“จะไปไหน” น้ำเสียงสากพร่าถามทั้งที่เจ้าตัวยังไม่ลืมตา มือดึงร่างเปลือยเปล่าอรชรเข้ามากอดแนบชิดกายแล้วขังเธอไว้ในอ้อมแขนอบอุ่นจนเกือบร้อนระอุ“จะไปคุยโทรศัพท์ค่ะ”“คุยกับใคร”“พี่พอล”“อ๋อ...ไอ้ด่าลิงของเธอน่ะเหรอ งั้นก็คุยตรงนี้แหละ” ไม่ว่าเปล่า คนตัวร้ายก็เอาใบหน้าซุกไซ้ที่ซอกคอจนเธอจั๊กกะจี้“รับสายสิ หรือจะให้ฉันช่วยคุยให้อีก” คนตัวร้ายว่าพลางลูบไล้แผ่นท้องแบนราบ พร้อมกับเขี่ยหลุมสะดือเล็กๆ น่ารักของเธอเล่นอย่างหยอกเย้า“พี่ดิว...แคทจั๊กกะจี้” ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ แทนที่จะหยุด คนมือซนกลับยังแกล้งเขี่ยหนักขึ้นไปอีกจะได้คุยดีๆ ไหมล่ะนี่ แต่สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้และกดรับสายโดยยอมให้อีกฝ่ายได้แกล้งตามใจเขาไปด้วย“น้องแคท...หายไปไหนมา! แล้วปิดเครื่องทำไม รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงแค่ไหน...”แคทรียาดึงโทรศัพท์มือถือออกห่างจากหูแทบไม่ทัน เมื่อได้ยินเสียงตะโกนดังลั่นถามรัวมาเป็นชุด“ไม่รู้สิคะ” ปลายสายมีนิ่งไปอึดใจเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่แข็งกระด้างก็นึกรู้ว่าเธอไม่พอใจ จึงปรับโทนเสียงให้อ่อนลง“แล้วนี่ดาร์ลิงอยู่ไหนครับ ผมจะได้ไปรับ เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”“ไม่ว่างค่ะ ติดประชุมยาว จะเลิกกี่โมงไม่รู้”
“แคท...คุณเป็นอะไรไป ฟังผมอยู่หรือเปล่าเนี่ย”หญิงสาวกัดฟันแน่น เพื่อไม่ให้หลุดเสียงครางรัญจวนออกไปจนอีกฝ่ายจับได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ความรู้สึกตื่นเต้นระทึกใจไหลบ่า พร้อมกับความเสียวซ่านจากการเล้าโลมของหนุ่มหล่อตัวร้ายที่ถาโถมเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าเธอกำลังแอบนอกใจแฟนทรยศนั่น โดยที่เขาไม่ระแคะระคายสักนิดแม้กำลังคุยกันอยู่ นี่สินะความรู้สึกของการลักกินขโมยกิน จริงๆ มันก็ตื่นเต้นเร้าใจดีไม่หยอกที่เห็นคนหน้าโง่นั่นโดนสวมเขาคืนบ้างแม้มันจะยังไม่รู้ตัวก็ตาม ยิ่งคิดก็ยิ่งสะใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ไม่ได้รู้สึกผิดเมื่อคนที่เธอสวมเขาให้เขาทำกับเธอก่อน และคนที่เธอลากมาปีนต้นงิ้วด้วยกันคือดิฐกร ผู้ชายที่เคยนอกใจแฟนมาก่อนจนจบไม่สวยคนโฉดสามคนที่ล้วนแต่เคยนอกใจแฟน!“แคทต้องไปประชุมแล้ว ไว้ค่อยคุยกันทีหลังแล้วกันนะคะ” แคทรียารีบตัดบทไม่รอฟังเสียงโอดครวญของอีกฝ่าย พร้อมกับกดปิดเครื่องไปอีกหน เมื่อถูกโจมตีจุดอ่อนไหวหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ“พี่ดิว...”ดิฐกรกดยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินเสียงครางชื่อตนอย่างหวานหู“ว่าไง”“อย่าทรมานกันแบบนี้ได้ไหม”“ไม่ได้! นี่คือการทำโทษ”“ทำโทษ! แคททำผิดอะไร”หญิงสาวมองสบตาเขาอย่าง
คนพูดชะงัก ใจหวิวหวาม ก่อนจะซุกหน้าเข้าหาอ้อมอกอุ่นของเขาซ่อนความรู้สึกในหัวใจแล้วหลับตาแน่นโดยไม่ได้พูดต่อ นาทีนี้เธอไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น นอกจากขอหาความสุขมาเติมเต็มความรู้สึกให้อิ่มก่อน เผื่อในวันที่ทุกอย่างจบลง เธอจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายเสียใจทีหลังดิฐกรก็เหมือนระเบิดเวลาลูกหนึ่ง ในวันที่เขาเบื่อ เธอก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่าการเป็นคู่นอนคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาเท่านั้น ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป...ท่องไว้สิแคท หมอนี่ไม่ใช่ของเธอ และไม่มีวันใช่ด้วย ต่อให้ติดใจแค่ไหน แต่ก็อย่าเผลอให้ใจเขาไปเด็ดขาด!“หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...”“โธ่เว้ย! ยัยบ้าเอ๊ย!”วรพลสบถออกมาอย่างหัวเสีย แล้วกดเบอร์โทรออกใหม่อีกรอบ ผลที่ได้ก็เหมือนเดิม อีกฝ่ายปิดเครื่องหนีกันอีกแล้ว จนเขาโมโหเงื้อมือจะเขวี้ยงโทรศัพท์ระบายอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าตนยังผ่อนไม่หมด มือจึงลดต่ำลงมาอย่างหงุดหงิดที่ตนไม่สามารถติดต่อแฟนสาวได้ทั้งที่แต่ก่อนแคทรียาต้องเป็นฝ่ายตามโทรจิก ไม่ก็ส่งข้อความมาหาทุกวัน ทุกเวลา เช้ากลางวันเย็นหรือดึกดื่นก็ไม่เว้น จนบางทีเขาก็รำคาญ แต่ก็จำต้องรับสาย และตอบข้อค
คิดเพลินๆ จู่ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือในมือก็ดังขึ้น จนชายหนุ่มต้องรีบกดรับเพราะคิดว่าเป็นสายจากแฟนสาว แต่ทว่า...“ว่าไงนะ! ย้ายออกงั้นเหรอ...” วรพลหน้าถอดสี “ไร้สาระ ทำไมผมต้องย้ายออกจากคอนโดของตัวเองด้วย ว่าไงนะ ขายแล้ว ขายให้ใคร ใครเป็นคนขาย ไม่จริง!”ใบหน้าคมคายซีดเผือด หัวใจหล่นวูบ เมื่อได้ยินคำตอบจากปลายสาย แม้อีกฝ่ายจะกดวางแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่อยากจะเชื่อ“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” เจนิสากระแซะถามเมื่อเห็นสีหน้าซีดเผือดเหมือนโดนผีหลอกกลางวันแสกๆ“เอ่อ...ที่คอนโดผมมีปัญหานิดหน่อยน่ะ”“อ้าว! เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”“ผมจะไปรู้เหรอ...” ชายหนุ่มเผลอขึ้นเสียงใส่ ก่อนชะงักไปเมื่อนึกขึ้นได้ จากตอนแรกก็บัตรเสริมมีปัญหา ต่อมาก็คอนโดอีก นี่มันไม่ใช่เรื่องปกติแล้ว“แล้วพี่จะไปไหนคะ”“ถามได้ ก็กลับไปคอนโดน่ะสิ”“แล้วค่าโรงแรมนี่ล่ะ ใครจะจ่าย” เจนิสารีบท้วงเสียงหลง“โธ่...วันนี้คุณก็จ่ายไปก่อนได้ไหม ผมต้องรีบกลับไปเคลียร์เรื่องคอนโดก่อน เดี๋ยวพอเสร็จเรื่องจะโอนคืนให้นะครับที่รัก”คนฟังอ้าปากค้าง ของเก่ายังไม่คืนเงินให้เลย แล้วนี่ยังจะต้องมาจ่ายค่าโรงแรมเองอีก มันไม่ใช่เรื่องแล้วไหม“เดี๋ยวสิคะพี่พอล แต
“ค่ะ แคททราบแล้ว ขอบคุณมากนะคะคุณเอมที่เป็นธุระให้”แคทรียาวางสายจากผู้ช่วยของตนที่โทรมารายงานเรื่องที่เธอมอบหมายให้ไปทำ ดวงตาคู่สวยฉายรอยสาแก่ใจเมื่อได้ยินว่าวรพลหัวเสียมากแค่ไหนที่ถูกยึดคอนโดยึดรถไป แถมติดต่อเธอไม่ได้ หมอนั่นกำลังคลั่งและจนตรอกเพราะทำตัวเองสมน้ำหน้า! นี่แค่บทเรียนเบาะๆ เท่านั้น เดาเอาว่าตอนนี้แฟนที่กำลังจะกลายเป็นอดีตของเธอคงว้าวุ่นหาทางติดต่อเธอจนหัวปั่น ก็แน่ล่ะ อยู่ๆ บ่อเงินบ่อทองหายไปดื้อๆ แบบนี้ใครล่ะจะทนไหวแล้วถ้ายิ่งหมอนั่นได้รู้ว่าเธอนอกใจมีกิ๊ก คงยิ่งอกแตกตายไปเลย ยิ่งคิดก็ยิ่งสนุก การเอาคืนนี่มันช่างหอมหวานเสียนี่กระไรหญิงสาวยิ้มกริ่มพลางหันไปมองผู้สมรู้ร่วมแผนการที่นอนหลับสนิทบนเตียง หลังจากจัดการเผด็จศึกเธอมาทั้งคืนจนหมดแรงสลบคาอก กว่าจะฟื้นได้ก็ฟ้ามืดอีกรอบแล้วเสียแฟนไปคน แต่ได้กิ๊กแซ่บๆ ทดแทนกลับมาคน ก็ถือว่าเธอไม่ได้ทำการค้าขาดทุนเสียทีเดียวแคทรียามองวงหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์กระทั่งยามหลับของเขานิ่งๆ หลับแบบนี้ก็ดูไร้พิษสงดีเหมือนกันแฮะ หญิงสาวค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบไล้สัมผัสที่แก้มของเจ้าชายนิทราตรงหน้าอย่างแผ่วเบา สมองพลันนึกถึงคราวแรกที่ได้พบเขาจากร
ไม่ใช่แค่วรพลคนเดียวที่เธอคิดอยากจะแก้แค้น แต่ยังมีใครอีกคนที่เธอถือโอกาสเอาคืน...คิดเพลินๆ จู่ๆ คนที่เธอคิดว่าหลับก็ลืมตาขึ้นและมองสบตาเธอกลับมาแบบไม่ทันตั้งตัว“คิดจะลักหลับฉันหรือไง”นั่นไง ตื่นมาก็แกว่งปากหาเรื่องกันเลยทีเดียว ดีแล้วที่แคล้วคลาดเป็นแค่กิ๊ก เรื่องบนเตียงเด็ดก็จริง แต่สกิลปากของเขาก็ทำเธอปวดประสาทใช่ย่อย“ทำไมแคทต้องลักหลับพี่ด้วย ในเมื่อได้กินพี่ทั้งตัวตอนตื่นแล้ว รสชาติก็งั้นๆ อย่าหลงตัวเองหน่อยเลย”ดิฐกรกดยิ้มมุมปาก แล้วดึงคนปากดีเข้ามาจุ๊บที่ริมฝีปากอย่างมันเขี้ยวแล้วเกี่ยวเธอเข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงจนหนำใจ“อื้อ...แคทอึดอัด”ปากบ่น แต่หัวใจนี่สิเต้นโครมคราม ไม่อยากให้เขาปล่อยจากอ้อมแขนนี้เลย อยากจะนอนซุกอกล่ำๆ ของเขา ตื่นลืมตาในอ้อมกอดอุ่นๆ แบบนี้ด้วยกันทุกวันจังเลยอย่าเชียวนะยัยแคท! อย่าเผลอใจเด็ดขาด“หิวหรือยัง” เสียงพร่ากระเส่ากระซิบถาม ตาเป็นมันจ้องมาจนเธอต้องรีบหลบมองไปทางอื่นด้วยความเขินอย่างเป็นธรรมชาติ“ถามได้ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักอย่างตั้งแต่เมื่อคืน”“แน่ใจเหรอว่าไม่มี...” สายตาเจ้าเล่ห์มองสบตามาอย่างมีเลศนัย แล้วเธอก็ดันรู้อีกว่าเขาหมายถึงอะไร
คิดแล้วก็ขนลุกพรึ่บ ตอนนี้เธอจัดเขาเป็นได้แค่กิ๊ก ไม่ได้คลิกให้เป็นว่าที่สามีแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นก็คงต้องเก็บไว้เป็นความลับเสียดีกว่า แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าจะมองหน้ากันยังไงตีกันแทบตาย สุดท้ายก็มากินกันเองเสียได้เฮ้อ...นี่มันพรหมลิขิตหรือบุพเพอาละวาดกันแน่แคทรียาหันไปมองพ่อคนเอวดุที่ยังคงหลับสนิทไร้พิษสง ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เลยคว้ากระเป๋าสะพายของตนมาเปิดออกหมายจะให้ทิป แต่กลับพบว่าเหลือเงินสดติดกระเป๋าสองพันกว่าบาท เพราะปกติเธอไม่ค่อยได้พกเงินสด มีติดตัวก็แค่พอใช้ ครั้นจะปลุกอีกฝ่ายขึ้นมาถามเลขบัญชีก็กระไรอยู่งั้นก็เอาไปเท่านี้ก่อนแล้วกัน อย่างน้อยเมื่อคืนเขาก็ทำให้เธอสุขล้นจนแทบสำลักกับเซ็กซ์ครั้งแรกนี้ ก็ควรจะมีรางวัลตอบแทนเสียหน่อยถือเป็นทิปแล้วกัน เผื่อคราวหน้าของขาดเธอจะได้เรียกใช้บริการใหม่หญิงสาวคลี่ยิ้มก่อนวางเงินสองพันบนโต๊ะที่หัวเตียง แล้วค่อยๆ กัดฟันย่องออกจากห้องไป โดยหารู้ไม่ว่าคนที่เธอคิดว่าหลับนั้นได้ลืมตาตื่นขึ้นและมองตามจนเธอลับตาไปเรือนร่างเปลือยเปล่าที่อุดมด้วยกล้ามเนื้องดงามสมส่วนของบุรุษเพศลุกขึ้นจากเตียงและบิดขี้เกียจนิดๆ เรียกความกระปรี้กระเปร่าก่อ
“ครับ”“ครับอะไรของแก แล้วนี่คิดจะเอายังไงต่อ ลูกเขามีพ่อมีแม่นะ มาถึงขั้นนี้แล้ว แกจะรับผิดชอบน้องยังไง หรือจะให้พ่อกับแม่ไปเจรจาสู่ขอหนูแคทกับพ่อแม่เขาเลยไหม แม่พร้อมทุกเมื่อนะ ขอแค่บอกมา”หากเป็นก่อนหน้าเขาคงรีบปฏิเสธออกไปรัวๆ แต่ตอนนี้เหมือนมีบางอย่างถ่วงปากไว้ ดวงตาคมมองไปที่กกน.ตัวจิ๋วที่เจ้าของทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า แล้วมองลูกชายที่ยังไม่ยอมสงบลงง่ายๆ อย่างจนใจ ไหนจะข้อตกลงที่จะแกล้งคบกันหลอกๆ เพื่อตบตาผู้ใหญ่นั่นอีกเล่า“แม่ครับ เรื่องนั้นผมว่าไว้เราค่อยคุยกันอีกที...”“หมายความว่าลูกจะไม่รับผิดชอบ ไม่ยอมแต่งงานกับน้องเหรอ”“เรื่องนั้นผมว่าคุณแม่ลองถามเจ้าตัวดูดีกว่านะครับว่าอยากแต่งกับผมหรือเปล่า”“ตาดิว!”คุณดารณีแหวมาตามสายอย่างเหลืออด หากอยู่ใกล้มือคงเอื้อมมาหยิกพ่อลูกชายตัวดีจนเนื้อหลุด ก่อนที่จะมีเสียงขลุกขลักและมีการเปลี่ยนคนพูดสาย“ตาดิว...” ดิฐกรกลอกตามองเพดาน นี่แปลว่าทั้งพ่อกับแม่เขารับรู้เรื่องทั้งหมดแล้วสินะ“ครับพ่อ”“เย็นนี้กลับมาคุยที่บ้านแล้วกัน คิดให้ดีว่าแกจะเอายังไงต่อกับเรื่องนี้ พ่อหวังว่าบทเรียนในอดีตของแกกับหนูมี่ที่ผ่านมา จะทำให้แกไตร่ตรองให้มากและไม่ทำผ
“พ่อคะ จริงๆ เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยนะคะ แคทอธิบายได้”“แล้วที่ลูกกับตาดิวมีอะไรกันแล้ว เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า” มาคำถามแรกก็ยิงเข้าประเด็นทันที สมแล้วที่เป็นพ่อเธอ หญิงสาวกลืนน้ำลายฝืดคอ“เอ่อคือ...” สาวมั่นเริ่มอึกอัก รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เมื่อมองไปรอบห้องที่ตอนนี้พุ่งเป้ามาที่เธอ นี่มันยิ่งกว่าโดนตำรวจสอบปากคำเมื่อกี้นี้เสียอีก“คิดให้ดีก่อนตอบ เพราะถ้าพ่อจับได้ทีหลังว่าโกหก ลูกก็รู้ว่าจะเป็นยังไง” เสียงเรียบนิ่ง ดุในที ทำให้คนเป็นลูกนึกขยาดเธออาจจะมั่นหน้ากับใครทั้งโลกก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่กับบิดาของตัวเอง ความมั่นใจในตัวไม่เคยมีผล ทุกครั้งที่เธอคิดจะโกหก ต่อให้เนียนแค่ไหน เนียนชนิดคนทั้งโลกไม่มีทางจับไต๋ได้ แต่สุดท้ายก็โดนพ่อจับโป๊ะได้ทุกที เรียกว่าแพ้ทางก็ว่าได้หญิงสาวหันไปสบตาผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างหนักใจ เห็นไหม เธอก็เตือนแต่แรกแล้วว่าอย่ามาๆ เขาก็ยังดื้อแพ่งจะมา แล้วไงล่ะเนี่ย หัวจะปวด“ว่าไงตาดิว เธอเป็นลูกผู้ชายคงไม่คิดโกหกผู้ใหญ่หรอกใช่ไหม” คุณราเมศร์เบนเข็มไปทางชายหนุ่มด้วยสีหน้าจริงจังปฏิเสธไปสิ อย่ายอมรับง่ายๆ นะลูกพี่ อย่า...“ใช่ครับ เราสองคนมีอะไรกันแล้ว”“เห็นไหมคะพ่อ เรื่อ
เวลาต่อมา สองหนุ่มสาวก็มาถึงถ้ำเสือ แคทรียาหันไปมองเพื่อนร่วมชะตากรรมที่นั่งทำหน้าเหมือนคนท้องผูกมาตลอดทาง“ถ้าอยากเปลี่ยนใจ จะกลับตอนนี้ก็ยังทันนะคะ”ดวงตาคมเข้มตวัดมองสบตาหญิงสาว“เธอรู้ได้ยังไงว่าพี่อยากเปลี่ยนใจ”“อ้าว! ก็แคทไม่ได้โง่นี่นา เห็นพี่นั่งทำหน้าเป็นตูดมาตลอดทางก็รู้แล้วว่าไม่เต็มใจ”“รู้ดีจริงนะ”“เฮ้อ...ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นว่าพี่น่ะหวงความโสดจะตาย พี่ไม่อยากแต่งงานกับแคท เลยหนีการดูตัวทุกครั้ง แล้วแคทเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับคนที่ไม่รักกันแบบพี่ด้วย แต่ถ้าขืนเราเข้าไปเจอพ่อตอนนี้แล้วโดนพ่อแคทมัดมือชกบังคับให้เราสองคนแต่งงานกันล่ะ พี่ดิวจะว่ายังไง” หญิงสาวแกล้งขู่ทีเล่นทีจริง“พี่ก็รู้นี่ว่าพ่อแคทเป็นพวกหัวโบราณสุดๆ ขืนรู้ว่าที่ผ่านมาพวกเราแอบแซ่บกันแล้วตั้งหลายครั้ง มีหวัง...ชึ้บ!” หญิงสาวทำท่าเอานิ้วชี้ปาดคอตัวเองด้วยสีหน้าสยองขั้นสุด“ในเมื่อเธอก็โสดแล้ว พี่เองก็ไม่มีใคร ถ้าต้องแต่งกันจริงๆ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่”“อย่ามาล้อเล่น หน้าสิ่วหน้าขวานนะคะ นี่แคทซีเรียส นะ พวกเราก็แค่แกล้งๆ คบกันตบตาชาวบ้าน เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกพ่อแม่จับคลุมถุงชน ถ้าขืนแต่งงานกันก็ผิดวัตถุประสง
“ก็ถ้ารู้ว่าต้องเสียค่าปรับแบบนี้ แคทน่าจะแถมให้อีตาบ้านั่นอีกสักหมัดสองหมัด เจ็บใจนัก”หญิงสาวบ่นอุบ จนคนฟังถึงกับส่ายหน้า ขืนไม่รีบสลบเหมือดคาที่สิ มีหวังเจ้าวรพลนั่นคงเดี้ยง ไม่ก็คงได้จองเมรุไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นเจ้าหมอนั่นก็คงเข็ดขยาดไปไม่น้อย เมื่อเจอตอสุดแสบอย่างแคทรียาคนนี้ เห็นตัวผอมๆ เพรียวๆ ใครจะคิดว่าเจ้าหล่อนจะแรงเยอะเอาเรื่องใช่ย่อย เล่นเอาผู้ชายตัวโตกว่าสลบคาที่ไม่พอ แม่ตัวดียังขอแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายมารังควานเธออีกแต่กระนั้นเขาก็ยังไม่วางใจเมื่อเห็นแววตาอาฆาตจากอีกฝ่ายก่อนที่จะยอมแยกย้ายกลับไปแบบมือเปล่า“คิดอะไรอยู่เหรอคะพี่ดิว”“เมื่อกี้เธอเห็นสายตาของไอ้หมอนั่นไหม พี่ว่าท่าทางมันไม่น่าไว้ใจนะ ระหว่างนี้เธออย่ากลับไปพักที่คอนโดนั่นจะดีกว่านะ เพื่อความปลอดภัย”“พี่เป็นห่วงแคทด้วยเหรอคะ”“น้อยๆ หน่อย อย่าหลงตัวเอง...” แคทรียาเบ้ปากใส่“ไม่ให้พักที่คอนโดตัวเองแล้วจะให้ไปนอนที่ไหน ช่วงนี้แคทไม่อยากกลับไปนอนที่บ้านนี่นา”“งั้นก็ไปพักที่คอนโดพี่ก่อนแล้วกัน” หญิงสาวหันไปทำตาโตใส่คนใจป้ำ“ไปนอนคอนโดพี่เนี่ยนะ นี่ไม่ได้คิดมิดีมิร้ายหรือมีจุดประสงค์แ
เมื่อขาเรียวสวยเสยเข้าที่ปลายคางของอีกฝ่ายอย่างจังจนสลบเหมือดกลางอากาศ ท่ามกลางสายตาไทยมุงทุกคนมองภาพนั้นตาค้าง ดิฐกรถึงกับอึ้ง เสียวทั้งเป้ากางเกงและปลายคางวาบ ชักรู้สึกเห็นใจไอ้หมอนั่นขึ้นมาหน่อยๆ แต่มันก็สมควรโดนแล้ว“อูย...” แคทรียาแอบครางเบาๆ ความโมโหทำให้เธอลืมตัวไปว่าเธอยังไม่หายระบมจากศึกหนักบนเตียงเมื่อคืน“เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม” ดิฐกรรีบเข้าไปประคองหญิงสาวไว้ด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไรค่ะ สะใจชะมัด เสียดายไม่น่ารีบใจเสาะสลบเหมือดแบบนี้เลย ไม่งั้นแคทจะได้จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบให้อีกสักยกเอาให้เข็ดหลาบ ปากดีนัก”“พอเถอะ แค่นี้ก็ไม่รู้จะฟื้นตอนไหนแล้ว เธอไปเรียนต่อยมวยมาจากไหนนี่”“ไม่ใช่แค่ต่อยมวยนะคะ เทควันโด้ ยูโด คาราเต้ ฟันดาบ หรือว่ายิงปืนแคทก็ได้เหรียญทองมาแล้วทั้งนั้น”ดิฐกรฟังแม่ตัวยุ่งบรรยายสรรพคุณตัวเองอย่างอึ้งทึ่งเสียว ดวงตาคมกริบเหลือบมองวรพลที่นอนนิ่งหายใจรวยรินอย่างเห็นใจระคนสมเพชเวทนา หมอนี่มันจะรู้ไหมว่ามาแหยมผิดคน“แคทล้อเล่นค่ะ อย่าบอกนะว่าพี่เชื่อด้วย” หญิงสาวหัวเราะออกมาอย่างสดใส พลางคลี่ยิ้มหวานใส่ตาของเขา จนทำเอาดิฐกรถึงกับตาพร่าไปชั่วขณะ ความคิดหน
วรพลมองภาพหน้าจอตาค้าง เหงื่อกาฬผุดเต็มหน้าเมื่อเห็นหลักฐานที่มัดตัวเขาแน่นทั้งคลิปทั้งรูปถ่ายจนดิ้นไม่หลุด แก้ตัวไม่ออก แต่เขาก็ฝืนดังทุรัง“ก็แค่คนหน้าเหมือนหรือเปล่า ถ่ายไกลขนาดนั้น คุณอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ สิ”“หน้าเหมือนหรือหน้าด้านยะ คลิปกับรูปนั่นฉันเห็นเองกับตา ถ่ายเองกับมือ เดินตามดูจนแน่ใจว่าไม่ผิดตัว ไม่ได้ตัดต่อด้วย อ้อ! แล้วฉันก็ยังโทรเช็กเองด้วย จำได้ว่าคุณบอกติดประชุมที่บริษัท แต่กลับมาจู๋จี๋กับกิ๊กที่ร้านอาหารญี่ปุ่น จะเอาหลักฐานอะไรอีกไหม ไงล่ะ ถึงกับอึ้งไปเลยเหรอ”วรพลถึงกับหน้าซีดเมื่อถูกจับโป๊ะจนไปไม่เป็น“มะ...มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ แคทที่รักฟังผมก่อน ผมอธิบายได้นะดาร์ลิง”“จะอธิบายว่าไงล่ะ อธิบายว่าทำไมถึงนอกใจฉันไปมีกิ๊กงี้เหรอ ไงล่ะ พอโดนสวมเขา เห็นแฟนตัวเองนอกใจมีกิ๊กบ้างถึงกับรับไม่ได้เลยหรือไง”“แคท ไม่ใช่อย่างนั้นนะ”“แล้วมันยังไงล่ะ ที่ผ่านมายังตอแหลไม่พออีกหรือไง จะเลิกตอแหลกี่โมงเนี่ย ฉันขี้เกียจฟังคำแก้ตัวแล้ว เสียเวลาชีวิต นายไม่ได้มีค่ามากพอขนาดนั้นหรอกนะ รู้ไว้ด้วย ที่ผ่านมาฉันก็แค่เวทนาเก็บงูเห่ามาเลี้ยง แต่ดันเลี้ยงไม่เชื่อง จากนี้ไปก็ทางใครทางมันแ
“น้อยๆ หน่อย ค่าตัวพี่แรงนะ เธอจะจ่ายไหวเหรอ ไอ้ประเภทจ่ายพันสองพันแล้วคิดจะใช้งานกันเกินคุ้มน่ะ เลิกคิดเลิกฝันได้” เขาเหน็บแนมคนที่เคยควักจ่ายค่าตัวเขาสองพันแล้วชิ่งหนี“แรงน่ะเท่าไหร่คะ แคทมีปัญญาจ่ายแล้วกัน หรือจะให้สแกนคิวอาร์โค้ดตอนนี้เลยก็ได้”“ปากดีแบบนี้ ระวังต้องจ่ายจนหมดตัว”แคทรียาย่นจมูก มองคนขี้อวดอย่างหมั่นไส้“อย่าเวอร์ค่ะ พี่ก็แค่ของมือสองใช้มาจนเยินแล้วด้วย จะมาโก่งค่าตัวทำไม แถมตอนนี้ก็มีตำหนิเต็มตัวด้วย ใครจะไปอยากได้ ขายเซียงกงจะรับไหมก็ไม่รู้เลย ฮึ”ดิฐกรฟังแล้วอยากดีดปากแม่ตัวดีให้บวมเจ่อ โทษฐานที่บังอาจมาดิสเครดิตว่าเขาเป็นของมือสองใช้แล้วแถมมีตำหนิอีก อย่างนี้ต้องเจอดีเสียแล้ว “ว้าย! พี่ดิวจะทำอะไร เดี๋ยวน้องตก”แคทรียาเอะอะ เมื่อจู่ๆ ก็ถูกช้อนอุ้มขึ้นจากเตียงกะทันหัน จนเธอต้องรีบโอบรอบคอเขาไว้กันตก“เดี๋ยวก็รู้!”ว่าแล้วเขาก็อุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำ แล้ววางลงในอ่างจากุซซี่เพื่อเริ่มต้นทำการทดสอบคุณภาพสินค้ากันอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม จนหญิงสาวแทบสำลักความสุขส่งเสียงครวญครางออกมาไม่ขาดปาก กว่าที่การทดสอบสินค้าจะสิ้นสุดก็กินเวลาจนเกือบเที่ยง ดิฐกรถึงอุ้มเธอออกม
ดีเท่าไหร่เขาไม่บีบคอเธอตายคามือโทษฐานที่ย่ำยีร่างกายบุรุษจนลายพร้อยไปทั้งตัว นี่ยังไม่นับใต้ร่มผ้า ยิ่งอยากจะลืม ภาพความป่าเถื่อนต่างๆ ก็ไหลเข้ามาในสมองไม่หยุดทีนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะยัยแคทเอ๊ยกำลังคิดหาทางหนีทีไล่ จู่ๆ ดวงตาที่หลับพริ้มก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นและจ้องมองมาที่เธอจนเกือบสะดุ้ง“พะ...พี่ดิว เอ่อคือ...เรื่องเมื่อคืน แคท...” จู่ๆ สมองก็ชอร์ตขึ้นมาดื้อๆ เสียอย่างนั้น ปากมันพูดไม่ออก เลือดก็วิ่งขึ้นใบหน้าจนร้อนผ่าวๆ“เมื่อคืนแคททำไม” เขาถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่งจนอ่านไม่ออกว่าโกรธหรืออะไร ยิ่งทำให้คนมีชนักถึงกับร้อนๆ หนาวๆ“ก็...”ถ้าจะจ้องกันขนาดนี้ เอามีดมาแทงเลยดีกว่าไหม คนยิ่งเขินๆ อยู่ หญิงสาวนินทาในใจ“ก็เรื่องที่แคททำพี่เจ็บตัวเมื่อคืนไงคะ”“อ๋อ...”“อ๋ออะไรคะ จะด่าอะไรก็ด่ามาเลย อูย...” เพียงขยับก็โดนร่างกายประท้วงจนน้ำตาแทบเล็ด“เจ็บตรงนั้นล่ะสิ” เสียงนุ่มหูแกล้งกระซิบถามให้เขิน“อืม...”“ใช้งานหนักไปหน่อย งั้นก็พักสักวันเถอะ เมื่อคืนแทบไม่ได้พัก โดนเธอปล้ำทั้งคืน เพลียจะแย่”“ปะ...ปล้ำ...”คนฟังรู้สึกหน้าร้อนฉ่า เมื่อคิดถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไปตอนที่ถูกยาผีบ้านั่
แคทรียากลับยอมให้หมอนั่นกอด แถมยังกอดตอบ และยื่นมือไปดึงใบหน้าชายคนนั้นเข้ามาจูบอย่างดูดดื่มโดยไม่สนสายตาใครราวกับถูกฟ้าผ่าเปรี้ยงที่กลางหัว ภาพบาดตาตรงหน้าทำให้วรพลถึงกับช็อกตาตั้ง ตัวแข็งทื่อ หน้าชาเหมือนโดนชกแรงๆ ซ้ำๆ นี่เองใช่ไหมเหตุผลที่เธอทำตัวแปลกไป ทั้งเย็นชาเหินห่างกับเขา ไหนจะเสียงผู้ชายที่รับโทรศัพท์ในตอนนั้นที่แท้เธอก็นอกใจเขานี่เอง!วรพลบดสันกรามแน่นด้วยความโมโหจนหน้ามืด ขาดสติ เขารีบจ้ำอ้าวจะตรงเข้าไปเอาเรื่องสองหนุ่มสาวที่ยืนกอดจูบเย้ยฟ้า แต่ทว่ากลับถูกขวางไว้“หลีกไปนะ นั่นแฟนผม ผมจะไปหาแฟน หลีกไปสิ!”“คุณเข้าไม่ได้ครับ” เจ้าหน้าที่รปภ.หันไปเรียกเพื่อนอีกสองคนเข้ามาขวางไว้ไม่ยอมให้ผ่านเข้าไปง่ายๆ เกิดการยื้อยุดกัน จนสุดท้ายวรพลก็ถูกผลักจนกระเด็นหงายหลังก้นจ้ำเบ้าอย่างหมดท่า“แคท!”เมื่อสู้แรงไม่ไหววรพลจึงได้ตะโกนเรียกแฟนสาวเสียงดังลั่นอย่างสิ้นหวัง แต่ทว่าสองหนุ่มสาวก็เดินเข้าไปในตึกคอนโดเสียแล้วเลยไม่ได้ยินเสียงเรียกของเขาชายหนุ่มกัดฟันกรอด กำมือแน่น ในใจร้อนรุ่มประหนึ่งมีกองไฟนรกแผดเผา ยัยบ้านั่นทำแบบนี้กับเขาได้อย่างไร ทีกับเขาเป็นแฟนกัน ทำได้แค่จับมือ จะจูบทีก็ห
“เดี๋ยวสิ พี่ดิว...” คำพูดนั้นถูกกลืนลงคอไปในทันใด เมื่ออีกฝ่ายจัดการปิดปากสวยๆ ของเธอด้วยริมฝีปากอุ่นร้อน ท่ามกลางสายตาของทุกคนในผับ บางคนถึงกับคว้าโทรศัพท์มาแอบถ่ายคลิปบอสและพรรคพวกที่มาด้วยกันมองภาพนั้นตาค้างเติ่งเมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก แคทรียาก็เกือบเข่าอ่อน จูบดูดวิญญาณของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงกระหน่ำแทบทะลุอก จู่ๆ ร่างกายก็พลันร้อนวูบวาบขึ้นมา เลือดสูบฉีดขึ้นไปที่ใบหน้าสวยเก๋จนแดงซ่าน“หึ!” ดิฐกรกดยิ้มมุมปาก นึกอยากจะรังแกแม่สาวซ่าขึ้นมาอีกสักรอบ “ทีนี้จะกลับได้หรือยัง”“...”ไม่รอให้หญิงสาวตอบ เขาก็จัดการช้อนอุ้มร่างอรชรขึ้นแล้วพาเดินฝ่าวงล้อมไทยมุงออกไปโดยไม่สนใครหน้าไหนจะว่ายังไงทั้งนั้นดิฐกรอุ้มหญิงสาวออกมาถึงด้านหน้าผับเพื่อเรียกแท็กซี่ คืนนี้เขาดื่มไปไม่น้อยเหมือนกัน เลยไม่อยากขับรถกลับเองและอีกเหตุผลคือ...“พี่ดิว...อื้อ...แคทร้อนจัง เวียนหัวจะอ้วกด้วย ปล่อยก่อน...”ชายหนุ่มก้มมองใบหน้าสวยเก๋ที่ตอนนี้ซีดเผือดมีเหงื่อซึมผุดพรายเต็มหน้า ดูเหมือนยานั่นเริ่มจะออกฤทธิ์เสียแล้ว“ทนหน่อย เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว”“ไม่เอา แคทไม่กลับบ้าน เดี๋ยวพ่อด่า”“ทีอย่างนี้ล่ะกลัวพ่อด