แชร์

บทที่ 593

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-05 17:00:00
“แล้วแผนงานของฉัน...”

“ผ่านแล้ว” ฉินเย่กล่าว

“ผ่านแล้วเหรอ? คุณหมายความว่ามันใช้งานได้แล้วเหรอ?”

"อืม"

งั้นก็คือที่เขาดูไปแล้วรอบหนึ่งจริงๆแล้วมันใช้ได้ ก็เลยมาจับผิดจุดผิดพลาดเล็กๆแทนงั้นสิ?

ถ้าคิดเช่นนั้น ก็ไม่ได้ถึงกับรับไม่ได้ใช่ไหม?

“ในเมื่อผ่านแล้ว งั้นฉัน...”

ก่อนที่เสิ่นหยินอู้จะพูดจบ ฉินเย่ก็ยืนขึ้นพร้อมกุญแจรถในมือ

“ไปกันเถอะ ผมไปส่ง”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว: "ไม่ต้อง ฉันขับรถมาเอง ฉันกลับเองได้"

นอกจากนี้ เดิมทีเธอมาที่นี่เพื่อส่งแผนงาน ไม่ใช่มาเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์อะไรกับเขา แล้วจะให้เขาไปส่งเธอกลับได้อย่างไรกัน?

เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็รีบลุกขึ้น จากนั้นก็หยิบกระเป๋าและเดินออกไป

หลังจากเดินไปไม่กี่ก้าว ฉินเย่ก็คว้าข้อมือของเธอไว้ "ตอนที่ได้ใบขับขี่มา คุณโกงข้อสอบทฤษฎีมาหรือเปล่า?"

เสิ่นหยินอู้: "?"

ฉินเย่: "ไม่งั้นทำไมถึงไม่รู้ว่าไม่ควรขับรถในตอนที่เหนื่อยล้า"

“ฉันหาวไปไม่กี่ครั้งเอง แล้วมันขับรถตอนเหนื่อยล้าตรงไหน? มันไม่เหมือนกันสักหน่อย”

แต่ฉินเย่กลับค้านเธอ: "ถ้าไม่เหนื่อยคุณจะหาวไหม? หยุดพูดได้แล้ว ร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 594

    เมื่อพูดจบ ฉินเย่ก็เปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งข้างใน เสิ่นหยินอู้: "..." เมื่อเขารัดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ เสิ่นหยินอู้ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เมื่อเห็นท่าทางลังเลและตกตะลึงของเธอ ฉินเย่ก็รู้สึกโล่งใจอยู่ในใจ หลังจากยกริมฝีปากบางขึ้นแบบไม่ให้ใครเห็น เขาก็เตือนว่า: "ไม่ขึ้นรถเหรอ? หรือคุณเหนื่อยเกินกว่าที่จะขึ้นรถ?" เสิ่นหยินอู้กัดริมฝีปากล่างของเธอแล้วเข้าไปในรถอย่างไม่เต็มใจนัก เธอไม่ได้นั่งบนที่นั่งคนขับ เธอนั่งตรงเบาะหลังโดยทำเหมือนว่าฉินเย่อยู่ในฐานะคนขับรถอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่เธอนั่งลงแล้ว เธอก็มองใบหน้าของฉินเย่ผ่านกระจกมองหลัง และก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าเขาไม่ได้โกรธเพราะเธอทำกับเขาเป็นเหมือนคนขับรถแต่อย่างใด สักพักรถก็ขับออกไปจากบริษัท แม้ว่ารถจะมีราคาถูกมากสำหรับฉินเย่ แต่ทักษะของเขาก็ดีมาก สำหรับเขา ตราบใดที่มันขับได้ เขาก็ไม่มีปัญหาอะไร เสิ่นหยินอู้เอนตัวลงบนเบาะหลังและกอดอกไว้ เดิมทีเธอคิดว่าฉินเย่จะพูดอะไรกับเธอ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาไม่พูดอะไรเลย เขาขับรถไปเงียบๆ ราวกับว่าเขาแค่อยากจะไปส่งเธอกลับเท่านั้น ภายในรถเงียบมาก หลังจากนั้นประมาณสองนาที รถก็เข้าสู่ถน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-05
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 595

    เสิ่นหยินอู้ยื่นมือออกไปในตอนแรก แต่เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ เธอก็หดมือกลับไป เธอขมวดคิ้ว “คุณหยิบมันออกมาเองไม่ได้เหรอ?” “มือของผมไม่ว่าง ขับรถอยู่” เดิมที เสิ่นหยินอู้ต้องการบอกว่า ก็แค่หยิบมันออกมาปิดเสียง มันง่ายมาก แต่เมื่อคิดว่าพอเธอพูดออกมา เขาจะใช้ความรู้ทางทฤษฎีที่เกี่ยวกับใบขับขี่มาเป็นข้ออ้างกับเธอ ดังนั้นเธอจึงปิดปากและกลับไปนั่งพิงเบาะหลัง แค่อดทนจนกว่าจะถึงบริษัท คิดว่าคงจะไปถึงในไม่ข้า ในขณะที่กำลังคิด เสียงโทรศัพท์มือถือของฉินเย่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง เดิมที เสิ่นหยินอู้คิดที่จะอดทนไว้ แต่ก็ทนไม่ไหวเมื่อได้ยินเสียงอีกครั้ง เธอโน้มตัวยื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขาออกมา ผลก็คือ เสิ่นหยินอู้ตัวแข็งทื่ออยู่กับที่หลังจากที่เห็นชื่อของคนที่โทรเข้ามา โทรศัพท์ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ฉินเย่ที่กำลังขับรถคิดว่าเธอไม่รู้ว่าจะปิดเสียงโทรศัพท์ของเขาอย่างไร เขาจึงเตือนเธอเสียงดังว่า: "ดันปุ่มด้านข้างไปอีกด้านก็ปิดเสียงได้แล้ว" เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ได้สติ เธอดันปุ่มด้านข้างโทรศัพท์ไปตามที่ฉินเย่บอก จากนั้นจึงคืนโทรศัพท์ให้เขาอย่างเงียบๆ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-06
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 596

    เมื่อคิดเช่นนั้น ฉินเย่เม้มริมฝีปากและเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา: "ทีหลังอย่าโทรมาติดๆกันแบบนี้อีก" น้ำเสียงของเขาเย็นสุดขั้วราวกับลูกเห็บในฤดูหนาว ที่ปลายสายเงียบไป จากนั้นน้ำเสียงรู้สึกผิดก็ดังขึ้น “ฉันขอโทษนะเย่ ฉัน ฉันแค่กังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับนาย ก็เลยทำแบบนี้...” “เธอกังวลอะไร?” ฉินเย่พูดแทรกเธออย่างดุดัน: “ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผมจริงๆ การที่เธอโทรมตาติดๆกันแบบนี้จะช่วยอะไรได้นอกจากทำให้โทรศัพท์ของผมแบตหมด?” คำพูดของเขาตรงไปตรงมาและชัดเจน ทำให้เจียงฉูฉู่ไม่สามารถโต้กลับอะไรเขาได้ เธอทำได้เพียงพูดขอโทษเขาเบาๆ และเธอก็จะไม่ทำเช่นนี้อีก ฉินเย่ไม่ต้องการฟังคำขอโทษของเธอ ดังนั้นหลังจากบอกว่ามีธุระต้องไปทำต่อ เขาก็วางสายไป หลังจากวางสายแล้ว ฉินเย่ก็ตามไปในทางที่เสิ่นหยินอู้เดินหายไป -เสิ่นหยินอู้กลับมาที่บริษัท หลังจากออกจากลิฟต์ เธอคิดที่จะกลับไปที่ห้องทำงานของเธอ แต่เธอไม่คาดว่าจะเจอผู้ชายสวมแว่นตาที่เธอเจอครั้งก่อนที่ทางแยก ทันทีที่เขาเห็นเธอ ผู้ชายสวมแว่นก็ทักทายเธอด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อทันที "เถ้า เถ้าแก่" แม้ว่าจะอารมณ์ไม่ดี แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพนักงานข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-06
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 597

