Part ‘s ดาวเรือง (ต่อ)
วันนี้เป็นวันอะไร?
วันเสาร์
ค่ะ มีลูกค้าเข้ามาเรื่อย ๆ คนเก่าไป คนใหม่มา คนนี้ไป คณะใหม่มา งานนี้มีคนสนุกสองคนได้แก่ แม่เฟื่องฟ้ากับน้าหลิน
แล้วดาวล่ะ
ดาวก็เซิ้งไปรอบร้านค่ะ ร้านไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ลูกค้ามาเรื่อย ๆ บางคณะเข้ามาก็เปรยว่าอยากชมไร่ แต่ดาวต้องปฏิเสธไปนะคะ
“วันนี้ไกด์ประจำไร่ไม่อยู่ค่ะ”
ป่านนี้ไกด์กิตติมศักดิ์คงเพลิดเพลินกับการเดินเที่ยวถนนคนเดินในเมือง กับเพื่อนสนิทจากไร่ข้าง ๆ ไปแล้ว
แค่คิดก็แทบจะกรี๊ดแล้วค่ะ
สองคนนี้เวลาอยู่ด้วยกันเคมีดีมาก
สารภาพบาปนะคะ... ดาวอยากให้มันสองคนได้กันค่ะ
“เฮ้ ไอ้เรืองใช่ไหม?”
เสียงที่ไม่คุ้นเคย แต่ชื่อที่เรียกมา มีอยู่พวกเดียวที่กล้าเรียกชื่อดาวแบบนี้ มันคือไอ้พวกที่เรียนด้วยกันในเมือง พวกเพื่อนนักเรียนค่ะ
พอหันไปมอง ก็เจอกับชายหนุ่ม รูปไม่ได้งามมาก ทรงแบดแมนมากกว่า (บอยไม่ได้ เพราะถ้ามันเรียกดาวว่า เรือง คือไอ้เพื่อนรุ่นเดียวกันค่ะ)
ดาวพ
Part อัคอัค หรืออัครชัย เป็นเพื่อนกับดาวเรืองตั้งแต่สมัยชั้นมัธยมปลาย ทั้งสองเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ โดยเจอกันในช่วงมัธยมสี่ ในทีแรกทั้งสองไม่ได้สนิทกันเท่าไร จนกระทั่งมีเหตุให้ต้องทำงานกลุ่มร่วมกันบ่อย ๆฝ่ายดาวเรืองเป็นคนที่เรียนพอใช้ได้ แต่ค่อนข้างถนัดงานภาคสนามต่าง ๆ ขณะที่อัคกลับชอบที่จะเขียน พิมพ์ จัดปก ทำรายงาน มากกว่า ทำให้ทั้งสองสนิทกันขึ้นด้วยเรื่องของความช่วยเหลือในสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัดหลังจากที่เรียนจบชั้นมัธยมปลายแล้ว ทั้งสองต่างแยกย้ายกันไปตามเส้นทางของตน อัคย้ายไปเรียนต่อที่อื่น ส่วนดาวเรืองเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในจังหวัดไม่มีข่าวคราวใด ๆ ของเพื่อน อันเนื่องมาจากตัวของดาวเรืองเอง ที่ยินดีรับรู้แค่เพียงข้อมูลเบื้องหน้า เมื่ออัคไม่ได้ส่งข้อมูลของตนเองให้กับเพื่อนในกลุ่ม ว่าไปเรียนอะไร เรียนที่ไหน จึงทำให้อัค กลายเป็นเพื่อนที่เริ่มเลือนหาย ทั้งกับดาวเรือง และเพื่อนคนอื่นจนวันนี้เขามาปรากฏตัวไม่ใช่เพียงแค่ต้องการพบเพื่อนเก่าหากแต่มาแวะเวียนดูข้อมู
เช้าวันเสาร์ท้ายสัปดาห์ที่แสนวุ่นวายของอัค หลังจากที่เขาตัดสินใจว่าจะเดินทางเข้าไปที่บ้านไร่จินตรา ครั้งนี้เขากะว่าหลังจากไปขอพบเจ้าของบ้านไร่จินตราแล้ว ค่อยแวะหาเพื่อนของเขาตอนจะกลับอีกทีชายหนุ่มแต่งตัวในชุดสุภาพตามสไตล์ของเขา ไม่มีการนัดล่วงหน้าใด ๆ กับเจ้าของไร่ ดูบ้าบิ่นที่สุด ในทีแรกเขาเองก็ไม่กล้าจะทำอะไรบุ่มบ่ามและรวดเร็วแบบนี้‘เงินจำนวนมหาศาลรอเขาอยู่’อัคเป็นพนักงานธนาคารสายสินเชื่อที่มีความรอบรู้ในเนื้องานการปล่อยสินเชื่อมากพอประมาณ แต่อาชีพการเป็นนายหน้า ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขามาก การนั่งอยู่กับโต๊ะหรือออกตลาดเพื่อหาลูกค้ามาขอสินเชื่อ ทำได้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก หากเข้าถึงความจำเป็นการใช้เงินของลูกค้า กับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ชวนให้น่าสนใจขณะที่อาชีพการเป็นนายหน้า ไม่ว่าจะเป็นนายหน้าในเรื่องใดก็ตาม แก่นของมันคือ ‘จับแพะชนแกะ’ หาคู่ให้ลงตัว เมื่อความต้องการมาตรงกัน ค่าตอบแทนที่ได้จากฝ่ายที่ขอให้จัดหา มันค่อนข้างสมน้ำสมเนื้อสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจ เพียงเ
เช้าวันเสาร์ท้ายสัปดาห์ที่แสนวุ่นวายของอัค หลังจากที่เขาตัดสินใจว่าจะเดินทางเข้าไปที่บ้านไร่จินตรา ครั้งนี้เขากะว่าหลังจากไปขอพบเจ้าของบ้านไร่จินตราแล้ว ค่อยแวะหาเพื่อนของเขาตอนจะกลับอีกทีชายหนุ่มแต่งตัวในชุดสุภาพตามสไตล์ของเขา ไม่มีการนัดล่วงหน้าใด ๆ กับเจ้าของไร่ ดูบ้าบิ่นที่สุด ในทีแรกเขาเองก็ไม่กล้าจะทำอะไรบุ่มบ่ามและรวดเร็วแบบนี้‘เงินจำนวนมหาศาลรอเขาอยู่’อัคเป็นพนักงานธนาคารสายสินเชื่อที่มีความรอบรู้ในเนื้องานการปล่อยสินเชื่อมากพอประมาณ แต่อาชีพการเป็นนายหน้า ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขามาก การนั่งอยู่กับโต๊ะหรือออกตลาดเพื่อหาลูกค้ามาขอสินเชื่อ ทำได้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก หากเข้าถึงความจำเป็นการใช้เงินของลูกค้า กับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ชวนให้น่าสนใจขณะที่อาชีพการเป็นนายหน้า ไม่ว่าจะเป็นนายหน้าในเรื่องใดก็ตาม แก่นของมันคือ ‘จับแพะชนแกะ’ หาคู่ให้ลงตัว เมื่อความต้องการมาตรงกัน ค่าตอบแทนที่ได้จากฝ่ายที่ขอให้จัดหา มันค่อนข้างสมน้ำสมเนื้อสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจ เพียงเ
Part ทานตะวันผมยังอยู่ในสภาพจมที่นอนหลังจากที่นั่งตัดคลิปวิดีโออยู่จนดึก ถึงแม้ว่าจะตัดได้ไม่ขั้นเทพเหมือนคนอื่น แต่ก็ถือว่าพอใช้งานได้ก็แล้วกันวันอาทิตย์แบบนี้ ผมไม่อยากตื่นเท่าไร อยากจมอยู่บนที่นอนแบบนี้อีกสักหน่อย แต่ทว่า“แก ตื่นได้แล้ว” เสียงเกือบตะโกนจากหน้าประตูห้องผมดังขึ้นผมพยายามไม่ตอบ แต่ทำไม่ได้น่ะสิ“ตื่นแล้ว โอ๊ย นี่วันอาทิตย์นะ” ผมโวยกลับ“หัดตื่นมาใส่บาตรกับที่บ้านบ้าง”ผมนึกถึงการใส่บาตร จริงสินะ ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้าน ยังไม่เคยตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อใส่บาตรไหว้พระอะไรเลยเอาจริง แม่เคยถามผมเรื่องบวชพระ แต่ผมยังไม่ได้ตอบอะไร ไม่มีแพลนอะไรเกี่ยวกับการบวช รู้แหละครับว่าพวกเขาอยากให้บวชเพราะอะไร แต่ผมอยากถามว่ามันจำเป็นด้วยเหรอ กฎหมายกำหนดรึเปล่า ไม่นะ แต่คงเป็นไปตามจารีตประเพณีที่ว่า บ้านไหนมีลูกชาย ก็อยากจะให้บวชเผื่อเกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์รอก่อนนะ ผมยังไม่คิดผมเหลือบไปมองนาฬิกาที่ข้างฝาผนัง แม่เจ้า
Part ทานตะวันผมหลับไปตอนไหน จำไม่ได้จริง ๆ แต่พอตื่นขึ้นมา มันปวดหัวเหมือนคนดื่มเหล้ามาแบบสุดซอย ความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในหัว ใช่แล้ว วันนี้ผมมีธุระสำคัญอย่างหนึ่ง และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดหัวใช่แล้ว ผมต้องไปหาออโต้กิจวัตรยามเช้าประจำวันของผมหลังจากทำกิจส่วนตัวเสร็จ ก็ต่อด้วยอาหารเช้ากับพ่อแม่และพี่สาว ซึ่งบางวันพ่ออาจจะไม่ได้มาร่วมโต๊ะเพราะต้องเข้าไร่แต่เช้ามืด บางวันก็เหลือแต่ผมกับแม่ เจ้ดาวเรืองจะหายตามพ่อไปด้วยอีกคนวันนี้เจ้ดาวไปธุระกับพ่อในเมือง บ่าย ๆ คงกลับมา จึงเหลือแค่เพียงผมกับแม่ที่ร่วมโต๊ะอาหารกันมื้อนี้เป็นโจ๊กที่แม่บ้านทำเตรียมไว้ให้ บางวันมีปาท่องโก๋พ่วงท้ายมาด้วย ที่มาที่ไปของปาท่องโก๋นี้คือ แม่เฟื่องฟ้าฝากให้พี่คนงานที่มาทำงานเช้าซื้อเข้ามาจากตลาดในหมู่บ้านบางวันก็เป็นขนมครก ผมยังเคยคิดว่าจะชวนออโต้เข้าไปเดินเล่นที่ตลาดในหมู่บ้านบ้าง แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่เคยได้ไปสักที ไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ ตื่นไม่ทัน ตลาดวายก่อน
Part ออโต้ช่วงนี้งานเยอะครับ หลังจากที่พ่อตัดสินใจว่าเพิ่มกำลังการผลิตพืชไฮโดรโปนิกส์ให้มากขึ้น ทันต่อปริมาณการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นมาอย่างพรวดพราดอันเกิดจากการเปิดไร่เข้าสู่โลกออนไลน์เรื่องนี้ยกให้ทานตะวันเขาล่ะครับความสนิทของเราทั้งสองกลับมาได้ดีกว่าเดิมมาก นั่นอาจเป็นเพราะเราทั้งคู่โตขึ้นมาก รึเปล่า?แต่ช่วงนี้ผมไม่มีเวลาไปเจอทานตะวันเท่าไร เวลาเขามา หากไม่ได้บอกไว้ก่อน ก็ต้องเข้าไร่ไปหาผมอีกที คุยอะไรก็ไม่ถนัดเพราะมันอยู่ในโรงปลูกไฮโดรโปนิกส์ มีคนงานหลายคน สำคัญคือมันร้อน ทานตะวันไม่ชอบสิ่งนี้ครับขณะที่ผมกำลังช่วยปรับสารเคมีสำหรับใช้ในการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ผมเห็นพ่อนั่งพักร้อนอยู่ใต้ต้นไม้หน้าโรง จึงพักงานแล้วออกไปนั่งคุยด้วยพ่อเล่าให้ผมฟัง ว่ามีนายหน้าเข้ามาสอบถามว่าอยากขายที่ดินไหม ผมขมวดคิ้วทันที ส่วนพ่อ พอเห็นผมขมวดคิ้วก็หัวเราะเบา ๆ ออกมา“ปฏิเสธไปแล้วน่ะ เขาก็ไม่อะไรนะ แต่ถือว่ากล้าบ้าบิ่นมากที่ใช้ความเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารอ
ผมเดินลงมาจากบ้านเพื่อจะไปดูรถของพ่อที่พี่ผันขับมาจอดไว้ที่หน้าบ้านแล้ว แต่กลับพบว่าตายิ้มกับพี่ผันยืนรอผมอยู่“รถเป็นไงบ้างพี่” ผมถามพี่ผัน“ผมขับรถกลับมาแล้ว รถเสียศูนย์ต้องไปตั้งศูนย์ใหม่ แล้วก็กันชนบุบนิดหน่อย ไฟแตกข้างซ้าย ที่เหลือไม่เป็นอะไรครับ”พี่ผันรายงาน“ส่วนอีกเรื่อง มีข่าวลือว่าที่คุณสมชายโดนรถปาดหน้า จะเป็นเพราะไม่ยอมขายที่รึเปล่า แบบว่าข่มขู่เหมือนในละครน่ะ” ตายิ้มที่นาน ๆ จะพูดที ร่ายยาวผมเอง ในตอนแรกไม่ได้นึกถึงเรื่องพวกนี้เลย กลับต้องมาฉุกคิดทันที เพราะพ่อสมชายอยู่มาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยมีเรื่องอะไรแบบนี้เกิดขึ้นเลย สักครั้งก็ไม่เคยมีแต่พอมีนายหน้ามาติดต่อจะซื้อที่ดิน แล้วพ่อไม่ยอมขาย หลังจากนั้นก็เกิดเรื่อง เวลามันคล้องจองมาก“แล้วยังไงต่อตายิ้ม” ผมเห็นว่าแกยังฮึดฮัดอยู่กับพี่ผัน เหมือนพี่ผันไม่อยากให้ตายิ้มพูดอะไรต่อ“มีอะไรว่ามาเลยตายิ้ม พี่ผัน ให้แกพูดเถอะ”ผมปรามพี่ผัน ทำให้พี่ผันจำยอม ถอยห่างออกจากตายิ้ม“คื
Part ดาวเรืองดาวรู้เรื่องที่น้าชายเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จากทานตะวัน จึงพยายามติดต่อกลับไปเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่า ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นน้าสมชายเอง น้าหลิน และออโต้ ไม่มีใครรับสายหรืออ่านข้อความ เดาว่าน่าจะยุ่งอยู่กับเรื่องอุบัติเหตุ จึงบอกกับทานตะวันว่ารุ่งขึ้นให้ลองติดต่ออีกทีรุ่งขึ้น แม่เฟื่องฟ้าบอกว่าติดต่อกับน้าหลินได้แล้ว น้าหลินบอกว่าน้าสมชายไม่เป็นอะไรมากขณะที่ดาวกำลังนั่งคุยอยู่กับแม่เฟื่องฟ้า พ่อมงคลก็เข้ามาสมทบ แล้วบอกว่า ระหว่างพ่อแม่ กับน้าชายน้าหลิน เราเชื่อใจกัน แต่ก็คงต้องหาข้อมูลว่ามันเป็นการข่มขู่ หรืออุบัติเหตุจริง ๆ“คุณดาวเรือง พี่มีเรื่องจะรายงานและแจ้งข่าวครับ”พี่ไม้ ผู้ดูแลน้องรถถังของดาว โผล่หน้าเข้ามาด้วยความไม่แน่ใจว่าจะสะดวกรึเปล่า“เข้ามาสิพี่ น้องรถถังไปทำเรื่องอะไรอีกล่ะ” ดาวคิดว่าเป็นเรื่องของรถถัง แต่กลับไม่ใช่“ไม่ใช่รถถังครับ แต่เป็นเรื่องที่ตอนนี้กำลังเกิด เรื่องไร่ข้าง ๆ ครับ”
<<<Z>>> <<<Z>>> <<<Z>>>/สวัสดีครับ//เฮ้ย ตะวัน จำเราได้รึเปล่า?//หึ ใคร?//ฟังนะ กู ชื่อ นิค//หยาบคาย ไอ้นิค//เอ๊า ผมชื่อนิคครับคุณทานตะวัน//เออ ค่อยดูมีการศึกษาหน่อย//ปากเหมือนเดิมนะมึง//เออ... มีอะไร//กูจะไปเที่ยวบ้านมึง//ตอนไหน อีก 2 ชั่วโมง//ห่ะ!?//เออ ๆ มาถูกเหรอ//ไร่มันดึง จีพีเอส. พามาได้ เดี๋ยวเจอกัน/นิค และเพื่อนสมัยเรียนกำลังเดินทางมาหาผมแบบเซอร์ไพรส์ ไม่ให้ผมได้ตั้งตัวตามนิสัยของนิคที่เป็นมาตั้งแต่เรียนแล้ว ผมต้องไปบอกแม่เฟื่องฟ้าก่อน เพราะพวกนี้มาคือยังไงก็คงค้างคืน แต่จะกี่คืนก็ไม่รู้พวกมัน“แม่ครับเพื่อนผมจะมาจากกรุงเทพฯ สามถึงสี่คน” ผมบอกแม่ที่ตอนนี้กำลังนั่งเคลียร์บิลอยู่ในห้องทำงาน“ค้างคืนไหมลูก” แม่ถาม“ค้างแหละแม่ แต่พวกอาหารอะไรนี่ เตรียมทันไหมครับ” ผมถามแม่เรื่องอาหาร เพราะปกติพวกเราก็กินอะไรไม่เยอะอยู่แล้ว แต่ถ้าพวกนี้มา ส
ไร่กรุณาธร ตั้งขึ้นโดยคุณปู่ของดาวเรืองและทานตะวัน ในยุคแรก หลังจากเรื่องการหาที่ดินเสร็จสิ้นลง เขากับเพื่อน (ปู่ของออโต้) เริ่มดำเนินการด้วยเงินของตัวเองที่ได้มาจากมรดกและการสนับสนุนจากพ่อแม่บางส่วน มาดำเนินการ เริ่มแรกมีบ้านเล็ก ๆ สำหรับเขาและเริ่มจ้างผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการขุดสระน้ำด้านหลังพร้อมติดตั้งระบบจ่ายน้ำเดินท่อเข้ามาที่บริเวณที่จะก่อสร้างแปลงปลูกต้นองุ่น ใช้พื้นที่กว้างถึง 1 ไร่ในช่วงแรก เพราะในพื้นที่ 1 ไร่ จะสามารถปลูกต้นองุ่นได้ราว ๆ 130-140 ต้น เป็นองุ่นสายพันธุ์ที่สามารถปลูกในประเทศไทย ทนร้อนได้ดี และจำหน่ายได้ราคาเขาวางแผนว่าจะจำหน่ายองุ่นออกไปให้เกิดรายได้ก่อน ขณะที่โครงการผลิตไวน์ของเขา เกิดปัญหาที่เขาคาดเดาไว้แล้ว นั่นคือเขาไม่ชำนาญในเรื่องนี้มากพอ ต้องมีอะไรอีกหลายอย่าง รวมถึงอุปสรรคมากมายก่อนจะทำให้เกิดโรงผลิตไวน์ได้ดังนั้นในช่วงแรก ๆ ไร่กรุณาธร ยังคงเป็นไร่ที่ปลูกองุ่นขายเพียงอย่างเดียว ส่วนตัวเขาเองก็ยังคงศึกษาการทำไวน์ เดินทางเข้าไปที่มหาวิทยาลัยบ่อยเพื่อหาอาจารย์ที่สอนมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ท้ายสุดก็ยังมิอาจสานฝัน
บ้านไร่จินตราเป็นหนึ่งในไม่กี่ไร่ที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดทั้งปี มีพืชผลมากมายที่ผลัดกันออกผลตามฤดูกาลและนอกฤดูกาลอัน เกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์พืชใหม่ ๆ ที่ได้รับจากต่างประเทศและเครือข่ายทางธุรกิจที่มีอยู่ ในเรื่องของทำเลที่ตั้ง บ้านไร่จินตรา มีลักษณะที่ตั้งที่ดี ด้านหลังเป็นภูเขา มีลำธารธรรมชาติไหลผ่าน น้ำมาจากป่าบนเขา ด้านหน้าของไร่มีคลองชลประทานจากภาครัฐ มีถนนลาดยางอย่างดีจากอำเภอผ่านเข้าสู่ตัวหมู่บ้านที่อยู่ถัดไป ด้านข้างเป็นภูเขาที่ยาวต่อมาจากด้านหลังขณะที่อีกด้านหนึ่งเป็นไร่กัลยาณมิตรกันมีชื่อว่า “ไร่กรุณาธร” ที่ทำไร่ลักษณะคล้ายกันแต่มี พัฒนาการพันธุ์พืชที่เป็นของตัวเองและเน้นองุ่นเป็นหลัก เพราะมี โรงงานบ่มไวน์องุ่นเป็นของตัวเอง ขณะที่บ้านไร่จินตราจะเน้นพืชผลที่ส่งขายได้ตลอดทั้งปีปัจจุบันบ้านไร่จินตราอยู่ภายใต้การดูแลของคุณสมชายหรือที่ชาว หมู่บ้านเรียกว่า ‘น้าชาย’มีภรรยาชื่อหลิน และลูกชายชื่อคชา หรือน้องออโต้ เป็นครอบครัวเล็ก ๆ ที่ช่วยกันบริหารไร่ มีลูกน้องที่ซื่อสัตย์ และบ้านไร่จินตราแห่งนี้ เป็นแหล่งอาชีพเล็ก ๆ ให้กับชาวหมู่บ้านแถบนั้นอีกด้วย
เรื่องราวของออโต้กับทานตะวัน ในทีแรกก็มีคนงานในไร่ทั้งสอง เอามาพูดคุยกันเรื่องที่ว่าผู้ชายรักผู้ชาย โดยเฉพาะไร่กรุณาธร แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นอันเงียบหายไปเพราะมีคนงานอีกกลุ่มที่เปิดตัวเป็น LGBTQIA+ อยู่แล้วสามคนช่วยจัดการ‘แก๊งนารีผล’แก๊งนี้เปิดตัวขึ้นหลังจากทราบข่าวว่าออโต้กับทานตะวันคบหากันจริง ๆ แถมสุดท้าย ดาวเรืองดึง ‘แก๊งนารีผล’ มาเป็นทีมงาน คิว.ซี. และทีมเลขาให้กับตัวเองด้วย“พวกนี้เก่ง แถมยังปลื้มพวกเธอทั้งสองคนด้วยนะจ๊ะ” เจ้ดาวเรืองบอกกับทานตะวันและออโต้“สงสัยต้องนัดพวกน้อง ๆ มากินมื้อพิเศษแล้วล่ะ” ออโต้ทำพูดเล่น แต่ดาวเรืองกลับจริงจังขึ้นมา“จะดีเหรอเจ้” ทานตะวันไม่แน่ใจ“ดีสิ พวกนี้กลายเป็นสมุนเจ้ไปเรียบร้อยแล้ว” ดาวเรืองกอดอกอวดให้พวกเขาฟัง ดูเป็นเรื่องใหม่สำหรับดาวเรืองที่จะมีลูกน้องคอยช่วยดูแลงานในไร่ และเป็นเพื่อนสายวายเหมือนกับเธอ“แล้วแต่เจ้เลย” ทานตะวันส่ายหน้าระอากับพี่สาวตัวเอง“พวกนางฝากถามมาถึงด้วยนะ” ดาวเรืองพูดพลางยกหลักฐานในมือถืออวดทา
Part ทานตะวันหลังจากที่ตกลงกับออโต้เป็นแฟนกัน ชีวิตไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมมากนอกจากตัวติดกันมากขึ้นกว่าเดิม ในทีแรกผมก็มีความกังวลอยู่นิดหน่อย เพราะนี่ไม่ใช่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น พัทยา ภูเก็ต ที่จะมีผู้ชายกับผู้ชายเดินจับมือกันได้อย่างไม่ต้องเกรงสายตาใคร ซึ่งผมกับออโต้ก็ไม่มีโมเมนต์นั้นอยู่แล้ว‘ไม่ได้แคร์ แต่เกรงใจพ่อแม่ครับ’ดังนั้นการไปไหนมาไหนของเรา ก็ดูออกแหละว่าไม่ใช่เพื่อน แต่มันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร จริงนะหลัง ๆ มาออโต้แทบไม่ได้กลับบ้านเลย! นอกจากผมจะไปค้างที่บ้านเขา ในภายหลังจึงต้องตกลงกันว่าเราจะสลับวัน จันทร์ - อังคารอยู่บ้านผม พุธ - พฤหัสบดี อยู่บ้านออโต้ ศุกร์-เสาร์อยู่บ้าน ส่วนวันอาทิตย์ ก็ดูความเหมาะสมกันครับแม้จะตกลงกันอย่างนี้ แต่สุดท้าย ออโต้ก็มักจะนอนที่ห้องผมซะส่วนมากสืบจากลูกน้องของเจ้ดาวเรือง ‘แก๊งนารีผล’ ตูน แองจี้ และแจ๋ม ซึ่งเป็นคนงานวัยรุ่นในหมู่บ้านที่ถัดจากไร่ไป ได้ขอรูปผมกับออโต้ไปลงในเพจหมู่บ้าน ปร
แต่แล้วคนที่พูดกลับกลายเป็นน้าชายซะงั้น“น้าคิดว่าน้าไม่โอเค หากออโต้จะชอบผู้ชาย...คนอื่นนะ” น้าชายตัดจบง่าย ๆ“สำหรับน้า ก็คงเหมือนกับน้าชาย แต่น้ามีข้อแม้นะ เดี๋ยวจะบอกให้ ขอฟังความเห็นของเพื่อนบ้านก่อน” น้าหลินขยิบตามาให้ลูกชายตัวเอง ผมรับรู้ได้ว่ามันเป็นเรื่องดีแหละผมหันไปมองพ่อแม่ของผมเอง นี่แหละที่ทำให้ผมรู้สึกกระวนกระวายใจหมับ!!ผมสะดุ้งจนแม้แต่เจ้ดาวเรืองหันต้องหันมามองออโต้คว้ามือผมมาจับไว้ผมมองหน้าออโต้ เขานิ่งมาก กลายเป็นผมซะเองที่เสียอาการ“ออโต้ น้าถามหน่อย คิดยังไงกับเจ้าทานตะวันลูกของน้า” พ่อมงคลของผมเอาแล้วไงครับ สไตล์การถามที่ลูกได้รับการถ่ายทอดมาอย่างเต็ม ๆ นี่แหละพ่อมงคล ไม่ค่อยพูด แต่พอพูดก็ตรง ๆ แบบนี้เลยออโต้กำมือผมแน่นขึ้น เออ! ลืมไปเลยว่าเรานั่งจับมือกันอยู่ ฉิบ... ชักมือออกตอนนี้คงไม่ดีแน่ ปล่อยไว้ก่อน“ผม... ผมชอบทานตะวันมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ”“...”เงียบ“กรี๊ดดดดด อุ๊บ อุ๊บ หนูบอกแล้ว” เจ้ดาวเรืองเผลอกรี๊ด
“อะ ไก่ทอด” ออโต้ตักน่องไก่ให้ผม“ตักเองได้น่า” ผมตักได้เองจริง ๆ“แหมแก เขาตักให้ก็ขอบคุณสิคะ ไม่น่ารักเลย” เจ้ดาวเรืองกลับไปเข้าข้างออโต้ซะงั้น“เออ ขอบคุณนะ” ผมเริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย ทุกทีกินข้าวด้วยกันก็ไม่เห็นจะตักให้ มาวันนี้เกิดอยากสำแดงอะไรต่อหน้าพ่อแม่กันล่ะครับ“คนงานเป็นไงบ้างตอนนี้” ฝ่ายผู้ใหญ่เริ่มเปิดประเด็นแล้ว นั่นคือพ่อผมเอง“ก็เรียกมาคุยทั้งไร่เรียบร้อย ตะวันกับออโต้ก็อยู่ด้วยนะ” น้าชายตอบ“เฮ้อ อย่างว่า ลูกน้องเขาก็คงรักพวกนายมาก ๆ ไม่งั้นจะทำอย่างนี้เหรอ ใช่ไหม?” พ่อมงคลอของผมให้ความเห็น ข้อดีของพ่อก็คือเขามักจะคิดบวกเสมอ ซึ่งเหตุการณ์นี้ถ้าคิดบวกมันก็คือดี แต่ที่แย่คือใจดำไปหน่อยปล่อยให้ผมรอกลางฝนแบบนั้น“แล้วตายิ้มที่ป้อมหน้าล่ะ” แม่เฟื่องฟ้าถามถึงที่ไม่ยอมปล่อยให้ผมเข้ามาในไร่“อือม จริงสิ เงียบไปเลยหลังจากเรียกประชุม ตอนนั้นแกก็ดูจะหลบ ๆ หน้าอยู่” น้าสมชายบอกกับแม่เฟื่องฟ้า“อย่าไปทำอะไรเขาล่ะ” พ่อผมพูดติดตลก“ก็คงไม่หรอก เพราะตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าลู
คนงานในไร่จินตราทยอยเดินเข้ามาในห้องโถงกลางบ้านที่ตอนนี้เปิดเครื่องปรับอากาศไว้รอรับ แต่ละคนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่สบายใจเท่าไร บางคนก็มีท่าทีวิตกอย่างเห็นได้ชัดสมชายผู้เป็นใหญ่ที่สุดในไร่ออกมานั่งที่เก้าอี้รับแขกด้วยสีหน้าเรียบเฉย มีหลินผู้เป็นภรรยานั่งอยู่ข้าง ๆ และเมื่อออโต้ลงมาจากชั้นบนพร้อมทานตะวันและดาวเรือง บรรดาคนงานยิ่งมีอาการวิตกกังวลกันมากขึ้น ต่างพากันก้มหน้าหลบสายตาที่เย็นเยือกของสมชายอย่างเห็นได้ชัดเจน“นั่งตรงนี้ลูก” หลินหันไปบอกทั้ง 3 คนให้นั่งตรงชุดโซฟาที่ถัดออกไปสมชายลุกขึ้นยืน คนงานพากันเงียบลงในทันที“มากันครบแล้วใช่ไหม ยิ้มมารึยัง”“มะ มาแล้วครับ” ตายิ้มที่นั่งอยู่ด้านหลังยกมือขึ้น“ดี”สมชายกวาดตามองคนงานเรียงจากซ้ายไปขวา ส่วนมากจะนั่งก้มหน้ากันมากกว่า เหมือนรู้ว่าสิ่งที่สมชายจะพูดต่อจากนี้คืออะไร“พี่ไม่รู้นะ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดที่ไร่ของเราไม่เคยมีมาก่อน” สมชายหยุดหายใจ“ไร่ของเรากับไร่กรุ
+++++ตะวันกลับออกมาด้วยเสื้อผ้าของผม“น่ารักว่ะ”“อะไร!?” ตะวันทำหน้าตื่นเมื่อผมชมว่าน่ารักแต่ตะวันก็คือตะวัน เขาเปลี่ยนโหมดกลับมาเป็นตัวเองอย่างเร็ว“เรามารอเพื่อเอาหลักฐานมาให้ดูว่าบ้านเราบริสุทธิ์”ตะวันพยายามยื่นมือถือมาให้ผม“เชื่อแล้ว...” ผมตอบ“อะไร ทำไมเชื่อง่าย ๆ ทีก่อนหน้านี้ ไม่ยอมเจอเลย ปิดบ้านหนีอีกต่างหาก” ตะวันก็ยังคงเป็นตะวัน เขาเริ่มเปลี่ยนเป็นโวยวายจนผมต้องรีบยกมือห้าม“เดี๋ยว ๆ ใจเย็น ไหนหลักฐานที่อยากให้ฟัง เปิดให้ฟังสิ” ผมรีบห้ามก่อนที่ตะวันจะโวยวายไปมากกว่านี้ตะวันยอมสงบ เขากดเปิดเสียงให้ผมฟังตั้งแต่ต้นจนจบ“เชื่อตะวันแล้วใช่ไหม”“ก็ไม่เคยไม่เชื่อนะ” ผมตอบจากใจ“เอ้าแล้วทำไมปิดเครื่องหนี ติดต่ออะไรไม่ได้ ปิดประตูทุกช่องทาง” ตะวันกลับมาเริ่มโวยวายอีกจนผมต้องใช้ไม้ตายหมับ!ผมกอดตะวันไว้แน่น ตะวันเริ่มหายใจราบเรียบขึ้น ผมสัมผัสได้ว่าหัวใจของตะวันเต้นแรงและเร็ว ซึ่งไม่ต่างจากผมในตอนนี้ที่&