ชาร์ลีหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาอัลเบิร์ตอัลเบิร์ตเป็นราชาแห่งโลกใต้ดินของโอลรัส ฮิลล์ เขาต้องมีสายแจ้งข่าวมากกว่าใคร ๆ ในเมืองเสียงแสดงถึงความเคารพของอัลเบิร์ตดังขึ้นทันทีที่รับสาย “ปรมาจารย์เวด มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?”ชาร์ลีพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เมื่อคืนที่สถานสงเคราะห์ โอลรัส ฮิลล์ มีเด็กอายุสองถึงสามขวบจำนวน 10 คนที่ถูกลักพาตัวไปโดยผู้ค้ามนุษย์ คุณเป็นเจ้าแห่งโลกใต้ดินมานานแล้ว ช่วยผมหาหน่อยว่ามีใครแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อเด็กหรือสอบถามเกี่ยวกับเด็กมาบ้างไหม”หลายกรณีสามารถแก้ได้ ไม่ใช่เพราะประสิทธิภาพของผู้สืบสวนหรือเครื่องมือสืบสวนที่มีเทคโนโลยีสูงที่พวกเขาติดตั้ง แต่เพราะอาชญากรได้ทิ้งเบาะแสสำคัญไว้ในกลุ่มของตนตัวอย่างเช่น เมื่อมีคนถูกฆ่าตาย ตำรวจจะเริ่มการสอบสวนโดยระบุศพ และดำเนินการต่อจากที่นั่น แต่คนในโลกใต้ดินจะรู้ว่าใครคือศัตรูของเหยื่อ เขาเคยมีปัญหาอะไรมาบ้าง และใครน่าจะเป็นฆาตกรอีกตัวอย่างหนึ่ง เมื่อมีคนทำรถหายในพื้นที่ และแจ้งความกับตำรวจ ตำรวจมักจะเริ่มสอบสวนว่ารถอยู่ที่ไหน ล่าสุดเห็นที่ไหน รถหายที่ไหน และใครติดต่อกับรถ ล่าสุดอิงจากกล้องวงจรปิดอย่างไ
ชาร์ลีพยักหน้าและพูดว่า “ดี! ได้ข่าวอะไรก็รีบบอกฉันนะ!”อัลเบิร์ตพูดด้วยความเคารพ “รับทราบครับ ปรมาจารย์เวด!”ชาร์ลีวางสาย เขาสงบสติอารมณ์ลงก่อนจะหันกลับมาหาคุณนายลูอิสและสเตฟานี "คุณนายลูอิส,สเตฟ ไม่ต้องกังวลนะ ผมขอให้เพื่อนของผมหาเบาะแสแล้ว เขามีความสามารถมาก และมีผู้ให้ข้อมูลมากมาย ผมแน่ใจว่าเขาจะมีคำตอบในไม่ช้า”คุณนายลูอิสโพล่งขึ้น ดวงตาของเธอแดงก่ำด้วยน้ำตา “ชาร์ลี ขอบคุณมากเลยนะลูก!”ชาร์ลีรีบตอบว่า “คุณนายลูอิส คุณกำลังพูดเรื่องอะไรกันครับ? ผมโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้ และเด็ก ๆ ที่นี่เป็นเหมือนพี่น้องของผม ตอนนี้พวกเขาหายไป ผมจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อพาพวกเขากลับคืนมา!”สเตฟานีพูดทั้งสำลักและสะอื้นไห้ “พี่ชาร์ลี พี่บริจาคเงินไปมากเมื่อวานนี้เอง ระหว่างทางกลับบ้านคุณนายลูอิสเพิ่งบอกว่าจะติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบ ๆ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยเงินบริจาคของพี่ แต่ใครจะไปรู้…”สเตฟานีพูดไม่จบประโยคก่อนที่เธอจะเริ่มร้องไห้อีกครั้งชาร์ลีรู้จักคุณนายลูอิสและสเตฟานีเป็นอย่างดี คนส่วนใหญ่ที่ทำงานในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้านั้นใจดีและอ่อนโยนมาก พวกเขาดูแลเด็กกำพร้าเหล่านี้เหมือนเป็นล
