Share

บทที่ 267

Penulis: ลั่วหูโยว
last update Terakhir Diperbarui: 2024-07-20 17:00:01
โม่ไป๋อมยิ้ม

“เย่ ฉันไม่ได้จะโทษนายหรอกนะ การที่นายออกหน้าแทนฉูฉู่ ฉันเข้าใจมาก เพราะยังไงซะ ความรู้สึกที่นายมีต่อหล่อน ก็เหมือนกับที่ฉันรู้สึกต่อหยินอู้ การจะออกหน้าแทนนั้นเป็นเรื่องปกติ”

ฉินเย่ขมวดคิ้ว เม้มปากเป็นเส้นตรง

เขาเข้าใจแล้ว คำพูดทุกถ้อยคำของโม่ไป๋หนีไม่พ้นเจียงฉูฉู่เลย ไม่ว่าอย่างไรก็จะจับคู่เขากับเจียงฉูฉู่ให้ได้ แล้วจับคู่ตัวเขาเองกับเสิ่นหยินอู้

เขากำลังขับไล่ไสสงเขาออกจากเสิ่นหยินอู้อย่างหน้าซื่อ

เมื่อคิดเช่นนั้น ดวงตาที่กรุ่นโกรธของฉินเย่พลันกลอกไปมา เขากัดฟันกรามเบาๆ เสียงของเขาแฝงด้วยกลิ่นอายของการขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน

แต่ทว่า บัดนี้เขากลับเถียงอะไรไม่ออก

ผ่านไปครู่หนึ่ง โม่ไป๋จึงกล่าวขึ้นราวกับนึกบางอย่างออก “ขอโทษที เมื่อกี้ฉันพูดแรงไปใช่ไหม?”

ฉินเย่ “…”

ทั้งสองเป็นเพื่อนกันมานานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉินเย่รู้สึกว่าโม่ไป๋เป็นคนที่ทำให้คนอื่นรู้สึกเกลียดขนาดนี้

_

เสิ่นหยินอู้ฝัน ฝันว่าตนอยู่ในห้องผู้ป่วย โดยมีฉินเย่และโม่ไป๋นั่งอยู่ข้างๆ ทั้งสองฝั่ง ริมฝีปากบางของทั้งสองเหมือนว่ากำลังพูดพร่ำอะไรอยู่สักอย่าง

เธอเหมือนจะเห็นชัด แต่ก็ไม่ได้ยินว่าพวกเขากำ
Bab Terkunci
Membaca bab selanjutnya di APP

Bab terkait

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 268

    แต่ไม่นาน ฉินเย่ก็รู้ว่าโม่ไป๋คิดอะไรอยู่เพราะหลังจากที่เขามอบของกลับคืนไป เสิ่นหยินอู้ก็กล่าวขอบคุณเขาอย่างซาบซึ้งใจโม่ไป๋ยิ้มจนแก้มจะฉีก“ยินดีมาก กลับบ้านไปก็พักผ่อนดีๆ ล่ะ”“อื้ม”ฉินเย่มองโม่ไป๋ด้วยสายตาหมดคำจะพูด แต่ก่อนทำไมถึงไม่รู้ว่าเขาเล่ห์เหลี่ยมขนาดนี้นะ?แต่ฉินเย่ก็ไม่อยากจะสนใจเขา เพียงแค่ถือเสื้อคลุมเดินไปข้างๆ เสิ่นหยินอู้เสิ่นหยินอู้กำลังจะรับมาสวมใส่ด้วยตนเอง แต่ทว่าฉินเย่กลับปัดมือเธอออกเสิ่นหยินอู้ “?”ไม่คิดว่าฉินเย่จะพูดออกมาว่า “ฉันใส่ให้”“…”อยู่ดีไม่ว่าดี ทำไมเขาถึงมาใส่เสื้อผ้าให้เธอล่ะ?เธอใส่เองไม่ได้เหรอ?จากนั้นไม่รอให้เธอได้ตอบสนอง ฉินเย่ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ยื่นมือมา”เสิ่นหยินอู้อยากปฏิเสธ เพราะอย่างไรในห้องนี้ก็ยังมีโม่ไป๋อยู่ แถมโม่ไป๋ก็รู้เรื่องที่พวกเขากำลังจะหย่ากันด้วยเพราะการผ่าตัดของคุณย่าก็ผ่านไปได้ด้วยดีแล้ว…ขณะเดียวกัน นี่ก็หมายความว่าเส้นทางระหว่างเธอกับฉินเย่ได้สิ้นสุดลงแล้วเวลาแบบนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องแสดงละครอีกต่อไปแล้วมั้ง?แต่เมื่อสบเข้าที่ตาดำขลับของฉินเย่แล้ว เสิ่นหยินอู้ก็ไม่อาจพูดปฏิเสธออกมาได้ ดังน

    Terakhir Diperbarui : 2024-07-20
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 269

    เสิ่นหยินอู้ได้สติ ก็ส่ายศีรษะเงียบๆมือของเธอยังคงคล้องไว้ที่คอของฉินเย่ เมื่อนึกบางอย่างขึ้นได้ เสิ่นหยินอู้จึงได้ปล่อยมือออกทว่านางเพิ่งขยับได้เล็กน้อย ฉินเย่ก็เอ่ยเสียงเย็นชาว่า “กอดไว้”เสิ่นหยินอู้ “…”กล่าวตามตรง เสิ่นหยินอู้ไม่อยากฟังฉินเย่เหมือนจะรู้ความคิดของเธอ จึงได้จงใจปล่อยมือออกเล็กน้อยขณะที่เธอกำลังจะปล่อยมือออกเสิ่นหยินอู้พลันกอดคอของฉินเย่แน่นราวกับสัญชาตญาณข้อมือของเธออ่อนนุ่ม ผิวพรรณขาวนวล เมื่อคล้องไว้ที่คอของเขา ทำให้ดูเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจนหลังจากที่รู้ตัวว่าตนทำอะไรลงไป สีหน้าของเสิ่นหยินอู้จึงเปลี่ยนไปเมื่อสัมผัสได้ถึงความละเอียดอ่อนของผิวพรรณของเธอ ฉินเย่ก็ยกมุมปากขึ้น“กอดแน่นๆ อย่าตกลงไปล่ะ”ครั้งนี้เสิ่นหยินอู้ไม่ได้ปล่อยมือ แต่ตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเอง และแอบมองฉินเย่เป็นครั้งคราวฉินเย่ที่อุ้มเธอไว้ ไม่เสียแรงขณะเดินเลยแม้แต่น้อย ลมหายใจและฝีเท้ายังคงมั่นคงแน่วแน่และเมื่อมองจากมุมของเธอแล้วยังสามารถเห็นสันกรามอันงดงามของฉินเย่ บวกกับมุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยของเขาที่ยังไม่หุบกลับเข้าที่เดิมด้วยเธอไม่เข้าใจหากวันนี้เป็นเพราะเขา

    Terakhir Diperbarui : 2024-07-21
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 270

    เมื่อได้ยินดังนั้น เสิ่นหยินอู้จะไม่เข้าใจได้อย่างไรมิน่าล่ะ วันนี้เขาถึงได้ทำตัวแปลกๆ ตอนอยู่กับโม่ไป๋ ที่แท้เขาก็เข้าใจผิดว่าตนชอบโม่ไป๋นี่เอง?เป็นเช่นนี้นี่เอง…เธอคิดว่าเขากำลังเอาใจตน แต่สุดท้ายก็เธอคิดมากไปเองทั้งนั้นเมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้พลันหลับตาลง แล้วมองค้อนกลับไปอย่างไม่เกรงใจ“เขาช่วยฉันไว้ แต่นอกจากความขอบคุณที่มีต่อเขาแล้ว ฉันไม่มีความรู้สึกอะไรกับเขาทั้งนั้น นายเองก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้หรอก เพราะคนที่เหมือนนายน่ะ มีไม่มากหรอก”กล่าวจบ บรรยากาศในรถก็เงียบสงบเสิ่นหยินอู้รู้สึกว่าตนพูดแรงไปไหม?แต่อีกมุมหนึ่ง เขายังสงสัยตนกับโม่ไป๋เลย ตนแค่พูดเขาสักหน่อยจะเป็นไรไปถ้าเขาจะโกรธ ก็ปล่อยให้เขาโกรธไปเถอะเพราะยังไงตอนนี้คุณย่าก็ผ่าตัดผ่านไปด้วยดีแล้ว เธอไม่ต้องคิดมากอะไรขนาดนั้นหรอกเป็นไปตามคาด ฉินเย่โมโหเธอตลอดทั้งทาง ไม่พูดไม่จาใดๆเขาส่งเธอกลับบ้านหลังจากที่จอดรถ เสิ่นหยินอู้กลับไม่ได้รีบร้อนจะลงรถ แต่ถามว่า “คุณย่าเป็นยังไงบ้างแล้ว?”ฉินเย่เงียบอยู่ชั่วขณะ แล้วกล่าวว่า “ไม่แย่”“ถ้างั้นก็ดี ต้องดูอาการอีกนานแค่ไหน?”“48 ชั่วโมง”หลังจากที

    Terakhir Diperbarui : 2024-07-21
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 271