    "ทำอะไรเนี่ย?"เสิ่นหยินอู้ถูกดึงไปจนทำรายงานที่อยู่ในมือหล่น แต่ดูเหมือนว่าฉินเย่จะถูกกระตุ้นจากบางสิ่ง เขาไม่ได้สนใจเธอเลย และยังคงดึงเธอไปด้านหน้า "เดี๋ยวก่อน" ในที่สุดชายสวมแว่นก็ตอบสนองได้ เขารีบไปด้านหน้าเพื่อขวางพวกเขาไว้ “คุณ คุณต้องการจะทำอะไรกับเจ้านายของเรา? ปล่อยเธอไปนะ!” ฉินเย่มองไปที่ชายสวมแว่นที่ดูเหมือนลูกไก่ซึ่งขวางอยู่ตรงหน้าเขา บังเอิญมากที่ชายคนนี้สวมแว่นตากรอบสีทอง ทำให้เขานึกถึงคนที่ชอบสวมแว่นทรงแบบนี้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ตอนที่เขาออกจากลิฟต์ เขาเห็นชายคนนี้จ้องมองไปที่เสิ่นหยินอู้อย่างคลั่งไคล้ สองจุดนี้ทำให้ฉินเย่อารมณ์ไม่ดี เขายิ้มเยาะ มองไปที่อีกฝ่ายแล้วพูดเย้ย: "คุณมีปัญญาขวางผมหรอ?" ออร่าของเขาแข็งแกร่งมากจนทำให้ชายสวมแว่นตกใจมาก เสิ่นหยินอู้ยังคงดิ้นรน "ฉินเย่ ปล่อยนะ คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?" ชายสวมแว่นเห็นเช่นนั้น เขาคิดที่จะก้าวไปข้างหน้า: "ปล่อยเถ้าแก่ของผมนะ" "ไสหัวไป!" ฉินเย่คำรามออกมาด้วยความโกรธ: "อย่าให้ผมต้องลงไม้ลงมือ" หลังจากพูดจบ เขาก็ลากเสิ่นหยินอู้ออกไป จากนั้นครู่หนึ่ง ชายสวมแว่นจึงตอบสนองได้ เขาคิดที่จะตามไป แต่เม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-06
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 598

    “จะคิดก็ได้ ใครจะไม่ชอบผู้หญิงที่ทั้งสวยและฉลาดล่ะ? รีบกลับไปตั้งใจทำงานเถอะ” ชายหนุ่มลากฝีเท้าอันหนักอึ้งของเขาออกไปอย่างหดหู่ อู๋อี้ไห่ส่ายหัวและกลับไปทำงานของเขา - ฉินเย่ลากเสิ่นหยินอู้ไปในที่มุมที่ไม่มีคน จากนั้นก็หยุดเดิน เสิ่นหยินอู้ที่ยังคงดิ้นรนในตอนแรก แต่ต่อมาเธอก็เห็นว่ามือใหญ่ๆของเขาจับเธอไว้แน่นราวกับโซ่เหล็ก การดิ้นรนของเธอนั้นไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง ดังนั้นในท้ายที่สุด เสิ่นหยินอู้ก็ไม่เสียแรงอีก ปล่อยให้เขาลากเธอต่อไป อาจเป็นเพราะเธอเงียบไป มันจึงค่อยๆส่งผลต่ออารมณ์ของฉินเย่ เขาหยุดเดินหลังจากเดินไปได้ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันไปมองเธอ ทั้งสองสบตากันอย่างเงียบๆครู่หนึ่ง จากนั้นสายตาของเสิ่นหยินอู้ก็เลื่อนลงไปที่ข้อมือของเขาที่จับเธอไว้ “ตอนนี้ปล่อยได้หรือยัง?” น้ำเสียงของเธอสงบ ชัดเจน และไม่มีความโกรธเคือง เมื่อเห็นเธอเป็นเช่นนี้ ฉินเย่ก็ขมวดคิ้ว ไม่เพียงไม่ปล่อยมือเธอ แต่กลับใช้โอกาสนี้จับข้อมือของเธอไว้แน่นขึ้นและก้าวไปข้างหน้าสองก้าวให้ใกล้เธอมากขึ้น “ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ” ทันทีที่เขาเข้าใกล้ กลิ่นอายเย็นๆก็ปกคลุมเธอไว้ กลิ่นนั้นเหมือนกันกับใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-06
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 599

