สำหรับชาร์ลีแล้ว…ไม่ว่าเขาจะใช้ตัวตนของปรมาจารย์เวดหรือนายน้อยแห่งตระกูลเวด เขาก็ไม่ได้ใส่ใจกับคนที่ไม่น่าสนใจอย่างดีแลนเลยแม้แต่น้อยถึงแม้ว่าตระกูลโคชจะเป็นตระกูลใหญ่และทรงอำนาจในอีสต์คลิฟฟ์ แต่ความแข็งแกร่งโดยรวมก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรขนาดนั้นตระกูลโคชทั้งหมดไม่อาจรอดพ้นสายตาของชาร์ลีไปได้ แล้วนับประสาอะไรกับคนอย่างดีแลนไอแซครู้ดีถึงความแข็งแกร่งและความสามารถของชาร์ลีนี่คือคนที่ฆ่ากลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ที่ตระกูลเว็บบ์ส่งมาด้วยการใช้กระบวนท่าเพียงครั้งเดียว!ตระกูลโคชไม่ถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ของชาร์ลีได้เลยแต่ไอแซครู้ว่าอีสต์คลิฟฟ์เป็นสถานที่แบบไหน มันไม่ใช่สถานที่เรียบง่ายแต่เป็นอะไรที่ลึกลับซับซ้อนมาก แท้จริงแล้วอาจมีอันตรายแอบแฝงอยู่มากมาย แม้แต่ในสถานที่ที่ดูเหมือนเงียบสงบ อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้รวมถึงอันตรายทุกรูปแบบก็อาจโผล่ขึ้นมาแบบปุบปับได้ทั้งนั้นยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้ชาร์ลีกำลังจะเดินทางไปยังอีสต์คลิฟฟ์ตามลำพังด้วย ซึ่งไอแซคกลัวว่าเขาจะไม่มีคนคอยช่วยเหลือ ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในอีสต์คลิฟฟ์ ดังนั้นเขาจึงเตือนชาร์ลีว่า “นายน้อยครับ ถึงแม้ตระกูลโคชจะไม่ได้มีอำนาจมากนัก แต่พว
แคลร์รู้สึกสะเทือนใจมากกับคำพูดอันแผ่วเบาของชาร์ลีเธออดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปหาชาร์ลีแล้วอิงแอบอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างอ่อนโยน เธอเงยหน้ามองดูดวงดาวบนท้องฟ้าพร้อมกับพูดอย่างมีความสุขว่า “หลังปีใหม่ปีนี้ก็นับเป็นปีที่สี่ที่เราได้แต่งงานกันมาแล้วนะคะ”“ใช่แล้วครับ” ชาร์ลีอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่พูดว่า “แป๊บ ๆ ก็สี่ปีแล้ว วันเวลาช่างผ่านไปเร็วจริง ๆ”“เร็วเหรอคะ?” แคลร์ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “วันเวลาไม่ได้ผ่านไปเร็วสำหรับฉันเลยค่ะ ตลอดสี่ปีที่ผ่านมามีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากเหลือเกินโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณ”ชาร์ลีเอามือแตะจมูกในขณะที่พูดว่า “อะไรเหรอ? ผมเปลี่ยนแปลงยังไง?”แคลร์พยักหน้าในขณะที่พูดว่า “คุณเปลี่ยนไปแน่สิ! ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกที่คุณมีต่อคนอื่น ความรู้สึกสังหรณ์ของคุณ หรือนิสัยใจคอของคุณ ดูเหมือนว่าคุณจะเปลี่ยนไปมากนับตั้งแต่วันแรกที่เราได้แต่งงานกัน”ในขณะที่กำลังพูดอยู่นั้นแคลร์ก็พึมพำเบา ๆ ว่า “แต่จริง ๆ แล้วมันแปลกมากเลยนะคะ คุณดูเหมือนมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่บางครั้งที่ฉันคิดถึงเรื่องนี้ ฉันก็รู้สึกราวกับว่าทุกอย่างเป็นเรื่อง
