แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: หวังหนิวตุ้น
“คืนนี้อวี่โหรวเชิญเพื่อนๆ มาปาร์ตี้ ฉลองที่เธอตั้งครรภ์”

ไม่รอให้ฉันปฏิเสธ โจวเฉิงก็ตัดทางถอยของฉันก่อน

“เธอคิดถึงคุณมาก อยากให้คุณมาแสดงความยินดีด้วย คุณอย่าได้ไม่รู้จักดีชั่วเชียว!”

ฉันยิ้มเยาะ บอกว่าได้

ถึงอย่างไร หัวใจฉันก็ตายไปแล้ว ทนายที่จะจัดการเรื่องหย่าก็ติดต่อเรียบร้อยแล้ว

ไม่มีทางถูกวิธีการเหล่านั้นของซูอวี่โหรวทำร้ายได้อีก

เข้าไปนั่งในห้องส่วนตัว ซูอวี่โหรวที่แต่งตัวจัดเต็มมาสาย

ฉันนอนโรงพยาบาลหลายวัน ไม่ทันได้เตรียมตัวสักนิด หน้าตาไม่เรียบร้อย ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง

เมื่อเทียบกันแล้ว เธอเหมือนดอกไม้สดสวยพร่างพราว

ผู้คนรอบด้านพากันสรรเสริญเยินยอ ชมเชยกันไม่ขาดปาก

“แนวคิดของจิตรกรสาวสวยของพวกเราทันสมัย ปฏิเสธคนตามจีบเยอะขนาดนั้น เพียงเพราะตัวเองอยากเป็นคุณแม่ยังโสด”

“ใครให้อวี่โหรวมีเงินและมีเวลาว่างล่ะ คนเดียวก็เลี้ยงลูกได้นะ~ไม่ใช่หญิงแก่หน้าเหลืองที่ยื่นมือขอเงินสามีพวกนั้นนี่!”

สายตาผู้คนรอบๆ คล้ายจะมองและไม่ได้มองมาทางฉัน แฝงไปด้วยแววเสียดสี เห็นเป็นเรื่องตลก

ซูอวี่โหรวยิ้มแล้วสั่งเหล้ามามากมาย บอกว่าคืนนี้เธอเลี้ยงเอง

ทุกคนแนะนำว่า ไม่สู้เล่น Truth or dare กัน ให้บรรยากาศครึกครื้นขึ้นมา

ขวดเหล้าเปล่าหมุนไปทางซูอวี่โหรวเป็นคนแรก เธอบู้ปาก เอ่ยอย่างแง่งอนว่า “ฉันเลือกพูดความจริงแล้วกัน”

เพื่อนสนิทเธอขยิบตา พลางถาม “โหรวโหร่ว เธออาศัยเด็กหลอดแก้วคลอดลูก หลังจากนี้จะให้เด็กนับโจวเฉิงที่เป็นพ่อคนนี้ไหม”

ซูอวี่โหรวลูบท้อง ยิ้มให้ฉัน

“พี่เวินฉิง ฉันรู้ว่าพี่ถือสามาก หลายวันมานี้ยังโกรธกับอาเฉิง แต่พี่วางใจได้ ฉันไม่มีทางทำลายพวกพี่แน่นอน อย่างไรเสียพี่ก็รู้ว่า หากฉันต้องการแต่งงานกับอาเฉิงล่ะก็ พี่จะมีโอกาสอะไรเสียที่ไหน”

“แต่ว่านะ...หากว่าพี่ให้กำเนิดลูกไม่ได้ตลอด ในอนาคตแก่ตัวไป ฉันก็จะให้ลูกชายกตัญญูต่ออาเฉิงและพี่ ไม่อย่างนั้นพี่ก็น่าสงสารเกินไปแล้ว”

ผู้คนรอบๆ ล้วนชมเธอว่าใจดีเกินไปแล้ว

ในใจฉันสงบมาก กระทั่งคิ้วก็ไม่ขมวดสักนิดเดียว

ในอดีต โดยเฉพาะสองปีนี้ที่สภาพการงานบริษัทโจวเฉิงดีขึ้น ซูอวี่โหรวพลันบุกรุกเข้ามาในชีวิตของฉัน และปรากฏตัวข้างกายโจวเฉิงบ่อยครั้ง

แรกเริ่ม ฉันตะลึงและโมโหจริงๆ ทั้งยังหึงหวง ชวนทะเลาะเช่นกัน

แต่โจวฉิงเลือกอีกฝ่ายอย่างเด็ดเดี่ยวครั้งแล้วครั้งเล่า ด่าฉันว่าไม่รู้ความ คิดเล็กคิดน้อยเกินเหตุ ใส่ร้ายป้ายสีพวกเขา ก็ทำให้ฉันท้อใจโดยสิ้นเชิงแล้ว

“ฉันไม่ถือสา ความจริงจะให้ฉันไปเดินเรื่องหย่าทันทีที่สำนักกิจการพลเรือนตอนนี้เลยก็ได้ ฉันไม่มีความเห็นอะไรเช่นกัน”

โจวเฉิงดวงหน้าทะมึน บอกฉันว่าอย่าจงใจพูดเพราะโมโห

ฉันยิ้มเรียบๆ “ฉันแนะนำว่าคุณอย่าได้คิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป นึกว่าในใจฉัน คุณมีความสำคัญมากหรือ”

นัยน์ตาของโจวเฉิงมีประกายสับสนพาดผ่านระลอกหนึ่ง แต่ในไม่ช้าก็สงบนิ่งลง

“พอเถอะ อย่าขี้เหนียวนักเลย คุณดูสิว่าอวี่โหรวใจกว้าง รู้ความมากแค่ไหน ทั้งยังคิดเพื่อคุณไปซะทุกเรื่อง ก็แค่ระยะนี้ไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนคุณเท่านั้นเอง ต่อไปอีกหลายวัน ผมจะอยู่บ้าน คุณพอใจแล้วสินะ”

เมื่อเห็นว่าบรรยากาศไม่ดี คนข้างๆ ก็รีบเอ่ยว่าเล่นรอบถัดไปเถอะ

ครั้งนี้ขวดเหล้าหมุนมาทางฉัน

ฉันกำลังจะพูดว่าเลือกพูดความจริง ซูอวี่โหรวก็แย่งพูดก่อนแล้ว

“เมื่อตะกี้ฉันเลือกพูดความจริงแล้ว ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นทำตามคำสั่งเถอะ”

ฉันมองการจงใจหาเรื่องของเธออย่างเย็นชา แต่ก็ไม่เป็นไรแล้ว

สุดท้าย ภารกิจที่ฉันจับได้ก็คือ เดินออกจากห้องไปแล้วจูบเพศตรงข้ามคนแรกที่เจอ

โจวเฉิงไม่รีรอ ดันเหล้าสามขวดมาตรงหน้าฉันทันที

“เธอทำภารกิจนี้ไม่ได้ ลงโทษตัวเองด้วยเหล้าสามขวด ก็แล้วกันไป”

ทุกคนหัวเราะเกรียวกราว พูดว่า ก็ถูก

สามีนั่งอยู่ข้างๆ ออกไปจูบผู้ชายอื่นนั้นไม่ดีจริงๆ

ฉันกลับลุกขึ้น “ทำไมต้องยอมแพ้ด้วยล่ะ เกมนี้ไม่ใช่ซูอวี่โหรวให้ฉันทำหรือ ฉันก็ไม่ใช่ว่าเล่นไม่ได้สักหน่อย”

โจวเฉิงผุดตัวลุกขึ้น สีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างยิ่งทันที

“เวินฉิง วันนี้คุณจงใจเป็นศัตรูกับผมจนถึงที่สุดใช่ไหม”

ฉันไม่เข้าใจจริงๆ เขายืมการทำเด็กหลอดแก้วให้ซูอวี่โหรวคลอดลูก ยังไม่รู้สึกว่ามีอะไร ปากพูดปาวๆ กับฉันว่าอย่าคิดเล็กคิดน้อย

ทำไมพอฉันเล่นเกมขึ้นมา เขาดันอับอายจนโมโหเสียล่ะ

ซูอวี่โหรวรีบเดินมาไกล่เกลี่ยระหว่างพวกเรา แต่สายตากลับเหลือบมองท้องฉันคล้ายตั้งใจ คล้ายไม่ตั้งใจ “เหล้านี้ดีกรีต่ำมาก ดื่มแล้วก็ไม่เป็นไร”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ โจวเฉิงก็ยิ่งโมโห เปิดฝาขวดเหล้าแล้วยัดเข้าปากฉัน

“ทุกคนล้วนให้ทางลงกับคุณแล้ว คุณต้องการจะทำให้หมดสนุกให้ได้เลยใช่ไหม”

ฉันสำลักเหล้าลงท้องไปอึกหนึ่งอย่างไม่ทันได้ป้องกัน ยังมีเหล้าอีกไม่น้อยที่สาดออกมาเพราะการกระทำอันรุนแรงของโจวเฉิง ทั้งหมดกระเด็นเข้าที่ตาและใบหน้าของฉัน

เมื่อนึกถึงทารกในท้อง ฉันก็ลนลาน รีบถอยหลัง โบกมืออย่างต้องการหลบเลี่ยง

ทันใดนั้น ก็มีอะไรบางอย่างเกี่ยวด้านหลังเท้าฉัน ฉันหงายหลังล้มลงไปกองกับพื้นหินอ่อนแข็งๆ ในห้องส่วนตัวอย่างแรงทันที

ความเจ็บปวดระลอกหนึ่งค่อยๆ เกิดขึ้นบริเวณท้องน้อย ฉันปกป้องท้อง ตะโกนเสียงดังว่าเจ็บ

โจวเฉิงมีสีหน้าตื่นตกใจเล็กน้อย ยื่นมือคิดจะดึงฉัน แต่ปากกลับเอ่ยว่า “ล้มก้นกระแทกพื้นนิดเดียว ไม่ได้ตายสักหน่อย”

ตอนนี้ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ฉันกรีดร้องขึ้นมา

“เลือด! บนพื้นมีเลือดเยอะเลย!”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 4

    โจวเฉิงตะลึงไปหลายวินาที แล้วรีบย่อตัวลงมากอดฉันเอาไว้ล้มนิดเดียว ทำไมเลือดออกได้”ฉันลองคิดจะลุกขึ้น แต่กลับเหงื่อออกท่วมตัว ริมฝีปากสั่นระริกขึ้นมา“รีบโทรหา 120 ส่งฉันไปโรงพยาบาลเร็วเข้า!”ซูอวี่โหรวแหวกกลุ่มคน เดินเข้ามา “พวกเธออย่าทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูม นี่ประจำเดือนมาแล้วสินะ”เธอบอกว่าฉันโอเวอร์แอคติ้งเกินไป หากรู้สึกไม่สบาย จะกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนก็ได้สีหน้าโจวเฉิงเปลี่ยนเป็นผิดหวังมาก“คุณไม่ได้ตั้งครรภ์อย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ”ฉันคิดจะอธิบาย แต่ความเจ็บปวดรุนแรงระลอกหนึ่งที่ท้องน้อย บีบให้ฉันต้องกัดฟันแน่น ถึงจะสามารถทนได้สุดท้ายโจวเฉิงก็คว้าตัวฉันขึ้นมา เดินไปทางนอกประตู พลางเอ่ยว่า เขายังต้องรั้งอยู่เป็นเพื่อนซูอวี่โหรว และจะช่วยฉันเรียกรถกลับบ้านเมื่อประตูเปิดออก ฉันกับวังหยางทักทายกันเขาส่งเสียง “ไง” บอกว่าทำไมพี่ฉิงถึงมาเที่ยวเล่นที่บาร์กันแต่เขาก็สังเกตเห็นรอยเลือดที่มากขึ้นเรื่อยๆ บนกางเกงฉันได้ทันที จึงมีสีหน้าเปลี่ยนไป“ทำไมถึงเลือดออกอีกแล้ว คุณหมอกำชับแล้วไม่ใช่หรือว่า ให้พี่ดูแลครรภ์ให้ดี!”ด้วยความเร่งรีบ เขาตะโกนเสียงดังมาก โจวเฉิงและกลุ่มคนท

