แชร์

บทที่ 588

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
ฉินเย่ยืนอยู่ที่เดิม ในตอนแรกเขาไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา ไม่รู้ว่าเขาเห็นอะไร แต่ขมวดคิ้วเข้าหากัน

“ใครเป็นคนทำแผนการออกแบบอันนี้?”

เมื่อฟังน้ำเสียงของเขา เสิ่นหยินอู้ก็กระพริบเปลือกตาขึ้นมามองเขา

"มีอะไรเหรอ?"

"คุณทำเหรอ?"

เสิ่นหยินอู้พยักหน้า

"ใช่ มีอะไรเหรอ?"

ทันทีที่พูดจบ ฉินเย่ก็หัวเราะเยาะเย้ย "นี่คือทั้งหมดที่คุณเรียนรู้มาในเวลาห้าปีเหรอ?"

เมื่อได้ยิน สีหน้าของเสิ่นหยินอู้ก็ซีดลงเล็กน้อย

“หมายความว่าไง? แผนงานของฉันมีปัญหาอะไรเหรอ?”

“ถ้าเราทำตามแผนของคุณ บริษัทก็คงล่มจมพอดี อย่าเสียเวลาเลย”

“……”

แม้ว่าคำพูดเหล่านี้ที่ออกมาจากปากของฉินเย่จะทำให้เสิ่นหยินอู้โกรธมาก

แต่เธอรู้ว่าฉินเย่จริงจังกับงานมาโดยตลอด และไม่มีทางพูดไร้สาระ

ถ้าเขาพูดแบบนี้ แสดงว่ามีปัญหากับแผนงานของเธอ

แม้ว่าเขาจะโกรธเคืองอยู่ข้างใน แต่เสิ่นหยินอู้ก็ฝืนพูด

“แล้วคุณมีความเห็นยังไงล่ะ?”

ฉินเย่กวาดสายตาไปมองเธอ ไม่ตอบอะไร เขาเพียงถือแผนงานเดินไปที่โต๊ะแล้วโยนมันลงไปบนโต๊ะ

เมื่อเห็นว่าเขาไม่สนใจเธอ เสิ่นหยินอู้ก็เม้มริมฝีปากของเธอแล้วเดินไป

“มีปัญหาตรงไหน? ฉัน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 589

    รหัสผ่านคือวันเกิดของเธองั้นเหรอ? นี้มันหมายความว่าอะไรกันแน่? เครื่องสำรองนี้ดูใหม่มาก น่าจะเพิ่งซื้อมาไม่นาน แล้วเขาตั้งวันเกิดของเธอเป็นรหัสผ่านเปิดเครื่องเหรอ? หลังจากที่ทำร้ายเธอ เป็นคนขอให้หย่า ถึงขั้นขอให้เธอทำแท้ง แต่เขายังใช้วันเกิดของเธอเป็นรหัสผ่านเหรอ? เสิ่นหยินอู้กัดริมฝีปากล่างเบาๆและป้อนตัวเลขอย่างไร้สีหน้า เมื่อเห็นว่าคอมพิวเตอร์เปิดอยู่ เขาก็รู้สึกว่ามันน่าขบขันเป็นอย่างยิ่ง มีสิทธิ์อะไร? เขามีสิทธิ์อะไร? เสิ่นหยินอู้เปิดไฟล์ใหม่ด้วยความขมขื่นแล้วพิมพ์ อย่าไปคิดเชียว แล้วก็ห้ามถูกหลอก แม้ว่าเขาจะใช้วันเกิดเธอเป็นรหัสผ่าน แต่ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร อดีตมันผ่านไปนานแล้ว ตอนนี้เธอต้องมองไปยังอนาคตและทำงานที่รับผิดชอบอยู่ให้เสร็จ อย่างไรก็ตาม แผนงานไม่ผ่านเกณฑ์ของเขา ดังนั้นเสิ่นหยินอู้ย่อมต้องการถามความคิดเห็นของเขาอยู่แล้ว เมื่อฉินเย่เห็นว่าเรื่องรหัสผ่านไม่ได้มีผลอะไรกับเธอ หัวใจของเขาก็รู้สึกจุกขึ้นมา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เธอเป็นคนที่เขารั้งไว้ให้อยู่ต่อ แผนงานจะต้องทำให้เสร็จในวันนี้ เขาเคาะปลายนิ้วเบาๆลงบนโต๊ะ สีหน้าและการกระทำของเขาดูเหมือนจะไม

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 590

    “อย่ามามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น แผนงานน่ะจะยังทำอยู่ไหม?” อาจเป็นเพราะเขายอมรับผิด เสิ่นหยินอู้จึงรู้สึกดีขึ้น แผนงานน่ะต้องทำอยู่แล้ว แต่เธอก็มีศักดิ์ศรี ดังนั้นเธอจึงพูดแซะฉินเย่เล็กน้อยก่อนที่จะนั่งลง ในเวลาทำงาน ฉินเย่ไม่พูดจาประชดประชันเหมือนแต่ก่อนอีก แต่กลับคุยเรื่องแผนงานกับเธออย่างจริงจัง อาจเป็นเพราะเธอไม่ได้กลับมาที่จีนเป็นเวลานานและไม่เข้าใจภาพรวม เสิ่นหยินอู้จึงได้ประโยชน์มากมายจากคำแนะนำของฉินเย่ ดังนั้นในท้ายที่สุด เสิ่นหยินอู้ก็ลืมไปว่าชายที่อยู่ข้างๆเธอเคยเป็นสามีของเธอมาก่อน เธอมุ่งความสนใจไปที่งานอย่างใจจดใจจ่อและพูดคุยกับฉินเย่ด้วยน้ำเสียงที่ปกติมาก ราวกับว่าเธอมองเขาเป็นหุ้นส่วนจริงๆ เมื่อฉินเย่ตระหนักได้ถึงสิ่งนี้ สีหน้าของเขาก็หม่นลงอีกครั้ง เสิ่นหยินอู้ตั้งใจทำงาน เมื่อหลี่มู่ถิงมาเคาะประตูเพื่อเตือนให้ทั้งสองกินข้าว แผนงานในมือของเธอก็เกือบจะเสร็จแล้ว เธอจึงไม่สนใจและมุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่โน๊ตบุ๊คต่อ หลี่มู่ถิงจึงทำได้เพียงมองไปที่ฉินเย่อย่างช่วยไม่ได้ ฉินเย่เม้มริมฝีปากบางของเขาแล้วเตือนเสียงดังว่า: "ได้เวลากินข้าวแล้ว" "อืม"

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 591

    เมื่อเห็นว่าในที่สุดเธอก็ยอมกิน หลี่มู่ถิงจึงรีบไปหยิบอาหารที่เตรียมไว้มาอย่างรวดเร็ว เขาเตรียมอาหารกลางวันไว้ล่วงหน้า เขาไปซื้อมาจากร้านอาหารหรู การตกแต่งในจานสวยงามและยังคงร้อนอยู่ เมื่อเปิดฝาออกก็มีกลิ่นหอมลอยออกมา เสิ่นหยินอู้กินข้าวเข้าไปหนึ่งคำ เธอนึกอะไรขึ้นได้จึงมองไปที่จานของฉินเย่ แน่นอนว่าเธอเห็นข้าวบนจานของเขา เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดโดยไม่รู้ตัว: "ตอนนี้กินข้าวได้แล้วเหรอ? ไม่ต้องบำรุงกระเพราะแล้วเหรอ?" เมื่อพูดจบ ความเงียบก็ปกคลุมไปทั่วบริเวณรอบๆ ก่อนที่ฉินเย่จะมองไปที่เธอ เสิ่นหยินอู้ก็รีบอธิบายทันที: "ฉันถามเพราะความเป็นหุ้นส่วน" มันก็ไม่มีอะไรถ้าเธอไม่อธิบาย แต่หลังจากที่เธออธิบาย มันก็ดูเหมือนว่าเธอปกปิดอะไรบางอย่างไว้อยู่ แน่นอน ริมฝีปากบางของฉินเย่โค้งขึ้นเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำอธิบายของเธอ “จริงเหรอ? งั้นผมจะถือว่าคุณเป็นห่วงผมแล้วกัน” ในตอนนี้ อารมณ์ด้านลบที่เกิดจากความไม่พอใจก่อนหน้านี้ของเธอได้หายไปหมดแล้ว มีเพียงความคิดเดียวที่หลงเหลืออยู่ในหัวของฉินเย่ เธอเป็นห่วงเขา แม้ว่าพฤติกรรมของเธอจะดูเหมือนคนที่กำลังงอน แต่ความเป็

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 592

    ฉินเย่แสกนอ่านอย่างรวดเร็ว เดิมทีเขาคิดที่จะจับผิดปัญหาบางอย่างในแผนงานเพื่อรั้งให้เธออยู่ต่อ แต่เสิ่นหยินอู้ ผู้หญิงคนนี้เรียนรู้สิ่งต่างๆได้เร็วจนเกินไป และระหว่างที่เธอเขียน เขาก็คอยดูอยู่เสมอ ดังนั้นในขณะนี้ฉินเย่จึงไม่สามารถหาข้อผิดพลาดใดๆได้แล้วจริงๆ ในที่สุดฉินเย่ก็เลือกจุดที่ผิดได้ "ตรงนี้ผิด" หลังจากได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็ไม่ได้คิดมากและเดินเข้าไปหาเขา "ตรงไหน?" เมาส์ของฉินเย่ขยับ สายตาของเสิ่นหยินอู้ก็ขยับตามไปด้วย ในที่สุด เขาก็เห็นเขาขยับเมาส์ไปชี้ที่คำๆหนึ่ง ในตอนแรก เสิ่นหยินอู้ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าฉินเย่หมายความว่าอะไร ดังนั้นจึงถามว่า "ตรงนี้มีปัญหาอะไร?" “มันต้องเป็นสามารถ ไม่ใช่สามาถร” ฉินเย่พูดอย่างใจเย็น เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็ตระหนักได้ว่าเธอได้เขียนผิดจริงๆ เธอมองไปที่ฉินเย่ ตัวอักษรเยอะมากมายขนาดนี้ เขายังเห็นจุดผิดพลาดเล็กๆน้อยๆเช่นนี้อีกเหรอ “ขอโทษ ฉันไม่ได้ดูตอนที่พิมพ์” เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงเอาโน๊ตบุ๊คกลับมาแก้ไขคำผิด จากนั้นก็ส่งให้เขาอีกรอบ “มีปัญหาอะไรอีกไหม?” ฉินเย่เปิดดูอีกครั้ง ในขณะที่รอ เสิ่นหยินอู้ก็รู

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 593

    “แล้วแผนงานของฉัน...” “ผ่านแล้ว” ฉินเย่กล่าว “ผ่านแล้วเหรอ? คุณหมายความว่ามันใช้งานได้แล้วเหรอ?” "อืม" งั้นก็คือที่เขาดูไปแล้วรอบหนึ่งจริงๆแล้วมันใช้ได้ ก็เลยมาจับผิดจุดผิดพลาดเล็กๆแทนงั้นสิ? ถ้าคิดเช่นนั้น ก็ไม่ได้ถึงกับรับไม่ได้ใช่ไหม? “ในเมื่อผ่านแล้ว งั้นฉัน...” ก่อนที่เสิ่นหยินอู้จะพูดจบ ฉินเย่ก็ยืนขึ้นพร้อมกุญแจรถในมือ “ไปกันเถอะ ผมไปส่ง” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว: "ไม่ต้อง ฉันขับรถมาเอง ฉันกลับเองได้" นอกจากนี้ เดิมทีเธอมาที่นี่เพื่อส่งแผนงาน ไม่ใช่มาเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์อะไรกับเขา แล้วจะให้เขาไปส่งเธอกลับได้อย่างไรกัน? เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็รีบลุกขึ้น จากนั้นก็หยิบกระเป๋าและเดินออกไป หลังจากเดินไปไม่กี่ก้าว ฉินเย่ก็คว้าข้อมือของเธอไว้ "ตอนที่ได้ใบขับขี่มา คุณโกงข้อสอบทฤษฎีมาหรือเปล่า?" เสิ่นหยินอู้: "?" ฉินเย่: "ไม่งั้นทำไมถึงไม่รู้ว่าไม่ควรขับรถในตอนที่เหนื่อยล้า" “ฉันหาวไปไม่กี่ครั้งเอง แล้วมันขับรถตอนเหนื่อยล้าตรงไหน? มันไม่เหมือนกันสักหน่อย” แต่ฉินเย่กลับค้านเธอ: "ถ้าไม่เหนื่อยคุณจะหาวไหม? หยุดพูดได้แล้ว ร

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 594

    เมื่อพูดจบ ฉินเย่ก็เปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งข้างใน เสิ่นหยินอู้: "..." เมื่อเขารัดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ เสิ่นหยินอู้ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เมื่อเห็นท่าทางลังเลและตกตะลึงของเธอ ฉินเย่ก็รู้สึกโล่งใจอยู่ในใจ หลังจากยกริมฝีปากบางขึ้นแบบไม่ให้ใครเห็น เขาก็เตือนว่า: "ไม่ขึ้นรถเหรอ? หรือคุณเหนื่อยเกินกว่าที่จะขึ้นรถ?" เสิ่นหยินอู้กัดริมฝีปากล่างของเธอแล้วเข้าไปในรถอย่างไม่เต็มใจนัก เธอไม่ได้นั่งบนที่นั่งคนขับ เธอนั่งตรงเบาะหลังโดยทำเหมือนว่าฉินเย่อยู่ในฐานะคนขับรถอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่เธอนั่งลงแล้ว เธอก็มองใบหน้าของฉินเย่ผ่านกระจกมองหลัง และก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าเขาไม่ได้โกรธเพราะเธอทำกับเขาเป็นเหมือนคนขับรถแต่อย่างใด สักพักรถก็ขับออกไปจากบริษัท แม้ว่ารถจะมีราคาถูกมากสำหรับฉินเย่ แต่ทักษะของเขาก็ดีมาก สำหรับเขา ตราบใดที่มันขับได้ เขาก็ไม่มีปัญหาอะไร เสิ่นหยินอู้เอนตัวลงบนเบาะหลังและกอดอกไว้ เดิมทีเธอคิดว่าฉินเย่จะพูดอะไรกับเธอ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไม่พูดอะไรเลย เขาขับรถไปเงียบๆ ราวกับว่าเขาแค่อยากจะไปส่งเธอกลับเท่านั้น ภายในรถเงียบมาก หลังจากนั้นประมาณสองนาที รถก็เข้าสู่ถน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 595

    เสิ่นหยินอู้ยื่นมือออกไปในตอนแรก แต่เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เธอก็หดมือกลับไป เธอขมวดคิ้ว “คุณหยิบมันออกมาเองไม่ได้เหรอ?” “มือของผมไม่ว่าง ขับรถอยู่” เดิมที เสิ่นหยินอู้ต้องการบอกว่า ก็แค่หยิบมันออกมาปิดเสียง มันง่ายมาก แต่เมื่อคิดว่าพอเธอพูดออกมา เขาจะใช้ความรู้ทางทฤษฎีที่เกี่ยวกับใบขับขี่มาเป็นข้ออ้างกับเธอ ดังนั้นเธอจึงปิดปากและกลับไปนั่งพิงเบาะหลัง แค่อดทนจนกว่าจะถึงบริษัท คิดว่าคงจะไปถึงในไม่ข้า ในขณะที่กำลังคิด เสียงโทรศัพท์มือถือของฉินเย่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เดิมที เสิ่นหยินอู้คิดที่จะอดทนไว้ แต่ก็ทนไม่ไหวเมื่อได้ยินเสียงอีกครั้ง เธอโน้มตัวยื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขาออกมา ผลก็คือ เสิ่นหยินอู้ตัวแข็งทื่ออยู่กับที่หลังจากที่เห็นชื่อของคนที่โทรเข้ามา โทรศัพท์ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ฉินเย่ที่กำลังขับรถคิดว่าเธอไม่รู้ว่าจะปิดเสียงโทรศัพท์ของเขาอย่างไร เขาจึงเตือนเธอเสียงดังว่า: "ดันปุ่มด้านข้างไปอีกด้านก็ปิดเสียงได้แล้ว" เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ได้สติ เธอดันปุ่มด้านข้างโทรศัพท์ไปตามที่ฉินเย่บอก จากนั้นจึงคืนโทรศัพท์ให้เขาอย่างเงียบๆ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 596

    เมื่อคิดเช่นนั้น ฉินเย่เม้มริมฝีปากและเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา: "ทีหลังอย่าโทรมาติดๆกันแบบนี้อีก" น้ำเสียงของเขาเย็นสุดขั้วราวกับลูกเห็บในฤดูหนาว ที่ปลายสายเงียบไป จากนั้นน้ำเสียงรู้สึกผิดก็ดังขึ้น “ฉันขอโทษนะเย่ ฉัน ฉันแค่กังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับนาย ก็เลยทำแบบนี้...” “เธอกังวลอะไร?” ฉินเย่พูดแทรกเธออย่างดุดัน: “ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผมจริงๆ การที่เธอโทรมตาติดๆกันแบบนี้จะช่วยอะไรได้นอกจากทำให้โทรศัพท์ของผมแบตหมด?” คำพูดของเขาตรงไปตรงมาและชัดเจน ทำให้เจียงฉูฉู่ไม่สามารถโต้กลับอะไรเขาได้ เธอทำได้เพียงพูดขอโทษเขาเบาๆ และเธอก็จะไม่ทำเช่นนี้อีก ฉินเย่ไม่ต้องการฟังคำขอโทษของเธอ ดังนั้นหลังจากบอกว่ามีธุระต้องไปทำต่อ เขาก็วางสายไป หลังจากวางสายแล้ว ฉินเย่ก็ตามไปในทางที่เสิ่นหยินอู้เดินหายไป -เสิ่นหยินอู้กลับมาที่บริษัท หลังจากออกจากลิฟต์ เธอคิดที่จะกลับไปที่ห้องทำงานของเธอ แต่เธอไม่คาดว่าจะเจอผู้ชายสวมแว่นตาที่เธอเจอครั้งก่อนที่ทางแยก ทันทีที่เขาเห็นเธอ ผู้ชายสวมแว่นก็ทักทายเธอด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อทันที "เถ้า เถ้าแก่" แม้ว่าจะอารมณ์ไม่ดี แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพนักงานข

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status