ปึก!
“อื้อออ”
“อืม...”
เสียงแลกเปลี่ยนน้ำลายดังก้องห้องสวีทของโรงแรมหรู
ร่างสองร่างกอดเกี่ยวแนบแน่นแทบรวมเป็นเนื้อเดียว
พวกเขากระโจนเข้าหากันราวกับสัตว์ป่าที่หิวโหย ทันทีที่ประตูห้องปิดลง ริมฝีปากของทั้งคู่ก็ไม่ยอมแยกจากกันอีกเลย แม้กระทั่งตอนที่ท่อนแขนแกร่งยกร่างเพรียวบางขึ้นอุ้มกระเตงด้วยท่าทางอันตราย
มือใหญ่ช้อนใต้สะโพกอิ่ม พร้อมกับท่อนขาเรียวที่ยกขึ้นเกี่ยวรัดเอวสอบ เขาแข็งแรงมาก เพราะขนาดมีอีกร่างที่เกาะเกี่ยวเป็นลูกลิงไม่ห่าง ท่อนขายาว ๆ ยังก้าวเดินไปที่โซฟาตัวใหญ่ได้อย่างสบาย ๆ ก่อนจะวางร่างระหงลงด้วยแรงที่ไม่เบานัก
“อื้อ...จูบ”
กลีบปากแยกจากได้ไม่นานก็ประกบติดกันอีกครั้ง เรียวลิ้นทั้งสองผลัดกันรุกล้ำหยอกล้ออย่างไม่รู้เบื่อ เรือนร่างงดงามไร้ที่ติของดาราสาวชื่อดังขยับลุกขึ้นนั่ง เธอไม่ยอมนอนเป็นเหยื่อให้เขาจัดการอยู่ฝ่ายเดียวหรอก มือเรียวพยายามถอดเสื้อยืดสีดำที่แสนเกะกะออกอย่างร้อนรน แต่เพราะความรีบร้อนทำให้เธอไม่สามารถถอดมันได้ง่าย ๆ ดั่งใจ
แควก!
ในเมื่อถอดดี ๆ ไม่ได้...ก็ฉีกมันซะเลย หมดเรื่อง
เสื้อยืดตัวเก่งถูกฉีกกระชากจนขาดวิ่นอย่างน่าสงสาร ก่อนจะถูกทิ้งขว้างบนพื้นพรมแบบนั้น ชายหนุ่มเหลือบมองความเสียหายเล็กน้อย ก่อนจะถูกดึงดูดความสนใจด้วยเรียวลิ้นนุ่มที่ขยันส่งเข้ามาหยอกล้อกันไม่ขาดสาย
จูบเก่งจริง ๆ นั่นแหละ
แผ่นอกเปลือยถูกสัมผัสด้วยฝ่ามือนุ่มนิ่มทว่าร้อนฉ่า ก่อนจะค่อย ๆ ไต่ลงมาจนถึงหน้าท้องแกร่ง เธอวนเวียนอยู่ตรงนั้นนานสองนานราวกับถูกใจนักหนา ก็ถูกใจจริง ๆ นั่นแหละ...จับตรงไหนก็มีแต่กล้ามเนื้อแน่นเต็มมือไปหมด
นิ้วเรียวที่แสนซุกซนไต่ต่ำลงเรื่อย ๆ ไม่นานก็หยุดลงที่หัว...เข็มขัดหนังสีดำ และเป้ากางเกงแน่นตึง เพียงแค่นั้นรสจูบจากคู่นอนก็รุนแรงขึ้น ลมหายใจอุ่น ๆ เปลี่ยนเป็นร้อนผ่าวตามแรงอารมณ์ที่ถูกกระตุ้น
คนขี้แกล้งนึกสนุกที่ทำให้อีกฝ่ายปั่นป่วนได้ เธอปัดป่ายปลายนิ้วเล่นกับตรงนั้นหลายครั้ง เมื่อเห็นว่าคู่นอนสุดฮอตกำลังร้อนได้ที่ จึงรีบลงมือปลดเจ้าเข็มขัดหนังแสนเกะกะออก พอไม่ทันใจก็กระชากมันแรง ๆ ตามประสาคนใจร้อน
ซิปกางเกงยีนส์ถูกรูดลงหลังจากนั้น เสียงหอบหายใจดังถี่ขึ้นเมื่อฝ่ามือนุ่มนิ่มพยายามจะสัมผัสกับบางสิ่ง ที่ถูกห่อหุ่มด้วยชั้นในสีเข้มแบรนด์ดังขึ้นต้นด้วยตัวซี
“อืม”
.
.
♪ ♪ ♫ ♪ ♪
“อื้อ”
มือถือเครื่องหรูที่ส่งเสียงกรีดร้องระงมไปทั่วห้อง ปลุกให้คนที่เพิ่งได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงจำใจต้องลืมตาตื่น ดวงตาคู่สวยปรือปรอยอย่างเกียจคร้าน มือเรียวควานหามือถือส่วนตัวสักพักกว่าจะเจอว่ามันตกอยู่ข้างเตียง
“อู้ยย” แต่พอจะลุกไปหยิบมือถือเจ้าปัญหา ความปวดร้าวทั่วทั้งกายก็ทำให้ร่างระหงหยุดชะงัก “อย่างกับโดนหมาฟัดมา”
จิรัชญากัดฟันพาสังขารที่ย่ำแย่ไปหยิบโทรศัพท์ เพราะมันเอาแต่กรีดร้องซ้ำ ๆ ไม่หยุด ไม่รู้เลยว่าเจ้าของอย่างเธอมีสภาพปางตายแค่ไหน
ในที่สุดก็ได้มือถือมาครอบครอง ไม่ผิดจากที่คิดเท่าไหร่ เธอพอจะเดาได้อยู่แล้วว่าใครที่เป็นคนโทรมา
‘คุณปู่’
“ค่ะ”
(หลานอยู่ที่ไหน)
“เพนท์เฮ้าส์ค่ะ” เธอกวาดตามองห้องที่ไม่ค่อยคุ้นตาก่อนจะตอบไปแบบนั้น
(อย่าโกหก ปู่รู้ว่าหลานไม่ได้อยู่ที่เพนท์เฮ้าส์)
“ถ้าคุณปู่ส่งคนมาเฝ้าจีขนาดนี้แล้วจะถามจีอีกทำไมล่ะคะ”
(จิรัชญา) เสียงของปลายสายเข้มขึ้น (ปู่ไม่ได้ส่งคนไปเฝ้าหลาน แต่แอนนาบอกว่าหลานไม่ได้กลับเพนท์เฮ้าส์ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว)
“จีอยู่ที่โรงแรมค่ะ เบื่อ ก็เลยมาเปลี่ยนที่นอน”
(ไม่ใช่ว่าจงใจหนีนัดวันนี้หรอกนะ)
“จีหนีปู่ได้เหรอคะ?” เธอถามกลับเสียงประชดประชัน “สบายใจเถอะค่ะ ยังไงวันนี้จีก็ไม่เบี้ยวนัดให้ปู่ต้องเสียหน้าแน่ ๆ แค่นี้นะคะ จีขอนอนต่อก่อน สวัสดีค่ะ”
จิรัชญาไม่ปล่อยให้คนเป็นปู่ได้ทักท้วง เธอรีบวางสายก่อนจะเปิดโหมดห้ามรบกวน แล้วโยนมือถือไปที่อีกฟากของเตียงอย่างไม่สบอารมณ์
หญิงสาวเสยผมลวก ๆ ดวงตาฉายแววหงุดหงิดมองไปรอบ ๆ ห้องที่สภาพเหมือนเพิ่งผ่านสงครามมา ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ต่างกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอกับผู้ชายแปลกหน้า มีค่ำคืนที่ร้อนแรงกันมากแค่ไหน
เธอแทบไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ
แค่ปลายเท้าแตะลงบนพื้นพรม ความเจ็บแปลบก็แล่นไปทั่วร่างทันที โดยเฉพาะส่วนล่างที่ผ่านอะไรมาอย่างหนักหน่วง จิรัชญานั่งลงบนเตียง ถอนหายใจอย่างหงุดหงิดที่ร่างกายเป็นแบบนี้ นึกโมโหผู้ชายคนเมื่อคืนที่ไม่รู้ว่าไปอดอยากมาจากไหน ตอนทำมันก็ฟินอยู่หรอก แต่ตอนนี้เธอเหมือนเป็นอัมพาตไปแล้ว
ก่อนที่ดวงตากรุ่นโกรธจะสังเกตเห็นบางอย่างบนโต๊ะข้างหัวเตียง
น้ำ ยา และโพสอิทแผ่นเล็ก ๆ
เธอหยิบกระดาษแผ่นเล็กขึ้นมาเป็นอย่างแรก ข้อความที่เขียนด้วยลายมือเป็นระเบียบน่าจะเป็นของผู้ชายแปลกหน้าที่ชื่อกฤตคนนั้น
.
‘วันนี้ผมมีธุระเลยต้องรีบไป และคุณก็คงไม่อยากเห็นหน้าผมเท่าไหร่ แต่ผมกลัวว่าคุณจะป่วยก็เลยเตรียมยาไว้ให้ ขอบคุณสำหรับค่ำคืนที่แสนวิเศษ ผมจะไม่มีวันลืมมันเลย
กฤต’
.
จิรัชญามองน้ำและยาที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้ ก่อนจะยักไหล่เล็กน้อยอย่างไม่ยี่หระ
“รู้งานดี”
มือบางขยำโพสอิททิ้งอย่างไม่ใยดี นั่งพักจนร่างกายเริ่มดีขึ้น หญิงสาวก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตร เรียวขายาวก้าวเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายบรรเทาความเมื่อยล้า เธอต้องกลับกรุงเทพฯ ไปเจอหน้าว่าที่คู่หมั้นตามที่คุณปู่ต้องการ อยากเจอกันนัก เธอก็จะไม่ขัด
แต่คอยดูเถอะ จะอาละวาดให้หนีกลับบ้านแทบไม่ทันเลย
.
.
.
.
.
TBC
“น้องจี! น้องจีคะ ว๊าย!!”“ถ้าไม่หยุดเดินตามอย่าหาว่าฉันไม่ไว้หน้านะ”ปลายนิ้วเรียวที่ประดับด้วยเล็บยาว เพนท์ลวดลายดอกกุหลาบสีแดงสดชี้หน้าดีไซน์เนอร์ชื่อดังจนอีกฝ่ายเบรกตัวแทบไม่ทัน จิรัชญา นางร้ายเบอร์หนึ่งของวงการ เตรียมตัวตกเป็นขี้ปากชาวบ้านอีกครั้งเพราะเรื่องคาว ๆ ในกองวันนี้‘นางร้ายหน้าสวยวีนแตกอีกแล้วจ้า วางอำนาจบาตรใหญ่ใส่ดีไซน์เนอร์ผู้น่าสงสาร คิดว่าตัวเองเป็นหลานเจ้าสัวแล้วจะทำอะไรก็ได้’ หัวข้อข่าวก็คงไม่พ้นอะไรทำนองนี้แต่ใครจะรู้บ้างว่าความจริงคืออะไรไม่สิ.. ไม่ใช่ไม่รู้ แต่ความจริงมันไม่สนุกปากเท่าเรื่องที่ถูกใส่สีตีไข่แล้วต่างหาก“น้องจี แค่เปลี่ยนชุดเองนะคะ ไม่เห็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลย”“แค่?”หญิงสาวเลิกชี้หน้าอีกฝ่าย แล้วยกแขนขึ้นกอดอกด้วยท่าทีที่หลายคนมองว่าไร้มารยาท เพราะพี่เปิ้ล ดีไซน์เนอร์ชื่อดังอายุมากกว่าเธอเกือบสิบปี แต่นางร้ายคนนี้ก็ยังไม่เห็นหัวถ้าจะเอาอายุมาเป็นตัวชี้วัดความน่าเคารพ คงไม่มีคนแก่ถูกเด็กถอนหงอกรายวัน ความคิดล้าหลังโบราณคร่ำครึอะไรนั่นเธอไม่สน ทำตัวไม่น่าเคารพต่อให้แก่แค่ไหนเธอก็ไม่ไว้หน้า“กล้าพูดว่าแค่นี้? ดีไซน์เนอร์ชื่อดังทำงานไม่เป
“ทะ ที่รัก มันไม่ใช่แบบที่ยูคิด เบบี๋...ไออธิบายได้”แบรนดอนถลาตัวเข้าหาแฟนสาวอย่างหมดท่า ตื่นตกใจจนลืมไปว่าตัวเองมีสภาพที่ไม่น่ามองเท่าไหร่และนั่นยิ่งทำให้จิรัชญารู้สึกรังเกียจร่างกายสูงใหญ่ของหนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกันเปลือยเปล่า เนื้อตัวยังหลงเหลือร่องรอยจากเซ็กซ์ก่อนหน้า ทั้งรอยกัด รอยดูด รอยเล็บ ยกเว้นตรงนั้นที่แห้งเหี่ยวไม่เหลือสภาพตั้งแต่เห็นหน้าแฟนสาวอย่างเธอแฟนสาวที่ไม่ใช่แค่แฟน แต่เป็นเหมือนบ่อเงินบ่อทองที่ปล่อยให้หลุดมือไปไม่ได้หลังจากคบหากัน นายแบบปลายแถวอย่างเขาก็มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย ใคร ๆ ก็อยากจ้างงานคนที่กุมหัวใจนางร้ายนิสัยเสียที่ไม่เคยเห็นหัวใครอย่างเธอทั้งนั้น สามเดือนที่ผ่านมาแบรนดอนไต่เต้าจากนายแบบโนเนมไม่มีใครรู้จัก เป็นนายแบบระดับกลาง ๆ ที่มีงานเข้ามาตลอดได้ก็เพราะคบหากับเธอไม่ใช่ไม่รู้ว่าผู้ชายหลาย ๆ คนเข้าหาตัวเองเพราะอะไร เพราะรู้...จิรัชญาถึงไม่เคยมอบใจให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น ที่ยอมคบกับแบรนดอนก็ไม่ใช่เพราะความรัก เธอแค่ต้องการใครสักคนที่คอยเอาอกเอาใจ คอยตามใจ ไม่มีปากเสียงให้ระคายหู และแบรนดอนก็ทำได้ดีมาตลอด เธอถึงคบหากับเขาได้นานกว่าใครแต่สุดท้ายก็เหมือ
“ไม่รับสายพี่ แถมยังหาข่าวให้ตัวเองอีก จริง ๆ เลยนะคะน้องจีเนี่ย” แอนนาบ่นอย่างไม่จริงจังเท่าไหร่นัก ตลอดเวลาห้าปีที่เป็นผู้จัดการของจิรัชญามา นี่นับว่าเป็นเรื่องปกติ “แต่ทางนั้นก็เหลือเกิน เล่นลิ้นแบบนั้นก็สมควรโดนน้องจีถอนหงอกแล้วล่ะค่ะ”จิรัชญาในสายตาคนอื่นเป็นยังไงไม่รู้ แต่สำหรับแอนนา จิรัชญาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก เมื่อเดือนก่อนน้องป่วยหนักจนต้องแอดมิทแต่ดันมีถ่ายละครคิวสุดท้ายพอดี เพื่อไม่ให้กองถ่ายเสียหาย นางร้ายที่ใครต่อใครพากันรุมสาปว่าไม่เอาไหนคนนี้ถึง ขั้นถอดสายน้ำเกลือไปถ่ายละครจนเสร็จ ก่อนจะกลับมานอนให้น้ำเกลือต่อจนโดนหมอดุทั้งดาราและผู้จัดการดังนั้นการที่จิรัชญาเทงานแบบนี้ แอนนามั่นใจว่าน้องมีเหตุผลมากพอ“จีไม่ชอบทำงานกับพวกไม่เป็นมืออาชีพ พี่แอนนาไม่ต้องรับงานของแบรนด์นั้นให้จีอีกนะคะ”จิรัชญาที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนักศึกษาตอบผู้จัดการเสียงเรียบ ริมฝีปากคว่ำต่ำเพราะยังไม่หายหงุดหงิด เรื่องเมื่อวันก่อนกลายเป็นข่าวแบบที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด แน่นอนว่าคนที่เป็นผู้ร้ายก็คือเธอคนนี้ไหนจะเรื่องเลิกกับแฟนอีก เมื่อวานแบรนดอนมีงานอีเว้นท์ที่ต้องให้สัมภาษณ์กับสื่อ รายนั้นสะอ
