“ทำไมมาช้าจัง เรารอกฤตตั้งนาน”
ทันทีคนตัวสูงเดินเข้ามาใกล้ นับดาวก็แกล้งบ่นออกมาด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนัก ดวงตาคู่สวยเป็นประกายระยิบระยับ เฝ้ามองจนกระทั่งอีกฝ่ายทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“พอดีว่าที่คณะมีกองถ่ายมาถ่ายละครน่ะ เราเลยเดินอ้อมไปทางหลังตึก จะได้ไม่รบกวนพวกเขา”
“อ๋อ” นับดาวขานรับง่าย ๆ เธอส่งยิ้มกว้างให้เพื่อนสนิทจนแก้มทั้งสองข้างเกิดเป็นรอยบุ๋ม “เราสั่งข้าวให้แล้วนะ เหมือนเดิม”
“ขอบคุณนะ”
“อื้อ”
หญิงสาวพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ตั้งแต่เห็นหน้ากฤตินอาจารย์คนสวยก็เอาแต่ยิ้มกว้าง รอยยิ้มของนับดาวซื่อตรงกับความรู้สึก ใครมองมาก็พอจะเดาได้ว่าหญิงสาวที่ทั้งสวย ทั้งน่ารัก และอ่อนหวานคนนี้ คิดกับเพื่อนสนิทที่คบหากันมาเป็นสิบปีแบบไหน
คงจะมีแต่เจ้าตัวที่ไม่เคยรู้อะไรเลย
กฤตินเป็นหนุ่มเนิร์ด เรียนเก่งตั้งแต่เด็ก เวลามากกว่าครึ่งชีวิตเขาใช้มันไปกับการอ่านหนังสือ ไม่เคยมีแฟน แม้แต่เพื่อนก็มีแค่นับดาวคนเดียว วัน ๆ เอาแต่เรียน เรียน และก็เรียน จนได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศมาครอง
แต่กฤตินก็ยังไม่หยุด นับดาวได้ข่าวว่าเพื่อนคนนี้กำลังขุดค้นพื้นที่หนึ่งในจังหวัดลำปาง เพื่อหาหลักฐานมายืนยันข้อสันนิษฐานว่าที่ตรงนี้เคยมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่าที่นักวิชาการคนอื่น ๆ เคยค้นเจอ
ถ้าทำสำเร็จ ผลงานนี้อาจจะได้รับรางวัลระดับโลก นับดาวรู้ว่ากฤตินไม่ได้สนใจรางวัลพวกนั้น สิ่งที่เขาสนใจมีแค่ประวัติศาสตร์และของโบราณที่ขุดค้นเจอ แต่เธอก็อดภูมิใจแทนไม่ได้
“งานขุดไปถึงไหนแล้ว” นับดาวจบบัญชี คนละสายกับกฤตินอย่างสิ้นเชิง แต่เธอชอบเวลาที่เขาเล่าเรื่องงานให้ฟัง เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนพิเศษ
“ขุดได้ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักพักเลย”
“อาทิตย์หน้าก็จะไปอีกเหรอ”
“อืม เราลงไปดูหน้างานเองอาจจะได้อะไรมากกว่านี้”
“ดูแลตัวเองด้วยนะ เราเป็นห่วง”
“ขอบคุณนะนับดาว”
มุมปากหยักยกยิ้มเพียงเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าอ่านเอกสารระหว่างรออาหารที่สั่งมาเสิร์ฟ กฤตินสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาแม้กระทั่งตอนนี้ ไม่แปลกเลยที่จะไม่เคยมีแฟน เพื่อนสนิทก็มีแค่คนเดียว เพราะคงไม่มีใครเข้าใจเขาได้นอกจากนับดาว
คนแอบรักใช้มือเท้าคาง มองกฤตินที่กำลังจริงจังกับงานด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดี ก่อนดวงตาคู่สวยจะสะดุดลงที่ร่องรอยแปลกประหลาดบนเอกสารงานสำคัญของเขา
“นั่นคืออะไรเหรอ?”
“หืม?” กฤตินพลิกกระดาษขึ้นดู ก่อนจะร้องอ๋อ “ลายเซ็นน่ะ”
“ลายเซ็นใครเหรอ” ไม่ใช่ลายเซ็นของกฤตินแน่นอน เธอจำได้ และลายเซ็นนี้ก็น่ารักเกินกว่าจะเป็นลายเซ็นของผู้ชาย
เขายอมให้คนอื่นเขียนเอกสารงานของตัวเองเล่นงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้หรอก สำหรับกฤตินไม่มีอะไรสำคัญไปกว่างาน เธอรู้ดี
“ไม่รู้เหมือนกัน”
คำตอบส่ง ๆ ของกฤตินไม่ได้ทำให้นับดาวหายสงสัย แต่ยังไม่ทันได้ถามต่ออาหารที่สั่งไว้ก็มาเสิร์ฟ นับดาวเก็บทุกความสงสัยไว้ในใจ ส่งยิ้มให้เพื่อนสนิทเมื่อชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาขอบคุณกันอีกครั้ง
ไม่มีอะไรหรอก บางที...อาจจะเป็นลายเซ็นของผู้ช่วยก็ได้
นับดาวบอกตัวเองแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าเอกสารของกฤตินไม่มีใครแตะต้องได้ แม้แต่ตัวเธอเองก็ตาม
.
.“ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะน้องจี”
แอนนาถามพลางเปิดพัดลมจิ๋วให้จิรัชญาคลายร้อน ใบหน้าสวย ๆ ฉายแววหงุดหงิดเล็กน้อยทั้ง ๆ ที่เพิ่งไปพักมาแท้ ๆ
“เจอแฟนคลับน่ะสิคะ ขนาดจีหนีไปอยู่เงียบ ๆ แล้วนะ” นางร้ายสาวบ่นกระปอดกระแปดตามประสา
“ก็น้องจีเป็นคนดังนี่คะ มีใครบ้างไม่รู้จักราชินีของวงการบันเทิงอย่างน้องจี ยังไม่ชินอีกเหรอคะ”
แอนนาเอ่ยพลางนวดไหล่ให้น้องเบา ๆ ที่เธอพูดมามันเป็นเรื่องจริงทั้งนั้น มีแค่คนส่วนน้อยในประเทศนี้ที่ไม่รู้จักจิรัชญา นางร้ายเบอร์หนึ่งที่โด่งดังกว่านางเอกพระเอกตัวท็อปบางคน ดังจนถึงขั้นได้ฉายา ราชินีแห่งวงการบันเทิง มาครอบครอง
ถึงบางครั้งจะดังในทางลบก็เถอะ
แต่ก็ใช่ว่าน้องจีจะไม่มีผลงานเลย ตรงกันข้าม คิวงานของน้องต้องจองล่วงหน้านานเป็นปี ๆ หนังและละครที่จิรัชญารับเล่นการันตีได้ว่าจะดังเป็นพลุแตกทุกเรื่อง เปิดทีวีช่องไหนก็เจอ หรืออย่างน้อย ๆ ก็ต้องเคยขับรถหรือนั่งรถผ่านป้ายโฆษณาที่จิรัชญาเป็นพรีเซนเตอร์บ้าง
หาคนที่ไม่รู้จักจิรัชญา ยากพอ ๆ กับงมเข็มในมหาสมุทร
“ช่างเถอะค่ะ จีไปเตรียมตัวเข้าฉากดีกว่า”
จิรัชญาลุกขึ้นยืน แต่ไม่ทันได้เดินออกไปเตรียมตัวอย่างที่ตั้งใจ มือถือเครื่องหรูที่ฝากไว้กับแอนนาก็ส่งเสียงดังขึ้นก่อน
“เบอร์แปลกค่ะ พวกสต็อกเกอร์หรือเปล่า น้องจีไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ” แอนนากดตัดสายนั้นทันที น้องจีไม่ค่อยให้เบอร์ส่วนตัวกับใคร ยิ่งเป็นเรื่องงานยิ่งไม่ใช่ เพราะแอนนาให้ติดต่อผ่านเธอเท่านั้น
จิรัชญาก็ไม่คิดจะใส่ใจเหมือนกัน แต่เสียงเรียกเข้าที่ดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้นางร้ายอารมณ์ร้อนเริ่มหงุดหงิด เธอฉวยมือถือจากมือของพี่แอนนาแล้วกดรับด้วยความรำคาญ ถ้าเป็นสต็อกเกอร์หรือมิจฉาชีพเธอจะด่าให้หูแตกเลย คอยดู
“ฮัลโหล!”
(จี ตัดสายฉันทิ้งทำไม)
“นั่นใคร”
(อย่าบอกนะว่าเธอจำเพื่อนตัวเองไม่ได้?)
“จำไม่ได้”
และไม่จำเป็นต้องจำด้วย เพราะเธอไม่มีเพื่อน ปลายสายน่าจะเป็นมิจฉาชีพที่กำลังระบาดในช่วงนี้มากกว่า
จิรัชญากำลังจะกดวางสาย แต่เสียงของอีกฝ่ายกลับดังขึ้นก่อน
(ใจร้ายจังนะ) เธอตัดพ้อ (ฉันซินดี้เอง)
.
.วันเสาร์นี้จิรัชญาไม่มีคิวถ่ายละครหรือถ่ายโฆษณา ไม่มีอีเว้นท์ ไม่มีงานเดินแบบ เธอตั้งใจว่าจะนอนให้สมกับที่ทำงานหนักมาทั้งอาทิตย์ ดูหนังเรื่องที่อยากดู และเล่นกับโรซี่ แมวเพศเมียแสนสวยพันธุ์แร็กดอลล์ที่เลี้ยงเอาไว้ แต่แผนนั้นก็ต้องถูกพับไป เพราะสายจากเบอร์แปลกหน้าเมื่อไม่กี่วันก่อน
.
(ฉันซินดี้เอง)
“มีอะไร”
(ทำไมพูดกับเพื่อนเย็นชาแบบนั้นล่ะ)
“ฉันมีงานต้องทำ มีอะไรก็รีบพูดมา”
(หลินหลินกำลังจะแต่งงาน วันเสาร์นี้จะจัดปาร์ตี้สละโสด หลินหลินเลยอยากชวนเพื่อน ๆ ให้มาดื่มฉลองด้วยกัน แต่ยัยคนนั้นไม่มีเบอร์เธอ ฉันเลยเป็นธุระโทรมาชวนแทนน่ะ)
“ฉันไม่ว่าง”
(จี อย่างน้อย ๆ เราก็เป็นเพื่อนกันนะ เพื่อนกำลังจะมีครอบครัว เธอจะไม่มาแสดงความยินดีหน่อยเหรอ)
.
เพื่อนงั้นเหรอ?
คนพวกนั้นกล้าเรียกตัวเองว่าเพื่อนได้ยังไง ไม่รู้จักอายปาก
แต่ในเมื่ออยากให้เธอไปนัก เธอก็จะไป
จิรัชญาจอดลูกรักสีแดงเพลิงหน้าสถานบันเทิงชื่อดังขนาดใหญ่สมกับฐานะของว่าที่เจ้าสาว ขาเรียวยาวก้าวลงจากรถ เธอไม่สนใจสายตาหลายสิบคู่ที่มองมาด้วยความตะลึงงัน เพราะไม่คิดว่าจะได้เจอกับซูเปอร์สตาร์ชื่อดังใกล้ ๆ แบบนี้
“นั่นควีนไม่ใช่เหรอ?”
“จิรัชญา ตัวจริงโคตรสวย”
“หุ่นโคตรน่าฟัด”
“แต่หยิ่งฉิบหาย”
“ยิ่งยากก็ยิ่งเร้าใจไม่ใช่เหรอ?”
“สวยแค่รูป แต่จูบไม่หอม เปลี่ยนแฟนไม่ซ้ำหน้าแบบนั้นคงกลวงหมดแล้วมั้ง”
และอีกสารพัดที่จิรัชญาต้องแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ตลอดทางที่เธอเดินลงจากรถ เข้ามาในตัวผับ จนถึงโต๊ะวีไอพีของว่าที่เจ้าสาว เธอได้ยินทั้งคำชื่นชม แทะโลม และด่าทอไม่ซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าวันนี้ตั้งใจจะรีบมารีบกลับไม่อยากมีเรื่องกับใคร เธอจะหันไปด่ากราดให้หมด
“จีมาแล้ว” เสียงของเพื่อนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ไม่วายค่อนแคะ “กว่าจะมาได้นะ”
“งานเพิ่งเสร็จ” เธอโกหกเสียงเรียบ ปรายตามองพวกหล่อนด้วยสายตาว่างเปล่า ที่มาช้าก็เพราะไม่อยากอยู่กับพวกเธอนาน ๆ ไง ยังไม่รู้ตัวกันอีก
“ช่างเถอะ ยังไงก็มาแล้ว นั่งก่อนสิ” ซินดี้รีบเอ่ยแก้สถานการณ์ชวนอึดอัด “เธอจะดื่มอะไรจี”
“น้ำเปล่าก็พอ”
“ล้อเล่นหรือเปล่า อย่างเธอน่ะเหรอจะดื่มแค่น้ำเปล่า”
คำถามนั้นมาพร้อมกับเสียงหัวเราะเย้ยหยัน จิรัชญามองไปยังว่าที่เจ้าสาว ที่อยู่ในชุดเดรสสั้นสีขาวบริสุทธิ์แต่แอบเซ็กซี่ ติดเวลเจ้าสาวฟองฟูชวนให้ดูอ่อนหวาน เธอนั่งเด่นเป็นสง่าตรงกลางโซฟารูปตัวยู ล้อมรอบด้วยเพื่อนอีกหลายคนที่คอยประจบเอาใจ
ดวงตาทั้งสองคู่มองสบกัน ก่อนว่าที่เจ้าสาวจะเรียกบริกรที่ดูแลโต๊ะวีไอพีโดยเฉพาะให้เข้ามา
“ฉันสั่ง sex on the beach ให้ก็แล้วกัน เหมาะกับเธอดี ชอบทำเรื่องลับ ๆ ในที่เปิดเผยอยู่แล้วนี่”
หลินหลินพูดด้วยรอยยิ้ม ที่แม้แต่เด็กอนุบาลยังมองออกว่ากำลังจิกกัดเธออยู่
“อือหึ ฉันชอบ เร้าใจจะตายไป เธอไม่ลองดูบ้างล่ะ”
อย่าคิดว่าคนอย่างจิรัชญาจะยอม เธอตอบกลับด้วยรอยยิ้มเย็นประจำตัว ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งตรงที่ว่าง ยกขาขึ้นไขว้กันอย่างไม่รู้สึกรู้สา
เรื่องมันผ่านมาเป็นชาติแล้ว แต่หลินหลินก็ยังไม่ยอมเลิกแขวะเธอสักที ต้องให้พูดอีกกี่ครั้งว่าแฟนของหล่อนนั่นแหละมายุ่งกับเธอเอง เธอไม่เคยเล่นด้วยเลยสักครั้ง นี่ที่ลงทุนให้ซินดี้โทรมาชวนทั้ง ๆ ที่ไม่ได้สนิทกันแล้ว คงเพราะอยากเยาะเย้ยเธอเรื่องนี้สินะ
ถามว่าต้องรู้สึกอะไรไหม?
จิรัชญาจิบเครื่องดื่มที่หลินหลินสั่งมาให้เพียงเล็กน้อย วันนี้เธอขับรถมาเอง ไม่ได้บอกผู้จัดการด้วยว่าออกมาดื่ม นี่ถ้าพี่แอนนารู้ต้องบ่นหูชาแน่ ๆ เพราะถ้าเป็นปกติพี่แอนนาจะมาเป็นเพื่อน คอยขับรถให้เมรีขี้เมาอย่างเธอ
จิรัชญาชอบดื่ม เรียกได้ว่าเป็นสายดริงก์ตัวแม่ แต่เธอมีบาร์ที่ไปประจำและเป็นส่วนตัวมากอยู่แล้ว ไม่ใช่ผับที่เสียงดังแบบนี้
“แล้วเธอล่ะจี เพิ่งเลิกกับแฟนไปไม่ใช่เหรอ มีหนุ่มคนใหม่มาดามใจหรือยังล่ะ?”
ไม่รู้ว่าพวกหล่อนคุยอะไรกันก่อนหน้านี้ จิรัชญาได้ยินแค่คำถามนั้นจากเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ กัน เพื่อนที่เธอจำชื่อของหล่อนไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ยังไม่มี”
“ทำไมล่ะ”
“ก็แค่ตอนนี้ยังไม่อยากมี”
“อย่าไปถามเซ้าซี้เลย คนแบบจิรัชญาเดี๋ยวก็หาใหม่ได้ เปลี่ยนแฟนบ่อยกว่าแปรงสีฟันขนาดนั้น” หลินหลินเอ่ยยิ้ม ๆ
“ถ้าได้ของไม่ดีก็ควรรีบเปลี่ยนไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่กล้ำกลืนฝืนทนใช้ต่อทั้ง ๆ ที่รู้ว่าของชิ้นนั้นมันห่วยแค่ไหน ใช่ไหมจ๊ะหลินหลิน”
“นี่!”
“ไม่เอาน่า วันนี้วันดี นาน ๆ จะรวมตัวกันได้ทั้งที อย่าทะเลาะกันเลยนะ” ซินดี้รีบห้ามทัพ เมื่อเห็นว่าว่าที่เจ้าสาวกำลังจะปรี๊ดแตก จากงานสนุก ๆ จะกลายเป็นเวทีมวยซะเปล่า ๆ
“ฉันกลับก่อนดีกว่า พรุ่งนี้มีงานแต่เช้า”
จิรัชญาลุกขึ้นยืนอย่างหมดความอดทน เธอไม่ชอบอะไรปลอม ๆ แบบนี้เท่าไหร่ เพื่อนพวกนี้จะเรียกว่าสนิทกันยังกระดากปาก พวกเรารู้จักกันก็เพื่อฐานะทางสังคมเท่านั้น ลับหลังต่างคนต่างแอบหยิกหลังกันจนเหวอะหวะไปหมด ทุกอย่างที่เห็นตรงหน้าคือของปลอม คำพูด รอยยิ้ม หรือแม้แต่เสียงหัวเราะก็ปลอม ไม่รู้จะให้เธอมาทำไม
เสียเวลา
“อ้อ หลินหลิน ยินดีด้วยนะที่กำลังจะได้แต่งงาน ฉันคงไม่ว่างไปงานของเธอ แต่ก็ขอให้โชคดีแล้วกัน”
.
.
.
.
.
TBC
“จี เดี๋ยวก่อนสิ”ซินดี้วิ่งตามจิรัชญาออกมาติด ๆ จนกระทั่งใกล้ถึงรถยนต์คันหรูนางร้ายสาวถึงยอมหยุด เธอหันกลับไปมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาเบื่อหน่าย“มีอะไรอีก”“ฉันขอโทษนะที่ชวนเธอมาวันนี้ ไม่คิดว่าหลินหลินจะเอาแต่แซะเธอไม่หยุด”“รู้ตัวก็ดี”อย่าคิดว่าจิรัชญาจะทำตัวเป็นแม่พระ พูดว่าไม่เป็นไรอะไรทำนองนั้น เพราะเธอคือนางร้ายที่ร้ายทั้งในจอและนอกจอ ไม่จำเป็นต้องใจดีกับคนที่สร้างปัญหาให้กับตัวเอง ถ้าไม่ใช่เพราะซินดี้โทรตาม วันนี้เธอคงได้พักผ่อน ไม่ต้องมาหงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ซินดี้หน้าเสียไปเล็กน้อย แต่สุดท้ายนางแบบสาวก็เลือกยิ้มออกมาบาง ๆ เธอคว้ามือเรียวของจิรัชญาไว้ ดวงตาสวยคมเหมือนเหยี่ยวหลุบมองมือที่ถูกจับด้วยสายตาเรียบเฉย“เธออาจจะไม่ได้มองว่าฉันเป็นเพื่อนแล้ว แต่สำหรับฉัน...เธอคือเพื่อนของฉันเสมอนะจี”ได้ยินแบบนั้นจิรัชญาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ พลางคิดถึงเรื่องในวันวานสมัยที่ยังเป็นนักศึกษา เธอ หลินหลิน และซินดี้เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ไม่ได้สนิทจนเรียกว่าเพื่อนรักเพื่อนตายแต่ก็ไม่ได้แตกแยกเหมือนทุกวันนี้ พวกเรามักจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ ดีกันบ้าง บาดหมางกันบ้างตามประสาคนที่
“สร้อยเส้นนี้ทำจากเพชรที่สะอาดที่สุดในโลก ต่อให้ใช้กล้องส่องเพชรก็มองไม่เห็นตำหนิ ความงามไม่ต้องพูดถึง เพชรน้ำ 100 ขาว ใส ไม่มีตำหนิแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่าย ๆ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้น...”มือที่สวมถุงมือผ้าสีดำยกตัวจี้ขึ้นมาให้คนในห้องดู แอนนาอ้าปากค้างไปแล้ว ส่วนจิรัชญาก็มองเพชรเม็ดนั้นด้วยความสนใจเหมือนกันเพชรสีชมพู ที่ว่ากันว่าเป็นสีที่หายากที่สุดไม่แปลกใจเลยที่รอบตัวเธอจะเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกือบสิบคนแบบนี้ มูลค่าของเพชรเม็ดนี้คงประเมินค่าไม่ได้“แอนนาจะตาบอดแล้วค่ะ”ผู้จัดการสาวยกมือขึ้นปิดตา เรียกเสียงหัวเราะเบา ๆ จากคนที่อยู่ในห้อง เธอไม่ได้ล้อเล่นนะ แสงจากเพชรที่กระทบกับไฟมันส่องประกายวิบวับจนตาพร่าไปหมด เม็ดใหญ่ขนาดนั้น เธอไม่อยากจะเดาราคาเลย“เฉพาะเม็ดนี้หนักห้าสิบเก้ากะรัต ไม่รวมเพชรที่เป็นตัวสร้อย คุณจีลองใส่ดูครับว่าไหวหรือเปล่า”“ค่ะ” จิรัชญาพยักหน้ารับเบา ๆ เธอนั่งหลังตรง ปล่อยให้เจ้าหน้าที่จากแบรนด์สวมสร้อยเส้นนั้นลงบนลำคอระหง ดวงตาคู่สวยมองตัวเองในกระจกอย่างพึงพอใจ“หนักไหมครับ”“พอได้ค่ะ”“คุณจีทำให้เพชรของเราสวยขึ้นมากเลยครับ ผมดีใจที่คุณรับคำขอของเรา ไม่
จิรัชญาลงมาจากเวที ทันทีที่ถอดสร้อยคืนให้กับเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยของแบรนด์เรียบร้อย แอนนาก็รีบดึงเธอออกมาจากงานอย่างร้อนรน หญิงสาวเดินตามผู้จัดการด้วยความงุนงง แต่มากกว่านั้นคือเหล่าบรรดาสื่อมวลชนที่วิ่งตามพวกเธอมาเหมือนฝูงซอมบี้ โชคดีที่ประตูลิฟต์ปิดลงก่อน“พี่ใจจะวายอยู่แล้ว!”“อะไรกันคะพี่แอนนา”จิรัชญาไม่เข้าใจอะไรเลย เธอยังไม่ทันได้พูดคุยหรือร่ำลาใครสักคน และปกติพี่แอนนาก็ไม่ใช่คนที่รีบร้อนจนหลงลืมมารยาทแบบนี้ ไหนจะสื่อพวกนั้นอีก ทำไมถึงวิ่งตามเธอมา แทนที่จะไปสัมภาษณ์แขกในงานที่มีแต่คนดังระดับโลกมาวิ่งตามดาราไทยธรรมดา ๆ แบบเธอทำไม“น้องจีไปทำอะไรไว้ล่ะคะ!” แอนนาถามกลับตาขวาง“จียังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ”พอโดนเคืองไม่มีเหตุผลแบบนี้จิรัชญาก็เถียงกลับทันที เธอไม่เข้าใจว่าพี่แอนนามาค้อนใส่กันทำไม ตั้งแต่เลิกกับแบรนดอนเธอก็ไม่ได้สร้างเรื่องอะไรอีกเลย ทำแต่งาน พี่แอนนาก็เห็น“ไว้ถึงห้องค่อยคุยกันค่ะ ยาวแน่” แอนนาตอบแค่นั้นจิรัชญากอดอกด้วยความไม่พอใจ เธอเดินตามแอนนากลับห้องพักด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง พี่แอนนาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำให้เด็กเอาแต่ใจตัวเองแบบเธอเริ่มพยศแอนนารู้ดีว่าต้องรับ
เที่ยงของวันต่อมา แอนนาบอกกับจิรัชญาว่าทุกอย่างพร้อมแล้วแผนหนีนักข่าวของพี่แอนนา ทำให้ควีนของวงการมายาเกือบจะต้องติดหนวดปลอมตัวเป็นผู้ชาย จิรัชญาต้องจำใจใส่เสื้อผ้าคนละแนวกับที่ชอบใส่ ใช้ผ้าพันคอคลุมศีรษะ ใส่แว่นดำ แล้วเดินแอบ ๆ เหมือนขโมยไปที่รถอีกคันที่พี่แอนนาหามาให้สื่อกัดไม่ปล่อยจริง ๆ ถ้าไม่ได้พี่แอนนาที่ออกไปรับหน้าแทน ตอนนี้เธอคงเละเป็นโจ๊กไปแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องเธอยังไม่ได้คุยกับพี่นนท์เลย ไม่รู้ว่าทางนั้นเห็นข่าวหรือยัง แต่ถ้าพี่นนท์อยากให้ออกมาแก้ข่าวเธอก็จะทำ ถึงปกติจะไม่ชอบมานั่งแก้ข่าวไร้สาระพวกนี้เท่าไหร่ แต่เรื่องนี้มันไม่ได้กระทบกับเธอแค่คนเดียวอีกแล้ว พี่นนท์เองก็ไม่ใช่ลูกตาสีตาสา ไหนจะพิมมาดาที่ยังต้องทำงานด้วยกันอีกแต่เรื่องพวกนั้นช่างมันก่อน ตอนนี้เธออยากจัดการกับคนที่สร้างเรื่องบ้า ๆ นี่ขึ้นมาจะแย่ อยู่กันดี ๆ ไม่ได้ก็ต้องเจอสักทีนี่แหละ จะได้เลิกบ้ารถญี่ปุ่นสีขาวเรียบ ๆ ไม่โดดเด่นขับออกจากโรงแรม ไม่มีใครคิดว่าคนขับเป็นจิรัชญาสักคน แผนของพี่แอนนาได้ผล เพราะถ้าเธอดื้อจะขับลูกรักสีแดงเพลิงพวกนักข่าวคงจับได้ก่อนมือเรียวสวยหมุนพวงมาลัยไปอีกทางพร้อมกับดวงตากรุ่นโ
“...ปล่อย”“ขอโทษครับ”กฤตินรีบปล่อยมือจากท่อนแขนเล็ก เอ่ยขอโทษที่ทำตัวไม่สุภาพ แตะเนื้อต้องตัวเธอโดยไม่ได้รับอนุญาตเธอไม่ได้พูดอะไรและเดินจากไปด้วยท่าทางเหม่อลอย ศาสตราจารย์หนุ่มส่ายหน้าเบา ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่นทำไม แต่จะให้ยืนดูคนตบตีกันเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรเลย เขาทำไม่ได้จริง ๆโชคดีที่ทุกอย่างจบลงด้วยดี นอกจากตัวเขาก็ไม่มีใครที่ต้องเจ็บตัวอีก ผู้หญิงอีกคนเดินหายเข้าไปในคอนโด เธอน่าจะอยู่ที่คอนโดนี้เหมือนกัน ส่วนคนที่ตบหน้าเขาจนแสบเดินไปอีกทาง ท่าทางของเธอดูน่าเป็นห่วงปล่อยไปแบบนั้นจะไหวหรือเปล่า?กฤตินส่ายหน้าอีกครั้ง พอแล้ว... เขาควรเลิกยุ่งกับเรื่องของพวกเธอเสียที ขายาวเดินไปที่รถของตัวเองอย่างแน่วแน่ เขาต้องรีบกลับไปที่โรงพยาบาล คุณกุสุมากำลังรออยู่...“เฮ้อ!”แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว กฤตินตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน วิ่งตามคนที่เดินเหม่อลอยแล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“คุณจะไปไหนครับ ให้ผมไปส่งไหม”“ไม่ต้อง”“มืดแล้วนะครับ เดินออกไปแบบนี้มันอันตราย”“.....”“มาเถอะครับ เดี๋ยวผมไปส่ง”กฤตินฉวยโอกาสผู้หญิงอีกแล้ว เขาออกแรงดึงแขนเรียวเบา ๆ อีกฝ
“พี่แอนนา”ในที่สุดจิรัชญาก็หนีหน้าคนที่ตัวเองจงใจไม่รับสายทั้งวันไม่พ้น ผู้จัดการที่เปรียบเสมือนพี่สาวแท้ ๆ นั่งกอดอกอยู่บนโซฟากลางเพนท์เฮ้าส์ ใบหน้าของหล่อนบึ้งตึง แอนนาเหลือบมองน้องเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้าไปทางอื่นด้วยความโกรธครั้งนี้เธอโกรธน้องจีจริง ๆ“จีขอโทษนะคะ”ร่างบอบบางขยับเข้าไปโอบกอดร่างที่สูงใหญ่กว่าตัวเองอย่างลุแก่โทษ แอนนาเป็นผู้หญิงข้ามเพศที่แปลงเพศแล้ว แต่เพราะโครงร่างใหญ่แบบผู้ชายมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้เธอตัวสูงและหนากว่าจิรัชญาพอสมควรแต่ตอนนี้พี่สาวตัวโตกำลังน้อยใจน้องสาวตัวเล็กมาก ๆ น้อยใจจนไม่ยอมหันมาคุยด้วยเลย จิรัชญาเลยต้องงัดลูกอ้อนที่มีออกมาใช้ทั้งหมด“พี่แอนนาขา พี่แอนนาคนสวย”“ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนั้นเลยค่ะ ครั้งนี้พี่โกรธน้องจีจริง ๆ”“แต่จีมีเหตุผลนะคะ” หญิงสาวแย้งเสียงอ่อย “จีแค่ไปหาตัวต้นเรื่องที่ปล่อยคลิปมา...”แอนนาหันขวับ เธอรีบสำรวจร่างกายน้องว่ามีตรงไหนบุบสลายหรือเปล่า พอเห็นว่าทุกอย่างปกติดีก็โล่งใจ“พี่แอนนาเป็นห่วงจีเหรอคะ”“ไม่ห่วงหรอกค่ะ น้องจีเก่งออกขนาดนั้น” ประชดไปหนึ่งที ก่อนจะเชิดหน้าไปอีกทางเพราะไม่ยอมหายงอนง่าย ๆ“เพื่อนเก่าจีเป็นคนปล่อยคล
Porsche 911 สีแดงเพลิง สนนราคาสิบสี่ล้านไม่ขาดแต่เกินเลี้ยวผ่านประตูรั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ ความเร็วของรถคันหรูทำให้การ์ดผู้ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำความเคารพคุณหนูไม่ทัน พริบตาเดียวรถคันสวยก็หายไปแล้วจิรัชญาจอดลูกรักหน้าประตูไม้สักทองบานใหญ่ ที่ถูกแกะสลักด้วยลวดลายวิจิตรตระการตาจากช่างฝีมือระดับโลก เธอดับเครื่องยนต์ บอดี้การ์ดที่มารอรับเปิดประตูให้คุณหนูอย่างรู้หน้าที่ ร่างสะโอดสะองก้าวขาเรียวลงมาอย่างสง่างาม ส่งกุญแจให้บอดี้การ์ดเอารถไปจอดดวงตาคู่สวยหลังแว่นกันแดดสีชามองเข้าไปในตัวบ้าน เหล่าแม่บ้านออกมาต้อนรับคุณหนูถึงห้าคน หนึ่งในนั้นคือแม่นมที่เธอให้ความเคารพและรักเหมือนแม่แท้ ๆ และเป็นคนเดียวที่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาเธอ“คุณหนู”“คุณปู่อยู่ที่ไหนเหรอคะนม”น้ำเสียงที่หยิ่งทะนงถือตัวอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อพูดกับนมพิมพ์ คนที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลกสาวรับใช้อีกสี่คนก้มหน้าตลอดเวลา จิรัชญาจิ๊ปากหงุดหงิด ถ้าไม่อยากออกมารับจะแห่มากันทำไมเยอะแยะหญิงสาวไม่รอฟังคำตอบ ขาเรียวยาวก้าวเข้าไปในบ้าน เดินดุ่ม ๆ ตรงไปยังห้องรับแขก เป็นอย่างที่เธอคิด ปู่อยู่ในนี้จริง ๆ ด้วยชายชราวัยเจ็ดสิ
ส่งคุณกุสุมาที่บ้านย่านชานเมืองเรียบร้อย ศาสตราจารย์กฤตินก็เดินทางไปงานแต่งงานของเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยที่พัทยาต่อ งานมงคลเต็มไปด้วยความชื่นมื่นสนุกสนานอย่างที่ควรเป็น แต่คนที่มีเรื่องให้ต้องคิดแบบกฤตินกลับไม่สนุกเหมือนคนอื่น เขาขอตัวกลับหลังจากพิธีการสำคัญเสร็จสิ้นหมดแล้ว เจ้าบ่าวเจ้าสาวเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยสดชื่นก็ยอมปล่อยให้กลับก่อนแต่โดยดีกฤตินไม่อยากขับรถกลับกรุงเทพฯ ตอนกลางคืน และช่วงนี้โรงแรมส่วนมากก็ไม่มีห้องว่าง เขาจึงยอมจ่ายเงินหลักหมื่นเพื่อนอนโรงแรมห้าดาวแค่คืนเดียวขึ้นมาถึงห้องพักร่างสูงใหญ่ก็ทิ้งตัวบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า ข้อดีของโรงแรมห้าดาวคือความเป็นส่วนตัว ห้องพักขนาดใหญ่ และเลานจ์หรูเฉพาะแขกวีไอพีที่ตั้งใจว่าจะออกไปใช้บริการในคืนนี้ภายนอกเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่กฤตินยอมรับว่าเขาไม่ได้ยินดีกับการหมั้นในครั้งนี้เลยสักนิด รวมถึงการพบเจอกับว่าที่คู่หมั้นครั้งแรกพรุ่งนี้ด้วยเจ้าสัวจรินทร์เป็นคนกว้างขวาง หลานสาวเพียงคนเดียวคงถูกพูดถึงในสื่อไม่น้อย แต่กฤตินไม่แม้แต่จะค้นหาชื่อหรือหน้าตาของเธอด้วยซ้ำ เขาไม่อยากรู้ ไม่อยากเห็นว่าผู้หญิงที่ต้องหมั้นหมายด้วยคือใครยังไงพรุ่ง
วันนี้เป็นวันที่เจ้าของแบรนด์ GiGee ยุ่งกว่าทุกวัน ใบหน้าสวยที่ปกติก็ดูดุอยู่แล้ว วันนี้ดุจนแม้แต่ผู้ช่วยคนสนิท อดีตผู้จัดการอย่างพี่แอนนาไม่กล้าเข้าใกล้จิรัชญาตรวจงานซ้ำเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่มีใครนับไหว ดวงตาเฉี่ยวคมกวาดมองหาความผิดพลาด แม้จะเล็กน้อยแค่ไหนเธอก็ไม่ยอมปล่อยผ่าน ทำเอาพนักงานวิ่งแก้กันหัวหมุน จนในที่สุดเสียงจากสวรรค์ที่เพราะพริ้งยิ่งกว่าระฆังแก้วก็ดังขึ้น“โอเค ไม่มีอะไรต้องแก้แล้ว”พนักงานนับสิบชีวิตถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมเพรียงกัน ใบหน้าเหนื่อยล้าปรากฎรอยยิ้มยินดี ในที่สุดงานตัดเย็บชุดสำหรับงานเลี้ยงฉลองต้อนรับ CEO คนใหม่ของ J&R group ก็เสร็จสิ้นลงกว่าทุกอย่างจะออกมาสมบูรณ์แบบอย่างที่จิรัชญาต้องการ ทั้งพนักงานและเจ้าของแบรนด์ต่างพากันอดหลับอดนอนเป็นอาทิตย์ สูทสีเทาเข้มที่กฤตินจะสวมใส่ถูกตัดเย็บด้วยมือทั้งหมด มีรายละเอียดเป็นโลโก้ของ J&R group ปักบนอกซ้ายอย่างประณีต รวมถึงเข็มกลัดที่ทำจากเพชรราว ๆ ห้ากระรัตที่จิรัชญาเป็นคนออกแบบเองทั้งหมดนี้ถูกทำขึ้นอย่างลับ ๆ เพราะคนเป็นภรรยาอยากเซอร์ไพรส์สามี จิรัชญาต้องโกหกกฤตินว่าช่วงนี้กำลังออกแบบคอลเลคชั่นใหม่ งานเยอะจนแทบไ
แต่งงานอยู่กินฉันสามีภรรยามาได้ครึ่งปี ความสัมพันธ์ของอดีตราชินีแห่งวงการบันเทิง กับอดีตศาสตราจารย์เต็มไปด้วยความหวานชื่นอย่างที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันควรมี ก่อนแต่งงานเป็นยังไง หลังแต่งงานก็เป็นแบบนั้น ออกจะหวานกว่าเดิมด้วยซ้ำสิ่งเดียวที่เปลี่ยน คือจิรัชญาตัดสินใจย้ายกลับมาใช้ชีวิตหลังแต่งงานที่คฤหาสน์ของคุณปู่ เพราะเจ้าสัวจรินทร์อายุมากขึ้นทุกวัน คนเป็นหลานเลยอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าที่สุดและที่สำคัญ คฤหาสน์ของเจ้าสัวจรินทร์มีพื้นที่กว้างขวาง มีทั้งสวนดอกไม้สวย ๆ สนามหญ้า ทะเลสาบส่วนตัว มีพื้นที่ให้วิ่งเล่นซุกซนหรือทำเป็นสนามเด็กเล่นก็ยังได้ เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่จะเกิดมาในอนาคตเด็ก ๆ ที่เป็นลูกของเธอกับสามีเด็ก ๆ ที่ไม่มีวี่แววว่าจะได้มาเกิด เพราะสามีคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัดทุกครั้ง“ก็นั่นแหละค่ะ จีเลยไม่รู้จะทำยังไง จะให้พูดออกไปตรง ๆ มันก็น่าอาย” จิรัชญาถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากที่เล่าปัญหาชีวิตคู่ให้พี่สาวคนสนิทอย่างแอนนาฟังไม่ได้อยากเอาเรื่องในบ้านในมุ้งออกมาพูดหรอกนะ แต่ถ้าไม่พูด เธอต้องอกแตกตายแน่ ๆ เพราะปัญหาระหว่างเธอกับเฮียกฤตมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยจิรัชญาพร้
งานแต่งของจิรัชญา หลานสาวเพียงคนเดียวของเจ้าสัวจรินทร์ กับอดีตศาสตราจารย์หนุ่มผู้ครอบครองรางวัลโนเบล ว่าที่ CEO ของ J&R group ถูกขนานนามว่าเป็นงานแต่งแห่งทศวรรษนอกจากจำนวนแขกที่ถูกเชิญมานับพันแล้ว ความยิ่งใหญ่ของงานที่ใช้เม็ดเงินหลายสิบล้านก็ถูกพูดถึงไปทั่วประเทศ เจ้าสัวจรินทร์เนรมิตโรงแรมหรูของตัวเองให้เป็นเหมือนพระราชวังจากฝรั่งเศส ดอกไม้สดมากกว่าหมื่นดอกถูกประดับตกแต่งทั่วทุกมุมราวกับสรวงสรรค์ คริสตัลหลายหมื่นเม็ดเล่นแสงกับไฟจนคนมองเผลอตาพร่าไปชั่วขณะแค่ค่าจัดงานก็ปาไปสิบล้านกว่า ๆ ไม่รวมกับชุดของบ่าวสาวที่สั่งตัดใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะชุดของเจ้าสาวที่ใช้เงินราว ๆ สิบห้าล้านในการตัดเย็บขึ้นมาเจ้าสาวของงานเลือกสวมชุดแต่งงานทั้งหมดห้าชุด ชุดแรกเป็นชุดไทยสีงาช้างสำหรับพิธีทำบุญเช้า สไบปักด้วยคริสตัลหลายพันเม็ด แซมด้วยพลอยสีชมพูอ่อนเพิ่มหวาน เพียงแค่ชุดแรกก็ทำเอาหลายคนตะลึงงัน เพราะไม่เคยเห็นนางร้ายอย่างจิรัชญาในลุคอ่อนหวานแบบนี้มาก่อนส่วนชุดที่สองเป็นชุดสำหรับพิธียกน้ำชาในช่วงสาย มินิเดรสพองฟูสีแดงสดทำจากผ้าลูกไม้ปักลายดอกโบตั๋น เคียงคู่กับเจ้าบ่าวในสูทคอจีนสีแดงปักดิ้นทองลายเดียวกับ
“เรื่องจริงเหรอคะ?” จิรัชญาถามเสียงหลง “เฮียไม่ได้ล้อจีเล่นใช่ไหม?”หลังจากมื้ออาหารแรกระหว่างเราในรอบหลายเดือนจบลง กฤตินก็เดินไปรินน้ำส้มคั้นสดให้คนรัก ระหว่างนั้นก็บอกเล่าเรื่องราวที่ตัวเองทำระหว่างที่อีกคนไม่อยู่ไปด้วยโดยเฉพาะเรื่องที่เขาเข้าไปทำงานให้เจแอนด์อาร์กรุ๊ป“เฮียไม่ได้ล้อเล่นค่ะ” เขาเอ่ยยิ้ม ๆ ยื่นแก้วน้ำส้มให้ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ“ทำไมล่ะคะ?”จิรัชญายังคงไม่เข้าใจ ว่าทำไมจู่ ๆ กฤตินก็ตัดสินใจแบบนี้ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เธอรู้ดีว่าเขารักงานที่ทำมากแค่ไหน แต่อยู่ดี ๆ ก็มาบอกว่าลาออก แล้วเปลี่ยนไปทำงานกับเจ้าสัวจรินทร์ได้หลายเดือนแล้วแบบนี้“เฮียแค่คิดว่าอยู่ตรงนี้ เฮียจะคู่ควรกับหนูมากกว่า มีหน้าที่การงานที่ดี ได้รับการยอมรับจากสังคม ไม่ใช่แค่นักวิจัยต๊อกต๋อยเงินเดือนไม่กี่หมื่น”“เพราะคำพูดของจีเมื่อก่อนเหรอคะ” คนถามหน้าสลดลง เพราะเมื่อก่อนที่เธอเคยพูดแย่ ๆ ใช่ไหม เขาถึงได้ติดสินใจทิ้งทุกอย่างเพื่อเธอแบบนี้ “หรือว่าคุณปู่บังคับ...”“ไม่ใช่ค่ะ เฮียแค่มองโลกตามความเป็นจริง หนูจีของเฮียเป็นถึงทายาทคนเดียวของเจ้าสัวจรินทร์ เฮียไม่อยากให้ใครมาดูถูกว่าหนูมีแฟนที่ไม่คู
*เวลาประเทศไทย06:00 ‘เฮียตื่นแล้วค่ะ หนูเสร็จงานแล้วอย่าลืมพักผ่อนนะคะ’10:10 ‘คิดถึงจัง’12:35 ‘พักทานข้าวแล้วค่ะ’17:07 ‘เฮียเลิกงานแล้วนะคะ กำลังกลับเพนท์เฮ้าส์ รถไฟฟ้าคนเยอะก็เลยลงมาเดินออกกำลังกาย คิดถึงหนูจัง’18:30 ‘วันนี้เฮียทำเกี๊ยวน้ำทานค่ะ โรซี่หม่ำอาหารเก่งมาก’19:49 ‘เฮียกำลังจะไปอาบน้ำค่ะ วันนี้ที่รักทำอะไรบ้างคะ ยุ่งจนไม่มีเวลาอ่านข้อความเลยเหรอ เฮียคิดถึง’22:00 ‘เข้านอนแล้วนะคะ ฝันดีค่ะที่รัก’.03:00จิรัชญาเพิ่งได้อ่านข้อความที่คนรักส่งมาทั้งหมด ตลอดสิบแปดชั่วโมงที่เดินทางกลับมาหาหัวใจ เธอไม่กล้าเปิดข้อความพวกนั้นอ่านแม้แต่ข้อความเดียว กลัวว่าจะทนคิดถึงไม่ไหวแล้วเฉลยไปว่ากำลังกลับ อดทำเซอร์ไพรส์อีกฝ่ายอย่างที่ตั้งใจไว้“รอจีอีกแป๊บนึงนะ” เอ่ยกระซิบกับตัวเอง หวังให้มันเข้าไปถึงความฝันของคนที่น่าจะกำลังหลับสบายเจ้าสัวส่งรถมารับหลานสาวกับแอนนาที่สนามบิน ใบหน้าของนักแสดงสาวและผู้จัดการอิดโรยเพียงเล็กน้อย เพราะถึงจะใช้เวลาเดินทางยาวนานเกือบหนึ่งวันเต็ม ๆ แต่ที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสค่อนข้างสบายและกว้างขวาง ฉะนั้นตอนนี้จิรัชญาไม่รู้สึกเหนื่อยแม้แต่นิดเดียว เธออยากกลับไปกอดเ
(ที่รักถึงแล้วเหรอคะ?)“เฮียยังไม่นอนอีกเหรอ” คนที่เพิ่งถึงอเมริกาถามด้วยความแปลกใจ เธอแค่ส่งข้อความไปบอกว่าถึงแล้วเพราะที่ไทยน่าจะประมาณตีสาม ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะโทรกลับมาทันทีแบบนี้แถมยังเลือกวิดีโอคอลมาอีก ภาพของคนรักที่นอนอยู่บนเตียง ไม่ใส่แว่น ไม่ใส่เสื้อ หัวฟูไม่เป็นทรงมันช่าง... SO HOTห่างกันยังไม่ทันครบยี่สิบสี่ชั่วโมงก็อยากกลับไปนอนกอดแฟนแล้ว(นอนไม่หลับค่ะ คิดถึงแฟน) ปลายสายส่งเสียงออดอ้อนจนคนฟังหลุดขำ“จีก็คิดถึงค่ะ นี่จีเข้าที่พักแล้วนะคะ กำลังเก็บของอยู่ ที่พักใช้ได้เลย” จิรัชญาเดินไปทั่วห้อง หันกล้องให้คนรักได้ดูด้วยว่าที่พักเป็นยังไงรายนั้นน่ะเป็นห่วงเธอสุด ๆ ที่พักก็เป็นคนเลือกให้เอง ไม่ยอมให้เช่าบ้านเป็นหลังเพราะอันตราย ส่วนคุณปู่ก็ไม่แพ้กัน เจ้าสัวจรินทร์ถึงขั้นเช่าอพาร์ตเมนต์หรูให้เธอกับพี่แอนนาอยู่ด้วยกัน ย้ำให้กฤตินเลือกโครงการที่ปลอดภัยที่สุด ส่วนเรื่องราคาไม่ต้องพูดถึง โชคดีที่คุณปู่เป็นคนจ่ายทั้งหมด ไม่อย่างนั้นค่าตัวเธอคงไม่เหลือเพราะต้องเอามาจ่ายค่าที่พักเดือนละหลายแสนบาทแบบนี้(ปลอดภัยดีใช่ไหมคะ?)“มาก ๆ เลยค่ะ พอ ๆ กับที่เพนท์เฮ้าส์เลย”(ได้ยินแบบนี้เฮียก็
“อเมริกา?” กฤตินทวนชื่อประเทศที่แสนห่างไกลด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย“ค่ะ”“หนูไปทำอะไรคะ?”“มีผู้กำกับหนังฮอลลิวูดติดต่อมา เขาอยากให้จีไปรับบทนำในหนังของเขา แต่หนังต้องใช้เวลาถ่ายครึ่งปี จีก็เลย...”“จริงเหรอคะ!?” ครั้งนี้กฤตินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขาอุ้มร่างบางขึ้นก่อนจะหมุนไปรอบ ๆ ด้วยความดีใจ “หนูจีของเฮียเก่งที่สุดเลย!”“เฮีย... เฮีย เฮียปล่อยจีก่อน จีเวียนหัว” มือบางตีอกกว้างเบา ๆ เขาหมุนจนเธอเวียนหัวไปหมดแล้ว“ขอโทษค่ะ เฮียดีใจมากเกินไปหน่อย”คนที่ดีใจจนเกินหน้าเกินตารีบวางคนรักลง ดวงตาชั้นเดียวมองสำรวจใบหน้าสวยว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า พอเห็นว่าคนรักไม่ได้มีท่าทีอยากอาเจียนก็ถอนหายใจโล่งอก“ไม่โกรธเหรอคะที่จีเลือกไปอเมริกาแทนที่จะแต่งงานกับเฮีย”“ถ้าโกรธ เฮียคงเป็นแฟนที่แย่ที่สุดแล้วล่ะค่ะ” กฤตินจับมือบางมากุมไว้ “แต่งงานน่ะเมื่อไหร่ก็แต่งได้ จะอีกปี สองปี ห้าปี หรือสิบปีเฮียก็รอได้ แต่โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีเข้ามาบ่อย ๆ หนูเลือกถูกแล้วค่ะ ไม่ต้องกังวลนะ นานแค่ไหนเฮียก็จะรอ”“จะรอ...จริง ๆ นะ”“จริงค่ะ หัวใจของเฮียอยู่ที่หนู เฮียจะไปไหนได้ เฮียสัญญาว่าจะรอ ให้หอไอเฟลเป็นพยาน
ในที่สุดเรื่องวุ่นวายทั้งหมดก็คลี่คลายลง คนทำผิดยอมรับสารภาพเกือบทั้งหมด มีแค่พิมมาดาที่ยังปิดปากเงียบ แต่หลักฐานที่มัดตัวทำให้ดิ้นไม่หลุด ท่านพินิจทำได้แค่ประกันตัวลูกสาวออกมาชั่วคราว ยอมให้ลูกถูกขังในบ้านดีกว่าต้องนอนให้ห้องขังจะดีจะร้ายยังไงก็ลูกการดำเนินการทางกฎหมายต้องใช้เวลา ระหว่างที่รอขึ้นศาลตัดสินคดีของสามคนนั้น กฤตินตัดสินใจลางานยาวสองอาทิตย์เป็นครั้งแรกตั้งแต่ทำงานมา เพื่อพาคนรักไปพักผ่อนที่ยุโรปเริ่มต้นด้วยกรุงโรมประเทศอิตาลี เมืองแห่งศิลปะและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ต่อด้วยสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติงดงามเหมือนภาพวาด และปิดท้ายด้วยกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส เมืองแห่งน้ำหอมที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกเหมาะสำหรับคู่รักทริปนี้กฤตินตระเตรียมทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งที่พัก ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด รวมถึงการเดินทางที่กฤตินรับหน้าที่เป็นสารถีตลอดทริปทั้งสามประเทศ ไม่ยอมให้หนูจีต้องลำบากขึ้นรถสาธารณะแม้แต่ครั้งเดียว เรียกได้ว่าเป็นทริปพักผ่อนของจิรัชญาที่แท้จริง นอกจากตื่นมากิน เที่ยว ถ่ายรูปสวย ๆ แล้ว เธอแทบไม่ต้องทำอะไรเลย“ชอบไหมคะ?”แขนแกร่งรว
“ฮึก”พิมมาดาสะอื้นออกมาเบา ๆ ในอ้อมแขนของบิดา ท่าทางน่าสงสารทำให้ท่านพินิจต้องโอบกอดลูกสาวแน่นขึ้นเพื่อกางปีกปกป้อง ขณะเดียวกันก็ส่งสายตาผิดหวังไปให้ลูกสาวอีกคนลูกสาวที่เกิดจากความรักจากทั้งเขาและคนรักชื่อว่านภา ทว่าเขาไม่เคยมีโอกาสได้เลี้ยงดู จนกระทั่งคุณหญิงพิมประภา ภรรยาตีทะเบียนอดีตนักแสดงชื่อดังจากไปด้วยโรคร้าย เขาถึงได้กล้าพาลูกและภรรยาที่ซุกซ่อนไว้เข้ามาอยู่ในบ้าน แต่ไม่นานนภาก็จากไปด้วยโรคร้ายเหมือนกันกับพิมประภาเหลือเพียงลูกสาวสองคนที่หน้าตาสะสวย นิสัยน่ารักอ่อนหวานไว้เป็นตัวแทนของคนทั้งคู่โดยเฉพาะนับดาว ลูกที่เกิดจากความรักนับดาวเป็นเด็กน่ารัก เรียบร้อยและเรียนเก่ง หน้าตาอ่อนหวานเหมือนแม่ แต่ก็มีบางส่วนที่คล้ายกับเขา พิมมาดาเองก็หน้าคล้ายเขาเหมือนกัน ทำให้ถ้ามองเผิน ๆ ใคร ๆ ต่างก็มองออกว่าสองคนนี้เป็นพี่น้องกันถ้าไม่ใช่เพราะต้องแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง เขากับแม่ของนับดาวคงแต่งงานอยู่กินกันอย่างมีความสุขไปแล้วตอนนั้นครอบครัวต้องการให้พินิจแต่งงานกับผู้หญิงที่คนทั้งประเทศรู้จัก เพื่อใช้ชื่อเสียงของเธอมาหนุนให้ครอบครัวรวมถึงตัวเขามีชื่อเสียงในแวดวงการเมืองมากกว่