สถานที่นัดหมายดูตัวคราวนี้เป็นร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมหรูใจกลางกรุง แคทรียาเหลียวซ้ายแลขวาอยู่ชั่วครู่ก็ได้พบคู่นัดที่นั่งรออยู่ เธอจึงดูรูปถ่ายและลองกดโทรตามเบอร์ที่พ่อให้มาเพื่อยืนยันตัวตนของอีกฝ่ายจนมั่นใจว่าใช่แล้วจริงจึงเดินตรงเข้าไปหา“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อแคทรียา”เธอแนะนำตัว พร้อมกับแอบสำรวจคู่ดูตัวคนล่าสุด ชายหนุ่มหน้าตาคมคาย ท่าทางสะอาดสะอ้าน แต่งกายภูมิฐานมีมาดเหมือนคุณชายผู้ดี แต่...ไม่ใช่สเปก!“สวัสดีครับ ผมชลธัช ยินดีที่ได้รู้จัก เชิญนั่งก่อนสิครับคุณแคทรียา”คนพูดลุกขึ้นยืนต้อนรับตามแบบสุภาพบุรุษ พร้อมกับส่งยิ้มผูกมิตรมาให้“เรียกแคทก็ได้ค่ะ”“ครับคุณแคท ตัวจริงคุณดูสวยกว่าในรูปภาพเสียอีกนะครับ” ชายหนุ่มชมจากใจ ทำให้คนถูกชมอดยิ้มไม่ได้“งั้นเหรอคะ”“อยากดื่มอะไรดีครับ น้ำส้มดีไหม”“แคทไม่ใช่นางเอกสักหน่อย ขอเป็นน้ำมะนาวเปรี้ยวๆ ดีกว่าค่ะ” ชายหนุ่มหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบริกรให้ “สั่งอาหารเลยไหมครับ ผมไม่ทราบว่าคุณชอบรับประทานอะไร เลยรอคุณมาก่อนค่อยสั่ง นี่ครับเมนู”“แคทกินอะไรก็ได้ค่ะ คุณสั่งมาเถอะ”“งั้นก็ได้ครับ” ชายหนุ่มตอบรับพร้อมกับจัดการสั่งอาหารให้ บุคลิกท่าทางไ
“พี่ดิว...”“เพื่อนคุณแคทเหรอครับ” ชลธัชหันไปถามหญิงสาวอย่างแปลกใจ“เพื่อนงั้นหรือ ผมเป็นมากกว่าเพื่อนเสียอีก มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนไง...”“ไม่ใช่นะคะ เขาเป็นแค่พี่ชายที่เคยรู้จักกันเท่านั้น ไม่ได้สนิทอะไรกันมากนักหรอกค่ะ”คำตอบนั้นทำให้ดิฐกรบดสันกรามแน่น เขารู้ดีว่าเธอกำลังประชด หรือไม่ก็อาจกลัวคู่ดูตัวคนล่าสุดเข้าใจผิดล่ะสิ“ว้า...พี่เป็นได้แค่พี่ชายเองเหรอ นึกว่าเราเป็นกิ๊กกันอยู่เสียอีก แล้วคุณคือ...”“สวัสดีครับ ผมชื่อชลธัช เป็น...”“คู่ดูตัวรายล่าสุดของน้องแคท ผมเข้าใจถูกไหมครับ”แคทรียาขึงตาใส่แขกไม่ได้รับเชิญที่จงใจถือวิสาสะนั่งลงเบียดข้างๆ กายเธอบนโซฟาตัวเดียวกัน แถมยังยื่นแขนมาพาดพนักพิงของเธอราวกับโอบไหล่กรายๆ เสียด้วย“ผมชื่อดิฐกร หรือดิวครับ เป็นกิ๊กคนล่าสุดของน้องแคท และขอแก้ข่าวหน่อยว่าจริงๆ แล้ว เรายังไม่ได้เลิกกิ๊กกันอย่างที่เธอบอกคุณเมื่อครู่”“พี่ดิว! คิดจะทำอะไรเนี่ย” แคทรียาหันไปกระซิบถามลอดไรฟัน ชักสีหน้าใส่คนตัวร้ายที่คิดจะมาทำลายนัดดูตัวของเธออย่างไม่เกรงใจ“ก็กำลังช่วยเธอไง”“ช่วยเนี่ยนะ” แคทรียางุนงง ก็เห็นๆ อยู่ว่ามาป่วน นี่เขาช่วยเธอตรงไหนมิทราบ“ใช่สิ ช
แคทรียาอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง โดยมีชายหนุ่มที่อุ้มเธอเข้ามาโดยไม่แคร์สายตาผู้หญิงที่อยู่ในห้องน้ำแห่งนั้น เขาคอยช่วยลูบหลังลูบไหล่ให้ จนอาการค่อยทุเลาลง ทว่ายังวิงเวียนไม่หายดิฐกรมองใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดของเธออย่างเป็นห่วงระคนสงสัยอะไรบางอย่าง“เธอไม่ได้ท้องใช่ไหม”คำถามนั้นทำเอาแคทรียาสะดุ้งในใจ“ไปให้หมอตรวจหน่อยดีกว่า เดี๋ยวพี่พาไปเอง”“ไม่ต้องค่ะ แคทไปเองได้”“อย่าดื้อกับพี่” ชายหนุ่มกำราบด้วยเสียงดุเข้มหากเป็นในยามปกติ เธอคงไม่ยอมง่ายๆ แต่ในยามนี้เธอทั้งเวียนหัวคลื่นไส้ ร่างกายปั่นป่วนและอ่อนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ไม่อาจต่อกรกับผู้ชายตรงหน้าได้“เดี๋ยวค่ะ แคทต้องไปบอกคุณชลก่อน”ดิฐกรฉุนกึก ตวัดสายตามองคนป่วยแทบคลาน แต่ยังไม่วายห่วงคู่ดูตัวหนุ่มหล่อนั่น“ทำไมล่ะ กลัวไม่ได้สามีหรือไง เอาตัวเองให้รอดก่อนไหม ส่องกระจกดูหน้าเธอตอนนี้สิ ซีดอย่างกับผีตายซาก ขืนออกไปสภาพนี้มีหวัง เจ้าหมอนั่นคงเผ่นหนีกระเจิงมากกว่าจะมาขอแต่งงาน เฮอะ”โอ้โห! นั่นปากหรือตำแยเนี่ยแคทรียาค้อนตาคว่ำ ได้แต่สูดหายใจเข้าออกแรงๆ เพื่อระงับความคุกรุ่นในอกไว้ไม่ให้เผลอโบกคนพูดให้หน้าแหกคามือ โทษฐ
ดิฐกรถึงกับนิ่งอึ้ง งุนงง เมื่อเห็นอากัปกิริยาของคนตรงหน้า และด้วยสีหน้าท่าทางของเขาทำให้หญิงสาวตีความเอาเองในวินาทีนั้นว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการมีลูกกับเธอ หรือไม่เขาก็คงกลัวว่าเธอจะเอาลูกมามัดมือชกบังคับให้เขาแต่งงานเพื่อรับผิดชอบเหมือนที่เคยโดนมิรันดาทำน่ะสิไร้สาระ!“พี่ดิวไม่ดีใจเหรอคะที่แคทจะมีลูก...” หญิงสาวแกล้งถามหยั่งเชิงเขา“...”การนิ่งของเขาถือเป็นคำตอบที่ตอกย้ำให้เธอยิ่งแน่ใจในความคิดของตัวเองมากขึ้น ผู้ชายตรงหน้าเหมาะเป็นกิ๊กเท่านั้น แต่ไม่เหมาะจะเป็นสามีหรือพ่อของลูกเธอหรอก“โอเคค่ะ แคทเข้าใจแล้ว”“เธอเข้าใจอะไร”“ก็เข้าใจว่าพี่ดิวไม่อยากมีลูกกับแคท ไม่พร้อมแต่งงาน ไม่อยากโดนผูกมัด เพราะพี่ยังรักและลืมพี่มี่ไม่ได้ใช่ไหม”คำพูดนั้นแทงใจดำของเขาอย่างจัง จนพูดไม่ออก“งั้นพี่ก็อย่าห่วงเลย เพราะแคทจะเป็นซิงเกิลมัม!”“หะ...หา!”“ระหว่างเราจะไม่มีงานแต่งอะไรทั้งนั้น พี่กับแคทไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วเด็กคนนี้ก็ไม่ใช่ลูกพี่ เขาเป็นลูกของแคทคนเดียว พี่ไม่เกี่ยว สบายใจหายห่วงได้เลย จบนะคะ”ดิฐกรได้ฟังแล้วก็ถึงกับสะอึกอึ้งไป“ว่าไงนะ!”“ดีเหมือนกัน ถ้าลูกอยากมีพ่อ แคทก็จะหาพ่อหล่อๆ โปรไฟ
คนกำลังซาบซึ้งช็อตฟีลเสียดื้อๆ และถอนสายตาจากภาพหน้าจอก้มมองคนพูดตาเขียวปัด แต่หญิงสาวแกล้งทำเมินใส่ ไม่รู้ไม่ชี้ แล้วหันไปถามคุณหมอสาวที่ทำการอัลตราซาวน์ให้“คุณหมอคะ ฉันจะรู้เพศของลูกได้เมื่อไหร่หรือคะ”คำถามนั้นพลอยทำให้ดิฐกรหูผึ่งไปด้วย“ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติเราสามารถอัลตราซาวน์เพื่อทราบเพศได้เมื่ออายุครรภ์ประมาณสิบสองถึงสิบหกสัปดาห์ ค่ะ แต่หมอจะนัดคุณแม่มาตรวจครรภ์ทุกเดือนเพื่อดูพัฒนาการของเด็กในครรภ์อีกทีนะคะ ระหว่างนี้หากคุณพ่อคุณแม่พบว่ามีอาการผิดปกติก็ให้รีบมาตรวจที่โรงพยาบาลก่อนวันนัดได้”“แล้วผมต้องทำอะไรบ้างครับ” ดิฐกรโพล่งถามขึ้นอย่างกระตือรือร้นโดยไม่สนใจสีหน้าตึงด้วยความหมั่นไส้ของว่าที่แม่ของลูก“ระหว่างที่ตั้งครรภ์คุณพ่อมีหน้าที่ต้องคอยดูแลสุขภาพคุณแม่ให้ดีค่ะ ในคู่มือที่หมอให้ไปจะมีวิธีดูแลตัวเองของคุณแม่ตั้งครรภ์อยู่ รวมถึงข้อควรระวังสำหรับการตั้งครรภ์ อาหารต่างๆ และเรื่องอารมณ์ของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ก็สำคัญนะคะ พยายามอย่าให้เธอต้องเครียดหรือมีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจก็จะดีต่อเด็กในครรภ์ที่สุดค่ะ”สองหนุ่มสาวหันมาสบตากัน ก่อนที่แคทรียาจะเบือนหลบสายตาไปมองทางหน้าจออัลตร
ปลายสายมีเสียงขลุกขลักก่อนจะเปลี่ยนจากเสียงของมิรันดามาเป็นเสียงทุ้มของคีรินแทน“ผมขอคุยกับน้องแคทหน่อยได้ไหมครับ”“ไม่ได้ เพราะตอนนี้เขาหลับอยู่”“พี่คิ...อุ๊บ!” มือหนาตะปบปิดปากที่เตรียมจะฟ้องพี่ชายให้เงียบลง และปรามด้วยสายตาดุ“งั้นแค่นี้ก่อนนะ”ดิฐกรกดวางสายหน้าตาเฉย ก่อนจะปล่อยมือจากปากหญิงสาว“พี่ดิวทำอะไร ทำไมไม่ให้แคทพูดกับพี่คิม”“ชู่ว์...พูดเบาๆ หน่อยได้ไหม เดี๋ยวลูกในท้องก็ตกใจหมดหรอก”แคทรียาฟังแล้วคันไม้คันมืออยากทุบคนตรงหน้าขึ้นมาตงิดๆ ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำอย่างที่คิด ก็มีเสียงประกาศเรียกชื่อให้ไปรับยาและชำระเงินที่เคาน์เตอร์เสียก่อน ทำให้ทั้งสองต้องสงบศึกชั่วคราว“นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนนะ อย่าหนีไปไหน เดี๋ยวพี่มา”ชายหนุ่มกำชับสาวจอมดื้อก่อนจะเดินไปจัดการชำระเงินและรับยาให้จนเสร็จเรียบร้อย แต่ตอนจะเดินกลับไปหาหญิงสาวที่นั่งรออยู่ ไม่ทันเห็นใครบางคนที่เดินจ้ำมาจากอีกด้านจึงชนกันอย่างจัง“ว้าย! เดินภาษาอะไรเนี่ย ไม่ดูตาม้าตาเรือบ้างเลย”“ขอโทษครับ” ดิฐกรรีบขอโทษ พลางก้มเก็บถุงยาขึ้นมาจากพื้น แต่ทว่าพอเขาเงยหน้าขึ้นมองหน้าคู่กรณีชัดๆ เท่านั้นชายหนุ่มก็ถึงกับเบิกตาค้าง อุทาน
“นี่เธอหมายความว่ายังไง!” “แคท...ที่นี่โรงพยาบาลนะ อย่ามีเรื่อง” ดิฐกรรีบดึงมือแม่สาวขาลุยไว้ พลางกระซิบเตือนสติเกรงว่าจะเกิดเรื่อง ตอนนี้แคทรียาไม่ได้ตัวคนเดียว แต่ยังมีเจ้าตัวเล็กในท้องอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องคอยระวัง“พี่ดิวคะ ผู้หญิงคนนี้ใครเหรอคะ”“พี่ดิวขา...รีบตอบเขาไปสิคะว่าแคทเป็นใคร และเราเป็นอะไรกัน” ดิฐกรหันไปมองดวงหน้าหวานที่ส่งยิ้มร้ายๆ มาให้เหมือนจะบอกว่าหากเขาตอบไม่ดี อาจจะโดนดีได้“นี่แคทรียา...แม่ของลูกผมเอง!”คำนั้นทำให้เจนิสาถึงกับสะอึก อึ้งกิมกี่“แม่ของลูกเหรอคะ...”ดวงตาเขียวปัดหันไปมองชายหนุ่ม แม้คำตอบของเขาจะไม่หักหน้ากัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอพอใจเสียทีเดียวสำหรับดิฐกร...เธอก็เป็นได้แค่แม่ของลูกเท่านั้นสินะแม่ของลูกที่ไม่ใช่เมีย!หญิงสาวหันไปทางดิฐกรด้วยสีหน้าตึง“ส่งยากับใบเสร็จของแคทมา เดี๋ยวจะโอนเงินคืนให้ทีหลัง แล้วถ้าอยากจะรำลึกความหลังต่อกับกิ๊กเก่าก็เชิญตามสบาย”แคทรียาว่าพลางคว้าถุงยาจากมือเขามาถือไว้แล้วรีบปิดจมูก เพราะกลิ่นน้ำหอมฉุนแรงจากกายของเจนิสากำลังทำให้ร่างกายเธอปั่นป่วนจนอยากอาเจียนขึ้นมาอีกครั้ง“อุ๊บ!”“แคทเป็นอะไรไป” ดิฐกรรีบถามอย่างห่วงใย แ
น่าเอ็นดูจังแฮะ มือหนายื่นไปลูบที่เส้นผมสวยเบาๆ“ทำอะไรของพี่เนี่ย ผมแคทยุ่งหมดแล้ว” หญิงสาวแหวใส่ พลางขยับหนีมือเขา ด้วยหัวใจที่เต้นตึกตัก“ผู้หญิงคนนั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพี่ตั้งนานแล้ว และไม่มีค่าพอให้เราต้องเข้าใจผิดกันหรอก”“แล้วมาบอกแคททำไม ใครอยากรู้มิทราบ”“พี่อยากบอก เพราะยังไม่อยากถูกเธอเตะก้านคอสลบคาที่โทษฐานนอกใจ”“ทำไมแคทต้องทำแบบนั้นด้วย ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย...”“เป็นสิ ก็เป็นแม่ของลูกไง”“ฮึ” แคทรียาสะบัดหน้าไปอีกทางอย่างหงุดหงิด“เอาเถอะ เลิกสนใจคนอื่นแล้วมาพูดเรื่องของเราดีกว่า เรื่องลูก...”“ทำไมคะ อย่าบอกนะว่าพี่จะให้แคทเอาลูกออก เพราะพี่ไม่ต้องการให้พี่มี่กับคนอื่นๆ รู้ว่ามีลูกกับแคท”“จะบ้าเหรอ ใครจะทำแบบนั้น” ดิฐกรเคาะหน้าผากมนเบาๆ เรียกสติ“ก็พี่ไง พี่ดิวบอกเองว่าเห็นแคทเป็นแค่น้องสาวไม่ใช่หรือไง”“แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน เธอกำลังท้องลูกของพี่”“แล้วถ้าแคทไม่ท้องล่ะ พี่ก็จะเห็นแคทเป็นแค่น้องสาวอยู่เหมือนเดิมใช่ไหม”“...”“งั้นพี่ก็อย่าเสียเวลาเลย บอกแล้วว่าลูกคนเดียวแคทเลี้ยงได้”“แต่ว่าพี่ก็เป็นพ่อ...”“แต่แคทไม่ได้อยากได้แค่พ่อของลูก” หญิงสาวโ
“ยิ้มปลื้มเมีย”“หา...”“เมียพี่น่ารักที่สุดเลย” เขาโอบเอวเธอเข้ามาใกล้พร้อมกับกดจูบที่หน้าผากมนเบาๆ“ขอบคุณแทนน้องมิวด้วยนะครับ”ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นทันใด“ขอบคุณเรื่องอะไรคะ น้องมิวก็ลูกแคทเหมือนกันนี่นา”นี่ก็อีก หลังจากที่เขาจดทะเบียนสมรสกับเธอ แคทรียาก็กลายเป็นแม่แคทของหนูน้อยของขวัญไปอีกคน แถมยังเข้ากับมิรันดาเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียด้วย ซึ่งทำให้เขาสบายใจไปได้อีกเปราะไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดปัญหาเรื่องแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงตามมาในภายหลังภาพความหวานชื่นระหว่างสองสามีภรรยาทำให้ใครต่อใครที่เห็นแอบชื่นชมในความเหมาะสม ยกเว้นก็เพียงแต่...เจนิสาชะงักไปนิดๆ เมื่อมองเห็นภาพสวีตของทั้งสองที่เดินเคียงคู่กันผ่านไป โดยไม่ทันเห็นเธอที่นั่งหัวโด่ตรงนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจตัวเอง ดิฐกรในวันนี้ทั้งภูมิฐานและดูมีฐานะดีเธอมันตาต่ำสิ้นดี!หากในวันนั้นเธอไม่คิดสั้นทิ้งดิฐกรมา วันนี้คนที่เดินควงแขนเขาก็คงเป็นเจนิสาคนนี้ เธอคงสุขสบายมีสามีรวย ไม่ต้องอยู่อย่างลำบากน่าสมเพชต้องคอยรองมือรองเท้าให้ไอ้ผู้ชายสารเลวอย่างวรพลนั่นหญิงสาวกุมใบหน้าที่ถูกปกปิดด้วยแมสก์และแว่นสีดำไว้ เพราะไม่อยากให้ใครเห็นร่องรอยฟกช้ำท
หลังจากได้พยาบาลดีคอยดูแลอาการบาดเจ็บของดิฐกรก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็วจนได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลในที่สุด สิ่งแรกที่เขาทำก็คือขอร้องให้คุณเมธาและคุณดารณีไปเจรจาสู่ขอแคทรียาถึงบ้าน“แน่ใจแล้วหรือว่าอยากจะแต่งงานกับลูกสาวอาจริงๆ” คุณราเมศร์ถามด้วยน้ำเสียงเข้มจนคนรอบข้างแอบลุ้นปนหวาดผวาแทนคนถูกถาม“แน่ใจครับ”“ไม่ใช่แค่อยากรับผิดชอบ”“ไม่ใช่ครับ”“ไม่ได้รักแบบน้องสาว”“ผมรักแคทแบบคนรักครับ ไม่ใช่น้องสาว” แคทรียาหันไปสบตากับคนพูดด้วยหัวใจที่พองโตคับอกคุณเมธาหันไปสบตากับภรรยาที่ยิ้มจนแก้มปริ เมื่อได้ยินลูกชายตัวดีสารภาพรักสาวแบบเต็มปากเต็มคำ เห็นทีว่างานนี้เธอจะได้ลูกสะใภ้สมใจแม่สุดๆ“แล้วลูกล่ะยัยแคท อยากแต่งหรือเปล่า” คุณราเมศร์หันมาทางลูกสาว“แต่งค่ะ” หญิงสาวตอบโพล่งโดยไม่ต้องคิด ทำเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่ได้แต่ค้อน“ไม่คิดอีกสักหน่อยเหรอ ถึงยังไงเราก็เป็นฝ่ายหญิงนะ” คุณราเมศร์อ่อนอกอ่อนใจกับความมั่นของลูกสาวคนเล็ก“ก็แคทคิดมาแล้ว ในเมื่อเราสองคนรักกัน แล้วยังต้องรออะไรล่ะคะ อีกอย่างถ้าแคทคิดมาก เดี๋ยวท้องโตกว่านี้ ก็แต่งชุดเจ้าสาวไม่สวยกันพอดี”“ท้องโต!” คุณราเมศร์อุทานลั่น ในขณ
“อย่าหนีพี่ไปอีกเลยนะ”ดิฐกรมองสบตาเธอนิ่ง มวลความรู้สึกมากมายอัดแน่นในอกของเขาจนแทบจะล้นทะลักออกมา เกรงว่าหากเขาไม่พูดตอนนี้ จะไม่มีโอกาสได้พูดมันอีก“พี่ไม่ใช่คนดี เป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวคนหนึ่ง แล้วก็เป็นคนโง่งี่เง่ามากๆ ด้วย”แคทรียาเลิกคิ้วมองคนพูดอย่างไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่“ครั้งหนึ่งพี่เคยทำพลาดเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวและกลัวการผูกมัด กลัวที่จะต้องแต่งงาน กลัวเสียอิสรภาพบ้าๆ บอๆ จนกระทั่งเสียคนที่พี่รักให้คนอื่นไปคนหนึ่งแล้ว แต่คราวนี้พี่จะไม่ยอมเสียคนที่พี่รักไปอีก...”ราวกับเวลาหยุดหมุนในชั่ววินาทีนั้น คำว่า ‘คนที่พี่รัก’ ของเขากระแทกใจเธออย่างจัง นั่นเขาหมายถึงใครกันคงไม่ใช่เธอหรอกมั้ง“พี่รักแคท เราแต่งงานกันนะ”สาวมั่นถึงกับตะลึงงัน เมื่อเจอคำบอกรักแบบสายฟ้าแลบ“แล้วพี่มี่ล่ะ พี่ดิวลืมพี่มี่ได้แล้วเหรอ”“หึงเหรอ” คนเจ็บแกล้งตีหน้านิ่งถาม“หึงอะไร อย่ามาหลงตัวเองนะ”“งั้นพี่หลงเมียแทนได้ไหม”แคทรียาอ้าปากค้าง“ไม่ต้องหึงแล้วตัวแสบ ระหว่างพี่กับมี่ เราเหลือแค่สถานะพ่อแม่ของน้องมิวเท่านั้น”เมื่อได้ฟังคำยืนยันจากปากเขา ซึ่งเป็นคำเดียวกับที่เคยได้ยินจากปากมิรัน
“ไม่! อย่าไปนะ อย่าทิ้งพี่...” ชายหนุ่มรีบรั้งเธอไว้ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี กลัวว่าหากปล่อยให้เธอไป เขาจะไม่ได้พบเธออีก เขาไม่อยากเป็นเหมือนผู้ชายคนนั้นที่ต้องสูญเสียคนที่ตัวเองรักไปต่อหน้า อีกทั้งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมันทำให้เขารู้แล้วว่าชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอนโชคดีแค่ไหนที่เขาไม่ได้เสียชีวิตไป โชคดีแค่ไหนที่เขายังมีโอกาสฟื้นขึ้นมาพบเธออีกครั้ง ทุกวินาทีต่อจากนี้ล้วนมีค่า และเขาไม่อยากจะเสียเวลาไปกับความกลัวอย่างงี่เง่าของตัวเองอีก แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแคทรียามองสบสายตาเขานิ่ง ก่อนหน้านี้ที่เธอตัดสินใจหายตัวไปก็คิดว่าจะตัดใจและตัดเขาออกไปได้ เธออยากจะทำใจแข็งให้มากกว่านี้ อยากจะโกรธ อยากจะงอน อยากจะเล่นตัวให้มากกว่านี้ อยากจะหนีไปให้เขาร้อนรนตามหาให้นานกว่านี้ แต่ทุกอย่างต้องพังครืน เมื่อได้รู้ข่าวจากมิรันดาว่าเขาเกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล เธอก็ลืมความขุ่นเคืองก่อนหน้าไปเสียสิ้น ยิ่งเมื่อได้เห็นสภาพของเขาที่เป็นตายเท่ากัน หัวใจก็เจ็บปวดแทบแหลกสลาย“พี่...” เสียงเขาเบาหวิวทำให้เธอต้องขยับเอียงหูเข้าไปใกล้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกอะไร“พี่ขอโทษ...” หญิงสาวชะงักเมื่อได้ยินคำเดียวกับใ
“จริงสิคะ มี่เลยรีบโทรมาบอกพี่ดิวก่อนนี่ไง พี่ดิวก็กลับไปพักผ่อนได้แล้วนะคะ กลับไปคิดดูให้ดีว่าจะทำยังไงต่อ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ”ดิฐกรอยากจะโห่ร้องดังๆ กับข่าวดีที่เพิ่งได้ยิน แคทรียากำลังจะกลับมา และในตอนนี้เขาก็มีคำตอบกับตัวเองแล้วเขารักเธอ! และจะไม่ยอมเสียเธอกับลูกไปเหมือนผู้ชายคนเมื่อกี้เด็ดขาดชายหนุ่มยิ้มทั้งน้ำตา เขาคิดถึงเธอเหลือเกินดิฐกรรีบขึ้นรถและขับกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่แตกต่างจากตอนขามาลิบลับ ตอนนี้เขามีความสุขล้นปรี่ มีความหวังเต็มเปี่ยม โลกที่มืดมนกลับสว่างไสวขึ้นเพียงคิดว่าจะได้พบแคทรียา ผู้หญิงที่เขารู้ตัวแล้วว่ารัก และไม่อยากเสียเธอไปไม่ว่าอย่างไรปรี๊น!!!ชายหนุ่มคิดเพลินจนเผลอขับรถฝ่าไฟแดงโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งมีเสียงแตรดังลั่นมาจากที่ไกลๆ เขาจึงได้สติรีบหันไปมอง ก็เห็นแสงไฟสว่างจ้ากำลังพุ่งตรงเข้ามา ดิฐกรตกใจสุดขีดจึงรีบหักพวงมาลัยหลบเข้าข้างทางและชนเข้ากับต้นไม้จนรถแน่นิ่งไป พร้อมกับสติสัมปชัญญะของเขาที่ดับวูบไปในนาทีนั้นพร้อมกับสิ่งที่ติดค้างในหัวใจอยากเจอเธออีกสักครั้งหรือเขาจะไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกแล้ว...“พี่ดิว...พี่ดิว...” ดิฐกรได้ยินเสียงหวานคุ้นหูของใ
‘ชีวิตคนเรามันสั้นนะคะ ถ้าพี่ดิวมัวแต่คิดมาก กลัวนั่นกลัวนี่แล้วเมื่อไหร่จะได้มีความสุขกับเขาเสียที หรือต้องรอให้สูญเสียก่อนอีกครั้ง พี่ถึงจะคิดได้ว่าอะไรที่มีค่ากับชีวิต...’เท้าของเขาค่อยๆ ก้าวฝ่าทุกคนไปจนถึงร่างอันไร้วิญญาณที่นอนนิ่งคลุมผ้าขาวตรงหน้า“เข้าไม่ได้นะครับ คุณเป็นอะไรกับผู้เสียชีวิตครับ”คำว่าผู้เสียชีวิตทำให้เขารู้สึกเข่าอ่อนขึ้นมาทันใด ก่อนที่น้ำใสๆ จะรื้นขึ้นมากลบนัยน์ตาจนทุกอย่างรอบกายพร่าเลือน หัวใจถูกบีบรัดอย่างแรงกับภาพที่เห็นตรงหน้าเขามันโง่! โง่ที่สุดในที่สุดความโง่งี่เง่านั่นก็พาให้เขาต้องพบกับจุดจบที่ต้องสูญเสียอีกครั้ง ครั้งแรกเป็นการจากเป็นที่ว่าเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสแล้ว แต่ครั้งนี้รุนแรงยิ่งกว่า เพราะเขาจะไม่ได้พบเธออีกต่อไปแล้ว เพียงคิดน้ำตาก็รื้นขึ้นมากลบนัยน์ตาจนพร่าไปหมด‘แล้วถ้าแคทบอกว่าต้องการความรักจากพี่ ต้องการให้พี่แต่งงานกับแคท ต้องการให้พี่เป็นทั้งสามีและพ่อของลูกแคท พี่ดิวทำได้ไหมล่ะ’คำถามนั่นย้อนกลับเข้ามาเล่นงานเขาในวันที่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว“ผม...ผมเป็นสามีของเธอครับ” ริมฝีปากแห้งผากบอกออกไปด้วยหัวใจที่แหลกสลาย น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอาบ
ไม่มีข่าวคราว ไม่กลับบ้าน ไม่ไปที่ร้าน โทรไปก็ปิดเครื่อง กระทั่งข้อความที่เขาส่งไปหานับร้อยนับพันก็ไม่ยอมเปิดอ่านตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกันนะ เป็นตายร้ายดีอย่างไร “แล้วลูกล่ะ”“เข้านอนไปแล้วค่ะ พี่คิมเล่านิทานกล่อมก็พลอยหลับไปด้วย”“งั้นเหรอ” น้ำเสียงอ่อนล้าจนน่าใจหาย ทำให้มิรันดามองอดีตคนรักอย่างเห็นใจ“พี่ดิวก็กินข้าวกินปลาแล้วนอนพักเสียบ้างเถอะค่ะ”“อืม พี่ไม่หิว นอนไม่หลับด้วย เป็นห่วง...”“ห่วงตัวเองก่อนดีไหมคะ ดูหน้าเข้าซูบตอบเหมือนซอมบี้แล้วเนี่ย”คนหน้าเหมือนซอมบี้ลูบหน้าตัวเอง“ไม่เป็นไร พี่ยังไหว”มิรันดาได้แต่ส่ายหน้ากับความดื้อรั้นของคนตรงหน้า“มี่ถามจริงๆ เถอะค่ะ ที่พี่ดิวกำลังทำอยู่ตอนนี้ เพราะอะไรกันแน่ แล้วถ้าพี่ดิวหาตัวน้องแคทเจอแล้วจะทำยังไงต่อคะ”“พี่...”คนถูกถามนิ่งไปเมื่อเจอคำถามแทงใจดำจนพูดไม่ออก“จริงๆ แล้วพี่แค่ห่วงลูกในท้องน้องแคทเท่านั้นใช่ไหมคะ แล้วถ้าน้องแคทไม่ได้ท้องกับพี่ล่ะ พี่ดิวจะยังตามหาน้องแบบนี้หรือเปล่า ไม่ต้องตอบมี่ก็ได้ แต่พี่ตอบตัวเองแล้วกันว่าต้องการอะไรกันแน่”“มี่...”“ชีวิตคนเรามันสั้นนะคะ ถ้าพี่ดิวมัวแต่คิดมาก กลัวนั่นกลัวนี่แล้วเมื่อไหร่จะไ
ดิฐกรรีบไปที่บ้านมิรันดาตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งที่เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอนเพราะมัวแต่คิดฟุ้งซ่านเรื่องของเขากับแคทรียาจนนอนไม่หลับ ยังไงวันนี้เขาก็ต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่อง ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องอกแตกตายแน่แต่ทว่า...“น้องแคทไปแล้วค่ะ”ดิฐกรหัวใจกระตุกวูบอย่างแรง“ไป...ไปไหน”“มี่ก็ไม่รู้ค่ะ พอตื่นมาน้องก็ไม่อยู่แล้ว นี่พี่คิมก็โทรไปถามที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ก็บอกว่าไม่ได้กลับไป ทางนั้นเองก็กำลังร้อนใจเหมือนกัน” มิรันดาตอบด้วยสีหน้าหนักใจ“แล้วที่ร้านเขาล่ะ” ชายหนุ่มหมายถึงร้านเวดดิ้งสตูดิโอ เธออาจจะมีงานด่วนต้องรีบไปที่ร้านแต่เช้าก็ได้“มี่โทรเช็กแล้วค่ะ น้องก็ไม่ได้ไปเหมือนกันค่ะเห็นพนักงานบอกว่าน้องแคทเขาพักร้อน อ้าว นั่นพี่คิมมาพอดี” ดิฐกรหันขวับไปมองคนเพิ่งลงจากรถด้วยสีหน้าตึงเครียดผิดจากที่เคย“เป็นไงบ้างคะพี่คิม หาน้องแคทเจอไหม”“ไม่เจอเลย พี่ลองถามรปภ.ที่หน้าหมู่บ้าน เห็นว่ามีรถแท็กซี่เข้ามาตอนตีสี่ แล้วตอนออกไปก็มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งด้านหลัง พี่คิดว่าน่าจะเป็นน้องแคท ก็เลยจดทะเบียนรถแท็กซี่นั่นให้ตำรวจช่วยตามหาตัวคนขับอยู่”“แล้วบ้านเพื่อนล่ะ เขาอาจจะนั่งแท็กซี่ไปหาเพื่อนสักคนก็ได้”“
“งั้นน้องมิวจะช่วยอาแคทซ่อนไม่ให้พ่อดิวหาเจอ ไม่สิ น้องมิวไปซ่อนในห้องกับอาแคทด้วยดีกว่า” ว่าแล้วเด็กน้อยก็วิ่งตื๋อเข้าไปในห้องอีกคนจนทำให้คนเป็นแม่ถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่หันไปสบตาสามีเป็นเชิงปรึกษา“เอาไงดีคะพี่คิม”“เดี๋ยวพี่ไปเปิดประตูเอง มี่ดูแลทางนี้แล้วกัน”คีรินบอกพลางเดินตรงไปเปิดประตูบ้านให้แขกไม่ได้รับเชิญ“คุณคิม แคทล่ะ แคทอยู่ที่นี่ใช่ไหม”แทนที่จะถามถึงลูกสาวหรือมิรันดาก่อนเหมือนเช่นทุกครั้ง อีกฝ่ายกลับถามหาน้องสาวของเขาแทนเสียนี่“ทำไมเหรอครับ คุณมีธุระอะไรกับน้องสาวผมงั้นหรือ” ดิฐกรสะอึกอึ้งไปเมื่อเจอคำถามจากอีกฝ่าย“แคทอยู่ด้านในใช่ไหม”“ครับ” คีรินพยักหน้ารับ“งั้นผมขอเข้าไปคุยกับเขาหน่อย”“ผมว่าวันนี้คุณกลับไปก่อนดีกว่านะ”ดิฐกรรับรู้ได้ถึงความตึงในน้ำเสียงที่ผิดไปของชายหนุ่มผู้เป็นศัตรูหัวใจ หรือว่าแคทรียาจะบอกอะไรกับพี่ชายตัวเองไปแล้ว“แคทบอกพวกคุณแล้วใช่ไหม”“บอกเรื่องอะไรเหรอครับ” คีรินย้อนถามหน้าตาย“ก็เรื่อง...”“ท้อง...” ดิฐกรชะงักกึก“คุณรู้แล้วเหรอ”“ครับ ผมกับมี่รู้แล้ว แล้วน้องแคทบอกคุณหรือเปล่าล่ะว่าใครเป็นพ่อของเด็ก หรือว่าจะเป็นเจ้าแฟนเก่าที่เลิกไปนั่น”