: "..." “เหมิงเหมิง ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นก็คือ ลุงเย่มู่ชอบแม่ของหนูมาก” ทันทีที่เขาพูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็หันไปมองฉินเย่ด้วยความไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ฉินเย่สบตาเธอ ริมฝีปากเผยให้เห็นรอยยิ้มจางๆ ทันทีที่เธอสบตาสีดำเข้มของเขา เสิ่นหยินอู้ก็เข้าใจได้ในทันทีว่าเธออยู่ภายใต้การควบคุมของเขา เขาดูออกว่าเธอไม่อยากแสดงอารมณ์โกรธต่อหน้าลูกๆ เขาจึงตั้งใจทำเช่นนี้ เขาถึงขั้นไม่ถือสาอะไรเลยถ้าเธอจะรู้ และแม้ว่าเสิ่นหยินอู้จะรู้ แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยจริงๆ "ว้าว" เสิ่นเหมิงเหมิงเอามือเล็กๆขึ้นมาปิดใบหน้าเล็กๆของเธอด้วยความประหลาดใจ “ลุงเย่มูชอบหม่ามี๊ของหนูมากเลยเหรอคะ?” "อืม" ทันใดนั้น เหมิงเหมิงก็ม

    Last Updated : 2024-10-11
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 616

    “หยินอู้ ผมแค่อยากชดเชย” “ห้าปีแล้วที่ครอบครัวเราสามคนใช้ชีวิตกันอย่างสบายดี ไม่ต้องการการชดเชยหรอก สิ่งเดียวที่เราต้องการคือชีวิตที่สงบสุข ถ้าคุณต้องการที่จะทำอะไรเพื่อชดเชย ก็เชิญคุณออกไปจากชีวิตเรา อย่ามาปรากฏตัวต่อหน้าเราอีก นี่เป็นการชดเชยที่ดีที่สุด” หลังจากที่เธอพูดจบ ฉินเย่ก็ไม่พูดอะไร เขามองเธออย่างเงียบๆ สายตาของเขายังคงมืดมน มุมปากของเขาก็ยังคงเม้มเป็นเส้นตรงอยู่ แม้ว่าท่าทางของเขาจะดูสงบ แต่เขาก็ไม่มีท่าทีที่จะยอมแพ้ แน่นอนว่าเสิ่นหยินอู้รู้ดีว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆเพราะเขาได้ทำอะไรไปตั้งมากมายขนาดนั้น เธอไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะทำให้เขายอมแพ้ได้ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ หลังจากนั้นไม่นาน ฉินเย่ก็เริ่มเก็บกวาดของบนโต๊ะ เมื่อเห็นการกระทำของเขา เสิ่นหยินอู้ก็นึกถึงสิ่งที่เด็กสองคนบอกเธอ ลุงเย่มู่ยอมกินแป้งแฮมเบอร์เกอร์ที่เหลือจากพวกเขา ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาจะทำอะไรเช่นนี้ได้อย่างไร? แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น มันก็ไม่ได้หมายความว่าเสิ่นหยินอู้จะให้อภัยและยอมรับเขาได้ง่ายๆ เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ลุกขึ้นยืนและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: "หวังว่าคุณจะไม่มารบกวนพวกเราอีก

    Last Updated : 2024-10-11
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 617

