แชร์

บทที่ 563

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
แม้ว่าไม่อยากจะยอมรับ แต่มันก็บังเอิญเกินไปหน่อนยไหม?

หากสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสองวันที่ผ่านมาเรียกว่าบังเอิญเกินไป แต่การที่ได้เจอกันในสนามบินที่ต่างประเทศแล้วก็บนเครื่องบินมันก็เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อเหลือเกิน

นี่คือเหตุผลที่ทำไมเขาถึงอยากนัดเจอเธองั้นเหรอ?

แต่...ทำไมเขาถึงไม่ยอมมาปรากฏตัวล่ะ?

"หม่ามี๊ มีอะไรหรือเปล่าคะ?"

เมื่อเห็นว่าเธอดูเหมือนจะจมอยู่ในภวังค์ของตัวเอง เสิ่นเหมิงเหมิงก็ยื่นมือออกมากอดเธอ

“หม่ามี๊ กังวลหรอคะว่าลุงเย่มู่จะเป็นคนไม่ดี? หม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่ไม่ใช่คนไม่ดีอะไรหรอกนะคะ”

คำพูดที่นุ่มนวลของเธอทำให้เสิ่นหยินอู้มองเธออย่างช่วยไม่ได้และยิ้มออกมา

“ถึงเขาจะเป็นคนไม่ดี แต่เขาก็คงจะไม่เอาคำว่าคนไม่ดีมาแปะไว้ที่หน้าตัวเองหรอกจ๊ะ เขาคงไม่บอกว่าเขาเป็นคนไม่ดีหรอก”

"เอ่อ"

เสิ่นเหมิงเหมิงแสดงสีหน้าสับสน ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เข้าใจ

ท่าทางที่ดูสับสนของเธอดูน่ารักมากในสายตาของเสิ่นหยินอู้ เธอเอื้อมมือออกไปแตะปลายจมูกของเหมิงเหมิง "เด็กโง่ตัวน้อยของแม่ ลุงเย่มู่คุยอะไรกับลูกบ้างตอนที่ลูกเจอเขาบนเครื่องบินก่อนหน้านี้"

"หนูลืมไปแล้วค่ะ!"

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 564

    “ก็ได้ค่ะ ขอบคุณลุงโม่ไป๋นะคะ”เสิ่นหยินอู้เดินจับมือเสิ่นซือเหนียนเข้าไปหาเขา โม่ไป๋หยิบกล่องเล็กๆอีกกล่องออกมาแล้วส่งให้เสิ่นซือเหนียนน “นี่ครับ ของขวัญของเหนียนเหนียน” ไม่รู้ว่าเสิ่นซือเหนียนคิดอะไรอยู่ เขาเม้มริมฝีปากเล็กๆ และไม่ได้เอื้อมมือออกไปรับมัน เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยื่นมือออกไป โม่ไป๋จึงเรียกเขา "เหนียนเหนียน?" ดังนั้นเสิ่นซือเหนียนจึงมองไปที่เสิ่นหยินอู้ เสิ่นหยินอู้ยิ้ม "ขอบคุณลุงโม่ไป๋สิลูก" คำพูดที่ไม่น่าฟังเหล่านั้นไม่ควรพูดต่อหน้าเด็กๆ ด้วยคำพูดของเสิ่นหยินอู้ เสิ่นซือเหนียนจึงกล้ารับของขวัญจากโม่ไป๋และขอบคุณเขา เสิ่นหยินอู้มองไปที่เสิ่นซือเหนียน เด็กคนนี้หัวไวเกินไป เขาถึงขั้นสามารถรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของเธองั้นเหรอ? เมื่อเห็นว่าในที่สุดเขาก็ยอมรับของขวัญ ใบหน้าของโม่ไป๋ก็กลับมายิ้มอย่างปลื้มปิติอีกครั้ง เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะของเสิ่นซือเหนียนแล้วพูดว่า "ไปกันเถอะ เดี๋ยวลุงโม่ไป๋ไปส่ง" เขามาถึงที่นี่ เสิ่นหยินอู้ก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่ม และพาลูกๆขึ้นรถไปพร้อมๆกับเธอ แต่หลังจากขึ้นรถ เธอก็เงียบมาก เธอเช็คโทรศัพท์ของเธออยู่ตลอด และไม่ได้เข้าไปแทรกแซงใ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 565

    เด็กๆทั้งสองคนเข้าไปในบ้านอย่างว่านอนสอนง่าย เสิ่นหยินอู้ปิดประตู หลังจากที่เธอยืนตั้งหลักได้ ด้านหลังเธอเธอเงียบสงัด หลังจากนั้นไม่นาน เสิ่นหยินอู้ก็หันกลับมาและยิ้มให้โม่ไป๋ “นายยังไม่กินข้าวเย็นเหรอ? ฉันจำได้ว่ามีร้านอาหารใกล้ๆนี้ เราไปกินกันไหม?” ไม่รู้ว่าโม่ไป๋ไม่ได้รับผลกระทบจากเธอหรือเป็นอะไร แต่หลังจากได้ยินข้อเสนอของเธอ เขาก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มจางๆบนริมฝีปากของเขา "ไปกันเถอะ" ทั้งสองก็ลงไปชั้นล่างด้วยกัน หลังจากที่เด็กน้อยตัวเล็กทั้งสองคนเข้าไปในห้อง พวกเขาก็เงี่ยหูอยู่ที่ข้างประตูโดยต้องการจะฟังว่าที่ด้านนอกคุยอะไรกัน ตัวกันเสียงของประตูนั้นดีมากจนไม่ว่าพวกเขาจะเงี่ยหูฟังแบบใด พวกเขาก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย หลังจากนั้นไม่นาน เสิ่นเหมิงเหมิงก็หันไปมองเสิ่นซือเหนียนซึ่งมีใบหน้าจริงจัง “พี่คะ หม่ามี๊กับลุงโม่ไป๋ทะเลาะกันหรอ?” คำว่าทะเลาะกันทำให้เสิ่นซือเหนียนขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า: "พี่ไม่รู้ แต่เราอย่าไปเดาซี้ซั้วเลย" “พี่คะ ถ้าหม่ามี๊กับลุงโม่ไป๋ทะเลาะกัน งั้นวันหลังเรายังจะต้องสนใจลุงโม่ไป๋อยู่อีกไหม?” หลังจากได้ยิน เสิ่นซือเหนียนก็คิดอย่างจริงจัง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 566

    โม่ไป๋ก้มตาลง“ที่เธอไม่ให้ฉันไปดูรถกับเธอตอนเย็น ก็เพราะว่าเธออยากพูดคำพูดพวกนี้กับฉันน่ะเหรอ?”“ไม่ใช่ แค่จู่ๆ ก็ไม่อยากให้นายไปด้วยเฉยๆ”เมื่อพูดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้พลันหยุดชะงัก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะนายไปหน้าโรงเรียนของเด็กๆ ฉันก็ไม่มีทางติดรถนายกลับไปด้วยหรอก ตอนนี้ก็คงไม่มานั่งคุยกับนายตรงนี้ด้วย ฉัน…รำคาญแล้ว”ได้ยินดังนั้น ใบหน้าที่อบอุ่นเสมอมาของโม่ไป๋เผยให้เห็นถึงความรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย“รำคาญแล้ว?”“ใช่ ฉันไม่ชอบนาย ก่อนหน้านี้ฉันก็บอกนายชัดเจนแล้ว แต่นายก็คอยรังควานฉัน แล้วฉันก็ต้องเสียเวลามารับมือกับนายทุกวันมันทำให้ฉันรู้สึกรำคาญมาก โดยเฉพาะตอนกลับมาในประเทศ ฉันไม่อยากรับมือกับนายอีกแล้ว เพราะฉะนั้นต่อไปนายหยุดเสียเวลากับฉัน แล้วไปหาคนอื่นได้ไหม?”แววตาของโม่ไป๋มีแววเย็นชาวาบผ่าน เหมือนว่าเขาจะไม่กล้าเชื่อในสิ่งที่ตนได้ยินเลยถึงขนาดมีอีกเสียงหนึ่งแว่วเข้ามาในหัวซ้อนทับกับเสียงของเสิ่นหยินอู้“แกรู้ตัวไหมว่าแกน่ารำคาญมากแค่ไหน? โลกของแกมีแค่ฉันคนเดียวหรือไง? ทำไมแกถึงต้องมารังควานฉันตลอดด้วย? แกไปรังควานพ่อแกสิ? ไอ้เด็กไร้ประโยชน์ แกจะม

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 567

    เมื่อบริกรมองเห็นสายตาเป็นห่วงของโม่ไป๋หลังจากที่ถูกโม่ไป๋พยุงขึ้นแล้ว ก็รู้สึกสับสนขึ้นมาคนอบอุ่นตรงหน้า เป็นคนเดียวกันกับคนอารมณ์ร้ายเมื่อครู่นี้จริงเหรอ?“ฉัน…ฉันไม่เป็นไรค่ะ”ทว่าชายหนุ่มกลับไม่ปล่อยเธอ เพียงแค่พูดขออนุญาตแล้วถกแขนเสื้อของเธอขึ้นทันทีที่ถกแขนเสื้อขึ้น โม่ไป๋ก็เห็นว่าบนแขนของหญิงสาวแดงเถือกเป็นแผ่นใหญ่สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ไปล้างน้ำเย็นลดอุณหภูมิก่อนเถอะครับ”“ค่ะ…”หลังจากนั้น โม่ไป๋ก็พาเธอไปด้านหลังของร้านอาหารด้วยตัวเอง ขณะที่บริกรสาวกำลังล้างน้ำเย็นอยู่ โม่ไป๋ก็ยินพิงผนังรออยู่ข้างๆความเจ็บจากการถูกน้ำร้อนลวกค่อยๆ ลดลงตามสายน้ำเย็น เนื่องจากเป็นช่วงฤดูหนาว เมื่อเธอล้างด้วยน้ำเย็นเสร็จ แขนของเธอก็ชาจนแทบไม่มีความรู้สึกเธอเดินออกไป โม่ไป๋ก็ยืนขวางตรงหน้าเธอทันที“ขอโทษจริงๆ นะครับ ให้ผมพาไปโรงพยาบาลเถอะ”“ไม่…ไม่เป็นไรค่ะ แค่แผลน้ำร้อนลวกธรรมดาๆ ล้างน้ำเย็น เดี๋ยวก็หายค่ะ”“ไปเถอะครับ นี่เป็นความรับผิดชอบของผม”เผชิญหน้ากับใบหน้าอบอุ่นและหล่อเหลาของชายหนุ่ม ทำให้บริกรสาวไม่อาจปฏิเสธได้-เสิ่นหยินอู้กลับไปถึงบ้าน แม้ว่าในใจจ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 568

    ดูจากสถานการณ์เบื้องต้นแล้ว รู้สึกว่าการคาดเดาอันแรกดูเป็นไปได้มากกว่าถ้าเป็นอันหลัง ตอนนี้เป็นช่วงพักแล้ว เขาจะไม่มีแม้แต่เวลาเปิดอ่านข้อความได้ยังไง?คิดไปคิดมา สุดท้ายเสิ่นหยินอู้ก็ตัดสินใจพักผ่อนวันรุ่งขึ้นเสิ่นหยินอู้พูดเรื่องเช่าบ้านให้อู๋อี้ไห่ฟัง เพราะเขาเป็นเจ้าถิ่น ดังนั้นก็เลยอยากถามเขาสักหน่อยว่ามีบ้านเช่าที่รู้จักแนะนำไหมอู๋อี้ไห่ได้ยินนดังนั้น “คุณจะเช่าบ้านเหรอ? กะทันหันขนาดนี้เลย? ตามหลักแล้วคุณต้องจัดการเสร็จก่อนที่จะมาเมืองเจียงเฉิงสิ”เสิ่นหยินอู้ไม่คิดจะบอกเรื่องส่วนตัวให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ดังนั้นจึงยิ้มจาๆ“ฉันมีปัญหาของฉันน่ะ นายแค่แจ้งฉันก็พอ”อู๋อี้ไห่ที่ใช้ชีวิตเป็นพวกหัวไวตั้งนานแล้วได้ยินดังนั้น ก็เลิกคิ้วพูดว่า “คงไม่ใช่เพราะว่าบ้านที่คุณอยู่ตอนนี้ คุณโม่ไป๋คนนั้นเป็นคนจัดการให้หรอกใช่ไหม? ที่ย้ายออกมากะทันหันแบบนี้ ปฏิเสธแล้วเหรอ?”เสิ่นหยินอู้ “…”คนคนนี้ทำไมถึงได้หัวไวขนาดนี้นะ?“ผู้จัดการอู๋ ถ้าคุณเอาความขี้เผือกมาใช้ในการทำงานสักหน่อย ฉันว่าบริษัทของเราอาจจะพัฒนาขึ้นอีกขั้นหนึ่งก็ได้นะ”“โธ่ ไม่กระทบกันหรอกครับ ทำแค่งานน่ะ น่าเบื่อจะตาย แ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 569

    เมื่อนึกภาพเพราะเฉาเหย้าจู่ ทำให้เด็กสองคนมองภาพตัวเองไม่ดีแล้ว คิ้วของฉินเย่ก็ขมวดแน่นเขาทุ่มแรงมากขนาดนี้ ก็เพราะหวังว่าเสิ่นซือเหนียนจะลดกำแพงที่มีต่อเขาลง แล้วใช้โอกาสนี้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองด้วยแต่หากผลสุดท้ายเป็นไปในทางตรงกันข้ามกับที่ตนคิดไว้ แล้วเขาจะหาคนอื่นมาทำไม?เมื่อคิดแบบนี้แล้ว สายตาของฉินเย่ที่มองเฉาเหย้าจู่ก็ยิ่งดุดันขึ้นเฉาเหย้าจู่นั่งอยู่กับที่ รู้สึกเสียวสันหลังวาบบอกไม่ถูกน่ากลัวมาก อยากกลับบ้านหลี่มู่ถิงที่นั่งอยู่ข้างหน้าทนมองต่อไปไม่ได้จึงพูดขึ้นก่อนว่า “ประธานฉิน คุณอย่าร้อนใจไปสิครับ เฉาเหย้าจู่เป็นแค่เด็กห้าขวบเอง คุณทำหน้าขรึมแบบนี้ เขาต้องกลัวคุณอยู่แล้วสิ”ได้ยินดังนั้น ฉินเย่พลันหยุดชะงัก “งั้นเหรอ?”หลี่มู่ถิงถามกลับ “แล้วไม่ใช่เหรอครับ? ถ้าคุณใช้ท่าทีแบบนี้กับเหนียนเหนียนและเหมิงเหมิง คุณคิดว่าพวกเขาจะกลัวคุณเหมือนที่เฉาเหย้าจู่กลัวคุณไหม?”คำพูดของหลี่มู่ถิง ทำให้ฉินเย่ตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิด“แล้ว…จะทำยังไง?”“ง่ายมากครับ” หลี่มู่ถิงพูดง่ายราวกับกินข้าวดื่มน้ำ “ก็แค่ทำเหมือนที่ทำกับเหมิงเหมิงและเหนียนเหนียนไงครับ”ฉินเย่ห

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 570

    เสิ่นเหมิงเหมิงรับลูกอมมาอย่างรวดเร็วฉินเย่ยื่นให้กับเสิ่นซือเหนียนเม็ดหนึ่ง แต่เสิ่นซือเหนียนยับยั้งชั่งใจมากกว่า หลังจากรับมาก็ไม่ได้แกะกินทันทีกลับกัน เขามองไปยังเฉาเหย้าจู่ที่ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ ฉินเย่อย่างกะทันหันเฉาเหย้าจู่เองก็มองเด็กสองคนที่ดูมีเสน่ห์มากตรงหน้า ถึงแม้จะเพิ่งห้าขวบ แต่ความรู้สึกบางอย่างก็ก่อเกิดขึ้นแล้วดูเหมือนว่าเด็กสองคนตรงนี้จะจะ ‘มีค่า’ มากกว่าเขามากเขาก้มหน้าก้มตา แล้วขยับไปด้านหลังฉินเย่โดยอัตโนมัติ“เอ๋??”การเคลื่อนไหวของเฉาเหย้าจู่ ทำให้เสิ่นเหมิงเหมิงสังเกตเห็น “คุณลุงเย่มู่คะ เขาเป็นลูกของคุณลุงเหรอคะ?”ฉินเย่ “…”เขาเม้มริมฝีปากบาง แล้วปฏิเสธอย่างช่วยไม่ได้ “ถือว่าใช่มั้ง แต่ว่าไม่ใช่ลูกของลุงหรอก เป็นลูกของญาติน่ะ”ได้ยินดังนั้น ดวงตาของเสิ่นเหมิงเหมิงก็เบิกตากลมโตกว้าง “เขาคือเด็กที่คุณลุงเคยบอกว่าเรียนอยู่ที่นี่เหรอคะ?”“อื้ม พ่อแม่ของเขายุ่งน่ะ ก็เลยขอให้ลุงช่วยดูโรงเรียนให้”ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ฉินเย่ไม่ใช่เรื่องโกหกหลอกลวงทั้งเพแต่เพราะหมดหนทาง เขาถึงได้ทำแบบนี้แต่เมื่อเห็นดวงตาที่ไร้เดียงสาและสดใสของเสิ่นเหมิงเหมิงแล้ว ฉินเย่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 571

    “เพราะฉะนั้น พี่แค่กลัวว่าจะฟุ่มเฟือย ไม่ใช่เพราะชอบกินแป้งใช่ไหม?”สีหน้าของเสิ่นซือเหนียนดูเจ็บปวดเล็กน้อย ใครจะชอบกินแป้งกัน?“อุ๊บ”“ขอโทษค่ะพี่ ต่อไปเดี๋ยวเหมิงเหมิงกินแป้งเอง”อาจเป็นเพราะนึกถึงภาพที่ตัวเองต้องกินแป้งแฮมเบอร์เกอร์ บนใบหน้าน้อยๆ ของเสิ่นเหมิงเหมิงจึงย่นเข้าด้วยกัน อย่าว่าแต่แป้งแฮมเบอร์เกอร์เลย ความจริงแม้แต่ผักสดในแฮมเบอร์เกอร์ เธอก็อยากแยกมันออกด้วยซ้ำแต่ว่าพี่จะช่วยเธอกินทุกครั้ง เธอก็เลยคิดว่าพี่ชอบกิน ก็เลยกินมันเด็กทั้งสองคนกำลังพูดคุยเรื่องนี้กันอยู่ ฉินเย่ตั้งใจฟังอยู่ข้างๆ จนสุดท้ายหลุดหัวเราะออกมา“ถ้าไม่อยากกินทั้งสองคน งั้นคุณลุงเย่มู่ช่วยกินดีไหม?”ถึงแม้เขาเองก็ไม่ชอบกินของพวกนั้นก็ตามแฮมเบอร์เกอร์?สำหรับฉินเย่แล้ว ของแบบนั้นก็เป็นแค่อาหารขยะเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าเด็กส่วนใหญ่ และวัยรุ่นจะชอบกินกันแน่นอนว่า ถ้าหากหลี่มู่ถิงที่อยู่ข้างๆ สามารถอ่านใจเขาได้ล่ะก็ ต้องพูดกับเขาด้วยสีหน้าดูถูกว่า “ประธานฉิน แล้วคุณไม่ใช่วัยรุ่นเหรอครับ?” แน่นอนเด็กทั้งสองคนได้ยินดังนั้น ต่างก็หันไปมองเขาพร้อมกันเสิ่นซือเหนียนยังคงมีท่าทีระมัดระวังอยู่เห

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status