“ทำไมมาช้าจัง เรารอกฤตตั้งนาน”ทันทีคนตัวสูงเดินเข้ามาใกล้ นับดาวก็แกล้งบ่นออกมาด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก ดวงตาคู่สวยเป็นประกายระยิบระยับ เฝ้ามองจนกระทั่งอีกฝ่ายทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม“พอดีว่าที่คณะมีกองถ่ายมาถ่ายละครน่ะ เราเลยเดินอ้อมไปทางหลังตึก จะได้ไม่รบกวนพวกเขา”“อ๋อ” นับดาวขานรับง่าย ๆ เธอส่งยิ้มกว้างให้เพื่อนสนิทจนแก้มทั้งสองข้างเกิดเป็นรอยบุ๋ม “เราสั่งข้าวให้แล้วนะ เหมือนเดิม”“ขอบคุณนะ”“อื้อ”หญิงสาวพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ตั้งแต่เห็นหน้ากฤตินอาจารย์คนสวยก็เอาแต่ยิ้มกว้าง รอยยิ้มของนับดาวซื่อตรงกับความรู้สึก ใครมองมาก็พอจะเดาได้ว่าหญิงสาวที่ทั้งสวย ทั้งน่ารัก และอ่อนหวานคนนี้ คิดกับเพื่อนสนิทที่คบหากันมาเป็นสิบปีแบบไหนคงจะมีแต่เจ้าตัวที่ไม่เคยรู้อะไรเลยกฤตินเป็นหนุ่มเนิร์ด เรียนเก่งตั้งแต่เด็ก เวลามากกว่าครึ่งชีวิตเขาใช้มันไปกับการอ่านหนังสือ ไม่เคยมีแฟน แม้แต่เพื่อนก็มีแค่นับดาวคนเดียว วัน ๆ เอาแต่เรียน เรียน และก็เรียน จนได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศมาครองแต่กฤตินก็ยังไม่หยุด นับดาวได้ข่าวว่าเพื่อนคนนี้กำลังขุดค้นพื้นที่หนึ่งในจังหวัดลำปาง
“จี เดี๋ยวก่อนสิ”ซินดี้วิ่งตามจิรัชญาออกมาติด ๆ จนกระทั่งใกล้ถึงรถยนต์คันหรูนางร้ายสาวถึงยอมหยุด เธอหันกลับไปมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาเบื่อหน่าย“มีอะไรอีก”“ฉันขอโทษนะที่ชวนเธอมาวันนี้ ไม่คิดว่าหลินหลินจะเอาแต่แซะเธอไม่หยุด”“รู้ตัวก็ดี”อย่าคิดว่าจิรัชญาจะทำตัวเป็นแม่พระ พูดว่าไม่เป็นไรอะไรทำนองนั้น เพราะเธอคือนางร้ายที่ร้ายทั้งในจอและนอกจอ ไม่จำเป็นต้องใจดีกับคนที่สร้างปัญหาให้กับตัวเอง ถ้าไม่ใช่เพราะซินดี้โทรตาม วันนี้เธอคงได้พักผ่อน ไม่ต้องมาหงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ซินดี้หน้าเสียไปเล็กน้อย แต่สุดท้ายนางแบบสาวก็เลือกยิ้มออกมาบาง ๆ เธอคว้ามือเรียวของจิรัชญาไว้ ดวงตาสวยคมเหมือนเหยี่ยวหลุบมองมือที่ถูกจับด้วยสายตาเรียบเฉย“เธออาจจะไม่ได้มองว่าฉันเป็นเพื่อนแล้ว แต่สำหรับฉัน...เธอคือเพื่อนของฉันเสมอนะจี”ได้ยินแบบนั้นจิรัชญาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางคิดถึงเรื่องในวันวานสมัยที่ยังเป็นนักศึกษา เธอ หลินหลิน และซินดี้เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ไม่ได้สนิทจนเรียกว่าเพื่อนรักเพื่อนตายแต่ก็ไม่ได้แตกแยกเหมือนทุกวันนี้ พวกเรามักจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ ดีกันบ้าง บาดหมางกันบ้างตามประสาคนที่
“สร้อยเส้นนี้ทำจากเพชรที่สะอาดที่สุดในโลก ต่อให้ใช้กล้องส่องเพชรก็มองไม่เห็นตำหนิ ความงามไม่ต้องพูดถึง เพชรน้ำ 100 ขาว ใส ไม่มีตำหนิแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่าย ๆ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น...”มือที่สวมถุงมือผ้าสีดำยกตัวจี้ขึ้นมาให้คนในห้องดู แอนนาอ้าปากค้างไปแล้ว ส่วนจิรัชญาก็มองเพชรเม็ดนั้นด้วยความสนใจเหมือนกันเพชรสีชมพู ที่ว่ากันว่าเป็นสีที่หายากที่สุดไม่แปลกใจเลยที่รอบตัวเธอจะเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกือบสิบคนแบบนี้ มูลค่าของเพชรเม็ดนี้คงประเมินค่าไม่ได้“แอนนาจะตาบอดแล้วค่ะ”ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นปิดตา เรียกเสียงหัวเราะเบา ๆ จากคนที่อยู่ในห้อง เธอไม่ได้ล้อเล่นนะ แสงจากเพชรที่กระทบกับไฟมันส่องประกายวิบวับจนตาพร่าไปหมด เม็ดใหญ่ขนาดนั้น เธอไม่อยากจะเดาราคาเลย“เฉพาะเม็ดนี้หนักห้าสิบเก้ากะรัต ไม่รวมเพชรที่เป็นตัวสร้อย คุณจีลองใส่ดูครับว่าไหวหรือเปล่า”“ค่ะ” จิรัชญาพยักหน้ารับเบา ๆ เธอนั่งหลังตรง ปล่อยให้เจ้าหน้าที่จากแบรนด์สวมสร้อยเส้นนั้นลงบนลำคอระหง ดวงตาคู่สวยมองตัวเองในกระจกอย่างพึงพอใจ“หนักไหมครับ”“พอได้ค่ะ”“คุณจีทำให้เพชรของเราสวยขึ้นมากเลยครับ ผมดีใจที่คุณรับคำขอของเรา ไม่
จิรัชญาลงมาจากเวที ทันทีที่ถอดสร้อยคืนให้กับเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยของแบรนด์เรียบร้อย แอนนาก็รีบดึงเธอออกมาจากงานอย่างร้อนรน หญิงสาวเดินตามผู้จัดการด้วยความงุนงง แต่มากกว่านั้นคือเหล่าบรรดาสื่อมวลชนที่วิ่งตามพวกเธอมาเหมือนฝูงซอมบี้ โชคดีที่ประตูลิฟต์ปิดลงก่อน“พี่ใจจะวายอยู่แล้ว!”“อะไรกันคะพี่แอนนา”จิรัชญาไม่เข้าใจอะไรเลย เธอยังไม่ทันได้พูดคุยหรือร่ำลาใครสักคน และปกติพี่แอนนาก็ไม่ใช่คนที่รีบร้อนจนหลงลืมมารยาทแบบนี้ ไหนจะสื่อพวกนั้นอีก ทำไมถึงวิ่งตามเธอมา แทนที่จะไปสัมภาษณ์แขกในงานที่มีแต่คนดังระดับโลกมาวิ่งตามดาราไทยธรรมดา ๆ แบบเธอทำไม“น้องจีไปทำอะไรไว้ล่ะคะ!” แอนนาถามกลับตาขวาง“จียังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ”พอโดนเคืองไม่มีเหตุผลแบบนี้จิรัชญาก็เถียงกลับทันที เธอไม่เข้าใจว่าพี่แอนนามาค้อนใส่กันทำไม ตั้งแต่เลิกกับแบรนดอนเธอก็ไม่ได้สร้างเรื่องอะไรอีกเลย ทำแต่งาน พี่แอนนาก็เห็น“ไว้ถึงห้องค่อยคุยกันค่ะ ยาวแน่” แอนนาตอบแค่นั้นจิรัชญากอดอกด้วยความไม่พอใจ เธอเดินตามแอนนากลับห้องพักด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง พี่แอนนาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำให้เด็กเอาแต่ใจตัวเองแบบเธอเริ่มพยศแอนนารู้ดีว่าต้องรับ
เที่ยงของวันต่อมา แอนนาบอกกับจิรัชญาว่าทุกอย่างพร้อมแล้วแผนหนีนักข่าวของพี่แอนนา ทำให้ควีนของวงการมายาเกือบจะต้องติดหนวดปลอมตัวเป็นผู้ชาย จิรัชญาต้องจำใจใส่เสื้อผ้าคนละแนวกับที่ชอบใส่ ใช้ผ้าพันคอคลุมศีรษะ ใส่แว่นดำ แล้วเดินแอบ ๆ เหมือนขโมยไปที่รถอีกคันที่พี่แอนนาหามาให้สื่อกัดไม่ปล่อยจริง ๆ ถ้าไม่ได้พี่แอนนาที่ออกไปรับหน้าแทน ตอนนี้เธอคงเละเป็นโจ๊กไปแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องเธอยังไม่ได้คุยกับพี่นนท์เลย ไม่รู้ว่าทางนั้นเห็นข่าวหรือยัง แต่ถ้าพี่นนท์อยากให้ออกมาแก้ข่าวเธอก็จะทำ ถึงปกติจะไม่ชอบมานั่งแก้ข่าวไร้สาระพวกนี้เท่าไหร่ แต่เรื่องนี้มันไม่ได้กระทบกับเธอแค่คนเดียวอีกแล้ว พี่นนท์เองก็ไม่ใช่ลูกตาสีตาสา ไหนจะพิมมาดาที่ยังต้องทำงานด้วยกันอีกแต่เรื่องพวกนั้นช่างมันก่อน ตอนนี้เธออยากจัดการกับคนที่สร้างเรื่องบ้า ๆ นี่ขึ้นมาจะแย่ อยู่กันดี ๆ ไม่ได้ก็ต้องเจอสักทีนี่แหละ จะได้เลิกบ้ารถญี่ปุ่นสีขาวเรียบ ๆ ไม่โดดเด่นขับออกจากโรงแรม ไม่มีใครคิดว่าคนขับเป็นจิรัชญาสักคน แผนของพี่แอนนาได้ผล เพราะถ้าเธอดื้อจะขับลูกรักสีแดงเพลิงพวกนักข่าวคงจับได้ก่อนมือเรียวสวยหมุนพวงมาลัยไปอีกทางพร้อมกับดวงตากรุ่นโ
วันนี้เป็นวันที่เจ้าของแบรนด์ GiGee ยุ่งกว่าทุกวัน ใบหน้าสวยที่ปกติก็ดูดุอยู่แล้ว วันนี้ดุจนแม้แต่ผู้ช่วยคนสนิท อดีตผู้จัดการอย่างพี่แอนนาไม่กล้าเข้าใกล้จิรัชญาตรวจงานซ้ำเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่มีใครนับไหว ดวงตาเฉี่ยวคมกวาดมองหาความผิดพลาด แม้จะเล็กน้อยแค่ไหนเธอก็ไม่ยอมปล่อยผ่าน ทำเอาพนักงานวิ่งแก้กันหัวหมุน จนในที่สุดเสียงจากสวรรค์ที่เพราะพริ้งยิ่งกว่าระฆังแก้วก็ดังขึ้น“โอเค ไม่มีอะไรต้องแก้แล้ว”พนักงานนับสิบชีวิตถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมเพรียงกัน ใบหน้าเหนื่อยล้าปรากฎรอยยิ้มยินดี ในที่สุดงานตัดเย็บชุดสำหรับงานเลี้ยงฉลองต้อนรับ CEO คนใหม่ของ J&R group ก็เสร็จสิ้นลงกว่าทุกอย่างจะออกมาสมบูรณ์แบบอย่างที่จิรัชญาต้องการ ทั้งพนักงานและเจ้าของแบรนด์ต่างพากันอดหลับอดนอนเป็นอาทิตย์ สูทสีเทาเข้มที่กฤตินจะสวมใส่ถูกตัดเย็บด้วยมือทั้งหมด มีรายละเอียดเป็นโลโก้ของ J&R group ปักบนอกซ้ายอย่างประณีต รวมถึงเข็มกลัดที่ทำจากเพชรราว ๆ ห้ากระรัตที่จิรัชญาเป็นคนออกแบบเองทั้งหมดนี้ถูกทำขึ้นอย่างลับ ๆ เพราะคนเป็นภรรยาอยากเซอร์ไพรส์สามี จิรัชญาต้องโกหกกฤตินว่าช่วงนี้กำลังออกแบบคอลเลคชั่นใหม่ งานเยอะจนแทบไ
แต่งงานอยู่กินฉันสามีภรรยามาได้ครึ่งปี ความสัมพันธ์ของอดีตราชินีแห่งวงการบันเทิง กับอดีตศาสตราจารย์เต็มไปด้วยความหวานชื่นอย่างที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันควรมี ก่อนแต่งงานเป็นยังไง หลังแต่งงานก็เป็นแบบนั้น ออกจะหวานกว่าเดิมด้วยซ้ำสิ่งเดียวที่เปลี่ยน คือจิรัชญาตัดสินใจย้ายกลับมาใช้ชีวิตหลังแต่งงานที่คฤหาสน์ของคุณปู่ เพราะเจ้าสัวจรินทร์อายุมากขึ้นทุกวัน คนเป็นหลานเลยอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าที่สุดและที่สำคัญ คฤหาสน์ของเจ้าสัวจรินทร์มีพื้นที่กว้างขวาง มีทั้งสวนดอกไม้สวย ๆ สนามหญ้า ทะเลสาบส่วนตัว มีพื้นที่ให้วิ่งเล่นซุกซนหรือทำเป็นสนามเด็กเล่นก็ยังได้ เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่จะเกิดมาในอนาคตเด็ก ๆ ที่เป็นลูกของเธอกับสามีเด็ก ๆ ที่ไม่มีวี่แววว่าจะได้มาเกิด เพราะสามีคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัดทุกครั้ง“ก็นั่นแหละค่ะ จีเลยไม่รู้จะทำยังไง จะให้พูดออกไปตรง ๆ มันก็น่าอาย” จิรัชญาถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากที่เล่าปัญหาชีวิตคู่ให้พี่สาวคนสนิทอย่างแอนนาฟังไม่ได้อยากเอาเรื่องในบ้านในมุ้งออกมาพูดหรอกนะ แต่ถ้าไม่พูด เธอต้องอกแตกตายแน่ ๆ เพราะปัญหาระหว่างเธอกับเฮียกฤตมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยจิรัชญาพร้
งานแต่งของจิรัชญา หลานสาวเพียงคนเดียวของเจ้าสัวจรินทร์ กับอดีตศาสตราจารย์หนุ่มผู้ครอบครองรางวัลโนเบล ว่าที่ CEO ของ J&R group ถูกขนานนามว่าเป็นงานแต่งแห่งทศวรรษนอกจากจำนวนแขกที่ถูกเชิญมานับพันแล้ว ความยิ่งใหญ่ของงานที่ใช้เม็ดเงินหลายสิบล้านก็ถูกพูดถึงไปทั่วประเทศ เจ้าสัวจรินทร์เนรมิตโรงแรมหรูของตัวเองให้เป็นเหมือนพระราชวังจากฝรั่งเศส ดอกไม้สดมากกว่าหมื่นดอกถูกประดับตกแต่งทั่วทุกมุมราวกับสรวงสรรค์ คริสตัลหลายหมื่นเม็ดเล่นแสงกับไฟจนคนมองเผลอตาพร่าไปชั่วขณะแค่ค่าจัดงานก็ปาไปสิบล้านกว่า ๆ ไม่รวมกับชุดของบ่าวสาวที่สั่งตัดใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะชุดของเจ้าสาวที่ใช้เงินราว ๆ สิบห้าล้านในการตัดเย็บขึ้นมาเจ้าสาวของงานเลือกสวมชุดแต่งงานทั้งหมดห้าชุด ชุดแรกเป็นชุดไทยสีงาช้างสำหรับพิธีทำบุญเช้า สไบปักด้วยคริสตัลหลายพันเม็ด แซมด้วยพลอยสีชมพูอ่อนเพิ่มหวาน เพียงแค่ชุดแรกก็ทำเอาหลายคนตะลึงงัน เพราะไม่เคยเห็นนางร้ายอย่างจิรัชญาในลุคอ่อนหวานแบบนี้มาก่อนส่วนชุดที่สองเป็นชุดสำหรับพิธียกน้ำชาในช่วงสาย มินิเดรสพองฟูสีแดงสดทำจากผ้าลูกไม้ปักลายดอกโบตั๋น เคียงคู่กับเจ้าบ่าวในสูทคอจีนสีแดงปักดิ้นทองลายเดียวกับ
“เรื่องจริงเหรอคะ?” จิรัชญาถามเสียงหลง “เฮียไม่ได้ล้อจีเล่นใช่ไหม?”หลังจากมื้ออาหารแรกระหว่างเราในรอบหลายเดือนจบลง กฤตินก็เดินไปรินน้ำส้มคั้นสดให้คนรัก ระหว่างนั้นก็บอกเล่าเรื่องราวที่ตัวเองทำระหว่างที่อีกคนไม่อยู่ไปด้วยโดยเฉพาะเรื่องที่เขาเข้าไปทำงานให้เจแอนด์อาร์กรุ๊ป“เฮียไม่ได้ล้อเล่นค่ะ” เขาเอ่ยยิ้ม ๆ ยื่นแก้วน้ำส้มให้ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ“ทำไมล่ะคะ?”จิรัชญายังคงไม่เข้าใจ ว่าทำไมจู่ ๆ กฤตินก็ตัดสินใจแบบนี้ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เธอรู้ดีว่าเขารักงานที่ทำมากแค่ไหน แต่อยู่ดี ๆ ก็มาบอกว่าลาออก แล้วเปลี่ยนไปทำงานกับเจ้าสัวจรินทร์ได้หลายเดือนแล้วแบบนี้“เฮียแค่คิดว่าอยู่ตรงนี้ เฮียจะคู่ควรกับหนูมากกว่า มีหน้าที่การงานที่ดี ได้รับการยอมรับจากสังคม ไม่ใช่แค่นักวิจัยต๊อกต๋อยเงินเดือนไม่กี่หมื่น”“เพราะคำพูดของจีเมื่อก่อนเหรอคะ” คนถามหน้าสลดลง เพราะเมื่อก่อนที่เธอเคยพูดแย่ ๆ ใช่ไหม เขาถึงได้ติดสินใจทิ้งทุกอย่างเพื่อเธอแบบนี้ “หรือว่าคุณปู่บังคับ...”“ไม่ใช่ค่ะ เฮียแค่มองโลกตามความเป็นจริง หนูจีของเฮียเป็นถึงทายาทคนเดียวของเจ้าสัวจรินทร์ เฮียไม่อยากให้ใครมาดูถูกว่าหนูมีแฟนที่ไม่คู
*เวลาประเทศไทย06:00 ‘เฮียตื่นแล้วค่ะ หนูเสร็จงานแล้วอย่าลืมพักผ่อนนะคะ’10:10 ‘คิดถึงจัง’12:35 ‘พักทานข้าวแล้วค่ะ’17:07 ‘เฮียเลิกงานแล้วนะคะ กำลังกลับเพนท์เฮ้าส์ รถไฟฟ้าคนเยอะก็เลยลงมาเดินออกกำลังกาย คิดถึงหนูจัง’18:30 ‘วันนี้เฮียทำเกี๊ยวน้ำทานค่ะ โรซี่หม่ำอาหารเก่งมาก’19:49 ‘เฮียกำลังจะไปอาบน้ำค่ะ วันนี้ที่รักทำอะไรบ้างคะ ยุ่งจนไม่มีเวลาอ่านข้อความเลยเหรอ เฮียคิดถึง’22:00 ‘เข้านอนแล้วนะคะ ฝันดีค่ะที่รัก’.03:00จิรัชญาเพิ่งได้อ่านข้อความที่คนรักส่งมาทั้งหมด ตลอดสิบแปดชั่วโมงที่เดินทางกลับมาหาหัวใจ เธอไม่กล้าเปิดข้อความพวกนั้นอ่านแม้แต่ข้อความเดียว กลัวว่าจะทนคิดถึงไม่ไหวแล้วเฉลยไปว่ากำลังกลับ อดทำเซอร์ไพรส์อีกฝ่ายอย่างที่ตั้งใจไว้“รอจีอีกแป๊บนึงนะ” เอ่ยกระซิบกับตัวเอง หวังให้มันเข้าไปถึงความฝันของคนที่น่าจะกำลังหลับสบายเจ้าสัวส่งรถมารับหลานสาวกับแอนนาที่สนามบิน ใบหน้าของนักแสดงสาวและผู้จัดการอิดโรยเพียงเล็กน้อย เพราะถึงจะใช้เวลาเดินทางยาวนานเกือบหนึ่งวันเต็ม ๆ แต่ที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสค่อนข้างสบายและกว้างขวาง ฉะนั้นตอนนี้จิรัชญาไม่รู้สึกเหนื่อยแม้แต่นิดเดียว เธออยากกลับไปกอดเ
(ที่รักถึงแล้วเหรอคะ?)“เฮียยังไม่นอนอีกเหรอ” คนที่เพิ่งถึงอเมริกาถามด้วยความแปลกใจ เธอแค่ส่งข้อความไปบอกว่าถึงแล้วเพราะที่ไทยน่าจะประมาณตีสาม ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะโทรกลับมาทันทีแบบนี้แถมยังเลือกวิดีโอคอลมาอีก ภาพของคนรักที่นอนอยู่บนเตียง ไม่ใส่แว่น ไม่ใส่เสื้อ หัวฟูไม่เป็นทรงมันช่าง... SO HOTห่างกันยังไม่ทันครบยี่สิบสี่ชั่วโมงก็อยากกลับไปนอนกอดแฟนแล้ว(นอนไม่หลับค่ะ คิดถึงแฟน) ปลายสายส่งเสียงออดอ้อนจนคนฟังหลุดขำ“จีก็คิดถึงค่ะ นี่จีเข้าที่พักแล้วนะคะ กำลังเก็บของอยู่ ที่พักใช้ได้เลย” จิรัชญาเดินไปทั่วห้อง หันกล้องให้คนรักได้ดูด้วยว่าที่พักเป็นยังไงรายนั้นน่ะเป็นห่วงเธอสุด ๆ ที่พักก็เป็นคนเลือกให้เอง ไม่ยอมให้เช่าบ้านเป็นหลังเพราะอันตราย ส่วนคุณปู่ก็ไม่แพ้กัน เจ้าสัวจรินทร์ถึงขั้นเช่าอพาร์ตเมนต์หรูให้เธอกับพี่แอนนาอยู่ด้วยกัน ย้ำให้กฤตินเลือกโครงการที่ปลอดภัยที่สุด ส่วนเรื่องราคาไม่ต้องพูดถึง โชคดีที่คุณปู่เป็นคนจ่ายทั้งหมด ไม่อย่างนั้นค่าตัวเธอคงไม่เหลือเพราะต้องเอามาจ่ายค่าที่พักเดือนละหลายแสนบาทแบบนี้(ปลอดภัยดีใช่ไหมคะ?)“มาก ๆ เลยค่ะ พอ ๆ กับที่เพนท์เฮ้าส์เลย”(ได้ยินแบบนี้เฮียก็
“อเมริกา?” กฤตินทวนชื่อประเทศที่แสนห่างไกลด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย“ค่ะ”“หนูไปทำอะไรคะ?”“มีผู้กำกับหนังฮอลลิวูดติดต่อมา เขาอยากให้จีไปรับบทนำในหนังของเขา แต่หนังต้องใช้เวลาถ่ายครึ่งปี จีก็เลย...”“จริงเหรอคะ!?” ครั้งนี้กฤตินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขาอุ้มร่างบางขึ้นก่อนจะหมุนไปรอบ ๆ ด้วยความดีใจ “หนูจีของเฮียเก่งที่สุดเลย!”“เฮีย... เฮีย เฮียปล่อยจีก่อน จีเวียนหัว” มือบางตีอกกว้างเบา ๆ เขาหมุนจนเธอเวียนหัวไปหมดแล้ว“ขอโทษค่ะ เฮียดีใจมากเกินไปหน่อย”คนที่ดีใจจนเกินหน้าเกินตารีบวางคนรักลง ดวงตาชั้นเดียวมองสำรวจใบหน้าสวยว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า พอเห็นว่าคนรักไม่ได้มีท่าทีอยากอาเจียนก็ถอนหายใจโล่งอก“ไม่โกรธเหรอคะที่จีเลือกไปอเมริกาแทนที่จะแต่งงานกับเฮีย”“ถ้าโกรธ เฮียคงเป็นแฟนที่แย่ที่สุดแล้วล่ะค่ะ” กฤตินจับมือบางมากุมไว้ “แต่งงานน่ะเมื่อไหร่ก็แต่งได้ จะอีกปี สองปี ห้าปี หรือสิบปีเฮียก็รอได้ แต่โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีเข้ามาบ่อย ๆ หนูเลือกถูกแล้วค่ะ ไม่ต้องกังวลนะ นานแค่ไหนเฮียก็จะรอ”“จะรอ...จริง ๆ นะ”“จริงค่ะ หัวใจของเฮียอยู่ที่หนู เฮียจะไปไหนได้ เฮียสัญญาว่าจะรอ ให้หอไอเฟลเป็นพยาน
ในที่สุดเรื่องวุ่นวายทั้งหมดก็คลี่คลายลง คนทำผิดยอมรับสารภาพเกือบทั้งหมด มีแค่พิมมาดาที่ยังปิดปากเงียบ แต่หลักฐานที่มัดตัวทำให้ดิ้นไม่หลุด ท่านพินิจทำได้แค่ประกันตัวลูกสาวออกมาชั่วคราว ยอมให้ลูกถูกขังในบ้านดีกว่าต้องนอนให้ห้องขังจะดีจะร้ายยังไงก็ลูกการดำเนินการทางกฎหมายต้องใช้เวลา ระหว่างที่รอขึ้นศาลตัดสินคดีของสามคนนั้น กฤตินตัดสินใจลางานยาวสองอาทิตย์เป็นครั้งแรกตั้งแต่ทำงานมา เพื่อพาคนรักไปพักผ่อนที่ยุโรปเริ่มต้นด้วยกรุงโรมประเทศอิตาลี เมืองแห่งศิลปะและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ต่อด้วยสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติงดงามเหมือนภาพวาด และปิดท้ายด้วยกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส เมืองแห่งน้ำหอมที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกเหมาะสำหรับคู่รักทริปนี้กฤตินตระเตรียมทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งที่พัก ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด รวมถึงการเดินทางที่กฤตินรับหน้าที่เป็นสารถีตลอดทริปทั้งสามประเทศ ไม่ยอมให้หนูจีต้องลำบากขึ้นรถสาธารณะแม้แต่ครั้งเดียว เรียกได้ว่าเป็นทริปพักผ่อนของจิรัชญาที่แท้จริง นอกจากตื่นมากิน เที่ยว ถ่ายรูปสวย ๆ แล้ว เธอแทบไม่ต้องทำอะไรเลย“ชอบไหมคะ?”แขนแกร่งรว
“ฮึก”พิมมาดาสะอื้นออกมาเบา ๆ ในอ้อมแขนของบิดา ท่าทางน่าสงสารทำให้ท่านพินิจต้องโอบกอดลูกสาวแน่นขึ้นเพื่อกางปีกปกป้อง ขณะเดียวกันก็ส่งสายตาผิดหวังไปให้ลูกสาวอีกคนลูกสาวที่เกิดจากความรักจากทั้งเขาและคนรักชื่อว่านภา ทว่าเขาไม่เคยมีโอกาสได้เลี้ยงดู จนกระทั่งคุณหญิงพิมประภา ภรรยาตีทะเบียนอดีตนักแสดงชื่อดังจากไปด้วยโรคร้าย เขาถึงได้กล้าพาลูกและภรรยาที่ซุกซ่อนไว้เข้ามาอยู่ในบ้าน แต่ไม่นานนภาก็จากไปด้วยโรคร้ายเหมือนกันกับพิมประภาเหลือเพียงลูกสาวสองคนที่หน้าตาสะสวย นิสัยน่ารักอ่อนหวานไว้เป็นตัวแทนของคนทั้งคู่โดยเฉพาะนับดาว ลูกที่เกิดจากความรักนับดาวเป็นเด็กน่ารัก เรียบร้อยและเรียนเก่ง หน้าตาอ่อนหวานเหมือนแม่ แต่ก็มีบางส่วนที่คล้ายกับเขา พิมมาดาเองก็หน้าคล้ายเขาเหมือนกัน ทำให้ถ้ามองเผิน ๆ ใคร ๆ ต่างก็มองออกว่าสองคนนี้เป็นพี่น้องกันถ้าไม่ใช่เพราะต้องแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง เขากับแม่ของนับดาวคงแต่งงานอยู่กินกันอย่างมีความสุขไปแล้วตอนนั้นครอบครัวต้องการให้พินิจแต่งงานกับผู้หญิงที่คนทั้งประเทศรู้จัก เพื่อใช้ชื่อเสียงของเธอมาหนุนให้ครอบครัวรวมถึงตัวเขามีชื่อเสียงในแวดวงการเมืองมากกว่