ในตอนนี้เวนดี้รู้สึกเศร้าและเจ็บปวดมากเธอทุ่มเททั้งความหวังและความฝันที่มีต่อชีวิตที่สวยงามของเธอทั้งหมด เพื่อให้มีความสุขกับเจอรัลด์ แต่เขากลับผลักเธอลงสู่ก้นบึ้งแห่งความทุกข์ยากนี้ด้วยน้ำมือของเขาเอง!เขาไม่เพียงทิ้งเธอหลังจากที่ทำร้ายจิตใจของเธอแต่เขายังแสดงความไม่ชอบและรังเกียจเธอต่อหน้าผู้คนมากมาย!มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้! ความโกรธเกรี้ยวของเธอเกือบจะระเบิดออกมาตรงนั้นแล้ว!เจอรัลด์สงบนิ่งและไร้อารมณ์อย่างผิดปกติกับการร่ำไห้และคำกล่าวหาของเธอ เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “มันเป็นเรื่องปกติ ที่จะตกหลุมรักและเลิกกัน มันเกี่ยวอะไรกับความเคารพกันด้วย? ช่วยหยุดรังควานฉันสักทีเถอะ”ชาร์ลีเดินไปหาพวกเขาขณะที่เขาคิดว่าเวนดี้กำลังจะสร้างปัญหาใบหน้าของเจอรัลด์ค่อย ๆ ซีดลงขณะที่ชาร์ลีเดินเข้ามาหาพวกเขา เขารีบอธิบายอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่าชาร์ลีจะไล่เขาออกจากสถานการณ์นี้ “ปรมาจารย์เวดครับ ช่วยใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ เธอเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอาย จู่ ๆ เธอก็โยนอารมณ์ฉุนเฉียวมาที่ผม... ”เวนดี้จ้องมองไปที่การโต้ตอบกันของพวกเขาด้วยความตกใจ เจอรัลด์ซึ่งในอดีตค่อนข้างชอบเธอ แต่ในตอนนี้ได้ทิ้งเธอไปเ
เจอรัลด์รู้ดีว่าเขาเกือบจะทำให้ปรมาจารย์เวดไม่พอใจเข้าแล้ว เพราะเขาถูกหลอกลวงและล้างสมองโดยคนโง่เหล่านี้ โชคดีที่ปรมาจารย์เวดเป็นคนที่ยิ่งใหญ่กว่าและให้อภัยสำหรับการกระทำผิดของเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงจะนำความหายนะมาสู่ตระกูลไวท์ของเขาแล้วตอนนี้เวนดี้ผู้ไร้ยางอายคนนี้อยากจะกลับมาคืนดีกับเขาอย่างนั้นเหรอ?!มันเหมือนกับการผลักเขากลับเข้าไปในกองไฟ!เขาผลักเวนดี้ออกไปและเตะเธอเข้าที่ท้องอขณะที่เธอล้มลงกับพื้นเขาก็ตะโกนไปว่า “เวนดี้ วิลสัน! จากนี้ไป ไสหัวไปให้พ้นไปจากฉันซะ! ถ้าเธอมาหาฉันอีก ฉันสาบานกับพระเจ้าเลยว่าฉันจะฆ่าเธอเอง!”เวนดี้นั่งอยู่บนพื้นด้วยความมึนงงอย่างกับถูกฟ้าผ่าเมื่อมองย้อนกลับไปที่ใบหน้าของเจอรัลด์ซึ่งมีสีหน้าเกรี้ยวกราดอยู่ตอนนี้ เธอพบว่ามันแปลกและไม่คุ้นเคย เขาดูไม่เหมือนผู้ชายที่เคยรักเธอเลยแม้ว่าแคลร์จะรู้สึกไม่สบายใจกับเวนดี้แต่พวกเขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เธอทนไม่ได้ที่เห็นเธอถูกดูถูกแบบนี้ เธอจึงพูดกับเจอรัลด์ไปว่า “คุณไวท์ คุณและเวนดี้เคยรักกัน แม้ว่าคุณจะไม่สามารถเป็นคนรักกันได้แล้ว แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกัน ใช่ไหม?”เจอรัลด์โค้งคำนับรับทันทีที่แคล
คริสโตเฟอร์ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวขณะที่อัลเบิร์ตคำรามใส่เขาเขาไม่สงสัยเกี่ยวกับคำพูดของอัลเบิร์ต เพราะในฐานะคนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นราชาแห่งโลกใต้ดินและปกครองโลกใต้ดินมานานหลายปี ฉะนั้นการที่จะฆ่าคนสองคนถือเป็นงานที่กระจอกมากสำหรับเขาคริสโตเฟอร์มองชายกำยำสองคนที่กำลังลากเวนดี้ไปอย่างหมดหวัง เขาขึ้นไปหาแคลร์เพื่อขอความช่วยเหลือ “แคลร์ นี่เธอช่วยคุยกับพวกเขาให้หน่อยได้ไหม? เวนดี้เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอนะ จะยืนดูเธอถูกพรากไปแบบนั้นได้ยังไง?”แคลร์เม้มริมฝีปากและพูดกับชายร่างกำยำว่า “พอได้แล้วค่ะ เธอคงกำลังสับสน… เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะทำร้ายฉัน…”ถึงแม้ว่าแคลร์จะคิดว่าเวนดี้มากวนประสาทเธอก็ตามแต่พวกเขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เธอทนไม่ได้ที่เห็นเวนดี้ถูกคนเหล่านี้ทุบตีอัลเบิร์ตมองกลับไปที่ชาร์ลีและรอฟังคำสั่งจากเขาชาร์ลียิ้มและพูดว่า “คุณจะมามองผมทำไม? ฟังสิ่งที่ภรรยาของผมพูดสิ แล้วก็…”หลังจากนั้นอัลเบิร์ตก็สั่งคนของเขาว่า “คุณผู้หญิงเวดได้พูดแบบนั้นแล้วก็ปล่อยพวกเขาไปสิ!”ชาร์ลีพยักหน้าและหันไปมองคุณท่านวิลสัน “เห็นไหม? ผมบอกคุณแล้วว่าที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ ช่วยออกไปจากที่นี่ตอนผ
แคลร์พูดอย่างประหม่า “โอ้ อย่าเลยค่ะ ฉันจะให้คุณทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะคะ…”ชาร์ลีจับมือเธอและพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนว่า “ที่รักครับ คุณยังเขาต้องการให้ความช่วยเหลือคุณจริง ๆ ตอบรับในความใจดีของเขาเถอะครับ ถือว่าเป็นความเคารพนะครับ”“ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากรับข้อเสนอของเขาหรอกนะคะ แต่นั่นเป็นการช่วยที่มากเกินไป…”ชาร์ลีรับเช็คจากบ็อบบี้และใส่ไว้ในมือของแคลร์ “คุณยังบอกว่าไม่ต้องเสียเงินค่าเช่า ฉะนั้นคุณก็เก็บเงินไว้ก่อนสิ เอ็มแกรนด์กรุ๊ปเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าบริษัทหลายล้านล้านบาทพวกเขาไม่มาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องค่าเช่าของคุณหรอกครับ แล้วคุณจะมีโครงการและความร่วมมือกับพวกเขาอีกในอนาคต อย่าทำให้ทุกอย่างดูเป็นทางการและยุ่งยากมากเกินไปเลยนะครับ”แคลร์รู้สึกดีใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อเธอได้ยินและไตร่ตรองคำพูดของชาร์ลีเขาพูดถูก เอ็มแกรนด์กรุ๊ปเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโอลรัสฮิลล์และแค่บริษัทเดียวก็เทียบได้กับตระกูลมัวร์ทั้งตระกูล ถ้าเธอทำเรื่องให้ซับซ้อนวุ่นวายกับดอริสด้วยเรื่องเช็คมูลค่าเพียงหนึ่งล้านแปดแสนบาท มันอาจทำให้ดอริสรู้สึกว่าเธอช่างแข็งกระด้างและดื้อรั้นก็เป็นได้เธอจึงรับเช็คด้วยมาร
"อะไรนะคะ?!" แคลร์ร้องเสียงหลงด้วยความตื่นตระหนก “คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง? ตอนนี้แม่อยู่ที่ไหนคะ?"เสียงสั่นของเอเลนสะท้อนไปด้วยความตกใจและสะอื้น “เราอยู่ที่โรงพยาบาลซิลเวอร์วิง พ่อของลูกหมดสติหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ มาที่นี่ด่วนเลย!”แคลร์ไม่คาดว่าจะได้รับข่าวร้ายเช่นนี้ในเวลาที่เธอฉลองการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ด้วยความสุข...เธอร้องไห้ผ่านโทรศัพท์ “โอเค หนูจะรีบไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!”ชาร์ลีได้ยินการสนทนาอย่างชัดเจนและตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของเรื่องดังกล่าว เขาหันไปหาแขกและพูดขึ้นว่า “ผมต้องขอโทษพวกคุณทุกคนด้วยนะครับ แคลร์และผมต้องมีธุระด่วนที่ต้องไปจัดการ เชิญพวกคุณทำตัวตามสบายไปก่อนได้เลยนะครับ!”ภายใต้สถานการณ์ปกติ การที่เจ้าภาพจะทิ้งแขกไว้ในงานถือเป็นเรื่องหยาบคาย แต่เนื่องจากคนเหล่านี้ต่างเป็นบรรดาผู้ติดตามของชาร์ลี ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่ถือโทษเลยแม้แต่น้อยชาร์ลีขับรถพาภรรยาตรงไปที่โรงพยาบาลหลังจากที่เขาจอดรถแล้วพวกเขาก็รีบตรงไปที่ห้องไอซียูพวกเขาผลักประตูวอร์ดและเห็นจาค็อบนอนอยู่บนเตียงโดยหลับตาแน่น เขาอยู่ในอาการโคม่า เอเลนนั่งข้างเตียงจ้องมองสามีด้วยความงุนงง มีคราบเลือดอยู่บ
เอเลนดูหน้าซีดและตกใจมาก เธอพูดว่า “โอ้ แม่ไม่เป็นอะไร แม่เจ็บหัวนิดหน่อย หมอตรวจร่างกายของแม่แล้ว เขาก็บอกว่าแม่ไม่เป็นไร แต่พ่อของลูก... รถบรรทุกชนที่ฝั่งของเขา…”เธอร้องโอดครวญดังลั่นมันเหมือนโดนหมัดน็อกสำหรับเธอที่สามีของเธออาจต้องเป็นอัมพาตอย่างถาวรหลังจากการตรวจสอบอย่างละเอียด ชาร์ลีพบว่ารถบรรทุกดินนั้นได้หลบหนีไปแล้วหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ส่วนเอเลนและจาค็อบก็หมดสติหลังจากถูกรถบรรทุกชน ดังนั้นพวกเขาจึงมองไม่เห็นป้ายทะเบียนของรถบรรทุกหรือลักษณะสำคัญใด ๆ ของรถบรรทุกเลยหลังจากนั้นพวกเขาได้ถูกส่งไปโรงพยาบาลโดยพลเมืองดีสถานการณ์ของเอเลนดีกว่าเพราะเธอนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับในเวลานั้น เธอจึงหมดสติหลังจากเกิดอุบัติเหตุ มีเพียงแผลฟกช้ำและได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เธอฟื้นขึ้นมาหลังจากมาถึงโรงพยาบาลตรงกันข้ามจาค็อบผู้โชคร้าย เขาได้รับการกระแทกอย่างมากเนื่องจากนั่งอยู่บนเบาะคนขับ ดังนั้นเมื่อรถบรรทุกพุ่งเข้ามาที่ด้านข้างของเขา เขาจึงลงเอยด้วยสภาพที่น่าสังเวชเช่นนี้ชาร์ลีถอนหายใจอย่างหดหู่และคิดว่า 'พระเจ้าช่างไม่ยุติธรรมเลย'แม้ว่าจาค็อบจะเป็นคนขี้โม้และชอบแสร้งทำเป็นผู้เชี่ย
ทันทีที่เอเลนได้ยินว่าเจสันพาแพทย์ที่มีชื่อเสียงมาที่ห้องของพวกเขา เธอก็ร้องเสียงหลงด้วยความตื่นเต้นและพูดว่า "โอ้ เจสัน ขอบคุณคุณมาก! ขอบคุณที่มาช่วยพวกเรานะคะ ดร.ลินช์!”เจสันยิ้มเบา ๆ และพูดว่า “ด้วยความยินดีครับ ผมแค่ให้ความช่วยเหลือทุกเมื่อที่ผมสามารถทำได้”จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับโจชัวที่อยู่ข้างหลังเขาอย่างเคารพ “ดร.ลินช์ นี่คือคุณอาจาค็อบนะครับ ช่วยประเมินการรักษาให้เขาด้วยครับ”โจชัวก้าวไปข้างหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจว่า “ไม่ต้องกังวลไป เขาเจ็บกระดูกสันหลัง ใช่ไหม? แม้ว่าจะฟังดูเป็นการบาดเจ็บที่น่ากลัว แต่ผมรับรองได้ว่ามันเหมือนเป็นแค่เรื่องกล้วย ๆ สำหรับผม”หมออ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ “เท่าที่ผมทราบมา ไม่มีใครสามารถรักษาอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังได้ แม้แต่คนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกก็ทำได้แค่นอนบนเตียงหลังจากได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง เหมือนกับสตีเฟน ฮอว์คิงเขาเป็นคนที่สดใสและยอดเยี่ยมมาก แต่เขาทำได้แค่นั่งรถเข็นตลอดชีวิตและขยับได้เพียงสามนิ้วเนื่องจากโรคเซลล์ประสาทสั่งการ ทำไมคุณถึงได้กล้ามั่นใจขนาดนั้นล่ะครับ?”โจชัวหัวเราะและพูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง “ก็เพราะผม
ใบหน้าของเอเลนดูบิดเบี้ยว สีหน้าเธอตอนนี้ฉายให้เห็นความดูถูกเหยียดหยาม เธอตะโกนว่า “ชาร์ลี หุบปากซะไอ้ขี้แพ้! แกคิดว่าแกเป็นใคร?! แกไม่มีสิทธิ์ที่จะออกความเห็นอะไรกับเรื่องนี้ทั้งนั้น!”เธอยิงคำพูดที่แหลมคมใส่ชาร์ลีและคำราม “หยุดมายุ่งกับการรักษาของดร.ลินช์ ออกไปซะ!"ชาร์ลีขมวดคิ้วด้วยความท้อใจในขณะเดียวกันเขาก็คิดว่า ‘เป็นไปได้ไหมที่โจชัวเป็นคนแรกที่ซื้อยาจากแซคารี? ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาจะต้องเป็นคนที่ขายยาให้แอนโธนี ซิมมอนส์ ในราคาห้าสิบล้านบาทแน่ ๆ นั่นมันไม่ซื่อสัตย์เลย โกงราคากันเห็น ๆ !เจสันต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อจ้างเขามาที่นี่ในขณะเดียวกันนี้ เจสันหัวเราะเยาะโดยคิดว่าเขานั้นอยู่เหนือชาร์ลี “ชาร์ลี แกมันเป็นคนขี้แพ้ เพราะแกทำอะไรไม่ได้ก็เลยดีแต่ปากใช่ไหม? แกมันเสแสร้ง!”จากนั้นเขาก็ตบมือเสียงดังราวกับว่าเขานึกอะไรขึ้นมาได้และพูดขึ้นว่า “โอ้ ฉันเข้าใจแล้ว! ที่แกไปตั้งคำถามใส่ดร.ลินช์ เพราะแกไม่ต้องการให้อาจาค็อบอาการดีขึ้นแน่ ๆ !”“หือ ฉันเสแสร้งงั้นเหรอ?”ชาร์ลีสามารถอดทนต่อการเยาะเย้ยและการดูถูกของเอเลนได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำแบบเดียวกันได้กับเจสัน เขาหัวเราะเ