ตระกูลมัวร์เป็นหนึ่งในตระกูลอันดับต้น ๆ ของโอรัสฮิลล์อย่างไรก็ตาม ตระกูลมัวร์เทียบไม่ติดเลยกับตระกูลเวดในแง่ของสถานะทางสังคม หรือชื่อเสียงจัสมินไม่รู้เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของชาร์ลี ในสายตาของเธอเองเธอรู้เพียงแต่ว่าชาร์ลีนั้นเป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดาที่มีทักษะและความสามารถในการค้าขายของเก่า รวมไปถึงเป็นคนที่มีความรู้เกี่ยวกับฮวงจุ้ยเท่านั้นเมื่อคราวนั้นชาร์ลีได้เรียกสายฟ้าและใช้มันจัดการกับแจ็คจนตายที่คฤหาสน์ของตระกูลไวท์ ในตอนนั้นเขาทำให้หลายคนกลัวตาย ทุกคนมองเขาเป็นพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนั้น ชาร์ลีไม่ได้บอกความจริงกับจัสมินและบอกกับเธอเพียงแต่ว่ามันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ท้ายที่สุดแล้ว คนธรรมดาอย่างเขาจะเรียกฟ้าเรียกฝนเมื่อใดก็ตามอย่างที่เขาต้องการได้อย่างไรด้วยเหตุนี้ จัสมินจึงรู้สึกสับสนและคิดว่าชาร์ลีเป็นคนที่โชคดีจริง ๆ เท่านั้น ตั้งแต่วันนั้น จัสมินก็หายตัวไปจากวงโคจรของเขาอย่างสิ้นเชิงชาร์ลีคิดว่าเธอคงจากไปแล้ว ไม่คิดว่าเธอจะต้องเจอกับเรื่องเดือดร้อนแบบนี้ชาร์ลีถามอัลเบิร์ตออกไปว่า “มีเรื่องอะไร? เกิดอะไรขึ้นกับจัสมิน?”อัลเบิร์ตตอบอย่างรวดเร็วว่า “ช่วงนี้คุณมั
หลังจากที่ชาร์ลีลงไปชั้นล่าง ดอน อัลเบิร์ตที่นั่งอยู่ในรถก็รีบกวักมือเรียกชาร์ลีทันที “คุณเวด รีบขึ้นรถเลยครับ!”ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะเดินไปที่รถอย่างรวดเร็ว อัลเบิร์ตรีบสตาร์ทรถเมื่อชาร์ลีเข้าไปในรถแล้วและออกรถไปในทันทีเพื่อมุ่งหน้าไปยังเขตนอกเมืองระหว่างทางขณะรถกำลังเคลื่อนที่ไปนั้นอัลเบิร์ตก็พูดออกมาอย่างกังวลใจว่า “วันนี้ผมได้ยินมาว่ามีปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยที่มีชื่อเสียงมาจากฮ่องกงด้วย คุณเวด คุณอย่าให้เขามาขโมยซีนคุณไปได้นะครับ!”หลังจากนั้นอัลเบิร์ตก็พูดต่อ “คุณมัวร์เป็นลูกสาวคนโตของตระกูล อีกไม่นานเธอจะเข้ารับช่วงต่อดูแลธุรกิจของตระกูล ถ้าเราสามารถจัดการช่วยเหลือเธอจากสถานการณ์เรื่องนี้ให้เธอได้ ต่อไปในอนาคตเธอจะดูแลเราได้อย่างแน่นอน!”ชาร์ลีหัวเราะออกมาก่อนจะพูดว่า “อัลเบิร์ต คุณไม่ได้ใจดีไปเสียทีเดียวนะ เมื่อวานคุณบอกฉันว่า สาเหตุที่คุณดูกังวลเรื่องเกี่ยวกับจัสมินคือคุณอยากตอบแทนบุญคุณ อยากตอบแทนความมีเมตตาพ่อของเธอ ในที่สุด ธาตุแท้ของคุณก็ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว! ดูเหมือนว่าคุณจะแค่พึงพอใจในตัวจัสมินนะ?อัลเบิร์ตตอบไปอย่างรวดเร็วเพราะเขินอาย “การตอบแทนบุญคุณพวกเขาก็เป็นส่วนหน
แม้ว่าพ่อบ้านจะดูหมิ่นอัลเบิร์ตอย่างเห็นได้ชัดแต่อีกฝ่ายกลับไม่โกรธเคืองเลย ในทางตรงกันข้าม เขายังคงพูดกับออสก้าร์ด้วยความเคารพนอบน้อมพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า “ฟังก่อนสิครับคุณลุงออสก้าร์ ประเด็นที่คุณมัวร์เผชิญอยู่นั้นมันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะ พวกเราทุกคนต่างก็เป็นห่วงเธอ! ยิ่งไปกว่านั้นเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าปรมาจารย์เลนนาร์ด ที่มาจากฮ่องกงจะสามารถแก้ไขปัญหาที่คุณมัวร์เผชิญอยู่ได้อย่างแน่นอนน่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนั้นออสก้าร์ก็ตอบไปอย่างเย็นชาว่า “นายคิดว่านายสามารถหาใครที่มีความเชี่ยวชาญเท่าปรมาจารย์เลนนาร์ดได้อีกเหรอ? ออกไปจากที่นี่จะดีกว่า ถ้าพวกนายขัดขวางปรมาจารย์เลนนาร์ดในขณะที่ท่านกำลังดูฮวงจุ้ยให้คุณมัวร์ฟัง พวกนายคงไม่มีปัญญาจะจ่ายเงินให้กับตระกูลมัวร์ได้ถ้าเกิดความสูญเสียอะไรขึ้นมา!” อัลเบิร์ตเกาหัวอย่างกังวล เพราะเขาไม่คิดว่าออสก้าร์จะห้ามไม่ให้พวกเขาเข้าไปในคฤหาสน์ ถ้าออสก้าร์ไม่ยอมให้พวกเขาเข้าไป แล้วชาร์ลีจะช่วยจัสมินได้อย่างไรกัน?ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ทันใดนั้น อัลเบิร์ตก็คิดอย่างนึงออกมาได้และโพล่งออกไปว่า “คุณลุงออสก้าร์ คุณเคยได้ยินเรื่องของแจ็ค เยลแมนบ้า
ขณะนั้นในห้องมีชายวัยกลางคนรูปร่างผอมที่กำลังสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กำลังถือเข็มทิศขณะเดินไปรอบ ๆ ห้องพร้อมพึมพำอะไรบางอย่าง จัสมินยืนหันหลังให้กับประตู อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เธอได้ยินเสียงใครมาเคาะประตู เธอก็หันกลับมาก่อนจะถามออกไปว่า “คุณลุงออสก้าร์ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่าคะ?”ออสก้าร์รีบตอบกลับไปว่า “คุณมัวร์ อัลเบิร์ตพาคุณเวดมาที่นี่เพื่อช่วยดูฮวงจุ้ยให้กับคุณครับ”จัสมินหันกลับมาและเธอประหลาดใจมากเมื่อเห็นชาร์ลี “ชาร์ลี ทำไมคุณถึงมาที่นี่?”เมื่อชาร์ลีมองไปที่จัสมิน เขาก็รู้สึกว่าเธอดูซีดเซียวกว่าเมื่อก่อนเมื่อเทียบกับตอนที่เขาเห็นเธอ มีเงาปรากฎบนหน้าผากของเธอและดูเหมือนว่ามีบางสิ่งผิดปกติกับดวงและโชคชะตาของเธอในเวลานี้ชาร์ลียิ้มเล็กน้อยก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “อัลเบิร์ต บอกผมว่าคุณกำลังมีปัญหา เขาก็เลยพาผมมาที่นี่เพื่อดูฮวงจุ้ยให้คุณน่ะ”จากนั้นชายวัยกลางคนที่ถือเข็มทิศอยู่ในมือก็หันกลับมาและพูดว่า “คุณมัวร์ ผมเป็นถึงปรมาจารย์จากตระกูลเลนนาร์ด ผมไม่อยากให้ใครมารบกวนเวลาที่ผมกำลังดูฮวงจุ้ย เพราะมันอาจจะกระทบกับฮวงจุ้ยของคุณแน่นอน”จัสมินรู้ดีว่า ชาร์ลีรู้เรื่องอภิปรัชญาหรือสิ่งที่อย
เมื่อจัสมินได้ยินที่ปรมาจารย์เลนนาร์ด ค้นพบต้นตอของปัญหาทั้งหมดแล้ว เธอก็ตื่นเต้นและอุทานออกมาอย่างรวดเร็ว “ท่านประมาจารย์เลนนาร์ดเนื่องจากคุณได้ระบุที่มาของปัญหาทั้งหมดแล้ว โชคของฉันจะดีขึ้นหลังจากที่ฉันได้เอากระถางต้นไม้นี้ออกไปใช่ไหม?”“น่าเสียดาย ที่ไมใช่” ปรมาจารย์เลนนาร์ดตอบด้วยสีหน้าที่จริงจัง “คุณควรจะเข้าใจรูปแบบของฮวงจุ้ย ฮวงจุ้ยเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แม้ว่าคุณจะเอากระถางต้นไม้สีเขียวนี้ออกไป แต่คุณก็ไม่สามารถที่จะขจัดอิทธิพลที่ส่งผลต่อฮวงจุ้ยได้”จัสมินรีบถามต่อ “ในกรณีของฉันควรทำยังไงคะ?”ปรมาจารย์เลนนาร์ดตอบกลับไปว่า “คุณควรวางเครื่องลางที่ได้รับการปลุกเสกจากปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ย และวางไว้ข้างหน้าต่างแทนที่จะเป็นต้นไม้กระถางนั้น ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถขจัดปัญหาทั้งหมดของคุณได้อย่างสิ้นเชิง และในไม่ช้าความโชคดีของคุณก็จะไหลเข้ามาทางทิศตะวันออกนี้!”จัสมินถาม “เครื่องลางที่คุณว่า คืออะไร?”ปรมาจารย์เลนนาร์ดรีบหยิบหินขนาดเท่าไข่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อก่อนที่จะพูดอย่างจริงจังว่า “คุณมัวร์ นี่คือหินโมราที่ถูกกัดเซาะและผุกร่อนมานานหลายล้านปี เป็นผลิตภัณฑ์วิเศษที่ใช้ขับไล่สิ่งชั่ว
ปรมาจารย์เลนนาร์ดรีบเก็บเช็คก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างและเอากระถางต้นไม้สีเขียวออก จากนั้นเขาก็วางหินโมราไว้ข้างหน้าต่างและท่องคาถาอะไรบางอย่างต่อไปชาร์ลีเย้ยหยันเมื่อเขาเห็นสิ่งนี้เขาตระหนักได้ว่า ปรมาจารย์ผู้นี้ไม่รู้ตัวว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสร้างหายนะด้วยการทำให้เรื่องนี้มันเลวร้ายลงกว่าเดิม!จากที่ชาร์ลีได้ศึกษาและดูสถานการณ์แปลก ๆ มาบ้างแล้ว ในห้องของจัสมินคล้ายกับสิ่งที่เขาเคยพบเจอเขารู้สึกได้ถึงการสร้างฮวงจุ้ยที่น่ากลัวในห้องนี้และเขารู้ดีว่าฮวงจุ้ยในห้องนี้เป็นรูปแบบ ‘กับดักมังกร’ตามชื่อที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ รูปแบบฮวงจุ้ยแสดงให้เห็นว่า แม้จะเป็นมังกรแต่กลับติดอยู่ภายใต้กับดักเช่นนี้ ถึงอย่างนั้นคนธรรมดาจะหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ได้อย่างไร?ดังนั้นไม่ว่าคนนั้นจะโชคดีแค่ไหน แต่หากอยู่ภายใต้ฮวงจุ้ยรูปแบบกับดักมังกรเช่นนี้ก็จะสูญเสียความโชคดีไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และต้องเผชิญกับความโชคร้ายอย่างต่อเนื่องในขณะที่จัสมินอาศัยอยู่ในห้องนี้ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ความโชคดีของเธอทั้งหมดจะถูกขังอยู่และเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องเผชิญกับโชคร้ายอย่างต่อเนื่องโชคดี ‘ฮวงจ
จัสมินไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ ๆ เธอถึงต้องเจอกับปัญหาใหญ่ขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่ปรมาจารย์เลนนาร์ดเปลี่ยนโชคชะตาให้เธอแล้วจากนั้นอีกฝ่ายก็ตอบกลับทางโทรศัพท์ว่า “ตอนนี้ไม่มีอะไรที่เราทำได้ คุณมัวร์ อีกฝ่ายเรียกร้องให้เราจ่ายเงินชดเชยให้พวกเขาทันที พวกเขาปฏิเสธที่จะรับสินค้า”จัสมินรีบถามขึ้นว่า “คุณแน่ใจหรือว่าไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด? คุณขอให้พวกเขายืนยันปัญหานี้อีกครั้งได้ไหม?”อีกฝ่ายตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “ดิฉันได้ขอให้พวกเขาตรวจสอบสถานการณ์แล้ว แต่แม้จะตรวจสอบสินค้าไปแล้ว 2 ครั้ง พวกเขาก็ยืนยันว่าสินค้านั้นไม่ได้เป็นไปตามที่พวกเขาคาดหวังไว้เลยค่ะ”จัสมินโพล่งออกมาทันที “ฉันอยากให้คุณตรวจสอบบันทึกการส่งออกของเราตอนนี้เลย ดูว่าใครเป็นคนผลิตสินค้าชุดนี้! ฉันต้องการให้คุณหาคนที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เพื่อที่พวกเขาจะได้อธิบายทุกอย่างให้ฉันฟังโดยเร็วที่สุด!”หลังจากนั้นเธอก็สั่งผู้หญิงคนนั้นว่า “สำหรับบริษัทในสหรัฐอเมริกา ฉันต้องการให้คุณยื้อมันออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ส่งคนสองสามคนไปที่นั่นเพื่อตรวจสอบสถานการณ์”“รับทราบค่ะคุณมัวร์”จัสมินมีสีหน้าสับสนม
เมื่อชาร์ลีเห็นโทรทัศน์ขนาดหกสิบนิ้วตกลงมาที่เท้าของจัสมินเขารีบก้าวไปข้างหน้าและจับมือเธอก่อนจะดึงเธอเข้าสู่อ้อมแขนของเขาโทรทัศน์ตกลงกระแทกกับพื้น!กรอบและหน้าจอโทรทัศน์ตกลงกับพื้น เศษพลาสติกที่แตกเป็นชิ้น ๆ ปลิวว่อน และเฉือนขาเรียวเนียนใสของจัสมิน“โอ๊ย!” จัสมินตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดทันทีที่เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่น่องของเธอ เมื่อเธอก้มหน้าลงเธอก็รู้ว่ามีบาดแผลที่น่องยาว 2-3 เซนติเมตร เลือดเริ่มไหลออกมาจากบาดแผลภายในพริบตาชาร์ลีรีบหยิบทิชชู่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อก่อนจะคุกเข่าลงข้าง ๆ จัสมิน แล้วกดทิชชู่แนบกับน่องของเธอ หลังจากนั้นเขาก็ถามว่า “จัสมิน บ้านคุณมีชุดปฐมพยาบาลไหม? เราจำเป็นต้องฆ่าเชื้อบาดแผลของคุณตอนนี้เลย”จัสมินรู้สึกโกรธเล็กน้อยเมื่อชาร์ลีแตะขาของเธอ เธออยากจะตะโกนใส่เขา แต่เมื่อเธอนึกได้ว่าชาร์ลีเป็นคนที่ช่วยเธอไว้เธอจึงระงับความโกรธ และพยายามสงบสติอารมณ์หลังจากนั้นเธอจ้องไปที่ปรมาจารย์เลนนาร์ดด้วยความโกรธก่อนจะพูดว่า “ปรมาจารย์เลนนาร์ด คุณจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น นอกจากคุณจะให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลแก่ฉันในวันนี้”ทันทีที่เขาได้ยินคำพูดของจัสมิน อั
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล