ดิฐกรชะงักกึก ก้มมองใบหน้าสวยเก๋ของแม่สาวแสบที่กำลังหลับพริ้มซบอกเขาอย่างพินิจพิจารณา‘ตาดิว! ทำไมลูกไม่ไปตามนัดเมื่อวันก่อน รู้ไหมว่าคุณพ่อโมโหมากแค่ไหน ถ้าทางนู้นไม่โทรมาฟ้องว่าลูกปล่อยให้หนูแคทเขารอเก้อ พ่อกับแม่ก็คงไม่รู้ ทำไมลูกเป็นคนแบบนี้ล่ะ’ที่ผ่านมาเขาเป็นฝ่ายหลบเลี่ยงมาตลอด กี่ครั้งแล้วที่ปล่อยให้เธอต้องรอเก้อเพราะแม่เขานัดให้มาดูตัวเธอมาตามนัดทุกครั้ง ส่วนเขาก็เบี้ยวนัดทุกครั้ง เพราะไม่อยากถูกคลุมถุงชนแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักและไม่คิดว่าจะรักได้ชายหนุ่มจูบที่ขมับชื้นเหงื่อแต่ตัวเธอกลับยังหอมกรุ่นกลิ่นกายที่เขาชอบ ดูยังไงก็ไม่ใช่สเปกสักนิด หากเทียบกับมิรันดาก็ต้องบอกว่าอยู่คนละขั้ว ไม่ใช่สเปกสักนิดเลยก็ว่าได้‘แคทอยากได้พี่เป็นกิ๊ก แต่ไม่ได้อยากเป็นเมียพี่สักหน่อย’เขาเองก็ไม่เคยคิดอยากได้เธอมาเป็นเมียเช่นกัน แต่จนถึงตอนนี้เขาชักไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนั้นยังอยู่เต็มร้อยไหม หลังจากได้เธอเป็นเมียโดยพฤตินัย แถมพ่อแม่ก็รับรู้อีกด้วยว่ากินกันแล้วดวงตาคมเข้มทอดมองดวงหน้าสวยของคนที่โดนเขากินจนหมดเรี่ยวหมดแรงหลับคาอก นอนน่ารักน่ากินขนาดนี้ เจ้าตัวดีจะรู้ไหมว่ากำลังทรมานคนที่
ชายหนุ่มระเบิดอารมณ์อย่างหัวเสีย มองไปรอบห้องแคบๆ ทั้งเก่าและสกปรก แต่ก็จำใจต้องอยู่เพราะไม่มีเงินจะไปเช่าคอนโดแพงๆ เหมือนคอนโดเดิมที่โดนยึดไป ไหนจะรถใหม่ป้ายแดงอีกคัน ตอนนี้จะไปไหนทีเขาต้องอาศัยโหนรถเมล์ รถไฟฟ้า อยากจะนั่งแท็กซี่เพราะมันสบายกว่า แต่ก็ต้องคิดแล้วคิดอีกเพราะเสียดายเงิน จะออกไปพบลูกค้าก็ไม่กล้ากลัวโดนเขาดูถูก ไปหาสาวๆ ก็โดนเมิน ใครจะมาแลผู้ชายตัวเปล่าคิดไปแล้วก็เสียดายที่ตอนนั้นเขาไม่ได้ให้แคทรียาซื้อทุกอย่างเป็นชื่อตัวเอง นั่นเพราะอีกฝ่ายมันเขี้ยว ยื่นข้อเสนอว่าจะดาวน์รถและคอนโดให้ แต่ต้องซื้อเป็นชื่อของเธอจนกว่าที่เขาจะผ่อนหมด เขาเองก็เห็นแก่ได้ เพราะคิดว่าถึงอย่างไรทุกอย่างก็ต้องตกเป็นของตน หากเขาแต่งงานกับเธอ ใครจะคิดว่าอยู่ๆ ยัยนั่นจะกลับใจยึดทุกอย่างคืนไปแบบไร้เหตุผลเช่นนี้บ้าชะมัดขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป ชีวิตเขาคงพัง กว่าจะรู้ว่าของตายในมือมีค่าก็ตอนมันหายไป หากเขาได้เจอเธออีกครั้ง คราวนี้ต้องหาทางรวบหัวรวบหางจัดการขั้นเด็ดขาดให้ได้ แคทรียาเป็นขุมทรัพย์ที่เขาจะไม่ยอมเสียให้ใครเด็ดขาดแต่ก็นั่นแหละ เขาจะไปตามหาเธอได้ที่ไหน นอกจากรอให้ฝ่ายนั้นยอมใจอ่อนติดต่อมาเอง ย
นี่มันนานเท่าไหร่แล้วนะที่เธอจงใจปั่นหัวอีกฝ่ายเล่น คาดว่าตอนนี้วรพลคงกำลังหัวเสียสุดๆ เขาโทรตามจิกเธอทุกวัน ทุกเวลา ผิดกับตอนก่อนหน้าที่เธอเป็นฝ่ายโทรหาเขาก่อนตลอด ดูไปก็เหมือนคนโง่ แต่ทำอย่างไรได้ เธอเพิ่งเคยมีแฟนคนแรกนี่นา ใครจะไปรู้ว่าคนเป็นแฟนกันต้องทำอะไรบ้าง แล้วดูสิ่งที่เธอได้รับตอบแทนจากคนที่คิดว่าเป็นแฟนสิทั้งโกหกหลอกลวง ไม่ซื่อสัตย์ ไม่จริงใจ นอกใจกัน แล้วเธอผิดหรือที่จะนอกใจด้วยการคุยและคบกับผู้ชายคนอื่นเป็นการแก้เผ็ดอีกฝ่ายไปแบบนี้บ้างคำตอบคือ...ไม่ผิดDEW : ทำไมเงียบไปล่ะแคทรียาก้มมองข้อความของกิ๊กหนุ่มผู้ใจร้อนของตน ดูเหมือนเขาจะใจร้อนไปเสียทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องบนเตียง เขาก็ใจร้อนและเร่าร้อนสุดๆ ร้อนเสียจนเธอแทบสลบคาอกเขา สำลักความสุขที่เขามอบให้แบบไม่ออมแรงทุกครั้งที่พบกันเพียงคิด ภาพติดเรตครั้งล่าสุดที่มีอะไรกันก็แวบเข้ามาในสมองไม่หยุด ใบหน้าสวยแดงซ่านและร้อนผ่าว เธอตื่นเต้นและติดใจในรสรักที่เขาปรนเปรอให้ จนแทบลืมหน้าแฟนเฮงซวยอย่างวรพลไปแล้วด้วยซ้ำคิดไม่ทันขาดคำ หน้าจอมือถือก็แจ้งเตือนสัญญาณเข้าจากฝ่ายนั้นอีกแล้ว ตายยากยิ่งกว่าแมลงสาบจริงๆ คิดพลางกำลังจะกดตั
“งั้นขอดูก่อนนะ ไม่รู้ว่าจะเสร็จงานกี่โมง”“ไม่เป็นไรครับ เสร็จกี่โมงผมก็รอได้ ผมคิดถึงคุณมากนะดาร์ลิง คิดถึงจนใจจะขาดแล้ว คุณไม่คิดถึงผมเลยเหรอครับ ใจร้ายจัง”เป็นเมื่อก่อนเธอคงละลายกับคำหวานที่อีกฝ่ายหลอกล่อ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกสะอิดสะเอียนเหลือเกิน“ฉันต้องไปทำงานต่อแล้ว แค่นี้ก่อนนะคะ”“เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อน แล้วเย็นนี้คุณจะมาหาผมไหม” ชายหนุ่มถามด้วยเสียงร้อนรน“อืม...ถ้าไป ก็เห็นเองค่ะ” พูดจบเธอก็กดตัดสายฮึ! ไปทำไมให้โง่ อยากรอก็เชิญสิ รอเก้อให้ตายไปเลย!หญิงสาวคิดในใจ แล้วก็มีเสียงเรียกเข้าอีกครั้ง ตอนแรกก็คิดว่าเป็นวรพลโทรกลับมาเร้าหรือ แต่กลับไม่ใช่...พอเห็นชื่อที่ขึ้นหน้าจอ แคทรียาก็ยิ้มร่าด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป ก่อนจะกดรับสายทันทีโดยแคทรียาหารู้ไม่ว่าอีกด้านก็มีชายหนุ่มอีกคนที่กำลังรอข้อความตอบกลับของเธออย่างว้าวุ่นใจเช่นกันKatty : OK ค่ะ“โอเคค่ะงั้นเหรอ...”โอเคคืออะไร โอเคแล้วก็เงียบไปเนี่ยนะดิฐกรจ้องข้อความสั้นๆ นั่นตาแทบถลน ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งสนิท คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแทบผูกโบ เมื่อกี้ในอกแค่จี๊ดๆ แต่ตอนนี้หัวใจเขากลับคันยุบยิบขึ้นมา เขาก็แค่ยุส่งๆ ไปอย่างนั้น ยัยนั่นคิด
ยิ่งคิด หัวใจก็ยิ่งร้อนรุ่มราวกับมีไฟกองใหญ่สุมในอกแผดเผาความรู้สึกที่ไม่ควรมีให้ลุกโชน‘หากพี่อยากเลิกข้อตกลงของเราเมื่อไหร่ก็ให้มาบอกได้ทุกเมื่อ แต่ห้ามมีคนอื่นลับหลัง หรือไปนอนกับผู้หญิงคนไหนมั่วซั่วก็ไม่ได้ เพราะแคทไม่ชอบใช้ผู้ชายร่วมกับใครและอย่าให้จับได้ทีหลัง เข้าใจไหมคะ’ทำมาบอกว่าห้ามเขามีคนอื่นลับหลัง ไม่ชอบใช้ผู้ชายร่วมกับใคร แล้วนี่อะไร เขาเองก็ไม่ชอบใช้ผู้หญิงร่วมกับใครเหมือนกัน ต่อให้ไอ้หมอนั่นมันจะได้ชื่อว่าเป็นแฟนของยัยนั่น เขาก็ไม่โอเคไม่โอเคสักนิด!“บ้าน่ะ” พนักงานต้อนรับในร้านตกใจมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่ชายหนุ่มกลับไม่สนใจ ตอนนี้เขากำลังหงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนแล้วทำไมเขาต้องสนใจเธอด้วย ยังไงก็เป็นแค่กิ๊ก เธอจะทำอะไรก็ช่างสิ อยากกลับไปกินหญ้าอาบยาพิษ หรืออยากโดนแฟนชั่วสวมเขาให้อีกรอบก็ไม่ใช่เรื่องของเขานี่หว่าไม่ได้การ เขากำลังเป็นบ้าอีกแล้ว ท่องไว้สิไอ้ดิว แคทรียาไม่ใช่ของเขา แล้วที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันนั่นล่ะ เขาก็เป็นคนแรกไม่ใช่หรือไงเรามันก็แค่กิ๊กนี่หว่า ไม่มีสิทธิ์หึง หวงก็ไม่ได้ แล้วไอ้ความรู้สึกที่กำลังก่อกวนใจตอนนี้ล่ะ มันควรเรียกว่าอะไรหรือว่าจ
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่ชีวิตของเขาน่าเบื่อขนาดนี้ ความอิสระเกินไปบางทีมันก็น่ากลัว หากมีใครสักคนข้างกายก็คงดี“น้องเอาเหล้ามาอีกแก้ว” พอขาดคำ เหล้าดีกรีแรงก็มาวางตรงหน้า พร้อมกับเสียงหวานๆ ที่ดังขึ้นข้างกาย“ดื่มคนเดียว ไม่เหงาเหรอคะ” ชายหนุ่มหันไปมองคนถาม พลางนึกว่าเคยพบหรือรู้จักกันมาก่อนไหม แต่คำตอบคือไม่ สาวสวยแปลกหน้าส่งยิ้มหวานทอดสะพานยื่นไมตรีมาให้ หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงตอบรับง่ายดาย แล้วก็พาอีกฝ่ายไปลงเอยกันที่เตียงนอนของโรงแรมไหนสักที่ แต่วันนี้กลับไม่มีอารมณ์ หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะคำของใครบางคนที่เคยคาดโทษไว้‘ห้ามมีคนอื่นลับหลัง หรือไปนอนกับผู้หญิงคนไหนมั่วซั่วก็ไม่ได้ เพราะแคทไม่ชอบใช้ผู้ชายร่วมกับใครและอย่าให้จับได้ทีหลัง’เหอะ...แล้วคนคาดโทษล่ะ ตอนนี้ไปอยู่ไหน หรือกำลังจู๋จี๋คืนดีกับแฟน จนลืมกิ๊กอย่างเขาไปแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด คนอุตส่าห์มาเที่ยวให้ลืมๆ ก็ยังไม่วายตามมาก่อกวนใจกันไม่เลิก“ให้ฉันนั่งดื่มเป็นเพื่อนแก้เหงาได้ไหมคะ”“ขอโทษนะครับ แต่วันนี้ผมอยากนั่งคนเดียว...”หญิงสาวคนนั้นหน้าเสียนิดๆ ก่อนจะแอบเบ้ปากใส่คนหล่อที่แสนหยิ่งตรงหน้า เขาคงไม่รู้ว่าถูกสาวๆ นักล
คนอย่างแคทรียาไม่จำเป็นต้องหาผู้ชายด้วยวิธีนัดบอดแบบนี้ แต่เป็นเพราะเห็นแก่เพื่อนรักที่อุตส่าห์ชวนมา เธอจึงยอมเล่นไปตามบท“น้องแคทดื่มอะไรดีครับ” บอสเอ่ยถามอย่างเอาใจ“ขอเป็นดรายมาร์ตินี่แล้วกันค่ะ”ชายหนุ่มถึงกับหรี่ตามองสาวแซ่บตรงหน้าเมื่อได้ยินเครื่องดื่มที่เจ้าหล่อนต้องการ แคทรียามัวแต่เม้าท์มอยกับเพื่อนสาว จึงไม่ทันเห็นประกายบางอย่างในดวงตาของคู่นัดบอดหนุ่ม ทว่าใครบางคนที่จับตามองอยู่กลับเห็นสายตามีเลศนัยของอีกฝ่ายเข้าพอดีแทนที่บอสจะสั่งออเดอร์ผ่านบริกร เขากลับเดินตรงมาที่บาร์ พอได้เครื่องดื่มที่ต้องการ เขาก็เหลียวซ้ายแลขวาก่อนแอบล้วงอะไรบางอย่างจากกระเป๋ากางเกงแล้วอาศัยความมืดเทมันลงไปในแก้วเครื่องดื่มอย่างรวดเร็วโดยไม่มีใครเห็น ยกเว้น...ดิฐกรตาลุกวาวเมื่อเห็นสิ่งที่อีกฝ่ายทำเต็มสองตา ร่างสูงผุดลุกขึ้นหมายจะเดินไปขวาง แต่ทว่ากลับถูกขัดจังหวะเพราะบิลด์ที่แคชเชียร์ยื่นให้เสียก่อน พอหันไปมองที่โต๊ะเจ้ากรรมนั่นอีกที เขาก็ใจหายวาบเมื่อเห็นแคทรียายกแก้วดรายมาร์ตินี่ขึ้นจรดริมฝีปากเสียแล้ว หญิงสาวเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเสียงเพลงที่สนุกเร้าอารมณ์ โดยมีไอ้หนุ่มหน้าตี๋นั่นยิ้มร่
“เดี๋ยวสิ พี่ดิว...” คำพูดนั้นถูกกลืนลงคอไปในทันใด เมื่ออีกฝ่ายจัดการปิดปากสวยๆ ของเธอด้วยริมฝีปากอุ่นร้อน ท่ามกลางสายตาของทุกคนในผับ บางคนถึงกับคว้าโทรศัพท์มาแอบถ่ายคลิปบอสและพรรคพวกที่มาด้วยกันมองภาพนั้นตาค้างเติ่งเมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก แคทรียาก็เกือบเข่าอ่อน จูบดูดวิญญาณของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงกระหน่ำแทบทะลุอก จู่ๆ ร่างกายก็พลันร้อนวูบวาบขึ้นมา เลือดสูบฉีดขึ้นไปที่ใบหน้าสวยเก๋จนแดงซ่าน“หึ!” ดิฐกรกดยิ้มมุมปาก นึกอยากจะรังแกแม่สาวซ่าขึ้นมาอีกสักรอบ “ทีนี้จะกลับได้หรือยัง”“...”ไม่รอให้หญิงสาวตอบ เขาก็จัดการช้อนอุ้มร่างอรชรขึ้นแล้วพาเดินฝ่าวงล้อมไทยมุงออกไปโดยไม่สนใครหน้าไหนจะว่ายังไงทั้งนั้นดิฐกรอุ้มหญิงสาวออกมาถึงด้านหน้าผับเพื่อเรียกแท็กซี่ คืนนี้เขาดื่มไปไม่น้อยเหมือนกัน เลยไม่อยากขับรถกลับเองและอีกเหตุผลคือ...“พี่ดิว...อื้อ...แคทร้อนจัง เวียนหัวจะอ้วกด้วย ปล่อยก่อน...”ชายหนุ่มก้มมองใบหน้าสวยเก๋ที่ตอนนี้ซีดเผือดมีเหงื่อซึมผุดพรายเต็มหน้า ดูเหมือนยานั่นเริ่มจะออกฤทธิ์เสียแล้ว“ทนหน่อย เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว”“ไม่เอา แคทไม่กลับบ้าน เดี๋ยวพ่อด่า”“ทีอย่างนี้ล่ะกลัวพ่อด
“นั่นลูกมองหาใครกัน...” คุณดารณีแกล้งถาม“ก็ เอ่อ...เปล่านี่ครับ” ชายหนุ่มรีบเฉไฉ หันมาอ้อนลูกสาวกลบเกลื่อนความรู้สึก“ไงน้องมิว ไปเที่ยวสนุกตั้งหลายวัน คิดถึงพ่อดิวไหมครับ”“คิดถึงสิคะ น้องมิวซื้อขนมมาฝากพ่อดิวกับอาแคทด้วย อยู่ในถุงนั่นไง น้องมิวชิมแล้วอร่อยทุกอย่างเลยนะคะ”เด็กหญิงชี้ไปที่ถุงของฝากบนโต๊ะกลางห้อง ก่อนจะผละจากอ้อมกอดของพ่อแท้ๆ วิ่งกลับไปหาผู้เป็นแม่ พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้พ่ออีกคนอย่างมีความสุข ดูเป็นครอบครัวที่แสนอบอุ่น และทำให้ดิฐกรรู้สึกว่าเขากลายเป็นส่วนเกินไปโดยปริยายส่วนเกินที่ไม่มีใครต้องการ...“ตายจริง ดูสิคะ พูดถึงของฝาก มี่มัวแต่ยุ่งๆ จนลืมเอาของฝากให้น้องแคทเลย”“ไม่เป็นไรนะครับที่รัก เดี๋ยวเราค่อยแวะเอาไปให้ที่บ้านก็ได้นี่นา เห็นว่าคุณพ่อพี่ก็บ่นคิดถึงน้องมิวอยู่ จะได้แวะเยี่ยมพวกท่านด้วย” คีรินปลอบภรรยาสาวเสียงอ่อนโยน“งั้นก็ได้ค่ะ”“พูดถึงหนูแคท ป้าก็ชักคิดถึง ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้เจอกันเลย ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง” คุณดารณีแกล้งบ่นลอยๆ พลางลอบสังเกตท่าทีลูกชายเงียบๆ“ก็ดีนะครับ เห็นว่าช่วงนี้เจ้าตัวฮอตมาก กำลังเดินสายไปนัดดูตัวเป็นว่าเล่นเลย”ดิฐกรหัวใจก
เขาก็ยิ่งกดดันกับภาระหัวหน้าครอบครัว จึงต้องการมีทายาทไว้สืบสกุลและสานต่อธุรกิจต่างๆ ในมือ แต่กลับได้ลูกสาวมาถึงสองคน และพอท้องที่สามเขาจึงคาดหวังว่าจะได้ลูกชายสมใจเสียที แต่แล้วก็กลับต้องผิดหวังอีกหนเมื่อลูกคนสุดท้องคลอดมาเป็นผู้หญิง พร้อมกับที่หมอบอกว่าเด็กคลอดยากจนเกือบทำให้แม่เสียชีวิต แถมสุขภาพหลังคลอดของคุณมารตีก็มีปัญหาจนไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก ยิ่งสร้างความผิดหวังให้คนเป็นสามีอย่างมากและเพราะเหตุนี้ทำให้แคทรียาพยายามทำทุกอย่างตามที่พ่อแม่ต้องการมาตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องการใช้ชีวิต ราวกับเธอต้องการชดเชยความผิดหวังของทั้งสอง กระทั่งยอมถูกจับคลุมถุงชนแต่งงานกับลูกชายเพื่อนรักของคุณราเมศร์ตามสัญญา ทั้งที่ลูกสาวอีกสองคนต่างปฏิเสธหัวชนฝาหมดไม่มีใครยอมโดนพ่อบังคับจับคลุมถุงชนมีเพียงลูกสาวคนสุดท้องคนนี้ที่อาสาตามใจพ่อกับแม่ ยอมทั้งที่รู้ว่าผู้ชายที่พ่อแม่หมายตาไม่เคยรักหรือมีใจให้เธอเลยสักนิด นั่นเพราะเขามีเจ้าของหัวใจอยู่ก่อนแล้ว“แคทต้องทำยังไงพ่อถึงจะหายโกรธ เลิกลงโทษแคทเสียทีคะ เอาอย่างนี้ไหม พ่อกับแม่หาใครก็ได้มาดูตัวอีกหน คราวนี้แคทสัญญาว่าจะยอมแต่งกับเขา ไม่ว่าผู้ชาย
“ยัยแคท! ไม่นะลูก…”เสียงคนเป็นแม่กรีดร้องลั่น ทิ้งถาดผลไม้ในมือ รีบถลาเข้าไปคว้าตัวลูกสาวลงมาจากขอบหน้าต่างได้อย่างหวุดหวิด“แม่!”“ทำไมทำแบบนี้ลูก ฮือ...หนูไม่รักแม่แล้วเหรอ ทำไมถึงได้คิดสั้นแบบนี้” คุณมารตีกอดลูกสาวแน่นจนแทบหายใจไม่ออก“แม่คะ แคทไม่ได้จะ...”ยังไม่ทันได้พูด ก็มีคนเข้ามาขัดจังหวะ ด้วยเสียงดังลั่นของคุณมารตีทำให้คนในบ้านต่างแตกตื่นรีบกรูกันเข้ามาในห้องด้วยความตกใจ ทั้งคุณราเมศร์และลูกสาวอีกสองคนที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาสมทบ“เอะอะอะไรกันคุณ ยัยแคทเป็นอะไร” คุณราเมศร์รีบปราดเข้าไปดูลูกสาวที่ยังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า“ยัยแคทค่ะ ยัยแคทจะฆ่าตัวตายค่ะคุณ ลูกจะโดดหน้าต่างฆ่าตัวตาย ฮือๆ”คำนั้นทำให้ทุกคนในห้องถึงกับตกตะลึงงันจ้องมองมาที่ตัวต้นเหตุเป็นตาเดียว“ยัยแคททำไมโง่แบบนี้ กะอีแค่ผู้ชายคนเดียว ทำไมน้องถึงต้องคิดสั้นด้วย” คริมาพี่สาวคนโตว่า พลางเข้าไปกอดน้องสาวด้วยความห่วงใย“แคท...” เปล่าสักหน่อย หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปากแก้ตัว แต่ก็พูดอะไรไม่ออกเธอแค่คิดจะหนี ไม่ได้จะคิดสั้นเสียหน่อย“คุณพ่อคะ ดูนี่สิคะ” คาริสาพี่สาวคนรองที่ตาไวหันไปเห็นสิ่งที่นอนอยู่ในถังขยะจึงเก็บมาให
แคทรียานั่งเหม่อมองถาดอาหารตรงหน้าอย่างเบื่อหน่าย ถึงแม้จะเป็นของโปรดที่เธอชอบทุกอย่าง แต่กลับกินไม่ลงเสียนี่ ตอนนี้เธออยากได้อิสระคืนมาเต็มทีแล้ว การถูกขังไปวันๆ แบบนี้มันทำให้ชีวิตเหี่ยวเฉาชะมัดไม่รู้ว่าเขาคนนั้นจะมีชะตากรรมเช่นไรจะเป็นยังไง ป่านนี้เขาก็ตีปีกพั่บๆ น่ะสิ ไม่ต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักแล้ว แถมมีอิสระเสรีไม่โดนขัง ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไปเที่ยวที่ผับไหนสักที่ ควงสาวสวยๆ สักคนสองคนไปหาความสุขกันสบายใจเฉิบน่ะสิ“ตาบ้า! ทิ้งกันได้ลงคอ”ยิ่งคิดก็ยิ่งขุ่นเคือง สมรู้ร่วมคิดร่วมมือร่วมเตียงด้วยกันแต่ทำไมมีเพียงเธอที่ต้องรับโทษเนี่ย ใบหน้าสวยหม่นลง ทอดตามองออกไปนอกหน้าต่างที่ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มดูท่าคืนนี้ฝนจะตกหนักอีกแล้ว การรอคอยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ค่าแบบนี้มันช่างน่าเบื่อเสียจริงๆเธอไม่ได้พบหน้าเขามากี่วันแล้วนะ ก็ตั้งแต่วันที่เขาพลั้งปากกับพ่อเธอนั่นล่ะ‘ผมเห็นน้องแคทเหมือนน้องสาวเท่านั้น!’คำตอบของเขายังคงวนเวียนรบกวนจิตใจเธอไม่รู้จบ ถึงคำตอบของเขามันจะเป็นเรื่องจริงและเป็นผลดีต่อเราทั้งคู่ เพราะทำให้พวกพ่อแม่ยอมรามือจากการจับคลุมถุงชนอลเวงนี่เสียที เขาลอยตัว
แคทรียาก่ายหน้าผากนอนมองเพดานห้องอย่างเบื่อหน่าย คำสั่งกักบริเวณของบิดาทำให้เธอต้องมาติดแหงกในห้องนอนแถมมีวงจรชีวิตใกล้เคียงหนอนชาเขียวเข้าไปทุกที ต้องโดนริบรถ ริบโทรศัพท์มือถือ ตัดขาดการสื่อสารทุกอย่าง หลายครั้งที่เธอคิดจะหนี แต่ก็ถูกจับได้ทุกทีทุกเช้าพี่สาวทั้งสองจะสลับกันเข้าไปดูงานที่ร้านให้ พร้อมกับเอางานเร่งด่วนที่ต้องทำกลับมาให้ ทุกวันจะมีคนเอาอาหารมาเสิร์ฟถึงห้องนอนสามมื้อ บ่ายหรือเย็นก็มีคนมารับงานที่ทำเสร็จกลับไป พอไม่มีอะไรให้ทำ เธอก็นอนฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ จนจะกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่แล้วไม่ว่าเธอจะอ้อนวอนหรือขอใช้โทรศัพท์มือถืออย่างไร แต่ก็ไม่มีใครยอมใจอ่อน เพราะเกรงว่าจะโดนลูกหลงจากคุณราเมศร์ไปด้วยนี่มันคุกชัดๆ เธอควรทำอย่างไรถึงจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้เสียที“ยัยแคทไม่ยอมกินข้าวกินปลาอีกแล้วหรือ” คุณมารตีหันไปถามแม่บ้านที่เพิ่งยกถาดอาหารออกมาจากห้องลูกสาวคนเล็กด้วยสภาพที่แทบไม่มีอะไรพร่องจากจานสักนิด“ค่ะคุณผู้หญิง เมื่อเช้าก็แทบไม่แตะเลย ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อ คุณหนูแคทจะไม่สบายเอาได้นะคะ”คนเป็นแม่ฟังแล้วชักหนักใจเป็นห่วง แต่ครั้นจะไปโน้มน้าวกับสามีก็ไม่ใช่เรื่องง่า
เอาคืนผู้ชายหลายใจอย่างเขา ด้วยการเอาตัวเองมาเป็นเหยื่อล่อเนี่ยนะ ยัยนี่เอาสมองส่วนไหนคิด“พลาดไปเนี่ยนะ! แล้วถ้าลูกเกิดท้องขึ้นมา เคยคิดบ้างไหมว่าจะทำอย่างไร”“คิดสิคะ เรื่องนี้เราสองคนคุยกันแล้วว่าแคทจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเอง”“ยัยแคท!” “หนูแคท!”“จริงๆ นะคะพ่อ แคทคิดแบบนั้น ในเมื่อทุกคนก็รู้ว่าทุกอย่างเป็นแผนเอาคืนของแคท ที่จริงเราสองคนไม่ได้รักกัน ขืนแต่งงานกันไป สุดท้ายก็ต้องหย่าอยู่ดี แล้วจะแต่งทำไม จริงไหมคะพี่ดิว”“จริงหรือตาดิว เรื่องที่ยัยแคทพูดมาเป็นเรื่องจริงเหรอ”คุณราเมศร์หันไปถามชายหนุ่มที่กำลังอึ้ง ประมวลผลในสมองอย่างสับสน คำพูดของแคทรียามีผลต่อหัวใจเขารุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อหากสิ่งที่เธอพูดมาคือเรื่องจริง ก็ถือว่าเธอเอาคืนเขาได้สำเร็จ เพราะตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนโง่ เป็นตัวตลกที่โดนเธอหลอกปั่นหัวเล่น จนปวดหนึบในหัวใจขึ้นมาจริงๆ เมื่อคิดว่าตัวเองอาจจะเผลอใจรักเธอขึ้นมาจริงๆ เสียแล้ว ได้สิ! ในเมื่อเธออยากเล่นเกมเอาคืนนัก เขาก็จะเล่นด้วย หากเธอไม่อยากแต่งกับเขา เขาก็จะทำในสิ่งตรงกันข้าม!“ตาดิว...คิดให้ดีก่อนตอบ”แคทรียารีบหันไปส่งสายตาให้เขาตอบอย่างที่เธอต้อง
“พ่อคะ จริงๆ เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยนะคะ แคทอธิบายได้”“แล้วที่ลูกกับตาดิวมีอะไรกันแล้ว เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า” มาคำถามแรกก็ยิงเข้าประเด็นทันที สมแล้วที่เป็นพ่อเธอ หญิงสาวกลืนน้ำลายฝืดคอ“เอ่อคือ...” สาวมั่นเริ่มอึกอัก รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เมื่อมองไปรอบห้องที่ตอนนี้พุ่งเป้ามาที่เธอ นี่มันยิ่งกว่าโดนตำรวจสอบปากคำเมื่อกี้นี้เสียอีก“คิดให้ดีก่อนตอบ เพราะถ้าพ่อจับได้ทีหลังว่าโกหก ลูกก็รู้ว่าจะเป็นยังไง” เสียงเรียบนิ่ง ดุในที ทำให้คนเป็นลูกนึกขยาดเธออาจจะมั่นหน้ากับใครทั้งโลกก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่กับบิดาของตัวเอง ความมั่นใจในตัวไม่เคยมีผล ทุกครั้งที่เธอคิดจะโกหก ต่อให้เนียนแค่ไหน เนียนชนิดคนทั้งโลกไม่มีทางจับไต๋ได้ แต่สุดท้ายก็โดนพ่อจับโป๊ะได้ทุกที เรียกว่าแพ้ทางก็ว่าได้หญิงสาวหันไปสบตาผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างหนักใจ เห็นไหม เธอก็เตือนแต่แรกแล้วว่าอย่ามาๆ เขาก็ยังดื้อแพ่งจะมา แล้วไงล่ะเนี่ย หัวจะปวด“ว่าไงตาดิว เธอเป็นลูกผู้ชายคงไม่คิดโกหกผู้ใหญ่หรอกใช่ไหม” คุณราเมศร์เบนเข็มไปทางชายหนุ่มด้วยสีหน้าจริงจังปฏิเสธไปสิ อย่ายอมรับง่ายๆ นะลูกพี่ อย่า...“ใช่ครับ เราสองคนมีอะไรกันแล้ว”“เห็นไหมคะพ่อ เรื่อ
เวลาต่อมา สองหนุ่มสาวก็มาถึงถ้ำเสือ แคทรียาหันไปมองเพื่อนร่วมชะตากรรมที่นั่งทำหน้าเหมือนคนท้องผูกมาตลอดทาง“ถ้าอยากเปลี่ยนใจ จะกลับตอนนี้ก็ยังทันนะคะ”ดวงตาคมเข้มตวัดมองสบตาหญิงสาว“เธอรู้ได้ยังไงว่าพี่อยากเปลี่ยนใจ”“อ้าว! ก็แคทไม่ได้โง่นี่นา เห็นพี่นั่งทำหน้าเป็นตูดมาตลอดทางก็รู้แล้วว่าไม่เต็มใจ”“รู้ดีจริงนะ”“เฮ้อ...ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นว่าพี่น่ะหวงความโสดจะตาย พี่ไม่อยากแต่งงานกับแคท เลยหนีการดูตัวทุกครั้ง แล้วแคทเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับคนที่ไม่รักกันแบบพี่ด้วย แต่ถ้าขืนเราเข้าไปเจอพ่อตอนนี้แล้วโดนพ่อแคทมัดมือชกบังคับให้เราสองคนแต่งงานกันล่ะ พี่ดิวจะว่ายังไง” หญิงสาวแกล้งขู่ทีเล่นทีจริง“พี่ก็รู้นี่ว่าพ่อแคทเป็นพวกหัวโบราณสุดๆ ขืนรู้ว่าที่ผ่านมาพวกเราแอบแซ่บกันแล้วตั้งหลายครั้ง มีหวัง...ชึ้บ!” หญิงสาวทำท่าเอานิ้วชี้ปาดคอตัวเองด้วยสีหน้าสยองขั้นสุด“ในเมื่อเธอก็โสดแล้ว พี่เองก็ไม่มีใคร ถ้าต้องแต่งกันจริงๆ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่”“อย่ามาล้อเล่น หน้าสิ่วหน้าขวานนะคะ นี่แคทซีเรียส นะ พวกเราก็แค่แกล้งๆ คบกันตบตาชาวบ้าน เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกพ่อแม่จับคลุมถุงชน ถ้าขืนแต่งงานกันก็ผิดวัตถุประสง
“ก็ถ้ารู้ว่าต้องเสียค่าปรับแบบนี้ แคทน่าจะแถมให้อีตาบ้านั่นอีกสักหมัดสองหมัด เจ็บใจนัก”หญิงสาวบ่นอุบ จนคนฟังถึงกับส่ายหน้า ขืนไม่รีบสลบเหมือดคาที่สิ มีหวังเจ้าวรพลนั่นคงเดี้ยง ไม่ก็คงได้จองเมรุไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นเจ้าหมอนั่นก็คงเข็ดขยาดไปไม่น้อย เมื่อเจอตอสุดแสบอย่างแคทรียาคนนี้ เห็นตัวผอมๆ เพรียวๆ ใครจะคิดว่าเจ้าหล่อนจะแรงเยอะเอาเรื่องใช่ย่อย เล่นเอาผู้ชายตัวโตกว่าสลบคาที่ไม่พอ แม่ตัวดียังขอแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายมารังควานเธออีกแต่กระนั้นเขาก็ยังไม่วางใจเมื่อเห็นแววตาอาฆาตจากอีกฝ่ายก่อนที่จะยอมแยกย้ายกลับไปแบบมือเปล่า“คิดอะไรอยู่เหรอคะพี่ดิว”“เมื่อกี้เธอเห็นสายตาของไอ้หมอนั่นไหม พี่ว่าท่าทางมันไม่น่าไว้ใจนะ ระหว่างนี้เธออย่ากลับไปพักที่คอนโดนั่นจะดีกว่านะ เพื่อความปลอดภัย”“พี่เป็นห่วงแคทด้วยเหรอคะ”“น้อยๆ หน่อย อย่าหลงตัวเอง...” แคทรียาเบ้ปากใส่“ไม่ให้พักที่คอนโดตัวเองแล้วจะให้ไปนอนที่ไหน ช่วงนี้แคทไม่อยากกลับไปนอนที่บ้านนี่นา”“งั้นก็ไปพักที่คอนโดพี่ก่อนแล้วกัน” หญิงสาวหันไปทำตาโตใส่คนใจป้ำ“ไปนอนคอนโดพี่เนี่ยนะ นี่ไม่ได้คิดมิดีมิร้ายหรือมีจุดประสงค์แ