ไอแซครู้ว่าชาร์ลีต้องโกรธอะไรบางอย่างเมื่อได้ยินเสียงของเขา เขาพูดโดยไม่ลังเลว่า “รับทราบครับ คุณเวด ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้!”จากนั้นไอแซคก็ถามอย่างรวดเร็วว่า “โอ้ใช่ คุณเวด ผมจะไปรับคุณด้วยเฮลิคอปเตอร์เดี๋ยวนี้ ให้ผมไปที่สถานสงเคราะห์โอลรัสเลยไหมครับ?”ชาร์ลีไม่ต้องการให้ใครรู้เกี่ยวกับความสามารถของเขา เขาจึงถามว่า “มีที่ไหนบ้างที่เหมาะสำหรับการลงจอดด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่ใกล้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า?”ไอแซคเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “มีอาคารใกล้ ๆ ที่ชื่อว่าโกลเด้น ไลน์ ทาวเวอร์ ซึ่งมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ด้ทนบน คุณไปที่นั่นได้เลยครับ ผมจะไปถึงที่นั่นในเร็ว ๆ นี้!”"ตกลง!" ชาร์ลีพูดว่า “เร็วเข้า!”“รับทราบครับ คุณเวด!”หลังจากวางสาย ชาร์ลีก็หันไปหาสตรีทั้งสองแล้วพูดว่า “คุณนายลูอิส, สเตฟ เพื่อนของผมอาจมีเบาะแสบางอย่าง ผมต้องไปพบเขาตอนนี้ รอฟังข่าวจากผมนะครับ และไม่ต้องห่วง ไปก่อนนะครับ”สเตฟานีพูดอย่างรวดเร็วว่า “พี่ชาร์ลี ให้ฉันไปด้วยเถอะ ได้โปรดล่ะ!”ชาร์ลีกล่าวว่า “สเตฟ เธอควรอยู่ที่นี่กับคุณนายลูอิส ให้ฉันจัดารเรื่องนี้เอง”สเตฟานีพยักหน้าและพูดอย่างเขินอาย “โอเค เราจะรอข่าวดีของพี่
ครอบครัวจำนวนมากต้องพังทลาย เพราะการค้ามนุษย์ที่น่าสยดสยอง!สิ่งที่น่ารังเกียจที่สุดที่ผู้ค้ามนุษย์ทำกับเด็กคือหลังจากการลักพาตัว หากพวกเขาขายเด็กเหล่านี้ให้กับครอบครัวปกติที่ต้องการมีลูก อย่างน้อยชีวิตของเด็กก็จะไม่ถูกคุกคาม แต่บางคนก็ทำให้เด็กพิการและใช้เป็นเครื่องมือขอทานตามท้องถนน มันจะทำลายชีวิตของเด็กอย่างสมบูรณ์!ทุกคนในประเทศจึงจับตาดูข่าวอย่างใกล้ชิด ทุกคนต่างก็เป็นห่วงเด็ก ๆ ทั้งสิบคนชาร์ลีซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโกลเด้น ไลน์ ทาวเวอร์ เขาต้องการช่วยเด็ก ๆ โดยเร็วที่สุด! เสียงเฮลิคอปเตอร์คำรามดังมาจากที่ไกล ๆ ได้เข้ามาใกล้เขาอย่างรวดเร็วในขณะเดียวกัน อัลเบิร์ตส่งข้อความหาเขาโดยกล่าวว่า “ปรมาจารย์เวด กิบสันและครอบครัวของเขาออกจากจังหวัดแล้ว แต่พวกเขาไม่กล้าขับรถบนทางหลวง พวกเขาอยู่บนถนนในชนบท ดังนั้นพวกเขาจึงขับไปได้เพียงไม่ถึง 400 กิโลเมตรเท่านั้นครับ”ชาร์ลีดูที่อยู่และพบว่าคนลักพาตัวกำลังมุ่งหน้าลงใต้ ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่จังหวัดใกล้เคียงคือ คริสตัล เคาน์ตี้ของจังหวัดเคลนาในที่สุด เฮลิคอปเตอร์ก็มาถึงที่โกลเด้น ไลน์ ทาวเวอร์ และค่อย ๆ ลงมา แต่ก่อนที่จะแตะพื้น ไอแซคก็เปิดประ
ในขณะเดียวกันนี้ คนทั้งเจ็ดคนในรถตู้ Iveco Daily ไม่ได้ตระหนักว่ามีอวนลากเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างช้า ๆ และกำลังจะจับพวกเขานอกจากผู้ใหญ่เจ็ดคนแล้ว ยังมีเด็กสิบคนนอนหลับอยู่ในรถตู้ด้วย พวกเขายังไม่ตื่นหลังจากถูกวางยาเมื่อตอนเที่ยงคืนมีชายหนุ่มคนหนึ่งไม่มีแขนขวาอยู่ที่เบาะผู้โดยสารตอนหน้า ผู้ชายคนนั้นคือ กิบสัน ลิตเติ้ลเขาหัวเราะคิกคักราวกับเด็กที่ตื่นเต้นและพูดกับพี่ชายของเขาที่อยู่หลังพวงมาลัยว่า “เฮ้ เราจะได้เงินหนึ่งล้านดอลลาร์หลังจากงานนี้เลยนะ!”พี่ชายของเขาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ “อะไรนะ! ว้าว เด็กสมัยนี้แพงขนาดนั้นเลยเหรอ? นายไม่ได้บอกว่าราคาเพียงหมื่นดอลลาร์ต่อหัวเท่านั้นไม่ใช่เหรอ?”กิบสันกล่าวว่า “ใช่ แต่พวกเขาถูกจับมาไม่นาน จำได้ไหม? องค์กรขอทานในจังหวัดเคลนากำลังขาดแคลนเด็กไงล่ะ จึงทำให้ราคาสูงขึ้น”พี่ชายของเขายิ้มอย่างร่าเริง “เราจะรวยกันแล้ว!”กิบสันพยักหน้าอย่างตื่นเต้น และกล่าวว่า “หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ไปพักผ่อนกันเถอะ!”ภายในรถที่อันกว้างขวางของ Iveco แม่ของกิบสันพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ว้าว ฉันต้องการการพักผ่อนหลังจากเสร็จเรื่องนี้จริง ๆ คุณนายฮันท์ที่อยู่บ้านข้าง ๆ
ท่ามกลางความสิ้นหวัง ทางเลือกสุดท้ายของเขาคือกิบสัน ซึ่งเขาเคยรู้จักมาระยะหนึ่งแล้ว แม็กซ์ต้องการยืมเงินสามแสนจากกิบสัน แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่ากิบสันจะขาดแคลนเงินในตอนนี้เช่นกันกิบสันบ่นเกี่ยวกับตำรวจในการปราบปรามการค้ามนุษย์ที่ส่งผลให้จำกัดการดำเนินการการค้ามนุษย์ของครอบครัวอย่างมากกิบสันยังบอกเขาด้วยว่าเขากำลังมองหาเด็กทั่วทุกแห่งเพื่อขายไปทางใต้ ราคาสำหรับเด็กอยู่ในระดับสูงตลอดเวลาและพวกเขาสามารถทำเงินได้มากหากพวกเขาสามารถหาทรัพยากรได้เมื่อนึกถึงเด็กทารกและเด็กเล็กที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แม็กซ์ก็มีแผนชั่วร้ายขึ้นในใจทันทีเขาบอกกิบสันถึงแหล่งข้อมูลและแนะนำให้พวกเขาทำงานร่วมกันเพื่อลักพาตัวเด็กจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากิบสันที่เคยกังวลเกี่ยวกับการหาเด็ก ทันทีที่เขารู้ว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามีสิ่งที่เขาต้องการมากมาย เขาก็ยิ้มอย่างมีความสุขและเริ่มวางแผนแม็กซ์รู้จักสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นอย่างดี เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับช่องโหว่รอบสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เนื่องจากสภาพทรุดโทรมเป็นเวลาหลายปี เงินทุนไม่เพียงพอ พนักงานไม่เพียงพอและไม่สามารถติดตามการเฝ้าระวังความปลอดภัยขั้นสูงได้ บรรดาผ
เฮลิคอปเตอร์หลายลำรวมตัวกันที่ชานเมืองโอลรัส ฮิลล์ และมุ่งหน้าไปยังชายแดนของจังหวัดด้วยความเร็วสูง ลดระยะห่างกับเป้าหมายทีละน้อยในทางกลับกัน Iveco Daily สีขาวอยู่บนเส้นทางที่ขับตามความเร็วที่จำกัด พวกเขามักจะสะดุดกับการจราจรติดขัดหรือไฟแดงที่จำกัดความเร็วและระยะทางในการเดินทางกิบสันเลือกเส้นทางนอกเมืองแทนทางหลวงเพราะเหตุผลหลักประการหนึ่ง นั่นคือ โครงสร้างของถนนเนื่องจากทางหลวงเป็นเส้นทางวงจรปิด มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะหลบหนีหากตำรวจทำเครื่องหมายและตั้งสิ่งกีดขวางบนถนน อย่างไรก็ตาม เส้นทางนอกเมืองนั้นแตกต่างกัน พวกเขาเชื่อมโยงกับเมืองต่าง ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากมากสำหรับตำรวจที่จะระบุตำแหน่งของพวกเขา และปิดกั้นเส้นทางของพวกเขานอกจากนี้ หากพวกเขาประสบปัญหาใด ๆ พวกเขาก็สามารถละทิ้งรถตู้ และวิ่งหนีไปได้ เส้นทางนอกเมืองมีสถานที่หลบซ่อนที่ยอดเยี่ยมมากมาย พวกเขาสามารถซ่อนตัวอยู่ในชนบท บ้านพักอาศัย หรือแม้แต่โรงงานหรือสถานที่ก่อสร้างอย่างไรก็ตาม พวกเขาได้ปล่อยให้ชาร์ลีมีโอกาสมากมายที่จะไล่ตามพวกเขาเฮลิคอปเตอร์บินไปบนท้องฟ้าโดยไม่ต้องหยุดเพื่อทำอะไร ไม่มีทางอ้อมหรือการ
คนขับที่ขับตามหลังรถบรรทุกได้ลงจากรถเพื่อตรวจดูว่าเกิดอะไรขึ้น ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความโกรธเคืองในขณะนี้ มีคนลงจากรถบรรทุกและตะโกนโดยใช้ลำโพงว่า “ทุกคน เราเพิ่งได้รับแจ้งจากทางทีมอย่างเร่งด่วนว่าสะพานได้กลายเป็นอันตรายและมีความเสี่ยงที่จะพังได้ทุกเมื่อ เรากำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อซ่อมแซมความเสียหายโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย โปรดเบี่ยงทาง ขอบคุณสำหรับความร่วมมือครับ"ความโกรธของพวกเขาสลายไปในทันทีเมื่อได้ยินประกาศไม่มีใครสงสัยในตัวตนของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเห็นรถบรรทุกสำหรับงานหนักจำนวนมากจอดอยู่บนสะพาน อันที่จริง พวกเขารู้สึกโชคดีที่ได้ติดตามรถบรรทุกเหล่านี้ ถ้าพวกเขาอยู่ด้านหน้า พวกเขาจะไม่ขับบนสะพานที่อันตรายหรอกเหรอ?ดังนั้น ทุกคนจึงรีบกลับขึ้นรถ หันหลังกลับและเบี่ยงอ้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้สะพานในทุกกรณีพี่ชายของกิบสันขับรถ Iveco ไปที่ใจกลางสะพาน เขาถามด้วยความงุนงงเมื่อเหลือบมองผ่านกระจกมองหลังครู่หนึ่ง “แปลกจัง ทำไมไม่มีรถตามหลังเรามาเลย”กิบสันหันกลับไปมองและโพล่งอย่างไม่ใส่ใจ “บางทีพวกเขาอาจถูกรถบรรทุกขวางทางก็ได้ พวกเขาขับรถเหมือนเต่า”“อืม
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล