แชร์

บทที่ 240

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
“นั่นมันเรื่องวันก่อนไม่ใช่เหรอ? ผ่านไปกี่วันแล้ว?”

ต้วนจื่อเหย่ “…กี่วันแล้วมันต่างกันหรือไง?”

“สรุป นายจะทำไม่ทำ? ถ้าทำพรุ่งนี้ฉันจะส่งข้อความไปให้”

หลังจากที่ถูกเธอถามเช่นนั้น ทางนั้นกลับเงียบไปชั่วขณะ

ซูเชี่ยวรออยู่พักหนึ่ง ก็ไม่ได้รับการตอบกลับของเขา จึงหรี่ตาลงเล็กน้อย “ต้วนจื่อเหย่ นายคงไม่ได้รู้สึกผิดหรอกนะ? ปากนายบอกจะแก้แค้นแทนฉูฉู่นั้นที่แท้ก็แค่พูดไปอย่างนั้นสินะ ฉันรู้อยู่แล้วว่าคำพูดของผู้ชายน่ะเชื่อไม่ได้หรอก มีแค่คำพูดลวงหลอก อย่างนายน่ะ ฉันคิดว่าจะทนได้มากกว่านี้ซะอีก”

สงสัยคำพูดของเธอจะไปแทงใจต้วนจื่อเหย่ เขาพูดอย่างไม่พอใจว่า “ใครเสียใจกัน? ฉันพูดหรือไงว่าเสียใจ? ซูเชี่ยว เธอคิดว่าฉันไม่กล้าตีผู้หญิงใช่ไหม?”

จู่ๆ เขาก็ระเบิดอารมณ์ออกมา ทำให้ซูเชี่ยวตกใจสะดุ้ง ผ่านไปนานกว่าจะรู้สึกตัว

“ฉัน ฉันคิดว่านายไม่อยากช่วยฉูฉู่แล้ว ก็เลย…”

“ฉันจะช่วยหล่อน แต่ไม่ช่วยเธอ ดังนั้นตอนที่พูดกับฉัน ให้ระวังคำพูดด้วย ไม่อย่างนั้นฉันไม่ถือสาที่จะเก็บเธอด้วยนะ เข้าใจไหม?”

หลังจากวางสาย ในใจของซูเชี่ยวเหลือเพียงคำเดียวคือ ‘โจรป่าเถื่อน’

ต้วนจื่อเหย่เป็นแค่โจรป่าเถื่อนเท่านั้น ฉู
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 241

    หลังจากที่รถแล่นออกจากอาณาเขตของตระกูลฉิน ความรู้สึกน่าขยะแขยงของเสิ่นหยินอู้เมื่อครู่นี้ถึงได้จางหายไปแต่แม้จะเป็นเช่นนั้น ความรู้สึกเมื่อครู่นี้ก็ทำให้เสิ่นหยินอู้รู้สึกอึดอัดมากหลังจากที่รถแล่นออกไป เธอก็ยังอดไม่ได้เบือนหน้ามองไปยังป่าทึบข้างนอกเป็นเพราะที่ตรงนั้นมีคนอยู่ หรือเพราะช่วงนี้เธออ่อนไหวมากเกินไปเพราะช่วงนี้เธอมักจะติดรถฉินเย่เข้างานเลิกงาน ไปไหนก็อยู่กับเขาตลอด ก็ไม่เห็นเกิดเรื่องแปลกๆ ขึ้นเลยแต่ทว่าเมื่อครู่นี้แปลกมาก“เป็นอะไรไป?”เสียงของฉินเย่แว่วเข้ามา ทำให้ดึงสติของเสิ่นหยินอู้กลับมาเธอรวบรวมสติได้ทันใด แล้วส่ายศีรษะ“ไม่มีอะไร”เสิ่นหยินอู้เม้มริมฝีปากแดงของตน คิดในใจว่าคงเป็นเพราะคุณย่าต้องเข้ารับการผ่าตัด เธอก็เลยจิตใจไม่แน่วแน่ ส่งผลให้เธอคิดมากล่ะมั้ง?ฉินเย่มองเธอแวบหนึ่ง เมื่อเห็นสีหน้าของเธอยิ่งแย่ลงกว่าเดิม จึงได้มองไปยังสถานที่ที่เสิ่นหยินอู้มองผ่านทางกระจกมองหลังเธอเอาแต่มองที่ตรงนั้นตลอด ฉินเย่สอดส่องอยู่หลายที ก็ไม่พบว่าจะพิเศษตรงไหนสุดท้ายฉินเย่เพียงแค่คิดว่าเธอเป็นห่วงคุณย่ามากเกินไปถึงได้เป็นเช่นนี้สงสัยจะเป็นเพราะเรื่องในอดีต

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 242

    แต่เธอจะตอบตกลงเร็วไปไม่ได้ เดี๋ยวจะถูกซูเชี่ยวจับได้เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจียงฉูฉู่เพียงแค่เผยสีหน้ายิ้มแย้มออกมา และไม่ได้ตอบตกลงในทันทีเมื่อเห็นท่าทีของเธอแล้ว ซูเชี่ยวก็พยายามกล่าวว่า “ฉูฉู่ การผ่าตัดเป็นเรื่องใหญ่ เธอเพียงแค่วิ่งออกไปเพราะความเป็นห่วงเท่านั้น ยังไงฉินเย่ก็จะหย่าแล้วมาคบกับเธออยู่แล้ว ต่อไปหากคุณนายฉินรู้ว่าเธอป่วย แต่ก็แอบไปเยี่ยมท่าน ท่านต้องซาบซึ้งใจมากแน่นอน”เจียงฉูฉู่ลังเลเล็กน้อย “เธอพูดแบบนี้ก็ฟังดูมีเหตุผลเหมือนกันนะ”“ใช่ไหมล่ะ?”“ถ้างั้น…ฉันคิดดูก่อนแล้วกัน”“อืม ยังไงซะคุณนายฉินเข้าผ่าตัดตอนเย็นนู้น เธอค่อยๆ คิดก็ได้”เมื่อมาถึงช่วงเย็น เจียงฉูฉู่ถึงบอกซูเชี่ยวว่า “ฉันคิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเธอพูดถูก ทำตามที่เธอพูดแล้วกัน”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ริมฝีปากของเจียงฉูฉู่พลางเผยรอยยิ้มเขินอายออกมา “ฉันว่าเดี๋ยวก็ไปเลย แต่คนที่โรงพยาบาลน่าจะไม่อนุญาต เธอช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”“ได้อยู่แล้ว”ซูเชี่ยวยกมุมปากขึ้นอย่างได้ใจ เธอต้องการผลลัพธ์นี้แหละ ดีมากที่เจียงฉูฉู่ยอมเล่นตามน้ำด้วยดังนั้นเธอจึงออกไปโทรศัพท์หาต้วนจื่อเหย่บอกว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว ให้เขาหาโอกา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 243

