“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเชยเลย” ดีแลนบ่นอุบ เขาเอียงคอ เกยคางไว้ที่หัวไหล่ของอบเชยแทน
หญิงสาวรีบโก่งตัวหนี สภาพการชิดใกล้เช่นนี้ เป็นอันตรายกับความรู้สึกของเขาและเธออย่างยิ่งยวด
“อย่าดิ้นสิเชย รู้ไหม... ทำแบบนี้ ทำให้ฉันคิดอะไรไม่ออก” แค่กลิ่นหอมๆ ที่ระเหยของมาจากร่างกายคนตรงหน้า ทุกครั้งที่หล่อนขยับตัวก็ทำให้ประสาทสั่งการของเขาทำงานหนักแล้ว สติสัมปชัญยะของเขายิ่งตีบตัน เมื่อเนื้อตัวเสียดสีกันไปมา หากเขาหน้ามืด ทำอะไรสิ้นคิดลงไป มันจะวนลูบกลับไปซ้ำรอยเดิม ซึ่งดีแลนไม่ต้องการเช่นนั้น ถึงระหว่างอบเชยกับเขา จะเลยจุดอันตรายนั่นมาแล้ว ดีแลนอยากให้เกียรติ อยากให้อบเชยมีความภูมิใจ และเชิดหน้าสู้สายตาผู้คนรอบตัวได้ ในวันสำคัญระหว่างเขาและเธอ
ดีแลนคิดเลยไปถึงวันวิวาห์ ซึ่งระยะเวลานั้น...อีกไม่ไกลเกินรอ
“แต่ว่า...” หญิงสาวพยายามแย้ง
&nb
บทที่12.ให้หัวใจนำทางระหว่างที่ประมุขของบ้านหวังกำลังรับประทานมื้อเช้ากันอยู่ สาวใช้วัยรุ่นสองนางซุบซิบกัน และชำเรืองมองมาที่ปรารถนา นางสังเกตเห็นมาซักระยะหนึ่ง จนความไม่พอใจเริ่มสูงขึ้น นางวางช้อน ยกผ้าที่วางไว้บนตักขึ้นซับปาก เอ่ยถามคนรับใช้ส่วนตัวเสียงแข็งๆ “น้อย...สองคนนั่นกำลงพูดเรื่องของฉันอยู่ใช่ไหม?” สาวใหญ่แม่บ้านหวังที่ทำงานรับใช้ปรารถนามากว่ายี่สิบปี ถึงกับผวา คุณผู้หญิงของนางเป็นคนใจดี ไม่มีสักครั้งที่จะอารมณ์เสียเพราะเรื่องรกหูรกตา นางหันไปถลึงตาใส่สาวใช้วัยรุ่นสองคนนั่น “ปะ เปล่านะคะคุณท่าน แค่...” สาวใช้วัยกำดัดตอบเสียงสั่นๆ “แค่อะไร?!!” ปรารถนาย้อนถาม นางจ้องสองสาวนั่นตาเขม็ง&nb
เดาใจมารดาของดีแลนไม่ถูก หากคุณท่านอยากไหว้วานตนเอง แต่ทำไมถึงไม่โทร. มาบอกโดยตรง เมื่อปรารถนามีเบอร์ส่วนตัวของอบเชย มันเลยเป็นความกังขา ที่สร้างความไม่สบายใจให้อบเชยไม่น้อย ดังนั้น หลังเลิกเรียน อบเชยเลยรีบเดินทางกลับบ้าน เพื่อจะไปพบปรารถนาก่อน อบเชยลืมดีแลนเสียสนิท ปรารถนาไม่ได้มีธุระเร่งด่วนอะไรกับอบเชยเลย นางให้หญิงสาวมาเป็นลูกมือ ทำกับข้าวที่เป็นของโปรดของดีแลนเกือบทั้งหมด อบเชยยุ่งจนหัวปั่น เธอเลยไม่มีเวลาแอบไปส่งข่าวให้ชายหนุ่มรับรู้ ความกังวลนั่นเกาะกุมอยู่ในใจ จนกระทั่ง เสียงโทรศัพท์ส่วนตัวของตัวเองดัง...หลังเวลาที่ดีแลนเลิกงานไม่ถึงสามสิบนาที ตืดดดดดดดดด... ปรารถนาชำเรืองมอง นางอมยิ้ม แต่ก็รีบกลบเกลื่อนรอยยิ้ม ด้วยการลงมือจัดแต่งขนมในจานต่อ&nbs
