จาค็อบคิดว่าในรถคันนี้มีแค่เขากับชาร์ลีเพียงสองคนเท่านั้น ชาร์ลีไม่ได้เป็นแค่ลูกเขยเท่านั้น แต่ยังเป็นคนที่เขาไว้วางใจมากที่สุดด้วยดังนั้นเขาจึงไม่ได้ระแวดระวังอะไรกับชาร์ลีเลย เขาไม่กลัวว่าชาร์ลีจะรู้เรื่องระหว่างเขากับมาทิลด้าเลยในขณะที่จาค็อบกำลังแกะถุงของขวัญอยู่ในตอนนี้ เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า “โอ้ ลูกเขยที่รักของพ่อ แกรู้ไหมว่าป้าฮอลล์ของแกโด่งดังขนาดไหนในมหาวิทยาลัยการศึกษาผู้ใหญ่น่ะ? คนที่สนใจเธอมีตั้งแต่คนหนุ่มสาวอายุระหว่างสามสิบถึงสี่สิบปี ไปจนถึงชายชราอายุระหว่างหกสิบถึงเจ็ดสิบปี มีหลายคนมาก ๆ เลยนะ จนไม่สามารถจะนับคนที่ชอบเธอได้หมด! ซึ่งถ้าฉันไม่ใส่ใจมากกว่านี้ ก็เกรงว่าสถานการณ์จะจบอย่างไม่ดีกับตัวฉันนัก!”ชาร์ลีหัวเราะอย่างเคอะเขินในขณะที่พยายามเปลี่ยนเรื่องคุย “พ่อครับ คืนนี้พ่อคงดื่มหนักไปหน่อยใช่ไหมครับ? ทำไมไม่หยุดพูดแล้วหลับตาพักผ่อนสักหน่อยล่ะครับ?”“พ่อจะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน?” จาค็อบพูดขึ้นทันที “พ่อยังไม่เห็นเลยว่าป้าฮอลล์ของแกให้อะไรมา”ในขณะที่เขาพูดอยู่นั้น เขาก็ได้แกะกระดาษห่อของขวัญชั้นนอกเสร็จแล้วทันทีที่จาค็อบเห็นกล่องข้างใน เขาก็อดที่จะอุทานออกมาไม
ชาร์ลียื่นมือขวาออกมาปิดใบหน้าของเขาไว้ครึ่งหนึ่ง เพราะเขาไม่รู้จะตอบพ่อตาโง่เง่าอย่างไรแล้วตอนนี้เองที่จาค็อบรับสายแล้วพูดอย่างเป็นกันเองว่า “ฮัลโหลแคลร์ พ่ออยู่กับชาร์ลีแล้ว และตอนนี้เรากลับบ้าน”ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงโกรธเกรี้ยวของแคลร์ดังขึ้นจากเบาะหลัง “พ่อ! ทำให้หนูผิดหวังมาก!”จาค็อบส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ เนื่องจากเขาไม่ได้จับโทรศัพท์ให้แน่น โทรศัพท์จึงหลุดจากมือ แล้วตกลงไปในช่องว่างในรถเขาไม่แม้แต่เก็บโทรศัพท์ขึ้นมา แต่หันกลับมาจ้องมองแคลร์ด้วยความสยดสยอง “แค… แคลร์เหรอ?! ลูก… ทำไมลูกมานั่งอยู่ในรถได้ล่ะ?!”แคลร์ถามด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว “แล้วทำไมหนูถึงจะอยู่ในรถไม่ได้ล่ะคะ? ถ้าหนูไม่ได้อยู่ในรถ หนูก็คงไม่รู้ว่าพ่อแอบนอกใจแม่ลับหลัง!”จาค็อบรู้สึกเสียใจมากจึงโพล่งออกมาว่า “โอ้! แคลร์ อย่าพูดไร้สาระนะ พ่อนอกใจแม่แกตั้งแต่เมื่อไหร่?!”แคลร์ตอบว่า “พ่อกับป้าฮอลล์มาถึงจุดที่แลกของขวัญราคาแพงกันแล้ว แล้วพ่อยังออกเดตตอนกลางคืน และยังดินเนอร์ด้วยกันเป็นการส่วนตัวลับหลังแม่! ถ้าอย่างนี้ไม่เรียกว่าการนอกใจแล้วเรียกว่าอะไรคะ?”จาค็อบรีบตอบว่า “พ่อไม่ได้นอกใจ! พ่อกับป้าฮอล
แคลร์ตะลึงงันและไม่รู้ว่าควรจะตอบโต้อย่างไรจาค็อบซึ่งอยู่ตรงเบาะหน้าข้างคนขับรู้สึกเสียใจมากจนถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้นในขณะที่พูดว่า “ในตอนนั้นพ่อกับแม่ของแกไม่มีอารมณ์ความรู้สึกหรือความรักต่อกันเลย ถ้าจะให้พูดอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ก่อนที่พ่อจะเมาในคืนนั้น พ่อคุยกับแม่ของแกไม่เกินสองสามคำ แกน่าจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนนะว่า ป้าฮอลล์นั้นดีกว่าแม่ของแกในทุก ๆ ด้าน เป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้ชายธรรมดา ๆ จะทิ้งป้าฮอลล์ แล้วเลือกแม่ของแกมาแทน พ่ออับจนหนทางมากและถูกบีบบังคับให้เข้าสู่ทางตัน!”ในขณะที่จาค็อบพูดอยู่นั้น เขาได้มองออกไปทางหน้าต่างด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยในขณะที่พูดอย่างหดหู่ใจ ตอนแรกพ่อกับป้าฮอลล์วางแผนชีวิตหลังจบการศึกษาเอาไว้แล้ว เราจะไปเรียนต่อที่อเมริกาด้วยกัน แกน่าจะรู้นะว่าคนสมัยนั้นนิยมไปเรียนต่อต่างประเทศกัน พวกเราล้วนทำงานหนัก และเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ ตอนนั้นพ่อกับป้าฮอลล์คิดกันว่า ถ้าเรามีพัฒนาการและมีหนทางที่ดีในอเมริกา เราก็จะทำเรื่องขอย้ายถิ่นฐานที่มีความสามารถระดับสุดยอด แล้วตั้งถิ่นฐานในอเมริกาไปเลย เราวางแผนอนาคตไว้อย่างชัดเจนมาก ในตอนนั้นอนาคตท
“พ่อเข้าใจ! พ่อเข้าใจ!” จาค็อบพยักหน้าอย่างตื่นเต้นในขณะที่พูดซ้ำ ๆ ว่า “พ่อจะไม่ใส่นาฬิกาเรือนนี้ที่บ้าน”ถึงแม้ว่าชาร์ลีจะนั่งอยู่ข้าง ๆ โดยไม่พูดอะไรเลยมานาน เขาก็รู้สึกโล่งอกเล็กน้อยเมื่อได้ยินดังนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับพ่อตาของเขาในตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ จริง ๆ แล้วเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาต้องยอมกล้ำกลืนฝืนทนเอเลนมาตลอดหลายปีนั้น ก็เป็นเพราะแคลร์นั่นแหละถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวของเขา เขาก็คงไม่ยอมทนอยู่ได้นานขนาดนั้นหรอก ดังนั้นจึงมองได้ว่าพ่อตาของเขาก็ไม่ได้เป็นคนไร้ประโยชน์ อย่างน้อย ๆ ความรักของพ่อที่มีต่อแคลร์ก็ถือว่ายิ่งใหญ่นักยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่ตอนที่แคลร์ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ จาค็อบก็ไม่เคยพูดถึงเลยสักครั้งว่าสาเหตุที่เขาต้องทนทุกข์กับเรื่องมากมายมาตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมานั้นก็เป็นเพราะแคลร์ เขาช่างคู่ควรกับคำกล่าวที่ว่า ความรักของพ่อนั้นช่างยิ่งใหญ่และเสียสละอย่างแท้จริง ***เมื่อพวกเขากลับมาถึงธอมป์สัน เฟิร์ส ชาร์ลีกำลังจะขับรถเข้าไปในเขตวิลล่า แล้วจู่ ๆ เขาก็มองเห็นนานาโกะที่สวมแมสก์ปิดบังใบหน้ากำลังยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าหมู่บ้านแม้ว่าแมสก์นั้นจะปิดบังใบหน้
เมื่อชาร์ลีออกมาจากเขตวิลล่า เขาก็หานานาโกะไม่เจอแล้วเขามองไปรอบ ๆ สองสามครั้ง แต่ก็ไม่พบนานาโกะเลยชาร์ลีอดที่จะรู้สึกงุนงงสับสนนิดหน่อยไม่ได้ เขารู้ว่าเขามองไม่ผิด ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะสวมแมสก์ปิดบังใบหน้า แต่เขาก็แน่ใจเหลือเกินว่าผู้หญิงคนนั้นคือนานาโกะเนื่องจากเธออุตส่าห์เดินทางมาถึงที่นี่ก็เพื่อมาตามหาเขาอย่างแน่นอน แล้วจู่ ๆ ทำไมเธอถึงหายตัวไปล่ะ?”ในขณะที่เขากำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่นั้น ชาร์ลีก็อดถอนหายใจไม่ได้ เขานึกไม่ออกจริง ๆ ว่าหญิงสาวชาวญี่ปุ่นคนนี้กำลังมีเรื่องวุ่นวายอะไรอยู่ภายในใจในขณะเดียวกันนานาโกะกำลังซ่อนตัวอยู่ในร้านชานม พร้อมกับแอบมองชาร์ลีจากระยะไกลเมื่อเธอเห็นใบหน้าที่ดูสิ้นหวังและหมดอาลัยของชาร์ลี เธอก็มีความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้นภายในใจเธอมาที่นี่เพื่อตามหาชาร์ลีในคืนนี้จริง ๆ การแข่งขันรอบสุดท้ายกำลังจะเกิดขึ้น และเธอรู้ดีว่าการเอาชนะออโรร่านั้นเป็นเรื่องยากมากสำหรับเธอ เธออาจได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการแข่งขันในครั้งนี้ก็ได้จริง ๆ แล้วอาจารย์และครอบครัวของเธอต่างก็ไม่ต้องการให้เธอเข้าร่วมการแข่งขันในรอบสุดท้ายนี้เลยแต่นานาโกะรู้สึกว่านักกีฬาที่
นานาโกะจึงบอกเจ้าของร้านว่า “คุณคะ ขอชานมอีกแก้วหนึ่งค่ะ”เจ้าของร้านตอบว่า “คุณครับ เรากำลังจะปิดร้านแล้วนะครับ พนักงานของเราก็เลิกงานแล้วด้วย ผมต้องขอโทษด้วยที่ตอนนี้เราไม่สามารถชงชานมให้คุณได้แล้วนะครับ”“โอเคค่ะ” นานาโกะพยักหน้าอย่างช่วยอะไรไม่ได้ในเวลานี้เธอเห็นชาร์ลีเดินไปทางประตูทางเข้าวิลล่าธอมป์สัน เฟิร์สด้านขวามือ เธอจึงรีบถือแก้วชานมวิ่งตามเขาไปชาร์ลีคิดว่านานาโกะกลับไปแล้ว เขาจึงไปที่ร้านขายยาเพื่อซื้ออาหารเสริมชนิดเม็ดที่ช่วยบำรุงตับให้กับพ่อตาของเขาเมื่อเขามาถึงร้านขายยาเขาก็พบโปสเตอร์ขนาดใหญ่แขวนอยู่ตรงทางเข้าร้านขายยา ซึ่งเป็นภาพโปสเตอร์ของควินน์ผู้งดงามจนไม่มีใครเทียบได้ กำลังถือยาแก้โรคกระเพาะของนักปรุงยาเอาไว้ในมือ นอกจากนี้ยังมีคำบรรยายสั้น ๆ ที่ควินน์เขียนขึ้นเองว่า “ยาใหม่ของชาวออสเกียนที่ผลิตขึ้นในประเทศ ฉันวางใจในยาแก้โรคกระเพาะของนักปรุงยา”โดยมีลายเซ็นของควินน์อยู่บนโปสเตอร์ด้วยเมื่อชาร์ลีเดินเข้าไปในร้านขายยา เขาก็เห็นใคร ๆ หลายคนกำลังพูดคุยอยู่กับพนักงานขาย “คุณครับ! ผมต้องการยาแก้โรคกระเพาะของนักปรุงยาที่มีควินน์ โกลดิ้งรับรองให้ ผมขอหนึ่งกล่องคร
อันที่จริงนานาโกะไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรในตอนนี้ ดังนั้นจู่ ๆ เธอจึงคิดที่จะมอบชานมให้กับชาร์ลีถึงแม้ว่าชาร์ลีจะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่เขาก็ยังไม่ได้ดื่มน้ำแม้แต่หยดเดียวตั้งแต่ขับรถออกไปรับพ่อตา แล้วตอนนี้เขาก็รู้สึกกระหายน้ำเล็กน้อยด้วยดังนั้นเขาจึงรับชานมนั้นมาไว้ในมือโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่จะยิ้มแล้วพูดว่า “ขอบคุณครับ บังเอิญผมรู้สึกกระหายน้ำขึ้นมานิดหน่อยพอดีเลย”หลังจากพูดออกไปอย่างนั้นแล้ว ชาร์ลีก็ก้มหน้าลงและดูดชานมเข้าไปอึกใหญ่ในเวลานี้นี่เองที่นานาโกะนึกขึ้นมาได้ในทันที แล้วร้องอุทานอยู่ภายในใจ ‘อุ๊ย! เมื่อกี้นี้ฉันจิบชานมจากแก้วนั้นไปสองสามอึกแล้ว… ถึงแม้ฉันจะดื่มชานมไปเพียงสองสามอึก แต่ก็ยังถือว่าดื่มไปแล้ว! นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันได้จูบกับชาร์ลีทางอ้อมหรอกเหรอ?’ชาร์ลีไม่รู้ว่านานาโกะได้ดื่มชานมไปก่อนเขาแล้ว ในขณะที่เขายังคงดื่มชานมต่อไปอยู่นั้น ชาร์ลีก็พูดว่า “คุณอิโตะ ทำไมคุณถึงมาหาผมในช่วงกลางดึกขนาดนี้? มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?นานาโกะรู้สึกเขินอายและละอายใจเล็กน้อยเธอได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวดถึงยี่สิบปีว่าควรทำตัวให้สมกับเป็นผู้หญิง และเธอรู้ถึงความสำคัญของคำ
”บรรพบุรุษชาวออสเกียนของเราคิดอยู่เสมอว่า เราจะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นได้ยังไง ถึงแม้ว่าเราจะทำการสู้รบ แต่เราก็ไม่ได้สู้รบเพื่อตัวเราเอง เราต่อสู้กับตัวตนของเราเองทั้งในอดีตและปัจจุบัน!”“เหตุผลที่เราต่อสู้กับตัวตนในอดีตของเรา ก็เพื่อให้เราก้าวข้ามตัวตนในปัจจุบันและอดีตของเราได้ เราต้องการพัฒนาตนเองทางด้านการแพทย์ เพื่อที่เราจะได้มีอายุยืนยาวขึ้น เราต้องการปรับปรุงเทคนิคการทำฟาร์ม เพื่อให้เราสามารถเลี้ยงดูผู้คนได้มากขึ้น เราต้องการพัฒนาทักษะการต่อสู้ป้องกันตัว เพื่อที่เราจะสามารถพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นได้”ในขณะที่พูดอยู่นั้น ชาร์ลีมองไปที่นานาโกะแล้วถามว่า “ถ้าคุณไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการแข่งขันอีกต่อไป คุณจะเลิกพัฒนาตัวเองหรือแม้แต่เลิกฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ในอนาคตหรือเปล่า?”นานาโกะโพล่งออกมาว่า “ไม่เลิกแน่นอนค่ะ! ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้อีก ฉันก็จะไม่ยอมทิ้งศิลปะการต่อสู้อย่างแน่นอน!ชาร์ลียิ้มก่อนจะพูดว่า “นั่นสินะ คุณชื่นชอบศิลปะการต่อสู้และการต่อสู้เพื่อตัวเอง และไม่ได้ใช้ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเพื่อเอาชนะผู้อื่น ดังนั้นไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะชนะ