ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่ชีวิตของเขาน่าเบื่อขนาดนี้ ความอิสระเกินไปบางทีมันก็น่ากลัว หากมีใครสักคนข้างกายก็คงดี“น้องเอาเหล้ามาอีกแก้ว” พอขาดคำ เหล้าดีกรีแรงก็มาวางตรงหน้า พร้อมกับเสียงหวานๆ ที่ดังขึ้นข้างกาย“ดื่มคนเดียว ไม่เหงาเหรอคะ” ชายหนุ่มหันไปมองคนถาม พลางนึกว่าเคยพบหรือรู้จักกันมาก่อนไหม แต่คำตอบคือไม่ สาวสวยแปลกหน้าส่งยิ้มหวานทอดสะพานยื่นไมตรีมาให้ หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงตอบรับง่ายดาย แล้วก็พาอีกฝ่ายไปลงเอยกันที่เตียงนอนของโรงแรมไหนสักที่ แต่วันนี้กลับไม่มีอารมณ์ หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะคำของใครบางคนที่เคยคาดโทษไว้‘ห้ามมีคนอื่นลับหลัง หรือไปนอนกับผู้หญิงคนไหนมั่วซั่วก็ไม่ได้ เพราะแคทไม่ชอบใช้ผู้ชายร่วมกับใครและอย่าให้จับได้ทีหลัง’เหอะ...แล้วคนคาดโทษล่ะ ตอนนี้ไปอยู่ไหน หรือกำลังจู๋จี๋คืนดีกับแฟน จนลืมกิ๊กอย่างเขาไปแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด คนอุตส่าห์มาเที่ยวให้ลืมๆ ก็ยังไม่วายตามมาก่อกวนใจกันไม่เลิก“ให้ฉันนั่งดื่มเป็นเพื่อนแก้เหงาได้ไหมคะ”“ขอโทษนะครับ แต่วันนี้ผมอยากนั่งคนเดียว...”หญิงสาวคนนั้นหน้าเสียนิดๆ ก่อนจะแอบเบ้ปากใส่คนหล่อที่แสนหยิ่งตรงหน้า เขาคงไม่รู้ว่าถูกสาวๆ นักล
คนอย่างแคทรียาไม่จำเป็นต้องหาผู้ชายด้วยวิธีนัดบอดแบบนี้ แต่เป็นเพราะเห็นแก่เพื่อนรักที่อุตส่าห์ชวนมา เธอจึงยอมเล่นไปตามบท“น้องแคทดื่มอะไรดีครับ” บอสเอ่ยถามอย่างเอาใจ“ขอเป็นดรายมาร์ตินี่แล้วกันค่ะ”ชายหนุ่มถึงกับหรี่ตามองสาวแซ่บตรงหน้าเมื่อได้ยินเครื่องดื่มที่เจ้าหล่อนต้องการ แคทรียามัวแต่เม้าท์มอยกับเพื่อนสาว จึงไม่ทันเห็นประกายบางอย่างในดวงตาของคู่นัดบอดหนุ่ม ทว่าใครบางคนที่จับตามองอยู่กลับเห็นสายตามีเลศนัยของอีกฝ่ายเข้าพอดีแทนที่บอสจะสั่งออเดอร์ผ่านบริกร เขากลับเดินตรงมาที่บาร์ พอได้เครื่องดื่มที่ต้องการ เขาก็เหลียวซ้ายแลขวาก่อนแอบล้วงอะไรบางอย่างจากกระเป๋ากางเกงแล้วอาศัยความมืดเทมันลงไปในแก้วเครื่องดื่มอย่างรวดเร็วโดยไม่มีใครเห็น ยกเว้น...ดิฐกรตาลุกวาวเมื่อเห็นสิ่งที่อีกฝ่ายทำเต็มสองตา ร่างสูงผุดลุกขึ้นหมายจะเดินไปขวาง แต่ทว่ากลับถูกขัดจังหวะเพราะบิลด์ที่แคชเชียร์ยื่นให้เสียก่อน พอหันไปมองที่โต๊ะเจ้ากรรมนั่นอีกที เขาก็ใจหายวาบเมื่อเห็นแคทรียายกแก้วดรายมาร์ตินี่ขึ้นจรดริมฝีปากเสียแล้ว หญิงสาวเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเสียงเพลงที่สนุกเร้าอารมณ์ โดยมีไอ้หนุ่มหน้าตี๋นั่นยิ้มร่
“เดี๋ยวสิ พี่ดิว...” คำพูดนั้นถูกกลืนลงคอไปในทันใด เมื่ออีกฝ่ายจัดการปิดปากสวยๆ ของเธอด้วยริมฝีปากอุ่นร้อน ท่ามกลางสายตาของทุกคนในผับ บางคนถึงกับคว้าโทรศัพท์มาแอบถ่ายคลิปบอสและพรรคพวกที่มาด้วยกันมองภาพนั้นตาค้างเติ่งเมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก แคทรียาก็เกือบเข่าอ่อน จูบดูดวิญญาณของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงกระหน่ำแทบทะลุอก จู่ๆ ร่างกายก็พลันร้อนวูบวาบขึ้นมา เลือดสูบฉีดขึ้นไปที่ใบหน้าสวยเก๋จนแดงซ่าน“หึ!” ดิฐกรกดยิ้มมุมปาก นึกอยากจะรังแกแม่สาวซ่าขึ้นมาอีกสักรอบ “ทีนี้จะกลับได้หรือยัง”“...”ไม่รอให้หญิงสาวตอบ เขาก็จัดการช้อนอุ้มร่างอรชรขึ้นแล้วพาเดินฝ่าวงล้อมไทยมุงออกไปโดยไม่สนใครหน้าไหนจะว่ายังไงทั้งนั้นดิฐกรอุ้มหญิงสาวออกมาถึงด้านหน้าผับเพื่อเรียกแท็กซี่ คืนนี้เขาดื่มไปไม่น้อยเหมือนกัน เลยไม่อยากขับรถกลับเองและอีกเหตุผลคือ...“พี่ดิว...อื้อ...แคทร้อนจัง เวียนหัวจะอ้วกด้วย ปล่อยก่อน...”ชายหนุ่มก้มมองใบหน้าสวยเก๋ที่ตอนนี้ซีดเผือดมีเหงื่อซึมผุดพรายเต็มหน้า ดูเหมือนยานั่นเริ่มจะออกฤทธิ์เสียแล้ว“ทนหน่อย เดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้ว”“ไม่เอา แคทไม่กลับบ้าน เดี๋ยวพ่อด่า”“ทีอย่างนี้ล่ะกลัวพ่อด
แคทรียากลับยอมให้หมอนั่นกอด แถมยังกอดตอบ และยื่นมือไปดึงใบหน้าชายคนนั้นเข้ามาจูบอย่างดูดดื่มโดยไม่สนสายตาใครราวกับถูกฟ้าผ่าเปรี้ยงที่กลางหัว ภาพบาดตาตรงหน้าทำให้วรพลถึงกับช็อกตาตั้ง ตัวแข็งทื่อ หน้าชาเหมือนโดนชกแรงๆ ซ้ำๆ นี่เองใช่ไหมเหตุผลที่เธอทำตัวแปลกไป ทั้งเย็นชาเหินห่างกับเขา ไหนจะเสียงผู้ชายที่รับโทรศัพท์ในตอนนั้นที่แท้เธอก็นอกใจเขานี่เอง!วรพลบดสันกรามแน่นด้วยความโมโหจนหน้ามืด ขาดสติ เขารีบจ้ำอ้าวจะตรงเข้าไปเอาเรื่องสองหนุ่มสาวที่ยืนกอดจูบเย้ยฟ้า แต่ทว่ากลับถูกขวางไว้“หลีกไปนะ นั่นแฟนผม ผมจะไปหาแฟน หลีกไปสิ!”“คุณเข้าไม่ได้ครับ” เจ้าหน้าที่รปภ.หันไปเรียกเพื่อนอีกสองคนเข้ามาขวางไว้ไม่ยอมให้ผ่านเข้าไปง่ายๆ เกิดการยื้อยุดกัน จนสุดท้ายวรพลก็ถูกผลักจนกระเด็นหงายหลังก้นจ้ำเบ้าอย่างหมดท่า“แคท!”เมื่อสู้แรงไม่ไหววรพลจึงได้ตะโกนเรียกแฟนสาวเสียงดังลั่นอย่างสิ้นหวัง แต่ทว่าสองหนุ่มสาวก็เดินเข้าไปในตึกคอนโดเสียแล้วเลยไม่ได้ยินเสียงเรียกของเขาชายหนุ่มกัดฟันกรอด กำมือแน่น ในใจร้อนรุ่มประหนึ่งมีกองไฟนรกแผดเผา ยัยบ้านั่นทำแบบนี้กับเขาได้อย่างไร ทีกับเขาเป็นแฟนกัน ทำได้แค่จับมือ จะจูบทีก็หว
ดีเท่าไหร่เขาไม่บีบคอเธอตายคามือโทษฐานที่ย่ำยีร่างกายบุรุษจนลายพร้อยไปทั้งตัว นี่ยังไม่นับใต้ร่มผ้า ยิ่งอยากจะลืม ภาพความป่าเถื่อนต่างๆ ก็ไหลเข้ามาในสมองไม่หยุดทีนี้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะยัยแคทเอ๊ยกำลังคิดหาทางหนีทีไล่ จู่ๆ ดวงตาที่หลับพริ้มก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นและจ้องมองมาที่เธอจนเกือบสะดุ้ง“พะ...พี่ดิว เอ่อคือ...เรื่องเมื่อคืน แคท...” จู่ๆ สมองก็ชอร์ตขึ้นมาดื้อๆ เสียอย่างนั้น ปากมันพูดไม่ออก เลือดก็วิ่งขึ้นใบหน้าจนร้อนผ่าวๆ“เมื่อคืนแคททำไม” เขาถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่งจนอ่านไม่ออกว่าโกรธหรืออะไร ยิ่งทำให้คนมีชนักถึงกับร้อนๆ หนาวๆ“ก็...”ถ้าจะจ้องกันขนาดนี้ เอามีดมาแทงเลยดีกว่าไหม คนยิ่งเขินๆ อยู่ หญิงสาวนินทาในใจ“ก็เรื่องที่แคททำพี่เจ็บตัวเมื่อคืนไงคะ”“อ๋อ...”“อ๋ออะไรคะ จะด่าอะไรก็ด่ามาเลย อูย...” เพียงขยับก็โดนร่างกายประท้วงจนน้ำตาแทบเล็ด“เจ็บตรงนั้นล่ะสิ” เสียงนุ่มหูแกล้งกระซิบถามให้เขิน“อืม...”“ใช้งานหนักไปหน่อย งั้นก็พักสักวันเถอะ เมื่อคืนแทบไม่ได้พัก โดนเธอปล้ำทั้งคืน เพลียจะแย่”“ปะ...ปล้ำ...”คนฟังรู้สึกหน้าร้อนฉ่า เมื่อคิดถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไปตอนที่ถูกยาผีบ้านั่น
“น้อยๆ หน่อย ค่าตัวพี่แรงนะ เธอจะจ่ายไหวเหรอ ไอ้ประเภทจ่ายพันสองพันแล้วคิดจะใช้งานกันเกินคุ้มน่ะ เลิกคิดเลิกฝันได้” เขาเหน็บแนมคนที่เคยควักจ่ายค่าตัวเขาสองพันแล้วชิ่งหนี“แรงน่ะเท่าไหร่คะ แคทมีปัญญาจ่ายแล้วกัน หรือจะให้สแกนคิวอาร์โค้ดตอนนี้เลยก็ได้”“ปากดีแบบนี้ ระวังต้องจ่ายจนหมดตัว”แคทรียาย่นจมูก มองคนขี้อวดอย่างหมั่นไส้“อย่าเวอร์ค่ะ พี่ก็แค่ของมือสองใช้มาจนเยินแล้วด้วย จะมาโก่งค่าตัวทำไม แถมตอนนี้ก็มีตำหนิเต็มตัวด้วย ใครจะไปอยากได้ ขายเซียงกงจะรับไหมก็ไม่รู้เลย ฮึ”ดิฐกรฟังแล้วอยากดีดปากแม่ตัวดีให้บวมเจ่อ โทษฐานที่บังอาจมาดิสเครดิตว่าเขาเป็นของมือสองใช้แล้วแถมมีตำหนิอีก อย่างนี้ต้องเจอดีเสียแล้ว “ว้าย! พี่ดิวจะทำอะไร เดี๋ยวน้องตก”แคทรียาเอะอะ เมื่อจู่ๆ ก็ถูกช้อนอุ้มขึ้นจากเตียงกะทันหัน จนเธอต้องรีบโอบรอบคอเขาไว้กันตก“เดี๋ยวก็รู้!”ว่าแล้วเขาก็อุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำ แล้ววางลงในอ่างจากุซซี่เพื่อเริ่มต้นทำการทดสอบคุณภาพสินค้ากันอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม จนหญิงสาวแทบสำลักความสุขส่งเสียงครวญครางออกมาไม่ขาดปาก กว่าที่การทดสอบสินค้าจะสิ้นสุดก็กินเวลาจนเกือบเที่ยง ดิฐกรถึงอุ้มเธอออกมา
วรพลมองภาพหน้าจอตาค้าง เหงื่อกาฬผุดเต็มหน้าเมื่อเห็นหลักฐานที่มัดตัวเขาแน่นทั้งคลิปทั้งรูปถ่ายจนดิ้นไม่หลุด แก้ตัวไม่ออก แต่เขาก็ฝืนดังทุรัง“ก็แค่คนหน้าเหมือนหรือเปล่า ถ่ายไกลขนาดนั้น คุณอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ สิ”“หน้าเหมือนหรือหน้าด้านยะ คลิปกับรูปนั่นฉันเห็นเองกับตา ถ่ายเองกับมือ เดินตามดูจนแน่ใจว่าไม่ผิดตัว ไม่ได้ตัดต่อด้วย อ้อ! แล้วฉันก็ยังโทรเช็กเองด้วย จำได้ว่าคุณบอกติดประชุมที่บริษัท แต่กลับมาจู๋จี๋กับกิ๊กที่ร้านอาหารญี่ปุ่น จะเอาหลักฐานอะไรอีกไหม ไงล่ะ ถึงกับอึ้งไปเลยเหรอ”วรพลถึงกับหน้าซีดเมื่อถูกจับโป๊ะจนไปไม่เป็น“มะ...มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ แคทที่รักฟังผมก่อน ผมอธิบายได้นะดาร์ลิง”“จะอธิบายว่าไงล่ะ อธิบายว่าทำไมถึงนอกใจฉันไปมีกิ๊กงี้เหรอ ไงล่ะ พอโดนสวมเขา เห็นแฟนตัวเองนอกใจมีกิ๊กบ้างถึงกับรับไม่ได้เลยหรือไง”“แคท ไม่ใช่อย่างนั้นนะ”“แล้วมันยังไงล่ะ ที่ผ่านมายังตอแหลไม่พออีกหรือไง จะเลิกตอแหลกี่โมงเนี่ย ฉันขี้เกียจฟังคำแก้ตัวแล้ว เสียเวลาชีวิต นายไม่ได้มีค่ามากพอขนาดนั้นหรอกนะ รู้ไว้ด้วย ที่ผ่านมาฉันก็แค่เวทนาเก็บงูเห่ามาเลี้ยง แต่ดันเลี้ยงไม่เชื่อง จากนี้ไปก็ทางใครทางมันแล
เมื่อขาเรียวสวยเสยเข้าที่ปลายคางของอีกฝ่ายอย่างจังจนสลบเหมือดกลางอากาศ ท่ามกลางสายตาไทยมุงทุกคนมองภาพนั้นตาค้าง ดิฐกรถึงกับอึ้ง เสียวทั้งเป้ากางเกงและปลายคางวาบ ชักรู้สึกเห็นใจไอ้หมอนั่นขึ้นมาหน่อยๆ แต่มันก็สมควรโดนแล้ว“อูย...” แคทรียาแอบครางเบาๆ ความโมโหทำให้เธอลืมตัวไปว่าเธอยังไม่หายระบมจากศึกหนักบนเตียงเมื่อคืน“เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม” ดิฐกรรีบเข้าไปประคองหญิงสาวไว้ด้วยความเป็นห่วง“ไม่เป็นไรค่ะ สะใจชะมัด เสียดายไม่น่ารีบใจเสาะสลบเหมือดแบบนี้เลย ไม่งั้นแคทจะได้จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบให้อีกสักยกเอาให้เข็ดหลาบ ปากดีนัก”“พอเถอะ แค่นี้ก็ไม่รู้จะฟื้นตอนไหนแล้ว เธอไปเรียนต่อยมวยมาจากไหนนี่”“ไม่ใช่แค่ต่อยมวยนะคะ เทควันโด้ ยูโด คาราเต้ ฟันดาบ หรือว่ายิงปืนแคทก็ได้เหรียญทองมาแล้วทั้งนั้น”ดิฐกรฟังแม่ตัวยุ่งบรรยายสรรพคุณตัวเองอย่างอึ้งทึ่งเสียว ดวงตาคมกริบเหลือบมองวรพลที่นอนนิ่งหายใจรวยรินอย่างเห็นใจระคนสมเพชเวทนา หมอนี่มันจะรู้ไหมว่ามาแหยมผิดคน“แคทล้อเล่นค่ะ อย่าบอกนะว่าพี่เชื่อด้วย” หญิงสาวหัวเราะออกมาอย่างสดใส พลางคลี่ยิ้มหวานใส่ตาของเขา จนทำเอาดิฐกรถึงกับตาพร่าไปชั่วขณะ ความคิดหนึ
“ยิ้มปลื้มเมีย”“หา...”“เมียพี่น่ารักที่สุดเลย” เขาโอบเอวเธอเข้ามาใกล้พร้อมกับกดจูบที่หน้าผากมนเบาๆ“ขอบคุณแทนน้องมิวด้วยนะครับ”ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้นทันใด“ขอบคุณเรื่องอะไรคะ น้องมิวก็ลูกแคทเหมือนกันนี่นา”นี่ก็อีก หลังจากที่เขาจดทะเบียนสมรสกับเธอ แคทรียาก็กลายเป็นแม่แคทของหนูน้อยของขวัญไปอีกคน แถมยังเข้ากับมิรันดาเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียด้วย ซึ่งทำให้เขาสบายใจไปได้อีกเปราะไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดปัญหาเรื่องแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงตามมาในภายหลังภาพความหวานชื่นระหว่างสองสามีภรรยาทำให้ใครต่อใครที่เห็นแอบชื่นชมในความเหมาะสม ยกเว้นก็เพียงแต่...เจนิสาชะงักไปนิดๆ เมื่อมองเห็นภาพสวีตของทั้งสองที่เดินเคียงคู่กันผ่านไป โดยไม่ทันเห็นเธอที่นั่งหัวโด่ตรงนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจตัวเอง ดิฐกรในวันนี้ทั้งภูมิฐานและดูมีฐานะดีเธอมันตาต่ำสิ้นดี!หากในวันนั้นเธอไม่คิดสั้นทิ้งดิฐกรมา วันนี้คนที่เดินควงแขนเขาก็คงเป็นเจนิสาคนนี้ เธอคงสุขสบายมีสามีรวย ไม่ต้องอยู่อย่างลำบากน่าสมเพชต้องคอยรองมือรองเท้าให้ไอ้ผู้ชายสารเลวอย่างวรพลนั่นหญิงสาวกุมใบหน้าที่ถูกปกปิดด้วยแมสก์และแว่นสีดำไว้ เพราะไม่อยากให้ใครเห็นร่องรอยฟกช้ำท
หลังจากได้พยาบาลดีคอยดูแลอาการบาดเจ็บของดิฐกรก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็วจนได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลในที่สุด สิ่งแรกที่เขาทำก็คือขอร้องให้คุณเมธาและคุณดารณีไปเจรจาสู่ขอแคทรียาถึงบ้าน“แน่ใจแล้วหรือว่าอยากจะแต่งงานกับลูกสาวอาจริงๆ” คุณราเมศร์ถามด้วยน้ำเสียงเข้มจนคนรอบข้างแอบลุ้นปนหวาดผวาแทนคนถูกถาม“แน่ใจครับ”“ไม่ใช่แค่อยากรับผิดชอบ”“ไม่ใช่ครับ”“ไม่ได้รักแบบน้องสาว”“ผมรักแคทแบบคนรักครับ ไม่ใช่น้องสาว” แคทรียาหันไปสบตากับคนพูดด้วยหัวใจที่พองโตคับอกคุณเมธาหันไปสบตากับภรรยาที่ยิ้มจนแก้มปริ เมื่อได้ยินลูกชายตัวดีสารภาพรักสาวแบบเต็มปากเต็มคำ เห็นทีว่างานนี้เธอจะได้ลูกสะใภ้สมใจแม่สุดๆ“แล้วลูกล่ะยัยแคท อยากแต่งหรือเปล่า” คุณราเมศร์หันมาทางลูกสาว“แต่งค่ะ” หญิงสาวตอบโพล่งโดยไม่ต้องคิด ทำเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่ได้แต่ค้อน“ไม่คิดอีกสักหน่อยเหรอ ถึงยังไงเราก็เป็นฝ่ายหญิงนะ” คุณราเมศร์อ่อนอกอ่อนใจกับความมั่นของลูกสาวคนเล็ก“ก็แคทคิดมาแล้ว ในเมื่อเราสองคนรักกัน แล้วยังต้องรออะไรล่ะคะ อีกอย่างถ้าแคทคิดมาก เดี๋ยวท้องโตกว่านี้ ก็แต่งชุดเจ้าสาวไม่สวยกันพอดี”“ท้องโต!” คุณราเมศร์อุทานลั่น ในขณ
“อย่าหนีพี่ไปอีกเลยนะ”ดิฐกรมองสบตาเธอนิ่ง มวลความรู้สึกมากมายอัดแน่นในอกของเขาจนแทบจะล้นทะลักออกมา เกรงว่าหากเขาไม่พูดตอนนี้ จะไม่มีโอกาสได้พูดมันอีก“พี่ไม่ใช่คนดี เป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวคนหนึ่ง แล้วก็เป็นคนโง่งี่เง่ามากๆ ด้วย”แคทรียาเลิกคิ้วมองคนพูดอย่างไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่“ครั้งหนึ่งพี่เคยทำพลาดเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวและกลัวการผูกมัด กลัวที่จะต้องแต่งงาน กลัวเสียอิสรภาพบ้าๆ บอๆ จนกระทั่งเสียคนที่พี่รักให้คนอื่นไปคนหนึ่งแล้ว แต่คราวนี้พี่จะไม่ยอมเสียคนที่พี่รักไปอีก...”ราวกับเวลาหยุดหมุนในชั่ววินาทีนั้น คำว่า ‘คนที่พี่รัก’ ของเขากระแทกใจเธออย่างจัง นั่นเขาหมายถึงใครกันคงไม่ใช่เธอหรอกมั้ง“พี่รักแคท เราแต่งงานกันนะ”สาวมั่นถึงกับตะลึงงัน เมื่อเจอคำบอกรักแบบสายฟ้าแลบ“แล้วพี่มี่ล่ะ พี่ดิวลืมพี่มี่ได้แล้วเหรอ”“หึงเหรอ” คนเจ็บแกล้งตีหน้านิ่งถาม“หึงอะไร อย่ามาหลงตัวเองนะ”“งั้นพี่หลงเมียแทนได้ไหม”แคทรียาอ้าปากค้าง“ไม่ต้องหึงแล้วตัวแสบ ระหว่างพี่กับมี่ เราเหลือแค่สถานะพ่อแม่ของน้องมิวเท่านั้น”เมื่อได้ฟังคำยืนยันจากปากเขา ซึ่งเป็นคำเดียวกับที่เคยได้ยินจากปากมิรัน
“ไม่! อย่าไปนะ อย่าทิ้งพี่...” ชายหนุ่มรีบรั้งเธอไว้ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี กลัวว่าหากปล่อยให้เธอไป เขาจะไม่ได้พบเธออีก เขาไม่อยากเป็นเหมือนผู้ชายคนนั้นที่ต้องสูญเสียคนที่ตัวเองรักไปต่อหน้า อีกทั้งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมันทำให้เขารู้แล้วว่าชีวิตเป็นสิ่งไม่แน่นอนโชคดีแค่ไหนที่เขาไม่ได้เสียชีวิตไป โชคดีแค่ไหนที่เขายังมีโอกาสฟื้นขึ้นมาพบเธออีกครั้ง ทุกวินาทีต่อจากนี้ล้วนมีค่า และเขาไม่อยากจะเสียเวลาไปกับความกลัวอย่างงี่เง่าของตัวเองอีก แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแคทรียามองสบสายตาเขานิ่ง ก่อนหน้านี้ที่เธอตัดสินใจหายตัวไปก็คิดว่าจะตัดใจและตัดเขาออกไปได้ เธออยากจะทำใจแข็งให้มากกว่านี้ อยากจะโกรธ อยากจะงอน อยากจะเล่นตัวให้มากกว่านี้ อยากจะหนีไปให้เขาร้อนรนตามหาให้นานกว่านี้ แต่ทุกอย่างต้องพังครืน เมื่อได้รู้ข่าวจากมิรันดาว่าเขาเกิดอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล เธอก็ลืมความขุ่นเคืองก่อนหน้าไปเสียสิ้น ยิ่งเมื่อได้เห็นสภาพของเขาที่เป็นตายเท่ากัน หัวใจก็เจ็บปวดแทบแหลกสลาย“พี่...” เสียงเขาเบาหวิวทำให้เธอต้องขยับเอียงหูเข้าไปใกล้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกอะไร“พี่ขอโทษ...” หญิงสาวชะงักเมื่อได้ยินคำเดียวกับใ
“จริงสิคะ มี่เลยรีบโทรมาบอกพี่ดิวก่อนนี่ไง พี่ดิวก็กลับไปพักผ่อนได้แล้วนะคะ กลับไปคิดดูให้ดีว่าจะทำยังไงต่อ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ”ดิฐกรอยากจะโห่ร้องดังๆ กับข่าวดีที่เพิ่งได้ยิน แคทรียากำลังจะกลับมา และในตอนนี้เขาก็มีคำตอบกับตัวเองแล้วเขารักเธอ! และจะไม่ยอมเสียเธอกับลูกไปเหมือนผู้ชายคนเมื่อกี้เด็ดขาดชายหนุ่มยิ้มทั้งน้ำตา เขาคิดถึงเธอเหลือเกินดิฐกรรีบขึ้นรถและขับกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่แตกต่างจากตอนขามาลิบลับ ตอนนี้เขามีความสุขล้นปรี่ มีความหวังเต็มเปี่ยม โลกที่มืดมนกลับสว่างไสวขึ้นเพียงคิดว่าจะได้พบแคทรียา ผู้หญิงที่เขารู้ตัวแล้วว่ารัก และไม่อยากเสียเธอไปไม่ว่าอย่างไรปรี๊น!!!ชายหนุ่มคิดเพลินจนเผลอขับรถฝ่าไฟแดงโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งมีเสียงแตรดังลั่นมาจากที่ไกลๆ เขาจึงได้สติรีบหันไปมอง ก็เห็นแสงไฟสว่างจ้ากำลังพุ่งตรงเข้ามา ดิฐกรตกใจสุดขีดจึงรีบหักพวงมาลัยหลบเข้าข้างทางและชนเข้ากับต้นไม้จนรถแน่นิ่งไป พร้อมกับสติสัมปชัญญะของเขาที่ดับวูบไปในนาทีนั้นพร้อมกับสิ่งที่ติดค้างในหัวใจอยากเจอเธออีกสักครั้งหรือเขาจะไม่มีโอกาสแก้ตัวอีกแล้ว...“พี่ดิว...พี่ดิว...” ดิฐกรได้ยินเสียงหวานคุ้นหูของใ
‘ชีวิตคนเรามันสั้นนะคะ ถ้าพี่ดิวมัวแต่คิดมาก กลัวนั่นกลัวนี่แล้วเมื่อไหร่จะได้มีความสุขกับเขาเสียที หรือต้องรอให้สูญเสียก่อนอีกครั้ง พี่ถึงจะคิดได้ว่าอะไรที่มีค่ากับชีวิต...’เท้าของเขาค่อยๆ ก้าวฝ่าทุกคนไปจนถึงร่างอันไร้วิญญาณที่นอนนิ่งคลุมผ้าขาวตรงหน้า“เข้าไม่ได้นะครับ คุณเป็นอะไรกับผู้เสียชีวิตครับ”คำว่าผู้เสียชีวิตทำให้เขารู้สึกเข่าอ่อนขึ้นมาทันใด ก่อนที่น้ำใสๆ จะรื้นขึ้นมากลบนัยน์ตาจนทุกอย่างรอบกายพร่าเลือน หัวใจถูกบีบรัดอย่างแรงกับภาพที่เห็นตรงหน้าเขามันโง่! โง่ที่สุดในที่สุดความโง่งี่เง่านั่นก็พาให้เขาต้องพบกับจุดจบที่ต้องสูญเสียอีกครั้ง ครั้งแรกเป็นการจากเป็นที่ว่าเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสแล้ว แต่ครั้งนี้รุนแรงยิ่งกว่า เพราะเขาจะไม่ได้พบเธออีกต่อไปแล้ว เพียงคิดน้ำตาก็รื้นขึ้นมากลบนัยน์ตาจนพร่าไปหมด‘แล้วถ้าแคทบอกว่าต้องการความรักจากพี่ ต้องการให้พี่แต่งงานกับแคท ต้องการให้พี่เป็นทั้งสามีและพ่อของลูกแคท พี่ดิวทำได้ไหมล่ะ’คำถามนั่นย้อนกลับเข้ามาเล่นงานเขาในวันที่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว“ผม...ผมเป็นสามีของเธอครับ” ริมฝีปากแห้งผากบอกออกไปด้วยหัวใจที่แหลกสลาย น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินอาบ
ไม่มีข่าวคราว ไม่กลับบ้าน ไม่ไปที่ร้าน โทรไปก็ปิดเครื่อง กระทั่งข้อความที่เขาส่งไปหานับร้อยนับพันก็ไม่ยอมเปิดอ่านตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกันนะ เป็นตายร้ายดีอย่างไร “แล้วลูกล่ะ”“เข้านอนไปแล้วค่ะ พี่คิมเล่านิทานกล่อมก็พลอยหลับไปด้วย”“งั้นเหรอ” น้ำเสียงอ่อนล้าจนน่าใจหาย ทำให้มิรันดามองอดีตคนรักอย่างเห็นใจ“พี่ดิวก็กินข้าวกินปลาแล้วนอนพักเสียบ้างเถอะค่ะ”“อืม พี่ไม่หิว นอนไม่หลับด้วย เป็นห่วง...”“ห่วงตัวเองก่อนดีไหมคะ ดูหน้าเข้าซูบตอบเหมือนซอมบี้แล้วเนี่ย”คนหน้าเหมือนซอมบี้ลูบหน้าตัวเอง“ไม่เป็นไร พี่ยังไหว”มิรันดาได้แต่ส่ายหน้ากับความดื้อรั้นของคนตรงหน้า“มี่ถามจริงๆ เถอะค่ะ ที่พี่ดิวกำลังทำอยู่ตอนนี้ เพราะอะไรกันแน่ แล้วถ้าพี่ดิวหาตัวน้องแคทเจอแล้วจะทำยังไงต่อคะ”“พี่...”คนถูกถามนิ่งไปเมื่อเจอคำถามแทงใจดำจนพูดไม่ออก“จริงๆ แล้วพี่แค่ห่วงลูกในท้องน้องแคทเท่านั้นใช่ไหมคะ แล้วถ้าน้องแคทไม่ได้ท้องกับพี่ล่ะ พี่ดิวจะยังตามหาน้องแบบนี้หรือเปล่า ไม่ต้องตอบมี่ก็ได้ แต่พี่ตอบตัวเองแล้วกันว่าต้องการอะไรกันแน่”“มี่...”“ชีวิตคนเรามันสั้นนะคะ ถ้าพี่ดิวมัวแต่คิดมาก กลัวนั่นกลัวนี่แล้วเมื่อไหร่จะไ
ดิฐกรรีบไปที่บ้านมิรันดาตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งที่เมื่อคืนเขาแทบไม่ได้นอนเพราะมัวแต่คิดฟุ้งซ่านเรื่องของเขากับแคทรียาจนนอนไม่หลับ ยังไงวันนี้เขาก็ต้องคุยกับเธอให้รู้เรื่อง ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องอกแตกตายแน่แต่ทว่า...“น้องแคทไปแล้วค่ะ”ดิฐกรหัวใจกระตุกวูบอย่างแรง“ไป...ไปไหน”“มี่ก็ไม่รู้ค่ะ พอตื่นมาน้องก็ไม่อยู่แล้ว นี่พี่คิมก็โทรไปถามที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ก็บอกว่าไม่ได้กลับไป ทางนั้นเองก็กำลังร้อนใจเหมือนกัน” มิรันดาตอบด้วยสีหน้าหนักใจ“แล้วที่ร้านเขาล่ะ” ชายหนุ่มหมายถึงร้านเวดดิ้งสตูดิโอ เธออาจจะมีงานด่วนต้องรีบไปที่ร้านแต่เช้าก็ได้“มี่โทรเช็กแล้วค่ะ น้องก็ไม่ได้ไปเหมือนกันค่ะเห็นพนักงานบอกว่าน้องแคทเขาพักร้อน อ้าว นั่นพี่คิมมาพอดี” ดิฐกรหันขวับไปมองคนเพิ่งลงจากรถด้วยสีหน้าตึงเครียดผิดจากที่เคย“เป็นไงบ้างคะพี่คิม หาน้องแคทเจอไหม”“ไม่เจอเลย พี่ลองถามรปภ.ที่หน้าหมู่บ้าน เห็นว่ามีรถแท็กซี่เข้ามาตอนตีสี่ แล้วตอนออกไปก็มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งด้านหลัง พี่คิดว่าน่าจะเป็นน้องแคท ก็เลยจดทะเบียนรถแท็กซี่นั่นให้ตำรวจช่วยตามหาตัวคนขับอยู่”“แล้วบ้านเพื่อนล่ะ เขาอาจจะนั่งแท็กซี่ไปหาเพื่อนสักคนก็ได้”“
“งั้นน้องมิวจะช่วยอาแคทซ่อนไม่ให้พ่อดิวหาเจอ ไม่สิ น้องมิวไปซ่อนในห้องกับอาแคทด้วยดีกว่า” ว่าแล้วเด็กน้อยก็วิ่งตื๋อเข้าไปในห้องอีกคนจนทำให้คนเป็นแม่ถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่หันไปสบตาสามีเป็นเชิงปรึกษา“เอาไงดีคะพี่คิม”“เดี๋ยวพี่ไปเปิดประตูเอง มี่ดูแลทางนี้แล้วกัน”คีรินบอกพลางเดินตรงไปเปิดประตูบ้านให้แขกไม่ได้รับเชิญ“คุณคิม แคทล่ะ แคทอยู่ที่นี่ใช่ไหม”แทนที่จะถามถึงลูกสาวหรือมิรันดาก่อนเหมือนเช่นทุกครั้ง อีกฝ่ายกลับถามหาน้องสาวของเขาแทนเสียนี่“ทำไมเหรอครับ คุณมีธุระอะไรกับน้องสาวผมงั้นหรือ” ดิฐกรสะอึกอึ้งไปเมื่อเจอคำถามจากอีกฝ่าย“แคทอยู่ด้านในใช่ไหม”“ครับ” คีรินพยักหน้ารับ“งั้นผมขอเข้าไปคุยกับเขาหน่อย”“ผมว่าวันนี้คุณกลับไปก่อนดีกว่านะ”ดิฐกรรับรู้ได้ถึงความตึงในน้ำเสียงที่ผิดไปของชายหนุ่มผู้เป็นศัตรูหัวใจ หรือว่าแคทรียาจะบอกอะไรกับพี่ชายตัวเองไปแล้ว“แคทบอกพวกคุณแล้วใช่ไหม”“บอกเรื่องอะไรเหรอครับ” คีรินย้อนถามหน้าตาย“ก็เรื่อง...”“ท้อง...” ดิฐกรชะงักกึก“คุณรู้แล้วเหรอ”“ครับ ผมกับมี่รู้แล้ว แล้วน้องแคทบอกคุณหรือเปล่าล่ะว่าใครเป็นพ่อของเด็ก หรือว่าจะเป็นเจ้าแฟนเก่าที่เลิกไปนั่น”