    เมื่อเธอมาถึงฉินกรุ๊ป มันก็เป็นเวลาที่ฉินกรุ๊ปเลิกงานแล้ว และคนส่วนใหญ่ออกไปจนเกือบจะหมดแล้ว คนที่เหลืออยู่ในอาคารของฉินกรุ๊ปมีไม่มากนัก แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยังไม่กลับไป พวกเขาต้องผลัดเวรกันเพื่อเฝ้าดูแลที่นี่ เสิ่นหยินอู้เดินเข้าไปและพบพนักงานต้อนรับ พนักงานต้อนรับคนนี้เคยต้อนรับเธอมาก่อนและยังไม่ได้กลับไป เมื่อเห็นเธอ พนักงานต้อนรับก็ดูประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก่อนที่เธอจะได้พูด เสิ่นหยินอู้ก็เป็นฝ่ายถามขึ้นมาก่อนว่า "สวัสดีค่ะ ฉันมาพบผู้ช่วยหลี่" พนักงานต้อนรับดูสับสนอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า: "แต่คุณหญิงคะ ผู้ช่วยหลี่เลิกงานไปแล้ว" “เขาเลิกงานแล้ว แล้วประธานฉินล่ะ? เขาก็ไปแล้วเหมือนกันเหรอคะ?” พนักงานต้อนรับค่อยๆนึก: "บ่ายวันนี้ประธานฉินไม่ได้มาที่บริษัท ผู้ช่วยหลี่ออกไปเมื่อสิบนาทีที่แล้วค่ะ" ฉินเย่ไม่ได้มาที่บริษัทในตอนบ่ายเหรอ? แล้วเขาไปทำอะไรล่ะ? ไม่มีใครอยู่เลย เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาผู้ช่วยหลี่ ผู้ช่วยหลี่รู้สึกประหลาดใจมากเมื่อได้รับสายจากเสิ่นหยินอู้ "คุณหนูเสิ่น?" น้ำเสียงของเขาน่าประหลาดใจราวกับว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่าเสิ่

    Last Updated : 2024-10-11
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 618

    เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงระงับอารมณ์ของเธอไว้และรออยู่ที่เดิม ประมาณยี่สิบนาทีต่อมา หลี่มู่ถิงก็มาถึงด้วยความเร่งรีบ หลังจากที่เขายืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ปล่อยพวกเขาเข้าไปด้านใน “คุณหนูเสิ่น ให้ผมพาคุณไปไหมครับ?” ในเมื่อมาถึงแล้ว หลี่มู่ถิงก็คิดที่จะช่วยประหยัดแรงของเสิ่นหยินอู้ จากนั้นก็พาเธอไปที่นั่น เมื่อเขาพูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็พยักหน้าให้เขา “ได้ค่ะ งั้นก็รบกวนด้วยค่ะ” เมื่อพิจารณาจากท่าทางในปัจจุบันของหลี่มู่ถิง เขาคงไม่รู้เรื่องที่ฉินเย่พาลูกๆสองคนของเธอไป เขาถึงขั้นช่วยเหลือเธอด้วยซ้ำ ดังนั้น เสิ่นหยินอู้จึงสุภาพและเกรงใจเขา ภายใต้การนำทางของหลี่มู่ถิง พวกเขามาถึงที่ที่ฉินเย่อยู่อย่างรวดเร็ว “คุณหนูเสิ่น ถึงแล้วครับ” เมื่อมองไปที่บ้านหลังใหญ่ตรงหน้าเธอ เสิ่นหยินอู้กำลังจะกดกริ่งประตู แต่จู่ๆหลี่มู่ถิงก็พูดว่า: "คุณหนูเสิ่น ผมจะบอกรหัสให้คุณ คุณเข้าไปได้เลยครับ" หลังจากได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็ชะงักไปชั่วคราว เธอคิดสักพักแล้วจึงพยักหน้า: "ก็ได้ค่ะ" หลี่มู่ถิงบอกรหัสผ่านเข้าบ้านให้เธอแล้วจึงออกไป เสิ่นหยินอู้ป้อนรหัสผ่าน

    Last Updated : 2024-10-11

Latest chapter

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 864

    "ดีใจค่ะ" เสิ่นเหมิงเหมิงเอื้อมมือออกไปด้วยความดีใจและคิดจะเข้าไปกอดเธอ แต่นี่เป็นบนเครื่องบิน และทั้งคู่ก็คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถกอดหยินอู้ได้เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงยื่นมือออกมาให้เหมิงเหมิงจับมือเธอเพื่อแสดงความดีใจออกมา “หม่ามี๊คะ แล้วลุงเย่มู่รู้หรือเปล่า?”เขารู้หรือเปล่าเหรอ? มุมปากของเสิ่นหยินอู้โค้งขึ้น สีหน้าของเธออ่อนโยนขึ้น เดี๋ยวพอกลับถึงจีนเขาก็คงจะรู้เองแหละ "เดี๋ยวก็รู้แล้วจ๊ะ" “หม่ามี๊คะ แล้วคุณปู่กับย่าเข้ากับคนง่ายไหมคะ? พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่หรอคะ?” “ใช่แล้ว พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่ พวกเขาอ่อนโยนมาก แล้วก็เข้ากับคนง่าย ไม่ต้องห่วง พวกเขาคือ…” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็พูดว่า "พวกเขาคือปู่กับย่าแท้ๆของลูก" หลังจากได้ยิน ดวงตาของเหมิงเหมิงก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ “ปู่กับย่าเหรอคะ?” "อืม" เสิ่นหยินอู้ลูบหัวของเหมิงเหมิงและมองไปที่เสิ่นซือเหนียน: "เหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิง ลูกเข้าใจสิ่งที่หม่ามี๊พูดไหม? ลุงเย่มู่เป็นพ่อแท้ๆของลูก" เสิ่นซือเหนียนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นการบอกว่าเขาเข้าใจ อย่าง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 863

    อารมณ์ของเธอในเที่ยวบินขากลับแตกต่างไปจากในตอนขามาอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ไม่ได้ถือว่าดีมากนัก สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกว่าโชคดีก็คือการที่ไม่ว่าจะเป็นขามาหรือขากลับ ลูกๆทั้งสองคนของเธอก็ล้วนอยู่ข้างกายเธอ หลังจากที่หลี่มู่ถิงได้รับข้อความจากฉินเย่ เขาก็เล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กๆสองคนให้คุณพ่อคุณแม่ฉินฟังก่อนขึ้นเครื่องบิน หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ฉินรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ตกใจและเงียบไปนาน ในที่สุดพวกเขาก็พูดว่า "เราจะกลับไปเดี๋ยวนี้ เที่ยวบินของพวกคุณคือเที่ยวไหน เดี๋ยวถึงแล้วเราจะไปรับ" หลังจากที่หลี่มู่ถิงบอกเสิ่นหยินอู้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ฉินบอกมา เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เนื่องจากเธอไม่ได้เจอพวกเขามานานแล้ว เมื่อนึกถึงห้าปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เธอจากไป เธอจึงไม่รู้ว่าจะทักทายพวกเขาได้อย่างไรเมื่อต้องพบกันอีกครั้ง หลี่มู่ถิงไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เขาทำได้เพียงคาดเดาจากการดูสีหน้าของเธอเท่านั้น เมื่อเห็นเธอดูไม่ค่อยมีความสุข เขาจึงถามด้วยท่าทีระมัดระวัง: "คุณหนูเสิ่น ประธานฉินบอกผมว่าถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจหรือกังวลอะไร คุณบอกผมได้เสมอ และเรื่องนี้ก็สามารถล้มเลิก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 862

    ขณะที่ทั้งสามคนกำลังคุยกัน พวกเขาก็เดินไปที่ประตู ดังนั้นเสียงของพวกเขาจึงดังลอดผ่านประตูเข้าไปถึงหูของเสิ่นหยินอู้ได้อย่างชัดเจน เสิ่นหยินอู้ชะงักไปชั่วคราว เธอเงยหน้าขึ้นมองฉินเย่ กดเสียงลงแล้วพูดว่า "ฉันต้องออกไปแล้ว ไม่งั้น..." คำพูดของเธอถูกขัดจากการที่ฉินเย่โน้มตัวเข้าไปหาเธออย่างกะทันหันลมหายใจที่ร้อนรุ่มของฉินเย่กระทบเข้ากับใบหน้าของเธอ ออร่าของเขาปกคลุมเธอเธอไว้ และริมฝีปากบางแนบกดลงไปบนมุมปากของเธอ เสียงของเขาแหบห้าว: "ขอจูบอีกที" ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็จูบเธออีกครั้งในทันทีโดยไม่รอให้ได้ทันเธอโต้ตอบอะไรทั้งนั้น "อื้อ" เสิ่นหยินอู้ยังไม่ทันได้ผลักเขาออกไปก็ถูกเขาจูบอีกครั้ง เธอส่งเสียงออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่เธอก็ตระหนักได้ว่าเสียงที่เธอเปล่งออกมาอาจทำให้คนที่อยู่นอกประตูได้ยินเข้า ดังนั้นเธอจึงรีบกลั้นเสียงนั้นไว้ในลำคอ เธอยื่นมือออกไปขวางไว้ระหว่างหน้าอกของฉินเย่ด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาที่ช่างกล้าจริงๆ เขายังทำอะไรเช่นนี้ได้ในขณะที่เด็กๆกับหลี่มู่ถิงมาตามหาเธอ... เนื่องจากเด็กๆอยู่ข้างนอก เสิ่นหยินอู้จึงไม่กล้าแม้แต่จะดิ้นขัดขืนเพราะกลัวว่าพวกเขาจะไ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 861

    “ก่อนออกเดินทาง เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนถามฉันว่าพวกเขาจะได้เจอคุณเมื่อไร”เสิ่นหยินอู้พิงอยู่ในอ้อมแขนของเขาและพูดเบาๆ "อืม" ฉินเย่ตอบแล้วพูดว่า: "พวกเขาน่ะ ผมว่าจะไม่ไปเจอ" เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นจากอ้อมแขนของเขาด้วยท่าทางสับสน: "ทำไมล่ะ? คุณมาหาฉันแล้ว แล้วทำไมไม่ไปเจอพวกเขาด้วยเลยล่ะ?" ฉินเย่ก้มหน้าลง มองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง แล้วสัมผัสริมฝีปากสีแดงของเธอเบาๆ "ไว้รอผมกลับไปค่อยเจอ แต่ผมหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น... ในตอนที่เจอกันอีกครั้ง พวกเขาจะเปลี่ยนคำเรียกผม โอเคไหม?” เสิ่นหยินอู้กัดริมฝีปากล่างและไม่ตอบอะไร “ยังไม่ยอมอีกเหรอ?” เขาสัมผัสหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าวและต่ำ “คุณให้ผมจูบมานานขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังไม่ยอมอีกล่ะ?” เดิมทีเขารู้สึกหึงหวงเล็กน้อยที่รู้สึกว่าเขายังต้องแข่งกับโม่ไป๋อยู่ แต่หลังจากการจูบครั้งนี้ ความหึงหวงภายในใจของฉินเย่ก็หายไปในทันที เพราะเขาสัมผัสได้ถึงการตอบสนองและความไว้วางใจของเธอ ตอนนี้เพียงแค่ต้องรอให้เขาจัดการเรื่องทางนี้ให้เสร็จ และหลังจากที่กลับไป พวกเขาสี่คนก็สามารถอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 860

    แต่ดูเหมือนว่าคนๆนั้นจะสัมผัสได้ถึงเจตนาของเธอ และก่อนที่เธอจะกรีดร้องออกมา เขาก็เอื้อมมือออกไปปิดปากของเธอไว้ "อื้อ" ดังนั้นเสียงร้องของเสิ่นหยินอู้จึงกลายเป็นเสียงที่อุดอู้ขึ้นมาทันที ภายในห้องไม่ได้เปิดไฟ มีแต่ความมืดมิด บวกกับหลังจากที่เธอเข้ามา ประตูก็ถูกปิดลง เธอมองเห็นเพียงร่างสูงร่างหนึ่งตรงหน้าเธอผ่านแสงสลัวๆที่ส่องมาจากด้านนอกหน้าต่าง เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่มือและเท้าของเธอถูกพันธนาการเอาไว้ และเธอไม่สามารถขยับได้ จนกระทั่งบุคคลนั้นปล่อยมือของเขาที่ปิดปากของเธอไว้เสิ่นหยินอู้คิดจะใช้โอกาสนี้ในการร้องออกมา แต่คนตรงหน้าเธอก็รวดเร็วกว่า เขาโน้มตัวลงมาและจูบเธอ ลมหายใจอุ่นๆที่หนักหน่วงกระทบเข้ากับใบหน้าของเสิ่นหยินอู้ และในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็รับรู้ได้ถึงออร่าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนในขณะนี้ นี่มัน…… ความประหลาดใจแวบขึ้นมาในหัวใจของเธอ และก่อนที่เธอจะทันได้ตอบสนองอะไรอื่น เธอก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายดันฟันของเธอให้แยกจากกัน ทำให้จูบนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะที่พวกเขานัวเนียกัน ลมหายใจของพวกเขาล้วนมีแต่กลิ่นของทั้งคู่ เสิ่นหยินอู้ยังได้กลิ่นบุหรี่ที

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 859

    ดังนั้นการทานอาหารมื้อนี้ก็เป็นไปตามที่เสิ่นหยินอู้คาดไว้ เมื่อพวกเขากินเกือบเสร็จแล้ว แล้วก็จนอาหารเย็นชืดหมดแล้ว ฉินเย่ก็ยังไม่มาปรากฏให้เห็น ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะต้องเดินทางไปสนามบิน เสิ่นหยินอู้พาเด็กน้อยทั้งสองคนขึ้นไปชั้นบน หลังจากเข้าไปในห้องแล้ว เหมิงเหมิงก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: "หม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่อยู่ไหนล่ะคะ? เขาจะกลับมาเมื่อไร?" เสิ่นหยินอู้ตอบคำถามของเธอแบบเดียวกันกับที่หลี่มู่ถิงตอบเธอ “หม่ามี๊ก็เหมือนลุงหลี่มู่ถิงจ๊ะ ยังไม่รู้เลย เขาไม่ได้บอกหม่ามี๊ว่าเขาจะไปทำอะไร แน่นอนว่าหม่ามี๊ไม่รู้หรอกว่าเขาจะกลับมาเมื่อไร” หลังจากได้ยิน เหมิงเหมิงก็ร้อง อ่า ออกมาเบาๆ เธอขมวดคิ้วราวกับรู้สึกเป็นไม่สบายใจเพราะเรื่องนี้ “ถ้างั้นหม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่คงจะไม่ได้จะไม่กลับมาแม้แต่ตอนเราไปสนามบินใช่ไหมคะ? แปลว่าวันนี้เราก็จะไม่ได้เจอลุงเย่มู่แล้วหรอคะ?” เนื่องจากเธอไม่ต้องการให้เด็กๆทั้งสองคนมีความหวังมากเกินไป เสิ่นหยินอู้จึงพูดว่า: "อืม ก็อาจจะเป็นแบบนี้ ลุงเย่มู่มีเรื่องหลายอย่างที่ต้องทำ เดี๋ยวเขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาจะกลับไปหาเราที่จีน” หากพู

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 858

    แม้ว่าในที่สุดเขาก็พบเธอ แต่ใครจะกล้ารับประกันกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นได้? "พอได้แล้ว" เมื่อเห็นเธอกัดริมฝีปากล่างและคิดจะพูดอะไรอื่นอีก ฉินเย่ก็เอามือใหญ่โอบไปที่เอวบางของเธอ "ไม่ต้องคิดแล้ว ในเมื่อผมเลือกที่จะอยู่ นั่นก็หมายความว่าผมมั่นใจ" “แต่... เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรทำตั้งแต่แรกนะ” “นั่วนั่ว” ฉินเย่เรียกชื่อเธอด้วยเสียงแผ่วเบา “การจะทำอะไรสักอย่างน่ะ ไม่มีคำว่าควรหรือไม่ควร มีแต่เต็มหรือไม่เต็มใจเท่านั้นแหละ” “ถ้าคุณรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ผมจะอยู่ที่นี่จริงๆ งั้นหลังจากที่ผมกลับไปที่จีนแล้วก็ลองคิดเรื่องที่จะเปลี่ยนสถานะให้ผมดูดีกว่าไหม?” เสิ่นหยินอู้เข้าใจในทันทีว่าเขาหมายถึงเรื่องการเรียกชื่อ เขาต้องการให้เด็กทั้งสองหยุดเรียกเขาว่าลุงเย่มู่และเรียกเขาว่าพ่อแทน หรือจะบอกว่า ที่เขาทำมามากขนาดนั้นก็เพียงเพื่อความปรารถนาเล็กๆน้อยๆเช่นนี้งั้นหรอ? เมื่อเธอคิดได้เช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็นิ่งไป แล้วพูดว่า "คุณจะไม่บอกพวกเขางั้นหรอ?" ริมฝีปากของฉินเย่โค้งขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ได้ตอบกลับคำพูดของเธอ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดเบาๆว่า: "ครั้งนี้ ผมจะไม่ไปเจอพวกเข

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 857

    คำพูดทางจิตวิทยาเช่นนี้... ถ้าเขาบอกว่าเขาชอบลุงโม่ไป๋มากกว่า ถึงตอนนั้น... เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นซือเหนียนก็พูดว่า: "ลุงโม่ไป๋อยู่กับพวกเรามานานกว่า" เมื่อได้ยิน ฉินเย่ก็กลั้นหายใจ "ถ้างั้น……" “แต่ลุงเย่มู่มาดูไลฟ์สดของเราบ่อยๆแล้วก็ให้รางวัลเราตลอดเลยด้วย” คำพูดประโยคหลังทำให้หัวใจที่กำลังจมดิ่งลงไปของฉินเย่ลอยกลับขึ้นมาอีกครั้ง เดิมทีเขาคิดว่าตามความคิดของซือเหนียน เขาคงจะหมดโอกาสแล้ว แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าคำพูดของซือเหนียนจะเปลี่ยนไป ซึ่งมันไม่ต่างกับเป็นการทำให้หัวใจของฉินเย่ลุกเป็นไฟ "แล้วไงต่อ?" ฉินเย่ยังคงรู้สึกประหม่ามากในขณะที่เขาถามคำถามนี้ออกมา เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะสนใจความคิดของเด็กคนหนึ่งมากขนาดนี้ เพราะกลัวว่าเด็กคนนี้จะไม่เลือกเขาแต่ไปเลือกคนอื่นแทน "ก็……"เสิ่นซือเหนียนจงใจพูดเสียงยาว เมื่อเห็นว่าการหายใจของฉินเย่ดูเหมือนจะติดๆขัดๆขึ้นมา เขาก็คิดว่ามันค่อนข้างน่าขันเล็กน้อย เขาจงใจเอียงศีรษะแล้วพูดว่า: "ลุงเย่มู่กับลุงโม่ไป๋เสมอกันครับ" เสมอกัน? ฉินเย่ตกตะลึง “เสมอกันงั้นเหรอ?” “ลุงเย่มู่ หรือว่าลุงคิดว่าลุงจะแพ้ลุงโม่ไป๋เหรอครั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 856

    “ซือเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของซือเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เขาถามว่ามีคุณสมบัติมากพอหรือไม่ ไม่ใช่ยินยอมหรือไม่ แม้ว่าเสิ่นซือเหนียนจะยังเด็ก แต่ความรู้ที่เขาได้เรียนมาก็มากมายพอสมควร ดังนั้นเขาจึงเข้าใจความหมายของคำพูดที่ฉินเย่พูดได้อย่างรวดเร็ว เขาตกตะลึงอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า "เอ่อ...ต้องดูว่าหม่ามี๊จะยอมหรือไม่ยอมครับ" “ลุงเย่มู่หมายความว่า ถ้าไม่เกี่ยวกับหม่ามี๊ เอาแค่ความเห็นของเหนียนเหนียนเองที่เป็นความคิดที่จากใจจริงที่สุด เหนียนเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของเหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เสิ่นซือเหนียน: "..." "ไม่ต้องกลัว" มือใหญ่ของฉินเย่วางลงบนไหล่ของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: "แค่พูดความจริงก็พอ" สิ่งที่ซือเหนียนต้องการจะพูดอาจทำให้ฉินเย่ไม่พอใจจริงๆ แม้ว่าลุงเย่มู่จะทำอะไรให้พวกเขามากมายในช่วงที่ผ่านมานี้ บวกกับที่ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาดูพวกเขาในห้องไลฟ์สดเสมอ ความยิ่งใหญ่ของชื่อ 'ลุงเย่มู่เฉิน' ยังคงทรงพลังมากสำหรับเด็กน้อยสองคน ตัวอย่างเช่น คนแปลกหน้าคนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นพ่อแท้ๆของพวกเขา แต่หากไม่มีฉา

DMCA.com Protection Status