ตอนที่ 30“กลับร่าง”มันช่างน่าแปลกที่เมื่อลืมตาขึ้นมาแล้ว จิรพัฒน์พบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงสีดำขนาดใหญ่ และเมื่อมองไปรอบบริเวณห้องนอนกลับพบเพียงของศักดิ์สิทธิ์ที่ตนสะสมครั้นยังเด็กเท่านั้น ดวงตาเฉี่ยวคมเริ่มก้มลงมองมือหนาของร่างเพื่อพิสูจน์ในสิ่งที่ตนคาดคิดไว้ก่อนหน้า...กลับคืนร่างแล้ว? หลับคืนร่างตัวเองแล้วว่ะนั่นคือประโยคแรกเจ้าจอมคิดในใจเนื่องจากเห็นมือหนาขึ้นเส้นเลือดชัดเจนของตัวเอง เพียงเท่านั้นก็ทำให้เขารับรู้ได้ในทันทีว่าตนได้กลับคืนเข้าสู่ร่างเดิมแล้ว ความรู้สึกโล่งใจที่ได้เผชิญ ไหนจะความสบายกาย เนื่องจากนี้เป็นร่างที่แท้จริงของตน เป็นกายหยาบของตัวเองหาใช่ใครอื่นสถานการณ์ตอนนี้มันทำให้จิรพัฒน์แสดงยิ้มหวานออกมา ก่อนที่ขายาวจะก้าวลงจากเตียง มือหนารีบคว้าชุดคลุมเพื่อนำมาสวมทับเสื้อนอนด้วยความเร่งรีบจิรพัฒน์เดินออกจากบ้านพักหรูสไตล์ยุโรปได้เพียงไม่นานนัก ในที่สุดเขาก็เดินมาหยุดอยู่ตำหนักสายหมอกโดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงการมาครั้งนี้ของเขาเลยแม้แต่คนเดียว เหตุที่เขาสลับร่างกับคนสวยขา แม้แต่คนผู้สูงศักดิ์จากแดนนรกก็ไม่อาจให้คำตอบใดกับเขา หรือไม่แน่คนพี่อาจจะไม่อยากตอบก็เป็นไปได้และ
ตอนที่ 31“ยาสั่ง”ข้อเสียของเรื่องนี้สำหรับจิรพัฒน์คงจะเป็นเรื่องที่เขาไม่สามารถถอนของได้ด้วยตนเอง มือเล็กของร่างดั่งเดินสวรรค์ที่มีวิญญาณของจอมอยู่ด้านในกอบกำชายเสื้อสุวภัทน์ไว้แน่น จอมไม่สนใจด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายจะรังเกียจไหม เพราะลำพังแค่จะทรงตัวอยู่ยังยากเลย"ราชามึงทำอะไรสักอย่างสิวะ"เมืองเหนือดุเพื่อนสนิทหลังจากที่พบว่าราชาเอาแต่ยกมือทั้งสองข้างปิดปากตนไว้อย่างนั้น ราวกับได้สติชายหนุ่มรีบก้าวเท้าเข้ามาใกล้จิรพัฒน์ ในขณะที่ดั่งเดินสวรรค์มองร่างตนเองด้วยความขลาดกลัวสายตาเว้าวอนของเจ้าจอมทำให้ราชากดดันเหลือเกิน มือสวยยังคงกำชายเสื้อของเมืองเหนือเอาไว้แน่น น้ำตาไหลรินออกมาจากดวงตาคู่นั้นเมื่อยามที่เมืองเหนือมองเห็นมันเขารู้สึกเหมือนใจสลาย สุวภัทน์ชอบเจ้าจอมมากจริง ๆ ชอบมากเสียจนไม่อยากให้อีกคนต้องประสบพบเจอกับเหตุการณ์ที่ทรมานแบบนี้ และหากเลือกได้สุวภัทน์ก็อยากจะรับเอาความทรมานทั้งหมดของจิรพัฒน์มาไว้ที่ตนเสียให้ทุกอย่างมันจบสิ้นไป"น้ำมันพราย..." เสียงราชรณวรกล่าวขึ้น เมื่อนิ้วของอีกคนแตะเข้าไปสัมผัสที่มุมปากเจ้าจอม~มะโทรัง อะตะระโร เวสะวะโนนะหากปิ ปิสาคะตาวาโหมิมหายักขะ เทพะอนุต
ตอนที่ 32“รอยจูบ”ภายในห้องนอนของเจ้าจอม ยังคงเป็นเมืองเหนือที่นั่งเฝ้าอีกคนเช่นเคย ช่วงนี้เขาทำใจห่างจากจิรพัตน์ไม่ได้เลย กลัวว่าหากพลาดช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่งไป สุวภัทน์อาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นเจ้าจอมอีกก็เป็นได้ยามนี้เป็นเวลาราวรุ่งสางแล้ว ไม่รู้ว่าราชาและเดินดินถึงจุดหมายปลายทางหรือยัง หากแต่สุวภัทน์นั้นร้อนใจเกินกว่าที่จะอยู่เฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรเลย มือหนาหยิบโทรศัพท์ซึ่งวางอยู่ข้างเตียงขึ้นมาไว้ในมือตัวเองหลังจากใช้ความคิดได้ไม่นานเท่าไหร่นัก เมืองเหนือก็ตัดสินใจกดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิทเฉกเช่นพระเพลิงปลายสายรับโทรศัพท์ด้วยเสียงอู้อี้ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ตื่นดี เมืองเหนือเริ่มเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้เพลิงอัคคีฟัง ยามที่ถ่ายทอดเรื่องราวหมดสิ้น พระเพลิงกลับเงียบลงไม่มีการสนทนาใดสุวภัทน์ถึงกลับต้องยกหน้าจอโทรศัพท์ออกมาดูว่าอีกคนวางสายไปแล้วหรือไม่"เป็นอะไร เงียบทำไมวะเพลิง?"(กูว่า…)~ตึด~สายถูกตัดไปโดยที่เมืองเหนือยังไม่ได้รับคำตอบเลยว่าอีกฝ่ายจะช่วยออกไปตามหาลุงนินให้เขาไหม สุวภัทน์ร้อนใจขั้นสุดช่องแชทของกลุ่มคนสนิทถูกเปิดออกเพื่อนสั่งการให้ไปดูเพลิงอัคคีว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนส
ตอนที่ 33“โกรธแล้วนะ”ณ แดนนรกภายในโถงทองคำอันโอ่อ่าเป็น 'ขุนเขา' ที่นั่งอยู่บนราชบัลลังก์นิลสีดำขนาดใหญ่ ภาพตรงหน้าช่างตัดกับสีทองอร่ามของเสาแบบโรมันโบราณซึ่งเรียงรายอยู่รอบตัวของเขาเสียจริงนิ้วชี้เรียวยาวขององค์เทพ เพียงแค่มันชี้ไปยังบริวาร ทุกอย่างก็กลายเป็นผุยผงเศษเถ้าธุลี ทำเอาบริวารที่เหลือแอบลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคืองกับอารมณ์ของผู้สูงส่ง"พี่ขุนไม่คุมอารมณ์ตัวเองเลย" ขุนพลบ่น"จอมจะตายไหม...ถ้าจะตายเดี๋ยวกูเสด็จเยือน!"สิ้นคำพูดของขุนเขา ขุนพลก็หรี่ตามองคนพี่ผู้ที่มีตำแหน่งเป็นถึงรัชทายาทองค์แรก และพ่วงตำแหน่งว่าที่เจ้านรกองค์ถัดไป อีกฝ่ายกำลังบอกกับตนว่าจะเสด็จเยือนโลกมนุษย์เนี่ยนะ?"ทำไม?"เมื่อเห็นว่าคนน้องมองตนเช่นนั้น คนพี่ก็ถามกลับอย่างฉุนเฉียว"พี่ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วนะ ถ้าพี่เยือนตอนนี้ยังไงเจ้าจอมก็ต้องตายอยู่ดี"ที่ขุนพลพูดมาก็ไม่ผิดหรอก ตอนนี้เขาไม่ใช่องค์ชาย แต่เป็นถึงองค์รัชทายาท ผู้สืบทอดแดนนรกองค์ต่อไป ลำพังแค่พลังก็เหนือชั้นพออยู่แล้ว ถ้าเสด็จเยือนยังไงเจ้าจอมก็สิ้นใจอยู่ดีดูจากการเยือนสองรอบที่ผ่านมาจิรพัฒน์แทบจะทนรับแรงกดดันไม่ไหวด้วยซ้ำ เพราะแบบนี้ไง
ตอนที่ 34“แม่ของจอม”พุทธศักราช 2000เรือนไม้งามหลังใหญ่เป็นที่ซึ่งผู้คนมากมายต่างชื่นชม กี่ภพกี่ชาติแล้วก็ยังคงเป็นเฉกเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง 'เมืองเหนือ'หรือ เจ้าพระยาเหนือนครผู้ครองชัยชนะในการรบทุกคราหากยามใดที่ได้จับดาบความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวที่มอบให้ศัตรูและมันคงจะมีเพียงอย่างเดียวที่ศัตรูจะได้รับ และแน่นอนว่าสิ่งนั้นคือความตายเพียงอย่างเดียวไม่มีตัวเลือกอื่นใดกลิ่นหอมของดอกมะลิลอยโชยมาตามลม ทายาทของรัตติกาลจันทร์อัปสรกำลังนั่งเก็บดอกไม้งามอยู่ 'เจ้าจอม'คุณงามความดีเทียบเคียงเมืองเหนือมาแต่ครายังวัยเยาว์ ผู้ถือครองดวงชะตาของบ้านเมืองทั้งแดนจวนคร หากเจ้าจอมเอ่ยปากว่ามิใช่ฤกษ์เพลารบต่อให้เมืองเหนือมั่นใจเพียงใดก็ไม่อาจออกไปรบได้ตามอำเภอใจ เพราะนี่คือยุคที่กษัตริย์ก็เชื่อมั่นในมนตรามากกว่าฝีมือการรบของพลทหารยามที่เหนือมองมาที่จอมนั้น ทุกอย่างมันช่างดูงดงาม สูงส่งเกินจะไขว่คว้าถึง อาจจะเพราะชอบ แต่ถึงจะชอบอย่างไร เมืองเหนือก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว และเจ้าจอมเองก็คงจะเป็นเช่นกัน'ดั่งเดินสวรรค์' ที่นั่งเทียบเคียงเมืองเหนือหันไปมองเจ้าจอมด้วยแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธา ดอกมะลิถ
ตอนที่ 35“กงล้อแห่งชะตา”องค์เทพสงครามอย่างเจ้าเจตยืนมองภาพเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นพลางถอนหายใจก่อนจะใช้อำนาจสวรรค์ตัดพันธะที่จิรพัฒน์ทำไว้กับองค์เทพทั้งหมดเพื่อรักษาชีวิตของเจ้าจอมเอาไว้ไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม"แล้วมึงจะตัดพันธสัญญาของกูกับน้องมันทำไมล่ะเจต"ขุนเขาปรากฏตัวขึ้นอยู่ด้านหลังเขาถามด้วยความหงุดหงิด"โทษที คุมพลังไม่ค่อยได้ เผลอตัดไปหมดเลย""เฮ้อ~ เอาเถอะ ยังดีที่มีสัญญาของขุนพล ยังไงเจ้าจอมก็ต้องเป็นของนรกอยู่ดี""แค่ให้มันมีชีวิตอยู่ก็ถือว่าดีเท่าไหร่แล้ว มึงอย่าคิดไปไกลเลย" เจตรีบตัดบทหลังจากเทพผู้คลุ้มคลั่งทั้งสองใช้พลังเสร็จสิ้น ชีวิตของจิรพัฒน์ก็หวนคืน โดยมีเจตตินทร์เป็นผู้ตัดพันธสัญญาให้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้จิรพัฒน์แบกรับองค์เทพผู้คลุ้มคลั่งไว้ที่ตนจนเกิดอันตรายแก่ชีวิตอีกกงล้อลายมังกรเก้าตัวสีขาวนวลกำลังหมุนเวียนย้อนคืน พันธสัญญาที่ทวยเทพเคยทำไว้กับช่อลดาเริ่มทำงานตามกฎเกณฑ์ของมัน เทวทูตแห่งกาลเวลากำลังถูกทวงถามสัญญา แม้ทั้งสองจะอยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่งแต่การทำงานของโชคชะตาก็ยังคงไหลเวียนเสียงเข็มนาฬิกาสวรรค์ดังสวนกันพร้อมกับการหมุนของกงล้อลายมังกร ในขณะเทวทูตแห่ง
ตอนที่ 36“เริ่มต้นใหม่ทั้งหมด”สายลมอ่อน ๆ พัดผ่านตัวของสุวภัทน์ไปเบา ๆ ชายหนุ่มวางแก้วกาแฟลงและรีบเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านเพื่อตรวจเช็คสถานการณ์ตามปกติ ภายในห้องนอนขนาดใหญ่ของจิรพัฒน์บัดนี้มีร่างของคนทั้งสองกำลังนอนอยู่บนเตียงเช่นเคย สุวภัทน์ยืนพินิจพิจารณาอยู่ได้ไม่นานจนกระทั่งเขาสั่งเกตเห็นว่าดั่งเดินสวรรค์ค่อย ๆ ฟื้นลืมตาขึ้นมาช้า ๆ เมืองเหนือจึงรีบเข้าไปพยุงร่างเล็กไว้ในอ้อมกอดตนด้วยความดีใจร่างที่เป็นของตัวเอง หัวใจที่เป็นของเดินดินเองกำลังพร่ำร้องเรียกหา 'ราชา' ราชาซึ่งบัดนี้นั่งจับมือของจิรพัฒน์อยู่ปรายตามองเมืองเหนือและเดินดินเล็กน้อย เพียงไม่ช้าสายตาของคนพี่ก็หันกลับไปมองผู้ซึ่งนอนไม่ได้สติแทนเพราะหวังอยากให้อีกฝ่ายฟื้นเหมือนกัน"น้องจอมเป็นยังไงบ้างครับ?"เมืองเหนือรีบถามผู้ที่เพิ่งจะฟื้น พร้อมกับสายตาของราชาที่มองมาหาคนทั้งสองเหมือนรอฟังคำตอบเช่นกัน"ผมเดินดินครับพี่เหนือ" เสียงใสตอบออกมา นั่นจึงทำให้สุวภัทน์ชะงักเล็กน้อยเมื่อได้รู้ว่าอีกคนคือดั่งเดินสวรรค์ ราชรณวรถึงได้ขยับตัวเข้ามาแทรกสุวภัทน์ทันที เมืองเหนือจึงถอยหลบให้เพื่อนตัวเองเข้ามานั่งแทนที่"น้องดินเป็นยังไง
ตอนที่ 37“สู้กันไหม?”ตอนแรกเมืองเหนือส่ายหัวด้วยความระอา แต่คราวต่อมาเขาเพิ่งคิดได้ว่าประโยคที่เพลิงเอ่ยออกมานั้นมันแปลก ๆ"ไอ้เพลิง มึงคิดได้ยังไงว่าถ้าจอมตายไปจะตกนรก ไอ้ควาย!""แล้วมึงจะให้กูถามมันเหรอว่า จอมสวรรค์สวยไหม ต้องถามแบบนี้จริง ๆ เหรอ?" พระเพลิงถามกลับ"ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น""ได้ไงอ่ะ ก็กูอยากรู้!" เพลิงอัคคีตบโซฟารัว ๆ หลังจากที่โดนขัดใจ"ทะเลาะอะไรกัน" เสียงเล็กเอ่ยถามจากด้านหลังเมืองเหนือ พลางกวาดสายตามองสถานการณ์ตรงหน้าสุวภัทน์เดินไปหยิบชามใส่โจ๊กร้อน ๆ มาวางลงบนโต๊ะอาหารแทน ส่วนเพลิงอัคคีกำลังใช้มือหนาทุบโซฟาราวกับเด็กเล็กถูกขัดใจ ภาพเหล่านี้นับว่าแปลกใหม่สำหรับจิรพัฒน์ยิ่ง"จอม...""อย่าถาม!" สุวภัทน์กระแทกเสียงเตือนเพื่อนสนิท"จะถามอะไรเพลิง?" จอมหรี่ตาถามกลับบ้าง"ตายรอบนี้ ไปชมนรก นรกสวยไหม?"เมืองเหนือถึงกับหน้าเหวอ ไม่ใช่ว่าตอนนี้ประโยคคำถามมันแปรเปลี่ยนไปจากเดิมเหรอ เพราะก่อนหน้าเพื่อนสนิทคนนี้มันจะถามแค่ว่า 'นรกน่ากลัวไหม' แต่ดูคำถามตอนนี้สิ น่าจับมาตีปากนัก"ไม่รู้ดิ ไม่ได้ไป""จริงป่ะ? งั้นตอนที่วิญญาณหลุดออกจากร่างมึงไปไหนอ่ะจอม""แดนสวรรค์""เชี่ย!!
ตอนที่ 46“Saturn”ดั่งดาวที่อยู่เคียงเดือน ดั่งดวงอาทิตย์ที่อยู่เคียงคู่โลก ดังอากาศที่ลอยอยู่ตามท้องนภา ดังเวลาที่ไม่มีวันหยุดเดิน.ความรักของเมืองเหนือที่มอบให้จิรพัฒน์ไม่ได้แปรเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย.กลับกันแล้ว...ความรักของเจ้าจอมที่มอบให้สุวภัทน์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแม้เวลาจะเวียนไหว้หมุนวนไปหลายร้อยภพก็ตามแต่.ดอกกุหลาบถูกจัดเรียงใส่แจกันสวยด้วยมือเรียวของอดีตหมอผีหนุ่มอย่างจิรพัฒน์ ในขณะที่ราชานั่งมองน้องคนสนิททำกิจกรรมดังกล่าวด้วยความเอ็นดูบัดนี้เจ้าของรัตติกาลจันทร์อัปสรเปลี่ยนมือเป็นราชรณวรแล้ว ส่วนลุงนินนั้นปลีกวิเวกเน้นทางธรรม เข้าป่าฝ่าดงละทางโลก ตำหนักสายหมอกจึงมีเพียงราชรณวรและจิรพัฒน์ที่คอยดูแล และมีดั่งเดินสวรรค์แวะเวียนมาหาบ้างเป็นครั้งคราว เช่นเดียวกับเมืองเหนือและคนอื่น ๆณ สุสานอี้ฟางศพของสุวนีย์แม่เลี้ยงของเดินดินถูกฝังไว้ที่สุสานแห่งใหญ่ของประเทศ ด้วยความเคารพอันน้อยนิดที่เดินดินมีให้อีกฝ่ายซึ่งครั้งหนึ่งเคยเลี้ยงดูปูเสื่อดั่งเดินสวรรค์มาอย่างดีดอกลิลลี่สีขาวถูกวางลงหน้าสุสานเป็นการทำความเคารพบุพการีไม่แท้ด้วยความนอบน้อมแม้ว่าอีกฝ่ายจะประพฤติปฏิบัติตนไม่ด
ตอนที่ 45“เรียกพี่เหนือสิครับคนดี”ภายในห้องนอนของจิรพัฒน์ ดอกกุหลาบช่องามถูกวางไว้ข้างเตียง มือซึ่งขึ้นเส้นเลือดนิดหน่อยของจิรพัฒน์ จับช่อดอกไม้เบา ๆ ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้ หากแต่เมื่อได้รับมักรู้สึกพิเศษเสมอเตียงยุบลงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าสุวภัทน์เดินมาหา เจ้าจอมจึงละสายตาจากช่อดอกไม้และหันมาหาคนพี่แทน"สวยไหมคะ?"คะขา? คะขา? คะขา?"สวยครับ""พี่คิดไว้แล้วว่าจอมต้องชอบดอกไม้..."ดอกไม้ที่ว่ามันแปลว่าดอกไม้จริง ๆ ใช่ไหม?มือหนาค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปสัมผัสใบหน้าของจิรพัฒน์ราวกับต้องการสำรวจความเพอร์เฟกต์ของใบหน้าคมซ่อนหวานตรงหน้าปลายนิ้วไล่เกลี่ยริมฝีปากของเจ้าจอมไปมาคล้ายกับต้องการสัมผัสมันอยู่อย่างนั้น เมืองเหนือขบกรามแน่นกับภาพตรงหน้าที่เห็นเมื่อเจ้าจอมใช้ปากของตนรับเอาก้านนิ้วของเขาเข้าไปลิ้มรส ลิ้นเรียวตวัดชิมก้านนิ้วเหมือนทานไอศกรีมแท่งเล็กก็ไม่ต่าง น้ำสีใสไหลเยิ้มออกมาจากมุมปากของจิรพัฒน์ก่อนที่อีกฝ่ายจะใช้สายตาออดอ้อนเหลือบมองมาที่คนพี่ ภาพตรงหน้ามันช่างตราตรึงในใจของสุวภัทน์ยิ่ง"อืมมมม~"[MuangNuea Talk]ผมว่า...ผมไม่เคยต้านทานตัวตนของเจ้าจอมได้เลยสักครั้งผมหมายถึง...ตัวตนในมุมน
ตอนที่ 44“เพลิงอัคคี”พิธีกรรมเสร็จสิ้นพร้อมกับหยดเลือดของสาปอักษรที่หยดลงสู่พานเป็นหยดสุดท้าย ที่จิรพัฒน์และราชาเคยสงสัยบัดนี้คงได้คำตอบแล้ว สาเหตุที่ว่าเสือป่าเก็บเลือดตัวเองไว้ในตู้เย็นของสนามแข่งทำไม เหตุก็เพราะเลือดของเขาสามารถอัญเชิญวิญญาณได้ และผู้ที่ใช้มันคือเจตตินทร์ เทพสงครามผู้มากบารมี"เสร็จแล้ว"เสียงของผู้อาวุโสเอ่ยกล่าว ท่ามกลางความโล่งใจของทุกฝ่ายเมื่อทุกอย่างจบสิ้นลง ทั้งหมดจึงแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง ทิ้งไว้เพียงราชาและเดินดินอยู่ที่ตำหนักสายหมอกเท่านั้นด้านจิรพัฒน์และลุงนิน ยืนมองวิญญาณของช่อลดาที่อยู่สวนลีลาวดีโดยไม่ได้พูดกล่าวอะไรออกไป หากแต่เป็นอีกฝ่ายที่เอ่ยพูดแทน"โชคดีนะลูก ขอบคุณนะที่เกิดมาบนโลกใบนี้...""...""พี่นิน ช่อจะขึ้นไปอยู่บนนู้นแล้วนะ""สะเหล่อทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ขึ้นไปอยู่บนนั้นอะไรของมึงล่ะ""พี่นินจ๊ะ...""รู้ทั้งรู้ว่าวิญญาณจะดับสลายก็ยังจะเสือกไปแลกเปลี่ยนกับทวยเทพ" ลุงนินสุดจะทนกับความคิดของช่อลดาน้องสาวตนเหลือเกินเพียงเพราะเจ้าจอมของเมืองเหนือแล้วไม่สมหวังหรือถึงขั้นต้องยอมแลกเปลี่ยนวิญญาณของตนเพื่อให้ลูกตัวเองสมหวังในความรัก ช่างสิ้
ตอนที่ 43“ON THE FLOOR”รถยนต์คันงามเข้าเส้นชัยไปได้อย่างรวดเร็ว สมฉายานักแข่งไร้พ่ายประจำสนาม ท่ามกลางความยินดีของกองเชียร์ ในขณะที่ดั่งเดินสวรรค์กระโดดขึ้นยืนปรบมือด้วยความดีใจ เหมือนไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนแชมเปญถูกแจกจ่ายให้ผู้ได้รับชัยชนะสามอันดับแรก เพลิงอัคคีมองไปที่ดั่งเดินสวรรค์ด้วยความรู้สึกหลากหลาย ยอมรับว่าไม่เคยเห็นคนน้องมีความสุขและสดใสมากขนาดนี้มาก่อน เพลิงรู้สึกเหมือนปล่อยวางเรื่องเดินดินได้เกือบครึ่งหนึ่ง อย่างไรเสียเขาก็เป็นห่วงดั่งเดินสวรรค์เหมือนคนในครอบครัวด้วยใจจริงณ ตำหนักสายหมอกเจ้าของตำหนักเดินขึ้นเรือนไม้หลังงามไปด้วยความใจเย็นลุงนินกลับมาแล้ว.....จิรพัฒน์ที่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่บ้านหรูสไตล์ยุโรปของตนรีบทิ้งสายยางในมือและวิ่งไปหาผู้เป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของตนทันที"ลุง!!""มึงจะตะโกนทำไม""ลุงหายไปไหนมา?""..."เรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดให้จิรพัฒน์ได้รับรู้ เจ้าจอมนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ยืนขึ้นและก้าวลงจากตำหนักไป โทรศัพท์ถูกหยิบยกขึ้นมาต่อสายหาราชรณวรโดยลุงนินด้วยความรู้สึกหลากหลายเพียงไม่นานนักราชาก็เดินทางมาถึงตำหนักส
ตอนที่ 42“ความจริงจากลุงนินและการจากไปของเหมันต์”เมื่อกลับมาถึงบ้านหลังเล็กในป่าลึกของตัวเอง เหมันต์ก็จัดการกวาดของทุกอย่างลงบนพื้นของบ้านทันที น้ำตาหลั่งรินไหลอาบแก้มคู่งาม ชายหนุ่มผิวสองสีใบหน้าคมพยายามกักเก็บอารมณ์ไว้แต่คราแรกบัดนี้หาเป็นเช่นนั้นไม่ เหมันต์ยกมือหนาขึ้นมาปิดบังใบหน้าตน ซึ่งยามนี้น้ำตาไหลไม่มีท่าว่าจะหยุดได้เลยแม้แต่น้อยฮึก ฮึก ฮึก~เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องจัดแข่งกับเสียงสะอื้นของหมอผีหนุ่ม การรอคอยของเขามันไร้ค่าสิ้นดี อยู่ไปก็เหมือนคนที่ตกนรกทั้งเป็น สู้ตกตายไปเสียยังจะดีกว่า ไม่น่าเลย...ไม่น่าพาเจ้าจอมมาทำอะไรแบบนี้เลย สุดท้ายแล้วผลกรรมทั้งหมดก็ตกแด่เขา ผู้เป็นดั่งคนคอยเปิดประตูสู่ความเลวทรามในใจของจิรพัฒน์ไซยาไนด์ชนิดไร้สีสันถูกนำมาผสมน้ำเปล่าหวังดื่มเพื่อจบชีวิตตน มือเรียวยาวลูบไล้ขอบแก้วน้ำสีใสไปมา เหมันต์มีความคิดจะจบชีวิตอยู่หลายครา แน่นอนว่าทุกครั้งที่เจ้าตัวปลิดชีพผู้อื่น เขาคิดตลอด คิดมาตลอด เพียงแต่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ในการรอคอยจิรพัฒน์มันทำให้เขาไม่กล้าตัดสินใจเดิมทีเหมันต์นั้นเป็นคนจิตใจดี แต่ด้วยงานที่ทำอาจจะดูเลวทรามไปบ้าง แต่อย่างไรเสียเขาก็มีความร
ตอนที่ 41“ความสัมพันธ์กับเมืองเหนือ”"กูฝากดูหน่อย" ราชาเอ่ยพูดกับเมืองเหนือด้วยใบหน้ากังวลใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน"แล้วทำไมมึงต้องพูดตัดความสัมพันธ์ขนาดนั้นด้วยวะ?""เหนือ...กูรู้นะว่ามึงชอบจอม มึงรับได้เหรอถ้ากูกับจอมยังเป็นแบบนี้อยู่""ไม่" เมืองเหนือรีบสั่นศีรษะปฏิเสธทันที"เห็นไหม มึงหวงเจ้าจอมจะตาย กูถึงต้องตัดความสัมพันธ์นี้ไง กูต้องขีดเส้นให้ชัดเจน""ทั้งหมดที่ทำไปอาจจะดูใจร้ายไปบ้าง แต่เพราะกูชอบน้องดิน ถ้ายังไม่ชัดเจนเรื่องจอมอยู่แบบนี้ เดินดินจะรู้สึกยังไงวะ?" ราชาพูดต่อเมืองเหนือเคยแอบสงสัยอยู่บ้างว่าราชรณวรนั้นชอบดั่งเดินสวรรค์ เพียงแต่ไม่กล้าฟันธง เพราะเพื่อนเขาคนนี้เป็นพวกชอบใจดีกับคนอื่นไปทั่ว ยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจอยู่พอควรที่ราชายอมบอกกับเขาตรง ๆ ว่าตัวเองนั้นชอบดั่งเดินสวรรค์อีกฝ่ายตบไหล่สุวภัทน์สองสามทีก่อนจะขอตัวกลับไปหาเดินดินซึ่งรออยู่ที่คฤหาสน์ของสุวภัทน์นานแล้วส่วนเจ้าแดงเองก็ขอตามราชรณวรไปด้วย เพราะไม่อยากอยู่ในเขตของตำหนักสายหมอกอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรูทรงยุโรปของจิรพัฒน์ ตัวของแดงเองก็ไม่อยากจะอยู่เช่นกันณ คฤหาสน์ของเมืองเหนือ"เมื่อไหร่พี่ราชาจะ
ตอนที่ 40“ช่วยเจ้าแดง”เรื่องราวทั้งหมดถูกถ่ายทอดให้เหมันต์ฟังอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ หมอผีหนุ่มฟังโดยไม่แสดงสีหน้าใด นั้นยิ่งทำให้ตัวของแดงเองหวั่นใจเป็นสุดแดงเล่าในเรื่องของความสัมพันธ์และรวมไปถึงเรื่องทั้งหมดที่รู้ เหตุที่ว่าทำไมจิรพัฒน์ถึงต้องไปต่างประเทศ เด็กหนุ่มเป็นผู้รู้เรื่องราวทั้งหมดจากกุมารทองระดับเทพของเจ้าจอมเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ถึงรู้ไปก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนอะไรได้"พี่เหมจะปล่อยแดงไปได้รึยังจ๊ะ?" แดงถามคนพี่ แม้ใบหน้าจะยิ้มหวานแต่ในใจกับหวั่นเกรงเป็นที่สุด"มึงไปตามน้องจอมมา ให้เจ้าจอมมาหากู""โทรศัพท์แดงอยู่ที่เรือนจ้ะ ตอนนี้พี่จอมไม่ได้อยู่เรือน^_^°""งั้นกูจะพามึงกลับไปเอาโทรศัพท์ที่เรือน :) "รอยยิ้มดุจเสือร้ายปรากฏ แดงที่เหงื่อซึมอยู่ก่อนหน้า จึงรีบยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อบริเวณแก้มออกเล็กน้อย สุดท้ายคนไร้วิชาอย่างแดงก็ต้องยอมจำนนต่อเหมันต์อยู่ดีณ ตำหนักสายหมอกลัมโบร์กินีสุดหรูสีขาวรุ่นเดียวกันสีเดียวกันทั้งสองคันกำลังจอดเทียบท่าหน้าเรือนซึ่งเป็นที่คุ้นตาดีของบุคคลทั้งสามราชรณวร สุวภัทน์และจิรพัฒน์ ก้าวลงจากตัวรถโดยพร้อมเพรียง นี่เป็นสิ่งของที่ราชาซื้อให้เหล่าเพื่อนสนิท
ตอนที่ 39“แฟนเก่า”หกปีก่อนหน้า"พี่เหมดูดิ จอมจับตะขาบได้ด้วย สุดยอดไปเลย"จิรพัฒน์วิ่งมาหาเหมันต์ด้วยท่าทีตื่นเต้นมากกว่าปกติพร้อมกับสัตว์อสรพิษในมือ เพื่ออวดอ้างความเก่งกาจของตนต่อหน้าคนรัก"น้องจอมอย่าดื้อ" เหมันต์ส่งเสียงดุหากแต่ใบหน้ากลับเปื้อนยิ้มหวาน"ตะขาบใช้ทำของได้ใช่ไหม?""ก็ได้นะ""งั้นจอมจะทำ"เด็กหนุ่มเอ่ยปากหนักแน่นว่าจะขอทำในสิ่งที่ต้องการ เหมันต์มองจิรพัฒน์พลางส่ายหัวอย่างเอือมระอาเขาและจิรพัฒน์คบกันมาได้เกือบปีแล้ว ทั้งสองเป็นรักแรกของกันและกัน ทุกอย่างมันดีมาก ดีมากจริง ๆเพียงแต่พักหลังตัวของจอมเองชอบมาขอให้เขาสอนการใช้ไสยเวทมนต์ดำ เหมันต์ก็รู้ดีว่าเจ้าจอมเป็นใคร ทายาทเพียงคนเดียวของรัตติกาลจันทร์อัปสร ตระกูลซึ่งมีชื่อเสียงด้านการใช้คุณไสยทางสายขาวบริสุทธิ์มาอย่างยาวนานนับหลายร้อยปีตามจริงเหมันต์ค่อนข้างเป็นห่วงจิรพัตน์พอสมควร เขากลัวว่าสักวันจะเป็นคนน้องเองที่ลุ่มหลงในมนต์ดำจนถอนตัวไม่ขึ้นเหมือนกับเขาและวันที่เหมันต์หวั่นกลัวที่สุดก็เดินทางมาถึง จิรพัฒน์กลายเป็นผู้ใช้มนต์ดำเต็มตัวแล้ว และดูเหมือนว่าอีกคนจะเก่งกล้าสามารถมากกว่าเขาหลายเท่าตัว นี่สินะที่เขาเรียก
บทที่ 38"ขุนเขา"จิรพัฒน์เหลือบมองเพลิงอัคคีเป็นระยะ ๆ คนน้องรู้สึกแปลกใจมาก ทำไมเพลิงถึงยังจำขุนเขาได้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไม่น่าจะมีใครจำได้นอกจากเจ้าเจต และดูเหมือนว่าเมืองเหนือจะเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกตินั้นแล้ว"เสือมึงเป็นอะไรวะ เอาแต่นอนหลับตาอยู่ได้?" พันวาถามรุ่นพี่คนสนิท"กูจะนอน" เสือป่าตอบปัดพร้อมกับมือที่เริ่มดึงหมอนซึ่งวางอยู่ด้านข้างตนมาปิดบังใบหน้า ในขณะที่จิรพัฒน์เหลือบมองเสือป่าเล็กน้อยพลางกลั้นขำ ก่อนจะเอาหน้าไปซุกไหล่หนาของสุวภัทน์ตามเดิมยามบ่ายแก่ ๆ เจตตินทร์ก็ฟื้นจากห้วงนิทรา ร่างเล็กเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าแฟนหนุ่มของตัวเองและนั่งลงด้านข้างอีกคนตามความเคยชิน"เป็นอะไรกัน มาทำไมเยอะแยะ" เจตไล่สายตามองทุกคนและเอ่ยถาม"อย่าพูดพร้อมกันนะ ทีละคน" เจ้าของคำถามไม่รีรอให้เพื่อนพูดหรือกล่าวอะไร เพียงแต่เอ่ยเตือนก่อนเพราะเห็นว่าต่างคนต่างอยากจะพูดเรื่องของตัวเองพร้อมกัน"มึงก่อนเลยพันวา""กูมาเฝ้าเฉย ๆ มึงตื่นก็ดีแล้ว กูจะได้กลับคอนโด" พันวาอธิบายต้องเข้าใจก่อนว่าในกลุ่มเพื่อนสนิทของเจ้าเจตจะมีพันวาและราชาซึ่งปกติคอยตามดูอีกคนเกือบยี่สิบสี่ช