เมื่อเอเลนเห็นชาร์ลี หัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังเอเลนเชื่อคำบอกของตำรวจจริง ๆ เธอเชื่อว่าชาร์ลีไม่ได้ตั้งใจเก็บบัตรธนาคารปลอมใบนั้นไว้จริง ๆ เขาเป็นเพียงเหยื่อขององค์กรอาชญากรรม อย่างไรก็ตาม ความทุกข์ทรมานและเรื่องเลวร้ายทั้งหมดของเธอ เกิดขึ้นเพราะบัตรของชาร์ลี ถ้าไม่ใช่เพราะบัตรของเขา เธอคงไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจมากมาย ดังนั้นเธอจึงถือว่าชาร์ลีเป็นคนผิด ที่ผิดที่สุดในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ในตอนนี้ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะมีความรู้สึกดี ๆ ต่อชาร์ลีเอเลนตกใจมากเมื่อจู่ ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตะโกนใส่เธอเอเลนรู้สึกอึดอัดเมื่อนึกถึงเรื่องที่ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะคอยเฝ้าจับตาดูเธอในอนาคตเธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะเธอตกอยู่ในสถานการณ์นี้เช่นนี้เองดังนั้น เอเลนจึงทำได้เพียงระงับความเกลียดชังและความโกรธที่เธอมีต่อชาร์ลี เธอพยายามที่จะสงบสติอารมณ์เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าเอเลนแสดงความสุจริตใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงถามชาร์ลีว่า “คุณเป็นลูกเขยของเธอใช่ไหม?”ชาร์ลีพยักหน้าเล็กน้อยขณะที่เขาพูด “ใช่ครับ ผมเอง”เจ้าหน้าที่ตำรวจตอบว่า “เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้น มาที่นี่และเ
คนขับรถแท็กซี่รีบขับรถไปที่โรงพยาบาลซิลเวอร์วิงชาร์ลีซึ่งนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ และพูดกับเอเลนว่า “แม่ครับ ผมโทรหาแคลร์แล้ว ตอนนี้เธอกำลังรีบไปที่โรงพยาบาลซิลเวอร์วิง เราจะให้หมอตรวจขาของแม่โดยเร็วที่สุด”เอเลนถอนหายใจออกมาอย่างขมขื่นก่อนจะหันกลับไปมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความโกรธ เธอพูดอย่างมีเงื่อนงำว่า “ฉันโชคร้ายจริง ๆ ที่มีลูกเขยที่ไร้ประโยชน์อย่างแก คอยสร้างปัญหาให้ฉันมาตลอด!”ชาร์ลีจงใจถามว่า “แม่ครับ ที่แม่พูดหมายความว่าอะไรครับ? ผมสร้างปัญหาให้แม่อีกเมื่อไรครับ?”เอเลนจ้องเขาผ่านกระจกมองหลัง ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่ามาถามอะไรฉัน! คิดเอาเอง! ฉันจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น ต่อให้แกจะถามฉัน!”เอเลนได้รับคำเตือนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้งแล้ว และเธอไม่กล้าที่จะอารมณ์เสียใส่ชาร์ลีโดยตรง ดังนั้น เธอจึงทำได้แค่โกรธชาร์ลีด้วยอาการกำกวมแบบนี้ชาร์ลีรู้ดีว่าแม่ยายที่ไร้สาระของเขากำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงจงใจตอบกลับไปว่า “ผมขอโทษนะแม่ แต่ผมคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าผมไปสร้างปัญหาอะไรให้แม่”เอเลนโกรธมากจนเธอรู้สึกว่าหน้าอกของเธอกำลังจะระเบิดออก คำที่เธอต้องการใช้สาปแช่งและดุด่าชาร์ล
ในเวลานี้ ถึงแม้มาทิลด้าจะหน้าแดง แต่เธอก็รับไมโครโฟนอย่างเปิดเผยก่อนจะยิ้มและพูดว่า “อย่าเข้าใจเราผิด เราสองคนก็แค่ร้องเพลงด้วยกัน ถ้ามีใครอยากจะร้องเพลงกับฉันอีก ฉันก็เต็มใจที่จะร่วมร้องเพลงด้วย”วิลเลียมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เขารู้สึกว่าคนที่แต่งงานแล้วอย่างจาค็อบ จะมาเชิญเทพธิดาของเขาให้ร้องเพลงรักร่วมกันอย่างเปิดเผยได้อย่างไร?อย่างไรก็ตาม เมื่อเขานึกถึงเรื่องที่ลูกเขยของจาค็อบสามารถทำให้ออสการ์ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างจริงจังได้ เขาจึงรีบกลืนคำพูดลงก่อนจะพูดอะไรอย่างรวดเร็วจาค็อบมีรอยยิ้มที่ตื่นเต้นมากบนใบหน้าของเขา ในเวลานี้ เขารู้สึกได้ว่าหัวใจของเขาเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่เขาแอบมองมาทิลด้าอย่างลับ ๆในเวลานี้ มาทิลด้าบังเอิญสบตากับจาค็อบ เมื่อเธอเห็นความหลงใหลที่จาค็อบแอบซ่อนไว้ในสายตาของเขา มาทิลด้าก็ไม่สามารถหยุดตัวเองให้หายหน้าแดงได้บทนำของเพลงได้เริ่มขึ้นแล้วในขณะนี้มาทิลด้าหยิบไมโครโฟนในมือของเธอขณะที่เธอจ้องไปที่หน้าจออย่างตั้งใจหลังจากอินโทร มาทิลด้าเป็นผู้นำในการร้องเพลงส่วนหญิง“ขอให้ความรักของฉันอยู่กับเธอตลอดไป…”“เธอรู้สึกไหม? ฉันเป็นห่วงเ
จาค็อบตื่นตระหนกขณะพูดว่า “ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ฉันต้องรับสายนี้ก่อน ฉันจะกลับมาและร้องเพลงในภายหลัง!”หลังจากพูดจบ เขาก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะรีบออกจากห้องไปวิลเลียมหยิบไมโครโฟนที่เขาทิ้งไว้ทันทีก่อนจะยิ้มและพูดว่า “มาเถอะ มาทิลด้า ฉันจะร้องเพลงกับเธอ!”จาค็อบนำโทรศัพท์ออกจากห้องพร้อมกับรีบรับสายทันทีที่มีการเชื่อมต่อสายเรียกเข้า เสียงตะโกนอันเป็นเอกลักษณ์ของเอเลนก็ดังขึ้น: “จาค็อบ วิลสัน! แกอยากตายเหรอ? ฉันหายไปสองวันสองคืน แกไม่โทรหาฉันหรือส่งข้อความถึงฉันเลยแม้แต่นิดเดียว! แล้วแกยังมีอารมณ์ที่จะออกไปสังสรรค์อีกเหรอ?”เมื่อจาค็อบได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ใจของเขาก็สั่นสะท้าน หัวใจที่เร่าร้อนของเขาแน่นิ่งอย่างกะทันหันชีวิตของเขาจบลงแล้ว นังแม่มดน่ารังเกียจนั่นกลับมาแล้วจริง ๆ !พระเจ้าไม่ยุติธรรมกับเขาเลย เขามีวันที่ดีและสงบสุขโดยไม่มีเอเลนได้เพียงแค่สองวัน! เขาเพิ่งเริ่มปาร์ตี้และร้องเพลงกับมาทิลด้า เขาไม่ได้มีพัฒนาการที่สำคัญกับเธอเลยด้วยซ้ำ แต่แล้วยายแก่น่ารังเกียจคนนั้นกลับมาไม่ใช่ว่านี่จะเป็นการพรากชีวิตของเขาไปใช่ไหม?จาค็อบรู้สึกหดหู่ใจมากจนเขารู้สึกอยากตายจริง ๆ ในเ
ในเวลานี้ แคลร์ที่เป็นกังวลอย่างมาก เธอกำลังรีบไปที่โรงพยาบาลซิลเวอร์วิงเธอรู้สึกกังวลเพราะเธอได้ยินว่าขาของแม่หัก เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของเธอในช่วงสองวันที่ผ่านมาหลังจากที่เอเลนวางสายจากจาค็อบ เธอจับขาขวาของเธอ เธอเหงื่อท่วมตัวเพราะความเจ็บปวดในเวลานี้ เอเลนกรีดร้อง เธอสั่งคนขับด้วยสีหน้าหงุดหงิด “แกช่วยขับรถพัง ๆ นี่ให้เร็วขึ้นหน่อยได้ไหม? ทำไมแกขับรถช้าจัง รู้ไหมว่าตอนนี้ฉันเจ็บ?”คนขับรถแท็กซี่ตอบอย่างเฉยเมยว่า “มีการจำกัดความเร็วเมื่อขับอยู่ในเมืองและผมต้องปฏิบัติตาม ผมต้องปฏิบัติตามกฎการจำกัดความเร็วอย่างเคร่งครัด ถ้าผมขับเร็ว ผมจะไม่เพียงแต่ถูกหักคะแนนเท่านั้น แต่การขับรถโดยประมาทจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของคนเดินถนนด้วยเช่นกัน”“แกขู่ใคร?” เอเลนโกรธจัด เมื่อเธอได้ยินคำพูดของคนขับรถแท็กซี่ เธอเริ่มดุเขาอย่างโกรธจัด “แกขับให้เร็วกว่านี้ได้ไหม? ฉันเจ็บมากตอนนี้! แกกำลังเอาเงินเพิ่มจากฉันใช่ไหม? นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมแกขับรถช้า ใช่ไหม? ถ้าฉันต้องพิการเพราะแกนะ ฉันจะจัดการกับแก!”คนขับรถแท็กซี่ตอบอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ผมขับรถคันนี้เร็วพอแล้ว! ถ้าคุณคิดว่าผมขับ
หลังจากนั้น เขาก็กลับไปที่รถแท็กซี่คันเดิมเพื่อช่วยเอเลนที่ขาหักออกจากรถเอเลนต้องทนกับความเจ็บปวดที่ขาของเธอในตอนลงจากรถ หลังจากนั้น เธอก็ต้องทนกับความเจ็บปวดอีกครั้งตอนที่เธอขึ้นแท็กซี่อีกคันกับชาร์ลีเมื่อเธอเห็นว่ารถแท็กซี่ของพวกเขาเริ่มเคลื่อนที่แล้ว เธอกดกระจกลงและสาปแช่งคนขับที่สูบบุหรี่อยู่ข้างถนนว่า “ไอ้สารเลว! วันนี้ แกจะต้องถูกรถชนตายอยู่ข้างถนนอย่างแน่นอน!”ทันทีที่คนขับได้ยิน เขาก็ด่ากลับ “นังผีบ้า! แกนั่นแหละที่ต้องตายตรงหน้าฉัน!”เอเลนโกรธจัดและเธอต้องการยื่นหัวออกไปนอกหน้าต่างและสาปแช่งคนขับให้มากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม รถแท็กซี่ที่เธอนั่งออกมาไกลแล้ว และเธอก็ทำได้เพียงยอมแพ้ด้วยอย่างโกรธเคืองชาร์ลีไม่ได้พูดมาโดยตลอด เขาถอนหายใจอยู่ภายใน แม่ยายของเขาดูเหมือนจะถูกทรมานอย่างมากในศูนย์กักกัน ไม่อย่างนั้น ตอนนี้เธอคงไม่โกรธมากขนาดนี้เขาอดไม่ได้ที่จะเห็นอกเห็นใจกับจาค็อบ พ่อตาของเขา ถ้าเอเลนรู้ว่าเขายุ่งอยู่กับการคบหากับมาทิลด้ามาสองวันแล้ว เธอจะไม่ทุบเขาจนสมองไหลใช่ไหม?***ในที่สุด แท็กซี่ก็มาถึงแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลซิลเวอร์วิง แห่งโอลรัส ฮิลล์แคลร์รอพวกเขาอยู่ท
แคลร์รู้ดีว่าแม่ของเธอจะโกรธมากอย่างแน่นอน ถ้าแม่รู้ว่าพ่อออกไปพบปะสังสรรค์กับมาทิลด้าและเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาในเวลานี้ เอเลนมีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่แต่เดิมแล้ว ดังนั้น แคลร์จึงไม่ต้องการพูดอะไรที่จะเติมเชื้อเพลิงให้กับเปลวไฟเพิ่มดังนั้นแคลร์จึงกล่าวว่า “หนูคิดว่าพ่อกำลังเข้าพบปะกับเพื่อนร่วมชั้นของเขา หนูไม่ได้รู้ข้อมูลลึก ๆ บางทีอาจเป็นกลุ่มเดียวกับการรวมตัวครั้งสุดท้าย”“มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!” เอเลนตอบด้วยใบหน้าสีอึมครึม “เพื่อนร่วมชั้นเก่าของเขาแทบจะไม่ได้เจอกันเลยช่วงในสองสามปี เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะรวมตัวกันอีกในระยะเวลาสั้น ๆ แบบนี้ ต้องมีเหตุผลอื่นอยู่เบื้องหลังการพบปะครั้งนี้แน่!”แคลร์ทำได้เพียงโกหก เพราะเธอไม่อยากให้แม่โกรธ “หนูไม่ค่อยมั่นใจเกี่ยวกับเรื่องนี้”เอเลนกัดฟันด้วยความโกรธ ขณะที่เธอพูดอย่างเย็นชาว่า “ไอ้แก่สารเลวนั่น! ฉันทุกข์ทรมานมากในศูนย์กักกัง แต่แล้วมันยังมีอารมณ์ที่จะออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ของมันอีก มันช่างไร้หัวใจจริง ๆ !”แคลร์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพูดแทนพ่อของเธอ “แม่คะ ในช่วงสองวันที่ผ่านมา พ่อก็กังวลมากเช่นกัน ตอนแม่หายตัวไป ที่พ่อไปเข้าร
เอเลนถามอย่างเย็นชา “แกแน่ใจเหรอ?”จาค็อบรีบพูด “แน่สิ ฉันแน่ใจ ฉันจะโกหกเธอทำไม? เธอไม่คิดว่ามันไม่เหมาะสมไปหน่อยเหรอ ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ในเวลานี้? สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือการรักษาอาการบาดเจ็บของเธอใช่ไหม? ขาหักใช่ไหม??”เอเลนจดจ่ออยู่กับการจับผิดเรื่องชู้สาวของจาค็อบ จนลืมไปว่าเธอมาที่นี่เพื่อรับการรักษาขาที่หัก เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ขาขวาของเธอขึ้นมาทันที เมื่อจาค็อบพูดถึงมันเอเลนจึงรีบพูดกับแคลร์ว่า “ลูกสาวที่แสนดีของแม่ พาแม่ไปหาหมอเดี๋ยวนี้! แม่ไม่อยากต้องจบลงด้วยอย่างเป็นคนพิการใด ๆ !”***หลังจากไปที่แผนกฉุกเฉินและพบหมอแล้ว เอเลนได้รับการเอ็กซ์เรย์ที่ขาของเธอตามคำขอของหมอ หลังจากนั้น แคลร์ถามอย่างประหม่า “หมอคะ คุณแม่ของหนูเป็นอย่างไรบ้างคะ?”เอเลนกลัวเช่นกันว่าจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็รีบถามว่า “ใช่ หมอ ผลการตรวจเป็นอย่างไร? ฉันจะเป็นคนพิการไหม?”หมอบอกเอเลนว่า “จากการเอ็กซ์เรย์ คุณมีรอยแตกร้าวที่ขา อาการของคุณน่ากังวลนิดหน่อย อย่างไรก็ตาม หากคุณดูแลอาการบาดเจ็บของคุณเป็นอย่างดี คุณจะไม่กลายเป็นคนพิการ ผมแนะนำให้คุณเข้าเฝือกก่อน จากนั้นคุณต้องอยู่