เทียนส่งขนมที่จัดใส่กล่องเรียบร้อยให้ดีแลน นางกล่าวเสียงแผ่วๆ เมื่อไม่อยากรับสตางค์จากบุตรชายอดีตนายจ้างสักเท่าไหร่
ดีแลนไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ เขาส่งธนบัตรสีเทาอ่อนให้กับเทียน แล้วก็เดินจากไปเงียบๆ
“คุณหนู!!”
เทียนพยายามรั้งไว้ ค่าขนมไม่ถึงหนึ่งพันบาท ดีแลนชอบตีขลุมแบบนี้ประจำ
“ไม่สนใจกล้วยทอดบ้างเหรอคะ”
แม่ค้ากล้วยทอดถามเสียงหวานหยด แบงค์ใหม่เอี่ยมที่ชายหนุ่มตรงหน้ามอบให้กับเพื่อนร่วมอาชีพ มันเกินราคาค่าขนมหวาน หากนางได้แบบนั้นสักครั้ง...คงกำไรโขอยู่
“ผมไม่ชอบของทอดครับ”
ดีแลนปฏิเสธหน้าตาย เดินหน้าตึงจากไป โดยที่ไม่มีใค
บทที่13.ถึงเวลาเคลียร์หัวใจ “ลูกกำลังทำให้แม่แปลกใจนะดีแลน?” ปรารถนากระเซ้าบุตรชาย พักนี้เขาโผล่หน้ามาให้เห็นถี่เกินไป ทั้งที่งานในมือของดีแลนมีมากเหมือนเดิม “คุณนี่ก็...ชอบจังเลยที่จะทำให้ไอ้ตี๋มันอาย” เดวิดแย้ง ท่านบ่นพึมเมื่อภรรยาพยายามเหลือเกินที่จะล้วงความลับจากปากบุตรชายให้เขายอมเปิดปาก ความลับที่ดีแลนเก็บไว้ “ผมไม่มีอะไรที่ต้องอายนะครับพ่อ!” ดีแลนแย้ง เขาไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องอายหากมารดาล่วงรู้ความในใจ “แน่ใจ๋!” ปรารถนาเดินเข้ามาพูดใกล้ๆ นางมองถุงขนมที่ดีแลนหอบหิ้วมาฝาก ด้วยแววตาเป็นประกาย&
“อ้าว!” จงซอกกลอกตาขึ้นมองฟ้า เมื่อได้ยินคำต่อว่าของคนตรงหน้า เขาพยายามแล้ว แต่เป็นเธอไม่ใช่เหรอที่ผลักไสเขาออกห่าง“ฉันห้ามหัวใจตัวเองไม่ได้ ฉันเจ็บใจทุกครั้งที่คิดว่าฉันเป็นแค่คนโง่ที่รักคุณ” โกอินสะอื้นไห้อย่างห้ามไม่ไหว หล่อนแหงนหน้าขึ้นกะพริบตาปริบๆ เพื่อสกัดกั้นน้ำตาที่เอ่อท้นไม่ให้ไหลหลั่ง “คุณไม่ได้โง่โกอิน เพราะผมเองก็รักคุณ” พูดจบตัวพระเอกก็ก้มลงจูบ และเลยเถิดเตลิดไปจนถึงเลิฟ ซีนที่อบเชยจ้องตาแทบถลน เธอนึกว่าตัวเองอยู่คนเดียวเลยนั่งดูเสียเต็มสองตา ปลายนิ้วยัดอยู่ในปาก เพื่อลดทอนเสียงครางที่ทวีดังขึ้น เมื่อฉากในซีรีย์ ระหว่างพระนาง มันเกินกว่าเรทคนทั่วไปที่จะดูได้ บทเหล่านี้ต้องมีผู้ใหญ่แนะนำ ไม่เหมาะกับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่าสิบสามปี “ยัยเด็กทะลึ่ง!” ดีแลนโน้มตัวลงมาบังหน้าจอทีวีไว้ เมื่อบท
ดีแลนยิ้มหวาน ในหนังที่กำลังฉายผ่านจอทีวีให้คนชม กำลังเข้าสู่ช่วงไคลเม็กซ์ ขนาดแค่ฟังเสียงอารมณ์ยังพุ่งสูง “ตอนแรกมันเป็นหนังแอคชั่นค่ะ” อบเชยแก้ตัว เธอไม่รู้ว่าซีรี่ย์เรื่องนี้จะลงเอยแบบนี้นี่นา “ฮ่าๆ” ชายหนุ่มเงยหน้าหัวเราะ เขายกมือโยกศีระทุยได้รูปของอบเชยไปมา “เชยไม่ได้ทะลึ่งนะคะ แค่กำลังดูเพลินๆ อยากรู้ด้วยว่าจะจบยังไง มะ ไม่ได้หมายความแบบนั้นค่ะ!! คือเชยอย่างรู้บทสรุปของตัวพระ นางค่ะ ไม่ใช่เรื่องที่เขากำลังทำกัน” อบเชยอธิบาย แต่ความหมายกำกวม จนดีแลนมองหน้า หญิงสาวรีบกล่าวแก้จนลิ้นพันกัน กว่าจะพูดจบ อบเชยเหนื่อยใจพิกล เธอกลัวว่าคำพูดของตนเองจะไปกระตุ้นให้ดีแลนนึกพิเรนทร์ขึ้นมาอีก “เท่าที่ฉันเคยดูภาพยนตร์มา ไม่มีผู้สร้างคนไหนตัดจบด้วยการให้พระเอก หรือนางเอกตายหรอก มันต้องจบแบบแฮบปี้แอนดิ้ง มันถึ
บทที่14.ทางรักกำลังขุ่นคลั่ก ก็ดันมีมือที่สามโผล่มาซะอย่างนั้นอีก ดีแลนลดหนังสือพิมพ์ในมือลง เขามองลอดแว่นสายตา ผู้หญิงสาวสวยที่ยืนขวางอยู่กลางประตูด้วยสายตาคาดไม่ถึง สไบนาง ผู้หญิงคนนั้นชื่อสไบนาง หล่อนกับเขาเคยใช้ชีวิตช่วงสั้นๆ อยู่ด้วยกันที่ต่างประเทศ ตอนที่เขาไปศึกษาต่อ และใช้วิธีนั้นสำหรับการลดความคิดถึงอบเชย มันเป็นช่วงเวลาของวัยรุ่น ไม่มีข้อผูกมัด ไม่มีความสัมพันธ์อื่นใด ยกเว้นความใคร่ เขาและเธอต่างมีข้อตกลง ทุกอย่างจบลง หลังแต่ละคนประสบความสำเร็จ สไบนางกลับมาก่อน หล่อนมีอายุมากกว่าเขาสองปี ดีแลนยังเรียนไม่จบ แต่หลังจากที่สไบนางกลับประเทศไทย เขาก็ไม่เคยมีคู่เดทเป็นตัวเป็นตนอีกเลย “สวัสดีดีแลน ดูคุณไม่ดีใจเลยนะคะที่พบฉันอีกครั้ง” เสียงทักทายสไตส์สไบนาง หล่อนเป็นสาวมั่นมีความมั่นใจสูง&nbs
ทุกครั้งที่ผู้ชายในข่าวว่าง เขาจะมาโผล่ที่นี่ ยอมเป็นสารถีให้เพื่อนของเธอนั่งรถยนต์หรูของเขา ความสัมพันธ์ที่เธอเห็นมันเกินกว่าคำว่านายจ้างกับลูกจ้าง อบเชยเป็นแค่คนทำงานบ้าน เหตุใดเจ้าของบ้านถึงคอยตามเทียวไล้เทียวขื่อ หากเขาไม่มีความคิดลึกซึ้งกับคนที่ทำงานให้ ในสายตาของเจนจิรา สองหนุ่ม-สาวนี่ดูเหมาะสมกัน แม้ทั้งสองคนจะแตกต่าง จนแทบเป็นไปไม่ได้ หากทั้งคู่จะคบกันในฐานะอื่น แต่สิ่งที่เห็นพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีตลอดหลายเดือนมานี่ คือเธอเห็นหน้าชายผู้นั้นเป็นประจำ เขายังคงสม่ำเสมอ แม้จะยังไม่ได้เปิดตัวเป็นทางการ แต่เจนจิราแน่ใจ สองคนนี้ มีอะไรกันมากกว่าการแสดงออกให้บุคคลภายนอกรู้ อบเชยรับโทรศัพท์มาจากมือเพื่อน เธอก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์ที่เปิดค้างไว้ ผู้หญิงสาวสวย สวยแบบสง่า หน้าคมเฉี่ยว
ดีแลนพูดดักคอ เขารู้ทันหล่อน หากไม่ชิงพูดเสียก่อน ข่าวลือหนาหูก็จะถูกแพร่สะพัดไป เขาไม่อยากถูกซุบซิบ ไม่อยากมีข่าวกับใคร ดีแลนแคร์ใครบางคน จนไม่อยากสร้างกระแสให้ใครคนนั้นพลอยไม่สบายใจไปด้วย “แหม...คุณก็ชอบพูดเล่นนะคะดีแลน งานนี้... คุณรู้นี่ว่าฉันจะมา” สไบนางกล่าวเสียงดัง เธอปั้นหน้าเสแสร้งเสียจนดีแลนอยากมอบรางวัลให้ หากหล่อนเอาดีเรื่องการแสดง รางวัลอันทรงเกียรติอย่างใดอย่างหนึ่ง หล่อนคงครอบครองได้ง่ายๆ “ผมไม่ได้พูดเล่นครับ ผมไม่ได้ตั้งใจมางานนี้ด้วยซ้ำ” ดีแลนตอบตามจริง เขายิ้มมุมปากให้สไบนาง “อย่ามาปิดพวกเราเลยครับ คุณสองคนมีข่าวซุบซิบมาระยะหนึ่งแล้ว จะแอบคบกันอีกนานแค่ไหนครับ ถึงจะยอมเปิดเผยให้พวกเรารู้ล่ะครับ?” มีคนในกลุ่มคนหนึ่งสัพยอกขึ้นม
หลังได้คำมั่นสัญญาจากดีแลน แต่ละคนที่รุมซักถาม เลยหมดความสนใจ พวกเขาลืมสไบนางไปเสียสิ้น ลืมไปเลยว่าหล่อนเป็นตัวจุดกระแสข่าวคาวของหล่อนกับดีแลนเป็นคนแรก แต่ข่าวที่สไบนางจงใจให้เกิด ก็ยังมีมือดีปล่อยลงมาในสื่อโซเซียลจนได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ทั้งเจนจิราและอบเชยจะได้เห็นภาพหลุดที่สไบนางจงใจ...ถึงดีแลนจะมั่นใจว่าเขาชัดเจนพอ แต่น้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อนได้ นับประสาอะไรกับใจคน ที่เป็นแค่เพียงก้อนเนื้อ ไม่หวั่นไหวบางเลยงั้นเหรอ? อบเชยมองภาพหลุดที่ใครบางคนปล่อยว่อนในโลกอินเทอร์เน็ต แววตาเธอสลดลง แม้พยายามอำพรางไว้ แต่ก็ยังเก็บอาการซึมเซาไว้ไม่หมด ภาพที่แสดงถึงความสนิทสนมของหญิงชายที่ไม่ได้เป็นญาติพี่ น้อง ความสนิทสนมนั่นเกินเลยกว่าคนรู้จักแน่นอน ดูจากแววตาแล้ว ทั้งสองคนคงกำลังพัฒนาความสัมพันธ์ ในอนาคตคงไม่แคล้วเป็นคู่ขวัญที่ใครๆ ก็กล่าวถึง เมื่อเหมาะสมทั้งรูปสมบัติ และคุณสมบัติ ดีแลนเป็นนักธุรกิจที่กำลังร
ดีแลนกระแทกลมหายใจ เวลาผู้หญิงงอนนี่ พวกหล่อนปากแข็งเหมือนกันทุกคนหรือเปล่านะ?“ฉันแค่กลัวเชยเข้าใจผิด”อบเชยหมุนตัวหนี เธอหันหลังให้ดีแลน รู้สึกดีกว่าเก่าเป็นกอง จนเผลอตัวยิ้มออกมา “ไม่มีใครน่ารักเท่าเชยหรอก” ดีแลนหยอดต่อ เขารู้ดี บรรยากาศอึมครึมเมื่อสักครู่จางหายไปแล้ว “ไม่ต้องชมค่ะ เชยรู้ดี คนอื่นชมเชยบ่อยๆ” อบเชยหันมาตอบหน้าตาย ก่อนจะแสร้งเดินเลยไปอีกฝั่งของบ้าน วันนี้หัวใจเธอทำงานหนัก เมื่อสักครู่ยังเศร้าและเหมือนคนใกล้ตาย พอถูกดีแลนเป่าหู ความรู้สึกชื่นบานก็กลับคืนมา แต่เธอไม่ควรเชื่อเขาง่ายๆ ไม่อย่างนั้นครั้งต่อไป ดีแลนจะได้ใจ เขาแค่พูดหวานๆ เธอก็ยอมยกโทษให้แล้ว ความผิดของเขามันใหญ่มาก และเธอเสียใจอยู่ตั้งนาน“ขี้หึงเหมือนกันนะเรา” เสียงดีแลนเปรยลอยตามหลังมาอบเชยหันกลับไปถลึงตาใส่เขา เตรียมจะเถียง แต่...ดีแลนเดินมาใกล้ เขารวบกอดเธออีกแล้ว...อบเชยดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนที่ไ
อบเชยผวาเยือก หลังสิ้นเสียงหวานหวาม ดีแลนแนบเรียวปากร้อนผ่าว เขาบดจูบเบาๆ พยายามที่จะยั้งความรุ่มร้อนในกายเอาไว้ เพราะถึงตนเองกับอบเชยจะผ่านจุดอันตรายกันมาแล้ว แต่ตอนนั้นเขาเมา และจำอะไรไม่ได้เลย ดีแลนไม่รู้ว่าความปรารถนาที่เขายัดเหยียดให้อบเชยจะมากน้อยแค่ไหน เขาอยากจะมอบสิ่งดีๆ ให้ และลบล้างความทรงจำแย่ๆ ความใคร่คือความปรารถนาที่ล้นอก แต่สำหรับดีแลน เขาอยากมอบแต่สิ่งสวยงามให้อบเชย ครั้งนี้เขาจึงอยากแก้ตัวสอนบทรักที่เกิดจากความรัก ไม่ใช่ตัณหา ราคะเท่านั้น ให้อบเชยได้รู้จัก“ขา คุณดี...ชะ เชย”หญิงสาวขานรับเสียงแผ่วปร่า เธอรู้สึกเหมือนใจจะขาด ลมหายใจสะดุด และรู้สึกปั่นป่วนทรมาน“ฉันจะทำให้เชยมีความสุข เรามาล้างความทรงจำเก่าๆ และมีความสุขไปพร้อมกันนะเชย”ดีแลนกระซิบตอบ เขาพรมจุมพิตทั่วแผ่นท้อง ก่อนจะค่อยๆ กระถดตัวลงต่ำ จุดมุ่งหมายคือปลายทางสวรรค์ที่จะช่วยปลดเปลื้องความทรมานให้กับตนเองและอบเชยอบเชยพยักหน้ารับรู้ เธอสูดลมหายใจลึกๆ พยายามทำตัวสบายๆ เธอไม่มีอะไรให้หวาดกลัว เมื่อเธอกับดีแลน มีสิทธิ์ทำแบบนี้ได้ ในฐานะสามี ภ
เพราะเธอกับดีแลนคงเหมือนคนแปลกหน้า หากบังเอิญย้อนกลับมาเจอกันอีกครั้งต่อให้เธอจงรักภักดีกับเขาแค่ไหน เธอก็คงเป็นได้แค่เศษฝุ่นในสายตาของเขา ไม่มีทางเป็นตัวเป็นตนได้เหมือนตอนนี้ หากตอนนั้นเธอฟูมฟาย และแพร่งพรายความลับในใจให้มารดารู้เข้าดีแลนยกมือกรีดรอยน้ำตาที่เอ่อซึมขึ้นมาให้ เขาโน้มตัวจูบซับรอยน้ำตานั่นอีกที ด้วยความอ่อนโยนที่มี หรือเท่าที่ตนเองจะแสดงออกให้คนตัวเล็กได้รู้หัวไหล่บอบบางสั่นระริก อบเชยคงพยายามกลั้นความเสียใจไว้“ฉันขอโทษ บางครั้งผู้ชายก็ขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับความจริง”ชายหนุ่มกล่าวปลอบขวัญ ทั้งอบเชยและเขา ยังเด็กมากในตอนนั้น เขาโตกว่าก็จริง แต่หากทำอะไรบุ่มบ่ามลงไป วันนี้คงไม่ได้กอดอบเชยไว้แนบอกเช่นนี้ ในวันที่เขาโตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตของอบเชยได้ ดีแลนอดทนมากแค่ไหน อบเชยไม่มีวันเข้าใจ“เชยปวดใจทุกครั้ง ทุกครั้งที่สายตาของคุณดี มีแววตาเกลียดเชยเช่นนั้น”ณ.วันนั้น อบเชยชาด้าน ความรักที่มีต่อมารดา คือสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวที่ทำให้อบเชยฝืนยิ้มและประคองตัวเองผ่านวันอันเลวร้ายนั่นมาจนได้&ldquo
“เชยไม่สวย ไม่เซ็กซี่ เหมือนที่คุณดีตั้งความหวังไว้เหรอคะ?” หางเสียงสั่นพร่า ที่เข้าใจมาตลอด ดีแลนชอบที่เธอเป็นเธอ แต่เวลานี้เขากำลังเปรียบเทียบเธอกับใคร คู่ควงเก่าๆ ของเขาอย่างนั้นเหรอ? “โอ้ย!! ไม่ใช่อย่างนั้น” ดีแลนรีบกระโจนลงจากเก้าอี้ เดินมาหยุดข้างอบเชย เขาทรุดนั่งบนส้นเท้า เงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้า “ฉันเคยฝันไว้หน่ะ แต่ไม่ได้อย่างฝันก็ช่างมันเถอะ ขอแค่มีเชย ฉันก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว” มันคือความฝันตามประสาผู้ชาย นอนกอดกับคนรู้ใจบนเตียงนุ่มๆ ในบรรยากาศหวานๆ หลังพิธีวิวาห์ “เชยอาจจะดีไม่พอ เหมือนที่คุณดีต้องการนะคะ” ความน้อยใจทำให้อบเชยตัดพ้อต่อ เธอพยายามดึงมือของตัวเอง ออกจากอุ้งมือของอีกฝ่าย “ไปกันใหญ่แล้ว ฉันจะทำให้เชยรู้
หลังพูดออกมา คำพูดเหล่านั้นคือนายเรา ผลสะท้อนของคนกลับกลอก จะไม่มีคนรอบตัวฟังเขาอีก แม้บทสุดท้ายเขาจะพูดความจริง เพราะความเคลือบแคลงฝังอยู่ในความทรงจำเสียแล้ว พูดผิดเพียงครั้งเดียว ก็ลบล้างความเชื่อมั่นของเจ้าของคำพูด ตลอดชีวิต คราใดที่เขาพลาด คนเหล่านั้นก็จะนำคำพูดที่เขาเคยออกปากไว้มาทับถม... “เชยเชื่อคุณดีค่ะ” อบเชยฝืนยิ้ม คนตรงหน้าคือคนที่ตนเองฝากชีวิต หากเธอปล่อยให้ความระแวงเกาะกุมตั้งแต่นาทีแรกของการเริ่มต้น จากนี้ไปคงหาความสุขไม่ได้ สู้ปล่อยอดีตทิ้งไว้เบื้องหลัง ก้าวไปข้างหน้าจับมือคนของเราไว้แน่นๆ อุปสรรคไม่ได้มีแค่นี้ นี่เพิ่งเป็นการเริ่ม ถนนที่เธอกับดีแลนเดิน ยังอีกยาวไกล มือเรียวเล็กสอดวางบนอุ้งมือหนา อบเชยเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้ 
“เพราะพ่อ...คือพ่อแกไงอาตี๋” เดวิดตอบแบบไม่ขยายความ ท่านรู้ อบเชยไม่มีทางทำให้บุตรชายของท่านเจ็บตัว หล่อนบูชาดีแลนยิ่งกว่าเทวดาเสียอีก “อบเชย ถ้าลูกแม่ดื้อนัก บอกแม่ก็ได้นะ เดี๋ยวแม่จัดการให้เอง” ปรารถนาพูดสอด ตอนที่บรรจงหลั่งน้ำเย็นชื่นลงบนปลายนิ้วมือของอบเชย “โห!” เสียงครางท้วงดังเบาๆ จากผู้ชายตัวใหญ่ใบหน้าขาวดั่งไข่ปลอก “ทำไม...มีปัญหาเหรอไงดีแลน ลูกหน่ะ ไม่มีใครกล้าขัดใจหรอกนอกจากแม่” นางเปรยเสียงกระซิบ ก่อนจะหลั่งน้ำสังข์บนปลายนิ้วของดีแลน “ไม่มีใครรักผมเลย!” ชายหนุ่มครางเสียงออดๆ เหมือนมอดกัดไม้ผุๆ “เอ่อ...เชยรักคุณดีค่ะ เชยไม่ตีคุณดีแน่” อบเชยกระซิบเสียงอุบอิบ ผิวแก้มร้อนฉ่า&
บทที่20.วันที่ความรักสุกงอมเวลาเคลื่อนมาถึงฤกษ์ดีช่วงเช้า ดีแลนก็ต้องออกไปตั้งขบวนแห่ขันหมากตามประเพณี เขาได้เจอมารดาที่นั่น รวมทั้งบิดาด้วย แต่ก็ยังไม่เห็นอบเชย “แม่อะ ผมเลยไม่ได้เห็นอบเชยเป็นคนแรกเลย” ดีแลนบ่นพึมพำ ตอนที่เดินผ่านประตูบ้านหวังเข้ามา “เดี๋ยวก็ได้เห็นแล้ว อบเชยไม่หนีไปไหนหรอกน่า” ปรารถนากระซิบดุ เริ่มระอากับความรักออกนอกหน้าของบุตรชายเหลือเกิน เดวิดได้แต่หัวเราะ ท่านส่ายหน้า แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เมื่อท่านพอจะเข้าใจความคิดของดีแลน สมัยหนุ่ม ท่านเองก็เป็นแบบนี้ ดีแลนใจเต้นตึกตัก เขายืดคอสูงๆ พยายามมองหาอบเชย หญิงหนึ่งเดียวในดวงใจ ณรงค์เดินอยู่ข้างๆ มีอดัม
“ได้ไงคะ!! คุณท่านมาเห็นเข้า เชยอาจจะโดนตำหนินะคะ!” อบเชยลดเสียงลง สีหน้ายุ่งยากใจ หากปรารถนาเดินผ่านประตูเข้ามา นางจะมองว่าเธอเป็นคนอย่างไร “อย่ากลัวไปเลย แม่ฉันใจดีจะตาย” “ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ” อบเชยพยายามอธิบาย เสียงของเธอสั่นพร่า เมื่อเสียงเดินดังใกล้เข้ามาทุกที “ฉันรู้...ฉันหลบไปก่อนก็ได้...” น้ำเสียงและสีหน้าอบเชย ดีแลนเลยอดไม่ได้ที่จะเห็นใจ เขาขยับตัวเตรียมจะลงจากเตียง แต่... “ดีแลน...ลูกควรไปอาบน้ำได้แล้ว...ทีมช่างของแม่รอแต่งตัวให้ลูกอยู่นะ” ปรารถนาพูดดักคอ เหมือนว่าท่านรู้วาบุตรชายอยู่ด้านใน ทั้งที่ยังไม่ทันได้เปิดประตู&nb
“จูบฉันก่อน ฉันจะยอมกลับไปนอนที่ห้อง หากเชยยอมจูบฉัน”“อีกแล้วนะคะ” ตั้งแต่เข้ามาในห้อง ดีแลนปล้นจูบไปจากเธอนับครั้งไม่ถ้วน เขายังมีหน้ามาเรียกร้องเอาอะไรเพิ่มอีกหรือ?“ทำไมล่ะ ฉันจูบไม่ดีเหรอเชย สาวๆ ชมฉันตลอดว่าฉันจูบเก่ง” ดีแลนพูดเย้า“เชอะ!!” มือน้อยๆ ผลักอกคนตัวใหญ่เต็มแรง ซึ่งไม่ได้ทำให้ดีแลนสะเทือน เพราะเขานอนราบอยู่บนที่นอน แถมมือเหนียวๆ ยังคงเกี่ยวเอวของเธอไว้เสียแน่น“นานๆ จะเห็นเชยหึงฉันสักที มันครื้มใจพิลึก” ดีแลนกระเซ้าต่อ การแสดงออกของอบเชย แปลความหมายอื่นไม่ได้ นอกจากอบเชยกำลังไม่พอใจพฤติกรรมฉาวๆ ของเขาสมัยยังเป็นหนุ่ม“ชิ! คุณดีหลงตัวเองค่ะ เชยขี้เกียจฟัง” อบเชยหน้างอง้ำ นึกไม่พอใจจนตัวสั่น อยากโกรธดีแลนนานๆ แต่รู้ดีว่าตนเองใจไม่แข็งพอ ชายตรงหน้าเองก็มีวิธีรับมือ ทุกครั้งหากเธอปั้นปึ้ง...ดีแลนจะรีบตะล่อมจนเธออ่อนลง และครั้งนี้ก็เช่นกัน อบเชยรู้ดี สิ่งที่เขาพูดมาคืออดีต ผู้ชายส่วนใหญ่มีประสบการณ์โชกโชนเกี่ยวกับเรื่องเพศตรงข้าม ดีแลนเองก็ไม่น้อยหน้า เขาเป็นหนุ่มฮอ
“จริงนะ ถามหน่อย เชยรักฉันตั้งแต่ตอนไหน?” ดีแลนพยายามลดความกระหายรสรักที่มีกับคนตัวเล็กในอ้อมกอด เขาเปลี่ยนเรื่องพูด เพื่อให้ความพลุ่งพล่านของตนเองลดน้อยลง“คุณดีล่ะคะ รักเชยตอนไหน?” หากดีแลนอยากรู้ อบเชยก็อยากรู้เช่นกันหญิงสาวจำได้ดี...สมัยก่อน แม้แต่การมอง ดีแลนยังพยายามมองผ่าน เขาเกลียดเธอจับจิต อบเชยเลยอยากรู้ว่าเธอเข้าตาเขาตอนไหน?“ขี้โกง ฉันถามเชยก่อนนะ!” เสียงต่อว่าไม่มีน้ำหนัก ดีแลนแค่ผิดหวังเล็กๆ ที่อบเชยยังไม่ยอมเฉลย“เชยอยากรู้นี่คะ คุณดีตอบเชยก่อนไม่ได้เหรอคะ?” อบเชยทดลองใช้น้ำเสียงแบบเดียวกับดีแลน เวลาที่เขาอ้อนเธอ แววตาวิบวับ กับสีหน้าที่แบกความหวังไว้เต็มเปี่ยมทำให้ดีแลนถอนใจเฮือก เขาแพ้อบเชย...หากเผลอสบตากับหล่อน ปลายนิ้วแข็งแรงจิ้มลงกลางหน้าผากตนเอง พร้อมกับเสียงทุ้มๆ ที่พูดออกมาช้าๆ “ตั้งแต่ยัยเชยคนนี้ยังนุ่งกระโปรงสีน้ำเงินยาวลากพื้น...แอบมองฉันเหมือนคนโรคจิต แ