Share

บทที่ 31

Author: ลั่วหูโยว
“ว้าว ถ้าคุณว่าแบบนั้น ฉันคิดว่ามันก็เป็นไปได้นะ”

“ก็ใช่ไง ผู้หญิงรวยๆที่ไหนจะทำงานเป็นเลขาในบริษัทหละ?”

“แต่ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ทำไมถึงต้องอยากแต่งงานปลอมๆหละ”

“ คิดว่าคงต้องมีเหตุผลแหละ ฉันได้ยินมาว่าเลขาเสิ่นและประธานฉินโตมาด้วยกัน ในตอนที่ตระกูลเสิ่นล้มละลาย ประธานฉินก็คบหาอยู่กับเธอ เขาคงอยากจะช่วยเหลือเธอ พอมันเป็นยังงี้ ตอนนี้ก็เลยไม่มีใครกล้าที่จะรังแกเลขาเสิ่นแล้ว”

“แบบนี้นี่เอง ประธานฉินของเราเป็นคนดีจริงๆ”

“ฉันยังเคยได้ยินมาว่า ประธานฉินของเรารอเจียงฉูฉู่คนนั้นที่เดินทางไปต่างประเทศอยู่ตลอดเลยแหละ ช่างเป็นผู้ชายที่ซื่อสัตย์และรักเดียวใจเดียวจริงๆ ก็สมกับเป็นประธานฉินของเราแหละน้า”

ขณะที่คนเหล่านั้นกำลังคุยกัน เสิ่นหยุนอู้ก็ยืนฟังอยู่ข้างหลังโดยไม่ขยับไปไหน สีหน้าของเธอสงบราวกับว่าคนที่กำลังถูกนินทาอยู่นั้นไม่ใช่ตัวเธอ

จนกระทั่งรถของเจียงหนิงฉวนมาจอดอยู่ตรงหน้าทุกคน จากนั้นหน้าต่างรถก็ถูกลดระดับลง ทำให้เผยให้เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเจียงหนิงฉวน "ขึ้นมาบนรถเถอะ"

เสิ่นหยินอู้ขึ้นไปบนรถของเจียงหนิงฉวนต่อหน้าต่อตาทุกคน

หลังจากที่รถขับออกไปไกลแล้ว คนเหล่านั้นที่เพิ่งคุย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 32

    เจียงหนิงฉวนไม่ได้พูดประโยคถัดไป แต่น้ำเสียงของเขาได้แสดงอารมณ์ของเขาออกมาอย่างชัดเจนเขารู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากเสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงรู้สึกขอบคุณที่เขาไม่รู้เรื่องการตั้งครรภ์ของเธอ ไม่เช่นนั้นน้ำเสียงของเขาคงจะแย่ยิ่งกว่าตอนนี้เสียอีก อาจเป็นเพราะความเงียบของเธอ ดังนั้นเจียงหนิงฉวนจึงไม่ได้พูดอะไรอีกและพาเธอไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลังจากสั่งอาหารแล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า "รอพี่ที่นี่สักพัก พี่จะออกไปข้างนอกสักสิบนาที" “โอเค” เสิ่นหยินอู้พยักหน้า ไม่มีแรงมากพอที่จะอยากรู้ว่าเขาต้องการจะไปทำอะไร สิบนาทีต่อมา เจียงหนิงฉวนกลับมาพร้อมกับถุงใบหนึ่ง "เอาไปสิ" "อะไรหนะ?" เจียงหนิงฉวนพูดว่า "ยาไง เธอไม่ได้ป่วยอยู่เหรอ? โตขนาดนี้แล้ว เธอก็ควรจะมียาที่ใช้บ่อยๆเตรียมไว้กับตัวเองบ้างนะ ถ้ารู้สึกไม่สบายจะได้มียากิน" เสิ่นหยินอู้มองดูถุงด้วยความสับสน "แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไร" “ถ้างั้นก็เตรียมไว้สำหรับครั้งต่อไป” "ก็ได้" เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับถุงยาไว้ ในนั้นบรรจุยาสามัญประจำบ้านที่หาได้ทั่วไปเอาไว้ ซึ่งค่อนข้างครอบคลุมพอสมควร “ขอบคุณค่ะพี่หนิ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 33

    เจียงหนิงฉวนกลับมาจากความคิดของเขา เขามองดูหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอแต่งตัวเรียบง่ายมาก ผมที่ยาวคลุมไหล่ทัดไว้หลังใบหูแบบลวกๆ วันนี้เธอไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ ดังนั้นเธอจึงดูสวยราวกับป่วยเป็นโรค ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสาร เจียงหนิงฉวนเป็นคนที่มีความตระหนักรู้ในตนเอง เขารู้อยู่เสมอว่าเขาไม่ดีเท่าฉินเย่และไม่คู่ควรที่จะไปเปรียบเทียบกับเขา เมื่อตระกูลเสิ่นล้มละลาย เขาไปหาเธอในหลายๆที่ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ไม่ได้มีตำแหน่งและฐานะอะไรมาก เขาจึงไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยเธอได้เลย แม้กระทั่งประธานของบริษัทแห่งหนึ่งยังบอกกับเขาโดยตรง “เจียงหนิงฉวน คุณเก่งและโดดเด่นมาก ผมเห็นถึงศักยภาพและความสามารถของคุณ แต่ตอนนี้ครอบครัวเสิ่นตกต่ำแล้ว คนฉลาดควรรู้ว่าจะต้องตัดสินใจยังไง คุณสามารถมาที่บริษัทของผมได้” ในเวลานั้น หลายคนไม่เพียงแต่ไม่อยากยื่นมือมาช่วย แต่ถึงขนาดต้องการแย่งชิงตัวเขาไปด้วยซ้ำ “ตระกูลเสิ่นจะไม่มีวันลุกขึ้นมาได้อีก แต่ให้จะมีบางคนเต็มใจที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในตอนนี้ ตระกูลเสิ่นก็ไม่มีวันรักษาความรุ่งโรจน์เหมือนดั่งในอดีตเอาไว้ได้” “ดังน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 34

    เธอตอบกลับว่า "เดี๋ยวกลับไปตอนเริ่มงาน" หลังจากนั้น ฉินเย่ก็ไม่ตอบกลับ เธอเก็บโทรศัพท์ของเธอลงไปแล้วพูดกับเจียงหนิงฉวนว่า "ฉันรู้ พี่หนิงฉวน" สายตาของเจียงหนิงฉวนมองไปที่โทรศัพท์ของเธอครู่หนึ่งแล้วถามว่า "ข้อความจากเขาเหรอ?" เสิ่นหยินอู้หยุดชั่วคราวและพยักหน้า เจียงหนิงฉวนไม่พูดอะไรได้อีก พวกเขาทั้งสองกินอาหารที่เหลือต่ออย่างเงียบๆและเช็คบิล จากนั้นเจียงหนิงฉวนก็ไปส่งเธอ เมื่อเสิ่นหยุนอู้เข้าไปในลิฟต์ เธอก็พบว่าเจียงหนิงฉวนตามเธอเข้ามา เธอประหลาดใจเล็กน้อย "พี่ก็จะไปเหรอ?" เพราะที่ทำงานที่ทั้งสองคนทำงานอยู่ไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน เจียงหนิงฉวนสอดมือข้างหนึ่งเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วพูดด้วยสีหน้าสงบ "พี่จะไปหาประธานฉิน มีเรื่องจะรายงานพอดี" หลังจากออกจากลิฟต์แล้ว เจียงหนิงฉวนก็ยกมือขึ้นและมองไปที่เวลาบนนาฬิกาของเขา จากนั้นก็มองไปที่เสิ่นหยินอู้แล้วพูดว่า “เหลืออีกสิบนาทีก่อนที่จะเริ่มทำงาน คงไม่เหมาะที่จะไปหาประธานฉินในตอนนี้” เสิ่นหยินอู้พูดว่า "ถ้างั้นก็ไปอยู่ที่ห้องทำงานของฉันสักพัก" "ได้" เมื่อไปที่ห้องทำงานของเสิ่นหยินอู้ ไม่จำเป

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 35

    เมื่อถูกเขามองด้วยสายตาเช่นนี้ เสิ่นหยินอู้ก็สูญเสียความเป็นตัวเองไปเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เธอออกไปตอนเที่ยง เขาไม่ได้มาที่บริษัทด้วยกันกับเจียงฉูฉู่หรือ? ทำไมเจียงฉูฉุ่ถึงไม่อยู่ในห้องทำงานของเขา? ขณะที่เธอกำลังคิด เจียงหนิงฉวนก็ถามอะไรบางอย่างกับเธอ เสิ่นหยินอู้จึงเรียกสติกลับคืนมาได้และตอบสนองอย่างรวดเร็ว เมื่อรายงานสิ้นสุดลง เจียงหนิงฉวนก็เตรียมที่จะออกไป ฉินเย่พยักหน้าอย่างไม่แยแส ทันทีที่เจียงหนิงฉวนเดินออกไป สายตาของฉินเย่ก็มองไปที่เสิ่นหยินอู้โดยไม่ปกปิดใดๆ ก่อนหน้านี้เธอยืนอยู่ข้างหลังเจียงหนิงฉวน และยังให้เขาบังเธอไว้ ในตอนนี้ จะเลี่ยงก็เลี่ยงไม่ได้แล้วจริงๆ ในเวลานี้ จู่เจียงหนิงฉวนที่กำลังจะเดินไปถึงประตูห้องทำงานก็หันกลับมามองที่เสิ่นหยินอู้ "หยินอู้ พรุ่งนี้พี่จะมารับเธอตอนเที่ยงอีกนะ?" เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ทำตัวไม่ถูก ฉินเย่ตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง จากนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น “ประธานฉิน คุณคงไม่ถือสาสินะถ้าผมจะขอคุยกับเลขาเสิ่นสักหน่อย?” เสิ่นหยินอู้ขมวดคิ้ว เขากำลังจะทำอะไร? แต่ก่อนที่เธอจะได้ตอบสนองอะไ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 36

    หรือเขาแค่แกล้งทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น? “ทำไมคุณถึงไม่พูดหละ?” ฉินเย่บีบคางของเธอ เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกถึงความว้าวุ่นใจของเธอ จากนั้นก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “เป็นอะไรไปหละ?” เสิ่นหยินอู้มองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาที่คุ้นเคยตรงหน้า ริมฝีปากสีชมพูของเขาเปิดออก แต่เขากลับลังเลที่จะพูด เธออยากจะพูดและถามอะไรบางอย่างจริงๆ แต่เมื่อคำพูดนั้นกำลังจะออกมา เธอก็ตระหนักได้ว่าเธอนั้นไร้เรี่ยวแรง... เธอไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้สักคำ ถ้าหากเขาก้มหน้าลงและถามเธอว่า "ผมแค่อยากเหลือศักดิ์ศรีไว้ให้คุณ ก็เลยแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง เสิ่นหยินอู้ ทำไมคุณถึงไร้เดียงสาขนาดนี้?" ถ้าเขาพูดอย่างนั้น แล้วจะทำยังไงหละ? ตอนนี้ทุกคนก็รู้หมดแล้ว ถ้าเธอจัดการมันอย่างเงียบๆด้วยตัวเอง มันก็คงจะดีกว่า “ไม่มีอะไร” เสิ่นหยินอู้ส่ายหัว ดวงตาของฉินเย่หม่นลงเล็กน้อย มันเป็นแบบนี้อีกแล้ว เขารู้สึกว่าช่วงนี้เธออารมณ์แปรปรวนอยู่บ่อยๆ จู่ๆเธอก็ดูห่างเหินกับเขามาก ไม่ยอมพูดอะไรเลยแม้แต่น้อย เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ความรู้สึกเสน่หาที่พวยพุ่งออกมาก่อนหน้านี้ก็หายไปอย่างสิ้นเชิงใน ฉินเย่ป

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 37

    คำพูดของเธอทำให้โจวชวงชวงสงบลงเล็กน้อย พวกเธอเป็นเพื่อนสนิทกันมาหลายปีแล้ว และชวงชวงก็รู้จักเสิ่นหยินอู้เป็นอย่างดี เธอรู้ดีว่าหยินอู้เป็นคนที่รู้ว่าอะไรควรและไม่ควรมาโดยตลอด ผลลัพธ์เช่นนี้เธอคงจะคาดการณ์ได้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วแต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังรู้สึกเจ็บใจแทนเพื่อนสนิทของเธอ เธอกัดริมฝีปากล่างแล้วถามว่า "แต่...เธอเต็มใจจริงๆเหรอ?" เสิ่นหยินอู้ตอบอย่างใจเย็น "ถึงไม่เต็มใจแล้วทำจะอะไรได้หละ?" เธอไม่เต็มใจจริงๆ และพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงดูแล้ว อย่างไรก็ตาม ความจริงกลับตบเธอและบอกเธอว่าคิดไปเอง “พรุ่งนี้เธอว่างรึเปล่า สนใจไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนฉันไหม?” เสิ่นหยินอู้หยุดไปชั่วคราวและหัวเราะเบาๆว่า “ฉันไม่อยากไปคนเดียว” โจวชวงชวงพยักหน้า "โถ่ ฉันเป็นเพื่อนสนิทที่สุดเพียงคนเดียวของเธอนะ ต่อให้ไม่ว่าง ก็ต้องว่างให้ได้แหละถูกไหม? เธอไม่จำเป็นต้องถามฉันด้วยซ้ำ แค่บอกให้ฉันไปกับเธอก็พอแล้ว " เสิ่นหยินอู้ยิ้มและพูดว่า "กินข้าวเถอะ กินเสร็จจะได้กลับไปพักผ่อนไวๆ" การแสดงออกของเธอนั้นสงบมากและไม่มีท่าทีว่าจะไม่มีความสุขเลยสักนิด โจวชวงชวงมองเสิ่นหยินอู้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 38

    เธอต้องใช้แรงอย่างมากในการช่วยพยุงเขากลับห้อง แต่สุดท้ายก็ล้มลงโดยไม่ระมัดระวังและตกไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา ไม่รู้ว่าอะไรกันที่ปลุกอารมณ์ในตัวของฉินเย่ขึ้นมา จู่ๆฝ่ามือใหญ่ๆของเขาก็ย้ายไปจับที่เอวเรียวเล็กของเธอและพลิกตัวเธอเพื่อกดเธอไว้ เขามีรูปร่างที่ผอมเพรียวแต่กลับแข็งแรงกำยำ น้ำหนักทั้งหมดของเขาอยู่บนตัวเธอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือเปล่า แต่จู่ๆเสิ่นหยินอู้รู้สึกราวกับว่าใบหน้าของเธอกำลังเดือดพล่านขึ้นมาในทันที เธอต้องการผลักเขาออกไป อย่างไรก็ตาม วินาทีที่เธอจะผลักเขาออกไป ริมฝีปากบางอุ่นๆของชายคนนั้นก็ประกบไปที่ริมฝีปากของเธอ เสิ่นหยินอู้ตกตะลึง เมื่อเธอต้องการผลักเขาออกไป เธอก็กลับรู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆเข้ามาในปากของเธอ ทันใดนั้น สมองของเธอก็ดูเหมือนจะตกใจกับอะไรบางอย่าง และเธอก็ขยับตัวไม่ได้ เมื่อเธอตอบสนอง เธอก็ได้จูบเขากลับไปเสียแล้ว แต่ฉินเย่ที่ถูกเธอจูบตอบก็กอดเธอไว้แน่นราวกับปลาที่ขาดน้ำมาเป็นเวลานาน ในคืนนั้นเธอได้ปล่อยตัวปล่อยใจของตัวเองไป เมื่อเธอตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของฉินเย่ เธอก็เห็นคิ้วที่ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นของฉินเย่ เมื่อ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 39

    หลังจากมาถึงโรงพยาบาล โจวชวงชวงมองไปรอบๆด้วยสีหน้าแปลกๆ จากนั้นก็ถามเธอด้วยเสียงเบาๆ "ทำไมเราไม่ไปโรงพยาบาลใหญ่หละ? โรงพยาบาลเล็กๆจะไม่ทำให้ร่างกายเธอแย่ลงเหรอ?" เสิ่นหยินอู้พูดอย่างใจเย็นว่า "มันไม่สะดวก" ที่โรงพยาบาลใหญ่มีคนที่รู้จักคุณย่าฉินทำงานอยู่ เธอไม่คิดว่าวันนั้นเธอจะท้อง เธอจึงไปตรวจที่นั่น ตอนนี้เธอต้องจัดการกับมัน ดังนั้นจึงไม่สามารถไปโรงพยาบาลแห่งนั้นได้อีก หากถูกจับได้... แล้วมีคนไปบอกคุณย่าฉินหละก็ ดังนั้นเพื่อความแน่นอน เสิ่นหยินอู้จึงตัดสินใจที่จะมาจัดการที่โรงพยาบาลเล็กๆแห่งนี้ โจวชวงชวงไปทะเบียนและจ่ายเงินให้เธอ และเธอต้องได้รับการตรวจก่อน ระหว่างรอตรวจ ทั้งสองก็นั่งรอบนเก้าอี้ โจวชวงชวงหันไปมองเสิ่นหยินอู้อยู่หลายครั้ง ผ่านไปไม่นานก็มองเธออีกครั้ง ภายในไม่กี่นาที เธอก็มองหยินอู้ไปมากกว่าสิบครั้ง เสิ่นหยินอู้ทนไม่ไหวอีกต่อไป “เธอมองฉันทำไมนักหนาเนี่ย?” ชวงชวงตาแดงเล็กน้อย “ฉันสงสัยว่าเธอกลายเป็นคนเย็นชาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?” เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็ตกใจไปชั่วขณะ เธอกลายเป็นคนเย็นชาไปแล้วงั้นเหรอ? “เด็ก

Latest chapter

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status