    บริเวณทรวงอกชาไปหมดลามมาถึงปลายนิ้วฉินเย่แค่นเสียงเย็นชาออกมาอย่างอดไม่ได้ เขาใช้ฝ่ามือทาบลงบนทรวงอกของตนเสิ่นหยินอู้ได้ยินเสียงที่ออกมาจากความเจ็บปวดของเขา ก็หันไปมอง ถึงจะพบว่าเขาพิงอยู่บนพวงมาลัย สีหน้าดูไม่ดีนักทั้งสองรู้จักกันมานานหลายปีแล้ว ร่างกายของฉินเย่ดีมาโดยตลอด แทบจะไม่เคยป่วยเลยเมื่อเห็นสีหน้าเขาดูย่ำแย่ขนาดนี้เป็นครั้งแรก เสิ่นหยินอู้เองก็ตกใจสะดุ้งโหยงพลางยื่นมืออกไปจับเขา“เป็นอะไร? ไม่สบายเหรอ?”ความเจ็บปวดไม่จางหายไป แต่กลับเพิ่มพูนยิ่งขึ้นตอนที่เสิ่นหยินอู้ยื่นมือมาจับ ความรู้สึกว่างเปล่าในใจก็ยิ่งมากขึ้นทว่าเมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของเสิ่นหยินอู้เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยตนแล้วนั้น ความรู้สึกว่างเปล่านั่นก็ค่อยๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความรู้สึกอื่นเมื่อเห็นว่าฉินเย่ไม่ตอบ แต่หน้าผากกลับมีเหงื่อไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนจะไม่สบายมาก เสิ่นหยินอู้ก็ลนลานขึ้นมา แล้วควานหาโทรศัพท์ของตน “เดี๋ยวฉันเรียกรถพยาบาลให้”จากนั้นเธอไม่ทันหยิบโทรศัพท์ ข้อมือของเธอก็ถูกฉินเย่คว้าเอาไว้แน่นฝ่ามือของฉินเย่ทั้งร้อนทั้งหนัก ราวกับไฟกระทบลงผิวของเธอปานนั้นเขาจั

    Terakhir Diperbarui : 2024-07-21
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 272

    เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่หลุบตาพิงอยู่อย่างนั้น เขาที่เพิ่งผ่านความเจ็บปวดมา ภายใต้ความสลัวทำให้เขาดูเหมือนคอตกอย่างไรอย่างนั้น ดูน่าสงสารจับใจเสิ่นหยินอู้เองก็ไม่รู้ว่าทำไมตนถึงมีความคิดแบบนี้ออกมาแต่กล่าวตามตรง ฉินเย่เมื่อกี้นี้ ทำเอาเธอตกใจมาก รู้จักเขามาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นเขาเจ็บปวดขนาดนั้นเมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็หรี่ตาสำรวจมองฉินเย่“นายเป็นอะไรกันแน่? คงไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงรักษาไม่หายอะไรหรอกมั้ง?”ฉินเย่ที่เดิมคอตกอยู่ได้ยินดังนั้นก็เงยหน้ามองเธออย่างหมดคำพูด“โรคร้ายแรงรักษาไม่หาย?” เขาหัวเราะเยาะ “ทำไม? เธออยากให้ฉันตายเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”“แล้วทำไมนายถึงไม่ยอมไปโรงพยาบาลล่ะ?”ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังเจ็บปวดทรมานมากอยู่ แต่ก็ไม่ยอมไปโรงพยาบาล การกระทำแบบนี้ ตัวเขาเองไม่คิดว่าแปลกเหรอ?ไม่รอให้เขาตอบ เสิ่นหยินอู้คิดจะถามต่อไปอีก ทว่าฉินเย่กลับปลดล็อกประตูรถ แล้วเอ่ยเสียงแหบว่า “ขึ้นไปเถอะ”เสิ่นหยินอู้อยากพูดอะไรต่อ แต่เมื่อเห็นเขาไม่สบอารมณ์ราวกับไม่อยากสาธยายกับตนต่อ เธอก็ไม่อยากใส่ใจอีกต่อไปก็จริง ถึงแม้ฉินเย่จะเป็นอะไร ก็ไม่ต้องให้ภรรยาที่จะ

    Terakhir Diperbarui : 2024-07-21
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 273

    หลังจากพูดประโยคนี้จบ ฉินเย่ก็คิดในใจ (เขาจะไม่ปล่อยให้ใครมาแตะต้องเธอแม้แต่ปลายนิ้ว)ไม่คิดว่าเสิ่นหยินอู้ได้ยินคำพูดของเขาแล้วจะเพียงแค่ยิ้มตอบเบาๆ“ไม่เป็นไรหรอก นายเองก็ต้องไปตามหาคน ถ้าฉันเป็นนาย ฉันก็คงทำแบบนั้น ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะเหตุจำเป็น”ได้ยินดังนั้น ฉินเย่ก็อดไม่ได้ยิ้มเจื่อนเขาควรจะตอบว่าอะไร?ภรรยาของเขาใจกว้างจริงๆ เกิดเรื่องแบบนี้แล้วยังคิดหาเหตุผลให้เขาอีก?แต่ความใจเย็นของเธอก็บ่งบอกเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง…“เอาเถอะน่า ฉันจะเตรียมตัวพักผ่อนแล้ว นายเองก็เข้านอนเร็วหน่อยแล้วกัน”เสิ่นหยินอู้กลัวว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป บทสนทนาระหว่างทั้งสองจะยิ่งอยู่ยิ่งอึดอัด จึงได้จบบทสนทนาด้วยตัวเองเสียเลยเมื่อได้ยินว่าเธอจะพักผ่อน ฉินเย่เองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อไป“เธอพักผ่อนก่อน ฉันจะออกไปข้างนอกแป๊บหนึ่ง”เสิ่นหยินอู้ชะงัก แล้วพยักหน้า “โอเค ขับรถดีๆ”ขณะที่ออกจากบ้านตระกูลฉิน แล้วขึ้นรถไปอีกครั้ง แววตาของฉินเย่ก็ลุ่มลึกมากบริเวณทรวงอก ดูเหมือนมีบางอย่างติดอยู่ กลืนไม่เข้าคายก็ไม่ออกทั้งๆ ที่เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น แต่น้ำเสียงที่เธอพูดกับเขากลับยังคงเกรงอกเกรงใจ อ่อนโยน

    Terakhir Diperbarui : 2024-07-22
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 274

    ขอแค่เป็นผู้มีพระคุณของเขาหนึ่งวัน เขาก็ไม่มีทางทำไม่ดีกับตนงั้นเหรอ?ก็จริง คนตระกูลฉินให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ไม่อย่างนั้นหลายปีมานี้ตระกูลเจียงไม่มีทางก้าวกระโดดได้เร็วเพียงนี้หรอกแต่ว่าเจียงฉูฉู่กลับคิดถึงอีกเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ หากมีอยู่วันหนึ่ง ฉินเย่พบว่าผู้ช่วยชีวิตเขาจริงๆ คือเสิ่นหยินอู้ ไม่ใช่ตนเข้าด้วยอุปนิสัยของเขาแล้ว เขาอาจจะฆ่าตนก็เป็นได้!เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แผ่นหลังของเจียงฉูฉู่ก็เหงื่อแตกทันทีโชคดีที่ในตอนนั้นนอกจากเสิ่นหยินอู้กับตนแล้ว ไม่มีพยานคนอื่นอีก หากเรื่องนี้มีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยล่ะก็ เธอต้องจบเห่แน่ๆ“เอาอย่างงี้ เรื่องสองคนนั้นที่หนูพูดถึง เดี๋ยวพ่อจัดการเอง หนูไม่ต้องห่วง ขอแค่ประจบฉินเย่ให้ดีก็พอแล้ว”เมื่อได้ยินคำว่าประจบแล้ว เจียงฉูฉู่ก็ไม่สบอารมณ์ทันใด“พ่อคะ ประจบประเจิบอะไรกัน? ความสัมพันธ์ของหนูกับเย่เท่าเทียมกัน หนูไม่ใช่ผู้หญิงที่ขี้ประจบฉินเย่พวกนั้นหรอกนะคะ”“ใช่ๆๆ ฉูฉู่ของเราดีที่สุดแล้ว ฉินเย่ต้องชอบหนูสิไม่ว่า”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ พ่อเจียงก็เห็นแผลที่หน้าผากของเจียงฉูฉู่อีกครั้ง“ส่วนแผลที่หน้าผากของหนู ฉูฉู่เ

    Terakhir Diperbarui : 2024-07-22
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 275

    หลังจากที่มาถึงโรงพยาบาล เสิ่นหยินอู้เห็นคุณนายฉินที่ดีขึ้นมากแล้ว ก็ดีใจมาก เอาแต่นั่งอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาคุณนายฉินเห็นเธอเช่นนั้น ก็เหมือนกับเห็นเด็กน้อยวัยสิบกว่าปี อารมณ์ก็พลอยดีไปด้วย“คุณย่าคะ หิวน้ำไหมคะ? เจ็บแผลไหม? ง่วงไหม? อยากกินอะไรไหม หรือว่าอยากจะนอนต่ออีกสักหน่อยไหมคะ? หรือว่าถ้านอนไม่หลับ ให้หนูเล่านิทานให้ฟังไหมคะ?”อาจเป็นเพราะตื่นเต้นเกินไป ทำให้เสิ่นหยินอู้ไม่ทันสังเกตว่าคำพูดของตนนั้นผิดปกติแต่คุณนายฉินก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอ เพียงแค่พูดว่า “ย่าไม่ง่วง ในเมื่อหยินอู้ของย่าจะเล่านิทานให้ฟัง ถ้างั้นย่าขอฟังนิทานสักหน่อยค่อยหลับแล้วกัน”หลังจากนั้น เสิ่นหยินอู้ก็เริ่มเล่านิทานต่างๆ นานาให้คุณนายฉินฟังคุณนายฉินฟังอย่างได้อารมณ์ มุมปากยกขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนแม่ฉินที่ฟังอยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้สำรวจมองเธอ ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าลูกสะใภ้คนนี้เข้าท่าจริงๆเพราะว่า หากเปลี่ยนเป็นตนล่ะก็ เธอคงไม่มีความอดทนมากขนาดเล่านิทานให้คนแก่ฟังหรอก แถมในสถานการณ์ที่ไม่เห็นภาพ ยังสามารถเล่าได้ดีขนาดนี้ด้วยสุดท้ายภายใต้เสียงอันอ่อนโยนของเสิ่นหยินอู้ ทำให้คุณนายฉินเคลิ้มหลับไปรอให้เธอหล

    Terakhir Diperbarui : 2024-07-22

Bab terbaru

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 864

    "ดีใจค่ะ" เสิ่นเหมิงเหมิงเอื้อมมือออกไปด้วยความดีใจและคิดจะเข้าไปกอดเธอ แต่นี่เป็นบนเครื่องบิน และทั้งคู่ก็คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถกอดหยินอู้ได้เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงยื่นมือออกมาให้เหมิงเหมิงจับมือเธอเพื่อแสดงความดีใจออกมา “หม่ามี๊คะ แล้วลุงเย่มู่รู้หรือเปล่า?”เขารู้หรือเปล่าเหรอ? มุมปากของเสิ่นหยินอู้โค้งขึ้น สีหน้าของเธออ่อนโยนขึ้น เดี๋ยวพอกลับถึงจีนเขาก็คงจะรู้เองแหละ "เดี๋ยวก็รู้แล้วจ๊ะ" “หม่ามี๊คะ แล้วคุณปู่กับย่าเข้ากับคนง่ายไหมคะ? พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่หรอคะ?” “ใช่แล้ว พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่ พวกเขาอ่อนโยนมาก แล้วก็เข้ากับคนง่าย ไม่ต้องห่วง พวกเขาคือ…” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็พูดว่า "พวกเขาคือปู่กับย่าแท้ๆของลูก" หลังจากได้ยิน ดวงตาของเหมิงเหมิงก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ “ปู่กับย่าเหรอคะ?” "อืม" เสิ่นหยินอู้ลูบหัวของเหมิงเหมิงและมองไปที่เสิ่นซือเหนียน: "เหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิง ลูกเข้าใจสิ่งที่หม่ามี๊พูดไหม? ลุงเย่มู่เป็นพ่อแท้ๆของลูก" เสิ่นซือเหนียนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นการบอกว่าเขาเข้าใจ อย่าง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 863

    อารมณ์ของเธอในเที่ยวบินขากลับแตกต่างไปจากในตอนขามาอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ไม่ได้ถือว่าดีมากนัก สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกว่าโชคดีก็คือการที่ไม่ว่าจะเป็นขามาหรือขากลับ ลูกๆทั้งสองคนของเธอก็ล้วนอยู่ข้างกายเธอ หลังจากที่หลี่มู่ถิงได้รับข้อความจากฉินเย่ เขาก็เล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับเด็กๆสองคนให้คุณพ่อคุณแม่ฉินฟังก่อนขึ้นเครื่องบิน หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ฉินรู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ตกใจและเงียบไปนาน ในที่สุดพวกเขาก็พูดว่า "เราจะกลับไปเดี๋ยวนี้ เที่ยวบินของพวกคุณคือเที่ยวไหน เดี๋ยวถึงแล้วเราจะไปรับ" หลังจากที่หลี่มู่ถิงบอกเสิ่นหยินอู้เกี่ยวกับสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ฉินบอกมา เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เนื่องจากเธอไม่ได้เจอพวกเขามานานแล้ว เมื่อนึกถึงห้าปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เธอจากไป เธอจึงไม่รู้ว่าจะทักทายพวกเขาได้อย่างไรเมื่อต้องพบกันอีกครั้ง หลี่มู่ถิงไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ เขาทำได้เพียงคาดเดาจากการดูสีหน้าของเธอเท่านั้น เมื่อเห็นเธอดูไม่ค่อยมีความสุข เขาจึงถามด้วยท่าทีระมัดระวัง: "คุณหนูเสิ่น ประธานฉินบอกผมว่าถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจหรือกังวลอะไร คุณบอกผมได้เสมอ และเรื่องนี้ก็สามารถล้มเลิก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 862

