บทที่ 3 กำนันจอมพล
“กำนัน กำนัน!!”
“เสียงเรียกเอะอะอะไรโว้ย!”
เสียงเหน่อหนักอย่างคนสุพรรณตะโกนตอบออกมาก่อนที่หญิงสูงวัยรูปร่างท้วมผิวสองสีหน้าเข้มมีเค้าลางความสวยในวัยสาวกว่านี้
นุ่งผ้าถุงอยู่บ้านสีน้ำเงินเข้มตัวเสื้อเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวคาดเข็มขัดนาคเส้นโต รอบคอข้อมือล้วนเต็มไปด้วยทองหยอง เดินออกมาจากเรือนไทยหลังใหญ่เก่าแก่ที่สร้างมานานกว่าสามสิบปี
“เอะอะอะไรแต่เช้า คนกำลังจะไปวัด”
“กำนันอยู่ไหมยายทองประศรี”
คนตะโกนเรียกเป็นชายหนุ่มอายุราวปลายยี่สิบสวมชุดข้าราชการนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์คันเก่าอยู่ลานบ้าน
“เอออยู่ วันนี้นอนบ้าน มีไร”
สำเนียงเหน่อชัดเอ่ยถามขณะเดินลงบันไดบ้านไม้สองชั้นใต้ถุนโล่งอย่างคนดั้งเดิมมักปลูกอาศัย
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ พอดีผู้ใหญ่บ้านหมู่สิบอยากจะขอนัดหารือกำนันสักหน่อยครับ”
“เรื่องอะไรกัน อาทิตย์ก่อนก็ประชุมไปหนหนึ่งแล้ว”
ทองประศรีเดินลงมาจากบันไดสูงไม้ขัดมันเอี่ยมอย่างดีจนขึ้นเงาสวมรองเท้าง่าย ๆ เดินไปยังผู้ใหญ่บ้านหนุ่มหล่อหมู่หนึ่งซึ่งเพิ่งได้เป็นผู้ใหญ่บ้านปีแรก
“เรื่องเงินกองทุน เห็นว่าเดือนหน้าเงินจะเข้ามาอีกรอบ เปลี่ยนรัฐบาลแล้วก็แบบนี้แหล่ะครับ นโยบายเปลี่ยน เราคนตัวเล็กตัวน้อยก็ปรับตัวกันไป”
“เออ ก็เป็นโชคดีของชาวบ้านไปแล้วกัน”
“โชคดีก็ดีน่ะสิครับ เงินมาไม่ถึงล้านไม่รู้จะแบ่งสรรยังไงให้ลงตัว”
“รอประเดี๋ยวนะพ่อผู้ใหญ่สัน”
คมสันยิ้มหวานอวดฟันขาวบนใบหน้าผิวสองสีไทยแท้ ผมสั้นรองทรงสูงรับราชการ ชุดสีกากีรีบเรียบเนี้ยบจนขึ้นรอยริ้วคมกริบ
“จอมใจ จอมใจ!”
“จ๋า ย่า”
เสียงหวานใสอย่างเด็กสาวตะโกนตอบเมื่อได้ยินเสียงผู้เป็นย่าตะโกนเรียกมาจากลานบ้าน จอมใจวิ่งตึกตักบนพื้นไม้ชั้นสองของบ้านในชุดนักเรียนประถมศึกษาปีที่สามลัดจากกลางลานนั่งเล่นชั้นสองไปยังระเบียงหน้าบ้าน
ตึก ตัก แวบ โครม
ด้วยสวมถุงเท้านักเรียนทำให้ลื่นเมื่อวิ่งบนพื้นไม้ขัดเงาอย่างดีจวบจนใกล้ถึงพลันลื่นหงายหลังโครมใหญ่บนพื้นหน้าระเบียงต่อหน้าผู้เป็นย่าและผู้ใหญ่บ้านคมสัน
“นั่น แก่นกะโหลกไม่มีใครเกิน พ่อมึงตามใจจนมึงซนเป็นลิงเป็นค่าง”
จอมใจหน้าหวานผิวขาวผิดไปจากคนในบ้านนี้ ค่อยลุกคลานเข่าไปยังราวระเบียงไม้ฉลุลายสวยงามก่อนพยุงร่างขึ้นยืนชะโงกหน้าลงไปมองย่า
“ลิงอะไรย่า หนูสวยขนาดนี้”
“แหมะ ๆ จ้า แม่คนสวย ไปเรียกพ่อมึงมา บอกผู้ใหญ่สันมาหา”
เด็กหน้าหวานยิ้มกว้างก่อนผลุบหน้าไปพร้อมเสียงวิ่งตึงตังไปด้านห้องพักด้านใน
“วันนี้ไปโรงเรียนสายเหรอยายทองประศรี นี่ใกล้เคารพธงชาติแล้วนะ”
“ก็พ่อมันมาค้างที่บ้าน มันเลยหาเรื่องอยู่กับพ่อไม่ยอมไปโรงเรียน เดี๋ยวพ่อกำนันมันคงไปส่งเอง”
คมสันพยักหน้าหงึกหงักพลันนึกถึงกำนันจอมพลพ่อของจอมใจ ชายหนุ่มสูงใหญ่หน้าคมเข้มรูปหล่อตั้งแต่สมัยหนุ่ม ๆ กระทั่งอายุปาไปสามสิบห้าสามสิบหกปีแล้วแต่ยังคงรูปร่างหน้าตาไว้จนสาว ๆ ละแวกนี้ใจเต้นแรงพอได้เห็นพ่อกำนันในแต่ละครั้ง
เสียแต่ว่าเป็นพ่อม่ายเรือพ่วงเมียทิ้งนี่แล่ะ ไม่งั้นหัวกระไดบ้านคงลื่นมันยิ่งกว่านี้
ตึก ตึก ตึก!!
เสียงวิ่งดังต่อเนื่องตัดลานโถงกลางบ้านแบบบ้านแฝดโบราณพื้นไม้ขัดมันไปยังห้องด้านหลังสุดของบ้าน
ใบหน้าคมเข้มชายไทยแท้คิ้วดกหนาขมวดมุ่นหากแต่ริมฝีปากสีเข้มด้านบนบางด้านล่างหนากว่าเปิดยิ้มบนใบหน้าออกมาขณะที่กำลังกลัดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้ม
ผ่าง!!
“พ่อ พ่อ ผู้ใหญ่บ้านสันมาหาจ้า”
เสียงหวานเล็กอย่างเด็กสาววัยแปดขวบตะโกนพร้อมวิ่งเข้ามาในห้องไม่เคาะประตูด้วยความเคยชินก่อนกระโดดขึ้นไปบนเตียงใหญ่ฟูกหนา
ตึง ตึง ตึง!
“จอมใจ ลงมา เดี๋ยวย่าก็ว่าอีกหรอก”
เสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์ไร้เสียงเหน่อผิดไปจากคนแถบละแวกนี้เอ่ยเตือนลูกสาวเพียงคนเดียว มือยังสวมเสื้อเข้าในกางเกงยีนส์สียีนส์อ่อนคาดเข็มขัด
“ไม่ว่าหรอก เพราะย่าไม่เห็น ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
เด็กสาวหัวเราะชอบใจกระโดดตึงตังบนเตียงต่อไปมองพ่อแต่งตัวพลางยิ้มกว้างสดใส
บทที่ 4 อยากมีสะใภ้เป็นดารา“วันนี้พ่อไปไหนจ๊ะ”“วันนี้วันพฤหัสแล้ว พ่อไปนอนในเมือง”สิ้นคำเจ้าเด็กน้อยพลันกระโดดผลุงทีเดียวไปเกาะหลังกว้างใหญ่ด้วยส่วนสูงร้อยแปดสิบห้า มือเล็กเหนี่ยวคอใหญ่กว้างของพ่อไว้แน่นยื่นหน้าไปด้านหน้าดั่งลูกลิงเกาะต้นมะพร้าว“ทำไมพ่อต้องไปนอนอีกบ้านด้วย ทำไมพ่อไม่อยู่กับจอมใจทุกวันล่ะจ๊ะ”สำเนียงเหน่อเล็กน้อยไม่มากจากหน้าหวาน เด็กน้อยถามคำถามปนกระเง้ากระงอดทำให้ผู้เป็นพ่อยิ้มออกมา มือใหญ่หยิบหวีขึ้นหวีผมให้เรียบร้อย เนื่องจากวันนี้เขาไม่ได้เข้าหน่วยราชการฉะนั้นจึงไม่ได้ลงน้ำมัน เพียงหวีให้เรียบเท่านั้น“พ่อต้องไปดูร้านค้าด้วย”“เฮอะ! จอมใจรู้นะ พ่อซ่อนสาวไว้ใช่ไหม”เด็กน้อยยังเซ้าซี้ถามไม่หยุดจนคนเป็นพ่อคลี่ยิ้มปากกว้างออกสุดส่งให้ใบหน้าหล่อเหลายิ่งเปล่งประกาย เขามองตอบลูกสาวในกระจกที่ส่งสายตากลมโตตาแป๋วมาให้“ใครบอกกัน พ่อจะมีสาวที่ไหนได้ แค่มีจอมใจคนเดียวก็พอแล้ว”“ฮ่า ฮ่า พวกแม่เพื่อนพูดกัน”มือที่กำลังหวีผมอยู่ชะงักทันที“แม่ของไอติมบอกว่าพ่อมีอีหนูอยู่อีกอำเภอ ไปหาทุก ๆ วันเสาร์ ส่วนแม่ของสตางค์บอกว่าไม่ใช่ ไม่ใช่ ไปหาทุกวันอาทิตย์ต่างหาก อยู่ในอำเภอเดียวก
บทที่ 5 แชตหลุดร่างระหงผิวขาวราวน้ำนมค่อยเดินเยื้องย่างบนรองเท้าส้นสูงสีครีม ดาราสาวพราวเสน่ห์สวยคมอย่างสาวไทยแท้ ผมดำขลับดกหนาหยักศกธรรมชาติปล่อยสยายกลางแผ่นหลังไอริณขยับร่างเคลื่อนไหวเป็นจังหวะอย่างรู้ดีว่าควรทิ้งสะโพกแบบใดถึงทิ้งความร้อนลวกเป็นทางตามจังหวะก้าวเดินได้มือเล็กเรียวสะบัดปลายผมหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะตัวเธอเองต้องการมัดผมแต่ไม่อาจทำได้เพราะติดสัญญารับเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับครีมบำรุงผมยี่ห้อดังของเมืองไทย แต่อย่างไรเธอเป็นคนมีความอดทนสูง ตัวเลขมหาศาลทำให้เธอสามารถทนทานกับเหงื่อไคลความร้อนรอบต้นคอได้มหาศาลเช่นกันตึก ตึก ตึก!เสียงส้นร้องเท้าราคาแพงสีครีมกระทบพื้นกระเบื้องเป็นจังหวะ ไอริณยกมือเลื่อนแว่นกันแดดบนใบหน้าขยับขึ้นพาดบนศีรษะเมื่อเธอเดินเข้าใกล้ประตูห้องทำงานของผู้บริหารอาวุโสสถานีโทรทัศน์ชื่อดังดวงตาสีน้ำตาลอมดำไม่เหมือนใครดูแปลกตา ชำเลืองมองเลขานุการหน้าห้องทำงานของท่านบริหารสถานียิ้มหวานส่งให้ก่อนเพื่อเปิดทาง“สวัสดีค่ะคุณพิชญา ไม่ทราบว่าท่านพิษณุเรียกไอริณมาวันนี้เรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าคะ”สีหน้ายิ้มหวานแต่ไม่มากของเลขานุการทำให้เธอเสียวสันหลังจนขนลุกเก
บทที่ 6 เรียลริตี้“ใจเย็น เธอบอกให้ฉันใจเย็น นอกจากภาพหลุดจูบนัวเนียกับลูกชายฉันแล้ว ยังมีแซตหลุด!”ข่าวล่าสุดเมื่อวานนี้ดังกระหึ่มไปทั่วโลกโซเซียล แซตหลุดระหว่างเธอกับภรรยาของภูมิ ลูกชายท่านพิษณุ“มันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดนะคะ”“ไม่ใช่! โอ๊ย ไอริณ เดี๋ยวนะฉันจะอ่านให้ฟัง”คิ้วเรียวคันศรขมวดมุ่นพยายามข่มอารมณ์โกรธที่ปะทุขึ้นเมื่อนึกถึงประโยคแซตเมื่อวาน“ไงไอริณ เมื่อวานภูมิบอกไปค้างกับเธอ แล้วไง ค้างแล้วไง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า เปล๊า แค่อยากจะถามว่าแย่งผัวชาวบ้านสนุกมากไหม ผัวชาวบ้าน 555 ได้นอนกับภูมิแล้วเหรอถึงเรียกผัว”ท่านพิษณุหยุดไปเมื่อถึงประโยคเด็ดหลังจากนี้ ใบหน้าท่านแดงก่ำอายเกินกว่าจะอ่านออกมาได้ ไอริณจึงต่อประโยคให้เพราะอ่านมาแล้วหลายรอบจำจนขึ้นใจ“ประโยคถัดไปของคุณพัดคือ ฉันไม่ได้นอนกับผัวแต่ยังดีกว่าอีกระหรี่นอนอ้าขาแลกกับงานแสดง ส่วนไอริณเลยตอกกลับคุณพัดไปว่า ฉันนอนอ้าขาเปิดให้คุณภูมิยังดีกว่าให้หอยปิดสนิทจนหยากไย่ขึ้น”แม้ว่าน้ำเสียงของไอริณราบเรียบแต่ท่านพิษณุกลับหน้าแดงก่ำโบกมือให้ไอริณหยุดพูด“พอ ๆ หยุด ไม่ต้องสาธยายออกมา นี่ไม่อายฉันบ้างหรือไงไอริณ”“อายทำไมคะ แค่ประโ
บทที่ 7 บางปลาม้าไอริณพูดพึมพำไม่ดังมากนักแต่ท่านพิษณุยังได้ยิน นั่งเอามือประกบบนตักมองดาราสาวแล้วอมยิ้ม“ใช่ เราจะถ่ายไปออนแอร์ไป ให้สถานการณ์สดมันพาไป”“ท่านคะ มันไม่เสี่ยงไปหน่อยเหรอคะ”เป็นเชอรี่เริ่มกังวล การถ่ายไปออนแอร์ไปเสี่ยงอย่างยิ่ง ไม่เหมือนถ่ายเสร็จแล้วตัดต่อ ตรวจดูให้แน่ใจแล้วถึงออกอากาศ“ผมอยากให้เรียลริตี้นี้สมจริงที่สุด ตัดต่อน้อยที่สุด และที่สำคัญเงินลงทุนน้อยที่สุด”ไอริณเริ่มใจไม่ดีคว้าแฟ้มในมือเชอรี่มาเปิดออกดูแผนงานลำดับต่อไปทันที“ทะ ท่าน ท่านพิษณุ นี่มันบางปลาม้า!!”“ใช่ ไอริณ บางปลาม้า เราจะกลับไปบ้านเกิดของเธอเพื่อหวนกลับคืนบ้านนา ทบทวนความทรงจำวัยเยาว์เก่า ๆ โดยเฉพาะแฟนเก่า”“แฟนเก่า?”เชอรี่ทวนคำเหลือบตามองเพื่อนดาราที่กำลังกวาดตามองแต่ละตัวอักษรบนหน้าแฟ้มอย่างตื่นตะลึงตาเบิกโพลง“ใช่ แฟนเก่า ผมได้ข่าวมาว่าแฟนเก่าของคุณคือกำนันจอมพล”“อะไรนะ ไอริณ แกไม่เคยบอกฉัน”เสียงเชอรี่สูงขึ้นเอี้ยวหน้าจ้องไอริณที่ยังก้มหน้าอ่านแฟ้มปากสั่น“มะ มันไม่มีสคริปต์”“ใช่แล้วไอริณ ผมอยากให้มันสดมาก ๆ ผมคุยกับเจ้าเป็กไว้แล้ว”“เป็ก! ท่านพิษณุอย่าบอกนะว่าเป็นเจ้านั่น ที่มันเคย
บทที่ 8 กำนันจอมพลรูปหล่อ“แต่ว่า แค่คนแต่งตัวไอริณก็ปาไปสามคนแล้วนะคะท่านพิษณุ”“ถ้างั้นให้ไอริณแต่งตัวเอง แต่ที่จริงมันไม่ต้องแต่งตัวเลยเพราะเราจะไม่แต่งหน้า”“ท่านหมายความว่าอย่างไร”เป็นเชอรี่ที่เป็นคนถามออกมา“ไอริณเป็นคนสวยธรรมชาติอยู่แล้ว เจ้าเป็กมันเลยบอกว่าทำไมไม่ลองหน้าสดดู ถ้าจะแต่งบ้างก็แค่งลองพื้นเขียนขอบตาบ้างเพื่อกันไม่ให้หน้าซีดก็พอ”“หน้าสด! หน้าสด!”ไอริณลืมตัวถึงขนาดตะโกนออกมา ชะโงกตัวโน้มไปด้านหน้าท่านพิษณุส่งสายตากราดเกรี้ยว“ไอริณยอมตายดีกว่าถ้าจะให้ไอริณหน้าสด!!”“ฮ่า ฮ่า คุณนี่ตลกไม่เปลี่ยนเลยไอริณ ไปสิ ไปตายเลย โน้นประตู”“ขอโทษค่ะท่านพิษณุ”ไอริณหน้าชาแดงก่ำรีบเอ่ยขอโทษน้ำเสียงกดต่ำลง“ตกลงตามนี้ เอาแฟ้มกลับไปได้เลย เราจะเริ่มถ่ายทำอีกสองอาทิตย์ อ้อ อีกเรื่อง ผมเกือบลืมเสียสนิท”เชอรี่และไอริณจ้องท่านพิษณุตั้งใจฟังเต็มที่“กำนันจอมพลบอกว่าต้องเป็นไอริณโทรไปเองเท่านั้น ถึงจะยอมคุยด้วย”“อะไรนะ อะไรนะ! ไอ้บ้านั่น ไอ้กำนันเฮงซวยมันให้ไอริณโทรไปหา”“ฮ่า ฮ่า ผมเพิ่งจะรู้ว่าคุณสนิทกับกำนันคนดังมากจริง ๆ อย่าลืมโทรสะล่ะ อีกสองอาทิตย์ต้องเริ่มถ่ายทำแล้ว”ไอริณหน้าถอด
บทที่ 9 มะปรางกำนันจอมพล ผู้ที่กำลังถูกพูดถึงนั่งสบายใจริมระเบียงหลังเล็กในหมู่บ้านห่างไกลจากบางปลาม้าราวแปดสิบกิโลเมตรมองท้องฟ้ามืดมิดผ่านทุ่งราวข้าวยาวสุดลูกตา ฤดูเกี่ยวข้าวกำลังใกล้เข้ามา ปีนี้ข้าวออกรวงดีน้ำท่าสมบูรณ์ เขาคงต้องวุ่นสักหน่อย“พี่พล”เสียงหวานใสนุ่มของมะปราง สาวร่างอวบอิ่มผิวสีน้ำผึ้งแต่เนียนลออ ทำให้เขาเอี้ยวหน้ากลับไปทางโซฟาอีกด้าน“ว่าไง”“ปีนี้มะปรางเรียนจบแล้ว”“แล้วคิดไว้หรือยังว่าจะทำงานที่ไหน”“มะปรางว่าจะสมัครลูกจ้างชั่วคราวแถวนี้ จะได้อยู่รับใช้พี่พลใกล้ ๆ”จอมพลดับบุหรี่แล้วหยิบแก้วเบียร์ขึ้นจิบก่อนวางแก้วลงหันไปหาเด็กสาวตรง ๆ“มะปรางไม่ต้องอยู่รับใช้พี่ก็ได้ ไปทำงานที่อยากทำ ลองไปสมัครงานที่กรุงเทพไหม”“แต่มะปรางอยากอยู่กับพี่พล”สาวร่างอวบพุ่งตัวสวมกอดโดยพลันซบใบหน้าถูลำตัวเข้ากับร่างแข็งแกร่งจนคนร่างโตต้องสวมกอดไว้“เราเคยคุยกันหลายครั้งแล้วว่าระหว่างเราไม่ได้เป็นอะไรกัน พี่ไม่เคยว่าถ้ามะปรางมีคนอื่น”“แต่มะปรางรักพี่พล”“มะปราง! เริ่มแรกเราตกลงกันไว้ว่าอย่างไร”มือแกร่งบีบต้นแขนสาวร่างอวบดันออกแล้วจ้องหน้าจนมะปรางต้องหลุบตาหนี“ค่ะมะปรางจำได้ พี่พลจะ
บทที่ 10 จันทน์กะพ้อคนร่างโตยืดกายขึ้นเตรียมพร้อม ส่วนมะปรางลงไปนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นด้านล่างแล้วความเงียบผ่านเข้ามาในโทรศัพท์อยู่สักพัก จอมพลได้ยินเสียงสูดลมหายใจก่อนตามมาด้วยเสียงถอนหายใจ ปากหนาจึงคลี่ออกยิ้มมุมปากรอคอยให้เธอเอ่ยชื่อออกมา“ฉัน ฉัน บ้าจริง!”รอยยิ้มยิ่งกว้างกว่าเดิมเมื่อคนปลายสายสบถออกมา มือแกร่งจับศีรษะของมะปรางไว้ดันลงระหว่างรอฟังชื่อ“ฉันไอริณ”“ผมไม่รู้จักคนชื่อนี้”มือเรียวบางกำโทรศัพท์แน่นแหงนใบหน้าขึ้นสูงสะกดกลั้นอารมณ์โกรธ หลับตาแน่นตะโกนด่าท่ออยู่ในใจก่อนกัดฟันพูดลอดไรฟัน“กำนันคงจำเสียงผู้หญิงได้ไม่หมด เพราะคงผ่านหูมาเยอะ”แผ่นหลังไอริณสะท้านขึ้นเมื่อได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะในลำคอ ยิ่งทำให้ดาราสาวโกรธจัดจนอยากขว้างโทรศัพท์ทิ้ง“ถ้าไม่มีอะไร ผมคงขอตัวก่อน กำลัง เออ ค่อนข้างยุ่ง”“บ้าจริง! กำนัน อย่าวางหูนะ ฉัน ฉันจันทน์กะพ้อ”ปลายสายเงียบงันไปอย่างน่าแปลกใจจนไอริณคิดว่ากำนันหนุ่มวางสายไปแล้ว แต่แล้วกลับได้ยินเสียงผู้หญิงแผ่วเบาจึงทำให้รู้ว่าค่อนข้างยุ่งคงหมายถึงกำลังอยู่กับผู้หญิง“ฉันคงโทรเข้ามาขัดจังหวะพอดี ต้องขออภัยกำนันคนดังด้วย”“ไม่เลย พี่ว่างคุยกับน้
บทที่ 11 ทองประศรี“จริงหรือเปล่าจ้ะพ่อ”เสียงหวานใสดั่งเด็กหญิงอ่อนวัยแปดขวบปีดวงตากลมโตหวานซึ้งผิดไปจากผู้พ่อที่ดวงตาคมเข้มแข็งกร้าว“จริง ลูกก็รู้ว่าคนอย่างพ่อไม่พูดเล่น”รอยยิ้มกว้างพลันปรากฏบนใบหน้าหวานกระโดดขึ้นจากพื้นเรือนกลางวงกินข้าว“เย้ เย้ คุณไอริณจะมาบ้านเรา”“เบา ๆ หน่อย กระโดกกระเดกปานนี้ คุณไอริณมาเห็นเขาเดี๋ยวจะหาว่าย่าไม่สั่งไม่สอน”ทองประศรีฉุดมือหลานสาวกระตุกให้นั่งลงดั่งเก่า ใบหน้าหญิงวัยกลางคนค่อนไปทางสูงวัยยิ้มกว้างเหมือนหลานสาวจนรอยย่นขึ้นหางตา กำนันคนดังไม่ยิ้มหัวด้วย ยังคงนั่งกินข้าวล้อมวงกับพื้นข้างบิดา“มึงไม่ดีใจหรือ ไอ้พล”“ไม่เลยสักนิด จันทน์กะพ้อจะนำปัญหามา”“แต่มึงก็รับปากเขาไปแล้ว”จอมพลชะงักมือเพียงเล็กน้อยก่อนตักข้าวด้วยช้อนแกงแบบสั้นที่พบเห็นทั่วไปตามวัด ที่บ้านยังนั่งทานข้าวล้อมวงกับพื้นเรือนตรงชานกลางเรือน เพราะพ่อกับแม่ต้องการให้หลานสาวได้รู้จักวิถีดั้งเดิมของที่บ้านตัวเขาปกติมานอนเพียงวันจันทน์ถึงวันพุธ ส่วนวันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์กลับไปนอนบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งปลูกมาได้ไม่กี่ปี“เอ็งต้องเลิกเรียกหนูไอริณว่าจันทน์กะพ้อได้แล้ว เขาเป็นดาราดัง เปลี
ตอนพิเศษ 2“คัท คัท!!”ดาราสาวเงยหน้าขึ้นจากพื้นในท่าก้มกราบเมื่อได้ยินเสียงผู้กำกับสั่งคัท ใบหน้าหวานยังเปื้อนคราบน้ำตาจากบทนางวันทองในเรื่องขุนแผนขุนช้างฉบับรีเมคไอริณกวาดตามองโดยรอบผ่านนัยน์ตาฉ่ำน้ำ เห็นเด็กในกองกำลังปิดไฟเก็บของ ตอนนี้คงราวสามทุ่มแล้ว“คุณไอริณคะ”เสียงเปี้ยกดังขึ้นด้านข้างพร้อมผ้าเช็ดหน้ายื่นส่งมาให้เธอ“ขอบใจจ๊ะ”“กำนันรอนานแล้วค่ะ”“บอกให้เขารออีกเดี๋ยว ขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”ไอริณ ดาราดังลุกขึ้นจากพื้นเรือนไม้ทรงไทยโบราณริมลำน้ำสุพรรณบุรี เดินลงบ้านหางตามองเห็นคนร่างสูงแกร่งผิวสีเข้มยืนหน้าเง้ารอ ตั้งแต่เมื่อเย็นฮึ สมน้ำหน้า คนร่างเล็กเดินตัดใต้ถุนเรือนตรงไปยังเต้นท์สำหรับนักแสดงเพื่อเปลี่ยนชุด“เชอรี่”“ว่าไง”“คืนนี้นอนบ้านแม่เราหรือเปล่า”“คงไม่ ขับกลับกรุงเทพเลย ผู้กำกับสั่งพักกองสามวัน”“สามวัน! อะไรกัน พักอีกแล้ว”เชอรี่เงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์ เพ่งมองเพื่อนรักกำลังถอดชุดเปลี่ยนเสื้อผ้า“ก็ผัวใครล่ะ มายืนหน้าบึ้งรอเมียอยู่ได้”“กะ ก็ พี่พลเขาแค่เป็นห่วง”ดาราสาวเสียงอ่อยลงหยิบเสื้อผ้าชุดเดรสขึ้นสวม แม้ปากพูดประชดประชันแต่ใจจริงนั่นพองฟู“ห่วงหรือหวง
ตอนพิเศษ 01“อื้อ อื้อ ม่ะ ม่ะ”เสียงเล็กอู้อี้ดังขัดใจยามโดนแย่งของรักไปจากมือ ดวงตาคมกล้าแม้ว่ายังกลมโตและใสซื่อดั่งเด็กน้อยวัยแปดเดือน แต่เมื่อมองให้ดีรู้ได้เลยว่าโตมาเมื่อไรได้กลายเป็นตัวปัญหาของหมู่บ้านแน่นอน โดยเฉพาะสาว ๆจอมพลจ้องหน้าลูกชายนิ่งในมือเขาคือของเล่นนุ่มนิ่มที่ลูกชายเอาเข้าปากมาแล้วสักพัก“จอมภพ อันนี้มันเอาเข้าปากไม่ได้”ดวงตาเล็กดื้อดึงคล้ายตัวเขาแต่ในฉบับย่อเล็กกว่ากำลังจ้องตอบก่อนตั้งท่าเบะปากคล้ายตะโกนร้องไห้หาคนช่วยคนร่างโตชะงักมองซ้ายขวาหาเมียจ๋าสุดที่รักพลันนึกได้ว่าวันนี้มีออกกองถ่ายทำซีรีซ์ที่ถ่ายค้างไว้เมื่อปีกลายเพราะท้องดันโตสะก่อน“แม่จันทน์ไม่อยู่วันนี้ มางอแงไม่ได้นะ”เสียงเข้มต่ำพยายามทำให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนหวาดหวั่น แต่เด็กชายคนนี้รู้ดีฉลาดเกินเด็ก น้ำเสียงดุดันไม่ได้ทำให้จอมภพกลัวแต่อย่างใด ยังส่งสายตาดื้อรั้นอ้าปากเตรียมแผดเสียงร้อง“พ่อจ๋า พ่อทำอะไรอยู่น่ะ เดี๋ยวจอมใจไปโรงเรียนสาย”ตึก ตึก ตึกจอมใจวิ่งลงมาจากชั้นสองของบ้าน ตั้งแต่แม่ไอริณแต่งงานกับพ่อก็ให้รับจอมใจมาอยู่ด้วยที่บ้านใหญ่ กลับไปนอนกับปู่ย่าเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์“ก็น้องเอาอันนี้เข
บทที่ 47**NC จบบริบูรณ์แควก!!เสียงสไบขาดทำให้ไอริณผละหน้าออกทันที“กำนัน นี่ชุดกองถ่าย”“ช่างมัน ซื้อใหม่”“อื้อ อือ”จอมพลโถมร่างให้คนร่างเล็กล้มลงนอนหงายแล้วกระชากสไบลงจนพ้นเนินนมใหญ่ทั้งสองข้าง“ไม่ใส่ชุดชั้นในเมียจ๋า”“ก็ชุดไทย ใส่แต่จุกปิดหัวนม”ไอริณดึงจุกปิดหัวนมออกทั้งสองโยนลงพื้น แล้วค่อยกอบขึ้นให้เต้าชิดกัน“กำนันชอบนมจันทน์ไหม”“อ่า สวย ชอบมากเมียจ๋า อืม เลียหน่อยนะ อ่า”จอมพลโน้มหน้าลงหาทันทีปาดลิ้นเลียวนยอดหัวนมทั้งสองข้างสลับไปมาซ้ายขวาทั้งดูดขมเม้ม“อ่า ดูดแรง ๆ สิกำนัน”“อือ เมียชอบแรง ๆ เหรอจ๊ะ กำนันจัดให้”ปากหนาครอบลงดูดแรงอีกมือคลึงขยำเต้าบีบจนเนื้อปลิ้นล้นมือ ขยับฟันกัดหัวนม“อ่า จันทน์ชอบ แรง ๆ”สองมือขยำเต้าแรงขึ้นปากครอบหัวดูดดึงเคลื่อนลงตามรอบเต้าใหญ่ทั้งขบเม้มกัด ทั้งดูดจนขึ้นรอยจ้ำทั่วใบหน้าเข้มเลื่อนลงมือกระชากผ้าถุงขึ้นตลบจนพ้นเนินสวาทแล้วมุดหน้าลงทันทีไม่รอช้า ให้ไหล่ดันต้นขาคนร่างเล็กไว้เปิดออก เอานิ้วเปิดแหวกปาดลิ้นขึ้นลงกระหายหิว“พี่รอตั้งนาน หิวจันทน์จะแย่ อยากเลียดูดแบบนี้ อ่า ซู้ดด”จอมพลใช้ปากดูดเม็ดอ่อนไหวเลื่อนนิ้วเข้าทางรักแสนหวานขยับถี่“อ่
บทที่ 46***NCปัง!!“เบา ๆ สิพี่พล รถราคาตั้งแพง”ดาราสาวบ่นอุบเมื่อลงจากรถมามองมือสีเข้มกระแทกประตูปิดใจร้อน แล้วลากมือคนร่างเล็กเข้าไปในบ้าน“เดี๋ยวซื้อให้ใหม่”“ฮื้อ รวยขนาดนั้น จันทน์ไม่ทำงานแล้วดีกว่า”“ก็ดี นอนอ้าขาอย่างเดียวพี่ชอบ”“พี่พล!”คนร่างเล็กเดินซอยเท้าถี่ตามแต่ไม่ทันใจคนร่างสูงกว่าจึงก้มลงช้อนร่างขึ้นเข้าวงแขนพาเข้าบ้านท่ามกลางสีหน้าตื่นตกใจของคนงานและป้าอ้วนที่ยืนชะเง้อมองมาจากทางโรงจอดรถเกี่ยวข้าว“มาช้า พี่รอตั้งเดือนกว่าแล้ว นี่ถ้าขืนมาช้ากว่านี้พี่คงอกแตกตาย”“แล้วทำไมไม่ไปตาม”“เรื่องอะไร เป็นคนหนีไปเองแท้ ๆ”“ชิ รู้งี้ปล่อยให้รออีกดีกว่า”จอมพลก้าวกระโดดคราวละสองขั้นขึ้นบันไดกว้างตรงไปทางห้องนอนใหญ่ทันควัน ใบหน้ายังยิ้มกว้างก้มมองคนร่างเล็กในอ้อมแขนด้วยใจพองโต“ถ้าปล่อยให้รออีกพี่จะไปบวช”“บวช!!”“ใช่ บวชมันสะเลย ให้จันทน์มาคอยยืนตักบาตรชะเง้อมองแทนบ้าง”“โรคจิต ฮ่า ฮ่า บวช คิดได้ไง ว้ายยยย!!”ตุบ!!“พูดมากนักนะเมียจ๋า”จอมพลโยนคนร่างเล็กลงเตียงแล้วปลดกางเกงพร้อมบ็อกเซอร์โยนลงพื้น เอื้อมมือหยิบสร้อยพระเครื่องออกจากรอบคอประนมมือสวดลาแล้ววางไว้บนโต๊ะข้างเตียง ปลด
บทที่ 45 ใจพองเลยพ่อกำนัน อิ อิปัง!!“พี่พล พี่พล!!”“หนูไอริณ”ทองประศรีชะโงกหน้าออกมาจากบนบ้านตาโตเบิกกว้างเมื่อเห็นดาราสาวในชุดไทยสีชมพูกลีบบัวยืนอยู่ตีนบันไดบ้าน“น้าทองประศรี พี่พลล่ะ พี่พล!”“วันนี้วันพฤหัส ไอ้พลมันไปทำงาน”“ทำงาน? ทำงานที่ไหนน้าทองประศรี”“วันนี้อยู่ อบต.”“อบต.? อบต.”ไอริณผละออกจากบันไดตรงไปที่รถหรู“เดี๋ยว ๆ น้าไปด้วย น้าไปด้วย”ทองประศรีรีบสับขาลงจากบนบ้านในชุดผ้าถุงสีน้ำเงินเข้มลายดอกชบาเสื้อผ้าฝ้ายลูกไม้ธรรมดาอยู่บ้าน สวมรองเท้าแตะหูคีบง่าย ๆ วิ่งตามไปยังรถกลัวไม่ทัน“ไปทางนี้หนูไอริณ”ทองประศรีนั่งในรถทุลักทุเลเล็กน้อยเพราะโหลดเตี้ยแต่ยังนั่งได้ มือเกร็งจับคอนโซลหน้าไว้เพราะดาราสาวซิ่งเร็วจนร่างคนแก่กระชากกระแทกเบาะนั่งเอี๊ยด!!ดาราสาวกระโดดลงจากรถวิ่งขึ้นบันไดหน้าตึกที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบางปลาม้า กวาดตามองหากำนันร่างสูงแต่ไม่มี“หาใครคะ ว้าย ว้าย คุณไอริณ”เสียงน้องผู้หญิงที่บังเอิญเดินออกมาพอเห็นว่าเป็นใครร้องเสียงหลงวิ่งวนไปมาหน้าตื่น“กำนัน กำนันจอมพลอยู่ไหน”“กำนัน กำนันอยู่ไหน? กำนันไปงานในเมือง วันนี้ที่วัดหลวงพ่อโตมีงานสมโภช”“วัดหลวงพ่
บทที่ 44 เก้าสิบเจ็ดกิโลเมตรทุกอย่างเหมือนวนกลับยังจุดเดิมเรื่องราวเมื่อแปดปีก่อนราวกับว่าเหตุการณ์ไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่ความฝันดาราสาวนั่งนิ่งภายในเต้นท์แต่งตัวเพื่อเตรียมบวงสรวงเปิดกล้องซีรีซ์เรื่องใหม่ตั้งแต่ออกจากบางปลาม้าตัวเธอไม่เคยร้องไห้อีกเลยแม้ว่าภายในร่างกายบอบช้ำสักเพียงใด ดวงตากลมโตดั่งกวางอันเป็นเอกลักษณ์หม่นแสงลงทุกวัน“ไอริณ”“ว่าไง”“ไอ้ภูมิมันจะหย่าเมีย”หน้าหวานเอี้ยวหน้าไปมองหน้าผู้จัดการเพื่อนสนิททันควัน เวลาหลายปีมาแล้วที่เธอและภูมิต้องปลอมเข้าใส่ทุกคน คงถึงเวลาแล้วสินะ“เมื่อไร แล้วทรัพย์สิน”“มันยอมหารครึ่ง”“หารครึ่ง!”“ใช่ แกจะโทรหามันไหม มันอยากคุยกับแก”“ไม่อ่ะ ฉันไม่พร้อม ดีใจกับมันด้วยที่คิดได้”“เดี๋ยวนักข่าวคงอยากให้แกแถลงข่าว”“อืม เอาสิ แล้วเรียลริตี้เมื่อไรจะออนแอร์”“วันนี้ช่วงเวลาไพร์ไทม์ ออนตอนแรก”“ดีเลย สู้อุตส่าห์ไปตั้งไกลในที่สุดจะได้เวลาฉายสักที”“แกโอเคหรือเปล่า”“โอเค๊ มีอะไรที่ฉันผ่านไม่ได้อีกเชอรี่ ไม่มีแล้ว”“งั้นออกไปเถอะ เผื่อนักข่าวจะขอสัมภาษณ์”“อืม”ไอริณค่อยลุกขึ้นในชุดไทยพีเรียดเรื่องใหม่ขุนช้างขุนแผน ผนวกเวลาพอเหม
บทที่ 43 มะปราง“มาทำไม!!”“มะปราง มะปราง”สาวร่างเล็กพูดตะกุกตะกัก มองไปรอบลานบ้านเห็นคนมากมายกำลังเก็บของต่างพากันมองมาทางเธอเป็นทางเดียว ดาราสาวเองที่นั่งอยู่ใต้ถุนบ้านก็มองมายังเธอเช่นกัน“กำนัน มะปรางมันมาขอความช่วยเหลือ”ฝ้ายรีบชิงพูดแทนเพื่อนเมื่อเห็นว่ามะปรางกำลังจะไม่ไหวแล้ว“เราไม่ได้เกี่ยวข้องกันแล้ว ได้บอกเพื่อนหรือเปล่า”“ฝ้ายรู้ แต่กำนัน มะปรางมันกำลังแย่ มันโดนของ”“ของ?”กำนันจอมพลหันกลับไปทางมะปราง สาวร่างเล็กดูหน้าหมองคล้ำนัยน์ตาลอย สติไม่อยู่กับตัวเท่าไร“เกิดอะไรขึ้น”“ฉันเล่าเอง”ฝ้ายเดินเข้าไปใกล้กำนัน เพราะไม่ต้องการให้ใครได้ยิน“มะปรางมันไปอาศรมพ่อเฒ่ามา”เพียงเท่านี้จอมพลก็เข้าใจหันกลับไปมองมะปรางด้วยสายตารังเกียจเดินถอยหลังออกมา“พี่คงช่วยมะปรางไม่ได้ กลับไปสะเถอะ”“กำนัน!! เมื่อเย็นเราเกือบโดนรถบรรทุกชนตายข้างถนน”“นั่นมันแล้วแต่เวรกรรม คนถือศีลทำหมั่นทำความดีย่อมมีสิ่งคุ้มครอง ส่วนผู้คิดร้ายย่อมทำลายตนเอง เป็นธรรมดาสัจธรรมของโลก”“กำนัน! ไม่เห็นใจไอ้มะปรางมันบ้าง มันรักกำนันมากเลยต้องทำแบบนั้น ถ้ามันตายไปบาปกรรมมันก็ตกไปที่กำนัน”“ปกติพี่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี
บทที่ 42 เอาแล้วมะปราง“มะปราง”“ว่าไงฝ้าย”“แกเอาหุ่นไปฝังแล้วหรือยัง”ฝ้ายลงนั่งข้างเพื่อนสาวตรงชุดม้าหินอ่อนหน้าคณะเรียน จ้องหน้าเพื่อนดูสีหน้าไม่ดีเลยหมองคล้ำแปลก ๆ“ฝังแล้ว ตรงแยกใหญ่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย”“กี่วันแล้ว”ฝ้ายยืนน้ำหวานให้เพื่อนเมื่อเห็นมะปรางยกมือปาดเหงื่อบนหน้าผากเม็ดใหญ่ทั้ง ๆ ที่อากาศไม่ร้อน“ขอบใจนะ หลายวันแล้วล่ะ ตั้งแต่วันที่เจอกับพี่พลครั้งสุดท้ายตรงตลาดเก้าห้อง ก็เอาไปฝังเลย”“หลายวันน่ะกี่วัน”“สามวัน”“สามวันแล้ว? มีอะไรผิดปกติไหม”“ไม่นะ ไม่มี”มะปรางเองชักใจคอไม่ดีหันมองหน้าเพื่อนมือสั่นขณะยกน้ำขึ้นดื่ม เหงื่อไหลลงปลายคางหยดลงพื้นโต๊ะหินอ่อน“ฉันว่าไม่ดีแน่ ๆ กำนันจอมพลไม่ติดต่อมาเลยใช่ไหม”“ไม่เลย ทำยังไงดี ฉันกลัว”“ตาแก่นั่นมันบอกแล้วว่าไม่รับแก้ของ เอางี้ไหม ไปเอาขึ้นมาไปคืนมัน”“จะได้ผลเหรอ รออีกสักสองวันไหม”“ไม่รอแล้วแก มองไปดูหน้าดำขนาดนี้ เหงื่อหยดไหลตลอดเวลา ฉันว่าแกจะโดนของเข้าถ้าขืนชักช้าจะแก้ไม่ทัน”มะปรางยังลังเลแต่เพื่อนสาวฉุดมือดึงขึ้น รวบกระเป๋าหนังสือเรียนขึ้นมาด้วย“ไปรถฉัน ฉันขับเอง”ฝ้ายจัดการพาเพื่อนเข้าไปนั่งในรถพาออกจากมหาวิทยาลัยใ
บทที่ 41**NC“อยู่กับพี่ กลับมาเป็นเมียพี่ กำนันบ้านนอกคนนี้ได้ไหม จันทน์คนดี”นัยน์ตาสีนิลจ้องมองนิ่งคมกล้าทั้งคาดคั้นต้องการคำตอบ แต่ไอริณไม่อาจรับปากได้จึงนิ่งเงียบ“ไม่เป็นไร พี่จะรอจนกว่าจันทน์จะพร้อม ถือสะว่าเป็นบทลงโทษของพี่”คนร่างโตโน้มหน้าลงแตะริมฝีปากหนาอุ่นบนริมฝีปากสีแดงเย้ายวน มือโอบแผ่นหลังเลื่อนไปยังซิปรูดลงพร้อมลิ้นฉกเข้าสอดใส่เอนร่างเล็กลงพื้นกระดานเย็นเยียบจากอากาศยามค่ำกลิ่นกายชายโอบล้อมคนร่างเล็กไว้ยามชะโงกง้ำด้านบนส่งจูบอ่อนหวานผิดไปจากหลายวันที่ผ่านมา ทั้งเว้าวอน ชอนไชกวาดหาน้ำหวานในโพรงปากเชื่องช้ามือเลื่อนเสื้อลงทีละน้อยจนพ้นเนินทรวง จึงเลื่อนใบหน้าลงหน้าเนื้ออวบอิ่มเต่งตึงขาวนวล“พี่พล อ่า”กายสาวแอ่นขึ้นยามปากเข้าครอบครองหัวนมเล็ก ลิ้นปาดไล้กระหวัดหยอกล้อ เร่งเร้าให้ยอดไตแข็งชันสู้ความสาก“จันทน์ อ่า”จอมพลเลื่อนหน้าขึ้นอีกครั้งสอดลิ้นเข้าสู่ปากไอริณร้อนแรงขึ้น ส่งกระแสไฟแห่งรักเข้าสู่โพรงปาก ให้คนร่างเล็กใต้ร่างได้รับรู้ว่าตัวเขานั่นเร่าร้อนมากขนาดไหน มือกระชากดึงชุดเดรสออกจากร่าง“พี่พล ที่นี่ อื้อ”“พี่ฝันถึงมานานมากจันทน์ พี่อยากให้จันทน์กลับมา แล้วพี่