ส่งคุณกุสุมาที่บ้านย่านชานเมืองเรียบร้อย ศาสตราจารย์กฤตินก็เดินทางไปงานแต่งงานของเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยที่พัทยาต่อ งานมงคลเต็มไปด้วยความชื่นมื่นสนุกสนานอย่างที่ควรเป็น แต่คนที่มีเรื่องให้ต้องคิดแบบกฤตินกลับไม่สนุกเหมือนคนอื่น เขาขอตัวกลับหลังจากพิธีการสำคัญเสร็จสิ้นหมดแล้ว เจ้าบ่าวเจ้าสาวเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยสดชื่นก็ยอมปล่อยให้กลับก่อนแต่โดยดีกฤตินไม่อยากขับรถกลับกรุงเทพฯ ตอนกลางคืน และช่วงนี้โรงแรมส่วนมากก็ไม่มีห้องว่าง เขาจึงยอมจ่ายเงินหลักหมื่นเพื่อนอนโรงแรมห้าดาวแค่คืนเดียวขึ้นมาถึงห้องพักร่างสูงใหญ่ก็ทิ้งตัวบนโซฟาด้วยความเหนื่อยล้า ข้อดีของโรงแรมห้าดาวคือความเป็นส่วนตัว ห้องพักขนาดใหญ่ และเลานจ์หรูเฉพาะแขกวีไอพีที่ตั้งใจว่าจะออกไปใช้บริการในคืนนี้ภายนอกเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่กฤตินยอมรับว่าเขาไม่ได้ยินดีกับการหมั้นในครั้งนี้เลยสักนิด รวมถึงการพบเจอกับว่าที่คู่หมั้นครั้งแรกพรุ่งนี้ด้วยเจ้าสัวจรินทร์เป็นคนกว้างขวาง หลานสาวเพียงคนเดียวคงถูกพูดถึงในสื่อไม่น้อย แต่กฤตินไม่แม้แต่จะค้นหาชื่อหรือหน้าตาของเธอด้วยซ้ำ เขาไม่อยากรู้ ไม่อยากเห็นว่าผู้หญิงที่ต้องหมั้นหมายด้วยคือใครยังไงพรุ่ง
ปึก!“อื้อออ”“อืม...”เสียงแลกเปลี่ยนน้ำลายดังก้องห้องสวีทของโรงแรมหรูร่างสองร่างกอดเกี่ยวแนบแน่นแทบรวมเป็นเนื้อเดียวพวกเขากระโจนเข้าหากันราวกับสัตว์ป่าที่หิวโหย ทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลงริมฝีปากทั้งสองคู่ก็ไม่ยอมห่างกันอีกเลย แม้กระทั่งตอนที่ท่อนแขนแกร่งยกร่างเพรียวบางขึ้นอุ้มด้วยท่าทางอันตรายมือใหญ่ช้อนใต้สะโพกอิ่มพร้อมกับท่อนขาเรียวที่ยกขึ้นเกี่ยวรัดเอวสอบ เขาแข็งแรงมาก เพราะขนาดมีอีกร่างที่เกาะเกี่ยวเป็นลูกลิงไม่ห่าง ท่อนขายาว ๆ ยังก้าวเดินอย่างสบาย ๆ ไปที่โซฟาตัวใหญ่ ก่อนจะวางร่างระหงลงด้วยแรงที่ไม่เบานัก“อื้อ...จูบ”ริมฝีปากแยกจากได้ไม่นานก็ประกบติดกันอีกครั้ง เรียวลิ้นทั้งสองผลัดกันรุกล้ำหยอกล้ออย่างไม่รู้เบื่อ เรือนร่างระหงงดงามไร้ที่ติของดาราสาวชื่อดังขยับลุกขึ้นนั่ง เธอไม่ยอมนอนเป็นเหยื่อให้เขาจัดการอยู่ฝ่ายเดียวหรอก มือเรียวพยายามถอดเสื้อยืดสีดำที่แสนเกะกะออกอย่างร้อนรน แต่เพราะความรีบร้อนทำให้เธอไม่สามารถถอดมันได้ง่าย ๆ ดังใจแควก!ในเมื่อถอดดี ๆ ไม่ได้ก็ฉีกมันซะเลย หมดเรื่องเสื้อยืดตัวเก่งถูกฉีกกระชากจนขาดวิ่นอย่างน่าสงสาร ก่อนจะถูกทิ้งขว้างบนพื้นพรมแบบนั้น ชายหนุ่ม
“ขา คนดี” กฤตินตอบรับเสียงหวาน “หนูอยากได้อะไรนะคะ? บอกเฮียอีกครั้งได้ไหมคะคนสวย”คำพูดหวาน ๆ ของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นรัวเพราะความตื่นเต้น ไม่ยักรู้มาก่อนว่าตัวเองชอบผู้ชายพูดคะขาแบบนี้ หรือเพราะคนที่พูดคือคนตรงหน้า เสียงนุ่มทุ้ม ดวงตาแพรวพราว รูปร่างหนากำยำ รอยสักน่าค้นหา และกลิ่นกายเซ็กซี่เย้ายวน เพราะเป็นเขา เธอถึงได้ชื่นชอบเสน่ห์ของเขามีมากมายกว่าใครที่เคยพบเจอ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงอ่อนระทวยทำอะไรไม่ถูกไปแล้ว แต่จิรัชญาก็คือจิรัชญา เธอคือนางร้ายเบอร์หนึ่งของวงการมายา เล่ห์เหลี่ยมมารยาของเธอมีมากพอ ๆ กับฝีมือการแสดง ถึงหัวใจเจ้ากรรมจะสั่นไหวแค่ไหน แต่เธอจะไม่ยอมให้เขาควบคุมเกมนี้เพียงคนเดียวเด็ดขาดนางร้ายสาวใช้ปลายเล็บกรีดลงบนแผ่นอกแน่น ๆ ตรงหน้า ไล่ต่ำลงไปจนถึงขอบอันเดอร์แวร์สีเข้ม ก่อนจะช้อนดวงตาคู่สวยขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา เขาไม่ใช่ผู้ชายที่หล่อที่สุดที่เธอเคยเจอมา แต่สาบานได้ว่าเขาคือผู้ชายที่มีเสน่ห์ที่สุดในชีวิต ดวงตาชั้นเดียวคมกริบคู่นั้นคืออาวุธที่ร้ายกาจของเขา“เฮียไม่อยากดื่มไวน์บนตัวจีเหรอคะ อร่อยนะ” เธอถามกลับเสียงหวาน ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้กฤตินมากกว่าเดิม กระซิบข้า
“แฮ่ก...แฮ่ก”จิรัชญาทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างหมดแรง เธอหอบหนัก ร่างกายยังกระตุกเป็นระยะ ดวงตาคู่สวยมองเพดานห้องด้วยสายตาว่างเปล่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมมัน...“หนูจีพร้อมไหมคะ?”พร้อม? หมายถึงอะไร? ทำไมสมองมันขาวโพลนขนาดนี้ เธอคิดอะไรไม่ออกเลยในขณะที่กำลังขบคิดว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรต่อ ความอึดอัดและเจ็บปวดก็จู่โจมเข้ามาจนต้องขยับกายหนี แต่มือหนากลับไวกว่า เขายึดสะโพกเธอไว้แล้วพยายามยัดสิ่งนั้นเข้ามากฤตินทนไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่ได้เอาเดี๋ยวนี้เขาต้องตายแน่ ๆ“โอ้ย!”“ทำไมแน่นขนาดนี้คะ?” กฤตินถามเสียงพร่า คิ้วเข้มขมวดแน่น “เฮียเข้าไปไม่ได้เลย ผ่อนคลายหน่อยค่ะคนเก่ง”“มะ ไม่ได้ มันเจ็บ”“ไม่เคยเจอใหญ่เท่านี้เหรอคะ?”หนูจีส่ายหน้าเร็ว ๆ จนกฤตินอดเอ็นดูไม่ได้ เขาโน้มตัวลงไปดูดนมเพื่อให้เธอคลายความตื่นเต้น ใช้ลิ้นเลียหัวนมแข็งขืนจนได้ยินเสียงครางหวาน ในขณะที่ส่วนล่างพยายามสอดใส่ด้วยความยากลำบาก“จะ เจ็บ”“หนูจีไหวไหมคะ?”เธอส่ายหน้าแรง ๆ อีกครั้ง กฤตินเลยยอมถอนลำท่อนที่เข้าไปได้แค่ส่วนปลายเล็ก ๆ ออก ก่อนจะสอดนิ้วกลางเข้าไปแทน แต่ได้เพียงข้อนิ้วเดียวคนสวยก็ร้องโอดโอยออกมาอีกครั้ง“โอ้ย!”“แค่นิ้วก
♪ ♪ ♫ ♪ ♪“อื้อ”มือถือเครื่องหรูที่ส่งเสียงกรีดร้องระงมไปทัั่วห้อง ปลุกให้คนที่เพิ่งได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงจำใจต้องลืมตาตื่น ดวงตาคู่สวยปรือปรอยอย่างเกียจคร้าน มือเรียวควานหามือถือส่วนตัวสักพักกว่าจะเจอว่ามันตกอยู่ข้างเตียง“อู้ยย” แต่พอจะลุกไปหยิบมือถือเจ้าปัญหา ความปวดร้าวทั่วทั้งกายก็ทำให้ร่างระหงหยุดชะงัก “อย่างกับโดนหมาฟัดมา”นางร้ายสาวกัดฟันพาสังขารที่ย่ำแย่ไปหยิบโทรศัพท์ เพราะมันเอาแต่กรีดร้องซ้ำ ๆ ไม่หยุด ไม่รู้เลยว่าเจ้าของอย่างเธอมีสภาพปางตายแค่ไหนในที่สุดก็ได้มือถือมาครอบครอง ไม่ผิดจากที่คิดเท่าไหร่ เธอพอจะเดาได้อยู่แล้วว่าใครเป็นคนโทรมา‘คุณปู่’“ค่ะ”(หลานอยู่ที่ไหน)“เพนท์เฮ้าส์ค่ะ” เธอกวาดตามองห้องที่ไม่ค่อยคุ้นตาก่อนจะตอบไปแบบนั้น(อย่าโกหก ปู่รู้ว่าหลานไม่ได้อยู่ที่เพนท์เฮ้าส์)“ถ้าคุณปู่ส่งคนมาเฝ้าจีขนาดนี้แล้วจะถามจีอีกทำไมล่ะคะ”(จิรัชญา) เสียงของปลายสายเข้มขึ้น (ปู่ไม่ได้ส่งคนไปเฝ้าหลาน แต่แอนนาบอกว่าหลานไม่ได้กลับเพนท์เฮ้าส์ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว)“จีอยู่ที่โรงแรมค่ะ เบื่อ ก็เลยมาเปลี่ยนที่นอน”(ไม่ใช่ว่าจงใจหนีนัดวันนี้หรอกนะ)“จีหนีปู่ได้เหรอคะ?” เธอถามกลับเสียงป
รถญี่ปุ่นสีเทาอ่อนที่กฤตินซื้อมือสองเมื่อหลายปีก่อนหยุดลงหน้าประตูรั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ ชายหนุ่มมองสิ่งปลูกสร้างตรงหน้าด้วยความประหม่าเล็กน้อยได้รับทุนสนับสนุนจากเจ้าสัวมาเป็นสิบปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่กฤตินได้มาเหยียบอาณาจักรของเจ้าสัวจรินทร์ มันแตกต่างจากบ้านของเขากับแม่อย่างสิ้นเชิง ประตูรั้วสีขาวตั้งตระหง่าน สูงจนแทบไม่มองไม่ตัวคฤหาสน์ด้านใน ทางขวาของประตูมีป้อมขนาดใหญ่ และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร่างยักษ์ประจำตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงบ้านของเขากับแม่ ใหญ่กว่าป้อมรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์นี้ไม่เท่าไหร่ พอให้สองแม่ลูกอยู่ด้วยกันได้โดยไม่อึดอัดจนเกินไปแตกต่างกันเหมือนฟ้ากับเหวยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ ว่าทำไมเจ้าสัวจรินทร์ถึงอยากให้เขาหมั้นกับหลานสาวคนเดียวของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่เจ้าสัวน่าจะมีตัวเลือกที่เพียบพร้อมกว่ามากมาย เขาไม่เหมาะสมเลยสักนิด...ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะกระจกฝั่งคนขับดังขึ้นเบา ๆ การ์ดรักษาความปลอดภัยในชุดสีดำรัดกุมส่งสัญญาณมือให้กฤตินลดกระจกลง ศาสตราจารย์หนุ่มทำตามแต่โดยดี สายตาของการ์ดเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย เขามองเข้ามาในรถก่อนจะมองหน้ากฤตินนิ่ง ๆ“ไม่ทราบว่ามาห
“ไอ้!”มือเรียวง้างขึ้นสูง หมายจะฟาดใบหน้าเจ้าเล่ห์น่าหมั่นไส้นั่นให้หายช้ำใจ แต่คนที่ถูกตบไปแล้วหนึ่งครั้งรู้ทัน กฤตินจับแขนเรียวไว้ได้ก่อนจะถูกฝ่ามือหนัก ๆ ฟาดลงมาเห็นตัวบาง ๆ แบบนี้แต่หนูจีมือหนักมาก“นายมันชั่ว!”จิรัชญาสะบัดแขนออกด้วยท่าทีรังเกียจ ฟันขาวกัดริมฝีปากตัวเองเต็มแรงจนมีเลือดซึมออกมา กฤตินรู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ เพราะอยากให้กลีบปากคู่นั้นบวมเจ่อด้วยฝีมือของเขาคนเดียว“เสียใจเหรอ? เมื่อคืนคุณชอบมันจะตาย” เอ่ยถามพลางโน้มตัวเข้าไปใกล้จนคนตัวบางไร้ทางหลีกหนี“ไปให้พ้น!”“เมื่อคืนไม่เห็นพูดแบบนี้”ถึงจะพูดยั่วโมโหแบบนั้น แต่กฤตินก็ยอมถอยห่างแต่โดยดี เขาสวมแว่น จัดผมให้กลับมาเป็นทรงเดิม ใบหน้าเจ้าเล่ห์ถูกปรกคลุมด้วยเส้นผมสีเข้มจนมิดชิดเขาเดินกลับไปที่รถ เปิดประตูออก ก่อนจะหันมาบอกหนูจีด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ“ขยับรถเถอะครับ เรากำลังจะสาย ปล่อยให้ผู้ใหญ่รอนานไม่ดีนะ”“ฉันไม่เข้าไป และฉันก็จะไม่มีวันหมั้นกับนาย”“ถ้าให้เดา คุณน่าจะขัดเจ้าสัวไม่ได้นะ” ศาสตราจารย์หนุ่มมั่นใจว่าตัวเองเดาถูก เพราะสีหน้าของหนูจีบอกทุกอย่างชัดเจน “ก็แค่หมั้น คุณเองก็ถูกใจผมไม่ใช่เหรอ? จะดื้อดึงไม่ห
“น้องจี ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ”แอนนาวางมือบนไหล่เล็กเบา ๆ เอ่ยถามน้องสาวที่รักเหมือนน้องแท้ ๆ ด้วยความเป็นห่วง ในใจแอนนารู้ดีว่าเป็นเพราะอะไร จิรัชญาถึงได้มีสีหน้าเหมือนคนท้องผูกแบบนี้เธอมัวแต่วิ่งวุ่นเรื่องข่าว ไหนจะต้องประชุมกับบริษัทอีก ข่าวของน้องจีครั้งนี้ทำเอาโต๊ะประชุมร้อนเป็นไฟ หนักหนาจนเธอแทบไม่ได้กินไม่ได้นอน รู้อีกทีเจ้าสัวจรินทร์ก็จับหลานสาวสุดที่รักหมั้นซะแล้วแอนนาตกใจแทบสิ้นสติตอนที่รู้เรื่องนี้ ไม่คิดว่าเจ้าสัวจะจัดการกับข่าวพวกนั้นด้วยการประกาศหมั้นสายฟ้าแลบของน้องจี ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอเพิ่งรู้เมื่อวาน แต่วันนี้น้องจีต้องสวมแหวนหมั้นแล้วไม่มีพิธี ไม่มีอะไรทั้งนั้นนอกจากการสวมแหวนต่อหน้าผู้ใหญ่ แอนนาเพิ่งได้เห็นหน้าคู่หมั้นของน้องจีเมื่อไม่กี่นาทีก่อน หน้าตาจืด ๆ ซื่อ ๆ ดูเรียบร้อยพูดน้อย ต่างจากน้องจีลิบลับจะไปกันรอดเร๊อะ! เธอล่ะเครียดที่เครียดยิ่งกว่าคือฐานะชาติตระกูลของคู่หมั้นคนนั้น ไม่รู้ว่าเจ้าสัวคิดอะไรอยู่ ถ้าจะให้น้องจีหมั้นเพื่อกลบข่าว ก็น่าจะเลือกคนที่โปรไฟล์ดีกว่านี้หน่อย อย่างน้อย ๆ ก็เป็นนักธุรกิจที่มีธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่ใช่แค่นักวิชาการ นักวิจัย
วันนี้เป็นวันที่เจ้าของแบรนด์ GiGee ยุ่งกว่าทุกวัน ใบหน้าสวยที่ปกติก็ดูดุอยู่แล้ว วันนี้ดุจนแม้แต่ผู้ช่วยคนสนิท อดีตผู้จัดการอย่างพี่แอนนาไม่กล้าเข้าใกล้จิรัชญาตรวจงานซ้ำเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่มีใครนับไหว ดวงตาเฉี่ยวคมกวาดมองหาความผิดพลาด แม้จะเล็กน้อยแค่ไหนเธอก็ไม่ยอมปล่อยผ่าน ทำเอาพนักงานวิ่งแก้กันหัวหมุน จนในที่สุดเสียงจากสวรรค์ที่เพราะพริ้งยิ่งกว่าระฆังแก้วก็ดังขึ้น“โอเค ไม่มีอะไรต้องแก้แล้ว”พนักงานนับสิบชีวิตถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมเพรียงกัน ใบหน้าเหนื่อยล้าปรากฎรอยยิ้มยินดี ในที่สุดงานตัดเย็บชุดสำหรับงานเลี้ยงฉลองต้อนรับ CEO คนใหม่ของ J&R group ก็เสร็จสิ้นลงกว่าทุกอย่างจะออกมาสมบูรณ์แบบอย่างที่จิรัชญาต้องการ ทั้งพนักงานและเจ้าของแบรนด์ต่างพากันอดหลับอดนอนเป็นอาทิตย์ สูทสีเทาเข้มที่กฤตินจะสวมใส่ถูกตัดเย็บด้วยมือทั้งหมด มีรายละเอียดเป็นโลโก้ของ J&R group ปักบนอกซ้ายอย่างประณีต รวมถึงเข็มกลัดที่ทำจากเพชรราว ๆ ห้ากระรัตที่จิรัชญาเป็นคนออกแบบเองทั้งหมดนี้ถูกทำขึ้นอย่างลับ ๆ เพราะคนเป็นภรรยาอยากเซอร์ไพรส์สามี จิรัชญาต้องโกหกกฤตินว่าช่วงนี้กำลังออกแบบคอลเลคชั่นใหม่ งานเยอะจนแทบไ
แต่งงานอยู่กินฉันสามีภรรยามาได้ครึ่งปี ความสัมพันธ์ของอดีตราชินีแห่งวงการบันเทิง กับอดีตศาสตราจารย์เต็มไปด้วยความหวานชื่นอย่างที่คู่รักข้าวใหม่ปลามันควรมี ก่อนแต่งงานเป็นยังไง หลังแต่งงานก็เป็นแบบนั้น ออกจะหวานกว่าเดิมด้วยซ้ำสิ่งเดียวที่เปลี่ยน คือจิรัชญาตัดสินใจย้ายกลับมาใช้ชีวิตหลังแต่งงานที่คฤหาสน์ของคุณปู่ เพราะเจ้าสัวจรินทร์อายุมากขึ้นทุกวัน คนเป็นหลานเลยอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าที่สุดและที่สำคัญ คฤหาสน์ของเจ้าสัวจรินทร์มีพื้นที่กว้างขวาง มีทั้งสวนดอกไม้สวย ๆ สนามหญ้า ทะเลสาบส่วนตัว มีพื้นที่ให้วิ่งเล่นซุกซนหรือทำเป็นสนามเด็กเล่นก็ยังได้ เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่จะเกิดมาในอนาคตเด็ก ๆ ที่เป็นลูกของเธอกับสามีเด็ก ๆ ที่ไม่มีวี่แววว่าจะได้มาเกิด เพราะสามีคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัดทุกครั้ง“ก็นั่นแหละค่ะ จีเลยไม่รู้จะทำยังไง จะให้พูดออกไปตรง ๆ มันก็น่าอาย” จิรัชญาถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากที่เล่าปัญหาชีวิตคู่ให้พี่สาวคนสนิทอย่างแอนนาฟังไม่ได้อยากเอาเรื่องในบ้านในมุ้งออกมาพูดหรอกนะ แต่ถ้าไม่พูด เธอต้องอกแตกตายแน่ ๆ เพราะปัญหาระหว่างเธอกับเฮียกฤตมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยจิรัชญาพร้
งานแต่งของจิรัชญา หลานสาวเพียงคนเดียวของเจ้าสัวจรินทร์ กับอดีตศาสตราจารย์หนุ่มผู้ครอบครองรางวัลโนเบล ว่าที่ CEO ของ J&R group ถูกขนานนามว่าเป็นงานแต่งแห่งทศวรรษนอกจากจำนวนแขกที่ถูกเชิญมานับพันแล้ว ความยิ่งใหญ่ของงานที่ใช้เม็ดเงินหลายสิบล้านก็ถูกพูดถึงไปทั่วประเทศ เจ้าสัวจรินทร์เนรมิตโรงแรมหรูของตัวเองให้เป็นเหมือนพระราชวังจากฝรั่งเศส ดอกไม้สดมากกว่าหมื่นดอกถูกประดับตกแต่งทั่วทุกมุมราวกับสรวงสรรค์ คริสตัลหลายหมื่นเม็ดเล่นแสงกับไฟจนคนมองเผลอตาพร่าไปชั่วขณะแค่ค่าจัดงานก็ปาไปสิบล้านกว่า ๆ ไม่รวมกับชุดของบ่าวสาวที่สั่งตัดใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะชุดของเจ้าสาวที่ใช้เงินราว ๆ สิบห้าล้านในการตัดเย็บขึ้นมาเจ้าสาวของงานเลือกสวมชุดแต่งงานทั้งหมดห้าชุด ชุดแรกเป็นชุดไทยสีงาช้างสำหรับพิธีทำบุญเช้า สไบปักด้วยคริสตัลหลายพันเม็ด แซมด้วยพลอยสีชมพูอ่อนเพิ่มหวาน เพียงแค่ชุดแรกก็ทำเอาหลายคนตะลึงงัน เพราะไม่เคยเห็นนางร้ายอย่างจิรัชญาในลุคอ่อนหวานแบบนี้มาก่อนส่วนชุดที่สองเป็นชุดสำหรับพิธียกน้ำชาในช่วงสาย มินิเดรสพองฟูสีแดงสดทำจากผ้าลูกไม้ปักลายดอกโบตั๋น เคียงคู่กับเจ้าบ่าวในสูทคอจีนสีแดงปักดิ้นทองลายเดียวกับ
“เรื่องจริงเหรอคะ?” จิรัชญาถามเสียงหลง “เฮียไม่ได้ล้อจีเล่นใช่ไหม?”หลังจากมื้ออาหารแรกระหว่างเราในรอบหลายเดือนจบลง กฤตินก็เดินไปรินน้ำส้มคั้นสดให้คนรัก ระหว่างนั้นก็บอกเล่าเรื่องราวที่ตัวเองทำระหว่างที่อีกคนไม่อยู่ไปด้วยโดยเฉพาะเรื่องที่เขาเข้าไปทำงานให้เจแอนด์อาร์กรุ๊ป“เฮียไม่ได้ล้อเล่นค่ะ” เขาเอ่ยยิ้ม ๆ ยื่นแก้วน้ำส้มให้ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้าง ๆ“ทำไมล่ะคะ?”จิรัชญายังคงไม่เข้าใจ ว่าทำไมจู่ ๆ กฤตินก็ตัดสินใจแบบนี้ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เธอรู้ดีว่าเขารักงานที่ทำมากแค่ไหน แต่อยู่ดี ๆ ก็มาบอกว่าลาออก แล้วเปลี่ยนไปทำงานกับเจ้าสัวจรินทร์ได้หลายเดือนแล้วแบบนี้“เฮียแค่คิดว่าอยู่ตรงนี้ เฮียจะคู่ควรกับหนูมากกว่า มีหน้าที่การงานที่ดี ได้รับการยอมรับจากสังคม ไม่ใช่แค่นักวิจัยต๊อกต๋อยเงินเดือนไม่กี่หมื่น”“เพราะคำพูดของจีเมื่อก่อนเหรอคะ” คนถามหน้าสลดลง เพราะเมื่อก่อนที่เธอเคยพูดแย่ ๆ ใช่ไหม เขาถึงได้ติดสินใจทิ้งทุกอย่างเพื่อเธอแบบนี้ “หรือว่าคุณปู่บังคับ...”“ไม่ใช่ค่ะ เฮียแค่มองโลกตามความเป็นจริง หนูจีของเฮียเป็นถึงทายาทคนเดียวของเจ้าสัวจรินทร์ เฮียไม่อยากให้ใครมาดูถูกว่าหนูมีแฟนที่ไม่คู
*เวลาประเทศไทย06:00 ‘เฮียตื่นแล้วค่ะ หนูเสร็จงานแล้วอย่าลืมพักผ่อนนะคะ’10:10 ‘คิดถึงจัง’12:35 ‘พักทานข้าวแล้วค่ะ’17:07 ‘เฮียเลิกงานแล้วนะคะ กำลังกลับเพนท์เฮ้าส์ รถไฟฟ้าคนเยอะก็เลยลงมาเดินออกกำลังกาย คิดถึงหนูจัง’18:30 ‘วันนี้เฮียทำเกี๊ยวน้ำทานค่ะ โรซี่หม่ำอาหารเก่งมาก’19:49 ‘เฮียกำลังจะไปอาบน้ำค่ะ วันนี้ที่รักทำอะไรบ้างคะ ยุ่งจนไม่มีเวลาอ่านข้อความเลยเหรอ เฮียคิดถึง’22:00 ‘เข้านอนแล้วนะคะ ฝันดีค่ะที่รัก’.03:00จิรัชญาเพิ่งได้อ่านข้อความที่คนรักส่งมาทั้งหมด ตลอดสิบแปดชั่วโมงที่เดินทางกลับมาหาหัวใจ เธอไม่กล้าเปิดข้อความพวกนั้นอ่านแม้แต่ข้อความเดียว กลัวว่าจะทนคิดถึงไม่ไหวแล้วเฉลยไปว่ากำลังกลับ อดทำเซอร์ไพรส์อีกฝ่ายอย่างที่ตั้งใจไว้“รอจีอีกแป๊บนึงนะ” เอ่ยกระซิบกับตัวเอง หวังให้มันเข้าไปถึงความฝันของคนที่น่าจะกำลังหลับสบายเจ้าสัวส่งรถมารับหลานสาวกับแอนนาที่สนามบิน ใบหน้าของนักแสดงสาวและผู้จัดการอิดโรยเพียงเล็กน้อย เพราะถึงจะใช้เวลาเดินทางยาวนานเกือบหนึ่งวันเต็ม ๆ แต่ที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสค่อนข้างสบายและกว้างขวาง ฉะนั้นตอนนี้จิรัชญาไม่รู้สึกเหนื่อยแม้แต่นิดเดียว เธออยากกลับไปกอดเ
(ที่รักถึงแล้วเหรอคะ?)“เฮียยังไม่นอนอีกเหรอ” คนที่เพิ่งถึงอเมริกาถามด้วยความแปลกใจ เธอแค่ส่งข้อความไปบอกว่าถึงแล้วเพราะที่ไทยน่าจะประมาณตีสาม ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะโทรกลับมาทันทีแบบนี้แถมยังเลือกวิดีโอคอลมาอีก ภาพของคนรักที่นอนอยู่บนเตียง ไม่ใส่แว่น ไม่ใส่เสื้อ หัวฟูไม่เป็นทรงมันช่าง... SO HOTห่างกันยังไม่ทันครบยี่สิบสี่ชั่วโมงก็อยากกลับไปนอนกอดแฟนแล้ว(นอนไม่หลับค่ะ คิดถึงแฟน) ปลายสายส่งเสียงออดอ้อนจนคนฟังหลุดขำ“จีก็คิดถึงค่ะ นี่จีเข้าที่พักแล้วนะคะ กำลังเก็บของอยู่ ที่พักใช้ได้เลย” จิรัชญาเดินไปทั่วห้อง หันกล้องให้คนรักได้ดูด้วยว่าที่พักเป็นยังไงรายนั้นน่ะเป็นห่วงเธอสุด ๆ ที่พักก็เป็นคนเลือกให้เอง ไม่ยอมให้เช่าบ้านเป็นหลังเพราะอันตราย ส่วนคุณปู่ก็ไม่แพ้กัน เจ้าสัวจรินทร์ถึงขั้นเช่าอพาร์ตเมนต์หรูให้เธอกับพี่แอนนาอยู่ด้วยกัน ย้ำให้กฤตินเลือกโครงการที่ปลอดภัยที่สุด ส่วนเรื่องราคาไม่ต้องพูดถึง โชคดีที่คุณปู่เป็นคนจ่ายทั้งหมด ไม่อย่างนั้นค่าตัวเธอคงไม่เหลือเพราะต้องเอามาจ่ายค่าที่พักเดือนละหลายแสนบาทแบบนี้(ปลอดภัยดีใช่ไหมคะ?)“มาก ๆ เลยค่ะ พอ ๆ กับที่เพนท์เฮ้าส์เลย”(ได้ยินแบบนี้เฮียก็
“อเมริกา?” กฤตินทวนชื่อประเทศที่แสนห่างไกลด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อย“ค่ะ”“หนูไปทำอะไรคะ?”“มีผู้กำกับหนังฮอลลิวูดติดต่อมา เขาอยากให้จีไปรับบทนำในหนังของเขา แต่หนังต้องใช้เวลาถ่ายครึ่งปี จีก็เลย...”“จริงเหรอคะ!?” ครั้งนี้กฤตินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เขาอุ้มร่างบางขึ้นก่อนจะหมุนไปรอบ ๆ ด้วยความดีใจ “หนูจีของเฮียเก่งที่สุดเลย!”“เฮีย... เฮีย เฮียปล่อยจีก่อน จีเวียนหัว” มือบางตีอกกว้างเบา ๆ เขาหมุนจนเธอเวียนหัวไปหมดแล้ว“ขอโทษค่ะ เฮียดีใจมากเกินไปหน่อย”คนที่ดีใจจนเกินหน้าเกินตารีบวางคนรักลง ดวงตาชั้นเดียวมองสำรวจใบหน้าสวยว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า พอเห็นว่าคนรักไม่ได้มีท่าทีอยากอาเจียนก็ถอนหายใจโล่งอก“ไม่โกรธเหรอคะที่จีเลือกไปอเมริกาแทนที่จะแต่งงานกับเฮีย”“ถ้าโกรธ เฮียคงเป็นแฟนที่แย่ที่สุดแล้วล่ะค่ะ” กฤตินจับมือบางมากุมไว้ “แต่งงานน่ะเมื่อไหร่ก็แต่งได้ จะอีกปี สองปี ห้าปี หรือสิบปีเฮียก็รอได้ แต่โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีเข้ามาบ่อย ๆ หนูเลือกถูกแล้วค่ะ ไม่ต้องกังวลนะ นานแค่ไหนเฮียก็จะรอ”“จะรอ...จริง ๆ นะ”“จริงค่ะ หัวใจของเฮียอยู่ที่หนู เฮียจะไปไหนได้ เฮียสัญญาว่าจะรอ ให้หอไอเฟลเป็นพยาน
ในที่สุดเรื่องวุ่นวายทั้งหมดก็คลี่คลายลง คนทำผิดยอมรับสารภาพเกือบทั้งหมด มีแค่พิมมาดาที่ยังปิดปากเงียบ แต่หลักฐานที่มัดตัวทำให้ดิ้นไม่หลุด ท่านพินิจทำได้แค่ประกันตัวลูกสาวออกมาชั่วคราว ยอมให้ลูกถูกขังในบ้านดีกว่าต้องนอนให้ห้องขังจะดีจะร้ายยังไงก็ลูกการดำเนินการทางกฎหมายต้องใช้เวลา ระหว่างที่รอขึ้นศาลตัดสินคดีของสามคนนั้น กฤตินตัดสินใจลางานยาวสองอาทิตย์เป็นครั้งแรกตั้งแต่ทำงานมา เพื่อพาคนรักไปพักผ่อนที่ยุโรปเริ่มต้นด้วยกรุงโรมประเทศอิตาลี เมืองแห่งศิลปะและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ต่อด้วยสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่เต็มไปด้วยธรรมชาติงดงามเหมือนภาพวาด และปิดท้ายด้วยกรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส เมืองแห่งน้ำหอมที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกเหมาะสำหรับคู่รักทริปนี้กฤตินตระเตรียมทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งที่พัก ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด รวมถึงการเดินทางที่กฤตินรับหน้าที่เป็นสารถีตลอดทริปทั้งสามประเทศ ไม่ยอมให้หนูจีต้องลำบากขึ้นรถสาธารณะแม้แต่ครั้งเดียว เรียกได้ว่าเป็นทริปพักผ่อนของจิรัชญาที่แท้จริง นอกจากตื่นมากิน เที่ยว ถ่ายรูปสวย ๆ แล้ว เธอแทบไม่ต้องทำอะไรเลย“ชอบไหมคะ?”แขนแกร่งรว
“ฮึก”พิมมาดาสะอื้นออกมาเบา ๆ ในอ้อมแขนของบิดา ท่าทางน่าสงสารทำให้ท่านพินิจต้องโอบกอดลูกสาวแน่นขึ้นเพื่อกางปีกปกป้อง ขณะเดียวกันก็ส่งสายตาผิดหวังไปให้ลูกสาวอีกคนลูกสาวที่เกิดจากความรักจากทั้งเขาและคนรักชื่อว่านภา ทว่าเขาไม่เคยมีโอกาสได้เลี้ยงดู จนกระทั่งคุณหญิงพิมประภา ภรรยาตีทะเบียนอดีตนักแสดงชื่อดังจากไปด้วยโรคร้าย เขาถึงได้กล้าพาลูกและภรรยาที่ซุกซ่อนไว้เข้ามาอยู่ในบ้าน แต่ไม่นานนภาก็จากไปด้วยโรคร้ายเหมือนกันกับพิมประภาเหลือเพียงลูกสาวสองคนที่หน้าตาสะสวย นิสัยน่ารักอ่อนหวานไว้เป็นตัวแทนของคนทั้งคู่โดยเฉพาะนับดาว ลูกที่เกิดจากความรักนับดาวเป็นเด็กน่ารัก เรียบร้อยและเรียนเก่ง หน้าตาอ่อนหวานเหมือนแม่ แต่ก็มีบางส่วนที่คล้ายกับเขา พิมมาดาเองก็หน้าคล้ายเขาเหมือนกัน ทำให้ถ้ามองเผิน ๆ ใคร ๆ ต่างก็มองออกว่าสองคนนี้เป็นพี่น้องกันถ้าไม่ใช่เพราะต้องแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง เขากับแม่ของนับดาวคงแต่งงานอยู่กินกันอย่างมีความสุขไปแล้วตอนนั้นครอบครัวต้องการให้พินิจแต่งงานกับผู้หญิงที่คนทั้งประเทศรู้จัก เพื่อใช้ชื่อเสียงของเธอมาหนุนให้ครอบครัวรวมถึงตัวเขามีชื่อเสียงในแวดวงการเมืองมากกว่