Chapter 17[17/1]ญารินกลับมาอยู่บ้านตัวเองแล้ว หลังจากที่ณัฐกานต์มาส่งเมื่อเช้านี้ เขาก็คงจะกลับไปพักผ่อน เพราะดูทรงแล้วเหมือนเขาเองก็อ่อนล้าด้วยเช่นกัน ส่วนเธอวันนี้ก็ให้ลาพักผ่อนไปร่างเพรียวบางเดินมามองตัวเองอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องนอน มือเรียวบางสัมผัสกับเข้ากับใบหน้าของตัวเองอย่างพิจารณา เครื่องหน้าที่พ่อแม่ให้มาโดยธรรมชาติทุกอย่าง และกล้าพูดได้เต็มปากว่าไม่เคยเติมแต่งจุดไหนอีกใครๆ ก็ชมว่าเธอสวยมาตั้งแต่จำความได้ และเพราะความสวยของเธอที่เป็นเหมือนดาบสองคมมาคู่กัน บางครั้งมันก็สามารถช่วยทำมาหากิน บางครั้งก็ทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายอยู่ที่บอกว่าเธอไม่ใช่คนโหยหาความรักขนาดนั้น จะมีหรือไม่มีก็ได้มันไม่ถึงกับตายหรอก แต่พอลองเปิดใจให้ใครเข้ามาแล้วมันก็มีแต่ความผิดหวัง แต่ก็ไม่เคยเข็ดจริงๆ จังๆ สักทีเธอยังมองความรักเป็นเรื่องสวยงามเสมอ กระทั่งล่าสุดที่ลองออกไปเดตดูอีกสักครั้ง ด้วยหวังว่าครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ทว่ากลับกลายเป็นโดนหลอกเข้าจนได้ และดูเหมือนว่าครั้งนี้จะหนักมากสำหรับเธอตอนที่อยู่ในห้องนั้นญารินรู้สึกกลัวมาก จนไม่กล้าออกไปไหนแม้จะรู้ว่ามันไม่มีความหวังเลยที่จะรอให
[17/2]ตกเย็นในวันเดียวกันที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูล ‘รุ่งเกียรติมั่งทรัพย์’ ทางด้านณัฐกานต์เอง วันนี้มีนัดกับมัสซิโม่ร่วมโต๊ะทานอาหารมื้อเย็นตามคำเชิญชวนทันทีที่ภัทรกาฬจอด Porsche Taycan ไว้หน้าบ้านของตัวเอง แล้วพอจะเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ก็เจอเข้ากับภัทรกาฬผู้เป็นพี่ชาย กำลังจะเดินมาทางประตูเข้าบ้านเหมือนกันกับเขา“เฮียก็มานี่เหมือนกันหรอ? โดนพ่อเรียกเหมือนกัน?”“ก็เออดิ แล้วแกล่ะ”ณัฐกานต์ไม่ได้ตกใจสักเท่าไหร่กับการมาของพี่ชาย ซึ่งเป็นถึงลูกรักของตาแก่มัสซิโม่กับภรรยาเก่าของเขาที่เสียไปนานแล้วเพราะเขาเองก็คิดไว้อยู่แล้วว่าเจ้าของคฤหาสน์รุ่งเกียรติมั่งทรัพย์จะเรียกเขามาทำไมคนเดียว ว่าแต่จะเป็นเรื่องอะไรล่ะ.... ไอ้ณัฐลูกชังคนนี้ชักอยากจะรู้แล้วสิ“เข้าไปเถอะร้อน” ณัฐกานต์ไม่พูดอะไรต่อ ก่อนจะรีบเดินนำเข้าไปในบ้านปกติเขาจะมานอนที่นี่เป็นประจำอยู่แล้ว ถ้าเกิดที่วันไหนมัสซิโม่กลับไปทำงานที่บริษัทลูกในอิตาลี่ แต่พอได้ข่าวจากยุวดีผู้เป็นแม่ของเขา ว่ามัสซิโม่จะกลับไทย ไอ้ณัฐลูกชังคนนี้ก็จะไปนอนที่อื่นทันทีด้านในห้องโถงขนาดใหญ่ถูกแบ่งส่วนเป็นที่นั่งทานอาหาร ความยาวของโต๊ะเกือบๆ เท่าโร
Chapter 18[18/1]ขายาวๆ รีบเดินไปทางห้องนอนของตัวเอง ถึงไม่จะไม่ค่อยได้มานอนที่นี่เท่าไหร่นัก ทว่าเรื่องความสะอาดในบ้านก็ไม่เคยบกพร่องด้วยฝีมือแม่บ้านและแม่นมของเขาณัฐกานต์ไม่ค่อยสนิทกับทั้งสองคนผู้ให้กำเนิด ด้วยความที่ยุวดีเป็นคนรักอิสระเป็นผู้หญิงทะเยอทะยานอยากทำตามความฝันของเธอเอง จึงเลือกที่จะไปเปิดกิจการส่วนตัวไกลถึงอิตาลี่เช่นเดียวกับตาแก่มัสซิโม่ที่อีโก้สูงไม่แพ้กัน หลังจากที่ถ่ายโอนกิจการให้ลูกรักของเขาแล้วก็บินลัดฟ้ากลับไปที่อิตาลี่เพื่อดูแลบริษัทลูกอยู่ที่นั่น ต่างคนต่างทำงานแข่งกันเหมือนกลัวว่าชาตินี้จะไม่มีเงินใช้ ทั้งที่ก็แทบจะโปรยทิ้งเล่นๆ ได้เลยด้วยซ้ำไปรวมทั้งเรื่องหัวใจของมัสซิโม่กับแม่ของเขา ที่ดูเหมือนมันไม่ได้ราบรื่นสักเท่าไหร่นัก ถึงขั้นเซ็นใบหย่ากับเงียบๆ ไม่เคยบอกให้เขาและพี่ชายได้รับรู้ จนต้องได้สืบหาความจริงกันเอาเองนั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมณัฐกานต์ถึงไม่ได้สนิทกับใครเลย มีเพียงหัวหน้าแม่บ้านของคฤหาสน์หลังนี้เท่านั้น ที่กล้าพูดได้ว่าเป็นคนคอยดูแลเขาจริงๆ จังๆ มากกว่าผู้เป็นแม่ที่แท้จริง“คุณหนูของนวล วันนี้กลับมานอนบ้านหรอคะ?” ป้านวลผู้ที่อยู่ด้านล่างด้วยเ
Chapter 18[18/2]หลังเลิกงานวันนี้คงจะเป็นวันแรกที่เธอไม่ต้องไปหาอีกคนที่เพ้นท์เฮ้าส์ เพราะณัฐกานต์ยังยุ่งๆ กับเรื่องครอบครัวของเขา ดังนั้นญารินจึงหมดห่วงว่าจะโดนเจ้านายหนุ่มใช้ให้ไปหาน้ำหาข้าวให้เขากินอีกญารินนั่งรถเมล์มาถึงตลาดถนนคนเดิน ร่างเพรียวบางเดินฉายเดี่ยวเข้าร้านนั้นออกร้านนี้อย่างคล่องตัว เพราะนี่คือถิ่นประจำของเธอตั้งแต่สมัยเด็กๆ ที่มักจะมาขายของกับผู้เป็นแม่อยู่เสมอจนกระทั่งตอนเสียแม่ไปด้วยโรคมะเร็งร้าย เธอก็ยังหอบของมาขายกับนลินเพื่อส่งเสียตัวเองและน้องสาวให้มีโอกาสได้เรียนต่อโชคดีที่ช่วงนั้นนลินยังมีงานประจำพอช่วยจุนเจือได้บ้าง ไม่อย่างนั้นสามคนพี่น้องคงลำบากมากกว่านี้“ริน? รินใช่ไหม?”ขณะที่กำลังยืนเลือกเสื้อผ้าตัวละร้อยเก้าสิบเก้าบาทของเธออยู่นั้น ก็มีร่างสูงโปร่งของผู้ชายคนหนึ่งเดินมาทักจากทางด้านหลังของหญิงสาวเพียงแค่น้ำเสียงไม่กี่คำญารินก็รู้สึกคุ้นเคยมันเป็นอย่างดี“!!!?” ร่างเพรียวบางหันมามองคนทักได้เพียงแค่เสี่ยววินาที ก่อนจะรีบเดินหนีอีกคนออกมาจากร้านขายเสื้อผ้า“ริน! ริน... เดี๋ยวก่อนสิริน อย่าเดินหนีแบบนี้ดิ”“นี่! หยุดคุยกับพี่ก่อนสิริน”"รินหยุดก่อน"
Chapter 19[19/1]1 อาทิตย์กว่าๆ ที่ณัฐกานต์มัวแต่ยุ่งวุ่นวายไปกับเรื่องของคนในครอบครัว จนไม่มีเวลาได้เข้าบริษัทและไม่ได้เจอหน้าญารินตลอดทั้งอาทิตย์ จะมีก็แต่โทรหาและส่งข้อความคุยกันเรื่องงานต่างๆในช่วงที่เขาไม่อยู่ญารินจะคอยรายงานว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง จากนั้นเลขาฯ สาวจะส่งงานผ่านทางออนไลน์ให้เจ้านายหนุ่มทันทีวันนี้เป็นวันที่เจ้าตัวจะต้องเข้ามาดูงานในบริษัทอย่างจริงๆ จังๆ กว่าเดิม เพราะตอนนี้พี่ชายของเขาถูกมัสซิโม่มัดมือชกให้บินไปรักษาตัวไกลถึงอิตาลี่แล้วมันก็ต้องเป็นณัฐกานต์เองที่จะดูแลบริษัทระหว่างที่ภัทรกาฬไม่หายดีตอนแรกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตาแก่มัสซิโม่จะเล่นเบอร์ใหญ่ขนาดนี้ ถึงต้องพาพี่ชายของเขาไปรักษาตัวไกลจากบ้านทั้งๆ ที่ปัญหาต่างๆ หลายอย่างของผู้เป็นพี่ยังคาราคาซังกันอยู่กับคนรักของเขาดังนั้นหน้าที่ต่อจากนี้ The Willington N group จะต้องมีณัฐกานต์มาทำหน้าที่รอพี่ชายจนกว่าเขาจะกลับมาแต่ดูจากทรงแล้วคิดว่าน่าจะเป็นมัสซิโม่มากกว่าที่จะมาดูแลแทน เขาคงไม่ปล่อยให้ภัทรกาฬกลับมาไทยง่ายๆ หรอกต่อให้จะหายดีแล้วก็ตาม ทำไมคนอย่างณัฐกานต์ถึงจะดูเกมไม่ออกรถ Bugatti Divo สีดำ หนึ่งในรถส
Chapter 19[19/2]“ฉันหายหัวไปอาทิตย์เดียว หาผัวใหม่ได้ไวจังนะ งานดีซะด้วย”“คุณพูดเรื่องอะไร?”“ถามหน่อยเถอะ ว่ายังไม่เข็ดใช่ไหม? ที่โดนหลอกไปมันยังไม่ทำให้เธอหลาบจำเลยหรอวะ!? คงจะขาดไม่ได้เลยสินะกับเรื่องผู้ชายเนี่ย!” ร่างสูงลุกขึ้นมาจับแขนของญารินไว้แน่น ก่อนจะดึงรั้งอีกคนให้เข้าหาตัวเองใกล้มากขึ้น จนได้กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนขึ้นจมูก“อะไรของคุณ!? โอ๊ย! ฉันเจ็บนะ” ญารินพยายามดึงแขนตัวเองออก แต่เขากลับจับแน่นกว่าเดิม“อะไรงั้นหรอ? งั้นตอบมาหน่อยสิว่าไอ้ไฮโซที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้เป็นใคร”“แล้วจะมาถามทำไม? ไม่ได้เป็นอะไรกันนี่ มายุ่งทำไม?”“เหอะ! ปากดี เก่งจริงแล้วทำไมถึงพลาดท่าโดนเขาหลอก” ณัฐกานต์โน้มใบหน้าเข้าใกล้ญารินมากขึ้น จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกันญารินไม่รู้ว่าอีกคนกำลังโมโหเรื่องอะไรอยู่ เข้าอยู่ว่าเขาอาจจะกลัวเธอซ้ำรอยเดิม แต่ก็ไม่คิดว่าจะต้องมาหงุดหงิดใส่กันขนาดนี้“บอกมาสิว่า ไอ้ข่าวนี่มันเป็นเรื่องโกหก” มือหนาหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาให้ญารินดู ข่าวที่ลงในสื่อออนไลน์หลายสำนัก ที่บอกว่าเธอคบหากับทายาทห้างฯ ชื่อดัง คนในรูปนี้มันคือเธอใช่หรือไม่“ฉันก็แค่ทำงานให้เขา”“งานอะไ
Chapter 20[20/1]หลังจากที่อีกคนก้าวขาออกไปจากห้องได้สักพักแล้ว แต่ณัฐกานต์ยังยืนอยู่ในสภาพเดิมเหมือนก่อนหน้านี้ เขากำลังยืนจัดการกับความคิดของตัวเองอยู่แบบนั้นยอมรับว่าพูดแรงเกินกว่าเหตุไปมาก แล้วสิ่งที่เขากำลังตั้งคำถามกับตัวเองอยู่ตอนนี้คือ ทำไมต้องทำแบบนั้นออกไป ทำไมต้องรู้สึกโมโหมากมายขนาดนั้น ทุกอย่างที่รู้สึกมันอยู่ในขอบเขตของเพื่อนร่วมงานจริงๆ หรืออย่างไรณัฐกานต์ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเขาก็รู้ตัวดี แต่สิ่งที่เขาเป็นมันเรียกว่าอะไรกันแน่ แม้ลึกๆ จะพอรู้คำตอบ ทว่าปากกาหนักๆ ของตัวเองก็ยังไม่กล้าพูดออกไปได้เต็มปาก ฉะนั้นงานนี้ก็คงต้องพึ่งพากูรูคนสนิทอีกแล้ว“ฮัลโหล มึงมาที่คลับกูหน่อยดิ๊”(มึงต้องถามกูก่อนไหมว่าว่างไปหามึงรึเปล่า ไม่ใช่ยัดเยียดคิวใส่กูเลยไอ้ห่าลาก แล้วนี่อะไรของมึงอีก?)“เออ! บอกให้มาก็มา”(โว๊ะ!! เออๆ อีก 20 นาทีเจอกัน กูขอไปส่งเด็กก่อน)“เออๆ รีบมา”ณัฐกานต์ต่อสายหาเพื่อนรักคนสนิท คนเดิมที่รู้เรื่องของเขาดีกว่าตัวเขาเองด้วยซ้ำไป ที่เรียกมาก็เพราะหวังว่าได้คำแนะนำอะไรดีๆ จากเพื่อนตัวเอง ถึงแม้ว่าจะดีอยู่แล้วว่าคาดหวังอะไรกับอัครเดชไม่ได้มาก เพราะก็คงจะแล้วแต่อ
Chapter 20 [20/2] หลังจากที่นั่งดื่มกับเพื่อนรักจนหมดไปหลายขวด ก็โดนอัครเดชลากมาถึงสนามแข่งรถในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ไหนๆ ก็รู้แล้วว่าเขาโดดงานมาแล้ว ก็เลยได้โอกาสมาเคาะสนิมตัวเองสักหน่อย เพราะเกือบเดือนเลยที่ณัฐกานต์ห่างหายไปจากวงการแข่งรถ “มึงบอกให้กูไปง้อเค้า แต่มึงกลับพากูมาที่นี่ตอนนี้เนี่ยนะ?” “เอาหน่าเพื่อน ปล่อยให้ผู้หญิงเค้าได้มีเวลาอยู่กับตัวเองบ้าง ให้เค้าได้ทบทวนตัวเอง ส่วนมึงน่ะมาเลย ...ช่วงนี้ยิ่งหายหน้าหายตา จนคุณเจนจะถอดสปอร์นเซอร์มึงล้ะ” มันก็จริงอย่างที่อัครเดชบอก นี่เขาไม่ได้มาสนามแข่งนานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ รายการแข่งที่ผ่านมาก็แทบไม่มีเวลาเจียดมาลงสนามเลยด้วยซ้ำ ป่านนี้บริษัทของเจนจิราก็คงอยากจะถอดการสนับสนุนเขาจริงๆ “กูมาได้ที่ไหนล่ะ วันๆ เอาแต่ทำตัวเป็นหุ่นให้เขาเชิดไปเชิดมา” “โถ่ๆๆๆ เพื่อนรักของกู น่าสงสารนะมึง” “กวนตีน ไอ้เหี้ย!” ขายาวๆ รีบยกขึ้นเตรียมจะเตะเพื่อน ทว่าอัครเดชก็ไหวตัวทันแล้วรีบวิ่งหนี ทางด้านของญารินหอบร่างอ่อนแรงของตัวเองมาถึงที่บ้านได้ก็ใช้เวลานานมาก เกือบจะทั้งวันเลยด้วยซ้ำไป เพราะต้องแวะกลับไปเอาของที่บริษัทอีกรอบ ในเมื่อ
Chapter 32[32/2]@มิลาน, ประเทศอิตาลี่วันนี้ญารินมีนัดคุยงานถ่ายแบบงานชิ้นสำคัญในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากการเดินแบบแล้วเธอก็ไม่เคยได้มีโอกาสได้ขึ้นปกหนังสือนิตยสารเลยสักครั้ง ต้องขอบคุณโรสมากๆ ที่ทำให้ความฝันของญารินได้กลายเป็นจริงสักทีก่อนหน้านี้โรสได้รับการติดต่อให้จัดหานางแบบในสังกัดให้มาถ่ายนิตยสารจากแบรนด์เสื้อแบรนด์หนึ่งที่เป็นฝีมือของคนไทยเองโดยที่เจ้าของแบรนด์ให้โจทย์กับโรสมาว่าจะต้องเป็นหญิงหน้าไทย แต่ยังมีโครงหน้าที่ดูทันสมัยด้วย เนื่องจากแบรนด์นี้ใช้ผ้าไทยหลายชนิดมาตัดทำเป็นชุด แต่ยังเพิ่มดีไซน์ผสมผสานให้ทันสมัยตามแบบของผู้หญิงยุคใหม่ซึ่งจากโจทย์ที่ให้มาโรสไม่สามารถนึกถึงใครอื่นได้เลย นอกจากญารินนางแบบหน้าไทยสวยเก๋เซ็กซี่คนนี้ เธอคือตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ เหมาะสมกับแบรนด์ VANIDEE ที่สุดแล้วภายในร้านอาหารสัญชาติอิตาเลี่ยนที่ตั้งอยู่ในคอมเพล็กซ์ Museo del Novecento ทำให้เราสามารถมองออกไปด้านนอกแล้วเห็นทิวทัศน์อันงดงามได้อย่างประทับใจของ Piazza del Duomo หรือที่เรียกกันว่าจัตุรัสหลวง“วิวสวยจังเลยนะคะพี่โรส” ญารินนั่งมองวิวด้านนอกจากในร้านอาหารแห่งนี้ด้วยความร
Chapter 32[32/1]“คุณหนูคะ คุณยุวดีกลับมาแล้วค่ะ ท่านเรียกให้ไปพบค่ะ” ขณะที่พี่น้องสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ ก็มีหญิงแม่บ้านชาวอิตาเลี่ยนวัยกลางคนเดินมาเรียกณัฐกานต์ก่อน“แม่? ครับๆ เดี๋ยวผมไป”“ท่านรออยู่ที่ห้องรับแขกนะคะ”“ขอบคุณครับ” ณัฐกานต์หันไปบอกแม่บ้าน เธอรับคำพร้อมกับเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่นั้นอีกครั้งเขายังอยากนั่งคุยกับผู้เป็นพี่ชายต่ออีกสักพัก ถ้านอกจากออสโม่กับแม่นมที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กแล้ว ทั้งตระกูลนี้ก็คงมีพี่ชายคนนี้นี่แหละที่เขาพอจะพูดคุยด้วยกันได้ทุกเรื่องจริงๆ“ไปหาแม่เถอะ ฉันขอนั่งอยู่แบบนี้สักพักก่อน” ภัทรกาฬบอกน้องชายแบบนี้เพราะกลัวว่ายุวดีจะรอนานเรื่องที่เกิดขึ้นในครอบครัวภัทรกาฬเองก็รับรู้ เพียงแต่ไม่ได้แสดงออกชัดเจนแบบณัฐกานต์ว่าไม่พอใจกับสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำไว้แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ของพวกเขาก็ยังรักลูกเสมอ เพียงแต่พวกท่านไม่ได้แสดงออกมาในรูปแบบเหมือนที่ครอบครัวอื่นเขาปฏิบัติกัน หวังว่าสักวันน้องชายของเขาจะมองพวกท่านทั้งสองในอีกมุมที่เขาได้มองบ้าง“อย่าคิดมากนะเฮีย” ณัฐกานต์รับคำจากพี่ชาย พลางลุกขึ้นยืนเตรียมจะเดินออกไป แต่ก่อนจะไปเขา
Chapter 31[31/2]สวนดอกไม้ดอกกุหลาบและดอกคาเดนเยียร์จากหลังคฤหาสน์ ทำให้ทรรศนียภาพของที่นี่น่ามองขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วทั้งดอกไม้ทั้งสวนองุ่นที่ถัดออกไปบวกกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มีภูเขาเป็นฉากกั้นอยู่ ถ้าใครได้มาตรงที่แห่งนี้ก็คงจะยอมกลับละสายตาไปไหนนอกจากทรรศนีภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีเจ้าของสวนคนใหม่นั่งอยู่ที่สวนนี้ด้วย ตอนนี้ณัฐกานต์มองจากด้านหลังของคนที่นั่งตรงโต๊ะหินอ่อนจากทางประตู ก่อนจะก้าวขาเดินไปหาคนคนนั้น“ไง... นั่งชมนกชมไม้ ดูสบายจังนะเฮีย” ร่างสูงเดินเอามือไปวางบนไว้ไหล่พี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่“ได้ยินปู่บอกว่าแกมาทำธุระหรอ?”“ใช่” ว่าแล้วก็นั่งลงบนโต๊ะนั่งข้างๆ กับพี่ชาย“ธุระอะไรของแก? งานสาขานี้พ่อก็บินไปกลับเป็นว่าเล่นแล้ว”“ธุระส่วนตัวน่ะ ถ้าแค่งานของเขา... ผมคงไม่ลงทุนมาขนาดนี้หรอก ไม่ใช่เฮียนี่”แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ณัฐกานต์ไม่มีวันมาทำขนาดนี้ให้หรอก ลำพังแค่ทำงานที่บริษัทให้ทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วกำไรจะมากหรือน้อยเงินเดือนของเขาก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี แม้จะมีปันผลทุกๆ ไตรมาสให้อยู่แล้วก็เถอะ อย่างไรเขาก็คงไม่ได้มากเท่าพี่ชายอยู่แล้ว“ธุระ
Chapter 31[31/1]@โรม, ประเทศอิตาลี่ณัฐกานต์เดินทางมาถึงที่คฤหาสน์หลังใหญ่ของเศรษฐีไร่องุ่นคนเก่าแก่ในย่านกรุงโรม ด้านหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยไร่องุ่นและโรงหมักไวน์ขนาดใหญ่ และทั้งหมดนี้กินเนื้อที่ไปหลายร้อยไร่โดยประมาณ ซึ่งทรัพย์สินทุกอย่างในที่แห่งนี้เป็นของออสโม่ปู่ของเขาเองชายหนุ่มนั่งรถจากสนามบินมาถึงที่นี่ใช้เวลาไม่นานมาก ตอนแรกคิดว่าจะบินตรงไปมิลานเลย ทว่าพอลองมาคิดใหม่เขาอยากจะแวะมาที่นี่ก่อน เพื่อมาเยี่ยมปู่และพี่ชายของตัวเอง เพราะไม่ได้เจอทั้งสองคนนานมากแล้วพอทำธุระที่นี่แล้วเสร็จก็จะรีบไปมิลานเลยทันที เพราะนอกจะไปหาญารินแล้วเขาก็คิดว่าจะไปดูความเป็นอยู่ของยุวดีสักหน่อย ได้ข่าวว่าช่วงนี้ธุรกิจของผู้เป็นแม่กำลังเติบโตไปได้สวยเลยรถ SUV สุดหรูอย่าง Rolls-Royce Black Badge รุ่นปี 2022 ราคาในไทยโดยประมาณอยู่ที่ 41 ล้าน แต่ราคาที่อิตาลี่ไม่รู้ว่าขึ้นไปเท่าไหร่บ้างแล้วตอนนี้คนขับรถของคฤหาสน์ออกมารับณัฐกานต์ที่สนามบิน ตอนนี้กำลังขับเคลื่อนและชะลอความเร็วลงเพื่อเลี้ยงเข้าสู่คฤหาสน์กาเซียโน่ของเศรษฐีคนดังในย่านนี้ ก่อนจะลงจากรถแล้วเข้าไปหาเจ้าของบ้านที่ตอนนี้รอต้อนร
Chapter 31[31/2]สวนดอกไม้ดอกกุหลาบและดอกคาเดนเยียร์จากหลังคฤหาสน์ ทำให้ทรรศนียภาพของที่นี่น่ามองขึ้นไปอีก โดยรวมแล้วทั้งดอกไม้ทั้งสวนองุ่นที่ถัดออกไปบวกกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่มีภูเขาเป็นฉากกั้นอยู่ ถ้าใครได้มาตรงที่แห่งนี้ก็คงจะยอมกลับละสายตาไปไหนนอกจากทรรศนีภาพที่สวยงามแล้ว ยังมีเจ้าของสวนคนใหม่นั่งอยู่ที่สวนนี้ด้วย ตอนนี้ณัฐกานต์มองจากด้านหลังของคนที่นั่งตรงโต๊ะหินอ่อนจากทางประตู ก่อนจะก้าวขาเดินไปหาคนคนนั้น“ไง... นั่งชมนกชมไม้ ดูสบายจังนะเฮีย” ร่างสูงเดินเอามือไปวางบนไว้ไหล่พี่ชายของตัวเองที่กำลังนั่งอยู่“ได้ยินปู่บอกว่าแกมาทำธุระหรอ?”“ใช่” ว่าแล้วก็นั่งลงบนโต๊ะนั่งข้างๆ กับพี่ชาย“ธุระอะไรของแก? งานสาขานี้พ่อก็บินไปกลับเป็นว่าเล่นแล้ว”“ธุระส่วนตัวน่ะ ถ้าแค่งานของเขา... ผมคงไม่ลงทุนมาขนาดนี้หรอก ไม่ใช่เฮียนี่”แน่นอนว่าถ้าเกิดเป็นงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง ณัฐกานต์ไม่มีวันมาทำขนาดนี้ให้หรอก ลำพังแค่ทำงานที่บริษัทให้ทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วกำไรจะมากหรือน้อยเงินเดือนของเขาก็ยังเท่าเดิมอยู่ดี แม้จะมีปันผลทุกๆ ไตรมาสให้อยู่แล้วก็เถอะ อย่างไรเขาก็คงไม่ได้มากเท่าพี่ชายอยู่แล้ว“ธุระ
Chapter 30[30/1]ก่อนที่จะเดินทางข้ามทวีปไปในวันพรุ่งนี้ คนที่บอกว่าจะเคลียร์งานของตัวเองให้เสร็จทันก่อนจะขึ้นเครื่อง ทว่าตอนนี้ยังมะงุมมะงาหราอยู่กับกองเอกสารที่ต้องเซ็นจนป่านนี้เป็นเวลา 1 ทุ่มกว่าแล้ว ท่านรองประธานบริษัทหนุ่มหล่อไฟแรงก็ยังไม่ได้ลุกออกไปไหนเลยLine~Dar.runnn : กลับเพ้นท์เฮ้าส์ยังคะ? น้องดาอยากไปหาDar.runnn : วันนี้คุณย่าบ่นๆ คิดถึงพี่ณัฐด้วยนะ ถ้าว่างๆ ก็อยากให้พี่แวะมาคุณย่าบ้างDar.runnn : พรุ่งนี้เลยดีไหมคะ วันหยุดด้วยน่าจะเหมาะเลย น้องดาจะได้ทำกับข้าวไว้เผื่อเสียงโทรศัพท์ข้างๆ ตัวณัฐกานต์ดังขึ้น สายตาคมเหลือบไปมองการแจ้งเตือนบนหน้าจอ ถึงได้รู้ว่าเป็นใครที่ส่งมาวันนี้ทั้งวันดารันยังไม่ได้มาหาเขาเลย ซึ่งถ้าปกติแล้วเธอจะมาที่นี่แทบทุกวัน โดยมาพร้อมกับของกินตลอดและในแต่ละครั้งที่มาหาณัฐกานต์ก็ไม่เคยห้ามเลยสักครั้ง ตั้งแต่ตอนที่ญารินยังอยู่รวมถึงตอนที่เธอไม่อยู่ที่นี่แล้วร่างสูงไม่ได้หยิบสมาร์ตโฟนสีเซียร่าบลูของตัวเองขึ้นมาตอบแต่อย่างใด ก่อนจะหันหน้ากลับไปสนใจงานของตัวเองต่อ เพราะเขาต้องรีบทำเวลาให้ทันก่อนขึ้นเครื่องในวันพรุ่งนี้@มิลาน, ประเทศอิตาลี่ญารินได้
Chapter 29[29/2]กริ๊งงง!~~รถสปอร์ตหรูจอดเทียบท่าอยู่หน้าบ้านหลังใหม่ของญารินแล้ว ชายหนุ่มทั้งสองลงจากรถมายืนกดกริ่งรอคนด้านในมาเปิดประตูรั้วให้ซึ่งณัฐกานต์เองก็ไม่อาจรู้ได้ว่ามีใครอยู่ที่นี่หรือไม่ เพราะว่าเขาและอัครเดชก็ยืนตากแดดกดกริ่งเรียกแบบนี้นานแล้วกระทั่งความพยายามของพวกเขาสำเร็จ เมื่อมีคนเดินออกมาจากด้านในบ้านแล้วทว่ากลับไม่ใช่ญาริน คนที่ณัฐกานต์อยากเจอ“อ้าว สวัสดีค่ะคุณ”“สวัสดีครับ ญารินอยู่บ้านหรือเปล่าครับคุณนลิน?”เป็นนลินพี่สาวของญารินเองที่เดินออกมาเปิดประตูพร้อมกับอุ้มลูกชายตัวน้อยออกมาด้วย และเมื่อสักครู่ที่เธอออกมาเปิดประตูช้าก็เพราะว่ามัวแต่ยุ่งอยู่กับลูกชายของตัวเองอยู่ แม้จะได้ยินเสียงกดกริ่งนานสักพักแล้วก็ตามนลินรู้มาว่าณัฐกานต์และน้องสาวของตัวเองทะเลาะอะไรบางอย่างกันอยู่ แต่ก็ไม่รู้ถึงสาเหตุของเรื่องจริงๆ เลยว่าเพราะอะไรที่ทำให้น้องสาวของเธอรีบเก็บข้าวของบินลัดฟ้าข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงต่างประเทศ“นี่รินไม่ได้บอกคุณไว้หรอคะ? ว่าจะไปทำงานกับเจ้านายคนเก่าที่ต่างประเทศ”“ห๊ะ!? อะไรนะ ญารินไปต่างประเทศงั้นหรอ?” ณัฐกานต์ตกใจกับคำพูดของพี่สาวญารินจนเผลอทำสีหน้า
Chapter 29[29/1]@มิลาน, ประเทศอิตาลี่สนามบิน Milan Malpensa เป็นสนามบินนานาชาติที่ถือว่าใหญ่ที่สุดแล้วในมิลาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี่ และเป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับสองรองจากสนามบินในกรุงโรมถ้าถามว่าทำไมถึงมีผู้คนเนืองแน่นมาใช้บริการสนามบิน Malpensa ก็คงจะเป็นเพราะว่ามิลานเป็นแลนมาร์คสำคัญอีกหนึ่งเมืองสำหรับนักช้อปสายแฟชั่นทั้งหลายจะต้องเดินทางมาที่นี่ เพื่อจับจ่ายใช้สอยสินค้าหลากหลายแบรนด์ดังทั่วโลกนอกจากร้านแบรนด์เนมต่างๆ แล้ว ในมิลานยังมีงานจัดแสดงโชว์เกี่ยวกับแฟชั่นมากมายแทบจะทุกวันเลยด้วยซ้ำเหล่าเซเลบฯ คนดัง รวมถึงนางแบบและนายแบบหลายคนจึงไม่พลาดที่จะมาเยี่ยมชมความสวยงามในเมืองนี้เช่นเดียวกันกับญาริน“ขอบคุณพี่โรสมากเลยนะคะ ที่อุตส่าห์มารับแถมยังเป็นธุระเรื่องที่พักให้รินอีก”“ไม่เป็นไรเลยจ้าคนสวยของพี่ ขอแค่หนูมาพี่ก็ดีใจแล้ว”ญารินเพิ่งจะเช็คเอาท์ลงจากเครื่องเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ตอนนี้มีโรสเอเจนซี่สาวสองคนสนิท มารับเธอถึงสนามบินหลังจากที่วจีโทรมาบอกเรื่องใบลาออกของเธอแล้ว แต่กลับโดนปฏิเสธและยังมีหน้ามาบอกให้เธอสามารถพักร้อนได้ 1 เดือนจากนั
Chapter 28[28/2]เหตุการณ์ก่อนหน้านี้....,(ณัฐกานต์ ทอร์ค)ตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่ผมกับญารินทะเลาะกัน จนผ่านมาถึงวันนี้ผมยังไม่เห็นเธอเข้ามาทำงานเลยผมนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานที่มีงานกองเท่าภูเขาได้แต่ก็ไม่ได้สนใจมันเลย สิ่งที่สนใจอยู่กลับเป็นโต๊ะว่างเปล่าที่ตอนนี้ไร้เจ้าของมานั่งทำงานผมจับโทรศัพท์สแกนนิ้วปลดล็อกแล้วก็กดปิดหน้าจอไว้เหมือนเดิม เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เช้าแล้ว ในใจอยากจะโทรไปหาญารินให้ได้ทันทีทันใดแต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า ที่ผ่านมาผมก็ง้อเธอมาตลอดจนอาจจะทำให้เธอเสียคนขนาดนี้ ถ้าหากจะง้อเธออีกครั้งก็คิดว่าเธออาจจะได้ใจอีกเรื่องวันนั้นญารินวู่วามเกินเหตุจริงๆ ต่อหน้าต่อตาผมขนาดนั้นยังไม่มีความเกรงใจกันเลยสักนิด และหลายครั้งหลายคราวที่ดารันมาหาผมเธอก็มักจะเป็นอารมณ์นี้อย่างวันก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้น ดารันทำขนมมาให้ผมลองชิมสูตรใหม่แบบไม่หวาน เพราะเธอรู้ว่าผมไม่ชอบกินอะไรหวานๆ แต่ญารินก็ทำท่าหาเรื่องใส่ดารัน จนไล่เธอกลับบ้านไปตอนเด็กๆ ดารันตัวเล็กมากและไม่สู้คนเลย มีผมกับเฮียนาฟสองคนที่คอยปกป้องเสมอเพราะเราสามคนเรียนที่เดียวกันมาตลอด ก่อนที่ดารันจะแยกย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศในช่วง