    ไฟในห้องผ่าตัดสว่างขึ้นอย่างรวดเร็ว ญาติผู้ป่วยได้แต่รอคอยอยู่ข้างนอกเสิ่นหยินอู้ถูกฉินเย่พาไปนั่งตรงเก้าอี้ข้างๆแม้จะนั่งลงแล้ว แต่ไม่รู้ทำไม เสิ่นหยินอู้ถึงได้รู้สึกไม่ชอบมาพากลคิ้วงามของเธอขมวดมุ่นอยู่ตลอดเวลาด้วยความไม่สบายใจไม่รู้เพราะอะไร ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ เธอถึงรู้สึกแปลกๆแต่เพราะเธอมุ่งความสนใจไปที่คุณย่าทั้งหมด ก็เลยไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นอีกอย่างคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอ…ฉินเย่ ก็คอยจับมือเธอไว้ไม่ปล่อยตั้งแต่ตอนนั้นแรงบีบในมือของเขาหนักมาก อีกอย่างอุณหภูมิในฝ่ามือของเขาก็อบอุ่นมากด้วย ไออุ่นนั้นคอยถ่ายทอดสู่เธอไม่หยุด ทำให้เสิ่นหยินอู้รู้สึกสบายใจมากไม่น้อยหากไม่ใช่ฉินเย่ล่ะก็ เธอคงกังวลมากกว่านี้ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าของฉินเย่ก็สั่นขึ้นมาตั้งแต่ที่คุณย่าเข้าห้องผ่าตัดไป ฉินเย่ก็ปรับโทรศัพท์ให้อยู่ในโหมดสั่นทันที อีกอย่างคนในบริษัทต่างก็รู้ว่าคุณนายฉินต้องเข้ารับการผ่าตัด ไม่มีใครโทรหาเขาในช่วงนี้แน่นอนคนที่จะโทรหาเขาได้ในตอนนี้…เสิ่นหยินอู้มองไปยังฉินเย่โดยสัญชาตญาณฉินเย่เม้มริมฝีปาก สบตากับเธอครู่หนึ่ง แล้วหยิบโทรศัพ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 244

    “โทรศัพท์คุณสั่นอีกแล้ว ไม่รับสายเหรอ?”ได้ยินดังนั้น ฉินเย่พลันเม้มริมฝีปาก แล้วกล่าวว่า “ตอนนี้มันอยู่ในมือเธอ”หมายความว่ายังไง?เขากำลังจะบอกว่ามอบอำนาจในการรับสายให้กับตนงั้นเหรอ?แรกเริ่มเดิมที เสิ่นหยินอู้ยังแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ได้ ให้ก็ให้สิ คิดว่าเธอจะใจอ่อนหรือไง?แต่ทว่าพอตอนหลัง โทรศัพท์เอาแต่สั่นอยู่ในกระเป๋า ทำให้เธอรู้สึกรำคาญขึ้นมาเธอมองฉินเย่ “ถ้าฉันปิดเครื่องโทรศัพท์นาย แล้วนายพลาดบางอย่างไป นายจะโทษฉันไหม?”สายตาฉินเย่จ้องไปที่ใบหน้าของเธอตรงๆ“ตั้งแต่เด็กจนโต ฉันเคยโทษอะไรเธอบ้าง?”พอพูดเช่นนี้กลับทำให้เสิ่นหยินอู้รู้สึกชะงัก“โอเค นายพูดเองนะ ถ้างั้นฉันจะปิดเครื่องแล้ว รำคาญชะมัด”กล่าวจบ เสิ่นหยินอู้ก็หยิบโทรศัพท์ของเขาออกจากกระเป๋า เพราะว่าอยู่ในโหมดสั่น ทำให้สามารถเห็นสายที่ไม่ได้รับจำนวนสี่ห้าสายจากเจียงฉูฉู่ได้จากหน้าจอโทรศัพท์โทรมาในเวลานี้…สงสัยเธอคงจะถามฉินเย่เกี่ยวกับการผ่าตัดของคุณย่าสินะ?ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น โทรศัพท์พลันสั่นขึ้นอีกครั้งแต่ทว่าครั้งนี้กลับไม่ใช่สายเรียกเข้า แต่เป็นข้อความ ซึ่งถูกเสิ่นหยินอู้เห็นเข้าพอดี“คุณชายฉิ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 245

    ขณะที่เธอยื่นโทรศัพท์ออกไป ฉินเย่ก็ได้เห็นรายละเอียดทั้งหมดแล้วเสิ่นหยินอู้เห็นว่าดวงตาของเขาหรี่ลงอย่างชัดเจน คงเป็นเพราะเป็นห่วงเรื่องที่เจียงฉูฉู่หายตัวไปเธอเบือนหน้าหนี กำลังจะถอดเสื้อคลุมบนตัวออก แต่ทว่ากลับได้ยินฉินเย่พูดว่า “ฉันออกไปแป๊บหนึ่งนะ”แม้จะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ทว่าตอนที่ได้ยินเขาพูดเองกลับให้ความรู้สึกต่างกันเสิ่นหยินอู้ตอบเบาๆ ว่า​โอเค จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมคืนให้กับเขาแววตาของฉินเย่เปลี่ยนไป แล้วจับมือเธอไว้ “ไม่ต้อง เธอใส่ไว้เลย”ได้ยินดังนั้น เสิ่นหยินอู้พลันชะงัก “แต่ว่าข้างนอกหนาวนะ”“ฉันเป็นผู้ชาย” น้ำเสียงของฉินเย่หนักแน่น “เธอใส่ไว้เถอะ ฉันไปแป๊บเดียวก็กลับ”กล่าวจบ เขาก็หันหลังมองไฟห้องผ่าตัดแวบหนึ่ง“ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมง ฉันจะกลับมาภายในหนึ่งชั่วโมง มีเรื่องอะไรก็โทรหาฉันนะ”เสิ่นหยินอู้เม้มริมฝีปาก แล้วตอบเบาๆ ว่า “โอเค นายไปบอกพ่อกับแม่ด้วย”“อืม”ฉินเย่พยักหน้าจากนั้นเขาปล่อยมือออก แล้วไปหาพ่อฉินแม่ฉินทันทีที่แม่ฉินได้ยินว่าเขาจะออกไป ก็จ้องเขาด้วยสายตาไม่พอใจ“นี่มันเวลาไหนแล้ว แกยังจะออกไปอีก? แกเห็นย่าเป็นอะไรกัน?”ฉินเย่เม้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 246

    เมื่อได้ยินดังนั้น แม่ฉินก็จ้องเขาเขม็ง “พูดอะไรของคุณ!”พ่อฉินเพียงแค่ยิ้มไม่พูดจาแม่ฉินกลับนึกบางอย่างออก แล้วเอ่ยกับพ่อฉินว่า “คุณนั่งรอที่นี่ไปก่อนนะ ฉันจะไปหาหยินอู้”“อืม”เสิ่นหยินอู้พาดเสื้อคลุมของฉินเย่เอาไว้นั่งอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นแม่ฉินเดินเข้ามาหาตน ก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูกเป็นไปตามคาด หลังจากที่แม่ฉินนั่งลงข้างๆ เธอ ก็ถามเธอทันทีว่า “เห็นเขาออกไปหาผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ ไม่รู้สึกเจ็บใจ หรือเสียใจเลยเหรอ?”เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงตอบเบาๆ ว่า “เขาไปตามหาคน ไม่ได้ทำอย่างอื่นสักหน่อย”“แค่นี้จริงๆ เหรอ?”เสิ่นหยินอู้ไม่ตอบ“พวกเธอเป็นสามีภรรยากัน บางทีไม่จำเป็นต้องใจกว้างขนาดนั้นก็ได้ อะไรควรงอนก็งอน เป็นคนเห็นใจคนอื่นแบบนี้ตลอด จะทำให้เขาคิดว่าเธอไม่รักเขาได้นะ”นั่นน่ะสิ เหตุผลนี้ เสิ่นหยินอู้จะไม่เข้าใจได้อย่างไร?แต่ทว่า…เธอกับฉินเย่แค่แต่งงานกันปลอมๆ ตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรไปงอนเขาล่ะ?เมื่อเห็นเธอไม่พูดจา แม่ฉินที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่พลันมีความรู้สึกไม่แก่ดัดยากอย่างไรอย่างนั้น“ช่างเถอะๆ พวกเธอสองคนไม่มีเรื่องอะไรกันก็ดีแล้ว ฉันที่เป็นผู้ใหญ่ก็ไม่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 247

    เมื่อเธอฟื้นขึ้น ก็พบว่าอยู่ในโกดังซอมซ่อแห่งหนึ่งเสิ่นหยินอู้รู้สึกว่าหนักอึ้งที่ศีรษะ ร่างกายอ่อนแอไร้เรี่ยวแรงเสิ่นหยินอู้กวาดสายตามองไปรอบๆ พบว่าที่แห่งนี้เป็นโกดังซอมซ่อแห่งหนึ่ง ขณะสูดหายใจยังได้กลิ่นชื้นๆ เย็นๆ และเหม็นสาบมือและเท้าของเธอก็ถูกมัดไว้เช่นกัน สถานที่ที่เธออยู่ในตอนนี้มีกล่องกระดาษเก่าๆ วางเต็มไปหมดแท้จริงแวเธอพอจะเดาได้แล้วว่าเป็นฝีมือของใครเสิ่นหยินอู้เม้มปาก สูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดบริเวณหน้าท้อง เธอถึงได้โล่งใจเธอกลัวว่าตนจะถูกทำร้าย แต่ทว่านอกจากถูกมัดด้วยเชือกแล้ว ก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ เลยขณะที่ครุ่นคิดอยู่นั้น ก็มีเสียงดังมาจากนอกโกดังประตูเหล็กถูกเปิดออก ตามด้วยเสียงอันหนักอึ้ง บรรยากาศมึดสลัวในโกดังถูกแสงสว่างครอบคลุมอีกครั้งเสิ่นหยินอู้เห็นต้วนจื่อเหย่มาพร้อมกับถึงใบหนึ่งปัง!ประตูเหล็กถูกปิดลงอีกครั้ง ในโกดังค่อยๆ มืดลงต้วนจื่อเหย่ค่อยๆ เดินเข้าไปหาเธอ แล้วโยนถุงไว้ข้างๆ เธอ จากนั้นย่อตัวลงตรงหน้าเธอเสิ่นหยินอู้มองเขาอย่างเรียบนิ่งหลังจากนั้น ต้วนจื่อเหย่ก็เอ่ยขึ้น “ฉันจะเอาเทปปิดปากออกให้ แต่ถ้าเธอกล้าส่ง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 248

    “ใช่แล้วยังไง? ถ้าฉันไม่ชอบหล่อน แล้วทำไมฉันต้องจับตัวเธอเพราะหล่อนด้วย?”“แสดงว่า นายอยากเสียสละตัวเองเพื่อแก้แค้นฉันแทนหล่อนสินะ?”“เธอว่าอะไรนะ?”เสิ่นหยินอู้ไม่มองหน้าเขา เพียงแค่มองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า “ฉันจำได้ว่าคราวก่อนนายเคยบอกกับฉันว่า นายรู้สึกว่านายไม่มีมูลค่าต่อสังคมในสายตาพวกเราเลย”ได้ยินดังนั้น ต้วนจื่อเหย่พลันหรี่ตาลง“นายจำได้ไหมว่าตอนนั้นฉันถามนายว่าอะไร? นายคิดว่าคนแบบไหนถึงจะสามารถช่วยเหลือสังคมได้? นี่คือคำตอบของนายเหรอ?”ต้วนจื่อเหย่อ้ำอึ้งอยู่กับที่เมื่อเห็นเขาเช่นนี้ เสิ่นหยินอู้พลันยกมุมปากขึ้น “หรือว่า นายสร้างมูลค่าอะไรให้กับตนเอง? หลังจากได้ยินเพื่อนเจียงฉูฉู่บอกว่าฉันทำร้ายหล่อนแล้ว นายเคยสืบหาความจริงแม้แต่เรื่องเดียวไหม?”“สืบหาความจริง?” ต้วนจื่อเหย่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ยิ่งไม่คิดว่าเสิ่นหยินอู้จะแนะแนวทางใหม่ให้กับเขาด้วยเสิ่นหยินอู้มองเขาอย่างน่าขัน“หมายความว่า นายไม่เคยสืบหาความจริงเลย จากนั้นก็มาลักพาตัวฉันเลยใช่ไหม? ถ้างั้นฉันขอถามนาย หลังจากที่ลักพาตัวแล้วล่ะ? นายคิดเหรอว่าตำรวจจะไม่สามารถตามตัวนายเจ

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status