สีหน้าของเชสเตอร์เปลี่ยนไปอย่างมากในเวลานี้ เขากลัวแทบตายทันที และในตอนนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสิ้นหวังเป็นอย่างมาก!เขาจะมีชีวิตอยู่และนอนกับหมูได้อย่างไร? เขาจะกินสิ่งที่หมูกินได้อย่างไร?นั่นมันแย่มากใช่ไหม?นอกจากนั้น หมูยังเป็นสภาพแวดล้อมที่สกปรกและน่าขยะแขยงมาก ยิ่งกว่านั้นกลิ่นของหมูก็น่ารังเกียจและเหม็นมากเช่นกัน เขาคงจะรู้สึกไม่สบายมากแน่ ๆ ถ้าเขาถูกบังคับให้นอนกับหมูที่สกปรกและมีกลิ่นเหม็น!นอกจากนี้ อาหารที่เลี้ยงหมู จะคงหลงเหลืออยู่เสมอ เนื่องจากไม่มีการไหลเวียนของอากาศและอุณหภูมิที่ร้อนในเล้าหมู อาหารที่เหลือจากการให้หมูมักจะเน่าเสียภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ถ้าเขาต้องกินอาหารประเภทนี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับสุขภาพและร่างกายของเขาที่เขาดูแลอย่างดีมาหลายปีขนาดนี้?เขายังต้องอยู่กับหมูเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เขากลัวว่าเขาจะเรออ้วกทั้งสัปดาห์ที่นั่น!ขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เชสเตอร์รีบอ้อนวอนอัลเบิร์ตว่า “ดอน อัลเบิร์ต โปรดเมตตาและยกโทษให้ผมด้วยครับ ผมไม่ต้องการที่จะนอนและอยู่กินกับหมูในเล้า สถานที่นั้นสกปรกและน่าสะอิดสะเอียนเกินไป ผมทนไม่ได้หรอก…"อัลเบิร์ตหัวเราะเยาะ
จาค็อบก็ตกตะลึงเล็กน้อยเช่นกัน เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “นี่…มันไม่เหมาะสมเกินไปหรือเปล่า?”อัลเบิร์ตตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “คุณวิลสัน เนื่องจากคุณเป็นพ่อตาของคุณเวด แน่นอนว่าเป็นการเหมาะสมที่สุดสำหรับคุณที่จะรับประทานอาหารในห้องไดมอนด์!”จาค็อบโล่งใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้และรีบพูดขึ้นว่า “ดอน อัลเบิร์ต คุณสุภาพและมีมารยาทกับผมเกินไป”ในที่สุดคุณเบย์และกรรมการคนอื่น ๆ ก็รับรู้ได้ว่าจาค็อบเป็นบุคคลที่โดดเด่นมากเช่นกันหากพวกเขาสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับจาค็อบ พวกเขาก็จะช่วยตัวเองให้พ้นจากความกังวลและปัญหาในอนาคตได้อย่างแน่นอน!หลังจากนั้น อัลเบิร์ตก็พาพวกเขาไปที่ห้องไดมอนด์เป็นการส่วนตัวคุณเบย์และกรรมการคนอื่น ๆ เดินตามหลังจาค็อบอย่างเงียบ ๆ ด้วยสีหน้าแสดงความเคารพ พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรจาค็อบเห็นแบบนี้เขาก็รู้สึกมีความสุขและตื่นเต้นมากจริง ๆเห็นได้ชัดว่าเขากระตือรือร้นมากที่จะเชิญคนเหล่านี้มาทานอาหารค่ำกับเขา อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ทุกคนต่างก็เกรงกลัวเขา!ในเวลานี้ จาค็อบอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเขาได้ประโยชน์มากมายจากลูกเขยของเขา ชาร์ลี!***ขณะที่อัลเบิร์ตกำลังพาจาค็อบ
ก่อนหน้านี้ มาร์คัสมักจะใจสะลายและเศร้าโศกอยู่เสมอเมื่อเขามาที่เฮเว่น สปริงส์ เพื่อมาหาอัลเบิร์ตพร้อมคำว่า 'ไอ้ขี้แพ้ที่น่าสมเพช' ปรากฏบนหน้าผากของเขาทุกครั้งที่เขามาที่นี่ แขกทุกคนและแม้แต่พนักงานในเฮเว่น สปริงส์ ก็มักจะจ้องมองมาที่เขาเสมอและมันทำให้เขารู้สึกอับอายอย่างมากอย่างไรก็ตาม วันนี้แตกต่างออกไปในที่สุดอัลเบิร์ตก็จะตายในวันนี้ หลังจากคืนนี้ อัลเบิร์ตจะหายไปจากโอลรัส ฮิลล์อย่างสิ้นเชิง! และเคน พ่อของเขาจะเข้ามาแทนที่ทรัพสมบัติของอัลเบิร์ตต่อ!ในตอนนั้น เคนจะกลายเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียคนต่อไปของโอลรัส ฮิลล์!เมื่อถึงเวลานั้น ผู้คนจะเต็มไปด้วยความเคารพต่อเขาและเรียกเขาว่า ดอน เคน!นอกจากนั้น มาร์คัสยังสามารถลบรอยแผลเป็นที่น่าอับอายที่เขามีบนหน้าผากได้ในที่สุดและเขาก็จะเป็นอิสระจากเงาแห่งความอัปยศอดสู ด้วยคำว่า 'ไอ้ขี้แพ้ที่น่าสมเพช' บนหน้าผากของเขาที่สลักอยู่กับเขาในช่วงเวลานี้มาร์คัสรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อคิดถึงเรื่องนี้หลังจากที่เห็นลูกชายของเขาเข้าไปในเฮเว่น สปริงส์แล้ว เคนซึ่งรออยู่ภายในรถก็รีบพูดด้วยความเคารพต่อจอห์นนี่ บอดี้การ์ดของตระกูลเว็บบ์ "คุณจอห์นนี่ ผมจะต้
ไม่นานหลังจากนั้น ผู้จัดการสาวสวยก็เดินกลับเข้าไปในห้องไดมอนด์ ในเวลานี้มีชายหนุ่มขี้อายเดินตามเธอไป และเขาก้มศีรษะลงราวกับว่าเขาไม่กล้าเงยหน้าเลยจาค็อบและคนอื่น ๆ ในสมาคมเขียนพู่กันและจิตรกรรมต่างก็สับสนมากในเวลานี้ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าทำไมอัลเบิร์ตถึงเตรียมเด็กคนนี้เป็นการแสดงให้พวกเขาอันที่จริง ไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับชายหนุ่มคนนี้เลย!ทันทีที่ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องไดมอนด์ เขาก็โค้งคำนับต่อหน้าอัลเบิร์ตทันทีโดยไม่พูดอะไรเลย หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาพูดด้วยความกลัวและให้เกียรติ “น้าอัลเบิร์ต ผมมารายงานตัวกับคุณแล้ว กรุณาตรวจสอบรอยแผลเป็นของผมด้วย”คนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก มาร์คัส ลอยด์วันนั้น หลังจากที่สลักคำว่า 'ไอ้ขี้แพ้ที่น่าสมเพช' บนหน้าผากของมาร์คัสที่ชองป์ เอลิส สปา รีสอร์ท อัลเบิร์ตได้สั่งให้เขามาที่เฮเว่น สปริงส์ทุกสัปดาห์ เพื่อที่เขาจะได้ตรวจสอบและดูรอยแผลเป็นด้วยตนเองเพื่อให้แน่ใจว่าชายคนนี้ไม่ได้ทำการกำจัดรอยแผลเป็นหรือทำศัลยกรรมตกแต่งใด ๆ เพื่อลบรอยแผลเป็นบนหน้าผากของเขาอย่างไรก็ตาม อัลเบิร์ตไม่รู้ว่าเหตุผลที่มาร์คัสมาที่นี่ในวันนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อรายง
หลังจากที่มาร์คัสโดนดูถูกอัลเบิร์ตก็โบกมือให้เขาไปโดยปกติ หลังจากการพบเจอกันที่น่าอับอายที่เฮเว่น สปริงส์ มาร์คัสจะปกปิดหน้าผากของเขาและกลับบ้านอย่างรวดเร็วแต่คราวนี้ เขาเดินกลับไปที่ลานจอดรถด้วยใบหน้าที่อาฆาตแค้นและเข้าไปในรถที่เคนและจอห์นนี่อยู่เคนรอเขาเป็นเวลานาน เมื่อมาร์คัสขึ้นรถเขาจีงรีบถาม “ลูก เป็นไงบ้าง?”มาร์คัสกัดฟันและพูดว่า “ข้างในมีพนักงานและยามอยู่สามสิบคน แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง คนที่สามารถต่อสู้อย่างดุเดือดจริง ๆ มี รปภ.สิบสองคน”เคนหันไปหาชายที่นั่งข้างเขาและถามด้วยน้ำเสียงกังวลว่า จอห์นนี่ คุณมั่นใจไหมว่าสามารถจัดการกับผู้ชายได้มากมายขนาดนี้ได้? คุณจะแพ้ไหมถ้าพวกเขาเริ่มโจมตี?”จอห์นนี่ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “หึ แม้ว่าทั้งสามสิบคนจะเป็น รปภ. พวกเขาก็เป็นแค่ไอ้ทึ่มสำหรับเรา!”เคนชมเชยทันทีว่า “ว้าว คุณจอห์นนี่ คุณวิเศษจริง ๆ! ผมประทับใจ!"จอห์นนี่พยักหน้าหยิ่ง จากนั้นเขาก็มองไปที่มาร์คัสและถามว่า “อัลเบิร์ตอยู่ที่ไหนตอนนี้?”“เขาอยู่ที่ห้องไดมอนด์สวีทที่ชั้นบนสุด!”จากนั้นเขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “พ่อ คุณจอห์นนี่ ผมพบบางอย่าน่าแปลกใจเมื่อเข้าไปข้างใ
แต่อย่างไรก็ตาม การจัดเตรียมอาหารค่ำของดอน อัลเบิร์ตในคืนนี้นั้นฟุ่มเฟือยมากจนจาค็อบตกตะลึงหอยเป๋าฮื้อสองหัวที่ดีที่สุดหนึ่งตัวสำหรับแต่ละตัวมีราคา 8,880 ดอลลาร์ต่อคน นอกเหนือจากเห็ดทรัฟเฟิลดำ คาเวียร์และอาหารอื่น ๆ ที่ราคาสูงถึงหลายพันดอลลาร์สำหรับการเสิร์ฟแต่ละครั้งเขาคาดว่าอาหารค่ำนี้มีมูลค่าอย่างน้อยสองถึงสามล้าน!จาค็อบไม่เคยกินอาหารราคาแพงแบบนี้มาตลอดชีวิต เขาสั่นด้วยความยินดีและพูดกับอัลเบิร์ตว่า “คุณโรดส์ ขอบคุณมากสำหรับการต้อนรับของคุณ! ผมซาบซึ้งจริง ๆ !”อัลเบิร์ตยิ้มอย่างแผ่วเบา หยิบนามบัตรจากกระเป๋ากางเกง แล้วพูดขณะยื่นให้จาค็อบ “คุณวิลสัน นี่คือนามบัตรของผม โปรดเก็บไว้! ครั้งหน้าถ้าคุณต้องการมาที่เฮเว่น สปริงส์อีกครั้ง เพียงโทรหาผมแล้วผมจะจองไดมอนด์ สวีท ให้คุณทันทีเลยครับ”จาค็อบยิ้มขณะถือนามบัตรเหมือนเด็กที่ได้รับอมยิ้มคนในสมาคมต่างเห็นเหตุการณ์นี้ด้วยความประหลาดใจ!จาค็อบสุดยอดจริง ๆ ! ดอน อัลเบิร์ตผู้มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่ กลายเป็นเหมือนพ่อบ้านผู้ถ่อมตนต่อหน้าเขาโดยไร้ซึ่งคุณสมบัติของราชาแห่งโลกใต้ดินเลยอัลเบิร์ตไม่เพียงแต่เสิร์ฟอาหารและเทไวน์ให้พวกเขาเท่าน
ทุกคนในห้องสวีทตกใจกับเสียงทันทีพวกเขามองไปที่ประตูและเห็นชายร่างกำยำกำลังเดินเข้าไปในห้อง ในชุดสูทด้วยใบหน้าเย็นชาข้างหลังเขา ผู้ชายที่ดูหยิ่งผยองสี่คนเดินตามเข้ามาในห้องด้วยชายห้าคนนี้เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของโดนัลด์ เว็บบ์เคนและมาร์คัสติดตามคนเหล่านี้ด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าของพวกเขาอัลเบิร์ตขมวดคิ้วด้วยความตกใจเมื่อเห็นพวกลอยด์และโวยวายว่า “หือ พวกแกนี่กล้ามาก กล้าเอาคนมาท้าทายฉันที่ร้านอาหารของฉันเหรอ?!”มาร์คัสพ่นลมหายใจอย่างรังเกียจ “อัลเบิร์ต โรดส์ แกอวดดีของแกไปเถอะ แต่แกจะต้องตายในไม่ช้า! ฉันจะไม่มีวันลืมความอัปยศและการดูถูกที่ฉันได้รับจากแก และฉันมาที่นี่เพื่อฆ่าแกในวันนี้!”ทุกคนอ้าปากค้างทันทีที่มาร์คัสพูดจบ!เขาจริงจังไหม?เขากล้าพอที่จะฆ่าดอน อัลเบิร์ต จริง ๆ เหรอ?!อัลเบิร์ตหัวเราะกับคำพูดที่ชั่วร้ายของเขาแทนและพูดว่า “แกเหรอ? ที่ต้องการจะฆ่าฉัน? แกคิดว่าชื่อของฉันเป็นแค่เรื่องโกหกเหรอ? แกรู้ไหมว่าฉันมีเด็กในเมืองนี้กี่คน?”เคนพูดแทรก “ให้ฉันบอกแกบางอย่าง อัลเบิร์ต มันไม่สำคัญแล้ว ว่าแกมีเด็กกี่คน สำหรับเหล่า รปภ.หลายสิบคนที่แกมีในร้านอาหารถูกกวาดเรียบ
จาค็อบตัวสั่นสะท้านไปด้วยความกลัว เขากระตุ้นมอร์แกนเมื่อเห็นเขายืนนิ่งและลังเล “มอร์แกน ไปซะ! หากพวกเขาโจมตีนายจริง ๆ ฉันไม่รู้จะพูดกับครอบครัวของนายได้อย่างไร!”จอห์นนี่ตะโกนอย่างเย็นชา “ถ้าไม่อยากไป ก็อยู่ต่อสิ”มอร์แกนกัดฟันด้วยความเจ็บปวด หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หันหลังกลับและวิ่งออกจากห้องสวีทไปตอนนี้จาค็อบสิ้นหวังอย่างมาก แต่เขาโชคดีมากที่อัลเบิร์ตอยู่กับเขา เขาจึงสวดอ้อนวอนขอให้อัลเบิร์ตสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ได้เขารู้เพียงเล็กน้อยว่าอัลเบิร์ตไม่ได้มีอำนาจมากนักในขณะนี้ถ้าคนของเขาอยู่ใกล้ ๆ พวกเขาคงจะบุกเข้ามาในห้องไดมอนด์ สวีทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากไม่มีใครเข้ามาจึงพิสูจน์ว่าพวกเขาคงได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตตามที่คนพวกนี้กล่าวเคนจ้องไปที่อัลเบิร์ตด้วยความขุ่นเคือง และตะโกนขึ้นว่า “อัลเบิร์ต โรดส์ วันนี้เป็นวันตายของนาย!”จากนั้นเขาก็หันกลับมากล่าวด้วยความเคารพต่อจอห์นนี่ว่า “คุณจอห์นนี่ ได้โปรดจัดการเขาได้เลยครับ!”จอห์นนี่พยักหน้า เขาก้าวไปข้างหน้า และพูดว่า “อัลเบิร์ต โรดส์ เตรียมตัวตายซะเถอะ!”อัลเบิร์ตค่อนข้างชำนาญในศิลปะการ
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล