“พวกข้าสองคนจะพยายามทำให้เสร็จตามกำหนดเวลาขอรับ”“อืม เต๋อหลินเจ้าแบ่งคนออกไปครึ่งหนึ่ง พวกเราจะแยกเป็นสองทางเพื่อลอบเข้าไปสืบข่าวด้านในค่ายกองกำลังลับแห่งนี้ เมื่อเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ ที่นั่นจงรอให้ถึงช่วงต้นยามจื่อเสียก่อน พวกมันคงแบ่งกำลังสลับกันไปพักผ่อนเพื่อเดินเวรยาม รอจังหวะนี้ค่อยเข้าไปด้านในค่า
“เมื่อได้ยาพิษก็อย่ารอช้าอีกเลยจะดีกว่า คืนนี้ลงมือได้ทันทีนำไปผสมกับน้ำที่พวกเขาได้ดื่มกิน พรุ่งนี้ก็แค่รอดูผลของยาพิษว่าเป็นไปในทิศทางใด หากทหารพวกนั้นอ่อนแรงไม่สามารถใช้พละกำลังของตนเองได้ เย็นวันพรุ่งนี้พวกเราก็รีบเดินทางกลับเมืองหลวงได้”“ซื่อจื่อวางใจเถิดข้าสองคนขอรับรองด้วยชีวิต หลังจากที่รับ
เซียวหนิงหลงนำกล่องไม้ที่ใส่นิ้วมือของเป้ยเฝิ่นลู่ ส่งให้ม้าเร็วรีบนำมันกลับเมืองหลวงเพราะเป็นของขวัญสำหรับจิ่งไท่เฟย เผื่อว่าพระนางจะหายจากอาการประชวร หรือจะหายไปจากโลกนี้ได้ยิ่งดีกับสตรีไม่รู้จักพอเช่นนี้ส่วนทหารจากกองกำลังลับที่รอดจากยาพิษของต่งซวิน ต่างรีบเดินทางเข้าเมืองเฉียนซานเพื่อรายงานสถาน
เมื่อได้รับของฝากจากเมืองเฉียนซาน จิ่งไท่เฟยถึงกับล้มทั้งยืนหลังจากเห็นแหวนที่คุ้นเคย เพราะนางเป็นผู้มอบให้กับเป้ยเฝิ่นลู่ด้วยตนเอง อาการตกใจอย่างหนักและการล้มทั้งตัวอย่างเต็มที่ ทำให้หลังของนางกระแทกกับพื้นแข็ง ๆ อย่างแรง ภายหลังหมอหลวงที่ถูกตามมารักษาได้บอกกับนางกำนัลคนสนิทว่า อาการเจ็บป่วยของจิ่ง
“พวกข้านอนที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นอย่างไรเสียที่นี่ก็ไม่ได้หนาวเหน็บเหมือนแดนเหนือ ตอนกลางคืนจึงนอนกับพื้นโล่ง ๆ ได้สบายมากขอรับ ขอเพียงมีพื้นที่สำหรับทำกระโจมที่พัก พวกข้าสามารถทำที่พักชั่วคราวนอนรวมกันได้ขอรับคุณหนู”“ทุกคนต้องดูแลสุขภาพของตนให้ดี อย่าประมาทกับสภาพอากาศที่ต่างกัน หากปรับตัวไม่ได้อาจจะล
เช้าวันใหม่เวียนมาถึงผู้มาจากแดนเหนือตื่นกันตั้งแต่เช้า พวกเขานอนไม่ค่อยหลับไม่ใช่เพราะไม่ชินกับสภาพอากาศ แต่เป็นความรู้สึกตื่นเต้นดีใจด้วยวันนี้จะได้เรียนการทำอาหาร เยวี๋ยนจิ้งห้าวหัวหน้ากลุ่มจากแดนเหนือได้พูดคุยกับเจียวมิ่ง เขามองเห็นถึงความชื่นชมนับถือจากสายตาของทุกคนและยังแอบกระซิบบอกกับตนอีกด้
“พวกข้าไม่รู้จะตอบแทนบุณคุณครอบครัวของคุณหนูอย่างไร ถึงจะเหมาะสมคู่ควรกับการช่วยเหลือในครั้งนี้”“ท่านอย่าคิดมากเรื่องเป็นบุญคุณอันใดเลย คุณหนูก็บอกแล้วนี่ว่าพวกท่านคือลูกจ้างของนาง เป็นการทำงานใช้แรงแลกเงินค่าจ้างพวกท่านก็แค่ทำงานให้ดีก็พอขอรับ”“พี่ชายเยวี๋ยนคุณหนูลู่ชิงให้มาตามไปด้านหลังห้องครัวข
“พวกข้าไม่แน่ใจว่าต้นมันจะมีอยู่เยอะหรือไม่ เอาเช่นนี้ได้ไหมคุณหนูถ้าพวกข้ากลับไปแดนเหนือ จะชวนเหล่าสหายที่นั่นขึ้นไปสำรวจบนเขาหาดูต้นของมัน หากพบว่ามันมีอยู่เยอะจะรีบส่งข่าวมาแจ้งให้ท่านทราบเป็นอย่างไร หลังจากนั้นค่อยส่งคนไปจัดการก็ยังทันนะขอรับ” เยวี๋ยนจิ้งห้าวแบ่งรับแบ่งสู้เพราะเขาเองก็ยังไม่มั่น
“ถึงเจ้าไม่พูดข้าก็คิดจะลงมืออยู่แล้ว เมื่ออู๋เจียงสงกลับไปถึงเมืองหลวง อาจตายเพราะความตกใจจนเกินเหตุ หรือไม่ก็คงตรอมใจจนตายก็เป็นได้ เจ้าอย่าห่วงเลยข้าจะจัดการให้เมืองหลวงไม่มีชื่อตระกูลอู๋อีกต่อไป” เซียวหนิงหลงพูดคำไหนคำนั้นและเขาไม่เคยทำไม่สำเร็จ“ขอบคุณมากขอรับ รอให้ข้าฝึกวรยุทธ์ได้เก่งมากกว่านี
“ชิงเอ๋อร์เจ้ายื่นมือมาพี่จะช่วยสวมให้เจ้าเอง เมื่อใส่กำไลหยกชิ้นนี้แล้วก็ถือว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของพี่ เป็นว่าที่สะใภ้ของราชวงศ์เซียวแห่งแคว้นฉู่ หากมีใครคิดปองร้ายเจ้าโทษของคนเหล่านั้น ย่อมร้ายแรงมากกว่าปกติหลายเท่าการลงโทษย่อมมีหนักเบา หวังว่าเจ้าจะเข้าใจกฎเกณฑ์พวกนี้ บางครั้งเราไม่อาจใจดีกับคนที่
“เรื่องบิดาของท่านพวกข้าจะไม่เข้าไปยุ่ง หากท่านไม่ร้องขอความช่วยเหลือ แต่คนที่ลอบติดตามมาเพื่อจัดการท่านกับครอบครัว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกข้าก็แล้วกัน เพราะเรื่องนี้คนของข้าย่อมถนัดมากกว่าการพูดคุย นายท่านสวีจะได้จัดการเรื่องสำคัญได้อย่างสบายใจ” ชินอ๋องจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของลู่เวิ
ทุกคนที่อยู่ร่วมทานอาหารยังไม่มีใครพูดอะไร เพราะกลัวว่าการทานอาหารมื้อเย็นนี้จะเสียอรรถรสจึงรอไปก่อน ระหว่างนั้นมีการพูดคุยกันเพียงเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ส่วนตันเจียงที่ทานอาหารกับกลุ่มเจียวมิ่งด้านนอก เขาได้พูดถึงเรื่องนี้กับสหายไปบางส่วน เนื่องจากว่าทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมเ
การมาพักผ่อนที่บ้านของตระกูลสวีผ่านมาสองวัน มีเรื่องให้ชินอ๋องและพระชายาได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ มากขึ้น ไหนจะขึ้นเขาล่าสัตว์มาทำอาหารหรือการจับปลาในแม่น้ำ ที่ไหลผ่านหลังหมู่บ้าน แม้แต่ตามไปที่ร้านอาหารเพื่อทดลองเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็ยังต้องการจะลองทำดูให้ครบหมดทุกอย่างทำเอาชินอ๋องผู้แข็งแกร่งถึงกับอ่อนระโ
“เป็นข้าวต้มก็ดีเหมือนกัน แต่ชิงเอ๋อร์คงทำหม้อใหญ่กว่าเดิมใช่หรือไม่ เพราะมีคนมาเพิ่มอีกหลายคนทีเดียวเจ้าอาจจะเหนื่อยมากเกินไปก็ได้นะ” เพราะคนที่มาครั้งนี้มีมากกว่าห้าสิบคน ที่พักจึงต้องตั้งกระโจมยังพื้นที่ว่างตรงข้างบ้าน“พี่ชายเซียวท่านไม่รู้อะไรซะแล้ว ตอนนี้พวกพี่เจียวมิ่งน่ะทำอาหารเป็นตั้งหลายอย
“คือว่าพี่กับตันเจียงไปตระกูลเหลียนเพิ่งกลับมา เพราะคนพวกนั้นกล่าววาจาล่วงเกินท่านน้าลู่เวิน และพูดจาไม่ดีกับเจ้าด้วย ที่สำคัญคิดหาผลประโยชน์จากกิจการร้านค้าของตระกูลสวีอีก พี่จะยอมให้คนพวกนั้นทำสำเร็จได้อย่างไร ตราบใดที่พี่ยังอยู่จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายชิงเอ๋อร์ได้ รวมถึงทุกคนในครอบครัวของชิง
กลางดึกในหมู่บ้านอันฮุยจวนของเศรษฐีประจำหมู่บ้าน ลุกโชนด้วยความร้อนแรงของแสงไฟ ร่างที่ถูกยาสลบของต่งซวินหลายสิบคน นอนเรียงรายไม่รู้สึกตัว จากความร้อนของเปลวไฟที่โหมกระหน่ำ เรือนทุกหลังถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะเรือนหลังสุดท้ายที่เป็นของเหลียนตั๋วลู่ ก็ถูกจุดไฟจากฝีมือของก้งคุนที่ถือคบไฟรออยู่ เ
“จะเรียกพวกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่ท่านเหลียนจะเรียกเถิด และใช่ท่านทำอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่พอใจมาก เพราะท่านเหลียนกำลังคิดจะจัดการตระกูลสวี ข้าพูดถูกใช่หรือไม่” เซียวหนิงหลงเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลางห้องและพูดถึงเรื่องตระกูลสวี“จะ จะ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังคิดจะทำอะไรกับตระกูลสวี” เหลียนตั๋วลู่เร