หลังได้ยินคำพูดของแคลร์ชาร์ลีก็หัวเราะโดยไม่ได้พูดอะไรเขารู้ว่าทำไมนายท่านวิลสันถึงหยุดพูดถึงเรื่องนี้หลังจากที่เขาแต่งงานกับแคลร์ ก็อาจเป็นเพราะนายท่านวิลสันรู้สึกว่าได้ชดใช้หนี้ให้กับตระกูลเวดแล้ว โดยให้เขาได้แต่งงานกับแคลร์และทำให้เขาได้มีครอบครัวแต่ชาร์ลีไม่สามารถบอกเรื่องนี้ให้แคลร์รู้ได้ในเวลานี้จู่ ๆ แคลร์ก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าในขณะที่พูดอยากเบิกบานใจว่า “โอ้โห! มีหิมะตกจริง ๆ ด้วย!”ชาร์ลีเงยหน้าขึ้นแล้วมีละอองหิมะเย็น ๆ ตกลงมาบนหน้าผากของเขา หลังจากตกลงมาบอกกล่าวอย่างเป็นนัย ๆ ว่าความหนาวเย็นกำลังจะมาเยือนแล้ว ละอองหิมะนั้นก็ละลายหายไปในทันทีในตอนแรกมีเกล็ดหิมะโปรยปรายลงมาเพียงเล็กน้อย แต่ประมาณสิบนาทีต่อมาเกล็ดหิมะก็เริ่มโปรยปรายไปทั่วท้องฟ้าในยามค่ำคืนนับเป็นเรื่องยากจริง ๆ ที่หิมะจะตกหนักอย่างนี้ในเมืองทางตอนใต้อย่างโอลรัส ฮิลล์แคลร์ทำตัวเหมือนเด็ก ๆ ในขณะที่เธอเต้นรำอย่างมีความสุขอยู่กลางหิมะเมื่อหิมะเริ่มตกมากขึ้นแคลร์ก็พาชาร์ลีออกไปที่ลานบ้าน หลังจากนั้นเธอก็เก็บหิมะจากหลังคารถก่อนจะบอกกับชาร์ลีว่า “ถ้าหิมะตกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เราก็จะปั้นตุ๊กตาหิมะได้ แล้วก็ปา
ชาร์ลีตอบเบา ๆ ว่า “อย่าเลยครับ ผมไปเองน่าจะสะดวกกว่า”เอเลนยิ้มก่อนจะพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็เดินทางระวังด้วยล่ะ!”พอพูดจบเอเลนก็เฝ้ามองชาร์ลีเดินออกไป หลังจากนั้นเธอก็รีบบอกว่า “ลูกเขยที่แสนดีของแม่ ถ้าเห็นอะไรดี ๆ ที่อีสต์คลิฟฟ์ ก็อย่าลืมเอามาฝากแม่ด้วยนะ!”“ได้เลยครับ” ชาร์ลีตอบในขณะที่เดินออกจากบ้านไป***ที่สนามบินโอลรัส ชาร์ลีไม่ได้นำสัมภาระติดตัวมาด้วย ดังนั้นเขาจึงได้รับบัตรผ่านขึ้นเครื่อง ก่อนจะผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยที่สนามบินเมื่อไอแซคได้รับตั๋วชั้นหนึ่งแล้ว เขาก็เดินตรงไปยังห้องรับรองวีไอพีหลังผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยแล้วเครื่องบินจะออกในเวลา 10.00 น. พนักงานบริการที่ห้องรับรองวีไอพีจึงแนะนำให้เขาขึ้นเครื่องในเวลา 9.20 น.ชาร์ลีขึ้นเครื่องก่อนคนอื่น ๆ ในเวลานี้มีคนนั่งอยู่ในห้องโดยสารชั้นหนึ่งหลายคนแล้วการกระจายที่นั่งในห้องโดยสารชั้นหนึ่งในเครื่องบินลำนี้ใช้รูปแบบ 2+2 โดยมีที่นั่งที่กว้างขวางกว่าจำนวนสองที่นั่งในแต่ละด้านของทางเดินและสามารถปรับที่นั่งให้เอนราบได้ เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเอนกายนอนได้อย่างสะดวกสบายในขณะเดินทางที่นั่งของชาร์ลีอยู่ริ
ชาร์ลีพยายามรักษาระยะห่างจากลอรีนมาโดยตลอดเขาไม่ได้มีความรู้สึกกับลอรีนมากนัก ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากลอรีนเป็นเพื่อนสนิทของภรรยาชาร์ลีจึงมีเหตุผลที่จะรักษาระยะห่างจากเธอมากกว่าคนอื่น แต่เขาไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าจะเจอเธอบนเครื่องบินลอรีนอารมณ์ดีมาก เธอเอนตัวเข้าไปใกล้ ๆ ชาร์ลีโดยไม่ได้ตั้งใจในขณะที่ถามว่า “โอ้ ชาร์ลี! คุณจะอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์กี่วันเหรอคะ?”ชาร์ลีตอบว่า “ผมยังไม่แน่ใจ ต้องดูงานผมก่อน ถ้าเสร็จเร็วก็จะอยู่แค่สองสามวัน แต่ถ้าเสร็จช้าก็อาจต้องอยู่สี่ถึงห้าวันเลยก็ได้”ลอรีนพูดอย่างตื่นเต้นว่า “โอ้! ฉันได้จองตั๋วเครื่องบินขากลับไว้ในอีกสี่วันที่จะถึงนี้ แล้วคุณล่ะคะ? คุณจองตั๋วเครื่องบินขากลับหรือยัง? เราจองเที่ยวบินเดียวกันตอนกลับไปที่โอลรัส ฮิลล์ดีไหมคะ?”ชาร์ลีตอบตามตรงว่า “ผมยังไม่ได้จองตั๋วเครื่องบินขากลับเลยครับ ไว้ค่อยคุยกันใหม่ตอนที่งานเสร็จแล้วดีกว่า ผมยังยืนยันอะไรไม่ได้ในตอนนี้”ลอรีนรีบบอกว่า “โอเคค่ะ งั้นเสร็จงานในอีสต์คลิฟฟ์แล้วค่อยบอกฉันนะคะ แล้วดูซิว่าจะเลื่อนตั๋วให้กลับในวันเดียวกับคุณได้หรือเปล่า ถ้าทำได้ฉันก็จะกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกับคุณค่ะ”ชาร์ลีรู้
ในขณะที่เขานึกถึงสุขภาพที่ย่ำแย่ของยูล… พ่อของควินน์อยู่นั้น เขาก็ถามว่า “อาการของอาโกลดิ้งดีขึ้นบ้างไหม?”“อาการไม่ค่อยดีค่ะ…” ควินน์ตอบเสียงเบา ๆ “อาการของพ่อไม่ค่อยดีค่ะ แพทย์แนะนำให้พ่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่พ่อปฏิเสธที่จะไปที่นั่น ฉันคิดว่าพ่อคงหดหู่และเศร้าใจนิดหน่อย บางทีพ่ออาจยอมจำนนต่อชะตากรรมของพ่อแล้วก็ได้เขาเลยไม่อยากต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป พ่อรู้สึกเสมอว่าพ่อไม่มีศักดิ์ศรีเหลืออยู่เลยถ้าต้องเข้าไปรับการรักษาต่าง ๆ ในโรงพยาบาล… พี่อาจไม่เข้าใจลักษณะนิสัยของพ่อนัก แต่แม่ของฉันบอกว่าเขาเหมือนกับพ่อของพี่และพี่น้องแท้ ๆ ของเขาเอง คนพวกนั้นเป็นคนหัวดื้อมาก และไม่ยอมฟังคำแนะนำของใครเลย…”ชาร์ลีรู้ว่าบุคคลที่มีอำนาจและน่านับถือมักจะอยากมีชีวิตรอด เวลาที่พวกเขาป่วยหนักและกำลังจะตายนี่เป็นเพราะพวกเขาใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติและภูมิฐานมาหลายปีแล้ว พวกเขาจึงให้ความสำคัญกับหน้าตาและศักดิ์ศรีเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่อยากลดศักดิ์ศรีและหรือเสียหน้าตอนป่วยหนักเพียงเพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสองสามปีชาร์ลีได้ยินมาว่าบุคคลที่น่านับถือและมีอำนาจหลายคนถึงกับลงนามในคำส
หลังจากเครื่องบินลงจอด ชาร์ลีกับลอรีนก็ลงจากเครื่องบินพร้อมกันเนื่องจากชาร์ลีไม่ได้มีกระเป๋าที่โหลดมาใต้ท้องเครื่อง เขาจึงไม่ต้องไปรอรับกระเป๋า แต่เนื่องจากลอรีนเป็นสาวงามตัวยงซึ่งโดยปกติมักจะขนเสื้อผ้า เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวติดตัวไปจำนวนมากยามเดินทาง เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมักจะมีน้ำเกินได้ง่ายมาก ลอรีนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องโหลดกระเป๋าไว้ใต้ท้องเครื่องหลังจากลงจากเครื่องบินแล้วเธอไม่สามารถออกจากสนามบินได้ทันทีเหมือนชาร์ลี เธอต้องไปรอรับกระเป๋ายังบริเวณสายพานรับกระเป๋าดังนั้นลอรีนจึงรีบถามชาร์ลีว่า “ชาร์ลี คุณจะออกจากสนามบินยังไงเหรอคะ?”ชาร์ลีตอบว่า “ผมจะออกไปเรียกแท็กซี่ครับ”ลอรีนรีบตอบว่า “ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณไม่รอฉันก่อนล่ะ? แล้วเราค่อยไปด้วยกัน พอดีว่าครอบครัวของฉันจะขับรถมารับ เราแวะส่งคุณได้นะคะ”ชาร์ลียิ้มก่อนจะโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่ต้องหรอกครับลอรีน ผมกำลังรีบน่ะครับ เลยต้องขอตัวออกไปก่อน”ลอรีนตอบอย่างช่วยอะไรไม่ได้ “โอเคค่ะ แล้วไว้ค่อยนัดเจอกันใหม่วันหลัง อย่าลืมนะว่าคุณสัญญาแล้วว่าจะไปทานอาหารกับฉัน”“โอเค” ชาร์ลียิ้มเล็กน้อยในขณะที่พูดว
ชาร์ลีส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรเลยถ้าพี่ต้องทนทุกข์กับความยากลำบากอะไร พี่คิดว่าการฝ่าฟันความยากลำบากพวกนี้ก็เป็นเหมือนการฝึกฝนตัวเองอย่างหนึ่งเหมือนกัน”ควินน์พยักหน้าตอบอย่างจริงจัง ในขณะที่เธอกำลังขับรถออกจากลานจอดรถนั้นเธอก็พูดขึ้นมาว่า “พ่อเพิ่งพูดถึงพี่เมื่อวานนี้เอง ฉันบอกพี่แล้วใช่ไหมที่คุณหมอขอให้พ่อกลับเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลอีกครั้ง? พ่อรู้ว่าสุขภาพและสภาพร่างกายของพ่อไม่ได้ดูดีขนาดนั้น พ่อจึงได้แต่ถอนหายใจในขณะที่พูดว่า ความเสียใจมากที่สุดในชีวิตของพ่อก็คือการไม่สามารถตามหาพี่ได้”ชาร์ลีรู้สึกสะเทือนใจมากและยิ้มในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงนะนานา อาโกลดิ้งจะต้องกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้งอย่างแน่นอน”ควินน์ไม่รู้เรื่องความสามารถของชาร์ลี แล้วนับประสาอะไรกับฉายาของชาร์ลีในฐานะมังกรที่แท้จริงที่ชนชั้นสูงในโอลรัสฮิลล์ต่างรู้จักกันดี ดังนั้นเธอจึงไม่เชื่อว่าชาร์ลีจะมีวิธีรักษาอาการป่วยระยะสุดท้ายของพ่อได้ในเวลานี้เธอรู้สึกเพียงว่าพ่อของเธอจะต้องดีใจเป็นอย่างมากเมื่อได้เห็นชาร์ลี ถ้าพ่อมีอารมณ์ที่ดีขึ้นเธอก็เชื่อว่าสุขภาพของพ่อก็จะต้องดีขึ้นตามไปด้วยบ้านของควินน์อยู่ไม่ไ
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล