เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น แคลร์ตื่นแต่เช้าและแต่งหน้าเล็กน้อยหลังจากที่เธอแต่งหน้าเสร็จ ชาร์ลีก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะเธอดูสวยมากอย่างไรก็ตาม เขาถามแคลร์ด้วยความอยากรู้ไปว่า “ที่รัก ปกติคุณไม่แต่งหน้าไปทำงานไม่ใช่เหรอ ทำไมวันนี้คุณถึงได้แต่งหน้าล่ะ? คุณกำลังจะไปพบกับใครที่สำคัญหรือเปล่า?”ในวันปกติ แคลร์มักจะออกจากบ้านด้วยใบหน้าที่เปลือยเปล่า เพราะเธอมีรูปร่างหน้าตาที่น่าพอใจ และสวยงามอยู่แล้ว เธอมีผิวที่อมชมพูและมีเลือดฝาด เธอแทบไม่ต้องแต่งหน้าอะไรเลยแคลร์ตอบอย่างจริงจังไปว่า “วันนี้เป็นการประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมการตกแต่งที่โอลรัสฮิลล์ค่ะ ทำไมคุณถึงไม่ไปกับฉันล่ะ? มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนะคะ ที่อยู่ ๆ ทางผู้จัดงานจะเชิญฉันเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมการตกแต่งนี้ ถึงฉันจะเพิ่งเริ่มก่อตั้งบริษัทก็ตาม แต่นี่ก็เป็นโอกาสดีที่ฉันจะได้ปรากฏตัว และสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในวงการนี้ ดังนั้นฉันต้องทำให้แน่ใจว่า ฉันมุ่งมั่นพอที่จะสามารถตั้งหลักในอุตสาหกรรมนี้ได้ และสามารถดำเนินการได้ดีในอนาคตอีกด้วยไงล่ะคะ”ชาร์ลีถามด้วยสีหน้าประหลาดใจว่า “ใครเป็นผู้สนับสนุนการประชุมสุดยอดครั้งนี
กลับกลายเป็นว่าผู้ชายที่เวนดี้กำลังคล้องแขนอยู่นั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นประธานบริษัทในอีสต์คลิฟฟ์ ซึ่งเป็นระดับมหาชนจำกัด หรือในอีกความหมายก็คือ บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้นเอง!ไม่เพียงแค่นั้น นามสกุลของอีกฝ่ายยังเป็นวิลสันด้วย? เขาเป็นญาติของพวกเขาอย่างนั้นหรือ?ชาร์ลีอดไม่ได้ที่จะถามแคลร์ออกไปว่า “ที่รัก คุณรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลวิลสันกับคนที่ชื่อเคนเน็ธ วิลสัน คนนี้หรือเปล่า เขาเป็นญาติห่าง ๆ เหรอ?”“ฉันไม่รู้เลยค่ะ… ” แคลร์ตอบกลับไป ก่อนจะพูดต่ออีกว่า “ฉันไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อนเลย… ”“มันแปลกมาก… ” ชาร์ลีพึมพำ “ปกติแล้วประธานบริษัทมหาชนที่มีมูลค่าตลาดหลายแสนล้านบาทจะไม่มาปะปนกับคนที่มีฐานะต่ำต้อย เช่นตระกูลวิลสันหรอก นับประสาอะไรกับคนแบบเวนดี้ คุณคิดว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมหรือเปล่า?”แคลร์รีบตอบกลับไปทันทีว่า “อย่าพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้นะคะ! ผู้ชายคนนั้นดูแก่กว่าลุงของฉันอีก! พวกเขาจะทำผิดประเพณีแบบนั้นได้ยังไงกัน?”ในเวลานี้ เวนดี้มีความสุขและตื่นเต้นมาก ขณะที่เธอถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย ในที่สุด เธอก็ได้อยู่ในท่ามกลางความสนใจ!เ
เวนดี้รู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อคิดว่า ในที่สุดเธอก็ได้มีโอกาสแก้แค้นแคลร์และชาร์ลีได้แล้ว เธอจับแขนของเคนเน็ธอย่างตื่นเต้นขณะที่พาเขาไปหาสองคนนั้นทันทีที่พวกเขาเข้าใกล้ทั้งคู่ เวนดี้ก็พูดอย่างหยิ่งผยองไปว่า “โอ้ ดูสิว่าใครอยู่ที่นี่! ผู้หญิงที่ถูกไล่ออกจากตระกูลวิลสันกับลูกเขยของตระกูลวิลสันที่ไม่ได้เป็นอะไรไม่ได้เลย นอกจากเศษขยะ! พวกเธอมีคุณสมบัติพอที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้ด้วยเหรอ?”เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว เวนดี้ก็มองแคลร์ด้วยสายตาดูถูกตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่เธอจะตะคอกอย่างหยิ่งยโสไปว่า “แคลร์ เธอเพิ่งเปิดสตูดิโอนี่ ตอนนี้ก็ยังไม่มีพนักงานแม้แต่คนเดียวเลยด้วยซ้ำ! เธอคิดว่าบริษัทของเธอ มีสิทธิ์ที่จะมาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมแบบนี้ได้เหรอ? ฉันคิดว่า เอ็มแกรนด์กรุ๊ปต้องตาบอดแน่ ๆ ที่เชิญเธอมาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดในวันนี้!”เมื่อชาร์ลีเห็นว่าเวนดี้เดินเข้ามาหาพวกเขาเช่นนั้น เขาก็ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เวนดี้ เมื่อวันก่อน เธอยังคุกเข่าต่อหน้าเราและร้องขอความเมตตาอยู่เลย แถมคุณย่าของเธอยังตบเธอด้วยซ้ำ เพราะดูหมิ่นฉัน ลืมไปแล้วเหรอ? ฉันคิดว่าเธอควรจะกังวลเกี่
เคนเน็ธมองชาร์ลีตั้งแต่หัวะจรดเท้า ก่อนที่เขาจะหัวเราะเยาะและพูดไปว่า “นายเป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ของตระกูลวิลสันงั้นเหรอ?”ชาร์ลีตอบไปเบา ๆ ว่า “ใช่ ผมเอง คุณมีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า?”เคนเน็ธตอบอย่างเย็นชาไปว่า “ฉันได้ยินมาว่า นายดูถูกและทำให้เวนดี้อับอายมาก ฉันจะค่อย ๆ ทำให้นายได้ชดใช้กับสิ่งที่นายทำกับเวนดี้!”ชาร์ลีพยักหน้าก่อนที่เขาจะพูดอย่างเหยียดหยามกลับไปว่า “อ้อ เราไม่มีเวลาทั้งวันขนาดนั้นหรอกครับ ถ้าคุณอยากล้างแค้นให้เธอ คุณควรทำตอนนี้เลยดีกว่า”ในตอนแรกเคนเน็ธคิดว่า เขาจะสามารถทำให้ชาร์ลีคุกเข่า และขอความเมตตาได้ หากเขาได้เปิดเผยตัวตนของเขา และพูดคำพูดที่ไร้ความปรานีกับเขาสักสองสามคำ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้คาดคิดว่า เศษขยะอย่างชาร์ลีจะกล้าพูดกับเขาด้วยท่าทางที่ไม่สุภาพเช่นนี้! เคนเน็ธขบฟันก่อนจะพูดไปว่า “ไอหนุ่ม นายอวดดีนักนะ นายรู้ไหมว่า ฉันเป็นใคร?”ชาร์ลียิ้มเยาะก่อนที่เขาจะพูดไปว่า “คุณไม่ได้เป็นอะไรเลย นอกจากขยะสำหรับผม ผมไม่สนใจตัวตนของคุณหรอก”เคนเน็ธโกรธมากและพูดกลับไปว่า “ถึงฉัน เคนเน็ธ วิลสันจะไม่ได้มาจากโอลรัสฮิลล์ แต่ที่นี่ฉันก็มีชื่อเสียงและมีอำนาจมากเช่นก
เมื่อเคนเน็ธเห็นว่าชาร์ลีกำลังเหยียบเป้าของเขา เขาก็ตกใจมากจนหน้าซีดทันทีแม้ว่าเขาจะเชื่อว่า ชาร์ลีเป็นเพียงเศษขยะที่เขาสามารถกำจัดได้ด้วยปลายนิ้ว แต่เขาก็รู้ดีว่า เขาจะสูญเสียความเป็นชายไปอย่างแน่นอน หากชาร์ลีเหยียบเป้ากางเกงเขาอีกครั้ง!แม้ว่าเขาจะสามารถกำจัดชาร์ลีได้ในอนาคต สิ่งนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อเขาได้อย่างไร? หากเขาจะต้องสูญเสียความเป็นชายไป!ในฐานะผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะผู้ชายที่ร่ำรวย และมีอำนาจเช่นเขา เขามักจะมีผู้หญิงมากมายอยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เขาก็ไม่สามารถที่จะสูญเสียความเป็นลูกผู้ชายไปได้! แล้วมันจะต่างกันอย่างไรกับการฆ่าชาร์ลีล่ะ?ดังนั้นเขาจึงรีบขอความเมตตา “น้องเวด! น้องเวด! เราพูดคุยเรื่องนี้กันเองได้นะ!”ชาร์ลียิ้มก่อนที่เขาจะพูดว่า “ทำไม? คุณกลัวงั้นเหรอ?”มีเหงื่อเต็มทั่วใบหน้าของเคนเน็ธ เขาพยักหน้าซ้ำ ๆ ก่อนที่จะพูดว่า “ฉันผิดเอง! ฉันรู้แล้วว่าฉันคิดผิด! ช่วยยกโทษในความไม่รู้ของฉันด้วย แค่ในครั้งนี้ ปล่อยฉันออกไปเถอะนะ”ในความเป็นจริงแล้ว เคนเน็ธมีแผนอื่นอยู่ในใจ หลังจากรักษาความเป็นชายแล้ว เขาจะจ้างคนมาสอนบทเรียนให้กับชาร์ลี และฆ่าเขาซะ เ
เคนเน็ธไม่เข้าใจสิ่งที่ชาร์ลีพูด เขาถามโดยไม่รู้ตัวไปว่า “นาย… นายหมายถึงอะไร?”ชาร์ลียิ้มก่อนจะพูดว่า “ไม่เป็นไร ผมจะไม่เหยียบเป้าของคุณ แต่ผมจะกำจัดความเป็นชายของคุณ!”หลังจากนั้น ชาร์ลีก็ใช้นิ้วเท้า เตะเข้าที่หน้าท้องของเคนเน็ธ และในเวลานี้ พลังทางจิตวิญญาณบางส่วนก็ไหลออกมาจากนิ้วเท้าของเขานับตั้งแต่ที่เขาได้เรียนรู้คัมภีร์วันสิ้นโลก ชาร์ลีก็ได้เข้าใจและเรียนรู้วิธีควบคุมพลังชี่ของเขา ร่องรอยของพลังชี่ที่เขาเพิ่งปล่อยออกมานี้ สามารถตัดเส้นประสาทของเคนเน็ธได้ และทำให้เคนเน็ธใช้ความชายไม่ได้อีกเลยอย่างไรก็ตาม เคนเน็ธไม่รู้ว่าชาร์ลีกำลังทำอะไรอยู่ เมื่อเขาเอานิ้วเท้าแตะท้องส่วนล่างเบา ๆในเวลานี้เขายังไม่ได้สังเกตว่า เขาได้สูญเสียความเป็นลูกผู้ชายไปแล้ว ในอนาคตเขาจะสามารถมองเฉพาะส่วนผู้ชายของเขาได้ แต่เขาจะไม่สามารถใช้มันได้อีกตอนนี้เคนเน็ธโกรธและหวาดกลัวมาก และเขาแค่อยากจะหนีออกไปจากตรงนี้ เขาจะได้พาบอดี้การ์ดของเขากลับมาพร้อมกับเขา และสั่งให้พวกเขาทุบตีชาร์ลีให้ตาย ก่อนที่พวกเขาจะทำลายความเป็นลูกผู้ชายของชาร์ลีซะ!ในขณะที่เขาครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็กัดฟันและถามไปว่า “ฉันอ
แคลร์รู้สึกเหมือนกับว่า มีการเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวในตัวชาร์ลี เคนเน็ธที่เพิ่งหนีออกมาจากห้องโถง กลับมาพร้อมกับบอดี้การ์ดสี่คนที่ยืนอยู่เคียงข้างเขา!บอดี้การ์ดทั้งสี่คนนี้ เป็นบอดี้การ์ดที่มีฝีมือที่สุดที่ทำงานให้กับเขา แต่ละคนมีความแข็งแกร่ง และทักษะการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาในความคิดของเขา มันคงเป็นเรื่องง่ายสำหรับบอดี้การ์ดทั้งสี่คนที่จะฆ่าชาร์ลี!อย่างไรก็ตาม เขาไม่ต้องการฆ่าชาร์ลีต่อหน้าฝูงชนวันนี้เขาต้องการบังคับให้ชาร์ลียอมจำนนและเรียกเขาว่า ‘ปู่’ ต่อหน้าทุกคนที่นี่! หลังจากที่เขากู้หน้าของตัวเองกลับคืนมาแล้ว เขาก็จะทำลายความเป็นชายของชาร์ลีทันที!หลังจากนั้น เขาจะหาโอกาสอื่นเพื่อกำจัดชาร์ลีในอนาคต!ทุกสิ่งที่เขาจะทำในวันนี้ทั้งหมด ก็เพื่อบรรเทาความโกรธแค้นที่อัดอั้นไว้ เคนเน็ธรู้ว่า วิธีเดียวที่เขาจะสามารถคลายความเกลียดชังทั้งหมดที่เขารู้สึกอยู่ข้างในได้ก็คือ การฆ่าชาร์ลี!อย่างไรก็ตาม เขามีชีวิตอยู่มานานกว่าห้าสิบปีแล้ว เขาไม่เคยรู้สึกอับอาย หรือขายหน้าเท่าวันนี้เลยหลังจากวิ่งเข้าไปในสถานที่ประชุมพร้อมกับบอดี้การ์ด เคนเน็ธชี้ไปที่ชาร์ลีก่อนที่เขาจะตะโกนไปว่า “วันนี้ถ้าใค
บอดี้การ์ดมีสายตาที่หวาดกลัวขณะที่พวกเขาจ้องมองไปที่ชาร์ลี!ทำไมหนุ่มคนนี้ถึงได้น่ากลัวขนาดนี้?! ทั้งสามคนโจมตีเขาในคราวเดียวกัน แต่พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับชายหนุ่มเพียงคนเดียวจริง ๆ หรือ? พวกเขาสูญเสียประสิทธิภาพในการต่อสู้ไปอย่างนั้นเหรอ?! นี่… ชายหนุ่มคนนี้คือพระเจ้า!ชาร์ลีเดินเข้าไปหาบอดี้การ์ดทั้งสามคน ก่อนที่เขาจะจ้องมองพวกนั้นด้วยสีหน้าเย็นชา และพูดไปว่า “ไหน ๆ นายสนุกกับการเป็นสุนัขให้คนอื่น ฉันจะทำให้แน่ใจว่า ในอนาคตนายจะได้คลานบนพื้น!”หลังจากนั้นชาร์ลีก็เหยียบไปที่ขาขวาข้างหนึ่งของบอดี้การ์ด!แกร็บ!กระดูกสะบ้าหัวเข่าข้างขวาของชายคนนั้นแหลกทันทีหลังจากนั้น เขาก็ยกเท้าขึ้นอีกครั้ง และบดไปที่กระดูกสะบ้าหัวเข่าข้างซ้ายของอีกฝ่ายเมื่อบอดี้การ์ดอีกสองคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาต่างก็ตัวสั่นด้วยความตกใจ!หลังจากนั้น บอดี้การ์ดทั้งสองก็เริ่มโอดครวญ และขอความเมตตาจากชาร์ลีชาร์ลีตอบอย่างเย็นชาไปว่า “เมื่อต้องทำร้ายคนอื่น นายเป็นพวกอันธพาลที่โหดร้ายกว่าใคร ๆ ถึงอย่างนั้น เวลาที่นายเจ็บปวด นายก็จะขี้ขลาดมากกว่าใคร ๆ ด้วย! ถ้าฉันปล่อยนายไปวันนี้ เมื่อต้องจัดการกับคนที่อ่อนแอกว่
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล