ทางด้านมู่ยวี่ฉินเมื่อกลับออกมาจากป่าด้านในเพื่อมารวมกลุ่มกับน้องทั้งสอง ด้านหลังของชายหนุ่มยังคงแบกหมู่ป่าตัวใหญ่มาด้วยอีก
หนึ่งตัว ทำให้สามคนที่รออยู่ตาลุกวาว“พี่ใหญ่เก่งมากเลยค่ะ วันนี้เราจะเอาหมู่ป่าทั้งสองตัวไปไหนดี
พี่ชิงเย่วก็เก่งด้วยฆ่าหมู่ป่าได้เหมือนกัน” มู่ฟ่านปิงยิ้มกว้างปรบมือชอบใจ หากเอาหมูป่าไปแล่ขายเป็นชิ้นในหมู่บ้านทั้งสองตัวคงได้เงินไม่น้อยมู่ยวี่เฉินเหล่มองด้วยความแปลกใจว่าหญิงสาวตัวเล็กอย่างสะใภ้บ้านหลี่จะฆ่าหมูป่าได้จริงๆ แต่พอมองไปทางที่น้องสาวชี้ จึงเห็นหมูป่า
ตัวขนาดกลางนอนตายอยู่“ให้สะใภ้หลี่เอากลับบ้านหลี่ไปก็แล้วกัน”
“ไม่ต้องหรอกพี่ใหญ่มู่ ตัวนี้พี่เอากลับไปเถอะฉันเอาไปก็ไม่รู้จะทำอะไร ยกให้สองแฝดก็แล้วกันนะ” หลิวชิงเย่วไม่สนใจหมูป่าแม้แต่น้อย
จะให้เธอเอากลับไปบ้านหลี่ก็ไม่ใช่เรื่อง ในเมื่อหาเรื่องคิดจะหย่าอยู่แล้ว ทำไมเธอต้องทำดีด้วยล่ะ จริงไหม“แต่พี่ชิงเย่ว หมูป่าตัวนี้ถ้าแล่ขายชาวบ้านในหมู่บ้านคงได้เงินหลายร้อยหยวนเลยนะ” ฟ่านมู่ปิงพูดเสียงตกใจ เงินตั้งมากมายจะมายกให้เธอกับพี่รองได้ยังไงกัน
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกันเสี่ยวปิง ถ้าหากหมูป่าตัวนี้ขายได้ราคา
เรากับอาหยางเก็บไว้เป็นค่าเล่าเรียนดีไหม อายุเท่านี้หยุดเรียนนานไม่ดีหรอก ส่วนตัวพี่ไม่ใช่ว่าหมิ่นเงินน้อย แต่พี่พอจะมีเงินเก็บที่พ่อของพี่ทิ้งไว้ให้อยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวพี่เดือดร้อนเรื่องนี้ พี่เคยบอกแล้วว่าพี่ตั้งใจจะหย่า หากพี่มีของหรือเงินติดตัวเยอะจะลำบากในตอนที่พี่ไปจากที่นี่ คิดเสียว่าเพื่อนต่างวัยคนนี้มอบให้ก็แล้วกันนะ”หลิวชิงเย่วพูดด้วยรอยยิ้ม ในเมื่อเปิดใจเป็นเพื่อนต่างวัยกันแล้วเรื่องหย่าเธอจึงไม่คิดจะปิดบัง
“พี่ชิงเย่วจะหย่ากับพี่เหว่ยเฉียงจริงๆ เหรอครับ” มู่หยางเอ่ยขึ้นมาบ้าง ผู้หญิงหม้ายไม่ใช่คนน่ารังเกียจก็จริง แต่การใช้ชีวิตนั้นคงลำบากไม่น้อย
“ใช่แล้ว พี่ตั้งใจจะหย่าจริงๆ สองปีผ่านมามันเหมือนเสียเวลาไปเปล่าๆ ในเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่มีใจจะยื้อกันไปทำไมจริงไหม อีกทั้งตอนนี้สังคมเริ่มเปิดกว้าง ต่างชาติเริ่มเข้ามาทำการค้า หากพี่เป็นหญิงหม้ายแล้วหาคนแต่งงานใหม่ไม่ได้อีก พี่ก็จะทำการค้าเก็บเงินไว้เลี้ยงดูตัวเองยามชราดีไหม ว่าแต่เราสองคนเถอะจะรังเกียจหญิงหม้ายแบบพี่หรือเปล่า”
“ไม่ครับ / ไม่รังเกียจค่ะ” สองพี่น้องบ้านมู่ตอบพร้อมกัน ทั้งสามคนคุยกันจนลืมไปเลยว่ามีผู้ชายตัวโตอยู่ตรงนี้ด้วยอีกคน
มู่ยวี่เฉินเลิกคิ้วมองไปทางหลิวชิงเย่ว ชายหนุ่มสงสัยว่าเธอเกิดอะไรขึ้น เรื่องหย่าสำหรับผู้หญิงไม่ใช่เรื่องเล็กเลย แม้ว่าจะไม่ได้เป็นที่รังเกียจแต่คงต้องดำรงชีวิตอยู่อย่างยากลำบากแน่นอน แม้ว่าเขาไม่ได้รังเกียจหญิงหม้ายหากเธอคนนั้นคือคนที่เขารักหรือชอบ แต่จะมีผู้ชายสักกี่คนที่คิดเหมือนเขา
“แล้วพี่ชิงเย่วจะไปจากหมู่บ้านเมื่อไหร่คะ เราเพิ่งจะสนิทกันหากพี่ไปแล้วฉันคงคิดถึงพี่แย่เลย” เมื่อคิดว่าต้องจากกัน เด็กสาวจึงสีหน้าหน้าเศร้าหมองลง
“ยังไม่รู้เลย พี่ขอหย่าแล้วแต่ทางลูกชายบ้านหลี่ไม่ยอมหย่า
เมื่อคืนก็ไม่รู้นึกบ้าอะไรบุกเข้ามาที่ห้องพี่ จนพี่ต้องหลบออกมานอกบ้าน เมื่อเช้าก็เป็นกันอีกแล้ว กว่าพี่จะได้หย่าคงประสาทกินพอดี”หลิวชิงเย่วพูดติดตลก เธอมองว่าเรื่องนี้มันน่าเบื่อมาก แต่คงต้องมีสักวิธีที่ให้เธอหย่ากับสามีได้ กลายเป็นมู่ยวี่เฉินแทนที่ได้คำตอบแล้วว่าทำไมถึงเจอกับหญิงสาวเมื่อคืนนี้
“เลิกคุยกันก่อนเถอะ อาหยางนายไปตามใครมาช่วยยกหมูของนาย แล้วค่อยแบ่งเนื้อให้คนละสองชั่งเป็นการตอบแทน ปัญหาทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ เพียงแค่ตั้งสติและคิดให้ดี” ประโยคสุดท้ายเหมือนจะคุยกับหลิวชิงเย่วมากกว่าน้องชายของตัวเอง
หญิงสาวไม่ใช่คนโง่ เธอจึงเข้าใจในความหมายของมู่ยวี่เฉิน
หญิงสาวจึงค้อมหัวขอบคุณที่ให้ข้อคิดดีๆ แต่ยังไม่ทันได้มีใครเดินไปไหนกลับมีกลุ่มชาวบ้านเดินมาทางนี้โดยมีนางจ่างซื่อและลูกสะใภ้คนโปรดเดินนำหน้ามาพร้อมทั้งลูกชายอย่างหลี่เหว่ยเฉียง“นี่ไงหลักฐานคาตา นังชิงเย่วมันคบชู้มันแอบมาพลอดรักกับ
พลทหารมู่ หากเรื่องนี้ไปถึงกองทัพที่ประจำการ ว่ามู่ยวี่เฉินแอบลักลอบพบกับภรรยาคนอื่นจะเป็นยังไง” นางจ่างซื่อรีบพูดเสียงดัง เพราะอยากให้ชาวบ้านที่มาด้วยกันต่างได้ยินกันทั่ว“เพราะอย่างนี้ใช่ไหม เธอจึงขอหย่ากับฉัน ชิงเย่ว” หลี่เหว่ยเฉียงเอ่ยถาม ใบหน้าของเขานั้นดำคล้ำแทบจะดูไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโกรธหรือเสียหน้ากันแน่
“หมายความว่าคุณเชื่อในสิ่งที่แม่ของคุณพูด โดยที่ไม่คิดว่าจะเป็นการใส่ร้ายฉันและพี่ใหญ่มู่ อีกทั้งพี่ใหญ่มู่เองก็เป็นทหารเช่นกัน ใส่ร้าย
คนไม่ผิดโทษหนักนะ ส่วนเรื่องที่ฉันขอหย่ากับคุณ เพราะฉันอยากจะหย่าด้วยตัวฉันเองไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น”หลิวชิงเย่วปรายตามองบ้านหลี่ด้วยสายตาที่รังเกียจ เธออยากจะหย่าใจแทบขาดทำไมต้องหาเรื่องให้ตัวเองเสื่อมเสีย คนพวกนี้มีหัวไว้คั่นหูจริงๆ สมองมีกลับไม่คิด
เพียะ! เสียงฝ่ามือใหญ่ของหลี่เหว่ยเฉียงกระทบใบหน้าของ
หลิวชิงเย่วอย่างแรงจนดังสนั่น ขนาดว่ามู่ยวี่เฉินดึงตัวของหญิงสาวออกมาแล้วแต่ยังพลาดโดนจนได้ แม้ว่าจะเจ็บจนน้ำตาแทบเล็ด แต่เธอเลือกที่จะเชิดหน้าสบตากลับ“ในเมื่อคุณกล้าตบหน้าฉัน เราสองคนไม่มีอะไรที่จะต้องพูดกันอีกแล้ว คุณคิดว่าฉันมีอะไรกับพี่ใหญ่มู่ ถ้าอย่างนั้นช่วยเอาสมองที่คุณมีคิดและทบทวนในสิ่งที่เห็น ฉันกับพี่ใหญ่มู่ไม่ได้อยู่กันสองคน แต่ยังมีน้องชายและน้องสาวของพี่ใหญ่มู่ด้วยอีกสองคน และยังมีหมู่ป่าอีกสองตัว
ฉันขอถามหน่อยนะว่า ฉันและพี่ใหญ่มู่จะเอาสถานที่ไหนมีความสัมพันธ์กัน ในพงหญ้าหรือยังไงคันตายชัก ฉันรู้ตัวเองดีว่าแต่งงานจดทะเบียนกับคุณย่อมต้องเป็นของคุณ แต่นี่อะไรคุณไม่ให้เกียรติภรรยาตัวเองกลับร่วมมือกับภรรยาอีกคนและแม่สามีใส่ร้ายฉัน ยังไงวันนี้ฉันก็ต้องหย่ากับคุณ มันเกินไปแล้วจริงๆ ต่อให้คุณจะไม่รักฉันแต่ไม่ควรทำร้ายกันกลางคนมากมายแบบนี้”
หลิวชิงเย่วร่ายยาวในเมื่อจุดชนวนมาแล้วเธอก็ต้องหย่าให้ได้
แต่ว่าจะเดือดร้อนพี่ใหญ่มู่หรือเปล่านี่สิ ดันมาบอกว่าพี่ใหญ่มู่ลักลอบมีความสัมพันธ์กับเธอหลี่เหว่ยเฉียงเมื่อเจอคำพูดของหญิงสาวเรียกสติ เขารู้สึกผิดอย่างมากที่ทำร้ายเธออย่างไม่มีเหตุผล แต่พอจะเอื้อมมือไปหาหลิวชิงเย่วกลับถอยหลังหนีจนมาชนกับมู่ยวี่เฉิน หญิงสาวจึงหันไปมองอย่างขอโทษ
“ขอโทษค่ะ”“ไม่เป็นไร แต่คุณจะจบเรื่องนี้ยังไง สามีทำร้ายภรรยาผมว่าไม่ดีเลยนะ” ชายหนุ่มกระซิบถามเพื่อให้ได้ยินกันเพียงสองคน
“ไม่รู้ค่ะ แต่ยังไงฉันก็ต้องการจะหย่า วันดีคืนดีหากเขาเป็นบ้าขึ้นมาอีกไม่ตีฉันตายเหรอ ฉันไม่ใช่กระสอบทรายนะ”
มู่ยวี่เฉินไม่ตอบแต่สายตาคอยเมียงมองหลี่เหว่ยเฉียงไม่วาง แม้ว่าไม่รักไม่ชอบแต่ไม่ควรจะทำร้ายภรรยาไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังคนอื่น ต่อให้จะทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหนก็ควรที่จะไปตกลงหรือพูดคุยเป็นการส่วนตัว เขาไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะเดือดร้อนกับเรื่องนี้ แต่เขากับหลี่เหว่ยเฉียงไม่ถูกชะตากันมานานแล้ว ที่สำคัญแม้ว่าจะเป็นทหารเหมือนกันแต่เขาและหลี่เหว่ยเฉียงอยู่คนละทีม ยิ่งก่อนกลับมาบ้านครั้งนี้ผู้พันหัวหน้าทีมแจ้งมาแล้วว่าหากภารกิจครั้งต่อไปประสบความสำเร็จเขาอาจจะได้เลื่อนขั้น แต่ทางด้านทีมของหลี่เหว่ยเฉียงหัวหน้าทีมส่งชื่อชายหนุ่มไปด้วยเหมือนกัน
“ฉันไม่เชื่อหล่อนหรอกนะว่าจะไม่มีเรื่องนั้นมาเกี่ยวข้อง หากต้องการขึ้นมาสถานที่ไหนก็ได้ อีกทั้งอาเฉียงเองก็ไม่ค่อยจะอยู่บ้านหากเธอคันขึ้นมาก็อาจจะไม่เลือกสถานที่ ใครจะไปรู้ล่ะจริงไหมพวกเรา” นางจ่างซื่อพูดขึ้น ยังไงวันนี้เธอจะต้องให้ลูกชายหย่าขาดจากหลิวชิงเย่วให้ได้
บทที่ 11 หย่าขาดหลิวชิงเย่วมองอย่างไม่สบอารมณ์ ส่วนมู่ยวี่เฉินนิ่งเงียบต่อไม่ได้แล้ว ในเมื่อเรื่องเหลวไหลพวกนี้โยนใส่หัวเขาเต็มๆ หากเขายังนิ่งเฉยคงจะบ้าเต็มทน“อาเฉียงเรื่องนี้เป็นเรื่องของนายกับสะใภ้หลี่ หากนายยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ควรจะจัดการเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว ไม่ใช่ว่าปล่อยให้แม่นายมายืนด่าภรรยาตบแต่งของนายแบบนี้แม้ว่าเราทั้งสองคนจะมีปัญหาเรื่องแก่งแย่งตำแหน่งงานกัน นายคิดว่าคนอย่างฉันจะทำชั่วถึงขั้นมีความสัมพันธ์กับภรรยาคนอื่นเหรอ นายหยามฉันได้ แต่ไม่ควรหยามเกียรติของนายทหารที่ทั้งนายและฉันใส่เครื่องแบบอยู่”หลี่เหว่ยเฉียงเมื่อโดนคนไม่ชอบหน้าตอกจนหน้าหงาย ความโกรธจากที่ลดหายไปมากแล้ว กลับมาอีกครั้ง“ใครจะไปรู้อาจจะเป็นจริงอย่างที่แม่ฉันพูดก็ได้ แต่ไม่ว่ายังไงฉันไม่มีทางหย่ากับหลิวชิงเย่วแน่นอน” การที่ออกหน้าแทนแบบนี้เขาไม่มีทางเชื่อหรอกว่าทั้งสองคนไม่มีความรู้สึกให้กันเมื่อมู่ยวี่เฉินทบทวนคำพูดนี้ของหลี่เหว่ยเฉียง ชายหนุ่มจึงคิ้วขมวด ก่อนจะถามหลิวชิงเย่วอีกครั้ง“สะใภ้หลี่ ตอนแต่งงานคุณอายุเท่าไหร่”“หยุดนะ ไม่ใช่เรื่องของนาย อย่ามายุ่ง” หากหลิวชิงเย่วตอบไปจะรู้ได้ทันทีว่
บทที่ 12 เป็นอิสระเสียทีหลี่เหว่ยเฉียงได้ยินเช่นนั้นความโกรธกลับมีขึ้นมาอีก ไม่รู้ว่าทำไมภรรยาคนนี้จึงดูเหมือนจะไว้ใจมู่ยวี่เฉินเสียเหลือเกิน แต่กับเขากลับถอยห่าง“ดูเหมือนคุณจะไว้ใจมันเหลือเกินนะ”“คุณไม่ควรเรียกลับหลังพี่ใหญ่มู่ว่ามันนะคะ เพราะหากมีใครเรียกคุณแบบนี้คุณคงไม่ชอบเหมือนกันใช่ไหม” หลิวชิงเย่วตอบกลับอย่างไม่ชอบใจ มู่ฟ่านปิงยืนยิ้มอยู่ข้างๆ เพราะชอบใจที่พี่ชิงเย่วของเธอปกป้องพี่ใหญ่ของเธอจากนั้นหลิวชิงเย่วไม่สนใจคนที่กำลังจะเป็นอดีตสามีอีก เธอจึงหันมาคุยกับมู่ป่านปิงด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ หลี่เหว่ยเฉียงยืนมองภาพนี้คล้ายหัวใจจะเจ็บปวด ยิ่งคิดว่าจะต้องหย่าจากหญิงสาวตรงหน้าความรู้สึกไม่ยินยอมยิ่งถาโถมเข้าใส่ สุดท้ายทำได้เพียงข่มความเจ็บปวดในใจเพราะตอนนี้มันเหมือนสายไปแล้ว แต่เขาได้แต่สาบานกับตัวเอง ไม่ว่ายังไงเขาจะทำให้หลิวชิงเย่วกลับมารักเขาอีกครั้งให้ได้หลังจากนั้นไม่นานมู่ยวี่เฉินเดินมาพร้อมกับชาวบ้านที่จะมาช่วยแบกหมูป่าอีกตัวกลับไป โดยมีมู่หยางเดินตามมาด้วยเพื่อมารับน้องเล็กของพวกเขา หลิวชิงเย่วและชายหนุ่มอีกสองคนจึงกลับไปที่บ้านหลี่อีกครั้งเพื่อให้เธอเข้าไปเอาเอ
บทที่ 13 หาเงินเข้ากระเป๋ามู่ยวี่เฉินกลับมาทันเห็นเหตุการณ์พอดีที่บ้านใหญ่จะเข้ามาทำร้ายน้องๆ ชายหนุ่มจึงรีบเดินมาอยู่ด้านหน้าน้องทั้งสองคนและมองคนตรงหน้าด้วยแววตาวาวโรจน์“กล้าทำร้ายทั้งสองคนก็ลองดู แล้วลุงจะรู้ว่านรกมันเป็นยังไง”“ฉันก็แค่มาดูว่ามีเนื้อหมูป่าเหลืออีกหรือเปล่า ยังไงฉันก็มีศักดิ์เป็นลุงของพวกแก อย่างน้อยๆ ควรจะแบ่งมาให้ฉันบ้าง” มู่เผิงรีบเปลี่ยนน้ำเสียงและท่าที เพราะรู้ดีว่าหลานชายคนนี้ย่อมทำจริงอย่างที่พูด“เงินที่ลุงใหญ่เอาไปจากน้องๆ ลุงยังจ่ายคืนไม่หมดหรือว่าลุงต้องการเพิ่มยอดหนี้อีก”มู่ยวี่เฉินตอบกลับ ทำให้มู่เผิงนั้นรีบเดินออกจากบ้านแทบไม่ทันเพราะเงินที่เอามานั้นแทบไม่เหลือแล้ว หากตอแยต่อรับรองเขาต้องชดใช้เงินเพิ่มแน่นอน เมื่อมู่เผิงจากไป มู่หยางจึงไปหยิบเงินที่ขายหมูป่ามาได้ยื่นให้กับพี่ชาย ชายหนุ่มจึงเรียกน้องทั้งสองคนมาพูดคุย“พี่จะพาพวกเราทั้งสองคนไปอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ด้วย เราทั้งสองคนยินดีจะย้ายตามพี่ไปหรือเปล่า เรื่องนี้พี่คุยกับชิงเย่วแล้ว เธอเองก็จะย้ายไปตั้งรกรากที่เซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นถิ่นเดิมของเธอ เราทั้งสองจะได้ไม่เหงาด้วย ส่วนเรื่องเรียนพรุ่งนี้พี่จะทำเร
บทที่ 14 ระรานไม่เลิกหลิวชิงเย่วเดินมองมาตามถนน แต่แล้วกลับมีใครบางคนมาจับบ่า เธอจึงหมุนตัวเตรียมจะสวนหมัดกลับไป พอเห็นว่าเป็นใครจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก“พี่ใหญ่มู่ มาเงียบๆ ตกใจหมด” หลิวชิงเย่วบ่นหากเธอเผลอทำร้ายไปหน้าหล่อๆ กลายเป็นมีบาดแผลเธอคงทำใจยากนะเนี่ย“ไปไหนมา”มู่ยวี่เฉินเอ่ยถาม เขาตั้งใจจะไปดูเธอที่โรงแรมก่อนจะกลับเข้าหมู่บ้าน เช้านี้เขาเดินทางมาที่โรงเรียนมัธยมของน้องๆ เพื่อมาทำเรื่องลาออก พอเห็นว่าหลิวชิงเย่วกำลังเดินอยู่เขาเลยคิดจะเข้ามาทักทาย ในเมื่อเขาเดินตามมาสักพักหญิงสาวยังไม่รู้ตัวเลยตั้งใจว่าจะสะกิดเรียก แต่ใครจะไปคิดว่าเธอเล่นจะง้างหมัดจะมาต่อยเขา ไม่เสียแรงที่พ่อเคยเป็นผู้พัน ยิ่งคิดถึงความสามารถที่ค่อยๆ เผยออกมาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสนใจหญิงสาวตรงหน้ามากขึ้น“ไปเดินดูของในตลาดมืด ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ฉันไม่เคยเดินเล่นมาก่อนเลยอยากจะเห็น” หลิวชิงเย่วไม่ปิดบังว่าเธอไปไหนมา เพียงแค่ไม่ได้บอกว่าเธอไปทำอะไร“กินมื้อเช้าหรือยัง ไปหาอะไรกินกันเถอะหิวแล้ว” มู่ยวี่เฉินถามแต่ไม่รอคำตอบ กลับเดินนำไปที่ร้านขายอาหารที่อยู่ไม่ไกล แต่กลายเป็นหลิวชิงเย่วดึงชายเสื้อเขาไว้เพราะเธออ
บทที่ 15 ชิงชิงไม่ใช่ของเหลือเดนใคร“เข้าใจเอาผมมาเป็นโล่กำบังนะ” มู่ยวี่เฉินเอ่ยเย้า“แค่ยืมชื่อเล็กน้อยเอง พี่เฉินใจดีคงเห็นใจและสงสารลูกนกตาดำๆ พลัดถิ่นคนนี้นะ” หลิวชิงเย่วทำตาปริบๆ ใส่ท่าทางน่าสงสาร“ยืมนะได้ แต่ดอกเบี้ยแพงนะบอกไว้ก่อน”ยวี่เฉินทิ้งมาดขรึมลง นึกอยากหยอกล้อหญิงสาวตรงหน้าขึ้นมา เขาไม่อยากให้เธอคิดมาก เพียงแต่พอเห็นแววตาของเธอ ชายหนุ่มได้แต่แปลกใจเพราะไม่มีร่องรอยของความเสียใจหรือถวิลหาอดีตสามีอย่างหลี่เหว่ยเฉียงอยู่ในนั้น“จริงเหรอ ไม่ว่าดอกเบี้ยแพงแค่ไหน ชิงเย่วคนนี้พร้อมจ่ายให้พี่แน่ ว่าแต่พี่จะคิดดอกเบี้ยเท่าไหร่”“ตอนนี้ยังไม่รู้ คิดออกเมื่อไหร่ค่อยบอก แต่ไม่ใช่เงินแน่นอน ไปเถอะเข้าไปพักผ่อนได้แล้ว ผมจะกลับไปดูน้องๆ ก่อน”“พี่เฉินขี้โกงและเอาเปรียบ พี่ให้ฉันเรียกว่าพี่เฉิน แต่พี่ยังแทนตัวว่าผมกับคุณอยู่เลย ดูปากนะคะ ฉันชื่อหลิวชิงเย่ว พี่จะเรียกชิงเย่วหรือเสี่ยวเย่วก็ได้ แทนตัวว่าผมและเรียกฉันว่าคุณ ทำยังกับคนไม่รู้จักกันไปได้”ในเมื่อต้องเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ด้วยกัน และเธอก็ยังต้องอาศัยอยู่กับสองแฝด ควรจะสนิทสนมกันไว้ไม่ดีกว่าเหรอ ใครจะคิดอะไรก็ช่าง เธอตัวคนเดียว
บทที่ 16 ตามราวีไม่รู้จบหลี่เหว่ยเฉียงเมื่อกลับมาถึงบ้านเจอเข้ากับภรรยาและแม่ของตัวเอง ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะเดินเลี่ยงเข้าห้องนอนเก่าของหลิวชิงเย่ว แต่กลับโดนนางจ่างซื่อคว้าแขนไว้ได้ก่อน“อาเฉียงหน้าแกไปโดนอะไรมา” เมื่อเห็นรอบฟกช้ำบนใบหน้าลูกชายนางจ่างซื่อจึงคว้าแขนเรียกถาม“ไม่มีอะไรครับ แม่มีอะไรหรือเปล่าผมจะเข้าไปนอน อาทิตย์หน้าผมต้องกลับค่ายแล้ว”หลี่เหว่ยเฉียงเลี่ยงคำถามของนางจ่างซื่อ เขาเลือกที่จะเบือนหน้าหนี หากจะว่าเขาเห็นแก่ตัวก็คงได้ ตอนนี้เขาไม่อยากอยู่กับแม่และซวี่เซิ่งเสว่เพราะทั้งสองคนทำให้เขาต้องเสียหลิวชิงเย่วไป ส่วนสาเหตุที่เขาบอกว่าต้องกลับค่ายทหาร เขาคิดว่าจะเข้าไปเช่าโรงแรมอยู่จนกว่าจะหมดวันลาเพื่อตามง้ออดีตภรรยาอย่างหลิวชิงเย่วเขาเชื่อว่าเธอยังมีเยื่อใยให้เขาอยู่เพียงแต่ตอนนี้เธอยังกำลังโกรธก็เท่านั้น หากว่าอดีตภรรยาให้อภัยกับเรื่องที่ผ่านมา เขายินดีจะพาเธอไปอยู่กับเขาที่เซี่ยงไฮ้ด้วยกัน เขาจะทำเรื่องขอออกมาพักที่นอกค่ายทหารเอง“แกจะบ้าเหรออาเฉียงเพิ่งจะมาได้วันสองวันจะกลับไปแล้ว เมียแกกำลังจะคลอดในอีกไม่กี่เดือน ทำไมแกไม่ลามานานๆ หน่อย” นางจ่างซื่ออดที่จะบ่
บทที่ 17 ค้าขายครั้งใหญ่ก่อนเดินทาง“ถ้วยนี้คืออะไรเหรอ แล้วต่างกับแบบนี้ยังไง”“อันนี้คือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพียงแค่ใส่น้ำร้อนรอสามนาทีก็สามารถกินได้แล้วค่ะ ส่วนอันนี้คืออาหารสำเร็จรูป ถ้วยนี้เรียกว่าข้าวไก่กระเทียม ถ้วยนี้ไก่ผัดหมาล่า ถ้วยนี้ไก่ผัดขิง ส่วนวิธีกินแกะห่อและหยิบทุกอย่างออกมา เห็นอันนี้ไหมคะ เราเพียงใส่น้ำแล้วเอาถ้วยนี้วางลงจากนั้นนำของที่มีอยู่ใส่ลงไปและปิดฝา รอประมาณห้านาทีสิบนาที เราก็กินได้แล้ว”หลิวชิงเย่วอธิบายวิธีต่างๆ ให้ลูกค้าฟังอย่างละเอียด แม้ว่าทุกคนจะสงสัยเช่นเดียวกันว่าข้าวยังเป็นเม็ดข้าวสารอยู่เลยมันจะสุกได้ยังไง แต่ก็ไม่มีใครคิดจะถาม ต่างก็ยืนดูด้วยความสนใจ จนได้เวลาหลิวชิงเย่วจึงเปิดฝาออก กลิ่นอาหารลอยติดจมูกทุกคน และหน้าตาของอาหารไม่ต่างจากการปรุงใหม่ คราวนี้ทำให้การค้าของเธอขายไม่ทัน โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาของใครบางคนมองด้วยความสนใจกับสินค้าตรงหน้าหลังจากที่ขายของจนหมดทุกอย่างแม้ว่าหลิวชิงเย่วจะวิ่งทำทีไปเอาสินค้ามาเพิ่ม ชาวบ้านที่รอซื้อก็ยังคงรอเช่นเดิม สุดท้ายสินค้าที่เอามาทุกชิ้นก็ขายหมด ทำให้หญิงสาวยิ้มแก้มปริแม้ว่าราคาต่อชิ้นไม่กี่หยวนแต่รวมๆ แ
บทที่ 18 การเดินทางที่แสนจะวุ่นวาย“พี่ชิงเย่วซื้อเยอะไปแล้ว” มู่ฟ่านปิงต้องรีบเบรกเพราะตอนนี้เธอและพี่ชิงเย่วถือของเต็มมือไปหมดแล้ว หากซื้อต่อคงไม่ไหว“ไม่เป็นไรหรอก พี่เฉินและอาหยางเป็นผู้ชายย่อมต้องกินจุกว่าเราสองคนแน่ เชื่อพี่เถอะน่า ยังไงก็กินหมด”หลิวชิงเย่วตอบ เธอนึกถึงตอนกินบะหมี่และกินข้าวที่ร้านอาหารของรัฐ พี่เฉินกินเก่งมากขนาดของเหลือในจานเธอเขายังกินโดยไม่รังเกียจ เธอคิดว่าสามพี่น้องมาเช้าขนาดนี้คงยังไม่ได้กินอะไรมาแน่ๆ“แต่ซาลาเปาสามสิบลูกมันเยอะไปนะพี่ชิงเย่ว” มู่ฟ่านปิงยังคงเอ่ยต่อ“เชื่อไหมว่าสองคนนั้นกินหมด”“เชื่อค่ะ” มู่ฟ่านปิงตอบรับในที่สุดเพราะรู้ว่าพี่ชายทั้งสองคนของเธอกินจุมาก จากนั้นสองสาวต่างวัยจึงเลือกซื้อผลไม้อีกเล็กน้อย จึงเดินกลับมาที่มู่หยางรออยู่“อีกไม่นานขบวนรถไปจะออกแล้ว รีบขึ้นไปหาที่นั่งกันดีกว่า พี่ซื้อชั้นตู้นอนมานะ เพราะต้องเดินทางหลายวันจะได้ไม่เมื่อยมาก”มู่ยวี่เฉินกลัวว่าทั้งสามคนจะเมื่อยเขาจึงเลือกจองเป็นตู้นอนมาสี่ที่นั่งแทนจะจองตั๋วชั้นธรรมดา และที่สำคัญความปลอดภัยของชั้นนี้ดีกว่าตั๋วธรรมดามากทั้งสี่คนเดินขึ้นมาที่ขบวนตู้นอนเมื่อหาที่นั่งไ
ตอนพิเศษ 4 ซวี่เซิ่งเสว่ - เกาฮ่าวซวนหลังจากที่ตัดสินใจก้าวเดินออกมาจากหลี่เหว่ยเฉียงพร้อมกับลูกน้อย ซวี่เซิ่งเสว่ไม่ได้รับความลำบากเท่าไหร่ เมื่ออยู่ภายใต้การดูแลของนายหญิงโรงน้ำชาในเวลาสามสี่ปีที่ผ่านมา มีเกาฮ่าวซวนที่คอยดูแลเธอและลูกมาตั้งแต่ก้าวเท้าเหยียบปักกิ่ง ตอนนี้เธอจึงมีตำแหน่งหัวหน้างานด้านห้องอาหารและดูแลในส่วนของการแสดงของโรงน้ำชาเหมยกุ้ยเสี่ยวเหยาอายุสี่ขวบ ใครเห็นก็หลงรักแม่หนูน้อยคนนี้ คำแรกที่เรียกได้คือคำว่าพ่อ ซึ่งนั้นก็คือเกาฮ่าวซวน เธอเองก็เกรงใจเพราะพี่ฮ่าวซวนยังไม่แต่งงาน และไม่ใช่มองไม่ออกว่าเขาคิดยังไงกับเธอ แต่บาดแผลที่เธอเจอมามันสาหัสนัก อีกทั้งหลี่เหว่ยเฉียงคือรักแรก มันยากที่จะลืมจริงๆ แต่คงมีสักวันที่เธอลืมได้และขจัดภาพของหลี่เหว่ยเฉียงออกจากหัวใจ เพราะถ้าหากเธอรับรักพี่ฮ่าวซวนตอนนั้นเท่ากับเธอทำร้ายทั้งตัวเธอเองและพี่ฮ่าวซวน จนมาถึงวันนี้เธอคิดว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะเปิดรับเขาเข้ามาในชีวิต เป็นพ่อจริงๆ ของเสี่ยวเหยาตัวน้อยเสียทีเย็นนี้ซวี่เซิ่งเสว่จึงกลับมาทำอาหารด้วยรอยยิ้มและเต็มเปี่ยมด้วยความสุข เพราะเธอนัดให้พี่ฮ่าวซวนมากินอาหารด้วยกัน ระหว่างที่ทำ
ตอนพิเศษ 3 อาเผย - ซินอี้หลังจากส่งนายหญิงกลับบ้าน อาเผยจึงให้ลูกน้องสืบเรื่องของหมอซินอี้คนสวย หลังจากนั้นไม่กี่วันเขาก็ได้รับคำตอบว่าคุณหมอซินอี้นั้นเป็นใคร ซินอี้เป็นลูกสาวนักการทูตประจำที่ปักกิ่ง มีพี่ชายเป็นทหารซึ่งก็คือนายพลจ้าน ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมของตัวเองหรือไม่ สนใจหญิงสาวครั้งแรกดันไปรักน้องสาวท่านนายพลเสียได้ แต่พอคิดว่าฐานะนั้นต่างกันเกินไปอาเผยจึงคลายความสนใจของตัวเองและตั้งหน้าทำงานตามปกติจนวันที่นายท่านกลับมาจากการฝึกซ้อมรบจากสถานที่จริงนายท่านให้กำลังใจและบอกให้เดินหน้า หากมั่นใจเขาและภรรยาจะเป็นเถ้าแก่ไปสู่ขอให้เอง ใครบ้างจะกล้าปฏิเสธคนสนิทของนายท่านแห่งโรงน้ำชาเหมยกุ้ยวันเวลาผ่านมาจนถึงวันที่หมอซินอี้ตอบรับคำเชิญของหลิวชิงเย่ว แม้ว่าจะไม่ได้มาต้อนรับด้วยตัวเอง แต่ก็ส่งอาเผยมาต้อนรับแทน“สวัสดีครับคุณหมอซินอี้” อาเผยเดินยิ้มร่าเข้ามาเมื่อพนักงานมาบอกว่าคุณหมอมาถึงแล้ว“สวัสดีค่ะคุณ...” ซินอี้ยิ้มให้และทักทายกลับไปแต่เธอไม่รู้จักชื่อของชายตรงหน้าจึงทำหน้าเหมือนจะถาม“ผมชื่ออาเผยครับ”“สวัสดีค่ะคุณเผย คุณไม่ต้องเรียกฉันคุณหมอหรอกนะคะ มันเป็นทางการจนเกินไปเ
ตอนพิเศษ 2 มู่ฟ่านปิง-มู่หยางอย่าคิดว่าเหวินตงจะปล่อยร่างบางไป ในเมื่อเธอคือดวงใจของเขา เขาแอบรักมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นรอยยิ้มของเธอตอนเรียนมัธยมปลายแล้ว คิดว่าเขาจะปล่อยไปง่ายๆ เหรอ ไม่มีทางหรอก “ไม่ครับ พี่ไม่ปล่อย เสี่ยวปิงเต็มใจเป็นของพี่ พี่ก็ดีใจมากแล้วไม่จำเป็นต้องวางยาตัวเองหรอกนะ เพราะไม่เช่นนั้นเราจะไม่ได้นอนทั้งคืนแน่คืนนี้” เหวินตงพูดอย่างเจ้าเล่ห์ เนื้อกวางมาถึงปากแล้วคิดว่าเขาจะยอมปล่อยไปเหรอ หากเธอกล้าเดินออกไปจากห้องด้วยสภาพนี้ ใครเห็นเขาจะควักลูกตาออกมาจริงๆ มู่ฟ่านปิงตาโตมองอย่างตกใจ คนบ้านี่พูดไม่อายจริงๆ แต่ก่อนที่จะทันได้คิดอะไร เธอกลับโดนคนที่กำลังจะเป็นสามีอุ้มไปที่เตียงและปลดเปลื้องปราการสองชิ้นสุดท้าย ก่อนจะทำหน้าที่สามีให้เธอด้วยความรักและเป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ ห้องของซือโถก็ไม่ต่างจากห้องของมู่ฟ่านปิงเท่าไหร่ เพราะมีเจ้านายหนุ่มที่ควบตำแหน่งเพื่อนสนิทมานั่งมึนอยู่ในห้อง “นายไม่ไปนอนเหรอ งานพรุ่งนี้ฉันเตรียมให้หมดแล้ว” ซือโถเอ่ยถาม แม้จะชอบชายหนุ่มตรงหน้ามากกว่าคำว่าเพื่อน แต่เธอยังไม่กล้าอาจเอื้อมถึง
ตอนพิเศษ 1 พ่อแม่ลูกดก NCมู่ยวี่เฉินตั้งหน้าตั้งตาทำลูกสาวอย่างขะมักเขม้น เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าปีหน้าเขาต้องมีก้อนแป้งตัวน้อยๆ น่ารักน่าชังอีกคนสองคน ทุกครั้งที่ตั้งใจทำสองแฝดมักจะก่อกวนพ่อเช่นเขาตลอด วันนี้ครอบครัวมีงานเลี้ยงอย่างน้อยเขาก็มีโอกาส หลังจากที่คุยกับน้องทั้งสองคนมู่ยวี่เฉินอุ้มภรรยารักเข้าห้องโดยไม่สนใจน้องๆ อีกเลย“ชิงชิงเราเข้ามิติกันเถอะนะ” ปากนั้นออดอ้อนขอเข้ามิติ แต่มือนั้นยุ่มย่ามถอดชุดภรรยาอย่างตั้งใจหลิวชิงเย่วนับวันสามีเธอยิ่งหน้ามึนกว่าเมื่อก่อน นี่ใช่สามีจอมเย็นชาของเธอหรือไม่ ผู้ชายที่เธอเจอตรงลำธารคนนั้นไปไหนแล้ว แม้ว่าจะแอบบ่นในใจแต่ก็ยังพาสามีสุดที่รักเข้ามิติตามคำขอเมื่อเข้ามาในมิติแล้วมู่ยวี่เฉินไม่สนใจอีก อุ้มภรรยารักนั่งที่โต๊ะกลางสนาม เขาจับขาเธอแยกออกจากกัน ก่อนจะใช้ลิ้นของตัวเองไล่เลียกลีบดอกไม่งามของภรรยารัก ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี ไม่ว่าจะกินและสัมผัสมากี่ครั้ง ดอกไม้ดอกนี้ของภรรยายังคงหอมหวานและสดใหม่สำหรับเขาเสมอไม่เพียงใช้ลิ้นเลียกลีบทั้งสองข้าง เขายังคงใช้ลิ้นตวัดจุดเสียวของภรรยาคือเกสรของดอกไม้ จนทำให้หลิวชิงเย่วบิดตัวด้วยความเสียว แต่กลับต
บทส่งท้าย ไม่มีอะไรมาพรากจากกันสามปีผ่านไป หลิวชิงเย่วไม่คิดเลยว่าธุรกิจของเธอจะก้าวกระโดดได้ขนาดนี้ บริษัทเหมยกุ้ยขยายตัวจนติดอันดับหนึ่งของสายธุรกิจ ลูกชายที่น่ารักตอนนี้ก็อายุห้าปีแล้ว ความแสบความซนยังคงมีอยู่ ส่วนน้องทั้งสองเรียบจบเรียบร้อยแล้ว เธอจึงให้บริหารงานที่ปักกิ่งแทนเธอ พร้อมกับมอบกิจการให้ทั้งสองคนดูแลเพื่อเป็นทรัพย์สินของตัวเองอีกด้วยไม่เพียงแค่ธุรกิจของเธอเท่านั้นที่ก้าวกระโดด ตำแหน่งสามีของเธอเช่นกัน ตอนนี้ได้ติดยศเป็นผู้พันด้วยแรงสนับสนุนของพ่อบุญธรรม ท่านเกษียณตัวเองเพื่อออกมาดูแลและเลี้ยงหลานๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงท่านอื่น ไม่ใช่เพราะฐานะของนายท่านมู่ แต่เพราะความสามารถของตัวมู่ยวี่เฉินเองด้วยหากจะไม่พูดถึงหลี่เหว่ยเฉียงอดีตสามีของเธอคงไม่ได้ หลังจากที่สอบสวนและโดนโทษของการคบชู้แล้ว เขายังติดคุกเพิ่มอีกสามปีข้อหาพยายามทำร้ายเพื่อทหารด้วยกัน ในช่วงที่ติดคุกนางจ่างซื่อหรือแม่เฒ่าหลี่ตรอมใจที่ลูกชายโดนจับ และหญิงสาวที่หมายมั่นว่าจะเป็นลูกสะใภ้เธอกลับไม่สนใจ หลังจากรับโทษเสร็จหญิงสาวรายนั้นก็มีคนรักใหม่แม้อยากจะสืบหาสวี่เซิ่งเสว่แค่ไหนก็ไม่ได้ข่าวคราวเลย ทำให้นา
บทที่ 45 ความสำเร็จการใช้ชีวิตของทุกคนยังคงดำเนินไปตามที่ควรจะเป็น กิจการของหลิวชิงเย่วนั้นเจริญงอกงามขึ้นเรื่อยๆ เธอยังติดต่อส่งขายเครื่องสำอางไปยังต่างประเทศ สร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง หากถามว่าเธอยังเอาของออกมาจากมิติไหม ตอบเลยว่ามีบ้างอย่างแต่ไม่ทั้งหมดตอนนี้เธอสร้างโรงทอผ้าเองแม้ว่าจะมีผ้าในมิติมากมายก็ตาม แต่ถ้าเกิดวันหนึ่งลูกค้าถามว่าเอาผ้ามาจากไหนจะให้เธอตอบยังไง โรงงานของเธอนอกจากผลิตและตัดเย็บให้ร้านชิงเย่วบูติกแล้ว ยังผลิตให้ลูกค้ารายอื่นๆ อีกด้วย แต่แบบที่เปิดขายนั้นจะไม่ซ้ำกับร้านของเธอส่วนเนื้อผ้าขึ้นอยู่กับราคาและต้นทุนที่ลูกค้าให้งบมา ส่วนโรงน้ำชาจะไม่พูดถึงเลยไม่ได้ ตั้งแต่เริ่มทำจนถึงวันนี้ก็สามปีแล้ว ตอนนี้โรงน้ำชาขยายเพิ่มไปอีกหลายสาขา ส่วนโชว์รูมรถยนต์ก็มียอดสั่งซื้อเข้ามาตลอดเช่นกัน ตอนนี้พี่ใหญ่จ้านซากำลังติดต่ออีกสองยี่ห้อเพื่อเป็นตัวแทนขาย หลิวชิงเย่วจะใช้เงินต่อเงินในการทำธุรกิจ นอกจากธุรกิจที่พูดก่อนหน้านี้ยังมีที่ห้างสรรพสินค้าที่กำลังก่อสร้างและโรงแรม ยังไม่รวมอะพาร์ตเม้นต์และคอนโดที่กำลังทำ ภายในสามปีเธอสร้างได้ขนาดนี้ถือว่าธุรกิจโตพอสมควรส่วนสองแฝดก็อา
บทที่ 44 พบหน้าลูกน้อย“ไม่จำเป็นหรอกครับ แม้ว่าภรรยาผมจะท้องแต่เธอก็ปรนนิบัติผมอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง ที่สำคัญผมไม่ได้ชั่วขนาดที่ไปนอนกกกับผู้หญิงอื่นทั้งๆ ที่ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากกำลังอุ้มท้องลูกน้อยด้วยความลำบากต้องขอบคุณคุณนายมากนะครับ ที่เสนอหลานสาวให้มาอุ่นเตียงให้ผม แต่ไม่จำเป็นครับนอกจากชิงชิงชิงแล้ว ผมไม่ต้องการเอาส่วนนั้นไปสัมผัสกับใคร อ้อ…เพราะผมไม่ใช่ของสาธารณะ”มู่ยวี่เฉินโอบเอวภรรยารัก ตอนนี้เธอท้องแปดเดือนแล้ว แม้ว่าจะไม่มีความสัมพันธ์ในการสอดใส่ แต่ภรรยาตัวน้อยไม่เคยทำหน้าที่ตัวเองบกพร่อง เขาเองที่บอกเธอว่าแค่นอนกอดก็พอแล้วสำหรับเขาหากต้องการเพียงก็แค่ช่วยตัวเอง สุดท้ายภรรยาเป็นคนเข้ามาช่วยให้เขาเสร็จสมทุกครั้งไป กับปากและมือน้อยๆ ของเธอ ชิงชิงของเขาช่างออดออ้อนและเอาใจใส่เขาขนาดนี้ จะไม่ให้รักให้หลงยังไงไหวอินเย่วเจียวยิ่งกว่าโดนตบหน้า นี่เธอแพ้คนท้องอย่างนั้นเหรอ เธอทั้งสาวและสวย ทำไมนายท่านมู่จึงไม่มองและสนใจเธอ ตำแหน่งทางการทหารของเขานั้นเธอไม่สนใจหรอก เธอสนใจตำแหน่งนายหญิงรองของโรงน้ำชามากกว่า หากวันใดเธอกุมหัวใจของเขาได้เธอก็จะมาเป็นนายหญิงตัวจริงและกำจัดหลิวชิง
บทที่ 43 เข้าหอ NCมู่ยวี่เฉินเมื่อถูกส่งตัวเข้าหอพร้อมภรรยา วันนี้เขาเลือกที่จะไม่ดื่มกับใครเพราะอยากใช้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดกับเธอ ชายหนุ่มค่อยๆ ปลดชุดแต่งงานออกจากร่างภรรยารักอย่างอ่อนโยน แม้ว่าจะมีความสัมพันธ์กันจนมีเจ้าก้อนแป้งอยู่ในท้องแต่เขาก็ยังตื่นเต้นอยู่ดี หลิวชิงเย่วเองก็ไม่น้อยหน้าเธอช่วยสามีถอดชุดแต่งงานเหมือนกัน ก่อนที่ทั้งสองคนจะร่างกายเปล่าเปลือยหลิวชิงเย่วคุกเข่าลงก่อนจะจับส่วนกลางของสามีที่ขยายตัวด้วยอย่างไม่รังเกียจ แม้ว่าจะท้องสี่เดือนแต่ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเธอ เธอนึกเพียงว่าคืนเข้าหอนั้นมีค่ายิ่งกว่าทองพันชั่ง แม้ว่าจะร่วมรักกันมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็ตาม เธอจับตรงนั้นเต็มมือก่อนจะแหงนหน้ามองสามีอย่างยั่วยวน จากนั้นเธอค่อยๆ ใช้ปลายลิ้นแตะลงไปที่ส่วนหัวและไล่ชิมไปถึงปลายโคน มู่ยวี่เฉินทำได้เพียงแหงนหน้าขึ้น ไม่อย่างนั้นหากมองการกระทำของภรรยาสุดรักต่อ เขาคงอดไม่ได้ที่จะขย้ำเธอและใส่เต็มแรง แต่พอคิดว่ามีลูกน้อยอยู่ในท้องจึงได้ปล่อยให้เธอทำอย่างอำเภอใจเมื่อไล่เลียจากปลายไปถึงโคน หลิวชิงแย่วจึงใช้ปากน้อยๆ กลืนกินส่วนนั้นของเขาอย่างเป็นจังหวะเข้าออก จากช้าๆ ไม่นานความเ
บทที่ 42 แต่งงานหลิวชิงเย่วรู้สึกตื่นเต้นเมื่อวันแต่งงานใกล้เข้ามาทุกที งานแต่งครั้งนี้เธอจัดที่โรงน้ำชา โดยมีป้าสะใภ้เว่ยเข้ามาช่วยเป็นแม่งานให้พร้อมกับพนักงานคนอื่นที่ช่วยกันอย่างขยันขันแข็งเพื่อให้งานแต่งครั้งนี้สมบูรณ์ที่สุด “พี่สะใภ้ตื่นเต้นไหม” มู่ฟ่านปิงเอ่ยถาม วันนี้เป็นวันหยุดจึงเข้ามาช่วยพี่สะใภ้เรื่องชุดแต่งงานพร้อมกับซือโถ “ตื่นเต้นสิ แม้ว่าจะเคยแต่งงานมาแล้ว แต่ครั้งนั้นเพราะคำสั่งเสียไม่ใช่เพราะความรัก ครั้งนี้พี่ได้แต่งงานกับชายอันเป็นที่รักหากบอกว่าไม่ดีใจหรือว่าตื่นเต้นพี่คงโกหก และงานในครั้งนี้ยังมีคนที่พี่รักและรักพี่ต่างก็มาร่วมงาน รวมทั้งเจ้าก้อนแป้งในท้องด้วยที่อยู่ในวันสำคัญของพ่อแม่” หลิวชิงเย่วลูบท้องด้วยความรัก เธอรู้แล้วว่าความรักของแม่นั้นยิ่งใหญ่แค่ แม้ว่ายังไม่เห็นหน้า แต่เธอกลับมอบความรักให้หมดใจอย่างไม่มีเงื่อนไข “น่าอิจฉาจังเลยนะคะพี่สะใภ้ กว่าหนูจะถึงวันนั้นไม่รู้ว่าคู่ชีวิตจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้คงทำหน้าที่ของลูกที่ดีก่อน ตั้งใจเรียนและทำงานเพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่” ซือโถเป้าหมายของเธอมีเพียงเรียนให้จบและทำงานเพื่อ