เดวิดขยับขาแว่น ทำท่าเหมือนจะลุกไปดู แต่ถูกปรารถนาปรามด้วยสายตาเสียก่อน “คุณจะลุกไปมองทำไมคะ มีคนเดียวแหละที่ทำแบบนี้ได้” ชายสูงวัยอมยิ้ม มองท่าทางนิ่งๆ ของภรรยาแล้วอยากหัวเราะ อบเชยยิ้มกร่อยๆ เธอเผลอชะเง้อคอมองไปด้านนอกเสียเอง น้อยชำเรืองมองเด็กสาวข้างตัว นางผ่อนลมหายใจแผ่วๆ อดกังวลใจแทนเทียนไม่ได้เลย “ลมอะไรหอบลูกชายแม่มาที่นี่ได้ล่ะหะ?” แค่ดีแลนโผล่หน้าผ่านเข้ามาในสายตา ปรารถนาก็ชิงพูดตัดหน้าเดวิดเสียก่อน ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจ เขาชำเรืองมองอบเชย แล้วจึงเดินไปทิ้งตัวนั่งด้านข้างมารดา&
เดวิดหัวเราะดังพรืด ดีแลนมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “แม่ครับ” “ว่าไง แม่กำลังฟังอยู่” คนกลางอย่างอบเชยปั้นหน้าไม่ถูก ครั้นจะทำตามความต้องการของชายที่ตนพึงใจ ก็จะดูเหมือนเนรคุณผู้มีพระคุณอย่างปรารถนา ดังนั้นอบเชยเลยได้แต่ฟังคำตัดสิน ผลสรุปออกมาแบบไหน เธอก็คงต้องทำตามนั้น...เห้อ!! “คือ...” คนที่ฉลาดเป็นกรดถึงกับพูดไม่ออก ครั้นจะให้งัดข้อกับมารดา มันก็ไม่เป็นผลดีกับตัวเอง “แม่มีข้อเสนอให้นะ หากลูกสนใจ” ในเมื่อบุตรชายทำท่าจะจนแต้มง่ายๆ ปรารถนาเลยเสนอทางเลือกให้ ดีแลนพยักหน้า เขาเองก็อยากรู้ว่ามารดาต้องการอะไร
เทียนดันไหล่อบเชย นางจ้องเข้าไปในดวงตาคลอขังด้วยน้ำใสใส “มันไม่ใช่ความผิดหนูหรอกลูก ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่...” มันตื้อตันในอก คำสอนของเธออาจจะทำให้อบเชยเสียใจหนักขึ้น แต่นั่นเป็นเพราะเทียนหวังดี ร้องไห้ในวันนี้ ดีกว่าปล่อยให้อบเชยจมอยู่กับความเสียใจไปจนตาย อบเชยกลั้นสะอื้น เธอรู้ดีว่ามารดากำลังจะพูดอะไร “คุณหนูน่ะเป็นของต้องห้าม ต่อให้คุณหนูสนใจหนูจริงๆ มันไม่ใช่แค่คนสองคนหรอกนะลูก ครอบครัวหวังเป็นคนมีหน้ามีตา หนูเคยคิดถึงเรื่องนี้ไหม เพราะต่อให้รักกันแทบตาย บางครั้งความเหมาะสมก็เป็นอุปสรรคสำคัญ เรามันแค่คนงานหาเช้ากินค่ำ...เขาคงไม่ยินดีต้อนรับ ผู้หญิงที่เป็นแค่ลูกคนรับใช้เข้าไปร่วมสกุลด้วยหรอก” มันเป็นความจริงที่เทียนพยายามเลี่ยงที่จะพูดถึง นางไม่อยากเอ่ยคำๆ นี้เลย เพราะเท่ากับไปสะกิดบาดแผลที่เกือบจะหายให้เลือดไหลทะลักออกมาอีกครั้ง&nbs
