“FWB ใช่ไหมคะ? พุดได้ยินเพื่อนพูดกันอยู่นะ”“เพื่อนกัน มันส์ดีไงน้อง” ปิ่นแก้วหัวเราะอย่างนึกตลกขบขันกับเรื่องในอดีตเมื่อนานมาแล้วความสัมพันธ์ของคนทั้งสองจนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่ามันจะสร้างความเจ็บปวดให้มากมายเท่าไร ปรายลดาพยายามเป็นเด็กดีอยู่เสมอ เธอไม่ทำกริยาให้หญิงสาวอายุมากกว่ารู้สึกว่าเป็นส่วนเกินหรือไม่พอใจอะไรเลย“พุดต้องขอคำปรึกษาจากพี่ปิ่นแล้วล่ะ พุดอยากมีเพื่อนแบบนี้บ้าง”“พี่ว่าระดับพุทราหาไม่ยากมั้ง เอาไว้คุยกัน ปรึกษาพี่ได้เสมอ แต่ว่าเรียนให้จบก่อนนะคะ เรื่องพวกนี้ไว้ทีหลัง”“ขอบคุณนะคะ พี่ปิ่น”“ไม่เป็นไร น้อง” ในแววตาที่มองผ่านกระจกหลังไปยังทั้งสองคน เหมือนคนได้รับชัยชนะ ลึกๆ แล้วหล่อนยังมีความหวงในตัวปรเมษฐ์ ถึงไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ก็ใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อยตามประสาคนโสด“พี่ไม่ได้ยุ่งกับปิ่นเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว... พี่กับปิ่นเป็นเพื่อนกัน พุดจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม?” ไม่จบคำดี มือเรียวขาวสะบัดออกแรง ๆ ตามด้วยเสียงกระแทกประตูใส่หน้าอย่างจัง ชายหนุ่มรีบลงจากรถตามไปไว ๆ ขวางหน้าเอาไว้“พุด... ฟังพี่ก่อน”วงหน้าหวานเชยขึ้นมองกำแพงมนุษย์ ก่อนที่เธอจะก้มหน้าลงล้วงกุญแจในกระเป๋าสะพาย
รุ่งอรุณแสนหวานที่มีเรือนร่างหอมกรุ่นนุ่มนิ่มหลับใหลอยู่ในอ้อมแขน เช่นทุกราตรีที่ดำเนินศึกรักหนักหน่วงจนสิ้นฤทธิ์ไปในอ้อมกอดกันและกัน ผ่านไปจนถึงกระทั่งช่วงสาย ปรเมษฐ์ลุกก่อนทุกคนในบ้าน ออกไปจ่ายตลาดซื้อกับข้าวมาเตรียมไว้บนโต๊ะอาหาร จากนั้นก็นุ่งกางเกงตัวเดียวเดินไปเดินมาด้วยจุดประสงค์บางอย่างปิ่นแก้วเดินมาถามอยู่สองสามคำว่าคนอื่นรู้เรื่องนี้หรือยัง ยังให้ความเห็นว่าไม่เหมาะสม เขาตอบเท่านั้น“เมียฉัน... ฉันรักของฉัน ใครจะทำไม?”หล่อนจึงใช้เวลาพักผ่อน นั่งเขียนแบบงานอยู่ในบ้านของเขา เพื่อกดดันหรือต้องการอะไรไม่รู้แน่ แม่อนงค์แวะเข้ามาไม่นาน รับรู้เรื่องนี้จากปากของปิ่นแก้ว ก็ทำเฉยเพราะรู้มานานแล้ว และคาดเดาได้ว่าเขาคงจะต้องคบกับลูกเลี้ยงของพี่ชายเข้าสักวันนับวันที่ปรายลดาโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง สายตาของเขา... ยิ่งเสียกว่าหมาป่ามองลูกแกะตอนนี้ปรเมษฐ์กำลังพยายามปรับตัวเข้าหาคนป่วย พอเห็นว่าสาวน้อยในความดูแลทานข้าวทานยาเสร็จเรียบร้อยดี แล้วไปนั่งอ่านหนังสือ ทำรายงาน หรือทำอะไรสักอย่างอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ในสวนหลังบ้านกว่าหลายชั่วโมง เขาได้ให้เวลาส่วนตัวกับปรายลดาจนคิดว่าทนไม่ไหวสไตล์การแต
“พี่เปาเอาใจพุด เพราะอยากได้อะไรหรือเปล่า?”“ก็ต้องอยากได้สิ พุดเป็นเมียพี่ พี่ชอบกอดพุด หอมพุด จูบพุด พี่ชอบทำเรื่องแบบนั้นกับพุด พี่รู้สึกดี... หรือว่าพุดไม่ชอบ?”ในคำถามที่รู้คำตอบดีเขายิ้ม... คนช่างอายหลุบตาหนีครั้งหนึ่งก็เชยดวงตาคู่หวานขึ้น เมื่อเขาไม่ยอมพูดมันขึ้นมาก่อนเหมือนทุกวันเธอจึงเป็นฝ่ายบอก“พุดรักพี่เปานะ... ขอบคุณที่ดูแลพุดค่ะ...”หลายวันมานี้เธอไม่ต้องตื่นแต่เช้ามาทำงานบ้าน เพราะมีแม่บ้านมาทำความสะอาด กับข้าวที่ต้องไปจ่ายตลาดมาทำอาหารไว้ให้แม่อนงค์ทุกเย็น และจะต้องยกหม้อห่อใส่ถุงไปรับประทานกันอีกบ้านหนึ่งซึ่งมีทั้งเด็กผู้ใหญ่อยู่กันเต็มบ้าน เจ้าของบ้านเป็นธุระไปซื้อมาให้ทั้งหมดหรือเธออาจจะคิดไปเองว่าเขาไม่ใช่คนทำดีหวังผล...“พุดไม่ต้องขอบคุณพี่หรอก พุดยังมีหน้าที่ต้องทำตลอด” หน้าที่... ปรากฏผ่านแววตาคู่สวยด้วยเช่นกัน แค่ถูกอาวุธคู่กายชายถูไถไปมา กางเกงตัวจิ๋วเปียกชุ่มพาเลือดทั้งกายร้อนลงไปรวมอยู่ในจุดจุดเดียวเหมือนน้ำมันกับไฟ แค่สัมผัสกันก็คงจะเกิดอารมณ์ประหลาด ๆ“กางเกงในน่ะ วันหลังไม่ต้องใส่ อยู่กับพี่... เดี๋ยวก็ต้องถอดอยู่ดี”“จะให้พุดเดินแก้ผ้าแบบพี่เปาเนี่ยนะ”
“ฉันกลับก่อนนะ ใส่เสื้อผ้าพุดมาหลายวันละ ไปเอาของก่อนค่อยมานั่งทำงานห้องแกใหม่” ใบหน้าสดสวยของสาววัยสี่สิบประดับด้วยรอยยิ้ม เหมือนไม่รู้สึกอะไรกับเสียงสุดแสบเสียวของคู่รักข้าวใหม่ปลามัน ซึ่งอยากจะอยู่กันตามลำพัง โดยไม่ได้สนใจหล่อนเลยแม้กระทั่งตอนนี้เจ้าของร่างสูงในชุดนอนบุรุษเรียบร้อยเหยียดกายอยู่บนเปลตาข่ายกับโน๊ตบุ๊คเครื่องหนึ่ง ยังคงจับจ้องหญิงสาวที่กำลังนั่งเก้าอี้ม้านั่งในสวนเป็นพัก ๆ หากว่าพอละวางจากงานของตนได้“อืม... มาเมื่อไร โทรมาบอกล่วงหน้าล่ะ ช่วงนี้ฉันกับพุดไม่ค่อยอยู่บ้านนี้”“ไปอยู่ไหนกัน?” ปิ่นแก้วมีสีหน้าแปลกใจ หลายเดือนที่ผ่านมาหล่อนอยู่ฟิลิปปินส์กับปรเมษฐ์และทีมงาน พูดคุยกันแค่เรื่องงานถึงได้ไม่รู้ความเคลื่อนไหวของลูกเลี้ยงเขาเลย“พุดซื้อคอนโดฯ ไว้ใกล้ ๆ มอ เลยไปนอนนู่น”“โอเค ถ้าจะเข้ามา ฉันจะโทรมาก่อน เออ... ฝากกระเป๋าเครื่องสำอางให้น้องด้วย ฉันซื้อมาฝากจากฟิลิปปินส์น่ะ” พูดแล้วก็หยิบของในกระเป๋าสะพายส่งให้ชายหนุ่มรับไป ในความริษยาของปิ่นแก้วลึก ๆ นั้นเขาไม่เคยรู้หรือระแคะระคาย“ขอบใจมาก...”“ไม่เป็นไร ฉันชอบซื้อของมาฝากน้องสาวอยู่แล้ว” หยักยิ้มมุมปากครั้งหนึ่ง ก
“นังเด็กร่าน... เป็นลูกเลี้ยงดี ๆ ไม่ชอบ...” เสียงแหลมเล็กสบถด่าผ่านไรฟันขาวที่ขบกัดกัน ขณะสาดอารมณ์เดือดดาลใส่จอสี่เหลี่ยมในมือที่สามารถสร้างเรื่องราวขึ้นมาด้วยปลายนิ้วเคาะพิมพ์ปิ่นแก้วอยู่ในสถานะเพื่อนรู้ใจมาสิบกว่าปี เคยไปหาเขาเมื่อไรก็ได้ กับแม่อนงค์ ลูกหลานทุกคนในบ้านสนิทกันเหมือนเป็นเครือญาติตั้งแต่ปรเมษฐ์เอ่ยปากขอสิ้นสุดความสัมพันธ์เร่าร้อนบนเตียงกับเธอ เพราะความรักที่มีต่อลูกเลี้ยง เขาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนอีก หัวใจร้อนผ่าวไปทั้งดวงแค่คิดว่าชายหนุ่มกำลังจะถูกแย่งไปในเมื่อความเป็นเพื่อนยังคงอยู่ เธอคงไม่อยู่เฉยกับเรื่องนี้...ในช่วงหัวค่ำของวันหยุด หลังจากที่เปิดหัวข้อสนทนาในโลกโซเชียล ระบายความคับแค้นใจนี้ออกไปให้ผู้คนได้เห็นความชั่วร้ายของเด็กสาวคนหนึ่ง ซึ่งแย่งผู้ชายไปจากเธอหน้าด้าน ๆ!เธอไม่ได้เข้าไปจัดการแบบแปลนงานอาคารของบริษัทที่จะต้องส่งกลับไปให้วิศวกรในฟิลิปปินส์ งานซึ่งปรเมษฐ์ทิ้งมาเสียเฉย ๆ ปล่อยให้เป็นภาระของเธอและลูกทีมก่อสร้างโปรเจคใหญ่อีกหลายชีวิต ปิ่นแก้วตรงไปยังห้องพักชานเมืองพอเหมาะสมราคาเดือนละสามพันกว่าบาท เพื่อพบคนที่อดนึกถึงไม่ได้...“ลมอะไรหอบแกมา... นัง
ในห้องทำงานกว้างขวางโอ่อ่าโทนสีเขาเข้ากันกับตัวบ้านหลังใหญ่ ถัดจากโต๊ะเขียนแบบงานของสถาปนิก โต๊ะไม้สักอย่างดีวางโน๊ตบุ๊คเอาไว้สองเครื่อง กองเอกสาร กระดาษเปื้อนหมึกปากกาด้วยลายมือขยุกขยิก สมุดจดเล่มเล็ก ๆปรเมษฐ์ยังคงหยุดงานทั้งเดือนตามรับปากไว้ เขาเพียงแก้แบบงานในบ้าน เพื่อที่จะคอยอยู่ใกล้ ๆ คนป่วยตลอด อาการของปรายลดาดีขึ้นตามลำดับ ด้วยความช่างเอาอกเอาใจของเขาเองทว่าสองสามวันมานี้ หลังจากที่นำกระเป๋าเดินทางเต็มไปด้วยสัมภาระมาวางไว้ในห้องของเขาทั้งหมด เพราะยังเดินทางไปคอนโดฯ บ้างก็กลับมาบ้าน บางคนจงใจทำตัวให้ยุ่งอยู่แต่กับงาน เพื่อน และเรื่องเรียน ไม่แม้แต่จะสนใจเขาที่ไม่ยอมพาเธอเข้าห้องนั้นเด็ดขาด“พี่ไม่ชอบสีชมพู มันขายไม่ออก น้องไลฟ์สีดำกับแดงเยอะ ๆ เลย”“ออ... แกจะไปเช็คของให้ฉันเหรอ? ใจมากเพื่อนรัก เพิ่งลงจากสนามบินมาสองคอนเทนเนอร์นะ ฉันให้พม่าแบกไปไว้ที่สต็อกละ”ในสีหน้าแย้มยิ้มของคนที่วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ ร่างบางในชุดสบาย ๆ เสื้อตัวหลวมโคร่งกางเกงขาสั้นเปลี่ยนเป็นคนละคนเมื่อมองไปทางชายหนุ่ม เขาวางดินสอจากมือที่หุ้มด้วยถุงมือสำหรับเขียนงานออกในทันที“พุด...”“รอเดี๋ยวนะ พุดทำงานอ
ห้องสี่เหลี่ยมโล่งกว้าง โทนสีขาวสะอาดมีฝุ่นหนาเกรอะเกาะเหมือนไม่มีใครได้เข้ามาทำความสะอาดเป็นเวลานานคิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเป็นปม เมื่อหยุดปลายเท้าและสายตาที่กวาดมองไปรอบกาย ขณะสำรวจเตียงนอนและตู้เสื้อผ้าบิ้วท์อินขนาดใหญ่ เธอคิดว่าเขาน่าจะเก็บทุกอย่างเอาไว้ในนั้น และก็คงจะต้องขอบคุณปิ่นแก้วที่ให้ของฝากน่ารัก ๆ มากับกระเป๋าเครื่องสำอางร่างบางในชุดคลุมอาบน้ำ ผมเปียกหมาดก้มหน้าลงมองกุญแจดอกใหญ่ในมือ ก่อนจะตรงไปเปิดประตูตู้ไม้สีขาวตู้ไม้ขนาดใหญ่แบ่งแยกของเป็นสะสมเป็นสัดส่วนชัดเจน ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างมองของทุกอย่างถูกเก็บไว้ในตู้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยรูปถ่ายในกรอบรูปไม้อันเล็กบอกว่าเจ้าของรูปคงตั้งใจสั่งทำมันมาเป็นอย่างดี วางรายเรียงกันไปเป็นชั้นนับได้หลายสิบรูป โปสเตอร์ขนาดใหญ่เป็นรูปของเด็กสาวหน้าตาสะสวยในวัยสิบกว่าขวบ แปะอยู่ข้างหลังเต็มอยู่ทั่วทั้งผนัง ยังมีของที่ระลึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เธอทำให้เขากับมือแต่เล็กจนโตนกกระดาษตัวเล็กหลากสีสันในขวดโหลใบใหญ่... คงจะสักหนึ่งพันตัวถัดไปนั้นก็เป็น...การ์ดวันพ่อ... กับดอกกุหลาบสีแดงที่เฉาไปกับกาลเวลาใช่สินะ... ความสัมพันธ์ของเธอและเขา
“พี่เปา! คนบ้า หื่นที่สุด... ปล่อยพุดลงนะ!”“พี่รักพุดมาก... พี่ก็ต้องหื่นกับพุดสิ หืม... ไม่หื่นกับพุดจะให้พี่ไปหื่นกับใคร?”หัวใจดวงน้อยปั่นป่วนรุนแรงกับคำบอกรักแสนหวาน ร่างบางจึงค่อยสงบลงซึ่งเขาก็ปล่อยให้ขาของเธอลงสัมผัสพื้นหินเย็นเฉียบ ดวงตาคู่สวยกลอกไปมาอย่างหวาดหวั่น“ไม่เอาเชือกแดง ๆ นั่นนะ พุดยังไม่พร้อมจะโดนมัด ขอเวลาทำใจก่อนสักวันสองวัน”ชายหนุ่มแค่นหัวเราะเบา ๆ “พุดหมายถึงเชือกชิบาริ [1] ในห้องพี่? อืม... เป็นเด็กตาดีจริง ๆ”ว่าแล้วก็หยิบของแดงที่ว่าออกจากกระเป๋ากางเกงขาสั้น ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างทันทีที่เห็นของซึ่งเธอน่าจะเข้าใจผิดไปมันเป็นกล่องกำมะหยี่สีแดงที่มีเพชรเม็ดงามจรัสตาอยู่ข้างใน เขาเปิดมันออกแล้วพันธนาการเธอไว้บนนิ้วเรียวเล็ก สวมมันแล้วก็ยังกอบกุมมือของเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยน ทะนุถนอม“พุดเรียนจบเมื่อไร... แต่งงานกับพี่นะ พี่ไม่ขอ... พี่บังคับว่าพุดต้องแต่ง มีลูกให้พี่ด้วยสักคน”ดวงตาคู่หวานสั่นระริกพรั่งพรูน้ำตาแห่งความตื้นตันออกมาไม่ขาดสาย ก่อนที่เธอจะเอี้ยวตัวไปสบตาคม เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“พี่เปาอายุเยอะแล้วนะ... จะมีลูกจริงเหรอ?”“อืม... พี่อยากมีลูกพุทร