แชร์

บทที่ 266

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-20 17:00:01
คำพูดนี้ฟังดูหวานแหววมาก ทำเอาพยาบาลรู้สึกอิจฉาเสิ่นหยินอู้ขึ้นมาทันที

ที่แท้ยังไม่เป็นแฟนกัน ก็ดีต่อคนอื่นเขาเพียงนี้แล้ว แถมยังอ่อนโยนมากด้วย น้ำเสียงตอนอธิบายก็อ่อนนุ่ม ซ้ำยังขอบคุณที่เธออวยพรด้วย

ทำไมบนโลกนี้ถึงได้มีคนอ่อนโยนขนาดนี้เนี่ย?

พยาบาลกำลังคิดเหม่อลอยอยู่ ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกคนผลักเปิดออก

ฉินเย่ที่รูปร่างสูงยาวเดินเข้ามา บนตัวเขายังเต็มไปด้วยกลิ่นอายเย็นเยือกอีกด้วย ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเย็นชาถึงขีดสุด

ทันทีที่เข้าไปในห้องผู้ป่วย สายตาของเขาก็ตกอยู่ที่ร่างกายของหญิงสาวที่กำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยทันที

หลังจากที่กวาดมองไปรอบหนึ่งถึงจะเปลี่ยนไปมองที่โม่ไป๋

หลังจากนั้น เขาก็เอ่ยเสียงเย็นชาว่า “ฉันมารับเธอกลับบ้าน”

บ้าน?

เมื่อได้ยินคำคำนี้แล้ว พยาบาลก็ตกตะลึงในใจ

ถึงกับใช้คำว่าบ้านด้วยกันแล้วเหรอเนี่ย หรือว่าสองคนนี้ถึงจะเป็นคู่จริงคู่แท้?

เผชิญกับคำพูดตรงไปตรงมาของฉินเย่แล้ว โม่ไป๋เองก็ไม่โกรธ เพียงแค่กล่าวอย่างอ่อนโยนเหมือนเดิมว่า “นายจะพาเธอกลับไปได้ แต่ต้องรอให้เธอตื่นก่อน”

ฉินเย่ปั้นหน้าเขียว

ก่อนที่ยังเข้ามา เขาแอบได้ยินบทสนทนาระหว่างโม่ไป๋กับพยาบาลแล้ว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 267

    โม่ไป๋อมยิ้ม“เย่ ฉันไม่ได้จะโทษนายหรอกนะ การที่นายออกหน้าแทนฉูฉู่ ฉันเข้าใจมาก เพราะยังไงซะ ความรู้สึกที่นายมีต่อหล่อน ก็เหมือนกับที่ฉันรู้สึกต่อหยินอู้ การจะออกหน้าแทนนั้นเป็นเรื่องปกติ”ฉินเย่ขมวดคิ้ว เม้มปากเป็นเส้นตรงเขาเข้าใจแล้ว คำพูดทุกถ้อยคำของโม่ไป๋หนีไม่พ้นเจียงฉูฉู่เลย ไม่ว่าอย่างไรก็จะจับคู่เขากับเจียงฉูฉู่ให้ได้ แล้วจับคู่ตัวเขาเองกับเสิ่นหยินอู้เขากำลังขับไล่ไสสงเขาออกจากเสิ่นหยินอู้อย่างหน้าซื่อเมื่อคิดเช่นนั้น ดวงตาที่กรุ่นโกรธของฉินเย่พลันกลอกไปมา เขากัดฟันกรามเบาๆ เสียงของเขาแฝงด้วยกลิ่นอายของการขบเคี้ยวเขี้ยวฟันแต่ทว่า บัดนี้เขากลับเถียงอะไรไม่ออกผ่านไปครู่หนึ่ง โม่ไป๋จึงกล่าวขึ้นราวกับนึกบางอย่างออก “ขอโทษที เมื่อกี้ฉันพูดแรงไปใช่ไหม?”ฉินเย่ “…”ทั้งสองเป็นเพื่อนกันมานานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉินเย่รู้สึกว่าโม่ไป๋เป็นคนที่ทำให้คนอื่นรู้สึกเกลียดขนาดนี้_เสิ่นหยินอู้ฝัน ฝันว่าตนอยู่ในห้องผู้ป่วย โดยมีฉินเย่และโม่ไป๋นั่งอยู่ข้างๆ ทั้งสองฝั่ง ริมฝีปากบางของทั้งสองเหมือนว่ากำลังพูดพร่ำอะไรอยู่สักอย่างเธอเหมือนจะเห็นชัด แต่ก็ไม่ได้ยินว่าพวกเขากำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-20
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 268

    แต่ไม่นาน ฉินเย่ก็รู้ว่าโม่ไป๋คิดอะไรอยู่เพราะหลังจากที่เขามอบของกลับคืนไป เสิ่นหยินอู้ก็กล่าวขอบคุณเขาอย่างซาบซึ้งใจโม่ไป๋ยิ้มจนแก้มจะฉีก“ยินดีมาก กลับบ้านไปก็พักผ่อนดีๆ ล่ะ”“อื้ม”ฉินเย่มองโม่ไป๋ด้วยสายตาหมดคำจะพูด แต่ก่อนทำไมถึงไม่รู้ว่าเขาเล่ห์เหลี่ยมขนาดนี้นะ?แต่ฉินเย่ก็ไม่อยากจะสนใจเขา เพียงแค่ถือเสื้อคลุมเดินไปข้างๆ เสิ่นหยินอู้เสิ่นหยินอู้กำลังจะรับมาสวมใส่ด้วยตนเอง แต่ทว่าฉินเย่กลับปัดมือเธอออกเสิ่นหยินอู้ “?”ไม่คิดว่าฉินเย่จะพูดออกมาว่า “ฉันใส่ให้”“…”อยู่ดีไม่ว่าดี ทำไมเขาถึงมาใส่เสื้อผ้าให้เธอล่ะ?เธอใส่เองไม่ได้เหรอ?จากนั้นไม่รอให้เธอได้ตอบสนอง ฉินเย่ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ยื่นมือมา”เสิ่นหยินอู้อยากปฏิเสธ เพราะอย่างไรในห้องนี้ก็ยังมีโม่ไป๋อยู่ แถมโม่ไป๋ก็รู้เรื่องที่พวกเขากำลังจะหย่ากันด้วยเพราะการผ่าตัดของคุณย่าก็ผ่านไปได้ด้วยดีแล้ว…ขณะเดียวกัน นี่ก็หมายความว่าเส้นทางระหว่างเธอกับฉินเย่ได้สิ้นสุดลงแล้วเวลาแบบนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องแสดงละครอีกต่อไปแล้วมั้ง?แต่เมื่อสบเข้าที่ตาดำขลับของฉินเย่แล้ว เสิ่นหยินอู้ก็ไม่อาจพูดปฏิเสธออกมาได้ ดังน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-20
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 269

    เสิ่นหยินอู้ได้สติ ก็ส่ายศีรษะเงียบๆมือของเธอยังคงคล้องไว้ที่คอของฉินเย่ เมื่อนึกบางอย่างขึ้นได้ เสิ่นหยินอู้จึงได้ปล่อยมือออกทว่านางเพิ่งขยับได้เล็กน้อย ฉินเย่ก็เอ่ยเสียงเย็นชาว่า “กอดไว้”เสิ่นหยินอู้ “…”กล่าวตามตรง เสิ่นหยินอู้ไม่อยากฟังฉินเย่เหมือนจะรู้ความคิดของเธอ จึงได้จงใจปล่อยมือออกเล็กน้อยขณะที่เธอกำลังจะปล่อยมือออกเสิ่นหยินอู้พลันกอดคอของฉินเย่แน่นราวกับสัญชาตญาณข้อมือของเธออ่อนนุ่ม ผิวพรรณขาวนวล เมื่อคล้องไว้ที่คอของเขา ทำให้ดูเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจนหลังจากที่รู้ตัวว่าตนทำอะไรลงไป สีหน้าของเสิ่นหยินอู้จึงเปลี่ยนไปเมื่อสัมผัสได้ถึงความละเอียดอ่อนของผิวพรรณของเธอ ฉินเย่ก็ยกมุมปากขึ้น“กอดแน่นๆ อย่าตกลงไปล่ะ”ครั้งนี้เสิ่นหยินอู้ไม่ได้ปล่อยมือ แต่ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเอง และแอบมองฉินเย่เป็นครั้งคราวฉินเย่ที่อุ้มเธอไว้ ไม่เสียแรงขณะเดินเลยแม้แต่น้อย ลมหายใจและฝีเท้ายังคงมั่นคงแน่วแน่และเมื่อมองจากมุมของเธอแล้วยังสามารถเห็นสันกรามอันงดงามของฉินเย่ บวกกับมุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยของเขาที่ยังไม่หุบกลับเข้าที่เดิมด้วยเธอไม่เข้าใจหากวันนี้เป็นเพราะเขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-21
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 270

    เมื่อได้ยินดังนั้น เสิ่นหยินอู้จะไม่เข้าใจได้อย่างไรมิน่าล่ะ วันนี้เขาถึงได้ทำตัวแปลกๆ ตอนอยู่กับโม่ไป๋ ที่แท้เขาก็เข้าใจผิดว่าตนชอบโม่ไป๋นี่เอง?เป็นเช่นนี้นี่เอง…เธอคิดว่าเขากำลังเอาใจตน แต่สุดท้ายก็เธอคิดมากไปเองทั้งนั้นเมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้พลันหลับตาลง แล้วมองค้อนกลับไปอย่างไม่เกรงใจ“เขาช่วยฉันไว้ แต่นอกจากความขอบคุณที่มีต่อเขาแล้ว ฉันไม่มีความรู้สึกอะไรกับเขาทั้งนั้น นายเองก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้หรอก เพราะคนที่เหมือนนายน่ะ มีไม่มากหรอก”กล่าวจบ บรรยากาศในรถก็เงียบสงบเสิ่นหยินอู้รู้สึกว่าตนพูดแรงไปไหม?แต่อีกมุมหนึ่ง เขายังสงสัยตนกับโม่ไป๋เลย ตนแค่พูดเขาสักหน่อยจะเป็นไรไปถ้าเขาจะโกรธ ก็ปล่อยให้เขาโกรธไปเถอะเพราะยังไงตอนนี้คุณย่าก็ผ่าตัดผ่านไปด้วยดีแล้ว เธอไม่ต้องคิดมากอะไรขนาดนั้นหรอกเป็นไปตามคาด ฉินเย่โมโหเธอตลอดทั้งทาง ไม่พูดไม่จาใดๆเขาส่งเธอกลับบ้านหลังจากที่จอดรถ เสิ่นหยินอู้กลับไม่ได้รีบร้อนจะลงรถ แต่ถามว่า “คุณย่าเป็นยังไงบ้างแล้ว?”ฉินเย่เงียบอยู่ชั่วขณะ แล้วกล่าวว่า “ไม่แย่”“ถ้างั้นก็ดี ต้องดูอาการอีกนานแค่ไหน?”“48 ชั่วโมง”หลังจากที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-21
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 271

    บริเวณทรวงอกชาไปหมดลามมาถึงปลายนิ้วฉินเย่แค่นเสียงเย็นชาออกมาอย่างอดไม่ได้ เขาใช้ฝ่ามือทาบลงบนทรวงอกของตนเสิ่นหยินอู้ได้ยินเสียงที่ออกมาจากความเจ็บปวดของเขา ก็หันไปมอง ถึงจะพบว่าเขาพิงอยู่บนพวงมาลัย สีหน้าดูไม่ดีนักทั้งสองรู้จักกันมานานหลายปีแล้ว ร่างกายของฉินเย่ดีมาโดยตลอด แทบจะไม่เคยป่วยเลยเมื่อเห็นสีหน้าเขาดูย่ำแย่ขนาดนี้เป็นครั้งแรก เสิ่นหยินอู้เองก็ตกใจสะดุ้งโหยงพลางยื่นมืออกไปจับเขา“เป็นอะไร? ไม่สบายเหรอ?”ความเจ็บปวดไม่จางหายไป แต่กลับเพิ่มพูนยิ่งขึ้นตอนที่เสิ่นหยินอู้ยื่นมือมาจับ ความรู้สึกว่างเปล่าในใจก็ยิ่งมากขึ้นทว่าเมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของเสิ่นหยินอู้เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยตนแล้วนั้น ความรู้สึกว่างเปล่านั่นก็ค่อยๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความรู้สึกอื่นเมื่อเห็นว่าฉินเย่ไม่ตอบ แต่หน้าผากกลับมีเหงื่อไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนจะไม่สบายมาก เสิ่นหยินอู้ก็ลนลานขึ้นมา แล้วควานหาโทรศัพท์ของตน “เดี๋ยวฉันเรียกรถพยาบาลให้”จากนั้นเธอไม่ทันหยิบโทรศัพท์ ข้อมือของเธอก็ถูกฉินเย่คว้าเอาไว้แน่นฝ่ามือของฉินเย่ทั้งร้อนทั้งหนัก ราวกับไฟกระทบลงผิวของเธอปานนั้นเขาจั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-21
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 272

    เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่หลุบตาพิงอยู่อย่างนั้น เขาที่เพิ่งผ่านความเจ็บปวดมา ภายใต้ความสลัวทำให้เขาดูเหมือนคอตกอย่างไรอย่างนั้น ดูน่าสงสารจับใจเสิ่นหยินอู้เองก็ไม่รู้ว่าทำไมตนถึงมีความคิดแบบนี้ออกมาแต่กล่าวตามตรง ฉินเย่เมื่อกี้นี้ ทำเอาเธอตกใจมาก รู้จักเขามาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นเขาเจ็บปวดขนาดนั้นเมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็หรี่ตาสำรวจมองฉินเย่“นายเป็นอะไรกันแน่? คงไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงรักษาไม่หายอะไรหรอกมั้ง?”ฉินเย่ที่เดิมคอตกอยู่ได้ยินดังนั้นก็เงยหน้ามองเธออย่างหมดคำพูด“โรคร้ายแรงรักษาไม่หาย?” เขาหัวเราะเยาะ “ทำไม? เธออยากให้ฉันตายเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”“แล้วทำไมนายถึงไม่ยอมไปโรงพยาบาลล่ะ?”ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังเจ็บปวดทรมานมากอยู่ แต่ก็ไม่ยอมไปโรงพยาบาล การกระทำแบบนี้ ตัวเขาเองไม่คิดว่าแปลกเหรอ?ไม่รอให้เขาตอบ เสิ่นหยินอู้คิดจะถามต่อไปอีก ทว่าฉินเย่กลับปลดล็อกประตูรถ แล้วเอ่ยเสียงแหบว่า “ขึ้นไปเถอะ”เสิ่นหยินอู้อยากพูดอะไรต่อ แต่เมื่อเห็นเขาไม่สบอารมณ์ราวกับไม่อยากสาธยายกับตนต่อ เธอก็ไม่อยากใส่ใจอีกต่อไปก็จริง ถึงแม้ฉินเย่จะเป็นอะไร ก็ไม่ต้องให้ภรรยาที่จะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-21
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 273

