ตอนที่ 24“อัญเชิญ”ย่ำรุ่งสางยามสาม นายแบบหนุ่มหน้าสวยเหยียบกายลงธรณีแห่งเขตแดนตำหนักสายหมอกอันคุ้นชิน หลังจากที่ไม่ได้เยือนมานานเมื่อคราครั้งสลับร่างกับดั่งเดินสวรรค์ รุ่นพี่อย่างสุวภัทน์รีบก้าวลงตามมาติด ๆ ชายหนุ่มเดินประชิดคนน้องเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะได้รับอันตรายยิ่งครั้งนี้จิรพัฒน์สั่งให้สุวภัทน์จอดรถไว้ที่หน้าปากทางเข้าเรือนไทยเท่านั้น ไม่ได้ให้คนพี่ขยับรถเข้ามาด้านใน เนื่องจากเขาต้องการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้านในว่าร้ายแรงเพียงใด ครั้นยามเงียหูฟังดี ๆ จอมก็ได้ยินเสียงดนตรีพริ้วไหวมาตามลมจริง เพียงแต่แยกไม่ออกเลยว่าคือเสียงดนตรีชนิดใดบ้างกอไผ่ซึ่งเรียงรายอยู่ตามริมทางเข้าเรือนเริ่มเสียดสีกัน คล้ายคนกำลังส่งเสียงร้องโหยหวน ใช่แล้ว! ทั้งหมดนั่นมันคือของที่เจ้าจอมเลี้ยงไว้ทั้งนั้นและพวกมันกำลังจะคลั่งเพราะเสียงเพรียกจากด้านในตัวตำหนัก ดนตรีเพราะ ๆ เริ่มบรรเลงจังหวะล้ำลึก เสียงแปลกประหลาดยิ่งดังขึ้นเรื่อย ไฟเริ่มติด ๆ ดับ ๆ คล้ายหนังผีที่สุวภัทน์เคยได้ชมตำหนักสายหมอกมีพื้นที่กว้างขวางมากด้านในมีเรือนไม้ทั้งหมดสี่เรือน เรือนใหญ่คือตัวตำหนัก เรือนเล็กฝั่งซ้ายคือเรือนถอนของที
ตอนที่ 25“องค์ใด”ภายในเรือนลับ เจ้าของเรือนอย่างจิรพัฒน์ เดินวนอยู่รอบตัวเรือนเพื่อสำรวจความผิดปกติสักพัก ไม่นานนักร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเขาใบหน้าที่คุ้นชิน เพราะเห็นกันมายาวนานเหลือเกิน องค์รัชทายาทแห่งนรก 'เฮเดส' หรือ 'ขุนเขา' ผู้อยู่เหนือห่วงแห่งกาลเวลาทั้งปวง บัดนี้เขากำลังยืนกอดอกแผ่นหลังชิดกับผนังห้องของตัวเรือนลับ"เจอกันอีกแล้วนะ"อีกฝ่ายเอ่ยทักทาย เชื่อเถอะในบรรดาผู้คนที่จิรพัฒน์เห็นมาทั้งหมดในชีวิต องค์ที่อยู่ตรงหน้างามล้ำกว่าฝั่งสรวงสวรรค์เป็นไหน ๆ"เบื่อที่จะเจอแล้วขุน""กว่ากูจะลงมาเยือนได้ลำบากพอตัวเลยนะ" อีกฝ่ายเอ่ย"กูว่าที่กูสันดานต่ำคงเป็นเพราะรับองค์ของมึงมาแน่ ๆ เลยวะขุน""เหอะ! มึงต่ำอยู่แล้วเถอะ""ถ้ากูต่ำอยู่แล้ว ชาวสวรรค์จะมาขอให้กูรับองค์ทำไม" จิรพัฒน์ยกคิ้วยิ้มตอบกลับด้วยท่าทางยียวน"วันนี้กูไม่ให้อีกองค์ของมึงลงนะจอม ไม่อนุญาต!" ขุนเขาเอ่ย เจ้าจอมรับองค์หลายองค์มาก นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนตัวเล็กเปลืองพลังชีวิตเยอะกว่าปกติ ครั้นเวลาให้องค์ทวยเทพเสด็จเยือน"หมายถึงน้องชายของมึงเหรอ?""อืม""ไม่ต้องกังวลหรอก ไอ้ตัวที่อยู่ข้างนอกก็รอกูอยู่""ตัว
ตอนที่ 26“องค์ของเจ้าจอม”เจ้าจอม จิรพัฒน์ รัตติกาลจันทร์อัปสร ทายาทเพียงผู้เดียวของตระกูลรัตติกาลจันทร์อัปสร ผู้ใช้ไสยศาสตร์คู่สายขาวและสายดำ ตัวแทนขององค์เทพจากแดนสวรรค์และองค์ราชันจากแดนนรก หากจะอธิบายให้เข้าใจโดยง่ายคงต้องกล่าวถึงแดนนรกก่อนฝั่งแดนนรกนั้นจะมีองค์ราชันจากแดนนรกหรือที่เรียกว่าองค์รัชทายาทอยู่ ตัวของจิรพัฒน์ได้ไปทำสัญญาและรับมาเป็นพันธมิตรถึงสององค์ องค์แรกมีนามว่า 'ฮาดีส' องค์ชายตนที่สามจากแดนนรก อีกชื่อในโลกมนุษย์ก็คือ 'ขุน' หรือ 'ขุนพล' จอมได้รู้จักองค์นี้ตั้งแต่ครั้นเข้าสู่ไสยเวทย์สายดำใหม่ ๆ ด้วยเหตุบังเอิญบางประการ จนสุดท้ายพันธะระหว่างเขาและขุนพลจึงได้เกิดขึ้นส่วนอีกหนึ่งองค์คือผู้มีศักดิ์เป็นถึงพี่ชายของฮาดีสรัชทายาทองค์แรกแห่งแดนนรกอย่างเช่น 'เฮเดส' หรือ 'ขุนเขา' สำหรับเฮเดสนั้น บังเอิญรู้จักจิรพัฒน์ผ่านฮาดีส องค์นี้ตั้งแต่ที่หมอผีหนุ่มทำพันธสัญญารับมาครอบครองขุนเขาเสด็จเยือนแค่คราเดียวและมันยังเป็นคราที่เจ้าจอมเกือบจะสิ้นใจ เหตุการณ์ร้ายแรงเสียจนลุงนินต้องตัดสินใจส่งเขาไปอยู่ต่างประเทศเพื่อให้เลิกยุ่งกับไสยศาสตร์ทุกแขนงส่วนทางสรวงสวรรค์องค์เทพที่จิรพัฒน
ตอนที่ 27“พิธีถอนของ”เมื่อแม่เลี้ยงของนายแบบคนสวยขาออกไปจากเพนท์เฮ้าส์แล้ว พิธีกรรมเหนือธรรมชาติกำลังจะเริ่มขึ้นโดยผู้ใช้คุณไสยสองคน เทียนสีขาวถูกนำมาจุดวางภายในบ้านตามจุดต่าง ๆ ที่สำคัญ อาทิเช่น ห้องครัว น้องนอน ห้องน้ำ รวมไปถึงห้องโถง และเช่นเคยครั้งนี้จิรพัฒน์เป็นผู้เริ่มพิธีโดยมีราชรณวรคนพี่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลาดอกไม้งามถูกจัดใส่พานทองสีสวย สายสิญจน์ถูกพันรอบเทียนทุกแท่ง นี่เป็นหนึ่งในพิธีกรรมชั้นสูงตามที่ตกลงกันครั้งนี้พวกเขาจะไม่ทำพิธีทางสายขาวแสนบริสุทธิ์และเป็นเมตตาแบบที่ราชรณวรอยากทำหากแต่ทั้งสองเลือกพิธีทางสายดำ เพื่อตัดปัญหาในเรื่องของเวลาและผลลัพธ์ที่ต้องการกริชเล่มงามของจิรพัฒน์ถูกนำมาใช้อีกครั้ง มันคือของศักดิ์สิทธิ์มีชีวิต มันมีวิญญาณเป็นของตน เพียงไม่นานเจ้าจอมจึงค่อย ๆ บรรจงใช้กริชกรีดลงไปบนนิ้วสวยตนให้มันได้เชยชิมเลือดวิญญาณของเจ้านาย เลือดสีแดงสดไหลลงกริชคมเพื่อทำพิธีอัญเชิญ“โอม พะยามะราชะ อุปาทะวะตายะ มะหิสสะ พาหะนายะ ทักขิณะทิสะฐิตายะ อาคัจฉัญภุญชะตุ ขิปปะยะตุ วิปปะยะตุสะวาหะ สะวาหายะสัพพะ อุปาทะวะ วินาสายะ สัพพะอันตะรายะ วินาสายะ สุขะว
ตอนที่ 28“เยือนแดนนรก”ลมหายใจที่ขาดช่วงเริ่มกลับมามีจังหวะหายใจอีกครา ความหนาวเหน็บสาดเสียดเข้ามาปะทะเรือนร่างของจิรพัฒน์ เขาจึงก้มมองไปที่เรียาแขนที่เคยมองว่าสวยของตน ซึ่งบัดนี้มันมีเส้นเลือดปูดนูนขึ้นมาเล็กน้อยนิ้วมือที่ไม่ได้เรียวสวยแบบทุกวันเป็นตัวการันตีให้ชายหนุ่มได้ทราบ ณ ทันทีว่าตอนนี้เขาได้กลับร่างเดิมแล้วจิรพัฒน์ละสายตาออกจากร่างกายตน ตรงหน้าของชายหนุ่มแสดงให้เห็นถึงทางเดินทอดยาวบังคับผู้มาเยือนให้ก้าวเข้าไปสู่ทางเดินซึ่งเป็นเสาปูนขนาดใหญ่สไตล์โรมันซึ่งตั้งเรียงรายอยู่ระหว่างข้างทางหลายร้อยต้น ถัดจากเสาคือหุบเหวลึกไร้สิ่งมีชีวิตอื่นใดในธรณีนี้ จิรพัฒน์เคยได้ยินขุนเขาเล่าให้ฟังในห้วงจิตว่า...ประตูสู่แดนนรกจะมีเสาโรมันอยู่ตามข้างทางทั้งสองด้านและมีทางเดินเพียงหนึ่งเดียวทอดยาวเข้าสู่แดนนรกซ้ายหรือขวาล้วนเป็นหุบเหวนภามองลึกลงไปไม่พบธรณี หากตกลงไปแค่วิญญาณธรรมดาเกรงว่าอาจจะแตกสลายได้ในทันทีอีกฝ่ายเคยตักเตือนเขาอยู่หลายครั้งที่ได้สนทนากันในห้วงจิตว่าหายามใดที่หลุดเข้ามา โปรดจงเดินหน้าอย่าได้หันหลังกลับแม้จิรพัฒน์จะชอบทำท่าทางเหมือนไม่ใส่ใจในคำบอกเล่าของอีกฝ่ายมากนัก ช่างน่า
ตอนที่ 29“สิ่งที่เมืองเหนือรับรู้”เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาเหนือถึงได้รู้ว่าภาพตรงหน้ามันช่างเกินจะบรรยาย ห้องโถงทองคำขนาดใหญ่ซึ่งรายล้อมไปด้วยบริวารมากมายหลากหลายคน ไม่ได้ทำให้เขาตกใจเท่าการที่เห็นร่างของจิรพัฒน์ซึ่งกำลังนั่งหันหลังอยู่ข้าง ๆ เขา เมื่อรู้สึกถึงการขยับร่างกายของสุวภัทน์ จิรพัฒน์จึงหันมามองเขาทันที"ตื่นแล้วเหรอ?""จอม..." เมืองเหนือเอ่ยเรียกอีกคนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา"ง่วงอ่ะเหนือ อยากนอน""จะนอนไม่ได้ดิจอม แล้วที่นี่คือที่ไหน?""นรก""ฮ่ะ""สรุปตัดสินใจได้รึยังครับ น้องจอม?" เสียงคุ้นหูดังขึ้นด้านหลังของสุวภัทน์ ทำให้เขาต้องหันหลังกลับไปมองที่มาของต้นเสียงนั้นและแน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนอื่นไกล หากแต่เป็นเจตตินทร์แฟนหนุ่มของจักรพรรดิหรือเฮียจักรของพระเพลิงเพื่อนสนิทของเขานั่นเอง"เซ้าซี้วะพี่มึง" จิรพัฒน์ตอบด้วยท่าทีหงุดหงิดเหมือนเด็กถูกขัดใจ ก่อนที่อีกร่างจะเดินมาเทียบเคียงเทพสงครามอย่างเจ้าเจต"รีบเลือกฝั่งได้แล้วจอม จะตายวันตายพรุ่งไม่รู้ด้วยแล้วนะ" ขุนเขาเอ่ยเตือน"จะตายก็ให้มันตายเหอะขุน""หมายความว่ายังไงครับ?" เมืองเหนือที่ฟังทุกอย่างตั้งแต่ต้นรีบเอ่ยถามเมื่อได้ยิน
ตอนที่ 30“กลับร่าง”มันช่างน่าแปลกที่เมื่อลืมตาขึ้นมาแล้ว จิรพัฒน์พบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงสีดำขนาดใหญ่ และเมื่อมองไปรอบบริเวณห้องนอนกลับพบเพียงของศักดิ์สิทธิ์ที่ตนสะสมครั้นยังเด็กเท่านั้น ดวงตาเฉี่ยวคมเริ่มก้มลงมองมือหนาของร่างเพื่อพิสูจน์ในสิ่งที่ตนคาดคิดไว้ก่อนหน้า...กลับคืนร่างแล้ว? หลับคืนร่างตัวเองแล้วว่ะนั่นคือประโยคแรกเจ้าจอมคิดในใจเนื่องจากเห็นมือหนาขึ้นเส้นเลือดชัดเจนของตัวเอง เพียงเท่านั้นก็ทำให้เขารับรู้ได้ในทันทีว่าตนได้กลับคืนเข้าสู่ร่างเดิมแล้ว ความรู้สึกโล่งใจที่ได้เผชิญ ไหนจะความสบายกาย เนื่องจากนี้เป็นร่างที่แท้จริงของตน เป็นกายหยาบของตัวเองหาใช่ใครอื่นสถานการณ์ตอนนี้มันทำให้จิรพัฒน์แสดงยิ้มหวานออกมา ก่อนที่ขายาวจะก้าวลงจากเตียง มือหนารีบคว้าชุดคลุมเพื่อนำมาสวมทับเสื้อนอนด้วยความเร่งรีบจิรพัฒน์เดินออกจากบ้านพักหรูสไตล์ยุโรปได้เพียงไม่นานนัก ในที่สุดเขาก็เดินมาหยุดอยู่ตำหนักสายหมอกโดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงการมาครั้งนี้ของเขาเลยแม้แต่คนเดียว เหตุที่เขาสลับร่างกับคนสวยขา แม้แต่คนผู้สูงศักดิ์จากแดนนรกก็ไม่อาจให้คำตอบใดกับเขา หรือไม่แน่คนพี่อาจจะไม่อยากตอบก็เป็นไปได้และ
ตอนที่ 31“ยาสั่ง”ข้อเสียของเรื่องนี้สำหรับจิรพัฒน์คงจะเป็นเรื่องที่เขาไม่สามารถถอนของได้ด้วยตนเอง มือเล็กของร่างดั่งเดินสวรรค์ที่มีวิญญาณของจอมอยู่ด้านในกอบกำชายเสื้อสุวภัทน์ไว้แน่น จอมไม่สนใจด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายจะรังเกียจไหม เพราะลำพังแค่จะทรงตัวอยู่ยังยากเลย"ราชามึงทำอะไรสักอย่างสิวะ"เมืองเหนือดุเพื่อนสนิทหลังจากที่พบว่าราชาเอาแต่ยกมือทั้งสองข้างปิดปากตนไว้อย่างนั้น ราวกับได้สติชายหนุ่มรีบก้าวเท้าเข้ามาใกล้จิรพัฒน์ ในขณะที่ดั่งเดินสวรรค์มองร่างตนเองด้วยความขลาดกลัวสายตาเว้าวอนของเจ้าจอมทำให้ราชากดดันเหลือเกิน มือสวยยังคงกำชายเสื้อของเมืองเหนือเอาไว้แน่น น้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาคู่นั้นเมื่อยามที่เมืองเหนือมองเห็นมันเขารู้สึกเหมือนใจสลาย สุวภัทน์ชอบเจ้าจอมมากจริง ๆ ชอบมากเสียจนไม่อยากให้อีกคนต้องประสบพบเจอกับเหตุการณ์ที่ทรมานแบบนี้ และหากเลือกได้สุวภัทน์ก็อยากจะรับเอาความทรมานทั้งหมดของจิรพัฒน์มาไว้ที่ตนเสียให้ทุกอย่างมันจบสิ้นไป"น้ำมันพราย..." เสียงราชรณวรกล่าวขึ้น เมื่อนิ้วของอีกคนแตะเข้าไปสัมผัสที่มุมปากเจ้าจอม~มะโทรัง อะตะระโร เวสะวะโนนะหากปิ ปิสาคะตาวาโหมิมหายักขะ เทพะอนุต
ตอนที่ 46“Saturn”ดั่งดาวที่อยู่เคียงเดือน ดั่งดวงอาทิตย์ที่อยู่เคียงคู่โลก ดังอากาศที่ลอยอยู่ตามท้องนภา ดังเวลาที่ไม่มีวันหยุดเดิน.ความรักของเมืองเหนือที่มอบให้จิรพัฒน์ไม่ได้แปรเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย.กลับกันแล้ว...ความรักของเจ้าจอมที่มอบให้สุวภัทน์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแม้เวลาจะเวียนไหว้หมุนวนไปหลายร้อยภพก็ตามแต่.ดอกกุหลาบถูกจัดเรียงใส่แจกันสวยด้วยมือเรียวของอดีตหมอผีหนุ่มอย่างจิรพัฒน์ ในขณะที่ราชานั่งมองน้องคนสนิททำกิจกรรมดังกล่าวด้วยความเอ็นดูบัดนี้เจ้าของรัตติกาลจันทร์อัปสรเปลี่ยนมือเป็นราชรณวรแล้ว ส่วนลุงนินนั้นปลีกวิเวกเน้นทางธรรม เข้าป่าฝ่าดงละทางโลก ตำหนักสายหมอกจึงมีเพียงราชรณวรและจิรพัฒน์ที่คอยดูแล และมีดั่งเดินสวรรค์แวะเวียนมาหาบ้างเป็นครั้งคราว เช่นเดียวกับเมืองเหนือและคนอื่น ๆณ สุสานอี้ฟางศพของสุวนีย์แม่เลี้ยงของเดินดินถูกฝังไว้ที่สุสานแห่งใหญ่ของประเทศ ด้วยความเคารพอันน้อยนิดที่เดินดินมีให้อีกฝ่ายซึ่งครั้งหนึ่งเคยเลี้ยงดูปูเสื่อดั่งเดินสวรรค์มาอย่างดีดอกลิลลี่สีขาวถูกวางลงหน้าสุสานเป็นการทำความเคารพบุพการีไม่แท้ด้วยความนอบน้อมแม้ว่าอีกฝ่ายจะประพฤติปฏิบัติตนไม่ด
ตอนที่ 45“เรียกพี่เหนือสิครับคนดี”ภายในห้องนอนของจิรพัฒน์ ดอกกุหลาบช่องามถูกวางไว้ข้างเตียง มือซึ่งขึ้นเส้นเลือดนิดหน่อยของจิรพัฒน์ จับช่อดอกไม้เบา ๆ ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้ หากแต่เมื่อได้รับมักรู้สึกพิเศษเสมอเตียงยุบลงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าสุวภัทน์เดินมาหา เจ้าจอมจึงละสายตาจากช่อดอกไม้และหันมาหาคนพี่แทน"สวยไหมคะ?"คะขา? คะขา? คะขา?"สวยครับ""พี่คิดไว้แล้วว่าจอมต้องชอบดอกไม้..."ดอกไม้ที่ว่ามันแปลว่าดอกไม้จริง ๆ ใช่ไหม?มือหนาค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปสัมผัสใบหน้าของจิรพัฒน์ราวกับต้องการสำรวจความเพอร์เฟกต์ของใบหน้าคมซ่อนหวานตรงหน้าปลายนิ้วไล่เกลี่ยริมฝีปากของเจ้าจอมไปมาคล้ายกับต้องการสัมผัสมันอยู่อย่างนั้น เมืองเหนือขบกรามแน่นกับภาพตรงหน้าที่เห็นเมื่อเจ้าจอมใช้ปากของตนรับเอาก้านนิ้วของเขาเข้าไปลิ้มรส ลิ้นเรียวตวัดชิมก้านนิ้วเหมือนทานไอศกรีมแท่งเล็กก็ไม่ต่าง น้ำสีใสไหลเยิ้มออกมาจากมุมปากของจิรพัฒน์ก่อนที่อีกฝ่ายจะใช้สายตาออดอ้อนเหลือบมองมาที่คนพี่ ภาพตรงหน้ามันช่างตราตรึงในใจของสุวภัทน์ยิ่ง"อืมมมม~"[MuangNuea Talk]ผมว่า...ผมไม่เคยต้านทานตัวตนของเจ้าจอมได้เลยสักครั้งผมหมายถึง...ตัวตนในมุมน
ตอนที่ 44“เพลิงอัคคี”พิธีกรรมเสร็จสิ้นพร้อมกับหยดเลือดของสาปอักษรที่หยดลงสู่พานเป็นหยดสุดท้าย ที่จิรพัฒน์และราชาเคยสงสัยบัดนี้คงได้คำตอบแล้ว สาเหตุที่ว่าเสือป่าเก็บเลือดตัวเองไว้ในตู้เย็นของสนามแข่งทำไม เหตุก็เพราะเลือดของเขาสามารถอัญเชิญวิญญาณได้ และผู้ที่ใช้มันคือเจตตินทร์ เทพสงครามผู้มากบารมี"เสร็จแล้ว"เสียงของผู้อาวุโสเอ่ยกล่าว ท่ามกลางความโล่งใจของทุกฝ่ายเมื่อทุกอย่างจบสิ้นลง ทั้งหมดจึงแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง ทิ้งไว้เพียงราชาและเดินดินอยู่ที่ตำหนักสายหมอกเท่านั้นด้านจิรพัฒน์และลุงนิน ยืนมองวิญญาณของช่อลดาที่อยู่สวนลีลาวดีโดยไม่ได้พูดกล่าวอะไรออกไป หากแต่เป็นอีกฝ่ายที่เอ่ยพูดแทน"โชคดีนะลูก ขอบคุณนะที่เกิดมาบนโลกใบนี้...""...""พี่นิน ช่อจะขึ้นไปอยู่บนนู้นแล้วนะ""สะเหล่อทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ขึ้นไปอยู่บนนั้นอะไรของมึงล่ะ""พี่นินจ๊ะ...""รู้ทั้งรู้ว่าวิญญาณจะดับสลายก็ยังจะเสือกไปแลกเปลี่ยนกับทวยเทพ" ลุงนินสุดจะทนกับความคิดของช่อลดาน้องสาวตนเหลือเกินเพียงเพราะเจ้าจอมของเมืองเหนือแล้วไม่สมหวังหรือถึงขั้นต้องยอมแลกเปลี่ยนวิญญาณของตนเพื่อให้ลูกตัวเองสมหวังในความรัก ช่างสิ้
ตอนที่ 43“ON THE FLOOR”รถยนต์คันงามเข้าเส้นชัยไปได้อย่างรวดเร็ว สมฉายานักแข่งไร้พ่ายประจำสนาม ท่ามกลางความยินดีของกองเชียร์ ในขณะที่ดั่งเดินสวรรค์กระโดดขึ้นยืนปรบมือด้วยความดีใจ เหมือนไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนแชมเปญถูกแจกจ่ายให้ผู้ได้รับชัยชนะสามอันดับแรก เพลิงอัคคีมองไปที่ดั่งเดินสวรรค์ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ยอมรับว่าไม่เคยเห็นคนน้องมีความสุขและสดใสมากขนาดนี้มาก่อน เพลิงรู้สึกเหมือนปล่อยวางเรื่องเดินดินได้เกือบครึ่งหนึ่ง อย่างไรเสียเขาก็เป็นห่วงดั่งเดินสวรรค์เหมือนคนในครอบครัวด้วยใจจริงณ ตำหนักสายหมอกเจ้าของตำหนักเดินขึ้นเรือนไม้หลังงามไปด้วยความใจเย็นลุงนินกลับมาแล้ว.....จิรพัฒน์ที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่บ้านหรูสไตล์ยุโรปของตนรีบทิ้งสายยางในมือและวิ่งไปหาผู้เป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของตนทันที"ลุง!!""มึงจะตะโกนทำไม""ลุงหายไปไหนมา?""..."เรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดให้จิรพัฒน์ได้รับรู้ เจ้าจอมนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ยืนขึ้นและก้าวลงจากตำหนักไป โทรศัพท์ถูกหยิบยกขึ้นมาต่อสายหาราชรณวรโดยลุงนินด้วยความรู้สึกหลากหลายเพียงไม่นานนักราชาก็เดินทางมาถึงตำหนักส
ตอนที่ 42“ความจริงจากลุงนินและการจากไปของเหมันต์”เมื่อกลับมาถึงบ้านหลังเล็กในป่าลึกของตัวเอง เหมันต์ก็จัดการกวาดของทุกอย่างลงบนพื้นของบ้านทันที น้ำตาหลั่งรินไหลอาบแก้มคู่งาม ชายหนุ่มผิวสองสีใบหน้าคมพยายามกักเก็บอารมณ์ไว้แต่คราแรกบัดนี้หาเป็นเช่นนั้นไม่ เหมันต์ยกมือหนาขึ้นมาปิดบังใบหน้าตน ซึ่งยามนี้น้ำตาไหลไม่มีท่าว่าจะหยุดได้เลยแม้แต่น้อยฮึก ฮึก ฮึก~เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องจัดแข่งกับเสียงสะอื้นของหมอผีหนุ่ม การรอคอยของเขามันไร้ค่าสิ้นดี อยู่ไปก็เหมือนคนที่ตกนรกทั้งเป็น สู้ตกตายไปเสียยังจะดีกว่า ไม่น่าเลย...ไม่น่าพาเจ้าจอมมาทำอะไรแบบนี้เลย สุดท้ายแล้วผลกรรมทั้งหมดก็ตกแด่เขา ผู้เป็นดั่งคนคอยเปิดประตูสู่ความเลวทรามในใจของจิรพัฒน์ไซยาไนด์ชนิดไร้สีสันถูกนำมาผสมน้ำเปล่าหวังดื่มเพื่อจบชีวิตตน มือเรียวยาวลูบไล้ขอบแก้วน้ำสีใสไปมา เหมันต์มีความคิดจะจบชีวิตอยู่หลายครา แน่นอนว่าทุกครั้งที่เจ้าตัวปลิดชีพผู้อื่น เขาคิดตลอด คิดมาตลอด เพียงแต่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ในการรอคอยจิรพัฒน์มันทำให้เขาไม่กล้าตัดสินใจเดิมทีเหมันต์นั้นเป็นคนจิตใจดี แต่ด้วยงานที่ทำอาจจะดูเลวทรามไปบ้าง แต่อย่างไรเสียเขาก็มีความร
ตอนที่ 41“ความสัมพันธ์กับเมืองเหนือ”"กูฝากดูหน่อย" ราชาเอ่ยพูดกับเมืองเหนือด้วยใบหน้ากังวลใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"แล้วทำไมมึงต้องพูดตัดความสัมพันธ์ขนาดนั้นด้วยวะ?""เหนือ...กูรู้นะว่ามึงชอบจอม มึงรับได้เหรอถ้ากูกับจอมยังเป็นแบบนี้อยู่""ไม่" เมืองเหนือรีบสั่นศีรษะปฏิเสธทันที"เห็นไหม มึงหวงเจ้าจอมจะตาย กูถึงต้องตัดความสัมพันธ์นี้ไง กูต้องขีดเส้นให้ชัดเจน""ทั้งหมดที่ทำไปอาจจะดูใจร้ายไปบ้าง แต่เพราะกูชอบน้องดิน ถ้ายังไม่ชัดเจนเรื่องจอมอยู่แบบนี้ เดินดินจะรู้สึกยังไงวะ?" ราชาพูดต่อเมืองเหนือเคยแอบสงสัยอยู่บ้างว่าราชรณวรนั้นชอบดั่งเดินสวรรค์ เพียงแต่ไม่กล้าฟันธง เพราะเพื่อนเขาคนนี้เป็นพวกชอบใจดีกับคนอื่นไปทั่ว ยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจอยู่พอควรที่ราชายอมบอกกับเขาตรง ๆ ว่าตัวเองนั้นชอบดั่งเดินสวรรค์อีกฝ่ายตบไหล่สุวภัทน์สองสามทีก่อนจะขอตัวกลับไปหาเดินดินซึ่งรออยู่ที่คฤหาสน์ของสุวภัทน์นานแล้วส่วนเจ้าแดงเองก็ขอตามราชรณวรไปด้วย เพราะไม่อยากอยู่ในเขตของตำหนักสายหมอกอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรูทรงยุโรปของจิรพัฒน์ ตัวของแดงเองก็ไม่อยากจะอยู่เช่นกันณ คฤหาสน์ของเมืองเหนือ"เมื่อไหร่พี่ราชาจะ
ตอนที่ 40“ช่วยเจ้าแดง”เรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดให้เหมันต์ฟังอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ หมอผีหนุ่มฟังโดยไม่แสดงสีหน้าใด นั้นยิ่งทำให้ตัวของแดงเองหวั่นใจเป็นสุดแดงเล่าในเรื่องของความสัมพันธ์และรวมไปถึงเรื่องทั้งหมดที่รู้ เหตุที่ว่าทำไมจิรพัฒน์ถึงต้องไปต่างประเทศ เด็กหนุ่มเป็นผู้รู้เรื่องราวทั้งหมดจากกุมารทองระดับเทพของเจ้าจอมเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ถึงรู้ไปก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนอะไรได้"พี่เหมจะปล่อยแดงไปได้รึยังจ๊ะ?" แดงถามคนพี่ แม้ใบหน้าจะยิ้มหวานแต่ในใจกับหวั่นเกรงเป็นที่สุด"มึงไปตามน้องจอมมา ให้เจ้าจอมมาหากู""โทรศัพท์แดงอยู่ที่เรือนจ้ะ ตอนนี้พี่จอมไม่ได้อยู่เรือน^_^°""งั้นกูจะพามึงกลับไปเอาโทรศัพท์ที่เรือน :) "รอยยิ้มดุจเสือร้ายปรากฏ แดงที่เหงื่อซึมอยู่ก่อนหน้า จึงรีบยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อบริเวณแก้มออกเล็กน้อย สุดท้ายคนไร้วิชาอย่างแดงก็ต้องยอมจำนนต่อเหมันต์อยู่ดีณ ตำหนักสายหมอกลัมโบร์กินีสุดหรูสีขาวรุ่นเดียวกันสีเดียวกันทั้งสองคันกำลังจอดเทียบท่าหน้าเรือนซึ่งเป็นที่คุ้นตาดีของบุคคลทั้งสามราชรณวร สุวภัทน์และจิรพัฒน์ ก้าวลงจากตัวรถโดยพร้อมเพรียง นี่เป็นสิ่งของที่ราชาซื้อให้เหล่าเพื่อนสนิท
ตอนที่ 39“แฟนเก่า”หกปีก่อนหน้า"พี่เหมดูดิ จอมจับตะขาบได้ด้วย สุดยอดไปเลย"จิรพัฒน์วิ่งมาหาเหมันต์ด้วยท่าทีตื่นเต้นมากกว่าปกติพร้อมกับสัตว์อสรพิษในมือ เพื่ออวดอ้างความเก่งกาจของตนต่อหน้าคนรัก"น้องจอมอย่าดื้อ" เหมันต์ส่งเสียงดุหากแต่ใบหน้ากลับเปื้อนยิ้มหวาน"ตะขาบใช้ทำของได้ใช่ไหม?""ก็ได้นะ""งั้นจอมจะทำ"เด็กหนุ่มเอ่ยปากหนักแน่นว่าจะขอทำในสิ่งที่ต้องการ เหมันต์มองจิรพัฒน์พลางส่ายหัวอย่างเอือมระอาเขาและจิรพัฒน์คบกันมาได้เกือบปีแล้ว ทั้งสองเป็นรักแรกของกันและกัน ทุกอย่างมันดีมาก ดีมากจริง ๆเพียงแต่พักหลังตัวของจอมเองชอบมาขอให้เขาสอนการใช้ไสยเวทมนต์ดำ เหมันต์ก็รู้ดีว่าเจ้าจอมเป็นใคร ทายาทเพียงคนเดียวของรัตติกาลจันทร์อัปสร ตระกูลซึ่งมีชื่อเสียงด้านการใช้คุณไสยทางสายขาวบริสุทธิ์มาอย่างยาวนานนับหลายร้อยปีตามจริงเหมันต์ค่อนข้างเป็นห่วงจิรพัตน์พอสมควร เขากลัวว่าสักวันจะเป็นคนน้องเองที่ลุ่มหลงในมนต์ดำจนถอนตัวไม่ขึ้นเหมือนกับเขาและวันที่เหมันต์หวั่นกลัวที่สุดก็เดินทางมาถึง จิรพัฒน์กลายเป็นผู้ใช้มนต์ดำเต็มตัวแล้ว และดูเหมือนว่าอีกคนจะเก่งกล้าสามารถมากกว่าเขาหลายเท่าตัว นี่สินะที่เขาเรียก
บทที่ 38"ขุนเขา"จิรพัฒน์เหลือบมองเพลิงอัคคีเป็นระยะ ๆ คนน้องรู้สึกแปลกใจมาก ทำไมเพลิงถึงยังจำขุนเขาได้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไม่น่าจะมีใครจำได้นอกจากเจ้าเจต และดูเหมือนว่าเมืองเหนือจะเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกตินั้นแล้ว"เสือมึงเป็นอะไรวะ เอาแต่นอนหลับตาอยู่ได้?" พันวาถามรุ่นพี่คนสนิท"กูจะนอน" เสือป่าตอบปัดพร้อมกับมือที่เริ่มดึงหมอนซึ่งวางอยู่ด้านข้างตนมาปิดบังใบหน้า ในขณะที่จิรพัฒน์เหลือบมองเสือป่าเล็กน้อยพลางกลั้นขำ ก่อนจะเอาหน้าไปซุกไหล่หนาของสุวภัทน์ตามเดิมยามบ่ายแก่ ๆ เจตตินทร์ก็ฟื้นจากห้วงนิทรา ร่างเล็กเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าแฟนหนุ่มของตัวเองและนั่งลงด้านข้างอีกคนตามความเคยชิน"เป็นอะไรกัน มาทำไมเยอะแยะ" เจตไล่สายตามองทุกคนและเอ่ยถาม"อย่าพูดพร้อมกันนะ ทีละคน" เจ้าของคำถามไม่รีรอให้เพื่อนพูดหรือกล่าวอะไร เพียงแต่เอ่ยเตือนก่อนเพราะเห็นว่าต่างคนต่างอยากจะพูดเรื่องของตัวเองพร้อมกัน"มึงก่อนเลยพันวา""กูมาเฝ้าเฉย ๆ มึงตื่นก็ดีแล้ว กูจะได้กลับคอนโด" พันวาอธิบายต้องเข้าใจก่อนว่าในกลุ่มเพื่อนสนิทของเจ้าเจตจะมีพันวาและราชาซึ่งปกติคอยตามดูอีกคนเกือบยี่สิบสี่ช