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 5

    วังหยางก็ค้นพบอาหารที่โจวเฉิงซื้อมาเช่นกัน จึงตะลึงอยู่บ้าง“อาหารของร้านอาหารละแวกโรงพยาบาลมีเยอะมากที่เหมาะจะให้คนป่วยกิน พี่ชาย คุณสามารถเลือกร้านที่ไม่เหมาะสมที่สุดออกมาได้ ก็ยอดเยี่ยมจริงๆ!”ฉันเห็นโจวเฉิงขบกรามแน่น อดทนอดกลั้นจึงไม่ได้บันดาลโทสะ เพียงแต่เอ่ยเสียงอึมครึมว่า หลังจากนี้ เขาจะเข้าครัวทำอาหารให้ฉันกินด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้วังหยางยุ่งเรื่องคนอื่นวังหยางไม่ยอมถอยให้สักนิดเดียว บอกตรงๆ ว่าเขาไม่วางใจ“ผมดูแลพี่สาวเป็นอย่างดีจนออกจากโรงพยาบาล ไม่ถึงวันหนึ่ง คนก็แท้งลูกเสียแล้ว คุณไม่มีความน่าเชื่อถือเลยด้วยซ้ำ”โจวเฉิงขมวดคิ้วแน่น “เวินฉิงเป็นภรรยาฉัน นายจะทำดีหวังผลอะไร ไม่รู้ว่าต้องรักษาระยะห่างกับผู้หญิงที่มีสามีหรอกหรือ”ฉันวางช้อนอย่างแรง น้ำเสียงแดกดัน“คุณมีสิทธิ์อะไรไปว่าคนอื่น ใครจะไม่มีขอบเขตไปกว่าคุณอีก อาศัยเด็กหลอดแก้วให้คนอื่นคลอดลูกแล้วยังไม่รู้สึกว่าล้ำเส้น”วังหยางเบิกตากว้าง เหลือบมองโจวเฉิงด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความเหลือเชื่อหลายครั้งโจวเฉิงอดกลั้นจนหน้าดำหน้าแดง หากเป็นเมื่อก่อน เขาคงกระแทกประตูจากไปแล้ว แต่วันนี้ถึงกับสามารถทนได้ นั่งลงบน

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 6

    เผชิญหน้ากับการถามด้วยท่าทางเปี่ยมไปด้วยเหตุผลของโจวเฉิง ฉันไม่มีอารมณ์จะแยกแยะวิเคราะห์อะไรอีกเขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองผิด“หนึ่งนาทีสามารถปริ้นท์ข้อตกลงการแต่งงานออกมาได้หนึ่งร้อยฉบับ คุณหลบเลี่ยงไป ก็ไม่มีประโยชน์”โจวเฉิงลุกขึ้นด้วยความโมโห เก้าอี้ล้มกระแทกพื้นดังตึงเขาเดินวนไปวนมาเหมือนสุนัขที่อารมณ์พลุ่งพล่าน พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้สงบ“ภรรยา หากคุณถือสาจริงๆ ผมสามารถเขียนหนังสือรับประกัน ทำพินัยกรรมก็ได้! ผมรับรองว่าจะไม่ยอมรับลูกของอวี่โหรว และไม่มีทางมอบทรัพย์สินให้เด็กสืบทอด แบบนี้คุณคงวางใจได้แล้วสินะ”ฉันถอนหายใจยาวทำไมตลอดมาเขาถึงไม่เข้าใจเลยนะว่า ทรัพย์สินสามารถทำพินัยกรรมได้ ตัวอักษรสีดำเขียนชัดบนกระดาษสีขาวแต่ความรู้สึกล่ะความรู้สึกสามารถพูดว่าไม่ให้ก็ไม่ให้ได้หรือหลังจากนั้นเห็นเด็กโตขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นยิ่งเหมือนตัวเองขึ้นเรื่อยๆเลือดข้นกว่าน้ำ จะไม่หวั่นไหวได้อย่างไรหากฉันยังเชื่อใจอีก เช่นนั้นก็เป็นคนที่โง่ที่สุดในโลกแล้ว“โจวเฉิง คุณยินยอมปกป้องใครสิบปี ยินยอมมีลูกกับใคร ยินยอมให้เงินใครใช้ ฉันล้วนไม่แคร์”“ฉันรักคุณมาแปดปีแล้ว ถึงขั้นยอมอดท

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 7

    ฉันไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิดจริงๆครุ่นคิดให้ละเอียด วังหยางที่ยังเป็นวัยรุ่นอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่คนเดียว ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย ก็อาศัยอยู่ที่คอนโดด้านนอก ฐานะครอบครัวไม่ธรรมดาจริงๆแต่อย่างไร ฉันก็ไม่ได้คิดเชื่อมโยงทางที่เขาเป็นลูกชายของประธานบริษัทแห่งนี้เลยเพิ่งเอ่ยถึงเขา วังหยางก็เรียกฉันไปที่ห้องทำงานรอบหนึ่งได้สติกลับคืนมา ถึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีเรื่องสำคัญต้องรายงานบริษัทของครอบครัววังหยางทำการค้าวัตถุโบราณของล้ำค่าระดับไฮเอนด์โดยเฉพาะ ในภายหลังเขาเปิดบริษัทผลงานทางด้านศิลปะยุคปัจจุบันอีกแห่งด้วยตัวเองแม้ว่าบริษัทใหม่จะรวมผลงานทางด้านศิลปะกับเครื่องประดับอัญมณีอันทันสมัยจะไม่ได้ซื้อขายด้วยเงินก้อนโตเป็นประจำเหมือนสินค้าระดับไฮเอนด์ แต่บุกเบิกตลาดใหม่ ทำได้ไม่เลวยิ่งที่บังเอิญก็คือ ภาพวาดหลายชิ้นของซูอวี่โหรวก็ดำเนินการประมูลที่นี่ด้วย ราคายังไม่น้อย ล้วนประมาณแสนหยวนอีกอย่างก็ค้นพบปัญหาของเธอพอดีภาพของเธอ เลียนแบบการผสมผสานจากผลงานของจิตรกรตัวเล็กๆ หลายคนก่อนหน้านี้ไม่ถูกพบโดยการประเมิน แต่กลับถูกจับออกมาได้จากข้อมูลที่ฉันนำมาใช้“ผู้จัดการวัง ฉันคิดว่า หาก

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 8

    ฉันครุ่นคิดเล็กน้อย ก็เข้าใจแล้ว วันนี้โจวเฉิงจะต้องมาแสร้งทำเป็นมีความรู้สึกลึกซึ้งใต้อาคารบริษัทอีกแน่นอน แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับซูอวี่โหรวเขาน่าจะแสดงตัวกับประชาสัมพันธ์ว่าเป็นสามีของฉัน ดังนั้นถึงเข้ามาได้สำหรับการปรากฏตัวของโจวเฉิง ซูอวี่โหรวก็ตะลึงมากเช่นกันหลังตะลึง เธอก็โกรธกว่าเดิม เล่าเรื่องที่ฉันรังแกเธออีกรอบ“เวินฉิงริษยาที่คุณดีกับฉันมาตลอด จะต้องฉวยโอกาสนี้แก้แค้นฉันแน่นอน!”เผชิญหน้ากับสายตาซุบซิบนินทารอบด้าน โจวเฉิงจึงโมโหเพราะอับอายอยู่บ้าง“คุณพูดเหลวไหลอะไรน่ะ เสี่ยวฉิงไม่ใช่คนประเภทนั้น! อีกอย่างเรื่องประเภทนี้จะใช่เรื่องที่เธอซึ่งเป็นพนักงานตัวเล็กๆ มีอำนาจตัดสินใจได้หรือ”ซูอวี่โหรวเบิกตากว้างอย่างตะลึง ราวกับรู้จักโจวเฉิงเป็นครั้งแรก“คุณถึงกับช่วยเธอ ไม่เชื่อฉันหรือ”ฉันกอดอก มองสองคนนี้ทะเลาะกันด้วยสายตาเย็นชาไม่ต้องพูดถึงซูอวี่โหรว กระทั่งฉันก็ยังประหลาดใจเล็กน้อย โจวเฉิงถึงกับไม่ได้ช่วยอีกฝ่ายโดยไม่แยกแยะถูกผิดหากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน เขาต้องด่าฉันเปิงไปนานแล้ว“อวี่โหรว คุณอย่าอ่อนไหวขนาดนี้จะได้ไหม มีปัญหาอะไร ทุกคนสามารถคุยกันดีๆ ได้ คุณ

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 9

    วันนั้น หลังจากโจวเฉิงกับซูอวี่โหรวถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่วังหยางเรียกมาไล่ออกจากบริษัทไปอย่างเศร้าหมอง ก็ยุติการวิพากษ์วิจารณ์ไปหลายเดือนเดิมฉันยังแปลกๆ ทำไมสองคนนี้ถึงสามารถหยุดการหาเรื่องได้ขนาดนี้เสียทีที่ฉันเตรียมตัวต่อสู้กับสงครามยืดเยื้อนี้เรียบร้อยผลก็คือ ดูเหมือนบริษัทของโจวเฉิงจะเกิดปัญหา เขายุ่งจนหัวหมุนแต่สถานการณ์คล้ายจะไม่ดียิ่ง เพราะมีครั้งหนึ่งที่ซูอวี่โหรวส่งข้อความ ระเบิดอารมณ์ด่าประจานฉันอย่างบ้าคลั่งเธอถามฉันว่าไปพูดอะไรกับโจวเฉิงอีกใช่ไหม บีบให้เขายึดห้องสตูดิโอศิลปะที่เขาให้ก่อนหน้านี้คืนไปฉันไม่ตอบ เพียงแค่แคปรูปลงไทม์ไลน์ทันที“ที่แท้สตูดิโอส่วนตัวที่จิตรกรซูคุยโวมาตลอดนั้นมีสามีฉันเป็นคนซื้อให้หรือ มีเวลาว่างมาบ้าๆ บอๆ ใส่ฉัน ไม่สู้คิดว่าจะเร่งให้โจวเฉิงรีบเซ็นหนังสือข้อตกลงการหย่าอย่างไรจะดีกว่า”ฉันกับซูอวี่โหรวมีเพื่อนร่วมกันไม่น้อย ตอนแรกเป็นเธอที่ให้คนเหล่านั้นเพิ่มฉันเป็นเพื่อน เพื่อที่จะร่วมมือกันทำให้ฉันโมโหเป็นสองเท่าตอนนี้ฉันโพสต์ไทม์ไลน์ ก็ให้คนที่ประจบเธอมาตลอดได้เห็นพอดีควรจะถึงคราวเธอถูกความพ่ายแพ้ทำให้โมโหจนตายแล้วโพ

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 10

    เห็นรถรีบร้อนขับออกไป ความรู้สึกติดขัดที่ติดอยู่ในใจฉันมาตลอด ก็คล้ายจะหายไปทันทีน่าจะเป็นเพราะฉันรู้ว่า ในที่สุดตัวเองก็อยู่ห่างจากคนชั้นต่ำกลุ่มนี้ได้แล้วนี่คือของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดที่พระเจ้ามอบให้ฉันว่าแล้วเชียว ซูอวี่โหรวคลอดลูกชายก่อนกำหนดออกมาคนหนึ่งแต่ว่าเด็กแข็งแรงมาก ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงในที่สุดโจวเฉิงก็ยอมเซ็นชื่อในหนังสือข้อตกลงการหย่าแล้วตอนที่เดินออกจากสำนักกิจการพลเรือน เขาเรียกฉันเอาไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่สมัครใจ“เวินฉิง คุณคบชู้กับวังหยางนานแล้วใช่ไหม ดังนั้นถึงได้ดื้อดึงที่จะบีบให้ผมหย่า”ฉันบอกเขาว่า แม้จะรู้นานแล้วว่ามีเพื่อนบ้านใหม่ย้ายมาอยู่ที่ห้องข้างๆ แต่ครั้งแรกที่มีภาวะแท้งคุกคาม ต้องไปโรงพยาบาลวันนั้น ถึงเป็นวันที่ฉันกับวังหยางคุยกันอย่างเป็นทางการฉันทำอะไรล้วนโปร่งใส ไม่มีสิ่งใดให้ละอาย แม้ว่าพระเจ้าจะเป็นคนมาถาม ก็ล้วนเป็นคำตอบนี้“โจวเฉิง คุณล่ะ คุณแค่ปกป้องซูอวี่โหรวอย่างบริสุทธิ์ใจจริงๆ หรือ หลายปีมานี้ไม่มีการอยู่ร่วมกันและความคิดที่ล้ำเส้นเลยแม้แต่น้อย?”โจวเฉิงอ้าปาก ยังไม่ได้พูด ก็ถูกฉันตัดบทแล้ว“คุณไม่ต้องตอบคำถาม ในใจฉ

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 1

    เมื่อวางสายโทรศัพท์ ฉันถ่ายรูปอาหารที่ตั้งใจเตรียมและเค้กครบรอบแต่งงานหกปีส่งให้สามีเขาตอบกลับเร็วมาก“ถึงวันเกิดคุณแล้วหรือ” “วันนี้ผมบินกลับไปไม่ได้ คุณฉลองเองก็เรียบร้อยแล้ว”ฉันยิ้มเยาะตัวเอง โยนเค้กลงถังขยะวันเกิดฉันก็ดี วันครบรอบแต่งงานของพวกเราก็ช่างโจวเฉิงจำไม่ได้ตลอดกาลแต่พอเป็นเรื่องของซูอวี่โหรว เขาตั้งใจเตรียมสมุดจดเล่มเล็กๆ เล่มหนึ่งเขียนเอาไว้ชัดเจนบันทึกตั้งแต่มัธยมปลายจนถึงตอนนี้ฉันเก็บใบผลการตรวจครรภ์บนโต๊ะขึ้นมาอีกครั้งเช่นกันเดิมตั้งใจจะมอบเป็นของขวัญให้กับโจวเฉิงในมื้อเย็นวันนี้ตอนนี้ดูท่าจะไม่มีความจำเป็นอะไรแล้วแต่งงานหกปีแล้วไม่มีลูก ฉันทำเด็กหลอดแก้วไปสามครั้ง กระบวนการนั้นทุกข์ทรมานมาก อีกอย่างล้วนล้มเหลวเดิมนึกว่าครั้งนี้ก็ไม่มีหวังแล้วเช่นกัน ใครจะไปรู้ว่า ถึงกับตั้งครรภ์แล้วแต่ไม่รอให้ฉันดีใจได้หลายนาที ก็เห็นไทม์ไลน์นั่นของซูอวี่โหรวไม่แน่ว่า เธอยังใช้อสุจิสามีฉันทำเด็กหลอดแก้วในวันเดียวกันด้วยมีเพียงฉันคนโง่งมที่ถูกปิดบัง ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นฉันยกอาหารมาตรงหน้าตัวเอง แม้ว่าจะไม่มีความอยากอาหาร แต่เพื่อลูก ก็ต้องกินสักสองสา

บทล่าสุด

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 10

    เห็นรถรีบร้อนขับออกไป ความรู้สึกติดขัดที่ติดอยู่ในใจฉันมาตลอด ก็คล้ายจะหายไปทันทีน่าจะเป็นเพราะฉันรู้ว่า ในที่สุดตัวเองก็อยู่ห่างจากคนชั้นต่ำกลุ่มนี้ได้แล้วนี่คือของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดที่พระเจ้ามอบให้ฉันว่าแล้วเชียว ซูอวี่โหรวคลอดลูกชายก่อนกำหนดออกมาคนหนึ่งแต่ว่าเด็กแข็งแรงมาก ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงในที่สุดโจวเฉิงก็ยอมเซ็นชื่อในหนังสือข้อตกลงการหย่าแล้วตอนที่เดินออกจากสำนักกิจการพลเรือน เขาเรียกฉันเอาไว้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่สมัครใจ“เวินฉิง คุณคบชู้กับวังหยางนานแล้วใช่ไหม ดังนั้นถึงได้ดื้อดึงที่จะบีบให้ผมหย่า”ฉันบอกเขาว่า แม้จะรู้นานแล้วว่ามีเพื่อนบ้านใหม่ย้ายมาอยู่ที่ห้องข้างๆ แต่ครั้งแรกที่มีภาวะแท้งคุกคาม ต้องไปโรงพยาบาลวันนั้น ถึงเป็นวันที่ฉันกับวังหยางคุยกันอย่างเป็นทางการฉันทำอะไรล้วนโปร่งใส ไม่มีสิ่งใดให้ละอาย แม้ว่าพระเจ้าจะเป็นคนมาถาม ก็ล้วนเป็นคำตอบนี้“โจวเฉิง คุณล่ะ คุณแค่ปกป้องซูอวี่โหรวอย่างบริสุทธิ์ใจจริงๆ หรือ หลายปีมานี้ไม่มีการอยู่ร่วมกันและความคิดที่ล้ำเส้นเลยแม้แต่น้อย?”โจวเฉิงอ้าปาก ยังไม่ได้พูด ก็ถูกฉันตัดบทแล้ว“คุณไม่ต้องตอบคำถาม ในใจฉ

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 9

    วันนั้น หลังจากโจวเฉิงกับซูอวี่โหรวถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่วังหยางเรียกมาไล่ออกจากบริษัทไปอย่างเศร้าหมอง ก็ยุติการวิพากษ์วิจารณ์ไปหลายเดือนเดิมฉันยังแปลกๆ ทำไมสองคนนี้ถึงสามารถหยุดการหาเรื่องได้ขนาดนี้เสียทีที่ฉันเตรียมตัวต่อสู้กับสงครามยืดเยื้อนี้เรียบร้อยผลก็คือ ดูเหมือนบริษัทของโจวเฉิงจะเกิดปัญหา เขายุ่งจนหัวหมุนแต่สถานการณ์คล้ายจะไม่ดียิ่ง เพราะมีครั้งหนึ่งที่ซูอวี่โหรวส่งข้อความ ระเบิดอารมณ์ด่าประจานฉันอย่างบ้าคลั่งเธอถามฉันว่าไปพูดอะไรกับโจวเฉิงอีกใช่ไหม บีบให้เขายึดห้องสตูดิโอศิลปะที่เขาให้ก่อนหน้านี้คืนไปฉันไม่ตอบ เพียงแค่แคปรูปลงไทม์ไลน์ทันที“ที่แท้สตูดิโอส่วนตัวที่จิตรกรซูคุยโวมาตลอดนั้นมีสามีฉันเป็นคนซื้อให้หรือ มีเวลาว่างมาบ้าๆ บอๆ ใส่ฉัน ไม่สู้คิดว่าจะเร่งให้โจวเฉิงรีบเซ็นหนังสือข้อตกลงการหย่าอย่างไรจะดีกว่า”ฉันกับซูอวี่โหรวมีเพื่อนร่วมกันไม่น้อย ตอนแรกเป็นเธอที่ให้คนเหล่านั้นเพิ่มฉันเป็นเพื่อน เพื่อที่จะร่วมมือกันทำให้ฉันโมโหเป็นสองเท่าตอนนี้ฉันโพสต์ไทม์ไลน์ ก็ให้คนที่ประจบเธอมาตลอดได้เห็นพอดีควรจะถึงคราวเธอถูกความพ่ายแพ้ทำให้โมโหจนตายแล้วโพ

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 8

    ฉันครุ่นคิดเล็กน้อย ก็เข้าใจแล้ว วันนี้โจวเฉิงจะต้องมาแสร้งทำเป็นมีความรู้สึกลึกซึ้งใต้อาคารบริษัทอีกแน่นอน แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับซูอวี่โหรวเขาน่าจะแสดงตัวกับประชาสัมพันธ์ว่าเป็นสามีของฉัน ดังนั้นถึงเข้ามาได้สำหรับการปรากฏตัวของโจวเฉิง ซูอวี่โหรวก็ตะลึงมากเช่นกันหลังตะลึง เธอก็โกรธกว่าเดิม เล่าเรื่องที่ฉันรังแกเธออีกรอบ“เวินฉิงริษยาที่คุณดีกับฉันมาตลอด จะต้องฉวยโอกาสนี้แก้แค้นฉันแน่นอน!”เผชิญหน้ากับสายตาซุบซิบนินทารอบด้าน โจวเฉิงจึงโมโหเพราะอับอายอยู่บ้าง“คุณพูดเหลวไหลอะไรน่ะ เสี่ยวฉิงไม่ใช่คนประเภทนั้น! อีกอย่างเรื่องประเภทนี้จะใช่เรื่องที่เธอซึ่งเป็นพนักงานตัวเล็กๆ มีอำนาจตัดสินใจได้หรือ”ซูอวี่โหรวเบิกตากว้างอย่างตะลึง ราวกับรู้จักโจวเฉิงเป็นครั้งแรก“คุณถึงกับช่วยเธอ ไม่เชื่อฉันหรือ”ฉันกอดอก มองสองคนนี้ทะเลาะกันด้วยสายตาเย็นชาไม่ต้องพูดถึงซูอวี่โหรว กระทั่งฉันก็ยังประหลาดใจเล็กน้อย โจวเฉิงถึงกับไม่ได้ช่วยอีกฝ่ายโดยไม่แยกแยะถูกผิดหากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน เขาต้องด่าฉันเปิงไปนานแล้ว“อวี่โหรว คุณอย่าอ่อนไหวขนาดนี้จะได้ไหม มีปัญหาอะไร ทุกคนสามารถคุยกันดีๆ ได้ คุณ

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 7

    ฉันไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิดจริงๆครุ่นคิดให้ละเอียด วังหยางที่ยังเป็นวัยรุ่นอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่คนเดียว ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย ก็อาศัยอยู่ที่คอนโดด้านนอก ฐานะครอบครัวไม่ธรรมดาจริงๆแต่อย่างไร ฉันก็ไม่ได้คิดเชื่อมโยงทางที่เขาเป็นลูกชายของประธานบริษัทแห่งนี้เลยเพิ่งเอ่ยถึงเขา วังหยางก็เรียกฉันไปที่ห้องทำงานรอบหนึ่งได้สติกลับคืนมา ถึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีเรื่องสำคัญต้องรายงานบริษัทของครอบครัววังหยางทำการค้าวัตถุโบราณของล้ำค่าระดับไฮเอนด์โดยเฉพาะ ในภายหลังเขาเปิดบริษัทผลงานทางด้านศิลปะยุคปัจจุบันอีกแห่งด้วยตัวเองแม้ว่าบริษัทใหม่จะรวมผลงานทางด้านศิลปะกับเครื่องประดับอัญมณีอันทันสมัยจะไม่ได้ซื้อขายด้วยเงินก้อนโตเป็นประจำเหมือนสินค้าระดับไฮเอนด์ แต่บุกเบิกตลาดใหม่ ทำได้ไม่เลวยิ่งที่บังเอิญก็คือ ภาพวาดหลายชิ้นของซูอวี่โหรวก็ดำเนินการประมูลที่นี่ด้วย ราคายังไม่น้อย ล้วนประมาณแสนหยวนอีกอย่างก็ค้นพบปัญหาของเธอพอดีภาพของเธอ เลียนแบบการผสมผสานจากผลงานของจิตรกรตัวเล็กๆ หลายคนก่อนหน้านี้ไม่ถูกพบโดยการประเมิน แต่กลับถูกจับออกมาได้จากข้อมูลที่ฉันนำมาใช้“ผู้จัดการวัง ฉันคิดว่า หาก

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 6

    เผชิญหน้ากับการถามด้วยท่าทางเปี่ยมไปด้วยเหตุผลของโจวเฉิง ฉันไม่มีอารมณ์จะแยกแยะวิเคราะห์อะไรอีกเขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองผิด“หนึ่งนาทีสามารถปริ้นท์ข้อตกลงการแต่งงานออกมาได้หนึ่งร้อยฉบับ คุณหลบเลี่ยงไป ก็ไม่มีประโยชน์”โจวเฉิงลุกขึ้นด้วยความโมโห เก้าอี้ล้มกระแทกพื้นดังตึงเขาเดินวนไปวนมาเหมือนสุนัขที่อารมณ์พลุ่งพล่าน พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้สงบ“ภรรยา หากคุณถือสาจริงๆ ผมสามารถเขียนหนังสือรับประกัน ทำพินัยกรรมก็ได้! ผมรับรองว่าจะไม่ยอมรับลูกของอวี่โหรว และไม่มีทางมอบทรัพย์สินให้เด็กสืบทอด แบบนี้คุณคงวางใจได้แล้วสินะ”ฉันถอนหายใจยาวทำไมตลอดมาเขาถึงไม่เข้าใจเลยนะว่า ทรัพย์สินสามารถทำพินัยกรรมได้ ตัวอักษรสีดำเขียนชัดบนกระดาษสีขาวแต่ความรู้สึกล่ะความรู้สึกสามารถพูดว่าไม่ให้ก็ไม่ให้ได้หรือหลังจากนั้นเห็นเด็กโตขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นยิ่งเหมือนตัวเองขึ้นเรื่อยๆเลือดข้นกว่าน้ำ จะไม่หวั่นไหวได้อย่างไรหากฉันยังเชื่อใจอีก เช่นนั้นก็เป็นคนที่โง่ที่สุดในโลกแล้ว“โจวเฉิง คุณยินยอมปกป้องใครสิบปี ยินยอมมีลูกกับใคร ยินยอมให้เงินใครใช้ ฉันล้วนไม่แคร์”“ฉันรักคุณมาแปดปีแล้ว ถึงขั้นยอมอดท

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 5

    วังหยางก็ค้นพบอาหารที่โจวเฉิงซื้อมาเช่นกัน จึงตะลึงอยู่บ้าง“อาหารของร้านอาหารละแวกโรงพยาบาลมีเยอะมากที่เหมาะจะให้คนป่วยกิน พี่ชาย คุณสามารถเลือกร้านที่ไม่เหมาะสมที่สุดออกมาได้ ก็ยอดเยี่ยมจริงๆ!”ฉันเห็นโจวเฉิงขบกรามแน่น อดทนอดกลั้นจึงไม่ได้บันดาลโทสะ เพียงแต่เอ่ยเสียงอึมครึมว่า หลังจากนี้ เขาจะเข้าครัวทำอาหารให้ฉันกินด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้วังหยางยุ่งเรื่องคนอื่นวังหยางไม่ยอมถอยให้สักนิดเดียว บอกตรงๆ ว่าเขาไม่วางใจ“ผมดูแลพี่สาวเป็นอย่างดีจนออกจากโรงพยาบาล ไม่ถึงวันหนึ่ง คนก็แท้งลูกเสียแล้ว คุณไม่มีความน่าเชื่อถือเลยด้วยซ้ำ”โจวเฉิงขมวดคิ้วแน่น “เวินฉิงเป็นภรรยาฉัน นายจะทำดีหวังผลอะไร ไม่รู้ว่าต้องรักษาระยะห่างกับผู้หญิงที่มีสามีหรอกหรือ”ฉันวางช้อนอย่างแรง น้ำเสียงแดกดัน“คุณมีสิทธิ์อะไรไปว่าคนอื่น ใครจะไม่มีขอบเขตไปกว่าคุณอีก อาศัยเด็กหลอดแก้วให้คนอื่นคลอดลูกแล้วยังไม่รู้สึกว่าล้ำเส้น”วังหยางเบิกตากว้าง เหลือบมองโจวเฉิงด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความเหลือเชื่อหลายครั้งโจวเฉิงอดกลั้นจนหน้าดำหน้าแดง หากเป็นเมื่อก่อน เขาคงกระแทกประตูจากไปแล้ว แต่วันนี้ถึงกับสามารถทนได้ นั่งลงบน

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 4

    โจวเฉิงตะลึงไปหลายวินาที แล้วรีบย่อตัวลงมากอดฉันเอาไว้ล้มนิดเดียว ทำไมเลือดออกได้”ฉันลองคิดจะลุกขึ้น แต่กลับเหงื่อออกท่วมตัว ริมฝีปากสั่นระริกขึ้นมา“รีบโทรหา 120 ส่งฉันไปโรงพยาบาลเร็วเข้า!”ซูอวี่โหรวแหวกกลุ่มคน เดินเข้ามา “พวกเธออย่าทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูม นี่ประจำเดือนมาแล้วสินะ”เธอบอกว่าฉันโอเวอร์แอคติ้งเกินไป หากรู้สึกไม่สบาย จะกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนก็ได้สีหน้าโจวเฉิงเปลี่ยนเป็นผิดหวังมาก“คุณไม่ได้ตั้งครรภ์อย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ”ฉันคิดจะอธิบาย แต่ความเจ็บปวดรุนแรงระลอกหนึ่งที่ท้องน้อย บีบให้ฉันต้องกัดฟันแน่น ถึงจะสามารถทนได้สุดท้ายโจวเฉิงก็คว้าตัวฉันขึ้นมา เดินไปทางนอกประตู พลางเอ่ยว่า เขายังต้องรั้งอยู่เป็นเพื่อนซูอวี่โหรว และจะช่วยฉันเรียกรถกลับบ้านเมื่อประตูเปิดออก ฉันกับวังหยางทักทายกันเขาส่งเสียง “ไง” บอกว่าทำไมพี่ฉิงถึงมาเที่ยวเล่นที่บาร์กันแต่เขาก็สังเกตเห็นรอยเลือดที่มากขึ้นเรื่อยๆ บนกางเกงฉันได้ทันที จึงมีสีหน้าเปลี่ยนไป“ทำไมถึงเลือดออกอีกแล้ว คุณหมอกำชับแล้วไม่ใช่หรือว่า ให้พี่ดูแลครรภ์ให้ดี!”ด้วยความเร่งรีบ เขาตะโกนเสียงดังมาก โจวเฉิงและกลุ่มคนท

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 3

    “คืนนี้อวี่โหรวเชิญเพื่อนๆ มาปาร์ตี้ ฉลองที่เธอตั้งครรภ์”ไม่รอให้ฉันปฏิเสธ โจวเฉิงก็ตัดทางถอยของฉันก่อน“เธอคิดถึงคุณมาก อยากให้คุณมาแสดงความยินดีด้วย คุณอย่าได้ไม่รู้จักดีชั่วเชียว!”ฉันยิ้มเยาะ บอกว่าได้ถึงอย่างไร หัวใจฉันก็ตายไปแล้ว ทนายที่จะจัดการเรื่องหย่าก็ติดต่อเรียบร้อยแล้วไม่มีทางถูกวิธีการเหล่านั้นของซูอวี่โหรวทำร้ายได้อีกเข้าไปนั่งในห้องส่วนตัว ซูอวี่โหรวที่แต่งตัวจัดเต็มมาสายฉันนอนโรงพยาบาลหลายวัน ไม่ทันได้เตรียมตัวสักนิด หน้าตาไม่เรียบร้อย ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงเมื่อเทียบกันแล้ว เธอเหมือนดอกไม้สดสวยพร่างพราวผู้คนรอบด้านพากันสรรเสริญเยินยอ ชมเชยกันไม่ขาดปาก“แนวคิดของจิตรกรสาวสวยของพวกเราทันสมัย ปฏิเสธคนตามจีบเยอะขนาดนั้น เพียงเพราะตัวเองอยากเป็นคุณแม่ยังโสด”“ใครให้อวี่โหรวมีเงินและมีเวลาว่างล่ะ คนเดียวก็เลี้ยงลูกได้นะ~ไม่ใช่หญิงแก่หน้าเหลืองที่ยื่นมือขอเงินสามีพวกนั้นนี่!”สายตาผู้คนรอบๆ คล้ายจะมองและไม่ได้มองมาทางฉัน แฝงไปด้วยแววเสียดสี เห็นเป็นเรื่องตลกซูอวี่โหรวยิ้มแล้วสั่งเหล้ามามากมาย บอกว่าคืนนี้เธอเลี้ยงเองทุกคนแนะนำว่า ไม่สู้เล่น Truth or dare

  • ก็แค่มีลูกกับคนอื่น ถึงขั้นต้องหย่าเลยเหรอ?   บทที่ 2

    ฉันต้องนอนโรงพยาบาลหลายวันเพื่อให้อาการคงที่สักหน่อยวังหยาง เพื่อนบ้านที่ส่งฉันมาโรงพยาบาล เขากลับมีน้ำใจมาก วิ่งขึ้นวิ่งลง ช่วยฉันเดินเรื่องกระบวนการต่างๆ“พี่สาว พี่ไม่โทรศัพท์หาสามีพี่หรือครับ”มือที่ดื่มน้ำของฉันชะงักเล็กน้อย“ไม่ต้องบอก ฉันเตรียมหย่ากับเขาแล้ว”วังหยางร้อง “อ๋า” ออกมาครั้งหนึ่ง สีหน้าประดักประเดิดฉันรู้สึกผิดอยู่บ้าง“ขอโทษนะ ฉันไม่ควรจะพูดเรื่องพวกนี้กับนาย”วังหยางยิ้มร่าเริง โบกมือไปมา บอกไม่เป็นไรนี่ทำให้ฉันคิดถึงโจวเฉิงอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้แสดงสีหน้าดีๆ ให้ฉันมานานมากแล้วทุกครั้งที่พูดจา ไม่ใช่มีสีหน้าท่าทางหงุดหงิด ก็ขมวดคิ้ว ถลึงตาราวกับฉันพูดมากขึ้นสองสามประโยคล้วนเป็นการรบกวนเขา และกำลังสงสัย ไม่ไว้วางใจในตัวเขาเสียงสั่นของข้อความในโทรศัพท์มือถือดึงความคิดฉันกลับมาโจวเฉิงส่งรูปมาหนึ่งรูป เป็นผ้าพันคอผ้าไหมน่าเกลียดผืนหนึ่ง“ซื้อของขวัญวันเกิดให้คุณ พอใจแล้วสินะ”ฉันมองโลโก้แบรนด์ที่ผ้าพันคอผ้าไหมเผยออกมา แล้วไปเลื่อนดูไทม์ไลน์ของซูอวี่โหรว ก็เห็นกระเป๋าแอร์เมสที่เธอโพสต์ใหม่อย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ“ตั้งครรภ์แล้วไม่สบาย กระเป๋ารัก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status