เมืองเหนือที่ย้ายตัวเองไปแทนที่นิอร เขานั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเล็กนั่น มองออกไปยังด้านนอกที่ฝนเริ่มซาลงมาก น้ำที่เคยไหลบ่าเป็นทางเริ่มซึมหายไปในดินได้ง่ายขึ้น ไม่เจิ่งนองเหมือนเดิม ร่องรอยคราบโคลนที่ไหลบ่ายังคงมองเห็นเด่นชัด ไข้ของเขาลดลงไปมาก เพราะการได้รับยาอักเสบบาดแผล และลดอากการปวดบรรเทาไข้นิอรยังคงนอนนิ่งหลับจากที่ทานยาไปแล้ว เมืองเหนือนั่งอ่านรายงานวิจัยที่ต้องทำข้อมูลสรุปส่งให้กับ ที เอ็น ฟราแกรนซ์ ตามกำหนด หลังจากที่อนิลได้เดินทางมาดูงานด้วยตนเอง แม้อนิลจะเป็นน้องสาวของธนญ แต่เธอนั้นดูมุ่งมั่นและจริงจังกว่าธนญมาก เพราะความที่ยังเด็กและมีไฟในตัวเป็นสองเท่านั่นเอง งานของเขาคือความหวังในการขอทุนวิจัยชิ้นต่อไปของศูนย์นั่นเองนิอรที่ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เห็นไฟที่ยังส่องสว่าง เธอมองไปรอบๆ ก่อนจะพลิกกายหันกลับมา เมืองเหนือยังคงนั่งทำงานของเขา ใบหน้าที่จริงจังขณะนั่งอ่านเอกสาร ชวนหลงใหล นิอรติดอยูในภวังค์เพียงครู่เดียวก่อนจะดึงสติตัวเองกลับมา นิอรลุกขึ้นนั่งช้าๆ ลองเอามือแตะหน้าผากตัวเอง เพื่อดูว่าอุณหภูมิร่างกายของตัวเองลดลงหรือไม่ เพราะอาการปวดหัวหายไปจนสิ้นแล้ว แล
นิอรที่แยกตัวออกมาเพียงลำพังจากเมืองเหนือ เธอนั้นทั้งเสียใจและแค้นใจ เจ็บใจตัวเองที่อ่อนแอต่อความรู้สึก ทั้งที่เธอเป็นคนตัดสินใจเอง ทั้งที่รู้ ทั้งรู้ว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้ แต่เธอกลับใจอ่อนและยินยอมเอง สุดท้ายกลับรับไม่ได้ เมื่อได้ยินคำพูดและข้อเสนอของเขานิอรได้รับข้อความแจ้งเตือนจากระบบของ The Bitch ตรีทศได้ตั้งใจส่งข้อความลับถึงเธอ เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ เรื่องที่เป็นความลับและบทสนทนาของพวกเขา ทำให้นิอรต้องหาที่เปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเข้าไปในระบบเธอตัดสินใจเข้าไปในร้านกาแฟเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่ไม่มีผู้คนมากนัก บรรยากาศร่มรื่นและเป็นส่วนตัว ในมุมที่แสนสงบ นิอรเปิดคอมพิวเตอร์ตัวเก่งนั่งอยู่ในมุมส่วนตัวที่มิดชิด ไม่โดดเด่นนัก พร้อมสั่งเครื่องดื่มและขนมมาทาน“ผมเข้าไปดูในกล่องบันทึกห้องสนทนาของยศแล้ว”“คุณดูหมดทุกคลิปแล้วใช่ไหม”“ใช่ผมดูหมดแล้ว คุณรู้ใช่ไหมว่าชายคนนั้นเป็นใคร และอันตรายแค่ไหน”“ค่ะ ฉันรู้”“ต่อไปคุณต้องระวังตัวมากขึ้น และอย่าเปิดเผยตัวตนเด็ดขาด เบื้องหน้าให้เป็นหน้าที่ของพวกผม อย่าออกมาในที่แจ้ง คุณควรกลับมาที่กรุงเทพฯ ได้แล้ว”“ฉันยังกล
ธนญมองดูชิพอันเล็กที่อยู่ในซองพลาสติกด้วยสีหน้างุนงง เมืองเหนือวางมันลงบนโต๊ะ และใช้นิ้วดันไปตรงหน้าเขา ก่อนจะเอนหลังอย่างสบายใจ จนภูผาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่มองเขาอยู่ถึงกับย่นหัวคิ้วไม่ต่างจากธนญ“มันคืออะไร”ธนญถามเมืองเหนือด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะหยิบซองเล็กๆ ขึ้นมาดูอย่างพินิจพิเคราะห์“ใช่ของที่คุณนิอรหาอยู่ไหม”“อืม”ภูผาถามนำคำตอบ เมื่อคำตอบเป็นอย่างที่เขาคิด ภูผาเองถึงกับเบิกตากว้างทันที ทำไมมันถึงมาอยู่ที่เขา ทั้งที่นิอรกลับไปแล้ว โดยที่เธอก็หามันไม่เจอ“ผมไม่ได้บอกคุณนิอรว่าผมหามันเจอ ไม่อยากให้เธอต้องเข้ามาข้อเกี่ยวกับสิ่งนี้ ที่มันอันตรายเกินไป”“นายดูมันหรือยัง ว่าข้างในมันคืออะไร”“ยัง ฉันอยากให้พวกเราดูพร้อมกัน”“อืม เย็นนี้ตรีทศกับสืบสายจะบินมาที่นี่เราไว้ดูพร้อมเขาแล้วกัน”สัญญาณเรียกเข้าโทรศัพท์ของภูผา ทำให้เขาต้องขอออกไปรับสายข้างนอก และปล่อยให้สองหนุ่มได้นั่งคุยกันไปก่อน อังคณาโทรหาเขา เพราะเห็นว่าเขาหายไปหลายวันแล้ว และไม่ได้แวะไปหาเธอที่บ้านเหมือนเคย“คุณงานยุ่งเหรอ หายไปไหลายวัน”“ครับ พอดีคุณเหนือไหว้วานให้มาดูแลเพื่อนของเขาที่นอนป่วย
สืบสายมาถึงห้องพักผู้ป่วยของยศก่อนใคร คงทรัพย์ที่นอนเฝ้ารู้สึกตัวทันทีที่ประตูห้องเปิดออก ปฏิกิริยาของเขายังคงไวอยู่เสมอไม่มีเปลี่ยน คงทรัพย์ลุกขึ้นนั่งทันที“มาแล้วเหรอ”“อืม กาแฟกับอาหารเช้าฉันแวะซื้อมาให้”สืบสายส่งแก้วกาแฟร้อนขนาดเหมาะมือ พร้อมถุงขนมปังอบ และแซนวิช ให้กับคงทรัพย์ เขารับไปพร้อมกับรอยยิ้มขอบใจ เขาทานโดยไม่ต้องแปรงฟันล้างหน้าเลยด้วยซ้ำ“นายไม่คิดจะล้างหน้าแปรงฟันก่อนค่อยกินเหรอ”“อืม กินก่อนค่อยล้างทีเดียว”สืบสายหัวเราะอยู่ในลำคอก่อนจะส่ายหัวเบาๆ เพราะคงทรัพย์เป็นผู้ชายที่ไม่ได้พิถีพิถันกับเรื่องพวกนี้มากนัก สืบสายมีเพื่อนสนิทที่แสนจะต่างขั้วกันมาก อย่างคงทรัพย์และธนญ“นายกลับไปอาบน้ำอาบท่าและนอนพักที่โรงแรมก่อนได้นะ ฉันเฝ้าต่อเอง เดี๋ยวพวกธนญก็มาแล้ว ผลัดกันเฝ้า”“แล้วนายภูผาไม่มาแล้วเหรอ”“เห็นว่าจะเข้ามาช่วงบ่ายๆ มีธุระตอนช่วงเช้า”สืบสายบอกให้คงทรัพย์กลับไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อน เพราะช่วงเช้าผู้คนพลุกพล่าน ไม่น่ากลัวมากนัก แถมธนญ พัศวี และตรีทศ ก็กำลังมา ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง อีกทั้งเรื่องการย้ายโรงพยาบาลให้กับยศนั้นก็เรียบร้อยดีแล้ว รอเคลื่อน
เสียงเคาะประตูสามครั้งเบาๆ ดังขึ้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ทำให้อังคณาแปลกใจ เพราะภูผาเพิ่งออกไปไม่นาน บ้านของเธอไม่ค่อยได้ต้อนรับใครมากนักนอกจากภูผา และป้าข้างบ้านที่ทำอาหารให้เธอเท่านั้น ซึ่งมันยังไม่ถึงเวลาอาหารเย็นเลยสักนิด“ทำไมกลับมาอีกล่ะภูผา”เสียงของอังคณาดังขึ้น ก่อนที่ประตูจะเปิดออกทั้งหมด และเผยให้เห็นชายหนุ่มร่างกายกำยำที่คุ้นเคย อังคณาตกใจถึงกับเอามือปิดปาก เซก้าวถอยหลังสองก้าวทันทีคงทรัพย์เดินเข้ามาด้านในก่อนที่เธอจะได้เอ่ยปากเชิญ หรือขับไล่ เขาปิดประตูลงอย่างเยือกเย็นและเงียบขรึม“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”เมื่อตั้งสติได้แล้ว อังคณาจึงเดินหนีไปทางหนึ่งแทน“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก”“เรื่องลูก”อังคณาหันขวับ และยิ้มเยาะเขาที่มุมปาก ดวงตาที่ปวดร้าวและขมขื่น เขากล้าที่จะเรียกลูกได้เต็มปาก กับสิ่งที่ทำกับเธอในคืนนั้นอย่างนั้นหรือ“เรื่องของเราจบไปแล้วไม่ใช่เหรอ คุณเป็นคนพูดเองคืนนั้น กลับไปเถอะค่ะคุณคงทรัพย์เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว”น้ำเสียงที่เป็นทางการและเฉยชาของอังคณา มันทำให้เขาเจ็บที่หัวใจ เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาได้ทำมันลงไปในคืนสุดท้ายที่พบเธอที่ระยอง
พลอยฟ้าตกใจที่อยู่ดีๆ ภูผาก็จู่โจมจูบเธอทันทีที่เข้ามาในลิฟท์ พลอยฟ้าใช้แรงทั้งหมดที่มีดันร่างของเขาออก แต่ไม่เป็นผล ประตูลิฟท์ที่ถูกปิดแต่ยังไม่ได้เลื่อนไปไหน เพราะเขาและเธอยังไม่ได้กดชั้น ทำให้มันถูกเปิดออกอีก แขกที่เข้ามาใหม่คู่ชายหญิง ถึงกับผงะ แต่ก็แอบเอามือปิดปากหัวเราะเบาๆภูผาถอนริมฝีปากออก ก่อนจะกลบเกลื่อนทำท่าทางให้เป็นปกติ เหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น เขาเหลือบไปมองหมายเลขชั้นของพวกเขาที่ชั้นห้า ก่อนจะเอื้อมมือไปกดชั้นหกซึ่งเป็นชั้นห้องพักของภูผาและพลอยฟ้าพลอยฟ้าที่ใจสั่นเต้นระรัว เธออายจนหน้าแดง เอาแต่ก้มหน้างุด ตามองต่ำ ไม่กล้ามองหน้าภูผา หรือแขกของโรงแรมคู่นั้นเมื่อถึงชั้นห้าประตูลิฟท์กำลังจะเปิดออก พลอยทำท่าจะเดินตามคู่รักคู่นั้นออกไปแต่ถูกภูผาดึงมือเอาไว้“ยังไม่ถึงชั้นของเรา”นั่นยิ่งทำให้สองหนุ่มสาวคู่นั้นถึงกับหัวเราะออกมา ก่อนจะรีบเดินออกจากลิฟท์ เพราะเข้าใจว่าพวกเขานั้นรีบจนลืมชั้นของตัวเองพลอยฟ้าหันกลับมาด้วยอาการโกรธจัด เธอกระชากแขนตัวเองออกจากมือของเขา ทันทีที่ถึงชั้นหก ประตูลิฟท์เปิด เธอรีบเดินออกไป เดินจ้ำอย่างรวดเร็ว เพื่อไปที่ห้องของเธอ
ภูผามอบอาวุธปืนทั้งสองกระบอกไว้ให้เป็นหลักฐานแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเข้ากระบวนการสอบสวนตามขั้นตอนหลังจากได้รับการรักษาแผล ที่ถูกยิงที่หัวไหล่เรียบร้อยแล้ว มันเป็นเพียงรอยแผลถากๆ แต่ก็ทำให้เสียเลือดมาก หน้าตาที่ดูอิโรยและอ่อนเพลีย แต่เขาก็ไม่ได้ขอให้ทางสารวัตรไพศาลยุติการสอบปากคำ เพราะเขาอยากให้มันเป็นไปตามกระบวนการ และเรียบร้อยตามขั้นตอน สำหรับเขาอาการบาดเจ็บเล็กน้อยแบบนี้ มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับเขาคงทรัพย์ทันทีที่ทราบข่าว เขารีบตรงไปที่สถานีตำรวจทันที แม้เขาไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนกและค่อนข้างนิ่งกับเหตุการณ์ แต่ในแววตานั้น เขาก็รู้สึกเป็นห่วงและขอบคุณภูผาอย่างจริงใจ ที่ภูผาทำหน้าที่แทนเขาได้เป็นอย่างดี และรู้สึกเสียใจที่เขาเอาเวลาไปทำเรื่องส่วนตัวของตัวเองจนลืมหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ“นายเป็นไงบ้าง”“ผมโอเค เจ็บแผลนิดหน่อย แต่มันก็พอทนได้ ชินแล้วครับ”“ขอโทษนะที่นายต้องมาเจ็บตัวแทนฉัน คนที่ต้องทำหน้าที่นี้มันควรจะเป็นฉันมากกว่า”ภูผายิ้ม คงทรัพย์ให้ภูผานั่งรอเขาก่อนสักครู่ระหว่างที่คงทรัพย์พูดคุยกับสาวัตรเรื่องคดี เขาได้ประสานงานไปทางผู้ใหญ่ที่นับถือ
พลอยฟ้าตกใจตื่นขึ้นมาเมื่อใกล้รุ่งสาง ดวงตาที่พยายามลืมขึ้นในแสงสลัวที่ฟ้ายังไม่แจ้งดี พลอยฟ้านอนหันหลังให้เขาด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า มีเพียงผ้าห่มอุ่นคลุมกายอยู่ใต้วงแขน เสียงหายใจแรงของภูผาทำให้พลอยฟ้า ไม่แน่ใจว่าเขาตื่นอยู่หรือว่าหลับก่อนจะค่อยลุกขึ้น และหันไปตามเสียงนั้นช้าๆ ใบหน้าที่เอียงไปทางหนึ่ง แขนทั้งสองวางอยู่บนอก ผ้าห่มคลุมแค่ท่อนล่าง ผิวกายที่ขาวสะอาด มีกล้ามเนื้อเล็กน้อยแต่ดูแข็งแรงพลอยฟ้ามองหาเสื้อผ้าของตัวเอง ก่อนจะย่องลงจากเตียง และรีบร้อนสวมใส่มัน และไม่ลืมที่จะเก็บของสำคัญที่เธอตั้งใจมาเอาคืน แต่กลับเป็นสิ่งที่ทำให้เธอและเขาลงเอยกันบนเตียงเสียงประตูที่ปิดลงเบาๆ ทำให้ภูผาลืมตา เขาตื่นนานแล้ว แต่เพราะกลัวว่าพลอยฟ้าจะทำตัวไม่ถูก เขาจึงแกล้งทำเป็นหลับอยู่ เพราะมันก็ยากสำหรับเขาด้วยเช่นกันที่จะต้องเผชิญหากับเธอพลอยฟ้าที่หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แสงแดดอ่อนๆ ก็ฉายแสงเต็มที่ แต่เธอยังคงหมกตัวอยู่ในห้อง อยากออกไปข้างนอกใจจะขาด แต่ไม่แน่ใจว่าโผล่ไปเจอเขาตอนไหน เธอจึงเอาแต่นั่งเงียบๆ อยู่ในห้องจนกว่าจะได้ยินเสียงของเขา จนกระทั่งช่วงสาย เสียง