    หลังจากพูดประโยคนี้จบ ฉินเย่ก็คิดในใจ (เขาจะไม่ปล่อยให้ใครมาแตะต้องเธอแม้แต่ปลายนิ้ว)ไม่คิดว่าเสิ่นหยินอู้ได้ยินคำพูดของเขาแล้วจะเพียงแค่ยิ้มตอบเบาๆ“ไม่เป็นไรหรอก นายเองก็ต้องไปตามหาคน ถ้าฉันเป็นนาย ฉันก็คงทำแบบนั้น ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะเหตุจำเป็น”ได้ยินดังนั้น ฉินเย่ก็อดไม่ได้ยิ้มเจื่อนเขาควรจะตอบว่าอะไร?ภรรยาของเขาใจกว้างจริงๆ เกิดเรื่องแบบนี้แล้วยังคิดหาเหตุผลให้เขาอีก?แต่ความใจเย็นของเธอก็บ่งบอกเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง…“เอาเถอะน่า ฉันจะเตรียมตัวพักผ่อนแล้ว นายเองก็เข้านอนเร็วหน่อยแล้วกัน”เสิ่นหยินอู้กลัวว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป บทสนทนาระหว่างทั้งสองจะยิ่งอยู่ยิ่งอึดอัด จึงได้จบบทสนทนาด้วยตัวเองเสียเลยเมื่อได้ยินว่าเธอจะพักผ่อน ฉินเย่เองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อไป“เธอพักผ่อนก่อน ฉันจะออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่ง”เสิ่นหยินอู้ชะงัก แล้วพยักหน้า “โอเค ขับรถดีๆ”ขณะที่ออกจากบ้านตระกูลฉิน แล้วขึ้นรถไปอีกครั้ง แววตาของฉินเย่ก็ลุ่มลึกมากบริเวณทรวงอก ดูเหมือนมีบางอย่างติดอยู่ กลืนไม่เข้าคายก็ไม่ออกทั้งๆ ที่เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น แต่น้ำเสียงที่เธอพูดกับเขากลับยังคงเกรงอกเกรงใจ อ่อนโยน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-22
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 274

    ขอแค่เป็นผู้มีพระคุณของเขาหนึ่งวัน เขาก็ไม่มีทางทำไม่ดีกับตนงั้นเหรอ?ก็จริง คนตระกูลฉินให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ไม่อย่างนั้นหลายปีมานี้ตระกูลเจียงไม่มีทางก้าวกระโดดได้เร็วเพียงนี้หรอกแต่ว่าเจียงฉูฉู่กลับคิดถึงอีกเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ หากมีอยู่วันหนึ่ง ฉินเย่พบว่าผู้ช่วยชีวิตเขาจริงๆ คือเสิ่นหยินอู้ ไม่ใช่ตนเข้าด้วยอุปนิสัยของเขาแล้ว เขาอาจจะฆ่าตนก็เป็นได้!เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แผ่นหลังของเจียงฉูฉู่ก็เหงื่อแตกทันทีโชคดีที่ในตอนนั้นนอกจากเสิ่นหยินอู้กับตนแล้ว ไม่มีพยานคนอื่นอีก หากเรื่องนี้มีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยล่ะก็ เธอต้องจบเห่แน่ๆ“เอาอย่างงี้ เรื่องสองคนนั้นที่หนูพูดถึง เดี๋ยวพ่อจัดการเอง หนูไม่ต้องห่วง ขอแค่ประจบฉินเย่ให้ดีก็พอแล้ว”เมื่อได้ยินคำว่าประจบแล้ว เจียงฉูฉู่ก็ไม่สบอารมณ์ทันใด“พ่อคะ ประจบประเจิบอะไรกัน? ความสัมพันธ์ของหนูกับเย่เท่าเทียมกัน หนูไม่ใช่ผู้หญิงที่ขี้ประจบฉินเย่พวกนั้นหรอกนะคะ”“ใช่ๆๆ ฉูฉู่ของเราดีที่สุดแล้ว ฉินเย่ต้องชอบหนูสิไม่ว่า”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ พ่อเจียงก็เห็นแผลที่หน้าผากของเจียงฉูฉู่อีกครั้ง“ส่วนแผลที่หน้าผากของหนู ฉูฉู่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-22

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status