    ขณะที่ทั้งสามคนกำลังคุยกัน พวกเขาก็เดินไปที่ประตู ดังนั้นเสียงของพวกเขาจึงดังลอดผ่านประตูเข้าไปถึงหูของเสิ่นหยินอู้ได้อย่างชัดเจน เสิ่นหยินอู้ชะงักไปชั่วคราว เธอเงยหน้าขึ้นมองฉินเย่ กดเสียงลงแล้วพูดว่า "ฉันต้องออกไปแล้ว ไม่งั้น..." คำพูดของเธอถูกขัดจากการที่ฉินเย่โน้มตัวเข้าไปหาเธออย่างกะทันหันลมหายใจที่ร้อนรุ่มของฉินเย่กระทบเข้ากับใบหน้าของเธอ ออร่าของเขาปกคลุมเธอเธอไว้ และริมฝีปากบางแนบกดลงไปบนมุมปากของเธอ เสียงของเขาแหบห้าว: "ขอจูบอีกที" ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็จูบเธออีกครั้งในทันทีโดยไม่รอให้ได้ทันเธอโต้ตอบอะไรทั้งนั้น "อื้อ" เสิ่นหยินอู้ยังไม่ทันได้ผลักเขาออกไปก็ถูกเขาจูบอีกครั้ง เธอส่งเสียงออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่เธอก็ตระหนักได้ว่าเสียงที่เธอเปล่งออกมาอาจทำให้คนที่อยู่นอกประตูได้ยินเข้า ดังนั้นเธอจึงรีบกลั้นเสียงนั้นไว้ในลำคอ เธอยื่นมือออกไปขวางไว้ระหว่างหน้าอกของฉินเย่ด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาที่ช่างกล้าจริงๆ เขายังทำอะไรเช่นนี้ได้ในขณะที่เด็กๆกับหลี่มู่ถิงมาตามหาเธอ... เนื่องจากเด็กๆอยู่ข้างนอก เสิ่นหยินอู้จึงไม่กล้าแม้แต่จะดิ้นขัดขืนเพราะกลัวว่าพวกเขาจะไ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 861

    “ก่อนออกเดินทาง เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนถามฉันว่าพวกเขาจะได้เจอคุณเมื่อไร”เสิ่นหยินอู้พิงอยู่ในอ้อมแขนของเขาและพูดเบาๆ "อืม" ฉินเย่ตอบแล้วพูดว่า: "พวกเขาน่ะ ผมว่าจะไม่ไปเจอ" เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นจากอ้อมแขนของเขาด้วยท่าทางสับสน: "ทำไมล่ะ? คุณมาหาฉันแล้ว แล้วทำไมไม่ไปเจอพวกเขาด้วยเลยล่ะ?" ฉินเย่ก้มหน้าลง มองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง แล้วสัมผัสริมฝีปากสีแดงของเธอเบาๆ "ไว้รอผมกลับไปค่อยเจอ แต่ผมหวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น... ในตอนที่เจอกันอีกครั้ง พวกเขาจะเปลี่ยนคำเรียกผม โอเคไหม?” เสิ่นหยินอู้กัดริมฝีปากล่างและไม่ตอบอะไร “ยังไม่ยอมอีกเหรอ?” เขาสัมผัสหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าวและต่ำ “คุณให้ผมจูบมานานขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังไม่ยอมอีกล่ะ?” เดิมทีเขารู้สึกหึงหวงเล็กน้อยที่รู้สึกว่าเขายังต้องแข่งกับโม่ไป๋อยู่ แต่หลังจากการจูบครั้งนี้ ความหึงหวงภายในใจของฉินเย่ก็หายไปในทันที เพราะเขาสัมผัสได้ถึงการตอบสนองและความไว้วางใจของเธอ ตอนนี้เพียงแค่ต้องรอให้เขาจัดการเรื่องทางนี้ให้เสร็จ และหลังจากที่กลับไป พวกเขาสี่คนก็สามารถอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 860

    แต่ดูเหมือนว่าคนๆนั้นจะสัมผัสได้ถึงเจตนาของเธอ และก่อนที่เธอจะกรีดร้องออกมา เขาก็เอื้อมมือออกไปปิดปากของเธอไว้ "อื้อ" ดังนั้นเสียงร้องของเสิ่นหยินอู้จึงกลายเป็นเสียงที่อุดอู้ขึ้นมาทันที ภายในห้องไม่ได้เปิดไฟ มีแต่ความมืดมิด บวกกับหลังจากที่เธอเข้ามา ประตูก็ถูกปิดลง เธอมองเห็นเพียงร่างสูงร่างหนึ่งตรงหน้าเธอผ่านแสงสลัวๆที่ส่องมาจากด้านนอกหน้าต่าง เสิ่นหยินอู้ไม่สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่มือและเท้าของเธอถูกพันธนาการเอาไว้ และเธอไม่สามารถขยับได้ จนกระทั่งบุคคลนั้นปล่อยมือของเขาที่ปิดปากของเธอไว้เสิ่นหยินอู้คิดจะใช้โอกาสนี้ในการร้องออกมา แต่คนตรงหน้าเธอก็รวดเร็วกว่า เขาโน้มตัวลงมาและจูบเธอ ลมหายใจอุ่นๆที่หนักหน่วงกระทบเข้ากับใบหน้าของเสิ่นหยินอู้ และในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็รับรู้ได้ถึงออร่าของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนในขณะนี้ นี่มัน…… ความประหลาดใจแวบขึ้นมาในหัวใจของเธอ และก่อนที่เธอจะทันได้ตอบสนองอะไรอื่น เธอก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายดันฟันของเธอให้แยกจากกัน ทำให้จูบนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ขณะที่พวกเขานัวเนียกัน ลมหายใจของพวกเขาล้วนมีแต่กลิ่นของทั้งคู่ เสิ่นหยินอู้ยังได้กลิ่นบุหรี่ที

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 859

    ดังนั้นการทานอาหารมื้อนี้ก็เป็นไปตามที่เสิ่นหยินอู้คาดไว้ เมื่อพวกเขากินเกือบเสร็จแล้ว แล้วก็จนอาหารเย็นชืดหมดแล้ว ฉินเย่ก็ยังไม่มาปรากฏให้เห็น ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะต้องเดินทางไปสนามบิน เสิ่นหยินอู้พาเด็กน้อยทั้งสองคนขึ้นไปชั้นบน หลังจากเข้าไปในห้องแล้ว เหมิงเหมิงก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: "หม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่อยู่ไหนล่ะคะ? เขาจะกลับมาเมื่อไร?" เสิ่นหยินอู้ตอบคำถามของเธอแบบเดียวกันกับที่หลี่มู่ถิงตอบเธอ “หม่ามี๊ก็เหมือนลุงหลี่มู่ถิงจ๊ะ ยังไม่รู้เลย เขาไม่ได้บอกหม่ามี๊ว่าเขาจะไปทำอะไร แน่นอนว่าหม่ามี๊ไม่รู้หรอกว่าเขาจะกลับมาเมื่อไร” หลังจากได้ยิน เหมิงเหมิงก็ร้อง อ่า ออกมาเบาๆ เธอขมวดคิ้วราวกับรู้สึกเป็นไม่สบายใจเพราะเรื่องนี้ “ถ้างั้นหม่ามี๊คะ ลุงเย่มู่คงจะไม่ได้จะไม่กลับมาแม้แต่ตอนเราไปสนามบินใช่ไหมคะ? แปลว่าวันนี้เราก็จะไม่ได้เจอลุงเย่มู่แล้วหรอคะ?” เนื่องจากเธอไม่ต้องการให้เด็กๆทั้งสองคนมีความหวังมากเกินไป เสิ่นหยินอู้จึงพูดว่า: "อืม ก็อาจจะเป็นแบบนี้ ลุงเย่มู่มีเรื่องหลายอย่างที่ต้องทำ เดี๋ยวเขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาจะกลับไปหาเราที่จีน” หากพู

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 858

    แม้ว่าในที่สุดเขาก็พบเธอ แต่ใครจะกล้ารับประกันกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นได้? "พอได้แล้ว" เมื่อเห็นเธอกัดริมฝีปากล่างและคิดจะพูดอะไรอื่นอีก ฉินเย่ก็เอามือใหญ่โอบไปที่เอวบางของเธอ "ไม่ต้องคิดแล้ว ในเมื่อผมเลือกที่จะอยู่ นั่นก็หมายความว่าผมมั่นใจ" “แต่... เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรทำตั้งแต่แรกนะ” “นั่วนั่ว” ฉินเย่เรียกชื่อเธอด้วยเสียงแผ่วเบา “การจะทำอะไรสักอย่างน่ะ ไม่มีคำว่าควรหรือไม่ควร มีแต่เต็มหรือไม่เต็มใจเท่านั้นแหละ” “ถ้าคุณรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ผมจะอยู่ที่นี่จริงๆ งั้นหลังจากที่ผมกลับไปที่จีนแล้วก็ลองคิดเรื่องที่จะเปลี่ยนสถานะให้ผมดูดีกว่าไหม?” เสิ่นหยินอู้เข้าใจในทันทีว่าเขาหมายถึงเรื่องการเรียกชื่อ เขาต้องการให้เด็กทั้งสองหยุดเรียกเขาว่าลุงเย่มู่และเรียกเขาว่าพ่อแทน หรือจะบอกว่า ที่เขาทำมามากขนาดนั้นก็เพียงเพื่อความปรารถนาเล็กๆน้อยๆเช่นนี้งั้นหรอ? เมื่อเธอคิดได้เช่นนั้น เสิ่นหยินอู้ก็นิ่งไป แล้วพูดว่า "คุณจะไม่บอกพวกเขางั้นหรอ?" ริมฝีปากของฉินเย่โค้งขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ได้ตอบกลับคำพูดของเธอ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดเบาๆว่า: "ครั้งนี้ ผมจะไม่ไปเจอพวกเข

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 857

    คำพูดทางจิตวิทยาเช่นนี้... ถ้าเขาบอกว่าเขาชอบลุงโม่ไป๋มากกว่า ถึงตอนนั้น... เมื่อคิดเช่นนั้น เสิ่นซือเหนียนก็พูดว่า: "ลุงโม่ไป๋อยู่กับพวกเรามานานกว่า" เมื่อได้ยิน ฉินเย่ก็กลั้นหายใจ "ถ้างั้น……" “แต่ลุงเย่มู่มาดูไลฟ์สดของเราบ่อยๆแล้วก็ให้รางวัลเราตลอดเลยด้วย” คำพูดประโยคหลังทำให้หัวใจที่กำลังจมดิ่งลงไปของฉินเย่ลอยกลับขึ้นมาอีกครั้ง เดิมทีเขาคิดว่าตามความคิดของซือเหนียน เขาคงจะหมดโอกาสแล้ว แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าคำพูดของซือเหนียนจะเปลี่ยนไป ซึ่งมันไม่ต่างกับเป็นการทำให้หัวใจของฉินเย่ลุกเป็นไฟ "แล้วไงต่อ?" ฉินเย่ยังคงรู้สึกประหม่ามากในขณะที่เขาถามคำถามนี้ออกมา เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะสนใจความคิดของเด็กคนหนึ่งมากขนาดนี้ เพราะกลัวว่าเด็กคนนี้จะไม่เลือกเขาแต่ไปเลือกคนอื่นแทน "ก็……"เสิ่นซือเหนียนจงใจพูดเสียงยาว เมื่อเห็นว่าการหายใจของฉินเย่ดูเหมือนจะติดๆขัดๆขึ้นมา เขาก็คิดว่ามันค่อนข้างน่าขันเล็กน้อย เขาจงใจเอียงศีรษะแล้วพูดว่า: "ลุงเย่มู่กับลุงโม่ไป๋เสมอกันครับ" เสมอกัน? ฉินเย่ตกตะลึง “เสมอกันงั้นเหรอ?” “ลุงเย่มู่ หรือว่าลุงคิดว่าลุงจะแพ้ลุงโม่ไป๋เหรอครั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 856

    “ซือเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของซือเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เขาถามว่ามีคุณสมบัติมากพอหรือไม่ ไม่ใช่ยินยอมหรือไม่ แม้ว่าเสิ่นซือเหนียนจะยังเด็ก แต่ความรู้ที่เขาได้เรียนมาก็มากมายพอสมควร ดังนั้นเขาจึงเข้าใจความหมายของคำพูดที่ฉินเย่พูดได้อย่างรวดเร็ว เขาตกตะลึงอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดว่า "เอ่อ...ต้องดูว่าหม่ามี๊จะยอมหรือไม่ยอมครับ" “ลุงเย่มู่หมายความว่า ถ้าไม่เกี่ยวกับหม่ามี๊ เอาแค่ความเห็นของเหนียนเหนียนเองที่เป็นความคิดที่จากใจจริงที่สุด เหนียนเหนียนคิดว่าลุงเย่มู่มีคุณสมบัติมากพอที่จะมาเป็นพ่อของเหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิงไหม?” เสิ่นซือเหนียน: "..." "ไม่ต้องกลัว" มือใหญ่ของฉินเย่วางลงบนไหล่ของเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: "แค่พูดความจริงก็พอ" สิ่งที่ซือเหนียนต้องการจะพูดอาจทำให้ฉินเย่ไม่พอใจจริงๆ แม้ว่าลุงเย่มู่จะทำอะไรให้พวกเขามากมายในช่วงที่ผ่านมานี้ บวกกับที่ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาดูพวกเขาในห้องไลฟ์สดเสมอ ความยิ่งใหญ่ของชื่อ 'ลุงเย่มู่เฉิน' ยังคงทรงพลังมากสำหรับเด็กน้อยสองคน ตัวอย่างเช่น คนแปลกหน้าคนหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นพ่อแท้ๆของพวกเขา แต่หากไม่มีฉา

DMCA.com Protection Status