    เสิ่นหยินอู้คาดไม่ถึงว่าจะมีวันที่มีคนมาใช้คำว่าท่าทีที่แย่และท่าทีที่แย่ลงกว่าเดิมของเธอเพื่อมาอธิบายอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเธอ “แล้วไงล่ะ? ท่าทีของฉันที่มีต่อคุณแย่ลงไปอีก แล้วมันหมายความว่ายังไง?” ฉินเย่หยุดพูดและจ้องมองเธออย่างเงียบๆ เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูด เสิ่นหยินอู้จึงพยายามบอกให้เขาปล่อยเธอไป"ปล่อยฉันก่อน" เขาไม่ตอบ ดังนั้นเสิ่นหยินอู้จึงพยายามผลักเขาออกไป เพราะไม่ต้องการให้เธอเห็นสีหน้าอันมืดมนของเขา ฉินเย่จึงโน้มตัวมาบังเธอไว้ “คุณคิดจะ……”ก่อนที่จะพูดจบ เธอก็ถูกเขาโอบกอด ความอบอุ่นจากร่างกายของเขาก็แผ่กระจายสู่ร่างกายของเธอในทันที เสิ่นหยินอู้ตกตะลึงอยู่กับที่ เธอคิดว่าเขาจะจูบเธอ “ใช่ บางทีในสายตาของคุณ นี่อาจไม่ได้มีความหมายอะไรเลย แต่สำหรับผม มันหมายถึงบางสิ่งที่สำคัญมาก” เสียงของฉินเย่อยู่ที่ข้างๆหูเธอ มันทั้งต่ำและทุ้มลึก “ตอนนี้ผมจะทำอะไรได้ล่ะ? ผมทำได้แค่อาศัยความเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆนี้มาวิเคราะห์ว่าคุณยังมีความรู้สึกให้ผมหลงเหลืออยู่บ้างไหม แม้จะเพียงแค่เศษเสี้ยวเดียวก็ตาม” ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือการเสแสร้ง หรือไม่ว่ามันกำลังจะหายไป เขาก็ต้องค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-07
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 600

    สายตาของเขาลึกซึ้งมาก เขาค่อยๆโน้มตัวไปข้างหน้าทีละนิด เขาเห็นริมฝีปากสีแดงทั้งสองที่เขาต้องการจะจูบ และมันตามหลอกหลอนทำให้เขาฝันถึงมันทุกคืนตลอดห้าปีที่ผ่านมาจนเขาแทบบ้า แต่ในขณะที่ริมฝีปากกำลังจะสัมผัสกัน เสียงหัวเราะอันดูถูกดูแคลนก็ออกมาจากริมฝีปากของเสิ่นหยินอู้ ดังนั้นเคลื่อนไหวของเขาจึงหยุดลงอย่างกะทันหัน "แล้วไงล่ะ?" เสิ่นหยินอู้มองไปที่ฉินเย่ที่อยู่ใกล้กันมากอย่างขบขัน เธอใช้นิ้วมือขาวบางของเธอจิ้มไปที่หน้าอกของฉินเย่และน้ำเสียงของเธอก็ดูเหยียดหยามเป็นอย่างยิ่ง “แค่เพราะคุณเสียใจ ฉันเลยต้องตกลงหรอ? ฉินเย่ คุณคิดว่าคุณเป็นใคร คุณมีสิทธิ์อะไรที่อยากไปก็ไป อยากกลับมาก็กลับ? คุณมีสิทธิ์อะไร?” “ผมไม่มี” ฉินเย่ทำได้เพียงขมวดคิ้วและปฏิเสธ “โอ้ะ คุณนี่ขี้ลืมจริงๆนะ แม้แต่เรื่องที่ตอนนั้นคุณเป็นคนพูดเรื่องหย่าขึ้นมาก่อน คุณก็ยังลืมไปเลยด้วยซ้ำ” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉินเย่กัดฟัน "ได้ งั้นก็คิดซะว่ามันเป็นความผิดของผม แล้วคุณล่ะ? ตอนนั้นคุณไม่สนใจหรอกใช่ไหมว่าผมจะพูดถึงเรื่องหย่าหรือไม่พูดน่ะ? ผมพูดถึงมันขึ้นมาเพราะนั่นมันคือความต้องการของคุณ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-07
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 601

    ระยะห่างระหว่างริมฝีปากของพวกเขาอยู่ใกล้มาก ใกล้มากจนหากเสิ่นหยินอู้ขยับนิดเดียวก็จะสัมผัสโดนเขาแล้ว ระยะห่างแค่นี้อันตรายเกินไป เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงยื่นมือออกไปกั้นระหว่างทั้งสอง เงยศีรษะไปด้านหลังเล็กน้อยเพื่อพยายามให้ตัวเธอห่างจากฉินเย่เล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าเมื่อเธอขยับ ฉินเย่ก็จูบเธอทันที "อื้อ" ชั่วพริบตาที่ริมฝีปากของพวกเขาสัมผัสกัน ฉินเย่รู้สึกราวกับว่ากระแสไฟฟ้ากำลังแพร่กระจายไปยังแขนขาของเขา มันรู้สึกชาไปหมด สัมผัสที่นุ่มนวลทำให้เขาใช้มือรัดเอวบางๆของเสิ่นหยินอู้ให้แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว การหายใจก็หนักขึ้นเล็กน้อย และจูบอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น เสิ่นหยินอู้เอื้อมมือไปผลักหน้าอกของเขาอย่างแรง "ปล่อย ปล่อยฉันนะ" ในที่สุดฉินเย่ก็ได้จูบคนที่เขาโหยหาอยู่ทั้งวันทั้งคืน เขาจะปล่อยเธอไปง่ายๆได้อย่างไร? ไม่ต้องพูดถึงว่าจะปล่อยเธอไปเลย ณ ตอนนี้เขาแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะกลืนกินเธอ จนกระทั่งเสิ่นหยินอู้กัดเขาอย่างแรง มันแรงจนฉินเย่ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและผละออกมา กลิ่นเลือดสดๆแผ่ตลบอบอวลไปทั่วริมฝีปากของทั้งสอง แม้ว่าฉินเย่ผละตัวออกไปแล้ว ที่มุมปากเขาก็มีรอยเลือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-07

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 864

    "ดีใจค่ะ" เสิ่นเหมิงเหมิงเอื้อมมือออกไปด้วยความดีใจและคิดจะเข้าไปกอดเธอ แต่นี่เป็นบนเครื่องบิน และทั้งคู่ก็คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถกอดหยินอู้ได้เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงยื่นมือออกมาให้เหมิงเหมิงจับมือเธอเพื่อแสดงความดีใจออกมา “หม่ามี๊คะ แล้วลุงเย่มู่รู้หรือเปล่า?”เขารู้หรือเปล่าเหรอ? มุมปากของเสิ่นหยินอู้โค้งขึ้น สีหน้าของเธออ่อนโยนขึ้น เดี๋ยวพอกลับถึงจีนเขาก็คงจะรู้เองแหละ "เดี๋ยวก็รู้แล้วจ๊ะ" “หม่ามี๊คะ แล้วคุณปู่กับย่าเข้ากับคนง่ายไหมคะ? พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่หรอคะ?” “ใช่แล้ว พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่ พวกเขาอ่อนโยนมาก แล้วก็เข้ากับคนง่าย ไม่ต้องห่วง พวกเขาคือ…” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็พูดว่า "พวกเขาคือปู่กับย่าแท้ๆของลูก" หลังจากได้ยิน ดวงตาของเหมิงเหมิงก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ “ปู่กับย่าเหรอคะ?” "อืม" เสิ่นหยินอู้ลูบหัวของเหมิงเหมิงและมองไปที่เสิ่นซือเหนียน: "เหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิง ลูกเข้าใจสิ่งที่หม่ามี๊พูดไหม? ลุงเย่มู่เป็นพ่อแท้ๆของลูก" เสิ่นซือเหนียนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นการบอกว่าเขาเข้าใจ อย่าง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 863

    อารมณ์ของเธอในเที่ยวบินขากลับแตกต่างไปจากในตอนขามาอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ไม่ได้ถือว่าดีมากนัก สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกว่าโชคดีก็คือการที่ไม่ว่าจะเป็นขามาหรือขากลับ ลูกๆทั้งสองคนของเธอก็ล้วนอยู่ข้างกายเธอ หลังจากที่หลี่มู่ถิงได้รับข้อความจากฉินเย่ เขาก็เล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กๆสองคนให้คุณพ่อคุณแม่ฉินฟังก่อนขึ้นเครื่องบิน หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ฉินรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ตกใจและเงียบไปนาน ในที่สุดพวกเขาก็พูดว่า "เราจะกลับไปเดี๋ยวนี้ เที่ยวบินของพวกคุณคือเที่ยวไหน เดี๋ยวถึงแล้วเราจะไปรับ" หลังจากที่หลี่มู่ถิงบอกเสิ่นหยินอู้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ฉินบอกมา เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เนื่องจากเธอไม่ได้เจอพวกเขามานานแล้ว เมื่อนึกถึงห้าปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เธอจากไป เธอจึงไม่รู้ว่าจะทักทายพวกเขาได้อย่างไรเมื่อต้องพบกันอีกครั้ง หลี่มู่ถิงไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เขาทำได้เพียงคาดเดาจากการดูสีหน้าของเธอเท่านั้น เมื่อเห็นเธอดูไม่ค่อยมีความสุข เขาจึงถามด้วยท่าทีระมัดระวัง: "คุณหนูเสิ่น ประธานฉินบอกผมว่าถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจหรือกังวลอะไร คุณบอกผมได้เสมอ และเรื่องนี้ก็สามารถล้มเลิก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 862

    ขณะที่ทั้งสามคนกำลังคุยกัน พวกเขาก็เดินไปที่ประตู ดังนั้นเสียงของพวกเขาจึงดังลอดผ่านประตูเข้าไปถึงหูของเสิ่นหยินอู้ได้อย่างชัดเจน เสิ่นหยินอู้ชะงักไปชั่วคราว เธอเงยหน้าขึ้นมองฉินเย่ กดเสียงลงแล้วพูดว่า "ฉันต้องออกไปแล้ว ไม่งั้น..." คำพูดของเธอถูกขัดจากการที่ฉินเย่โน้มตัวเข้าไปหาเธออย่างกะทันหันลมหายใจที่ร้อนรุ่มของฉินเย่กระทบเข้ากับใบหน้าของเธอ ออร่าของเขาปกคลุมเธอเธอไว้ และริมฝีปากบางแนบกดลงไปบนมุมปากของเธอ เสียงของเขาแหบห้าว: "ขอจูบอีกที" ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็จูบเธออีกครั้งในทันทีโดยไม่รอให้ได้ทันเธอโต้ตอบอะไรทั้งนั้น "อื้อ" เสิ่นหยินอู้ยังไม่ทันได้ผลักเขาออกไปก็ถูกเขาจูบอีกครั้ง เธอส่งเสียงออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่เธอก็ตระหนักได้ว่าเสียงที่เธอเปล่งออกมาอาจทำให้คนที่อยู่นอกประตูได้ยินเข้า ดังนั้นเธอจึงรีบกลั้นเสียงนั้นไว้ในลำคอ เธอยื่นมือออกไปขวางไว้ระหว่างหน้าอกของฉินเย่ด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาที่ช่างกล้าจริงๆ เขายังทำอะไรเช่นนี้ได้ในขณะที่เด็กๆกับหลี่มู่ถิงมาตามหาเธอ... เนื่องจากเด็กๆอยู่ข้างนอก เสิ่นหยินอู้จึงไม่กล้าแม้แต่จะดิ้นขัดขืนเพราะกลัวว่าพวกเขาจะไ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 861

    “ก่อนออกเดินทาง เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนถามฉันว่าพวกเขาจะได้เจอคุณเมื่อไร”เสิ่นหยินอู้พิงอยู่ในอ้อมแขนของเขาและพูดเบาๆ "อืม" ฉินเย่ตอบแล้วพูดว่า: "พวกเขาน่ะ ผมว่าจะไม่ไปเจอ" เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นจากอ้อมแขนของเขาด้วยท่าทางสับสน: "ทำไมล่ะ? คุณมาหาฉันแล้ว แล้วทำไมไม่ไปเจอพวกเขาด้วยเลยล่ะ?" ฉินเย่ก้มหน้าลง มองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง แล้วสัมผัสริมฝีปากสีแดงของเธอเบาๆ "ไว้รอผมกลับไปค่อยเจอ แต่ผมหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น... ในตอนที่เจอกันอีกครั้ง พวกเขาจะเปลี่ยนคำเรียกผม โอเคไหม?” เสิ่นหยินอู้กัดริมฝีปากล่างและไม่ตอบอะไร “ยังไม่ยอมอีกเหรอ?” เขาสัมผัสหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าวและต่ำ “คุณให้ผมจูบมานานขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังไม่ยอมอีกล่ะ?” เดิมทีเขารู้สึกหึงหวงเล็กน้อยที่รู้สึกว่าเขายังต้องแข่งกับโม่ไป๋อยู่ แต่หลังจากการจูบครั้งนี้ ความหึงหวงภายในใจของฉินเย่ก็หายไปในทันที เพราะเขาสัมผัสได้ถึงการตอบสนองและความไว้วางใจของเธอ ตอนนี้เพียงแค่ต้องรอให้เขาจัดการเรื่องทางนี้ให้เสร็จ และหลังจากที่กลับไป พวกเขาสี่คนก็สามารถอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 860

    แต่ดูเหมือนว่าคนๆนั้นจะสัมผัสได้ถึงเจตนาของเธอ และก่อนที่เธอจะกรีดร้องออกมา เขาก็เอื้อมมือออกไปปิดปากของเธอไว้ "อื้อ" ดังนั้นเสียงร้องของเสิ่นหยินอู้จึงกลายเป็นเสียงที่อุดอู้ขึ้นมาทันที ภายในห้องไม่ได้เปิดไฟ มีแต่ความมืดมิด บวกกับหลังจากที่เธอเข้ามา ประตูก็ถูกปิดลง เธอมองเห็นเพียงร่างสูงร่างหนึ่งตรงหน้าเธอผ่านแสงสลัวๆที่ส่องมาจากด้านนอกหน้าต่าง เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่มือและเท้าของเธอถูกพันธนาการเอาไว้ และเธอไม่สามารถขยับได้ จนกระทั่งบุคคลนั้นปล่อยมือของเขาที่ปิดปากของเธอไว้เสิ่นหยินอู้คิดจะใช้โอกาสนี้ในการร้องออกมา แต่คนตรงหน้าเธอก็รวดเร็วกว่า เขาโน้มตัวลงมาและจูบเธอ ลมหายใจอุ่นๆที่หนักหน่วงกระทบเข้ากับใบหน้าของเสิ่นหยินอู้ และในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็รับรู้ได้ถึงออร่าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนในขณะนี้ นี่มัน…… ความประหลาดใจแวบขึ้นมาในหัวใจของเธอ และก่อนที่เธอจะทันได้ตอบสนองอะไรอื่น เธอก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายดันฟันของเธอให้แยกจากกัน ทำให้จูบนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะที่พวกเขานัวเนียกัน ลมหายใจของพวกเขาล้วนมีแต่กลิ่นของทั้งคู่ เสิ่นหยินอู้ยังได้กลิ่นบุหรี่ที

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 859

    ดังนั้นการทานอาหารมื้อนี้ก็เป็นไปตามที่เสิ่นหยินอู้คาดไว้ เมื่อพวกเขากินเกือบเสร็จแล้ว แล้วก็จนอาหารเย็นชืดหมดแล้ว ฉินเย่ก็ยังไม่มาปรากฏให้เห็น ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะต้องเดินทางไปสนามบิน เสิ่นหยินอู้พาเด็กน้อยทั้งสองคนขึ้นไปชั้นบน หลังจากเข้าไปในห้องแล้ว เหมิงเหมิงก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: "หม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่อยู่ไหนล่ะคะ? เขาจะกลับมาเมื่อไร?" เสิ่นหยินอู้ตอบคำถามของเธอแบบเดียวกันกับที่หลี่มู่ถิงตอบเธอ “หม่ามี๊ก็เหมือนลุงหลี่มู่ถิงจ๊ะ ยังไม่รู้เลย เขาไม่ได้บอกหม่ามี๊ว่าเขาจะไปทำอะไร แน่นอนว่าหม่ามี๊ไม่รู้หรอกว่าเขาจะกลับมาเมื่อไร” หลังจากได้ยิน เหมิงเหมิงก็ร้อง อ่า ออกมาเบาๆ เธอขมวดคิ้วราวกับรู้สึกเป็นไม่สบายใจเพราะเรื่องนี้ “ถ้างั้นหม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่คงจะไม่ได้จะไม่กลับมาแม้แต่ตอนเราไปสนามบินใช่ไหมคะ? แปลว่าวันนี้เราก็จะไม่ได้เจอลุงเย่มู่แล้วหรอคะ?” เนื่องจากเธอไม่ต้องการให้เด็กๆทั้งสองคนมีความหวังมากเกินไป เสิ่นหยินอู้จึงพูดว่า: "อืม ก็อาจจะเป็นแบบนี้ ลุงเย่มู่มีเรื่องหลายอย่างที่ต้องทำ เดี๋ยวเขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาจะกลับไปหาเราที่จีน” หากพู

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 858

    แม้ว่าในที่สุดเขาก็พบเธอ แต่ใครจะกล้ารับประกันกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นได้? "พอได้แล้ว" เมื่อเห็นเธอกัดริมฝีปากล่างและคิดจะพูดอะไรอื่นอีก ฉินเย่ก็เอามือใหญ่โอบไปที่เอวบางของเธอ "ไม่ต้องคิดแล้ว ในเมื่อผมเลือกที่จะอยู่ นั่นก็หมายความว่าผมมั่นใจ" “แต่... เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรทำตั้งแต่แรกนะ” “นั่วนั่ว” ฉินเย่เรียกชื่อเธอด้วยเสียงแผ่วเบา “การจะทำอะไรสักอย่างน่ะ ไม่มีคำว่าควรหรือไม่ควร มีแต่เต็มหรือไม่เต็มใจเท่านั้นแหละ” “ถ้าคุณรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ผมจะอยู่ที่นี่จริงๆ งั้นหลังจากที่ผมกลับไปที่จีนแล้วก็ลองคิดเรื่องที่จะเปลี่ยนสถานะให้ผมดูดีกว่าไหม?” เสิ่นหยินอู้เข้าใจในทันทีว่าเขาหมายถึงเรื่องการเรียกชื่อ เขาต้องการให้เด็กทั้งสองหยุดเรียกเขาว่าลุงเย่มู่และเรียกเขาว่าพ่อแทน หรือจะบอกว่า ที่เขาทำมามากขนาดนั้นก็เพียงเพื่อความปรารถนาเล็กๆน้อยๆเช่นนี้งั้นหรอ? เมื่อเธอคิดได้เช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็นิ่งไป แล้วพูดว่า "คุณจะไม่บอกพวกเขางั้นหรอ?" ริมฝีปากของฉินเย่โค้งขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ได้ตอบกลับคำพูดของเธอ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดเบาๆว่า: "ครั้งนี้ ผมจะไม่ไปเจอพวกเข

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 857

    คำพูดทางจิตวิทยาเช่นนี้... ถ้าเขาบอกว่าเขาชอบลุงโม่ไป๋มากกว่า ถึงตอนนั้น... เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นซือเหนียนก็พูดว่า: "ลุงโม่ไป๋อยู่กับพวกเรามานานกว่า" เมื่อได้ยิน ฉินเย่ก็กลั้นหายใจ "ถ้างั้น……" “แต่ลุงเย่มู่มาดูไลฟ์สดของเราบ่อยๆแล้วก็ให้รางวัลเราตลอดเลยด้วย” คำพูดประโยคหลังทำให้หัวใจที่กำลังจมดิ่งลงไปของฉินเย่ลอยกลับขึ้นมาอีกครั้ง เดิมทีเขาคิดว่าตามความคิดของซือเหนียน เขาคงจะหมดโอกาสแล้ว แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าคำพูดของซือเหนียนจะเปลี่ยนไป ซึ่งมันไม่ต่างกับเป็นการทำให้หัวใจของฉินเย่ลุกเป็นไฟ "แล้วไงต่อ?" ฉินเย่ยังคงรู้สึกประหม่ามากในขณะที่เขาถามคำถามนี้ออกมา เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะสนใจความคิดของเด็กคนหนึ่งมากขนาดนี้ เพราะกลัวว่าเด็กคนนี้จะไม่เลือกเขาแต่ไปเลือกคนอื่นแทน "ก็……"เสิ่นซือเหนียนจงใจพูดเสียงยาว เมื่อเห็นว่าการหายใจของฉินเย่ดูเหมือนจะติดๆขัดๆขึ้นมา เขาก็คิดว่ามันค่อนข้างน่าขันเล็กน้อย เขาจงใจเอียงศีรษะแล้วพูดว่า: "ลุงเย่มู่กับลุงโม่ไป๋เสมอกันครับ" เสมอกัน? ฉินเย่ตกตะลึง “เสมอกันงั้นเหรอ?” “ลุงเย่มู่ หรือว่าลุงคิดว่าลุงจะแพ้ลุงโม่ไป๋เหรอครั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 856

    “ซือเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของซือเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เขาถามว่ามีคุณสมบัติมากพอหรือไม่ ไม่ใช่ยินยอมหรือไม่ แม้ว่าเสิ่นซือเหนียนจะยังเด็ก แต่ความรู้ที่เขาได้เรียนมาก็มากมายพอสมควร ดังนั้นเขาจึงเข้าใจความหมายของคำพูดที่ฉินเย่พูดได้อย่างรวดเร็ว เขาตกตะลึงอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า "เอ่อ...ต้องดูว่าหม่ามี๊จะยอมหรือไม่ยอมครับ" “ลุงเย่มู่หมายความว่า ถ้าไม่เกี่ยวกับหม่ามี๊ เอาแค่ความเห็นของเหนียนเหนียนเองที่เป็นความคิดที่จากใจจริงที่สุด เหนียนเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของเหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เสิ่นซือเหนียน: "..." "ไม่ต้องกลัว" มือใหญ่ของฉินเย่วางลงบนไหล่ของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: "แค่พูดความจริงก็พอ" สิ่งที่ซือเหนียนต้องการจะพูดอาจทำให้ฉินเย่ไม่พอใจจริงๆ แม้ว่าลุงเย่มู่จะทำอะไรให้พวกเขามากมายในช่วงที่ผ่านมานี้ บวกกับที่ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาดูพวกเขาในห้องไลฟ์สดเสมอ ความยิ่งใหญ่ของชื่อ 'ลุงเย่มู่เฉิน' ยังคงทรงพลังมากสำหรับเด็กน้อยสองคน ตัวอย่างเช่น คนแปลกหน้าคนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นพ่อแท้ๆของพวกเขา แต่หากไม่มีฉา

DMCA.com Protection Status