"??" แค่ได้กลิ่นอาหารที่เขาส่งเข้ามา ก็ยั่วน้ำลายแทบจะอดทนไม่ไหวอยู่แล้ว แต่หญิงสาวต้องทำเป็นใจแข็งเข้าไว้เดี๋ยวเขารู้"ปิดหน้าต่างดีๆ แล้วก็ล็อกไว้ด้วย" ว่าแล้วชายหนุ่มก็กระโดดข้ามรั้วออกไปทางเดิม"เป็นบ้าอะไรของเขา" ทอรุ้งปิดหน้าต่างแล้วก็ล็อกไว้ ถึงแม้เขาไม่บอกเธอก็ทำแบบนี้อยู่แล้ว เพราะบ้านชั้นเดียว "เย็นตาโฟ??" ทีแรกแค่สงสัยแต่พอเปิดถุงออกมาได้กลิ่นก็รู้ได้ในทันทีว่ามันคือเย็นตาโฟร้านป้าที่เธอกำลังตามหาอยู่ทอรุ้งอดไม่ได้ที่จะมองผ่านหน้าต่างออกไปอีกครั้ง เขารู้ได้ยังไงว่าเธออยากจะกินเย็นตาโฟร้านนี้ เรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะอาจจะรู้มาจากเพื่อนของเธอก็ได้ ..แต่เขารู้ได้ยังไงว่าป้าย้ายร้านไปอยู่ที่ไหน?หญิงสาวทิ้งความสงสัยไว้แค่นั้นก่อนเพราะตอนนี้ไอ้ดื้อที่อยู่ในท้องกำลังประท้วงเมื่อได้กลิ่น เธอเลือกที่จะเอาเข้ามาทานในห้องนอน เพราะกลัวแม่ออกมาเจอ เดี๋ยวก็ถามอีกว่าไปซื้อมาจากที่ไหนในเวลานี้ทานไปได้แค่ไม่กี่คำก็รู้สึกตื้นตันจนห้ามน้ำตาไว้ไม่อยู่ "พ่อซื้อมาให้หนูทาน ทำไมหนูทานน้อยจังล่ะลูก" เสียงพูดปนเสียงสะอื้น เพราะเธอไม่คิดว่าเขาจะขับรถไปซื้อถึงในตัวเมือง ระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆห
"??" หญิงสาวยืนตัวแข็งทื่อ เมื่อได้ยินสิ่งที่คนในห้องกำลังคุยโทรศัพท์อยู่"แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ" ศักดิ์พ่อของดินรีบออกมาเปิดประตูแง้มดู เพราะรู้สึกผิดสังเกต "ก็ไม่มีอะไรนี่" แล้วศักดิ์ก็รีบลบเบอร์ที่เพิ่งจะโทรออกจากเครื่อง เพราะทุกตัวเลขเขาจำไว้ในหัวไม่จำเป็นต้องได้เมมไว้ในเครื่องทอรุ้งเดินออกมาจากบ้านดิน ก็เห็นแม่ของเขาและแม่ของเธอเดินมาจาก ซอยร้านค้าในหมู่บ้านพอดี"แม่นึกว่าหนูไปทำงานแล้ว""กำลังจะไปค่ะ" ทอรุ้งเดินตรงออกมาหามอเตอร์ไซค์ด้วยมือไม้ที่สั่น เธอตกใจมากกับสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้มาหญิงสาวไม่เป็นอันช่วยป้าขายของเลย มัวแต่คิดถึงความรู้สึกของเขา แต่เรื่องนี้เธอจะเก็บไว้ไม่ได้ และบอกน้าเดือนก็ไม่ได้ ยังไงต้องคุยกับเขาก่อน อยู่ที่เขาแล้วว่าจะบอกแม่ไหม ..พอคิดได้แบบนี้ทอรุ้งก็รอเวลาตอนที่เขากลับมาบ้านก่อน แต่ถ้ากลับมาแล้วจะเอาเวลาไหนคุยกัน ผู้ใหญ่ก็อยู่เต็มบ้านแบบนี้ใกล้เวลาที่เขาจะกลับ เธอก็เลยมาดักรอที่หน้าหมู่บ้าน และเป็นแบบที่คิดไว้"ดิน" ทอรุ้งโบกรถมอเตอร์ไซค์ของดินให้หยุด"เธอมาทำอะไรอยู่ตรงนี้""เรามีเรื่องอยากจะบอกนาย""บอกเราเรื่องอะไร..หรือว่า" เขาถามกลับไปแบบตกใจพร้อมกับมอ
"ดิน..ดิน.." ขณะเดินมาที่รถหญิงสาวพยายามส่งเสียงเรียกชื่อให้เขาออกมาส่องดู แต่ก็เงียบ ถ้าเธอไปหาหมอกับพ่อและแม่ พวกท่านต้องรู้แน่ว่าอาการที่เธอเป็นอยู่มันคืออะไร"ดินยังไม่ตื่นหรอกลูก เมื่อวานนี้สอบวันสุดท้ายคงจะเหนื่อย แล้วนั่นจะไปไหนกัน" คนที่ตอบออกมากลับเป็นแม่ของเขา"ก็รุ้งน่ะสิอาเจียนหลายครั้งแล้ว ดูผิดปกติฉันก็เลยจะพาไปหาหมอก่อน" คนที่ตอบก็คือแม่ของเธอ"ถ้าฉันไม่ยุ่งเตรียมของให้พี่ศักดิ์ ก็คงจะไปเป็นเพื่อน""ไม่เป็นไรหรอกพร จะไปคลินิกแถวนี้เอง ไม่ไปถึงโรงพยาบาลหรอกคนเยอะ"พูดคุยกันรู้เรื่องเดือนก็เลยพาลูกสาวออกมาโดยพ่อของทอรุ้งเป็นคนขับเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น คนร่างหนาที่นอนหลับอยู่ถึงกับสะดุ้ง"ดีนะที่ตั้งนาฬิกาไว้" ชายหนุ่มปิดนาฬิกาปลุกที่ตั้งจากโทรศัพท์มือถือไว้ แล้วก็ลุกขึ้นอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ..พอออกมาข้างนอกก็เห็นว่าแม่กำลังเก็บผ้าพับใส่กระเป๋า คงจะเป็นของพ่อ เขาก็เลยไม่สนใจ"ดินจะไปไหนลูก" แม่เห็นหลังไวๆ ก็เลยรีบเดินออกมาถามดู"วันนี้มีสอนพิเศษรุ่นน้องครับ""ลูกจะกลับง่ายไหม บ่ายแก่ๆ พ่อก็จะเดินทางแล้วนะ""เดินทางโดยสวัสดิภาพครับ" พูดแค่นี้เขาก็ออกจากบ้านไป ใช่แล้วเรื่อ
ดินไม่ได้มองแค่หน้าของทอรุ้ง สายตาคมยังกรอกมองไปที่พ่อและแม่ของเธอ มันผิดสังเกตแล้ว ..ถ้าไม่ติดที่เธอห้ามไม่ให้บอกใคร เขาก็คงจะไม่คิดมากขนาดนี้"รุ้งอิ่มแล้วค่ะ" หญิงสาวรีบออกมาเพราะถ้าเธอยังนั่งอยู่ตรงนั้น ยิ่งจะทำให้แม่กับพ่อลำบากใจ"ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าเดือน" ธิมาพรเห็นทุกคนดูเงียบไปเมื่อถามเรื่องอาการป่วยของทอรุ้ง"ผมกลับบ้านก่อนนะครับ" ดินรีบกลับมาที่บ้านของตัวเอง ชายหนุ่มเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่หัวเตียงขึ้นมากดโทรออก>>สายแรกถูกตัดไปแต่เขาก็ไม่ละความพยายาม ยังโทรไปสายที่สอง แต่ปลายสายก็ปล่อยให้ดังอยู่แบบนั้นจนตัดไปเอง {"ถ้าเธอไม่ยอมรับสาย รู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้น"} ชายหนุ่มเลือกส่งข้อความไลน์เข้ามา พอเห็นอีกฝั่งเปิดอ่านเขาก็กดโทรออก>>{"พูดความจริงมา"} {"ฉันไม่มีอะไรจะพูด"}>>{"จะไม่มีได้ยังไง เปิดหน้าต่างซิ"}ทอรุ้งรีบเดินมาเปิดผ้าม่านดู ก็เห็นเขายืนอยู่นอกหน้าต่างห้องนอนของเธอ"นายกลับไปซะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับมองไปทางประตูห้อง กลัวว่าพ่อกับแม่จะได้ยิน "กลับไป" ทอรุ้งวางสายแล้วพูดกับเขาตรงนั้น"เปิด!"หญิงสาวส่ายหน้าเพื่อเป็นการปฏิเสธ"ได้..ถ้าไม่เปิดเดี๋ยวรู้กัน" ว่
พอดินกลับมาถึงก็เห็นพ่ออยู่ที่บ้านแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้พูดคุยอะไรด้วย ชายหนุ่มเดินผ่านหน้าผู้เป็นพ่อไป"จะไม่คุยอะไรกับพ่อหน่อยเหรอ""จะให้ผมคุยอะไร" เขาหยุดแต่ก็ไม่ได้หันกลับมา"ตกลงเราจะเอาใครกันแน่ เห็นบอกมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ""พ่อไม่ต้องยุ่งเรื่องนั้น""รู้หรือยังล่ะ" ก่อนที่จะพูดกับลูกชาย ศักดิ์มองออกไปข้างนอกกลัวว่าภรรยาจะกลับมาก่อน เพราะตอนนี้ธิมาพรออกไปตลาดเย็นกับแม่ของทอรุ้งอยู่"พ่อจะพูดอะไร" ชายหนุ่มหันกลับมามองหน้าพ่อแบบเต็มตา"ผู้ชายก็มีบ้าง เหมือนลูกในตอนนี้ไง""พ่ออย่าเอาผมไปเปรียบกับพ่อมันคนละอย่างกัน" ยังไงเขาก็จะไม่ทำเหมือนพ่อ ที่มีผู้หญิงสองคนพร้อมกันในเวลาเดียวดินเปลี่ยนใจไม่อยากจะเข้าบ้านแล้ว เขาก็เลยออกมา"ไปไหนมา" ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อเห็นเธอขับรถกลับมาที่บ้านพอดี"ไปทำงาน""พูดไม่เคยฟังกันเลยใช่ไหม บอกไม่ต้องไปทำงานแล้วไง"หญิงสาวไม่เจรจาด้วย ลงจากรถได้เธอก็เดินเข้าบ้านโดยมีเขาเดินตามมา"ออกไปเดี๋ยวนี้นะ" ทอรุ้งไม่คิดว่าเขาจะกล้าตามเข้ามาถึงในห้องนอนด้วย แต่ที่เขากล้าคงเพราะไม่เห็นพ่อและแม่อยู่บ้าน"ตอนนี้ฉันมีงานทำแล้ว ฉันไม่อยากจะให้เธอขับมอเตอร์ไซค์มันอันตรายรู
รถคันนั้นได้ขับออกไปแล้ว แต่ทั้งสองยังยืนอยู่ที่เดิม"รุ้ง.. อย่าคิดอะไรมากนะ เรื่องนั้นมันผ่านไปแล้ว" เขาไม่คิดว่าหว่าหวาจะกล้าทำอะไรแบบนี้หญิงสาวไม่รับฟังอะไรทั้งนั้น เธอเดินกลับเข้าไปในบ้าน เพราะตอนนี้พิธีได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ก็เหลือแต่ทานข้าวร่วมกันกับคนที่มาร่วมงาน"แม่คะรุ้งเหนื่อย รุ้งขอพักก่อนนะคะ" เดินเข้ามาก็เจอแม่กำลังทำอะไรอยู่ในครัว"ได้สิจ๊ะลูก เดี๋ยวที่เหลือผู้ใหญ่จะจัดการกันเอง หนูนอนเอาแรงเถอะ" นางเข้าใจดีว่าคนท้องต้องการพักผ่อนดินรีบเดินตามมาแต่ไม่ทัน ทอรุ้งปิดประตูล็อกห้องไว้ก่อน"น้ามีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ""ไม่มีแล้วล่ะ ดินมีอะไรก็กลับไปทำก่อนเถอะ ตอนเย็นค่อยส่งตัวเข้าหอ""ครับ"เย็นวันเดียวกัน.. ช่วงส่งตัวเข้าหอไม่ต้องมีพิธีอะไรมาก นอกจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายพอส่งตัวเข้าหอเสร็จ พ่อและแม่ก็ปล่อยให้คู่บ่าวสาวได้อยู่ในห้องกันตามลำพัง โดยกำชับว่าคืนนี้ห้ามออกมาจากห้องทอรุ้งอาบน้ำเสร็จ ก็เดินมานั่งชโลมเครื่องสำอางที่ใบหน้าสำหรับทาก่อนนอนตั้งแต่ผู้ใหญ่ออกไปทั้งสองก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย แต่ดินก็รออยู่ว่าเธอจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่หว่าหวามาในวันนี้ไหมจนทอรุ้งเดินกลั
"เรื่องนั้นฉันก็บอกไปแล้วไงว่ามันจบแล้ว" ดินหมายถึงเรื่องของเขากับหว่าหวา"มันจบสำหรับนาย แต่สำหรับฉันมันเพิ่งจะเริ่ม" ตั้งแต่วันแต่ง เธอพยายามถามตัวเอง ว่าตลอดชีวิตนี้ถ้าไม่มีเขาจะอยู่ได้ไหม ก็ต้องอยู่ได้แหละ เพราะถึงแม้เขาอยู่กับเธอก็อยู่แค่ตัว"ทอรุ้ง เธอจะเอายังไงกันแน่ อยากจะหาเรื่องให้ได้เลยใช่ไหม""ในเมื่อหัวใจของนายมอบให้ผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว นายจะมาทรมานจิตใจตัวเองอยู่กับฉันเพื่ออะไร""เพื่ออะไรเธอก็รู้อยู่นี่" สายตาคมมองต่ำลงไปที่ท้อง มันเป็นคำตอบที่ไม่ต้องพูด"ก็ได้ถ้านายทำเพื่อแค่นี้ เมื่อไรที่ฉันคลอด เราต่างคนต่างไป" ดวงตาของเธอมองจ้องสบตาเขา โดยไม่ยอมหลบเหมือนทุกครั้ง"ถ้าเธอต้องการแบบนั้น ก็ได้!" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ออกจากบ้านของเธอไปด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวลมหายใจถูกสูดเข้าไปลึกๆ แล้วก็ผ่อนมันออกมา เธอทำอยู่แบบนี้ 2-3 ครั้ง เพื่อที่จะบังคับน้ำตาไม่ให้มันไหลและเธอก็ทำได้ "เห็นไหมแม่บอกแล้ว ว่าหนูต้องเข้มแข็งได้เหมือนแม่" แต่ก่อนเธอไม่ใช่คนที่จะมานั่งร้องไห้อะไรง่ายๆ แบบนี้ มันอาจจะเป็นเพราะฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนไปหญิงสาวเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ออกมาที่ร้านของป้า ต่อจากนี้ไป
ยังไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ ดินก็ถอดสิ่งที่เชื่อมต่อกันอยู่ออก แล้วควานหาเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่หญิงสาวยังคงนอนอยู่บนเตียงในท่าเดิม และก็มองดูเขาเดินออกจากห้องไป"แม่ทำถูกแล้วใช่ไหมลูก ในเมื่อเขาไม่ได้รักเรา แล้วเราจะรั้งตัวเขาไว้ทำไม"เช้าวันต่อมา..ทอรุ้งตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นงานของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะ แสดงว่าเขากลับมาเอางานตอนที่เธอยังหลับอยู่เหรอ เมื่อคืนนี้เธอไม่ร้องไห้ไม่มีน้ำตาแม้สักหยด เพราะเธอตัดสินใจแล้วว่าจะปล่อยเขาไป ถ้ายังร้องไห้อยู่นั่นแสดงว่าแค่พูดไปเพราะความน้อยใจหญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ออกมา"กำลังท้องกำลังไส้ขับรถระวังนะลูก" เห็นลูกจูงมอเตอร์ไซค์ออกมาแบบนี้ทีไรแม่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้"ที่จริงพ่อว่าไม่ต้องไปทำแล้วมั้ง ถ้าดินให้เงินไม่พอใช้เดี๋ยวพ่อให้เอง""รุ้งขอทำอีกสัก 2-3 เดือนนะคะพ่อ ถ้าท้องโตแล้วรุ้งจะหยุดทำค่ะ"พ่อกับแม่ได้แต่มองหน้ากัน แต่ก่อนไม่เห็นลูกสาวอยากจะทำงาน พอมีครอบครัวก็เริ่มมีความคิดอยากจะเก็บเงิน แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะทั้งสองก็อยู่กับลูกไปไม่ได้ตลอดชีวิตของเขาอยู่แล้วสามวันผ่านไป..ดินทำงานหนักยิ่งกว่าเดิม จากรับเด็กแค่สองห้อง ตอนนี้รับถึงสี่ห้อง
คนเสเพล [ ตอนพิเศษ 2 ]"เราไม่ได้ไปเยี่ยมคุณป้าร้านเย็นตาโฟนานเลยนะ""หือ??" ดินซึ่งกำลังเคลิ้มใกล้จะหลับ เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว และฟ้าใสก็นอนหลับไปแล้วด้วย วันนี้ฟ้าใสอ้อนอยากจะนอนกับพ่อและแม่ ทอรุ้งก็เลยให้ลูกสาวนอนกลาง"ตกใจอะไร เดี๋ยวลูกก็ตื่นหรอก" ทอรุ้งตบสะโพกฟ้าใสเบาๆ เพื่อกล่อมให้นอนต่อเช้าวันต่อมา.."ฝากฟ้าใสด้วยนะครับแม่""ได้จ้า..แล้วนี่จะไปไหนกันทำไมรุ้งถึงไปด้วยล่ะ" เดือนถามลูกเขย เพราะวันนี้เขาให้ทอรุ้งเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปพร้อมกัน"มีธุระครับ เลยจะพาไปด้วย""รุ้งก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าดินจะพาไปไหน เดี๋ยวตอนเย็นแม่กลับมานะจ๊ะฟ้าใส" หญิงสาวพูดพร้อมกับหอมแก้มลูกสาวเบาๆนั่งรถมาด้วยกันทั้งสองก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรกันเลย และเธอก็ไม่รู้ว่าเขาจะพาไปที่ไหน พอมาถึงบริษัท ทอรุ้งทำได้แค่เดินตามเขาไปที่ห้องทำงาน"นั่งรออยู่นี่ เดี๋ยวเราประชุมเสร็จจะพาออกไปข้างนอก" ชายหนุ่มพาเธอไปนั่งลงที่โซฟารับแขก แล้วก็เดินกลับมาหยิบเอกสารเพื่อที่จะเข้าห้องประชุม"ทำเป็นลับลมคมในไปได้" หญิงสาวได้แต่พูดพึมพำเพราะตอนนี้เขาออกจากห้องไปแล้วสองชั่วโมงผ่านไป.."ตอนบ่ายผมถึงจะเข้ามานะ" ประตูห้องทำงานถูกเ
คนเสเพล [ ตอนพิเศษ 1 ]หลายวันต่อมา..ชนกันต์เพิ่งจะพาภรรยากลับมาถึงบ้านมาถึงได้เพียงไม่นาน ก็มีคนมาตามบอกว่าแม่ของแพรไหมมาขอพบ แน่นอนว่าเขาไม่ปล่อยให้เธอไปพบแม่แค่คนเดียวแน่"ไหม.. แม่มีเรื่องอยากจะคุยด้วย" ใบหน้าของแม่แสดงอาการออกมาให้เห็นชัดมากว่าเป็นกังวล"แม่มีอะไรอยากจะคุยกับฉันเหรอ""ไหมช่วยแม่หน่อยนะลูก" หญิงวัยกลางคนเอื้อมมือไปกุมมือของลูกสาวไว้ เพื่อสื่อให้รู้ว่านางต้องการความช่วยเหลือจริงๆ "ตอนนี้พี่มีเรื่อง.."หึ..แพรไหมยกยิ้มมุมปากแบบรู้ทัน เป็นแบบที่เธอคิดไว้จริงๆ เห็นแค่แววตาของแม่ก็รู้แล้วว่าเรื่องที่แม่มาคงมีแค่เรื่องเดียวเท่านั้น "แล้วไงคะแม่ แม่พูดเหมือนกับว่าลูกชายของแม่ไม่เคยมีเรื่องกับใครอย่างนั้นแหละ""ไหม""พี่ธงโตแล้วนะแม่ ปล่อยให้เขาแก้ไขปัญหาที่ก่อขึ้นมาด้วยตัวเองบ้างเถอะ มีเรื่องทีไรแม่ต้องให้ฉันเป็นคนตามแก้ไขให้ทุกครั้ง แทนที่แม่จะเป็นห่วงฉันที่เป็นลูกสาว แต่แม่กลับเป็นห่วง.." หญิงสาวพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลแล้ว เพราะเธออายสามีที่เอาแต่ยืนมองอยู่ ถึงแม้จะรู้ว่าเขามองด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ยังอายอยู่ดี"แม่ขอร้องหนูเป็นครั้งสุดท้ายนะลูก ต่อจากนี้ไปแม่จะไ
"เซอร์ไพรส์""????""ทำไมเห็นพวกกูแล้วมึงดูไม่ดีใจเลยวะ"ชนกันต์ยังไม่ได้พูดอะไรกับกลุ่มเพื่อนก็รีบหันไปรูดซิปปิดเต็นท์ไว้ก่อนโชคดีก่อนออกมาเขาได้เอาผ้าห่มคลุมร่างของเธอไว้แล้ว เพราะตอนนี้เธอยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า"พวกมึงตามกูมาถูกได้ยังไงวะ" ชายหนุ่มถามขึ้นพร้อมกับกวาดสายตามองไปที่เพื่อนทั้งสี่"มึงคิดว่าจะแอบมาเที่ยวคนเดียวได้หรือไง ทำไมถึงมาไม่ชวนพวกกูเลยวะ""กูมาคนเดียวที่ไหน มากับแพรต่างหาก""มึงพูดเหมือนกับว่าพวกกูไม่เคยมากับน้องแพรอย่างนั้นแหละ""เออกูยอมแพ้พวกมึงก็ได้ หาที่กางเต็นท์เองแล้วกัน""จะหาทำไมให้ยาก ก็กางมันข้างๆ นี่แหละ" ว่าแล้วพวกเพื่อนๆ ทั้งสี่คนก็ลงมือจัดการกับข้าวของที่เพิ่งจะขนลงมาจากรถมอเตอร์ไซค์พอมีเสียงกุกกักอยู่ด้านนอก คนที่นอนหลับก็ได้ตื่นขึ้นมา ..แพรไหมรีบใส่เสื้อผ้าแล้วก็ออกมาจากเต็นท์"พวกคุณมาได้ยังไงคะ" หญิงสาวแปลกใจที่ออกมาแล้วเห็นเพื่อนทั้งสี่คนของเขาครบก๊วนเลย"ตามกลิ่นมันมาครับ""จริงเหรอคะ??" ดวงตางามตวัดมองไปที่ผู้เป็นสามี"ไม่ใช่กลิ่นแบบนั้นครับ" ทั้งสี่ถึงกับขำที่เธอเชื่อเรื่องกลิ่น"มึงก็พูดให้เคลียร์หน่อยสิวะ" มนตรีเอ่ยขึ้นแล้วก็ถือโอกาสอธิบ
พอทานข้าวเสร็จทั้งสองก็นั่งเล่นอยู่ที่หน้าเต็นท์ต่ออีกนานพอสมควร เพราะเขาอยากให้เธอดื่มด่ำกับบรรยากาศในยามค่ำคืน"หนาวแล้วเข้าไปข้างในกันดีกว่า" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับมองต่ำลงไปดูหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตัก โดยมือหนาโอบกอดร่างของเธอไว้"จะหนาวได้ยังไงนายกอดแน่นขนาดนี้""อึดอัดเหรอ" ได้ยินเธอบอกว่าเขากอดแน่นชายหนุ่มก็รีบปล่อยมือออก แต่เธอกลับคว้าแขนของเขาให้กลับมากอดไว้เหมือนเดิม"ยังไม่ได้บอกว่าอึดอัดสักหน่อย" แพรใหมแนบใบหน้าลงไปแผ่นอกกว้างของผู้เป็นสามี"เข้าไปอ้อนในเต็นท์ต่อดีกว่า" ไอ้นั่นมันแข็งไม่รู้จะแข็งยังไงแล้ว แต่ติดที่อยากให้เธอชมวิวนานๆ หน่อย"นายง่วงแล้วเหรอ""ไม่ได้ง่วงแต่..." สายตามองต่ำลงไปดูความแข็งแกร่งของตัวเองที่มันดันกางเกงออกมา"กันต์" หญิงสาวตะคอกสามีเสียงแผ่วเบาแบบไม่จริงจังนัก"ทนไม่ไหวแล้วนะ!" ชนกันต์พูดพร้อมกับลุกขึ้นกำลังจะอุ้ม แต่ถูกแพรไหมต่อว่า เพราะทั้งสองไม่ได้อยู่สถานที่ลับตาคนหญิงสาวเดินเข้ามาในเต็นท์ ..เต็นท์อันนี้เป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ ถ้าให้นอนจริงๆ คงได้ 5-6 คน และมีที่นอนแบบเป่าลม โดยไม่ต้องนอนกับพื้นเหมือนที่เขามากับพวกเพื่อนๆ"เต็นท์แบบนี้ดีจังเลยนะ""ถ้า
"กลับบ้านเรา" มือหนาเอื้อมไปกุมมือของเธอไว้ "อย่าเสียน้ำตากับอะไรแบบนี้อีก" มืออีกข้างเขายื่นไปซับน้ำตาให้ เพราะเขาได้ยินทุกคำที่เธอคุยกับครอบครัว ที่จริงชนกันต์เกือบจะอดทนฟังต่อไม่ได้ แต่เขาต้องรู้ให้ลึกกว่านี้ เพราะถ้าถามเธอคงไม่บอกความจริงแน่"มันไม่ใช่แบบที่น้องเขยเห็นนะ น้องสาวของพี่มันมารยา"พั๊วะ!! ชนกันต์ไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาหันกลับมาแล้วกำหมัดแน่ๆ ชกเข้าใบหน้าพี่ชายของเธออย่างแรง "เลว""แม่!!" ธงซึ่งตอนนี้ล้มคว่ำลงไปกองกับพื้น รีบตะเกียดตะกายเข้าไปหาแม่ เพราะกลัวว่าจะถูกซ้ำอีก"ไหมฟังแม่ก่อนสิลูก""แม่มันชกผมนะ! แม่ยังจะไปพูดกับมันอีกเหรอ""เจ็บไหมลูก" พอเห็นเลือดที่มุมปากของลูกชาย จากที่กำลังจะรั้งลูกสาวไว้ นางก็เลยนั่งยองๆลงกับพื้น เพื่อซับเลือดให้กับลูกชายก่อน"เจ็บสิแม่ โอ๊ยย""ไม่ต้องไปมอง" ชนกันต์พูดพร้อมกับจูงมือเธอแล้วเดินออกมาจนถึงมอเตอร์ไซค์ "ขึ้นรถ" กุญแจยังคาอยู่กับรถ พอสตาร์ทเขาก็หันมาบอกให้เธอขึ้นที่จริงเขาเดินตามหลังรถของเธอมาจนถึงบ้านหลังนี้ ถ้าขับรถ..เขาคงไม่เห็นอะไรแบบนี้เพราะพวกนั้นคงจะรู้ตัวก่อน"นายตามฉันไปทำไม" หญิงสาวก้าวลงจากรถเมื่อถึงบ้านของเขา"ถ้าไม
"ยังไม่มีใครพูดอะไรหรอก""ยังไม่มีใครพูด??" เพราะคำตอบของเขามันดูแปลกๆ เธอก็เลยสงสัย"ใช่ยังไม่มีใครกล้าตอบเราเรื่องเงินห้าล้าน""นายถามเรื่องเงินเหรอ""มีอะไรหรือเปล่า" ชายหนุ่มคิดว่าหรือเธอไม่อยากจะให้เขาพูดเรื่องเงินสินสอดกับครอบครัวของเธอ"ฉันถามว่า นายถามแม่เรื่องเงินเหรอ""ไม่ได้ถามแม่ แต่ถามพี่ชาย""แล้วเขาว่ายังไง""พี่ชายยังไม่ตอบแม่ก็ออกมาก่อน"หึ.. ขนาดเรื่องเงินค่าตัวของเธอแม่ยังปกป้องพี่ชายเลย "ทีหลังนายไม่ต้องไปตามฉันบ้านหลังนั้นหรอก" ความกตัญญูที่มีให้มันไม่สามารถทำให้แม่รักเธอได้เลยเหรอ"ยังงอนเราเรื่องนั้นอยู่เหรอ" เห็นดวงตาของเธอมีน้ำตาคลอออกมาเขาก็เริ่มใจไม่ดี"อืม" ถึงแม้ว่าเธอจะคิดมากเรื่องครอบครัว แต่กับเรื่องของเขาเธอก็ยังไม่ลืมใครจะไม่โกรธไม่งอนล่ะเล่นเอาเรื่องบนเตียงกับผู้หญิงคนอื่นมาพูด ถึงแม้ว่าจะเผลอพูดก็ตามที"หึงเหรอ" เห็นท่าทางของเธอแบบนี้ แอบดีใจที่ตัวเองเผลอพูด จะได้รู้ความในใจของเธอด้วย"ไม่รู้ แต่ไม่อยากได้ยินนายพูดถึงผู้หญิงคนอื่น""ไอ้ดิน! มึงจะมาเอาลูกมึงไหม!!" จะง้อเมียก็ง้อไม่ถนัด เพราะตอนนี้มีดวงตากลมโตใสแป๋วของเด็กน้อย มองจ้องพวกเขาทั้งสองอยู
"แต่คนที่คุณกำลังพูดถึงคือน้องสาวของคุณนะครับ""น้องสาวก็น้องสาวสิ คนที่ได้ดีแล้วลืมบุญคุณแม่กับพี่ชายที่เลี้ยงดูมา""ผมขอถามอีกข้อได้ไหมครับ""สำหรับน้องเขยแล้วจะถามเป็นร้อยข้อก็ได้ พี่คนนี้พร้อมที่จะตอบ""เงินห้าล้านไปไหนครับ""เออ..""ธง.. ไหนบอกว่าจะออกไปซื้อกับข้าวไงลูก""ผมลืมเลยครับแม่..กำลังคุยกับน้องเขยอยู่ครับ" ได้โอกาสที่จะเลี่ยงพูดเรื่องเงินห้าล้านบาทพอดี"อ้าวเหรอ กันต์มาตั้งแต่ตอนไหนลูก""สวัสดีครับคุณแม่""ไหว้พระเถอะจ้า""ถ้างั้นแม่คุยกับน้องเขยต่อเลยนะครับ เดี๋ยวผมไปซื้อกับข้าวให้" พี่ชายรีบชิ่งหนี เพราะไม่รู้จะตอบเรื่องเงินนั้นยังไงดี"เข้ามาคุยกันข้างในก่อนสิกันต์""ไม่หรอกครับ..ผมแค่มา""มาอะไรเหรอลูก" แม่ถามขึ้นเมื่อเห็นลูกเขยไม่พูดต่อ"มาเยี่ยมคุณแม่ครับ เห็นว่าคุณแม่สบายดีถ้างั้นผมขอลานะครับ" ชายหนุ่มรีบกล่าวลาเพราะเขารู้แล้วว่าถ้าแพรไหมไม่อยู่ที่นี่คงไปหาทอรุ้งชนกันต์ก็เลยขับรถมาที่บ้านทอรุ้งทันที และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ เพราะรถแพรไหมจอดอยู่ที่หน้าบ้าน"หยอกหลานอยู่ในห้องโน่น" ทอรุ้งเห็นชนกันต์มาก็รู้แล้วว่าคงมาตามหาเมีย"แล้วพ่อกับแม่ล่ะ" เขาถามหาพ่อกับแม่ของ
"ที่นายพูดมาหมายความว่ายังไง" แพรไหมได้ยินสิ่งที่เขาพูดชัดเลย แต่ที่เขาพูดมามันยังไม่ตรงตัวเท่าไร"แล้วที่เธอพูดหมายความว่ายังไงล่ะ" "ก็หมายความว่านายไม่ได้รักฉันไง""ฉันก็บอกไปแล้วไงว่าเธอรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่รัก" "นายกำลังจะบอกว่านายรักฉันอยู่เหรอ""เออ..." ชายหนุ่มถึงกับพูดต่อไม่ออกเมื่อเห็นสายตาของเธอที่จ้องมองมา "มองฉันสิ" ยังไงวันนี้เธอต้องถามเขาให้รู้เรื่องว่าคิดยังไงกับเธอกันแน่"จะให้มองอะไร อาบน้ำแปรงฟันหรือยัง ถึงจะให้คนอื่นมอง..ดูขี้ตาสิ""กันต์!""คร้าบ" อุตส่าห์พูดกลบเกลื่อน แต่พอถูกเธอตะคอกกลับเท่านั้นแหละ ถึงกับลืมว่าตัวเองต้องวางมาดไว้ก่อนเดี๋ยวเขาหาว่ากลัวเมีย"จะไม่พูดใช่ไหม ดี! ถ้างั้นก็ไม่ต้องพูด" หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงแล้วหันหลังให้ด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง"ดูไม่ออกหรือไง ทำไมต้องให้พูดด้วย" เขารีบพูดออกมาก่อนที่เธอจะงอนมากไปกว่านี้"ดูอะไร""ก็ดูว่าฉันรักเธอไง ดูไม่ออกหรือไง""ถ้านายไม่พูดฉันจะดูออกได้ไง""ใช่! ฉันรักเธอ""ทำไมต้องเสียงดังด้วย" หญิงสาวพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน"ผมขอโทษครับ" มือหนายื่นไปเช็ดน้ำตาให้กับเธอ "โกรธขนาดนี้เลยเหรอ" เขาคิดว่าเธอโกรธจ
"นายเอากระเป๋าเงินมาให้ฉันทำไม" หญิงสาวถามพร้อมกับมองกระเป๋าที่เขาเพิ่งจะวางใส่มือให้กับเธอ"อยากได้เงินไม่ใช่เหรอ"จะเถียงก็ไม่ได้ เพราะเขาคงจะเห็นครอบครัวของเธอเห็นแก่เงินมาก ลงทุนแม้กระทั่งแห่ขันหมากไปบ้านเจ้าบ่าวเพื่อต้องการเงินค่าสินสอด"ฉันดูแล้ว ในกระเป๋าคงมีไม่พอที่ฉันต้องการ" ว่าแล้วหญิงสาวก็ส่งกระเป๋าเงินคืนให้เจ้าของ"แพร!" ไอ้หนุ่มตะคอกพร้อมกับคว้าแขนของเธอไว้"ปล่อยนะ" แพรไหมโน้มใบหน้าลงไปกัดแขนของเขาทันที โดยไม่รอว่าเขาจะปล่อยหรือไม่ปล่อยกัดแทบเลือดซิบเขาก็ไม่ร้องออกมาสักคำจนเธอยอมปล่อยเอง"พอหรือยัง ถ้าพอแล้วก็กลับ"หญิงสาวยอมเดินตามแรงที่เขาจูง สายตางามแอบมองมือตรงรอยที่ถูกเธอกัดเขาพาเดินมาจนถึงมอเตอร์ไซค์แล้วก็ปล่อยมือ"ขึ้นรถ""ฉันเอารถมาด้วย""เอามาด้วยก็ทิ้งไว้ที่นี่""ทิ้งไว้ได้ยังไงเดี๋ยวมันก็หาย" มันคือสมบัติชิ้นเดียวที่เธอมี กว่าจะผ่อนหมดเลือดตาแทบกระเด็น"กุญแจรถอยู่ไหนเอาออกมา"พอได้กุญแจรถ ชนกันต์ก็ขับพาเธอออกมาโดยการทิ้งรถของเขาไว้ที่นั่นแทนกลับมาถึงบ้าน แพรไหมก็รีบเดินขึ้นบ้านไปโดยที่ไม่พูดกับเขาสักคำ ..ชายหนุ่มรีบเดินตาม"กลับมาเหนื่อยแทนที่จะพักผ่อน"