ในความเป็นจริงระหว่างเดินทางไปโรงพยาบาล ชาร์ลีได้วางแผนที่จะรักษาพ่อตาของเขาด้วยตัวเอง เขามั่นใจว่ายาของเขาสามารถรักษาอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังได้อย่างง่ายดายอย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขามาถึงโรงพยาบาล เขาพบว่าเจสันอยู่ที่นั่นกับดร.ลินช์และเอเลนจะมาห้ามไม่ให้เขามายุ่งเกี่ยวกับการรักษาอย่างแน่นอน แล้วเขาก็ยังกังวลว่ายาที่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้จะทำให้เกิดความสงสัยและมันคงยากสำหรับเขาที่จะอธิบายตัวเองได้ตอนนี้แอนโธนีอยู่ที่นี่แล้ว เขาจะเป็นโล่ในการจัดการเรื่องนี้ ชื่อเสียงและประสบการณ์ของแอนโธนีจะปกปิดการรักษาของจาค็อบได้อย่างดีเยี่ยม ท้ายที่สุดมันน่าเชื่อถือกว่านี้ถ้าปาฏิหาริย์ทางการแพทย์ถูกสร้างขึ้นในมือของเขาแอนโธนีเข้าใจข้อกังวลของเขา แต่เขาก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า “ปรมาจารย์เวดครับ อาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังมักมีความซับซ้อนไม่ว่าจะเป็นการรักษาทางการแพทย์แบบจีนหรือแบบตะวันตก และไม่มีวิธีใดที่จะรักษาให้หายขาดได้ คุณแน่ใจหรือครับว่ายาวิเศษของคุณจะใช้ได้ผล?”จากนั้นเขาก็แสดงสีหน้าขอโทษและพูดต่อว่า “ขออภัยด้วยครับปรมาจารย์เวด ผมไม่ได้ตั้งใจจะสงสัยในตัวยาของคุณ แต่ผมเพียงไม่เข้าใจมัน มันเ
ในขณะนี้ แคลร์กังวลมากเกี่ยวกับสถานการณ์ของพ่อของเธอเธอไม่คาดคิดว่าดร.โจชัว ลินช์ที่เจสันเชิญมาจะกลายเป็นหมอต้มตุ๋นจริง ๆเมื่อโจชัวถูกเปิดโปงแล้วเธอจะหาใครในโอลรัสฮิลล์เพื่อรักษาพ่อของเธอได้อีก?ชาร์ลีพาแอนโธนีมาหาเธอและพูดว่า “แคลร์นี่คือดร.แอนโธนี ซิมมอนส์ แพทย์ที่มีชื่อเสียง เขาสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของคุณพ่อได้”แคลร์และเอเลนดีใจมากเมื่อได้ยิน! พวกเขาไม่เคยคิดว่าแอนโธนี ซิมมอนส์ แพทย์ชื่อดังของประเทศจะเต็มใจที่จะมารักษาจาค็อบแคลร์รีบพูดขึ้นว่า “ดร.ซิมมอนส์ ต้องขอขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณนะคะ!”แอนโธนียิ้มและกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวลคุณผู้หญิงเวด ผมเป็นหนี้บุญคุณของปรมาจารย์เวดและผมจะพยายามให้ดีที่สุดครับ”จากนั้นเขาก็เดินไปที่เตียงพลางหยิบเม็ดยาออกมาผ่าครึ่งอย่างระมัดระวังแล้วใส่เข้าไปในปากของจาค็อบ ภายใต้การจ้องมองที่คาดหวังของทุกคนทุกคนต่างพากันกลั้นหายใจและคาดหวังกับเหตุการณ์ตรงหน้าแพทย์ของจาค็อบกำลังเฝ้าดูอย่างเต็มตา แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อว่ายาจีนจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังได้แต่ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาคือดร.แอนโธนี ซิมมอนส์ผู้โด่งดังดังผู้นั้น อา
ในขณะเดียวกันนี้ เมื่อจาค็อบรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ในร่างกายของเขา เขาก็จ้องมองอย่างว่างเปล่าด้วยความงุนงงและไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดเขาจำได้ราง ๆ ว่าเขาได้ประสบกับอุบัติเหตุและเขาขยับตัวไม่ได้เลย ไม่ใช่เหรอ?แต่ตอนนี้ทำไมเขาถึงรู้สึกราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา? เขารู้สึกมีพลังและแข็งแรงดียิ่งกว่าก่อนเกิดอุบัติเหตุเสียอีก!นี่มันเกิดอะไรขึ้น?จาค็อบสับสนงุนงงมาก เขาถามต่อว่า “แคลร์ เกิดอะไรขึ้นกับพ่อ?”แคลร์ฟื้นคืนสติ เธอรีบไปหาพ่อของเธอและพูดขณะที่เธอร้องไห้ว่า “คุณพ่อประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเกือบจะเป็นอัมพาต แต่ต้องขอบคุณดร.ซิมมอนส์เป็นอย่างมากค่ะ เพราะตอนนี้คุณพ่อไม่เป็นอะไรแล้ว”จากนั้นเธอก็เดินไปหาแอนโธนีและกล่าวอย่างซาบซึ้งว่า “ดร.ซิมมอนส์ ขอบคุณมากนะคะ! ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณพ่อของฉันก็คงไม่ฟื้นขึ้นมา”ก่อนที่เธอจะโค้งคำนับนั้น แอนโธนีหยุดเธออย่างรวดเร็วในขณะที่เขาคิดกับตัวเองว่า ‘ที่จริงแล้วคุณควรจะขอบคุณปรมาจารย์เวดต่างหาก หากไม่มียาของเขา ก็คงไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บของพ่อคุณได้ ถ้าต้องบอกความจริงแล้วนั้น มันเป็นยาของปรมาจารย์เวดต่างหากที่ช่วยให้พ
แคลร์รู้สึกอับอายมากหลังจากได้ยินคำเตือนนี้จากแม่ของเธอนอกจากนี้เธอเองก็รู้สึกว่าชาร์ลีกำลังหาเรื่องเสี่ยงครั้งใหญ่ จากการให้คำแนะนำเกี่ยวกับฮวงจุ้ยแก่บรรดาบุคคลที่ร่ำรวยและมีอำนาจเหล่านี้ มันไม่ต่างอะไรกับการที่เขาเดินไต่ขึ้นแกรนด์แคนยอนซึ่งนั้นมันเป็นงานที่อันตรายอย่างมากมีปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยและอภิปรัชญาจำนวนมากที่เคยได้หลอกลวงคนดังหลายคนในอดีต แต่พวกเขาทั้งหมดต่างก็ต้องประสบกับความตายอย่างน่าสยดสยองหากชาร์ลียังคงให้คำแนะนำเกี่ยวกับฮวงจุ้ยต่อไปอีก คงไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตเมื่อเอเลนเห็นสีหน้ากังวลบนใบหน้าของแคลร์ เธอก็รู้ว่าเธอได้ล้างสมองแคลร์ได้สำเร็จแล้ว ดังนั้นเธอจึงรีบฉวยโอกาสที่จะตีเหล็กในขณะที่มันยังร้อนอยู่ “แม่คิดว่าลูกควรหย่ากับชาร์ลีทันทีที่พ่อของลูกออกจากโรงพยาบาล! ไม่อย่างนั้นใครจะไปรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ากลุ่มมหาเศรษฐีและมีอำนาจพวกนั้นจับได้ว่าชาร์ลีหลอกลวงพวกเขามาตลอด แล้วเราจะทำยังไงถ้าครอบครัวเราต้องมาซวยเพราะเขาด้วยล่ะ?”จากนั้นเอเลนก็พูดต่อว่า “นี่ลูกไม่เห็นเหรอว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจสัน แกรนท์ก่อนหน้านี้? เขาไม่ได้รับโอกาสแม้แต่จะพูดหรืออธิบายอะไ
ชาร์ลียักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ก่อนที่เขาจะหยิบเช็คออกมาจากกระเป๋าและส่งไปให้เอเลน นี่ครับเช็ค คุณแม่”เอเลนหยิบเช็คอย่างตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความสุข หลังจากนั้นเธอจึงวิ่งตรงไปที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนทันทีเมื่อชาร์ลีสังเกตเห็นสีหน้าที่ดูตื่นเต้นของเอเลน เขาก็รู้ทันทีว่าเอเลนกำลังวางแผนที่จะเก็บเงินทอนจากค่ารักษา เขาได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเดินกลับไปที่วอร์ดหลังจากที่ชาร์ลีมาถึงวอร์ด แคลร์ก็ถามด้วยความอยากรู้ว่า “เมื่อกี้เจอแม่ไหมคะ?”ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เจอแล้วครับ แม่อยากให้ผมให้เช็คกับเขา เขาจะได้ไปจัดการจ่ายค่ารักษาในโรงพยาบาลแทน”"โอเคค่ะ" แคลร์ทำได้เพียงพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้เธอรู้มาตลอดว่าแม่ของเธอเป็นคนประเภทบ้าวัตถุนิยมมาก ยิ่งไปกว่านั้นเธอมักจะโลภมากหากเกี่ยวกับเรื่องเงิน! แคลร์รู้ดีว่าเอเลนคงมีความคิดที่ไม่ดีมากมายในหัวของเธอ เอเลนคงไม่ปล่อยไว้แน่ ๆ เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าเธอจะได้เงินทอนเป็นจำนวนหนึ่งล้านหกแสนบาทจากเช็คใบนั้นอย่างไรก็ตาม แคลร์ไม่สามารถพูดอะไรได้ ท้ายที่สุดแล้วเธอเข้าใจนิสัยของแม่เธอเป็นอย่างดี เพราะถ้าหากแคลร์ไม่ยอมตามใจเธอ แม่ของเธอก็จะร้องไห้ฟูมฟา
ชาร์ลีอยู่ในวอร์ดกับแคลร์ภรรยาของเขา ขณะที่พวกเขาอยู่เป็นเพื่อนและกำลังพูดคุยอยู่กับจาค็อบอยู่นั้นทันใดนั้นประตูก็เปิดออกขณะที่เอเลนพุ่งเข้ามาในห้องอย่างร้อนรนทันทีที่เธอเข้าไปในวอร์ด เอเลนถือเช็คเงินสดหนึ่งพันล้านในมือและตะโกนขึ้นว่า “ชาร์ลี! ไอ้เด็กบ้า! นี่คนอย่างแกกล้ามาหลอกฉันได้ยังไง?!”ชาร์ลีผงะและถามด้วยความประหลาดใจว่า “คุณแม่ นี่คุณกำลังพูดถึงอะไร? ผมไปโกงคุณตั้งแต่เมื่อไหร่?”เอเลนไม่สนใจเขาและวิ่งตรงไปหาแคลร์ขณะที่เธอพูดขึ้นว่า “ลูกแม่! ฟังนะ! วันนี้แกต้องหย่ากับไอ้คนโกหกหลวงลวงคนนี้ซะ! ผู้ชายคนนี้มีบางอย่างผิดปกติ! เขาพยายามหลอกแม่ของแกด้วยซ้ำ! แกจะไปให้อภัยเขาได้ยังไงกัน?”แคลร์รู้สึกงงงวยมากและเธอถามว่า "แม่คะ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"เอเลนส่งเช็คให้แคลร์ก่อนจะพูดว่า “ดูสิ! สามีของแกต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ! เขาให้เช็คเงินสดปลอมหนึ่งพันล้านกับแม่ แคชเชียร์ที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนเกือบจะโทรไปที่ 191 แจ้งความว่าแม่ไปฉ้อโกงเขา!”"อะไรนะ…"ชาร์ลีก่นด่าในใจ นี่… นี่ต้องเป็นเช็คเงินสดหนึ่งพันล้านบาทที่จัสมินมอบให้เพื่อขอบคุณเขาแน่ ๆงานเข้า! เขาต้องใส่ไว้ในกระเป๋าเดียวกันกับเช็
หลังจากที่เธอได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แคลร์ก็สงบลงเล็กน้อยก่อนที่จะส่งเช็คเงินสดคืนให้ชาร์ลี “เก็บมันให้ดีนะคะ และอย่าลืมเผาให้พ่อคุณคืนนี้ด้วย อย่าไปปนกับเช็คเงินสดอื่น ๆ ในอนาคตอีกล่ะ! ไม่อย่างนั้นอาจจะมีอะไรแย่ ๆ เกิดขึ้นก็ได้นะคะ”ชาร์ลีรีบพยักหน้าก่อนที่เขาจะพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไปนะครับที่รัก ผมรู้แล้วว่าผมควรระวังให้มากขึ้นในอนาคต”หลังจากนั้นชาร์ลีก็รีบหยิบเช็คจำนวนหนึ่งล้านแปดแสนบาทขึ้นมาส่งให้เอเลนและพูดว่า "แม่ครับ นี่คือเช็คของจริง!”ชาร์ลียังคงประจบประแจงเอเลนขณะที่เขาพูดต่อว่า “แม่ครับ! โชคดีที่แม่รู้ทันถึงความผิดพลาดของผม! ไม่อย่างนั้นเราคงจะสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากแน่ ๆ ถ้าผมเกิดไปเผาเช็คผิดใบเข้า!”เอเลนจ้องมองเขาอย่างโกรธเกรี้ยว ถ้าไม่ใช่เพราะเช็คมูลค่าหนึ่งล้านแปดแสนบาท เธอก็คงไม่ปล่อยเขาไปง่าย ๆอย่างไรก็ตาม ใครเล่าจะปฏิเสธเงิน? เธอต้องรับเช็คและเก็บเงินที่เหลือไว้กับตัวเอง ตั้งหนึ่งล้านหกแสนบาทเชียวนะ!ชาร์ลีถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเห็นว่าเอเลนเอาเช็คไปจากมือเขาแล้ว เขาประมาทเกินไปและเกือบจะโป๊ะแตกครั้งใหญ่เพราะความผิดพลาดของเขา โชคดีที่สมองของเขาตอบสนองได้เร็วพอ
ชาร์ลีขมวดคิ้วทันทีเขาไม่ได้เป็นสมาชิกของตระกูลวิลสัน เขาไม่ได้มีสิ่งที่เรียกว่าความผูกพันในครอบครัวและความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับพวกเขา ดังนั้นเพียงมองแวบเดียวเขาก็สามารถบอกได้เลยว่าคุณท่านวิลสันกำลังเริ่มใช้กลอุบายอันขมขื่นของเธออีกแล้วตอนนี้ตระกูลวิลสันกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง หากพวกเขาไม่สามารถฟื้นฟูวิลสันกรุ๊ปได้ มันจะถึงจุดจบอย่างไม่ต้องสงสัยและหญิงชราก็จะตกลงจากบัลลังก์ทันทีคุณท่านวิลสันเป็นคนที่กังวลเรื่องหน้าตาและชื่อเสียงมาตลอดชีวิต เธอยอมตายดีกว่ายอมรับความจริงที่ว่าเธอยากจนและสิ้นเนื้อประดาตัว ดังนั้นเธอจึงต้องใช้สมองอย่างหนักเพื่อหาทางเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ให้กับตระกูลวิลสันประการแรก เธอพยายามกลั่นแกล้งและหลอกล่อให้แคลร์เข้าร่วมวิลสันกรุ๊ปอีกครั้ง แต่ถึงอย่างไรแคลร์ก็ไม่ยอมทำตามคำขอของเธอหลังจากนั้นเธอก็พยายามใช้เงินเพื่อพยายามที่จะซื้อใจเอเลน แต่ดูเหมือนว่าเอเลนก็ล้มเหลวในการโน้มน้าวให้แคลร์กลับไปที่วิลสันกรุ๊ปตอนนี้เธอพยายามเล็งเป้าหมายใหม่ไปที่จาค็อบ เพื่อที่เธอจะได้เข้ามาแทรกแซงทันทีที่จาค็อบตกหลุมพรางของเธอนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของเธอในขณะเดียวกันจ