ในเวลานั้น เด็กหนุ่มชาวอเมริกันคนหนึ่งกำลังตามจีบเธออย่างคลั่งไคล้ ด้วยความโกรธและความต้องการที่จะลืมอดีตของตัวเองโดยเร็วที่สุด เธอจึงตัดสินใจตอบรับอีกฝ่ายทั้งคู่แต่งงานกันอย่างรวดเร็ว เริ่มต้นชีวิตครอบครัวและมีลูกด้วยกันในไม่ช้าหนุ่มอเมริกันคนนั้นใจดีกับเธอมากและเขาดูแลเธอมาทั้งชีวิต อย่างไรก็ตาม มาทิลด้าไม่เคยลืมแฟนเก่าของเธอได้เลย แม้จะผ่านไปกว่ายี่สิบปีแล้วก็ตามเมื่อเธอมองกลับไปในอดีต เธอตระหนักได้ว่าเธอหยิ่งทะนงเกินไปและนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอจึงถูกคนอื่นหลอก เธอรับรู้ได้ว่ารูมเมทของเธอ ไม่ได้มาหาเธอเพียงเพราะต้องการสารภาพความผิดและขอโทษเธอ อันที่จริง แม้รูมเมทของเธอจะบอกไม่ให้เธอใส่ใจในเรื่องนี้ แต่เธอแอบหวังว่ามาทิลด้าจะสนใจมันและเลิกคบกับเธอเป็นเพื่อน จากนั้นมาทิลด้าก็จะยกแฟนของเธอให้เธอยังเด็กเกินไป หยิ่งเกินไป เธอจดจ่ออยู่กับหลักการของชีวิตและความบริสุทธิ์ของความรู้สึกในอดีตมากเกินไป นั่นคือเหตุผลที่เธอเลิกกับผู้ชายที่เธอรักและผลักเขาเข้าสู่ในอ้อมแขนของรูมเมทเธอชีวิตแต่งงานของมาทิลด้าทำให้เธอเจ็บปวดมามาตลอด เพราะเธอยังหมกมุ่นอยู่กับจาค็อบ เธอยังมีความรู้สึกต่อเขา
จิตใจของจาค็อบหลุดลอยไปสู่ห้วงมหาสมุทรแห่งความคิด หวนนึกถึงอดีตของเขา ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงและน้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองมาทิลด้าช่างสมบูรณ์แบบ แม้แต่ในสายตาของชาร์ลี เธอเทียบไม่ได้กับเอเลนเลย เธอนั้นแสนดีกว่าเอเลนถึงล้านเท่า และจาค็อบก็ใช้เวลากว่า 2 ทศวรรษกับผู้หญิงที่ร้ายกาจซึ่งไม่ใกล้เคียงกับแฟนเก่าของเขาเลย ปฏิเสธไม่ได้ว่าจาค็อบรู้สึกอึดอัดและเป็นทุกข์เมื่อเห็นมาทิลด้าอีกครั้งมาทิลด้าก็เศร้าเช่นกันเมื่อเห็นน้ำตาของจาค็อบเธอเสียใจกับการตัดสินใจของเธอเช่นกันเธอเสียใจที่เธอทิ้งเขาตามแรงยั่วยุไม่มีใครมีความสุขในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาทั้งคู่ต่างก็ต้องทนทุกข์ทรมานทั้งด้านจิตใจและอารมณ์เช่นกันถ้าอย่างนั้น ทำไมเธอถึงเลือกที่จะเลิกกับเขาตั้งแต่แรก?เธอรู้ว่าเขาไม่ชอบเอเลนเธอรู้ว่าเขาคงไม่มีสติแล้ว ไม่อย่างนั้น เอเลนก็คงไม่สามารถหาผลประโยชน์จากเขาได้เธอยังรู้อยู่แล้ว ว่าทั้งหมดเป็นแผนของเอเลนอย่างไรก็ตาม ความเย่อหยิ่งในตัวเธอห้ามไม่ให้เธอมองข้ามมันและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเหรอ? ทั้งคู่ต่างไม่พบความสุขอย่างแท้จริงในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมามาทิลด้ารู้สึกหดหู่และขมขื่นเช่นกัน
จาค็อบสวดอ้อนวอนต่อพระเจ้า หวังให้เอเลนไม่กลับมาอีก เธอทรมานเขามากว่า 2 ทศวรรษ เขาไม่ได้ทำสิ่งที่เขาคิดเขาฝันให้สำเร็จเลยก็เพราะเอเลน มันถึงเวลาที่ต้องปลดปล่อยเขาแล้วถ้าเอเลนไม่กลับมา เขามั่นใจว่าเขาจะได้อยู่กับมาทิลด้าอีกครั้งและสานสัมพันธ์ของพวกเขาต่อเขายังคิดว่าลูกชายของมาทิลด้าเป็นคนค่อนข้างดีและใจกว้างมากพอที่จะยอมรับเขาเป็นพ่อเลี้ยงสำหรับแคลร์ เธอเป็นลูกสาวที่มีเหตุผลและกตัญญู ถ้าแม่ของเธอหายไปจริง ๆ เธอก็คงไม่คัดค้านเขาในการไล่ตามรักแท้ของเขา เพราะท้ายที่สุด เขาไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ไปตลอดชีวิต หลังจากที่เอเลนหายตัวไปความกังวลเดียวของเขาในตอนนี้คือกลัวเอเลนจะกลับมาดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงอ้อนวอนต่อพระเจ้าเพื่อให้ความปรารถนาของเขาเป็นจริงอย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้ว่าพระเจ้าไม่ใช่ผู้ตัดสินใจเรื่องนี้ แต่เป็นชาร์ลี ลูกเขยของเขา***เมื่อชาร์ลีมาถึงทางเข้าโรงแรมแชงกรีลา พนักงานโรงแรมก็เดินไปเปิดประตูทันทีเขามอบกุญแจให้กับพนักงานโรงแรมที่รับผิดชอบบริการจอดรถและพูดกับจาค็อบ, มาทิลด้า และพอล "แชงกรีลาถือเป็นโรงแรมหรูในโอลรัส ฮิลล์ และพวกเขาก็ทำอาหารท้องถิ่นได้ยอดเยี่ยมที่สุ
ความกังวลของจาค็อบตรงไปตรงมาและเรียบง่าย เขากังวลว่าเอเลนจะกลับบ้านอย่างกะทันหันในอีกสองวันข้างหน้า โอกาสอันมีค่าที่จะเชิญมาทิลด้าไปที่บ้านของเขาจะถูกทำลายลงหากเอเลนกลับมาเขาคงไม่กล้าที่จะเชิญมาทิลด้าไปที่บ้านของเขาในตอนที่เอเลนอยู่บ้าน เอเลนคงจะฆ่าเขาที่นั่น!ดังนั้นเขาควรคว้าโอกาสเมื่อมันมาถึงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้มาทิลด้าสะดุดเข้ากับความทรงจำในอดีตของเธอเนื่องจากเธอมาจากเมืองซัดเบอร์รี่ เธอจึงต้องอาศัยในหอพักขณะที่เรียนอยู่ที่โอลรัส ฮิลล์ยิ่งกว่านั้น ในสมัยนั้น ผู้คนไม่ได้เปิดใจพอ ที่จะเปิดเผยว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กัน และพวกเขาค่อนข้างขี้อาย สันโดษ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะให้ครอบครัวรู้ เธออยากจะทำอาหารให้จาค็อบทานอยู่เสมอ แต่พวกเขาไม่เคยได้มีเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมที่จะทำเลยอันที่จริงมันไม่สะดวกเหมือนตอนนี้ทุกวันนี้ คู่รักสามารถเช่าอพาร์ทเมนท์หรือโรงแรมผ่านแอปพลิเคชั่น Airbnb ได้ง่าย ๆ หากพวกเขาต้องการนัดเดทสุดโรแมนติกด้วยการทำอาหารกัน ที่เหล่านั้นต่างก็มีอุปกรณ์ทำครัวที่ครบครันแต่ในสมัยนั้น ไม่มีอย่างทุกวันนี้หากพวกเขาต้องการจองห้องพักที่เกสต์เฮาส์ พวกเขาต
ชาร์ลีเข้าใจทันทีว่าคนชราทั้งสองคนจะต้องมีความทรงจำที่ไม่ธรรมดาเกี่ยวกับ "การทำอาหาร" หรือ "การกลับบ้านพร้อมกับเขา" ซึ่งทำให้พวกเขามีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างเคอะเขินไปเลยทีเดียวพอลยังสังเกตเห็นความผิดปกตินี้ด้วย แต่เขาอายเกินกว่าจะแสดงให้เห็น ดังนั้นเขาจึงหันไปหาชาร์ลี และพูดว่า “ชาร์ลี งั้นไปที่ห้องสวีทของเรากันก่อนแล้วกัน”จากนั้นเขาก็หันไปหามาทิลด้า และพูดว่า “แม่ครับ แม่อยู่บนเครื่องบินมากว่าสิบชั่วโมง แม่คงเหนื่อยมาก ไปที่ห้องสวีทกันก่อนแล้วค่อยคุยกันถ้าแม่มีเรื่องจะพูดกับลุงวิลสัน”จู่ ๆ มาทิลด้าก็สงบสติอารมณ์ได้อีกครั้ง เธอนึกถึงอดีตของเธอกับจาค็อบและนึกถึงรายละเอียดของประสบการณ์การร่วมรักครั้งแรกของพวกเขา เธอหน้าแดงอย่างเขินอายและพูดว่า “โอ้ ให้ตายสิ ฉันไม่คิดอะไรซะหน่อย! ใช่แล้ว งั้นเราไปที่ห้องสวีทของเรากันก่อนแล้วค่อยคุยกันนะ!”จาค็อบรีบพูดขึ้น “ใช่แล้ว ไปที่ห้องสวีทกันเถอะ มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันพูดไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย!”ชาร์ลีส่ายหัวและถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ พวกเขาเป็นเหมือนถ่านไฟเก่าที่โหมกระหน่ำที่มาบรรจบพบกันหลังจากผ่านไป 2 ทศวรรษ! หากพวกเขามีโอกาสได้พบเจอกัน ไ
ชาร์ลีคาดไม่ถึงว่าพอลจะถามคำถามตรงไปตรงมาแบบนี้! แต่ถึงอย่างไร เขารู้ว่าพอลคงจะเดาขึ้นมาเฉย ๆ และเขาจะไม่มีทางยอมรับมันเป็นอันขาดก่อนที่เขาจะปฏิเสธ จาค็อบก็หัวเราะขึ้น และพูดว่า “โถ่ พอล คุณคิดเรื่องนี้มากเกินไป ชาร์ลีเป็นลูกเขยในครอบครัวของเรา ถ้าเขามาจากตระกูลเวดแห่งอีสต์คริฟฟ์จริง ๆ มันคงเป็นนิทานเรื่อง ซินเดอเรลล่าไปแล้ว! พวกเราทุกคนคงจะรวยไปแล้ว!”ถึงแม้ว่าจาค็อบจะเป็นคนเกียจคร้านที่ไม่ได้ทำงานสักวันในชีวิต แต่เขาก็รู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลเวดเป็นอย่างดีจะมีคนสักกี่คนในประเทศที่ไม่รู้จักตระกูลเวด เพราะพวกเขามีชื่อเสียงมากด้วยเหตุผลนี้ เขาจึงมั่นใจมากว่าชาร์ลีไม่ใช่หนึ่งในนั้น เพราะมีคนจำนวนมากที่มีนามสกุลเวดในโลกนี้ แต่มีตระกูลเวดเพียงตระกูลเดียวเท่านั้นยิ่งชีวิตของชาร์ลีนั้นเขารู้เป็นอย่างดี เพราะชาร์ลีอาศัยและเติบโตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตอนที่เขายังเด็ก จากนั้นเขาก็ทำงานในไซต์ก่อสร้างเมื่ออายุ 18 ปี ต่อมานายท่านวิลสันพาเขากลับบ้านเมื่อตอนที่เขาอายุ 20 ต้น ๆ และกลายเป็นลูกเขยของเขาผู้ชายคนนี้จะเป็นสมาชิกของตระกูลเวด แห่งอีสต์ คริฟฟ์ได้อย่างไร?ถ้าชาร์ลีเป็นสมาชิกขอ
มาทิลด้าพูดต่อว่า “ว้าว ฉันไม่ได้คาดหวังว่านายจะยังจำมันได้ทั้งหมดนะเนี่ย เอาจริง ๆ ฉันแทบจำอาหารบางจานไม่ได้ด้วยซ้ำนะ”จากนั้น เธอถอนหายใจและพูดต่อ “จริง ๆ แล้ว อาหารของซัดเบอร์รี่ก็อร่อยเหมือนกัน แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่ฉันเรียนที่วิทยาลัย ฉันชอบอาหารของโอลรัสมากกว่า”จาค็อบพูดด้วยรอยยิ้มเศร้า ๆ “ฉันยังจำได้ว่าเธอพูดเสมอว่าต้องการทำอาหารซัดเบอร์รี่สองสามเมนูให้ฉันลอง แต่ก็น่าเสียดาย…”เขาถอนหายใจ และถามอย่างรวดเร็วว่า “จริงด้วยสิ มาทิลด้า เธอคิดยังไงกับการไปทำอาหารเย็นที่บ้านฉัน? บอกตามตรง ฉันรอมาหลายปีแล้ว ฉันหวังว่าความฝันของฉันจะเป็นจริงเข้าสักวันหนึ่งเสียที!”มาทิลด้าประทับใจกับคำพูดของเขา และพูดว่า “ฉันโอเคนะคะ แต่ฉันไม่รู้ว่าคืนนี้พอลจะว่างไหมเนี่ยสิ”จากนั้นเธอก็หันไปหาพอล และถามว่า “ลูกรัก คืนนี้ลูกยุ่งไหม? ถ้าไม่ เราจะไปทานอาหารเย็นที่บ้านของลุงวิลสันกันไหม? แม่อยากพบลูกสาวของเขาด้วย”พอลพยักหน้าอย่างสง่างาม "ไม่มีปัญหาครับ! ไปกันเถอะ”จาค็อบยิ้มอย่างมีชัย! เขาโพล่งว่า “งั้นตามนี้เลย! มาทิลด้า งั้นคืนนี้เธออยากจะทำอาหารอะไรให้ฉันทานดีล่ะ?”มาทิลด้ายิ้มอย่างเขินอาย
พอลเติบโตขึ้นมาในการอบรมเลี้ยงดูที่เข้มงวดและมีพัฒนาการทางสติปัญญาที่ดีมาก เขาเป็นสุภาพบุรุษที่ใจกว้างและเป็นกลาง ดังนั้น เขาจึงนิ่งเมื่อได้ยินชาร์ลีพูดถึง "งาน" ของเขาที่ไม่เหมือนคนอื่น ๆ ที่มักจะมองเขาแตกต่างไปจากนี้สำหรับชาร์ลี ไม่มีอะไรให้เขาต้องอับอาย เขาเป็นลูกเขยที่ทำงานบ้านมาสามปีแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนที่จะคิดว่าเขาเป็นพวกไร้ประโยชน์ในเวลาเดียวกันนี้ พอลกล่าวว่า “อย่างไรก็ตาม ชาร์ลี ในเมื่อคุณรู้จักคุณคาเมรอนจากแชงกรีลา คุณสะดวกที่จะแนะนำเขาให้ผมรู้จักได้ไหมครับ? ผมตั้งใจที่จะขยายกิจการและเครือข่ายในงานของผมอย่างจริงจังที่โอลรัส ฮิลล์ เนื่องจากผมจะย้ายบริษัทของผมมาอยู่ที่นี่ ผมจะขอบคุณมากถ้าคุณสามารถช่วยผมได้”ชาร์ลีไม่ต้องการให้พอลรู้ว่าเขาสนิทกับไอแซค คาเมรอนแค่ไหน เขาเกือบจะเดาความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลเวดได้แล้วในตอนนี้ เป็นไปได้ที่เขาจะค้นพบรายละเอียด และข้อมูลเพิ่มเติมหากเขารู้จักไอแซคผ่านตัวเขา ดังนั้น เขาจึงกล่าวขอโทษว่า “พูดตามตรงนะ พอล คุณคาเมรอน กับผมเป็นแค่คนรู้จัก ผมเพิ่งรู้จักเพื่อนของเขาเป็นการส่วนตัว และมันค่อนข้างน่าละอายที่จะบอกว่าผมพบคนคนนี้ผ่า
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล