Chapter[13/2]ตกเย็นหลังเลิกงานญารินมีนัดกับกฤษณะคู่เดตของเธอเอง วันนี้เขาอยากขอแก้มือจากเรื่องวันนี้ที่ทุกอย่างยังไม่ทันจะได้เริ่ม กลับมีคนมาล่มงานของเขากับญารินเสียก่อนซึ่งญารินเองก็คิดเหมือนกันว่าอยากจะขอโทษกฤษณะที่เจ้านายของเธอเข้ามาเสียมารยาทแบบนั้น เย็นวันนี้ทั้งสองจึงตกลงนัดกันมาดินเนอร์ยามเย็น นั่งล่องเรือดูพระอาทิตย์ตกไปด้วยกันเพื่อจะสานสัมพันธ์ต่อกฤษณะบอกเธอว่าเขามีเรือส่วนตัวอยากจะชวนเธอชมบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมทีญารินไม่ค่อยอยากมาสักเท่าไหร่นัก เพราะมันค่อนข้างไกลและเธอเตรียมตัวไม่ทัน แต่ชายหนุ่มก็ดันจะพามาให้ได้โดยขออาสามารับที่หน้าบริษัทซึ่งญารินก็ยอมตกลงดูเหมือนว่าการพบเจอกันครั้งที่สอง กฤษณะจะทำการบ้านมาดีเหมือนเช่นคราวแรก ญารินบอกว่าเธอไม่มีเวลาเตรียมตัวกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดสวยๆ กฤษณะเลยเตรียมชุดมาให้เธอใส่พร้อมก่อนลงเรือไปด้วยกันเลยชุดมินิเดรสเกาะอกสี Ombre แบรนด์ดังอย่าง Poem กับการเกล้าผมขึ้นแบบลวกๆ มันดูสวยธรรมชาติไปหมด ด้วยพื้นฐานของญารินเป็นคนที่สวยอยู่แล้วพอได้ใส่ชุดแบบนี้มันยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้เธอเข้าไปอีก อย่างที่เขาว่ากันว่าไม้แขวนดีจะส่งเสริมบารม
Chapter 14[14/1]ญารินมาถึงสตูดิโอตามที่กฤษณะได้แจ้งไว้ คอนเซปของงานบอกแค่ว่าต้องถ่ายกี่เซ็ท แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นธีมแบบไหนเน้นแค่งานผมและงานผิว ญารินก็เลยไม่ได้เตรียมตัวมามากนักเพราะไม่รู้สโคปงานที่แน่ชัด“สวัสดีครับคุณญาริน รถติดไหมครับ ผมขอโทษนะที่ไม่ได้ออกไปรับคุณ”“ไม่เป็นไรค่ะคุณกฤษ”“งั้นเข้าไปแต่งหน้าทำผมก่อนเถอะครับ ช่างรออยู่”“ค่ะ” กฤษณะพาญารินเดินเข้ามายังห้องแต่งตัวที่ตอนนี้มีช่างรอพร้อมอยู่แล้วร่างบางนั่งบนโต๊ะเตรียมตัวแต่งหน้าทำผม โดยมีช่างสาวประเภทสองคนหนึ่งเดินมาพร้อมแก้วไวน์แดง และยื่นแก้วนั้นมาวางไว้โต๊ะตรงหน้าเธอ“ดื่มระหว่างรอก่อนค่ะน้องญาริน”“เอ่อ รินขอไม่ดื่มได้ไหมคะ” เธอชอบดื่มไวน์มากก็จริงและก็เป็นคนคอแข็งอยู่พอสมควร แต่ระหว่างการทำงานก็ต้องแยกแยะก่อน“หื้ม? ไม่เป็นไรเลยค่าหนู อย่าให้เสียน้ำใจบอสของพี่สิคะ”เจ้ช่างแต่งหน้าชวนให้เธอเสมองไปทางเจ้าของไวน์แก้วนี้ กฤษณะกำลังยื่นคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวดูภูมิฐานขนาดนั้น น่าจะเป็นเพื่อนหรือไม่ก็ลูกค้าของเขาญารินไม่อยากเสียมารยาทจึงควงแก้วยกขึ้นดื่มระหว่างแต่งหน้าทำผม พอหมดแก้วก็มีคนเดินมาเติมให้อีกรอบ ญารินรู
Chapter 14[14/2]พอหลังจากที่โทรไปหาญารินแล้วโดนเทมาหมาดๆ ณัฐกานต์จึงต้องหอบสังขารตัวเองออกมาจากที่พัก และตรงดิ่งไปร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวๆ คอนโดของอัครเดชเพื่อนชายคนสนิท“นี่! ว่าแต่มึงว่างหรอ ถึงโทรชวนกุออกมากินข้าวเนี่ย?” อัครเดชกำลังจะออกไปวิ่งตอนเย็นพอดี แต่กลับโดนเพื่อนโทรตามให้มานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนอยู่แบบนี้ แล้วดูสีหน้าคนชวนมาตอนนี้สิ นี่มันนั่งกินข้าวหรือกำลังกินลาบก้อยอยู่ก็ไม่รู้ อย่างกับไปโกรธใครมา“หิว!!”“หิวหรือหงุดหงิดใครอยู่ เอาดีๆ”“หึ! รู้ทันนะมึง”“ทีหลังก็แค่บอกว่าของมึง กุจะได้ไม่เสียเวลายุ่ง ไอ้เหี้ย”ตั้งแต่วันนั้นที่อัครเดชไปนั่งทานข้าวกับญารินที่ร้านเดียวกับณัฐกานต์ แล้วเธอโดนไอ้เพื่อนเหี้ยคนนี้ลากออกไปจากร้านเสียดื้อๆ โดยที่ไม่ทงไม่ถามสุขภาพสักคำแบบนี้ไม่เรียกว่าหึงหวงแล้วจะเรียกว่าอะไร ถ้าไม่ปากแข็งใส่เขาก็คงจะไม่ยุ่งกับเลขาฯ ของมันหรอก“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน”“หราาา กุเป็นเพื่อนมึงมากี่ปีแล้วไอ้สัส เรื่องแค่นี้ทำไมจะไม่รู้”“แดกๆ เข้าไป มึงอย่าพูดมาก” ชวนมากินข้าวหรือชวนมานั่งพูดวะ รำคาญโว้ย!“นี่! เผื่อมึงจะไม่รู้นะว่ากุกำลังจะไปออกกำลังกายโว้
Chapter 15[15/1]หลังจากที่ชำระแค้นพวกนั้นจนเสร็จสิ้น ณัฐกานต์และอัครเดชก็นำตัวญารินส่งมาที่โรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้คงต้องรอให้เธอได้สติก่อนถึงจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ส่วนทางกฤษณะและผู้ร่วมขบวนการของมัน ตอนนี้ถูกตำรวจจับไปแล้ว แต่จับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อเพื่อรอสอบสวน เพราะจากสภาพของกฤษณะและเพื่อนในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากศพเลยแม้แต่น้อยถ้ารู้ว่าโทรแจ้งตำรวจแล้วพวกมันจะได้นอนรักษาที่โรงพยาบาล ป่านนี้เขาคงไม่โทรแจ้งให้เปลืองน้ำลายหรอก น่าจะปล่อยให้พวกมันตายๆ ไปซะ คนอย่างไอ้ณัฐห่วงของอย่างกับอะไรดี แล้วพวกแม่งก็ดันมาเล่นถูกคนด้วย ไม่ตายก็บุญหัวแล้ว“แล้วมึงจะเอาไงต่อ?” เพื่อนรักของณัฐกานต์ถาม เพราะรู้ว่าแค่โดนซ้อมกับโดนดำเนินคดีแค่นี้ มันไม่ใช่คนอย่างณัฐกานต์หรอก“เหมือนเดิม” คำๆ นี้ เพื่อนรักโอมของเขารู้ดีว่าต้องทำอย่างไร“เฮ้อ! กุล่ะสงสารพวกมันจริงๆ”“มึงควรสงสารคนที่นอนอยู่ตรงนี้”“เออๆ คนนี้กุก็ยิ่งสงสาร ไม่รู้ว่าไปทำอิท่าไหนถึงโดนหนักขนาดนี้”ตามร่างกายของญารินมีรอยเขียวช้ำตามจุดต่างๆ หลายจุด ทั้งข้อมือ มุมปากและหนักสุดคงเป็นรอยที่หน้าท้องที่เหมือนรอยชก ยิ่งเห็นสภาพตอนนี้ยิ่งทำใ
Chapter 15[15/2]วันรุ่งขึ้น ณัฐกานต์ไม่รอช้าที่จะเตรียมตัวขับรถไปที่อู่เรือของพ่ออัครเดช โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุดเลยไม่ต้องเข้าบริษัท ส่วนญารินก็ได้โทรให้พี่สาวมาอยู่เป็นเพื่อนแล้วตั้งแต่ที่เธอตื่นขึ้นมาเมื่อคืนจนถึงตอนนี้ณัฐกานต์ก็ยังไม่ได้นอนเลย มัวแต่เป็นห่วงอีกคน ที่เอาแต่ร้องไห้หวาดกลัวตัวสั่นไปหมด เขาไม่รู้หรอกว่าคิกยังไงกับเธออยู่ แต่รู้แค่เพียงว่าเขาทั้งห่วงทั้งหวงญารินมากก็ตอนที่เกิดเรื่องขึ้นนี่แหละอู่เรือร้างของเสี่ยอั๋งอยู่แถวๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไม่ได้ถูกใช้งานเป็นที่เก็บเรือแล้ว ก่อนจะย้ายไปที่ใหม่ตรงที่ไอ้สวะนั่นพาเธอมาล่องเรือนั่นแหละ จบงานนี้คงต้องขับไปอู่ใหม่ของเสี่ยอั๋งเพื่อเผาเรือมันทิ้งซะ จะได้ไม่รกหูรกตา“อยู่ไหนแล้ว?” ณัฐกานต์ต่อสายหาไอ้โอมลูกเสี่ยอั๋ง พร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟนขณะขับรถ“กำลังถึงอู่แล้ว กว่าจะเอามันออกมาจากโรงบาลได้ หมดเงินไปไม่ใช่น้อยนะมึง” แค่ไปเอาตัวมาดำเนินคดีเอง ยังต้องจ่ายค่ากาแฟให้พวกตำรวจหน้าห้องพักฟื้นไปหลายแสน“เออ เดี๋ยวคืน”“รีบมาก็แล้วกัน กุต้องส่งตัวพวกมันกลับไปโรงบาลอีก”อัครเดชและคนของพ่อเขาได้พาตัวสองคนนั้นออกมาจากโรงบาล
Chapter 16[16/1]ทางด้านโรงพยาบาลตอนนี้ญารินได้พี่สาวของเธอเป็นคนมาเฝ้าไข้ให้ หลังจากที่ณัฐกานต์บอกว่าจะขอออกไปทำธุระข้างนอกก่อน ญารินจึงโทรไปบอกเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้นลินฟัง“ดีนะที่พวกมันยังไม่ได้ทำอะไรรินอ่ะ”นลินทราบผลการตรวจร่างกายอย่างละเอียดจากทางโรงพยาบาลแล้ว เพราะณัฐกานต์เป็นคนสั่งให้หมอตรวจทั้งภายนอกและภายในของน้องสาวทั้งหมด เพื่อจะได้เอาผิดกับคนพวกนั้น“รินผิดเองแหละพี่ลี่”“เราไม่รู้หรอกว่าใครเข้าหาเราเพื่อจุดประสงค์อะไร รินไม่ผิดหรอก”“ถ้ารินดูให้ดีกว่านี้คงไม่เกิดเรื่องขึ้น” ญารินยอมรับความผิดพลาดและความประมาณของตนเอง แม้จะเป็นสาวมั่นใจในตัวเองขนาดนั้นก็ควรจะรู้จักรอบคอบมากกว่านี้เธอต้องขอบคุณณัฐกานต์ที่ไปช่วยได้ทัน และอุตส่าห์นำตัวพามาโรงพยาบาล รวมทั้งยังเป็นธุระให้ทุกอย่างในคดีนี้ ตอนแรกที่ญารินโทรหาเขาไม่ติด เธอคิดว่าตัวเองจะไม่มีโอกาสรอดมาได้แล้วด้วยซ้ำไปวันนี้เธอต้องมองเขาใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่ที่เขาไปช่วยเธอ แต่ยังมีหลายเรื่องที่ผ่านมาทำให้เธอรู้สึกได้ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น เหมือนอย่างที่ครอบครัวเขาบอกเอาไว้เพียงแค่เขาต้องการอยากเดินตามทางเลือกของ
Chapter 16[16/2]“ทำไมต้องยกเว้น?” ที่ถามไปไม่ใช่เพราะกำลังคาดหวังอะไรอยู่หรอกนะ ไม่เลยจริงๆ“เถอะหน่า” มันกระดากปากยังไงไม่รู้ถ้าจะบอกว่าหวง“หวง?”“…..”“ไม่ตอบแสดงว่าใช่”“เพราะฉันไว้ใจได้ที่สุดแล้ว และฉันก็เป็นเจ้านายของเธอ อย่าได้คิดไปไกลเป็นอย่างอื่น”ไม่ให้คิดไปไกลงั้นเหรอ? หมดกันจากที่คาดหวังกับคำตอบ เหมือนกำลังจับลูกโป่งแล้วลอยตัวขึ้นฟ้า แต่กลับโดนใครเล็งปืนใส่จนทำให้ลูกโป่งแตกแล้วเธอก็หล่นลงมาบนพื้นอย่างแรงจนเจ็บตัว“แต่คนที่บอกว่าตัวเองไว้ใจได้ ก็เคยทำกับฉันไม่ต่างอะไรกับคนพวกนั้นเลยนะ”ที่บอกว่าไม่ให้คิดไปไกล คือกำลังหมายความว่าไม่ให้ญารินคิดเกินเลยกับเจ้านายตัวเองอยู่แบบนั้นหรือเปล่า? เธอคิดถูกไหม เขากำลังพูดดักทางเธออยู่ใช่ไหม?โอเค.... ชัดเจนแล้วญาริน ต่อไปนี้จะได้ไม่หวั่นไหวกับเขาอีก ที่ผ่านมาบางครั้งที่ทำดีด้วยก็แค่ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องไง อย่าคิดมากสิญาริน สมยอมเขาไปไม่กี่ครั้งก็เพราะเธอเลือกเองทั้งนั้น“เธอยอมฉันเองนะ”“รู้ค่ะ ฉันมันโง่เอง เพราะถ้าไม่โง่ก็คงจะไม่โดนผู้ชายหลอก” คนเรามันจะไม่มีเลยหรอวะ ที่จะประสบความสำเร็จกับเรื่องความรัก ทำไมคนที่ชื่อญารินต้องมาผิด
Chapter 17[17/1]ญารินกลับมาอยู่บ้านตัวเองแล้ว หลังจากที่ณัฐกานต์มาส่งเมื่อเช้านี้ เขาก็คงจะกลับไปพักผ่อน เพราะดูทรงแล้วเหมือนเขาเองก็อ่อนล้าด้วยเช่นกัน ส่วนเธอวันนี้ก็ให้ลาพักผ่อนไปร่างเพรียวบางเดินมามองตัวเองอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องนอน มือเรียวบางสัมผัสกับเข้ากับใบหน้าของตัวเองอย่างพิจารณา เครื่องหน้าที่พ่อแม่ให้มาโดยธรรมชาติทุกอย่าง และกล้าพูดได้เต็มปากว่าไม่เคยเติมแต่งจุดไหนอีกใครๆ ก็ชมว่าเธอสวยมาตั้งแต่จำความได้ และเพราะความสวยของเธอที่เป็นเหมือนดาบสองคมมาคู่กัน บางครั้งมันก็สามารถช่วยทำมาหากิน บางครั้งก็ทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายอยู่ที่บอกว่าเธอไม่ใช่คนโหยหาความรักขนาดนั้น จะมีหรือไม่มีก็ได้มันไม่ถึงกับตายหรอก แต่พอลองเปิดใจให้ใครเข้ามาแล้วมันก็มีแต่ความผิดหวัง แต่ก็ไม่เคยเข็ดจริงๆ จังๆ สักทีเธอยังมองความรักเป็นเรื่องสวยงามเสมอ กระทั่งล่าสุดที่ลองออกไปเดตดูอีกสักครั้ง ด้วยหวังว่าครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ทว่ากลับกลายเป็นโดนหลอกเข้าจนได้ และดูเหมือนว่าครั้งนี้จะหนักมากสำหรับเธอตอนที่อยู่ในห้องนั้นญารินรู้สึกกลัวมาก จนไม่กล้าออกไปไหนแม้จะรู้ว่ามันไม่มีความหวังเลยที่จะรอให
Chapter 32[32/2]@มิลาน, ประเทศอิตาลี่วันนี้ญารินมีนัดคุยงานถ่ายแบบงานชิ้นสำคัญในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากการเดินแบบแล้วเธอก็ไม่เคยได้มีโอกาสได้ขึ้นปกหนังสือนิตยสารเลยสักครั้ง ต้องขอบคุณโรสมากๆ ที่ทำให้ความฝันของญารินได้กลายเป็นจริงสักทีก่อนหน้านี้โรสได้รับการติดต่อให้จัดหานางแบบในสังกัดให้มาถ่ายนิตยสารจากแบรนด์เสื้อแบรนด์หนึ่งที่เป็นฝีมือของคนไทยเองโดยที่เจ้าของแบรนด์ให้โจทย์กับโรสมาว่าจะต้องเป็นหญิงหน้าไทย แต่ยังมีโครงหน้าที่ดูทันสมัยด้วย เนื่องจากแบรนด์นี้ใช้ผ้าไทยหลายชนิดมาตัดทำเป็นชุด แต่ยังเพิ่มดีไซน์ผสมผสานให้ทันสมัยตามแบบของผู้หญิงยุคใหม่ซึ่งจากโจทย์ที่ให้มาโรสไม่สามารถนึกถึงใครอื่นได้เลย นอกจากญารินนางแบบหน้าไทยสวยเก๋เซ็กซี่คนนี้ เธอคือตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ เหมาะสมกับแบรนด์ VANIDEE ที่สุดแล้วภายในร้านอาหารสัญชาติอิตาเลี่ยนที่ตั้งอยู่ในคอมเพล็กซ์ Museo del Novecento ทำให้เราสามารถมองออกไปด้านนอกแล้วเห็นทิวทัศน์อันงดงามได้อย่างประทับใจของ Piazza del Duomo หรือที่เรียกกันว่าจัตุรัสหลวง“วิวสวยจังเลยนะคะพี่โรส” ญารินนั่งมองวิวด้านนอกจากในร้านอาหารแห่งนี้ด้วยความร
Chapter 32[32/1]“คุณหนูคะ คุณยุวดีกลับมาแล้วค่ะ ท่านเรียกให้ไปพบค่ะ” ขณะที่พี่น้องสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ ก็มีหญิงแม่บ้านชาวอิตาเลี่ยนวัยกลางคนเดินมาเรียกณัฐกานต์ก่อน“แม่? ครับๆ เดี๋ยวผมไป”“ท่านรออยู่ที่ห้องรับแขกนะคะ”“ขอบคุณครับ” ณัฐกานต์หันไปบอกแม่บ้าน เธอรับคำพร้อมกับเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นอีกครั้งเขายังอยากนั่งคุยกับผู้เป็นพี่ชายต่ออีกสักพัก ถ้านอกจากออสโม่กับแม่นมที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กแล้ว ทั้งตระกูลนี้ก็คงมีพี่ชายคนนี้นี่แหละที่เขาพอจะพูดคุยด้วยกันได้ทุกเรื่องจริงๆ“ไปหาแม่เถอะ ฉันขอนั่งอยู่แบบนี้สักพักก่อน” ภัทรกาฬบอกน้องชายแบบนี้เพราะกลัวว่ายุวดีจะรอนานเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวภัทรกาฬเองก็รับรู้ เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกชัดเจนแบบณัฐกานต์ว่าไม่พอใจกับสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำไว้แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ของพวกเขาก็ยังรักลูกเสมอ เพียงแต่พวกท่านไม่ได้แสดงออกมาในรูปแบบเหมือนที่ครอบครัวอื่นเขาปฏิบัติกัน หวังว่าสักวันน้องชายของเขาจะมองพวกท่านทั้งสองในอีกมุมที่เขาได้มองบ้าง“อย่าคิดมากนะเฮีย” ณัฐกานต์รับคำจากพี่ชาย พลางลุกขึ้นยืนเตรียมจะเดินออกไป แต่ก่อนจะไปเขา
Chapter 31[31/2]สวนดอกไม้ดอกกุหลาบและดอกคาเดนเยียร์จากหลังคฤหาสน์ ทำให้ทรรศนียภาพของที่นี่น่ามองขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วทั้งดอกไม้ทั้งสวนองุ่นที่ถัดออกไปบวกกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มีภูเขาเป็นฉากกั้นอยู่ ถ้าใครได้มาตรงที่แห่งนี้ก็คงจะยอมกลับละสายตาไปไหนนอกจากทรรศนีภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีเจ้าของสวนคนใหม่นั่งอยู่ที่สวนนี้ด้วย ตอนนี้ณัฐกานต์มองจากด้านหลังของคนที่นั่งตรงโต๊ะหินอ่อนจากทางประตู ก่อนจะก้าวขาเดินไปหาคนคนนั้น“ไง... นั่งชมนกชมไม้ ดูสบายจังนะเฮีย” ร่างสูงเดินเอามือไปวางบนไว้ไหล่พี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่“ได้ยินปู่บอกว่าแกมาทำธุระหรอ?”“ใช่” ว่าแล้วก็นั่งลงบนโต๊ะนั่งข้างๆ กับพี่ชาย“ธุระอะไรของแก? งานสาขานี้พ่อก็บินไปกลับเป็นว่าเล่นแล้ว”“ธุระส่วนตัวน่ะ ถ้าแค่งานของเขา... ผมคงไม่ลงทุนมาขนาดนี้หรอก ไม่ใช่เฮียนี่”แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ณัฐกานต์ไม่มีวันมาทำขนาดนี้ให้หรอก ลำพังแค่ทำงานที่บริษัทให้ทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วกำไรจะมากหรือน้อยเงินเดือนของเขาก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี แม้จะมีปันผลทุกๆ ไตรมาสให้อยู่แล้วก็เถอะ อย่างไรเขาก็คงไม่ได้มากเท่าพี่ชายอยู่แล้ว“ธุระ
Chapter 31[31/1]@โรม, ประเทศอิตาลี่ณัฐกานต์เดินทางมาถึงที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของเศรษฐีไร่องุ่นคนเก่าแก่ในย่านกรุงโรม ด้านหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยไร่องุ่นและโรงหมักไวน์ขนาดใหญ่ และทั้งหมดนี้กินเนื้อที่ไปหลายร้อยไร่โดยประมาณ ซึ่งทรัพย์สินทุกอย่างในที่แห่งนี้เป็นของออสโม่ปู่ของเขาเองชายหนุ่มนั่งรถจากสนามบินมาถึงที่นี่ใช้เวลาไม่นานมาก ตอนแรกคิดว่าจะบินตรงไปมิลานเลย ทว่าพอลองมาคิดใหม่เขาอยากจะแวะมาที่นี่ก่อน เพื่อมาเยี่ยมปู่และพี่ชายของตัวเอง เพราะไม่ได้เจอทั้งสองคนนานมากแล้วพอทำธุระที่นี่แล้วเสร็จก็จะรีบไปมิลานเลยทันที เพราะนอกจะไปหาญารินแล้วเขาก็คิดว่าจะไปดูความเป็นอยู่ของยุวดีสักหน่อย ได้ข่าวว่าช่วงนี้ธุรกิจของผู้เป็นแม่กำลังเติบโตไปได้สวยเลยรถ SUV สุดหรูอย่าง Rolls-Royce Black Badge รุ่นปี 2022 ราคาในไทยโดยประมาณอยู่ที่ 41 ล้าน แต่ราคาที่อิตาลี่ไม่รู้ว่าขึ้นไปเท่าไหร่บ้างแล้วตอนนี้คนขับรถของคฤหาสน์ออกมารับณัฐกานต์ที่สนามบิน ตอนนี้กำลังขับเคลื่อนและชะลอความเร็วลงเพื่อเลี้ยงเข้าสู่คฤหาสน์กาเซียโน่ของเศรษฐีคนดังในย่านนี้ ก่อนจะลงจากรถแล้วเข้าไปหาเจ้าของบ้านที่ตอนนี้รอต้อนร
Chapter 31[31/2]สวนดอกไม้ดอกกุหลาบและดอกคาเดนเยียร์จากหลังคฤหาสน์ ทำให้ทรรศนียภาพของที่นี่น่ามองขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วทั้งดอกไม้ทั้งสวนองุ่นที่ถัดออกไปบวกกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มีภูเขาเป็นฉากกั้นอยู่ ถ้าใครได้มาตรงที่แห่งนี้ก็คงจะยอมกลับละสายตาไปไหนนอกจากทรรศนีภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีเจ้าของสวนคนใหม่นั่งอยู่ที่สวนนี้ด้วย ตอนนี้ณัฐกานต์มองจากด้านหลังของคนที่นั่งตรงโต๊ะหินอ่อนจากทางประตู ก่อนจะก้าวขาเดินไปหาคนคนนั้น“ไง... นั่งชมนกชมไม้ ดูสบายจังนะเฮีย” ร่างสูงเดินเอามือไปวางบนไว้ไหล่พี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่“ได้ยินปู่บอกว่าแกมาทำธุระหรอ?”“ใช่” ว่าแล้วก็นั่งลงบนโต๊ะนั่งข้างๆ กับพี่ชาย“ธุระอะไรของแก? งานสาขานี้พ่อก็บินไปกลับเป็นว่าเล่นแล้ว”“ธุระส่วนตัวน่ะ ถ้าแค่งานของเขา... ผมคงไม่ลงทุนมาขนาดนี้หรอก ไม่ใช่เฮียนี่”แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ณัฐกานต์ไม่มีวันมาทำขนาดนี้ให้หรอก ลำพังแค่ทำงานที่บริษัทให้ทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วกำไรจะมากหรือน้อยเงินเดือนของเขาก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี แม้จะมีปันผลทุกๆ ไตรมาสให้อยู่แล้วก็เถอะ อย่างไรเขาก็คงไม่ได้มากเท่าพี่ชายอยู่แล้ว“ธุระ
Chapter 30[30/1]ก่อนที่จะเดินทางข้ามทวีปไปในวันพรุ่งนี้ คนที่บอกว่าจะเคลียร์งานของตัวเองให้เสร็จทันก่อนจะขึ้นเครื่อง ทว่าตอนนี้ยังมะงุมมะงาหราอยู่กับกองเอกสารที่ต้องเซ็นจนป่านนี้เป็นเวลา 1 ทุ่มกว่าแล้ว ท่านรองประธานบริษัทหนุ่มหล่อไฟแรงก็ยังไม่ได้ลุกออกไปไหนเลยLine~Dar.runnn : กลับเพ้นท์เฮ้าส์ยังคะ? น้องดาอยากไปหาDar.runnn : วันนี้คุณย่าบ่นๆ คิดถึงพี่ณัฐด้วยนะ ถ้าว่างๆ ก็อยากให้พี่แวะมาคุณย่าบ้างDar.runnn : พรุ่งนี้เลยดีไหมคะ วันหยุดด้วยน่าจะเหมาะเลย น้องดาจะได้ทำกับข้าวไว้เผื่อเสียงโทรศัพท์ข้างๆ ตัวณัฐกานต์ดังขึ้น สายตาคมเหลือบไปมองการแจ้งเตือนบนหน้าจอ ถึงได้รู้ว่าเป็นใครที่ส่งมาวันนี้ทั้งวันดารันยังไม่ได้มาหาเขาเลย ซึ่งถ้าปกติแล้วเธอจะมาที่นี่แทบทุกวัน โดยมาพร้อมกับของกินตลอดและในแต่ละครั้งที่มาหาณัฐกานต์ก็ไม่เคยห้ามเลยสักครั้ง ตั้งแต่ตอนที่ญารินยังอยู่รวมถึงตอนที่เธอไม่อยู่ที่นี่แล้วร่างสูงไม่ได้หยิบสมาร์ตโฟนสีเซียร่าบลูของตัวเองขึ้นมาตอบแต่อย่างใด ก่อนจะหันหน้ากลับไปสนใจงานของตัวเองต่อ เพราะเขาต้องรีบทำเวลาให้ทันก่อนขึ้นเครื่องในวันพรุ่งนี้@มิลาน, ประเทศอิตาลี่ญารินได้
Chapter 29[29/2]กริ๊งงง!~~รถสปอร์ตหรูจอดเทียบท่าอยู่หน้าบ้านหลังใหม่ของญารินแล้ว ชายหนุ่มทั้งสองลงจากรถมายืนกดกริ่งรอคนด้านในมาเปิดประตูรั้วให้ซึ่งณัฐกานต์เองก็ไม่อาจรู้ได้ว่ามีใครอยู่ที่นี่หรือไม่ เพราะว่าเขาและอัครเดชก็ยืนตากแดดกดกริ่งเรียกแบบนี้นานแล้วกระทั่งความพยายามของพวกเขาสำเร็จ เมื่อมีคนเดินออกมาจากด้านในบ้านแล้วทว่ากลับไม่ใช่ญาริน คนที่ณัฐกานต์อยากเจอ“อ้าว สวัสดีค่ะคุณ”“สวัสดีครับ ญารินอยู่บ้านหรือเปล่าครับคุณนลิน?”เป็นนลินพี่สาวของญารินเองที่เดินออกมาเปิดประตูพร้อมกับอุ้มลูกชายตัวน้อยออกมาด้วย และเมื่อสักครู่ที่เธอออกมาเปิดประตูช้าก็เพราะว่ามัวแต่ยุ่งอยู่กับลูกชายของตัวเองอยู่ แม้จะได้ยินเสียงกดกริ่งนานสักพักแล้วก็ตามนลินรู้มาว่าณัฐกานต์และน้องสาวของตัวเองทะเลาะอะไรบางอย่างกันอยู่ แต่ก็ไม่รู้ถึงสาเหตุของเรื่องจริงๆ เลยว่าเพราะอะไรที่ทำให้น้องสาวของเธอรีบเก็บข้าวของบินลัดฟ้าข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงต่างประเทศ“นี่รินไม่ได้บอกคุณไว้หรอคะ? ว่าจะไปทำงานกับเจ้านายคนเก่าที่ต่างประเทศ”“ห๊ะ!? อะไรนะ ญารินไปต่างประเทศงั้นหรอ?” ณัฐกานต์ตกใจกับคำพูดของพี่สาวญารินจนเผลอทำสีหน้า
Chapter 29[29/1]@มิลาน, ประเทศอิตาลี่สนามบิน Milan Malpensa เป็นสนามบินนานาชาติที่ถือว่าใหญ่ที่สุดแล้วในมิลาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี่ และเป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับสองรองจากสนามบินในกรุงโรมถ้าถามว่าทำไมถึงมีผู้คนเนืองแน่นมาใช้บริการสนามบิน Malpensa ก็คงจะเป็นเพราะว่ามิลานเป็นแลนมาร์คสำคัญอีกหนึ่งเมืองสำหรับนักช้อปสายแฟชั่นทั้งหลายจะต้องเดินทางมาที่นี่ เพื่อจับจ่ายใช้สอยสินค้าหลากหลายแบรนด์ดังทั่วโลกนอกจากร้านแบรนด์เนมต่างๆ แล้ว ในมิลานยังมีงานจัดแสดงโชว์เกี่ยวกับแฟชั่นมากมายแทบจะทุกวันเลยด้วยซ้ำเหล่าเซเลบฯ คนดัง รวมถึงนางแบบและนายแบบหลายคนจึงไม่พลาดที่จะมาเยี่ยมชมความสวยงามในเมืองนี้เช่นเดียวกันกับญาริน“ขอบคุณพี่โรสมากเลยนะคะ ที่อุตส่าห์มารับแถมยังเป็นธุระเรื่องที่พักให้รินอีก”“ไม่เป็นไรเลยจ้าคนสวยของพี่ ขอแค่หนูมาพี่ก็ดีใจแล้ว”ญารินเพิ่งจะเช็คเอาท์ลงจากเครื่องเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ตอนนี้มีโรสเอเจนซี่สาวสองคนสนิท มารับเธอถึงสนามบินหลังจากที่วจีโทรมาบอกเรื่องใบลาออกของเธอแล้ว แต่กลับโดนปฏิเสธและยังมีหน้ามาบอกให้เธอสามารถพักร้อนได้ 1 เดือนจากนั
Chapter 28[28/2]เหตุการณ์ก่อนหน้านี้....,(ณัฐกานต์ ทอร์ค)ตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่ผมกับญารินทะเลาะกัน จนผ่านมาถึงวันนี้ผมยังไม่เห็นเธอเข้ามาทำงานเลยผมนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานที่มีงานกองเท่าภูเขาได้แต่ก็ไม่ได้สนใจมันเลย สิ่งที่สนใจอยู่กลับเป็นโต๊ะว่างเปล่าที่ตอนนี้ไร้เจ้าของมานั่งทำงานผมจับโทรศัพท์สแกนนิ้วปลดล็อกแล้วก็กดปิดหน้าจอไว้เหมือนเดิม เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เช้าแล้ว ในใจอยากจะโทรไปหาญารินให้ได้ทันทีทันใดแต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า ที่ผ่านมาผมก็ง้อเธอมาตลอดจนอาจจะทำให้เธอเสียคนขนาดนี้ ถ้าหากจะง้อเธออีกครั้งก็คิดว่าเธออาจจะได้ใจอีกเรื่องวันนั้นญารินวู่วามเกินเหตุจริงๆ ต่อหน้าต่อตาผมขนาดนั้นยังไม่มีความเกรงใจกันเลยสักนิด และหลายครั้งหลายคราวที่ดารันมาหาผมเธอก็มักจะเป็นอารมณ์นี้อย่างวันก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น ดารันทำขนมมาให้ผมลองชิมสูตรใหม่แบบไม่หวาน เพราะเธอรู้ว่าผมไม่ชอบกินอะไรหวานๆ แต่ญารินก็ทำท่าหาเรื่องใส่ดารัน จนไล่เธอกลับบ้านไปตอนเด็กๆ ดารันตัวเล็กมากและไม่สู้คนเลย มีผมกับเฮียนาฟสองคนที่คอยปกป้องเสมอเพราะเราสามคนเรียนที่เดียวกันมาตลอด ก่อนที่ดารันจะแยกย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศในช่วง