แชร์

บทที่ 440

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
เสิ่นหยินอู้ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาในทันที

แต่ถึงยังไงพวกเขาก็เป็นอาจารย์และลูกศิษย์กัน มีอะไรก็ต้องปรึกษากันอยู่แล้ว ซึ่งมันก็ดูปกติ

เธอจึงพูดอะไรไม่ออก

"ขอโทษจริงๆครับ คุณเสิ่น ผมไม่รู้ว่าจะมีผลกระทบถึงคุณ แต่คุณไม่ต้องกังวลนะครับ อาจารย์ของผมไม่ใช่คนที่ชอบพูดเรื่องไม่ดีหรอก"

ได้ยินดังนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ใจเย็นลงนิดหน่อย

"ขอบคุณค่ะ"

"คุณเสิ่น ทรัพย์สินพวกคุณต้องการให้หาคนที่มีความเชี่ยวชาญมาจัดการให้ไหมครับ?"

"ไม่ค่ะ" เสิ่นหยินอู้ส่ายหัว "ทนายซุน พรุ่งนี้คุณมีเวลาว่างไหมคะ? ฉันคิดว่าเราต้องเจอกันหน่อย"

"พรุ่งนี้เที่ยงครับ"

"ได้ค่ะ"

วันรุ่งขึ้นตอนเที่ยง

ทั้งสองนัดเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

แม้ว่าในตอนที่ทำบัญชีทรัพย์สิน ซุนปินอวี่จะได้เห็นเสิ่นหยินอู้จากในเอกสารแล้ว แต่พอได้เจอเธอตัวจริง ซุนปินอวี่ก็ยังคงอดที่จะตะลึงไม่ได้

เสิ่นหยินอู้เดินมาทักทายเขาตรงหน้า แต่เขาอึ้งไปนานก่อนจะรู้ตัว

"สวัสดีครับ คุณเสิ่น"

"สวัสดีค่ะ ทนายซุน"

ทั้งสองคนทักทายกันพอประมาณ หลังจากนั้นอาหารก็มาเสิร์ฟ ซุนปินอวี่หิวมาก แต่คนที่นั่งตรงข้ามคือสาวสวยที่โดดเด่นขนาดนี้ เขาไม่กล้ากินอาหารต่อหน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Duendara Hengnirun
น่าจะได้อ่านยาวๆหน่อย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 441

    ประโยคหลังทำให้เสิ่นหยินอู้รู้สึกประหลาดใจ"คุณรู้จักฉันเหรอคะ?"
คนคนนั้นยิ้มและพยักหน้า"แน่นอนครับ ถึงจะผ่านมาแล้วห้าปี แล้วคุณก็สวยขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ผมก็ยังจำคุณได้ตั้งแต่แรกเห็น ตอนที่คุณทำงานที่บริษัทฉินแล้วมาคุยงานที่บริษัทเรา ตอนนั้นผมยังเป็นแค่พนักงานตัวเล็กๆอยู่เลย"
ได้ยินแบบนั้น เสิ่นหยินอู้ก็เข้าใจ"ก็หมายความว่าคุณใช้เวลาห้าปี เลื่อนขึ้นเป็นผู้บริหารหรอคะ?""ใช่ครับ""สุดยอดเลย"ความสามารถนี้ เสิ่นหยินอู้ค่อนข้างชอบ
แต่ตอนนี้ที่ต้องแก้ไขยังคงเป็นปัญหาของบริษัท
ผู้บริหารที่เสิ่นหยินอู้จ้างมาชื่ออู๋อี้ไห่ ในตอนนั้นเขาก็ให้คำแนะนำกับเธอทันที"จริงๆ แล้ว ถ้าคุณเสิ่นอยากจะแก้ปัญหานี้ มันง่ายมากครับ"ได้ยินแบบนั้น เสิ่นหยินอู้ก็เหลือบมองเขา "ลองพูดมาเลยค่ะ?""ดึงการลงทุน" อู๋อี้ไห่พูด "ถ้าเราสามารถดึงการลงทุนจากบริษัทใหญ่ได้ เราก็จะมีคนหนุนหลัง การดำเนินงานของบริษัทต่อไปก็ไม่ต้องกังวลแล้วครับ"
เรื่องดึงการลงทุน เสิ่นหยินอู้ไม่ใช่ว่าไม่เคยคิดมาก่อน
แต่ตอนนี้......"คุณหมายความว่า ให้ฉันดึงการลงทุนในสภาพที่บริษัทมีคนอยู่แค่ไม่กี่คนอย่างตอนนี้หรอคะ?"อู๋อี้ไห

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 442

    หลังจากส่งข้อความนี้ไป อีกฝ่ายก็ไม่ได้ตอบกลับมาเสิ่นหยินอู้ถือโทรศัพท์ไว้ สีหน้าของเธอเริ่มเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ
เธอพูดตรงเกินไปหรือเปล่า?แต่ถ้าพูดอ้อมเกินไป เสิ่นหยินอู้ก็กลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดเป็นอย่างอื่น บางทีอาจเป็นเพราะคำเตือนของอู๋อี้ไห่เกี่ยวกับผู้ชายเจ้าชู้ที่ทำให้เธอต้องระมัดระวังตัว
หลังจากผ่านไปนานห้านาที ในที่สุดอีกฝ่ายก็ตอบกลับมา"สนามม้าเขตตะวันออก ตอนนี้มาได้ไหม?"
สนามม้า?แม้ว่าจะไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะกับการคุยงาน แต่นี่ก็เป็นโอกาส!
เสิ่นหยินอู้ไม่ลังเลอีกต่อไป คว้ากระเป๋าและผ้าพันคอของเธอแล้วเดินออกไปทันทีข้างนอกลมแรง ตอนลงมาจากตึกเสิ่นหยินอู้ก็พันผ้าพันคอทันที จากนั้นก็เรียกรถแท็กซี่
สนามม้าเขตตะวันออก
ภายในสนามม้ามีฝุ่นและทรายลอยฟุ้ง ม้าสีดำตัวสูงใหญ่กำลังวิ่งอยู่ในสนาม ขณะที่บนหลังม้ามีชายหนุ่มรูปร่างสูงเพรียว ใบหน้าเย็นชาและหล่อเหลาชายคนนั้นมีสีหน้าเคร่งขรึม มือที่จับสายบังเหียนแข็งแรงทรงพลัง ถึงจะอยู่ไกลก็ยังสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นและความดุดันที่แผ่ออกมาจากตัวเขา
ตั้งแต่เขาเข้ามาในสนาม คนอื่นๆ ในสนามม้าต่างรีบขี่ม้าออกไป กลัวว่าจะโดนความด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 443

    รถจอดที่สนามม้าเขตตะวันออก เมื่อเสิ่นหยินอู้ลงจากรถ เธอก็เห็นฟู่ถิงสือยืนอยู่ที่ทางเข้าสนามม้า
เขาสวมชุดขี่ม้าที่ดูทะมัดทะแมง ทั้งตัวดูสูงและหล่อเหลา พอเห็นเธอเขาก็ยิ้มออกมา"คุณเสิ่น"
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าเขาจะออกมารอเธอด้วยซ้ำ เธอรีบวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปหาพร้อมกระเป๋าของตัวเอง"ประธานฟู่ ทำไมคุณถึงออกมาล่ะคะ?""เฮ้อ คุณเสิ่น คุณนี่ก็เรียกผมทั้งประธานฟู่ ทั้งคุณ ๆ ผมดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ?"
ยังไม่ทันที่เสิ่นหยินอู้จะตอบ ฟู่ถิงสือก็ยกมือขึ้นขัดเธอก่อนจะพูดต่อ "ถ้าคุณไม่ถือสา เรียกผมว่าถิงสือก็พอ"เสิ่นหยินอู้: "......"
เธอจะกล้าเหรอ?
อีกอย่าง ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น เธอจะเรียกเขาแบบนั้นได้ยังไง?"ประธานฟู่ แบบนั้นคงไม่ดีเท่าไหร่นะคะ"ได้ยินแบบนี้ ฟู่ถิงสือก็ค่อย ๆ หรี่ตาลง จ้องมองเธออย่างมีนัยยะอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า "ก็ได้ งั้นก็เรียกผมว่าประธานฟู่ไปก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนทีหลัง"
"......"
"แต่อย่าพูดคำว่าคุณ(您ที่ใช้เรียกแทนคนอายุมากกว่า)อีกนะ"
เสิ่นหยินอู้ได้แต่พยักหน้า"ได้ค่ะ ประธานฟู่""ไปเถอะ ผมจะพาคุณเข้าไป"
เมื่อพูดจบ ฟู่ถิงสือก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 444

    ดวงตาที่ดูเยือกเย็นแต่มีชีวิตชีวา จมูกที่ดูเรียวสวย และริมฝีปากสีแดงสด ถูกวางบนใบหน้าที่ขาวเนียนละเอียดของเธออย่างลงตัวเมื่อเวลาผ่านไป มีคนทนไม่ไหวแล้วพูดขึ้นว่า "ประธานฟู่เลือกของเล่นชิ้นนี้ได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ"
เสิ่นหยินอู้ไม่ได้ยินที่พวกเขาพูดเลย เธออยากชวนฟู่ถิงสือมาร่วมลงทุน จึงได้แต่เดินตามเขาไปข้างหน้าเพราะมัวแต่คิดว่าจะเริ่มพูดยังไง เสิ่นหยินอู้จึงไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ
จนกระทั่งฟู่ถิงสือพาเธอไปที่ขอบรั้ว แล้วโบกมือให้กับคนที่กำลังขี่ม้าอยู่ในสนามม้า เสิ่นหยินอู้ก็หันมองตามสายตาของเขาไป"ฉินเย่ ทางนี้!"
เสิ่นหยินอู้ที่มองตามฟู่ถิงสือไป พอเห็นคนที่อยู่บนหลังม้า รอยยิ้มบนริมฝีปากของเธอก็หายไปทันที
ทำไม......ถึงบังเอิญแบบนี้?นับตั้งแต่เรื่องครั้งก่อน ก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว ช่วงนี้เสิ่นหยินอู้ก็ยุ่งมาก
ดังนั้น เธอคิดว่าเรื่องนี้น่าจะผ่านไปแล้ว เจียงเฉิงไม่ใช่พื้นที่ของฉินเย่ เขาควรจะกลับไปหนานเฉิงนานแล้ว
แต่ใครจะรู้ว่าเขายังอยู่ที่นี่
เมื่อสายตาของชายหนุ่มที่มองมาจากระยะไกลประสานกับสายตาของเธอ เสิ่นหยินอู้ก็หันตัวแล้วตั้งท่าวิ่งหนีโดยไม่รู้ตัว
ฟู่ถิงสือที่อย

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 445

    "ช่วยแชร์หน่อยได้ไหมคะว่าพี่จีบประธานฟู่ยังไง? สอนวิธีให้ฉันหน่อย ฉันจะได้เรียนรู้บ้าง"
ผู้หญิงคนนั้นชอบฉินเย่ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้รู้สึกเป็นศัตรูกับเสิ่นหยินอู้ที่เธอคิดไปเองว่าเป็นผู้หญิงของฟู่ถิงสือ และรีบพาเธอเข้าไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
พนักงานในสนามม้าได้ยินว่าฉินเย่และฟู่ถิงสือจะมาแข่งขันกัน จึงได้เตรียมพื้นที่ให้กับพวกเขาทั้งสองคน และดูแลคู่เดทของพวกเขาอย่างดี
พอทั้งสองเดินเข้าไป ก็มีพนักงานเข้ามาส่งชุดขี่ม้าให้ทันทีพนักงานคนหนึ่งนำชุดขี่ม้ามาให้เสิ่นหยินอู้ พร้อมชมว่า "คุณผู้หญิงหุ่นดีมาก ไซส์น่าจะเลือกได้ง่ายเลยค่ะ"
พูดจบก็ยัดชุดขี่ม้าใส่มือเธอเสิ่นหยินอู้: "......"เธออยากจะเดินหนีไปจากตรงนี้จริง ๆ
แต่ถ้าเธอเดินหนีไปตอนนี้ ก็คงจะทำให้ฟู่ถิงสือเสียหน้าอย่างมาก และไม่ต้องพูดถึงการหาเงินลงทุนเลย เธอคงจะทำให้เขาโกรธจนไม่มีทางร่วมงานกันได้อีก
ตอนที่เสิ่นหยินอู้เดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอยังคงรู้สึกหดหู่ใจ เอาแต่คิดว่าเป็นเพราะตอนออกจากบ้านวันนี้ไม่ได้ดูปฏิทินจีนก่อน ถึงได้เจอกับเหตุการณ์แบบนี้
พูดง่าย ๆ ก็คือเธอรู้สึกเสียใจมากในตอนนี้เสิ่นหยินอู้ถึงขั้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 446

    ฉินเย่เหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเธอเลย ไม่เพียงแต่ไม่ปล่อย แต่ยังโน้มตัวเข้าใกล้เธอทีละนิดจนกระทั่งร่างกายของทั้งสองแนบชิดกัน ไม่มีช่องว่างใดๆเสียงเยาะเย้ยของฉินเย่ดังขึ้นตามมา"อะไร? นี่โม่ไป๋ปล่อยให้คุณออกมาเล่นกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้ได้เหรอ? ดูท่าว่าเขาก็ไม่ได้สนใจคุณเท่าไหร่นะ"ได้ยินแบบนั้น เสิ่นหยินอู้ก็ขมวดคิ้ว"เขาจะปฏิบัติกับฉันยังไง ก็ไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะมาพูด"พูดจบ เสิ่นหยินอู้ก็เริ่มพยายามดิ้นอีกครั้งทั้งสองคนแนบชิดกันอยู่แล้ว เสื้อผ้าที่กั้นอยู่ก็ไม่ใช่ว่าจะหนา เมื่อเธอดิ้น ฉินเย่ก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงส่วนโค้งเว้าที่น่าประทับใจของเธอเสียดสีกับร่างกายของเขาสีหน้าของฉินเย่เปลี่ยนไป เขาจับข้อมือของเสิ่นหยินอู้แน่นขึ้นเล็กน้อยในขณะที่เสิ่นหยินอู้กำลังดิ้นอยู่ เธอก็รู้ตัวถึงอะไรบางอย่าง ใบหน้าของเธอแข็งทื่อและหยุดเคลื่อนไหวลงทันทีมีความอึกอักลอยอยู่ในอากาศไม่กี่วินาทีต่อมา ใบหน้าขาวของเสิ่นหยินอู้ก็แดงก่ำ เธอจ้องมองคนที่อยู่ใกล้ๆ แล้วกัดฟันพูดว่า: "คุณมันไร้ยางอายจริงๆ!"สีหน้าฉินเย่ก็ไม่ดีเช่นกัน เรียกได้ว่าหน้าดำเหมือนก้นหม้อ เขาพูดด้วยเสียงแหบพร่า:"ถ้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 447

    จู่ๆ ก็มีมือใหญ่ยื่นมาคว้าเอวของเธอจู่ๆก็มีอะไรมาสัมผัสกะทันหันทำให้เสิ่นหยินอู้ร้องออกมาด้วยความตกใจ"เป็นอะไรไป?"ผู้หญิงที่นอกห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ยินเสียงร้องของเธอ ไม่รู้ว่าเธอสงสัยหรือเป็นห่วง แต่เธอเริ่มบิดลูกบิดประตู พยายามจะเข้ามาแต่ประตูถูกฉินเย่ล็อคตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นไม่ว่าผู้หญิงจะบิดยังไงก็ไม่มีประโยชน์"พี่ประตูนี่ทำไมเปิดไม่ออกล่ะ? พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม? พูดอะไรหน่อยสิ""ฉันไม่เป็นไร."แม้จะยังตกใจ เสิ่นหยินอู้ก็พูดขณะพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง:"แค่เมื่อกี้นี้ฉันเกือบล้มน่ะ แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว""จริงเหรอ?"ผู้หญิงดูเหมือนยังคงสงสัยอยู่บ้างเธอยืนอยู่หน้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า มองไปรอบๆ แล้วกัดริมฝีปากล่างของตัวเองเบาๆที่จริงแล้วเธอได้ยินเสียงผู้ชายพูดมาจากทางเสิ่นหยินอู้ขณะที่เธอกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่เธอไม่แน่ใจว่านั้นคิดไปเธอเองหรือเปล่า อีกอย่างเสียงของผู้ชายคนนี้ยังคล้ายกับเสียงของประธานฉินมากดังนั้นเธอจึงเดินออกมา แต่หลังเธอออกมา ตรงนี่ก็ไม่มีเสียงอะไรแล้วดูเหมือนเมื่อกี้นี้ทั้งหมดจะเป็นเธอที่หูแว่วไปเองคิดมาถึงตรงนี้ ผู้หญิงอดไม่ได้ที่จ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 448

    "ว่าไง?"ฟู่ถิงสือหันกลับมาฉินเย่จ้องมองด้วยสายตาเย็นชา: "มึงไปไหน?""มึงยังจะมาถามว่ากูจะไปไหนอีกเหรอ?"ฟู่ถิงสือยิ้มอย่างมีเลศนัย"กูได้ยินมาว่าคู่ควงของกูข้อเท้าพลิกตอนอยู่ในห้องแต่งตัว ก็เลยคิดว่าจะไปดูหน่อย"ได้ยินแบบนี้ ฉินเย่ก็หรี่ตาลงอย่างอันตรายฟู่ถิงสือไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร อธิบายเสร็จแล้วก็หันหลังกลับ กำลังจะเดินเข้าไปข้างใน แต่จู่ๆ ก็หยุดก้าวเท้าแล้วก็ตะลึงอยู่กับที่ มองดูเสิ่นหยินอู้ที่เปลี่ยนเป็นชุดขี่ม้าแล้วอย่างอึ้งๆชุดขี่ม้าของเธอดูสง่างาม และยังใช้การจับคู่สีแดงและขาวได้อย่างชาญฉลาดหลังจากที่เสิ่นหยินอู๋สวมชุดขี่ม้านี้แล้ว เอวที่เดิมก็เพรียวบางอยู่แล้วก็กระชับให้แน่นขึ้น ไหล่ที่งดงาม เอวที่เพรียวบาง และผมยาวที่ยาวถึงเอวราวกับน้ำตกฟู่ถิงสือมองเธออย่างตกตะลึงเขาไม่คิดว่าเสิ่นหยินอู้ที่ปล่อยผมและสวมชุดขี่ม้าจะมีหุ่นแบบนี้น่าทึ่งจนไม่มีใครเทียบได้หัวใจในอกเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆกว่าฟู่ถิงสือจะรู้สึกตัว เขาก็กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว "คุณหนูเสิ่น เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเหรอครับ"เสิ่นหยินอู้มองไปที่ฉินเย่ที่อยู่ไม่ไกลด้านหลังฟู่ถิงสือ มองเพียงแวบเดียวก็ละสายตากลั

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status