ดีแลนถอนใจแรงๆ เขามองสบตาบิดา เหมือนท่านจะล่วงรู้ความลับในใจของเขา “ไอ้ตี๋ ถามจริงเถอะ คิดว่าพ่อมองไม่ออกหรือไงว่าเราหน่ะชอบเด็กนั่น” เดวิดเลยพูดตรงประเด็น เรื่องนี้คงต้องถกกันอีกยาว ดีแลนตกใจ เขาเสหลบตา เป็นพิรุธแบบที่ยังตั้งตัวไม่ทัน “พ่อ...” “สมัยพ่อหนุ่มๆ เรื่องของพ่อกับแม่ใช่ว่าจะไม่มีปัญหานี่ ครอบครัวคนจีนหน่ะ เขาก็อยากได้สะใภ้ที่รู้จักขนบธรรมเนียมของเราด้วย ส่วนมากสะใภ้ที่มาจากคนไทยแท้ๆ มักจะโดนกีดกัน แต่พ่อก็ฝ่าฟันจนได้แต่งงานกับแม่แก เรื่องนี้มันมีทางออก ไม่ต้องกลัวไปหรอก ยังไงพ่อก็อยู่ข้างแก” เดวิดพูดยาวเหยียด ดีแลนอมยิ้ม ข้อนั้นเขาไม่เคยหวั่น ที่หวั่นตอนนี้คือคนตัวเล็กที่
เทียนส่งขนมที่จัดใส่กล่องเรียบร้อยให้ดีแลน นางกล่าวเสียงแผ่วๆ เมื่อไม่อยากรับสตางค์จากบุตรชายอดีตนายจ้างสักเท่าไหร่ ดีแลนไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ เขาส่งธนบัตรสีเทาอ่อนให้กับเทียน แล้วก็เดินจากไปเงียบๆ “คุณหนู!!” เทียนพยายามรั้งไว้ ค่าขนมไม่ถึงหนึ่งพันบาท ดีแลนชอบตีขลุมแบบนี้ประจำ “ไม่สนใจกล้วยทอดบ้างเหรอคะ” แม่ค้ากล้วยทอดถามเสียงหวานหยด แบงค์ใหม่เอี่ยมที่ชายหนุ่มตรงหน้ามอบให้กับเพื่อนร่วมอาชีพ มันเกินราคาค่าขนมหวาน หากนางได้แบบนั้นสักครั้ง...คงกำไรโขอยู่ “ผมไม่ชอบของทอดครับ” ดีแลนปฏิเสธหน้าตาย เดินหน้าตึงจากไป โดยที่ไม่มีใค
บทที่13.ถึงเวลาเคลียร์หัวใจ “ลูกกำลังทำให้แม่แปลกใจนะดีแลน?” ปรารถนากระเซ้าบุตรชาย พักนี้เขาโผล่หน้ามาให้เห็นถี่เกินไป ทั้งที่งานในมือของดีแลนมีมากเหมือนเดิม “คุณนี่ก็...ชอบจังเลยที่จะทำให้ไอ้ตี๋มันอาย” เดวิดแย้ง ท่านบ่นพึมเมื่อภรรยาพยายามเหลือเกินที่จะล้วงความลับจากปากบุตรชายให้เขายอมเปิดปาก ความลับที่ดีแลนเก็บไว้ “ผมไม่มีอะไรที่ต้องอายนะครับพ่อ!” ดีแลนแย้ง เขาไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องอายหากมารดาล่วงรู้ความในใจ “แน่ใจ๋!” ปรารถนาเดินเข้ามาพูดใกล้ๆ นางมองถุงขนมที่ดีแลนหอบหิ้วมาฝาก ด้วยแววตาเป็นประกาย&
“คุณดีบ้า...ถ้ามีคนเห็น เชยคงถูกนินทายับ” ดีแลนเงยหน้าหัวเราะร่วน นั่นไม่ใช่คำปฏิเสธ มันหมายความว่า อบเชยยินยอมที่จะทำตามคำขอของเขา ชายหนุ่มเลยโน้มตัวเข้าไปใกล้ “เร็วๆ เชย กำลังปลอดคน...ไม่มีใครเห็นหรอก ฉันจะดูต้นทางให้เอง” อบเชยกลั้นใจกดปลายจมูกกับแก้มสากๆ ของคนตรงหน้า แต่คนที่รอจังหวะอยู่ เบี่ยงหน้า จนปากสีระเรื่อทาบลงบนปากสีเข้มแทน อบเชยผงะ เธอรีบเอนตัวออกห่าง แต่สายไปเสียแล้วสำหรับอบเชยและดีแลน เมื่อทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นไปมอง เงาดำๆ ที่ทอดยาวบนพื้น ณ.จุดนั้น เดวิด ปรารถนา เทียน รวมทั้งน้อยยืนอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้น “ดีแลน!!&rd
ก่อนจะตัดสินใจถามตรงๆ “คุณดีรู้ใช่ไหมคะว่าคุณท่านเรียกแม่เชยไปพูดเรื่องอะไร?” ดีแลนพยักหน้ารับ เขาสอดมือไว้ในกระเป๋ากางเกง เลิกหัวคิ้วขึ้นสูง ลักษณะเหมือนต้องการท้าทายอบเชย ผู้หญิงตรงหน้าจะมีความสามรถมากพอที่จะง้างปากให้เขาพูดได้หรือไม่!!? อบเชยคิดเอง เธอเดาจากท่าทางของเขานั่นแหละ “คุณดีบอกเชยได้ไหมคะ?” น้ำเสียงอ้อนๆ แววตาเว้าวอน จนดีแลนแอบขำ “ได้!!” ชายหนุ่มตอบเสียงขึงขัง “ขอบคุณค่ะ” อบเชยยิ้มตาพราวแต่ก็ต้องชะงักหัวแทบขมำ ปลายนิ้วเรียวสวยแตะที่ข้างแก้ม เขากดย้ำไปมาหลายรอบ เหมือนต้องการสื่ออะไรบางอย่าง อบเชยกะพริบเปลือกตาปริบๆ เธอพยายามทำความเข้าใจผ่านการบอกเล่า
‘ชอบแบบนี้ ชอบที่เป็นแบบนี้ ชอบแววตาแบบนี้ ชอบรอยยิ้มแบบนี้ ก็ชอบคนนี้ โฮ้วววว จะเอาแบบนี้ จะเอาที่เป็นแบบนี้ จะเอาแววตาแบบนี้ จะเอารอยยิ้มแบบนี้ จะเอาคนนี้ ฮู้ววว ก็ชอบที่เป็นแบบเธอ’ จู่ๆ อบเชยก้ได้ยินเสียงเพลงดังเบาๆ เธอเงยหน้ามอง ผู้ชายตัวใหญ่กำลังฮัมเพลง เนื้อเพลงที่ฟังแล้วถึงกับสะท้านวูบในอก ‘เพียงแค่เธอยิ้มมา ใจมันสั่นยังไงไม่รู้ ทุกอย่างกลายเป็นสีชมพูทันใด เธอ โอเธอ เธอรู้ไหมใจฉันไหวหวั่น เวลาที่ได้ใกล้กัน หัวใจฉันแทบจะวาย ตอนที่เธอสบตา ฉันก็แทบจะเป็นบ้าตาย รู้ไหมใจฉันจะละลายแล้ว’ ดีแลนยิ้มเก๋ เขาซ้อมร้องเพลงนี้มานานหลายสัปดาห์ แค่ฟังครั้งแรกก็สะดุดหู มันช่างเหมือนกับชีวิตตนเองเหลือเกิน แรกสบตากับอบเชยเมื่อหลายสิบปีก่อน ความรู้สึกที่เกิดขึ้น เป็นแบบนี้เลย เสียงระเบิดตูมตามดังในใจ รอยยิ้มของเธอ ทำให้หัวใจเขาเต้นกระหน่ำ หัวใจเขาทำงานหนั
ตามธรรมดาปรารถนาจะแวะเวียนมาเยี่ยมเทียนที่ร้านขนมเป็นประจำ หลังจากนางใส่บาตรทำบุญเสร็จ แต่วันนี้คงเพราะฝนตก อากาศไม่เป็นใจ คุณท่านจึงเรียกมารดาของเธอเข้าไปพบแทน อบเชยไม่ได้สงสัย ไม่ได้ติดใจท่าทางร้อนรนของคนมาตามสักนิด คงเป็นเพราะหญิงสาวกำลังสนุกกับการปิ้งข้าวเหนียวปิ้ง ไอเดียใหม่ที่เพิ่งทดลองทำ “เชยสอบเสร็จหรือยัง?” คุยกันด้วยเรื่องมารดาของเธออยู่ดีๆ ดีแลนก็เปลี่ยนเรื่องขึ้นมาดื้อๆ เป็นคำถามเดิมที่ทำให้ดีแลนรู้สึกไม่พอใจตนเองด้วย อบเชยเลยรีบตอบ เธอกลัวว่าจะทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าไม่พอใจซ้ำอีกครั้ง “ยังเลยค่ะ เหลือสอบอีกสองวัน สามวิชา แล้วก็ส่งรายงานค่ะ” ดีแลนพยักหน้าหงึกหงัก เขารับห่อข้าวเหนียวที่อบเชยส่งให้มาแกะใบตองออก แล้วกินต่อ เมื่อตนเองได้รู้ในสิ่งที่อยากรู้จนหมด&
“อืม...” ดีแลนทิ้งตัวนั่งที่เดิม อบเชยเลยจำใจต้องปล่อยแขนข้างที่จับเอาไว้ เธอรีบใช้ที่คีบ คีบข้าวเหนียวปิ้งที่เกือบไหม้ลงมาจากเตา“คุณดีโกรธอะไรเชยคะ บอกเชยตรงๆ ได้ไหมคะ เชยไม่ใช่เด็กแล้ว เชยยอมรับได้หากสิ่งที่เชยทำ ทำให้คุณดีไม่พอใจ”ดีแลนหรี่เปลือกตาลง เขาเม้มปาก ท่าทางเหมือนวัยรุ่นโดนผู้ใหญ่ขัดใจ“ฉันรู้ ว่าเชยโตแล้ว”หลังพูดจบ แววตาของดีแลนก็เต้นระริกอบเชยมองตามสายตาของคนตัวโต ที่คีบในมือแทบจะพลัดหลุด เพราะสายตาของเขามองสิ่งที่ ‘โต’ แล้วของเธอตาเป็นมัน “คุณดี!!”“ฮ่าๆ” ดีแลนหัวเราะร่วน เขายิ้มแฉ่งเมื่อโดนคนตัวเล็กสะบัดค้อนให้“ระวังคอเคล็ดนะเชย” ดีแลนกระเซ้าต่อ“คุณดีว่างขนาดมีเวลามาแหย่เชยเล่นเลยเหรอคะ”“เปล่า วันนี้ฉันมีธุระสำคัญ”ดีแลนตอบเสียงนุ่ม มุมปากมีรอยยิ้ม เมื่อนึกถึงเรื่องที่ตนเองทำลงไปวันนี้‘แม่ครับ ผมอยากมีเมีย’ชายหนุ่มพูดโพล่งกับบิดา มารดา ระหว่างรั
แม่ค้าขนมยิ้มหวาน มองธนบัตรที่อัดเกือบเต็มกระป๋องใส่สตางค์ตาพราว “ข้าวเหนียวปิ้งขายดีจริ๊งๆ” เทียนสัพยอกบุตรสาว นางเก็บถาดใส่ขนมเตรียมนำไปล้าง “ต้องยกความดีความชอบให้แม่เลยค่ะ ข้าวเหนียวมูลของแม่คนแถวนี้รู้ดีว่าทั้งหอมทั้งมัน” อบเชยกล่าวชม มือเป็นระวิง เมื่อต้องคอยพลิกกลับห่อข้าวเหนียวปิ้งไม่ให้ใบตองไหม้ เทียนไม่ได้พูดต่อความ นางเดินไปหลังร้าน เพื่อล้างถาดขนมที่ใช้แล้ว ลูกค้าบางตา เทียนเลยวางใจให้อบเชยอยู่คนเดียว อีกทั้งห่อข้าวเหนียวที่รอปิ้งก็ใกล้หมดแล้ว “ว้าว...ไม่รู้ว่าวันนี้จะมีข้าวเหนียวปิ้งด้วย” น้อย คนสนิทของปรารถนาเดินผ่านและตามกลิ่นไหม้ของใบตองมา “ป้าน้อยลองชิมไหมคะ เ
“ฉันหนาว...” อบเชยอยากสลัดผ้าห่มออก แล้วลุกขึ้นจ้องหน้าเขา มนุษย์ขี้ร้อนอย่างดีแลน รู้สึกหนาวในห้องที่มีอุณหภูมิปกติ เธอไม่ได้เปิดแอร์อบเชยมั่นใจ เธอไม่ชอบนอนขดในห้องที่มีอากาศเย็นจัด ที่สำคัญ อบเชยชินแล้ว เธอกลัวต้องจายค่าไฟแพงๆ อะไรที่อดทนได้ เธอเลยไม่พยายามสร้างความเคยตัวให้กับตัวเอง แต่คนตัวใหญ่ข้างๆ เธอ เขาร่ำรวยมาก ขนหน้าแข้งไม่มีทางร่วง หากต้องจ่ายค่าไฟที่มีจำนวนเลขห้าหลัก “คุณดีโกหก” หญิงสาวกล่าวแดกดัน เป็นไปไม่ได้เลยที่ดีแลนจะหนาว นอกจากเขาสำออย “ฉันจะโกหกเชยทำไมล่ะ เชยดูสิ หนาวจนขนลุกเลย” ดีแลนสอดแขนผ่านโปงผ้า เขาขนลุกจริงๆ แต่ไม่เพราะหนาว แต่เพราะอะไรนั่นอบเชยน่าจะรู้ดี เธอถึงได้พยายามสุดชีวิตที่จะยึดผ้าห่มไว้กับตัวให้นานที่สุด ไอร้
“ไม่จริงอะ คุณดีเกลียดเชยจะตาย เชยเข้าใกล้คุณดีทีไรเชยถูกไล่ตะเพิดทุกที” อบเชยแย้ง ความทรงจำของเธอ มีแต่สีหน้าตึงๆ กับคำพูดหยาบคายที่ทำให้เธอขยาดการเข้าไปอยู่ในรัศมีสายตาของเขา “หากไม่กันเชยออกห่าง ฉันคงติดคุกไปแล้ว” ดีแลนสารภาพ เขาคิดมิดีมิร้ายกับคนตรงหน้า ตั้งแต่หล่อนยังมีคำนำหน้าว่าเด็กหญิง “จริงอะ” “จริงเส้!” ท่าทางไม่เชื่อของอบเชยทำเอาดีแลนชักฉุน “คุณดีมีสาวในสต็อกเยอะจะตาย มาสนใจอะไรกับเด็กอย่างเชย” ถึงดีแลนช่วงนี้จะปฏิบัติตัวกับเธอดีขึ้น แต่ความทรงจำในอดีตก็ยังทำให้อบเชยอดระแวงไม่ได้ “
หญิงสาวรีบตอบ นั่นเป็นข้อห้ามที่ปรารถนาย้ำแล้วย้ำอีก แม้อบเชยจะสงสัย แต่เธอก็ไม่เคยย่างกลายเข้าไปในห้องนอนของเขา เพราะประตูห้องมันล็อกอยู่ตลอดเวลานั่นเอง “อยากเห็นไหมล่ะ?” ดีแลนถามเสียงปร่า อบเชยส่ายหน้าแรงๆ “อยากเข้าไปดูไหม?” ดีแลนถามย้ำ...แต่ก็เหมือนเดิม อบเชยส่ายหน้าแรงขึ้นกว่าเก่าเสียอีก เขตหวงห้ามตอนที่ดีแลนคิดอะไรแปลกๆ อยู่ในหัวแถมบ้านทั้งหลังมีแค่เธอกับเขา หากไม่อยากพลาดซ้ำ อบเชยควรอยู่ห่างๆ เขาไว้ก่อน “แต่ฉันอยากให้เชยเห็นนี่” ชายหนุ่มพูดหน้าตาย ก่อนจะร