กรงรักราชาโจร
ตอนที่ 3
(จุดไฟเผา)
"ริฎวาน เตรียมรถให้ที วันนี้จะกลับคฤหาสน์ใหญ่"
"ได้ครับ,..แล้วจะให้จัดการกับนางยังไง"
"ขังไว้ก่อน เดี๋ยวเราจะกลับมาจัดการเอง"
"ครับ"
สิ้นสุดการพูดคุยสนทนา คนสนิทก็เดินจากไป เพื่อจัดการตามคำสั่งที่ผู้เป็นนายต้องการ หญิงที่ถูกกล่าวขาน ทำให้สีหน้าของจาห์มาล์เปลี่ยนไปทันที เจ้าตัวที่ไม่รู้แน่ถึงความโกรธในใจเขา เรื่องราวอะไรที่เป็นต้นตอ แต่สำหรับเขา จาร์มาล์ มันฝังลึกในใจแทบไม่อาจลืมเลือน
"ฮึ! น่าสมเพชสิ้นดี...แค่นี้ยังน้อยไปกับที่เธอทำไว้"
เสียงเหี้ยมดังขึ้น สบถอย่างดูแคลน เขายืนจ้องมองผู้หญิงในกรงขังสัตว์อย่างพึงพอใจ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือ มันทำให้เขายิ้มเยาะร้ายแสดงออกถึงความสมเพชในตัวของเธอตอนนี้เต็มประดา ใบหน้าที่เขาจดจำไม่เคยลืม คนที่เคยทำเขาแทบระบมปางตาย จนได้ผันกลายมาทำเรื่องเลวระยำ สำหรับผู้อื่นลับหลังของบิดาและมารดา แต่ที่ทำล้วนมีที่มาด้วยกันทั้งนั้น หวังว่าสักวันจะต้องได้พบกับคนที่ปรารถนา และแล้ววันนี้ก็มาถึง ทั้งที่พยายามออกตามล่ามานานนม สุดท้ายคนที่ต้องการก็คลานเข้ามาหาเสียเอง
"ปล่อยฉัน! ถ้าฉันหลุดไปได้ บอกไว้ตรงนี้เลยว่าจะฆ่าแกด้วยมือของฉันเอง"
สายตากร้าวจ้องมองไปยังจาร์มาล์อย่างเคียดแค้น แขนที่ถูกพันธนาการด้วยเชือกแน่นหนา แต่ทว่าเธอก็พยายามออกแรงบิดข้อมือหวังให้เชือกหลุด ยิ่งได้มองเห็นใบหน้าของจาร์มาล์ ดวงตาเข้มกลมโตก็เปล่งประกายยิ่งกว่าดวงไฟที่กำลังลุกโชน ความโกรธกำลังครอบงำเธอเพียงแค่เห็นหน้าของคนที่เธอเกลียดชัง
"ก็แค่เชลยไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น มีสิทธิ์อะไรมาสั่งคนอย่างเรา" จาร์มาล์ส่งสัญญาณให้บริวารปลดกุญแจ จากนั้นจึงนำพาร่างกำยำเข้าไปในกรงขังสัตว์นั้น ใช้มือบีบพวงแก้มของเธอจนยู่ย่น ดวงตาเข้มดำขลับจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอเช่นกันอย่างไม่ยอมปรน
"แต่ฉันก็มีหัวใจนะ...ฉันมีความรู้สึกและเจ็บปวดเป็น แล้วที่ตัวเองทำไว้มันดีแล้วหรือไง!!"
จัสซีเนียไร้ซึ่งความกลัว เธอกล่าวเสียงแข็งต่อหน้า แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกบีบแก้มก็ไม่ปริปากออกมาแต่อย่างใด ไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้คนตรงหน้าได้เห็น
"เป็นเช่นนั้นรึ? ฮึ! ความรู้สึกของเธอไม่ได้มีผลสำหรับเรา.,.เจ็บปวดงั้นรึ เจ็บเป็นคนเดียวหรือไง! แล้วตัวของเธอเองมันก็ไม่ได้มีดี เป็นกาลกิณีต่ำช้า รวมหัวกับพ่อของเธอทำเลวกับเราเหมือนกัน!!"
ยิ่งย้อนไปในสิ่งที่ทำให้เจ็บแค้น ก็ยิ่งเหมือนกับเติมน้ำมันเชื้อเพลิงลงกองไฟ มันทำให้จาร์มาล์นั้นแทบสติหลุด ออกแรงบีบปากของจัสซีเนียเต็มแรง จนเธอนั้นน้ำตาไหลพราก แต่ไม่ยอมปริปากร้องขอต่อสิ่งที่เขากระทำ จ้องมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมกัน
"อะไร! ฉันไม่เข้าใจ แล้วฉันเกี่ยวอะไรด้วย" เธอพยายามเปล่งเสียงพูดออกมาให้ชัดเจนที่สุด มันงุนงงกับสิ่งที่เขากล่าวหา เธอไม่กระจ่างในวาจาที่เขาเปล่งออกมาแม้แต่น้อย
"ตอแหล!!"
เพี๊ยะ! เขาสะบัดมือแรงกระทบแก้มเนียน จนใบหน้าของจัสซีเนียกระแทกเข้ากับกรงขัง ความแรงของกำลังชายชาตรี ทำเอาปากของหญิงสาวมีเลือดซึมออกมา เจ็บแสบไปทั้งหน้า แต่ทว่าก็ยังไม่ยอมอ้อนวอนร้องขอชีวิต ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องเอาคืนชายผู้นี้ที่ลงมือปลิดชีพพ่อของเธออย่างเหี้ยมโหด
"ระยำหยาบช้าสิ้นดี!" เธอรุกสู้ด้วยคำพูดด่าทอ จ้องมองหน้าจาร์มาล์ด้วยพลังแค้นที่มันสุมอก
"เทียบเทียมไม่ได้สักนิดกับสิ่งคาว ๆ ที่พ่อเธอทำ....ใครกันแน่ที่ระยำกว่ากัน!" เขาเหมือนกับสัตว์ดุร้าย ปรี่ประชิดกายของจัสซีเนียเร็วพลัน เมื่อคำหยามหลุดออกมาจากปากของเธอ คำพูดที่เหมือนปลุกพลังความโหดร้ายออกมา ทำให้จัสซีเนียเจ็บกายอีกครา เพราะมือหนาบีบแน่นตรงหัวไหล่ของเธอ
"พวกแกมันระยำที่สุด! ถุย!" คำถ่าทอที่เปล่งออกมา พร้อมกับถุยน้ำลายใส่หน้าของคนตัวใหญ่ เธอไม่เกรงกลัวแม้ความตาย หากมันจะทำลายและแก้แค้นให้พ่อของเธอได้
"เราทำได้มากกว่าจุดไฟเผาทั้งเป็นเสียอีก....หรือเธออยากจะลองเหมือนกับพ่อและพี่ชายของเธอ"
กรงรักราชาโจรตอนที่ 4-คนเคยรัก"รถพร้อมแล้วครับ" เสียงของริฎวานคนสนิทเอ่ยบอก เขากรอกเสียงมาแต่ยังไม่ทันถึงกรงขัง ลั่นเสียงดังมาหวังว่าให้คนเป็นนายให้ความสนใจ แม้จะอยู่ในคราบของโจรทะเลทราย ลึก ๆ ในใจก็นึกสงสารผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ถูกทำร้าย"อืม..." มันเป็นดั่งใจหวัง จาร์มาล์ผ่อนกำลังและปล่อยมือหลุดจากหญิงสาว สะบัดเธอแรงจนตัวปลิวกระแทกกับเหล็กอย่างไม่คิดโอนอ่อนให้ ร่างกายของเธอคงบอบช้ำเข้าอีกละลอกจากแรงเหวี่ยงของชายชาตรี"ท่านจะไปในสภาพนี้ไม่ได้นะครับ กระผมเตรียมชุดให้เรียบร้อยแล้ว...ไปเปลี่ยนเสียเถิด" คนสนิทย้ำเตือนด้วยความหวังดี ผู้เป็นนายจะมีสภาพในคราบโจรกลับเข้าคฤหาสน์ นั่นคงทำให้ผู้เป็นบิดาและมารดาได้สงสัย การที่ออกมาอยู่เช่นนี้แน่นอนว่าเขาปิดบัง เพราะมันมีเรื่องที่เขาต้องเคลียร์สะสางส่วนตัว"ขอบใจที่เตือน...เฝ้านางแพศยานี่ไว้ให้ดี หากนางหลบหนีไปได้เราจะจัดการกับทุกคนที่อยู่ที่นี่" คำพูดแรกเอ่ยกับริฎวานคนสนิท ก่อนจะออกคำสั่งเสียงเข้มกำลังบริวารที่คอยเฝ้ากรงขัง(ขอรับ!!) เสียงอันฮึกเหิมตอบรับพร้อมกันอย่างเข้มแข็งแก่ผู้เป็นนาย นั่นถึงทำให้จาร์มาล์ก้าวขาเดินจากไป ด้วยท่าทางที่น่าเกรงข
กรงรักราชาโจรตอนที่ 5-ไม่ตายง่าย ๆ"ตอนนี้ลูกยังไม่พร้อม...อย่าสนใจเรื่องของลูกเลยขอรับท่านพ่อ มันไม่ได้มีสาระอะไรเลยสักนิด" การบ่ายเบี่ยงเพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจ แต่หาใครอื่นใดรู้ไม่ว่ามันคือความเจ็บปวดที่เขาต้องแบกรับไว้ ไม่สามารถพูดมันออกไปให้ใครฟังได้"ทำไมลูกพูดแบบนั้นจาร์มาล์" เสียงของผู้เป็นมารดาทักท้วง เมื่อสีหน้าของบุตรชายดูไม่ยิ้มแย้มเหมือนก่อนหน้า เพียงแค่สิ้นคำถามของผู้เป็นบิดา".........." บุตรชายเลือกที่จะเงียบเมื่อผู้เป็นมารดานั้นต่อว่า คำว่าคนรักที่ตอนนี้กลายเป็นคนเคยรัก เพราะถูกหักหลังมันทำให้จาร์มาล์นั้นฝังใจเจ็บ"เอาละ...ฟาตินก็อย่าไปตำหนินัก จาร์มาล์ขึ้นไปพักเถอะ" เมื่อเห็นสายตาที่ฟาดฟันระหว่างบุตรชายและภริยา ผู้ที่เป็นประมุขของครอบครัวจึงเอ่ยแทรก ส่งสัญญาณทางสายตาแยกให้ลูกออกห่างจากผู้เป็นมารดา ลูกผู้ชายเหมือนกันย่อมเข้าใจในสิ่งที่สื่อ แต่กับคนเป็นสามีก็ไม่อยากจะริดรอนความรู้สึกของภริยา"ท่านชอบให้ท้ายลูกจนเริ่มเสียนิสัยเหมือนกับท่าน..." น้ำเสียงที่เง้างอนไม่พอใจ สะบัดใส่ผู้เป็นสวามี"ทำไมกลายเป็นแบบนี้ล่ะฟาติน" หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงด่าทออย่างไม่ไว้หน้า แต่ทว่าตอน
กรงรักราชาโจรตอนที่ 6-ป่วยหนัก"จะไปแล้วเหรอจาร์มาล์" เสียงเรียกของผู้เป็นมารดาทักท้วง เมื่อเห็นบุตรชายจ้วงเท้าวิ่งลงบันไดคฤหาสน์ลงมา ดั่งกับว่ารีบร้อนเหลือแสน"ขอรับท่านแม่ แต่เดี๋ยวเย็นนี้ลูกจะกลับมา ขอออกไปทำธุระก่อน" เพียงเสียงเรียกของมารดา จาร์มาล์ก็รีบเดินในท่วงท่าปกติ แล้วให้คำตอบแก่ผู้เป็นมารดา ที่ตอนนี้ย่างกรายเข้ามาใกล้แล้วหยุดยืนตรงหน้า"ดูรีบร้อนเหลือเกิน ทานมื้อเช้าก่อนค่อยไปสิลูก" มืออุ่นของมารดาลูบแก้มของบุตรชายด้วยความรัก พร้อมออกปากชวน"ธุระค่อนข้างด่วน ลูกต้องรีบไป แล้วจะรีบกลับมาทานมื้อเย็นนะขอรับ""ก็ได้จาร์มาล์ งั้นก็รีบไป เดินทางปลอดภัยนะ""รักท่านแม่นะขอรับ""จ้ะ"ความรีบร้อนไม่ใช่ว่าเพราะเหตุใด แต่มันคือการที่เหล่าบริวารโทรมารายงานในอาการของคนที่ถูกขังต่างหาก ปากแข็งบอกว่าดั่งไม่คิดจะห่วงใย แต่ไฉนเลยถึงทำคนใจแข็งนอนแทบไม่หลับตลอดทั้งคืน จนต้องรีบสั่งการมายังริฏวานให้ทำการเตรียมรถเพื่อการเดินทางแต่เช้า"ดูท่านจะห่วงนาง" รถยนต์ขับเคลื่อนออกมาไกล แต่อาการของผู้เป็นนายยังดูร้อนรน จนคนสนิทต้องทักท้วง แม้จะรู้ทันเป็นนัยก็ตามที"ไม่ได้ห่วง แค่ยังไม่อยากให้นางต้องตาย
กรงรักราชาโจรตอนที่ 7 - ปากไม่ตรงกับใจ"ตรวจอาการนางให้ละเอียด" เสียงเข้มออกคำสั่งกับหมอที่พามา ยืนจ้องมองหน้าคนป่วยที่ซีดเซียวอย่างนิ่งขรึม แต่ทว่าหารู้ไม่ในใจพลันนึกหวั่น จากที่เห็นว่าเธอนั้นสั่นเทาดูหนาวเหน็บ ริมฝีปากขาวเผือดสั่นระริกอย่างน่าเป็นห่วง"ขอรับ" เสียงของหมอตอบรับ พลางตรวจดูอาการของคนที่ป่วยอย่างตั้งใจสายตาคมจับจ้องไม่ละสายตาไปไหน ยืนมือไขว้หลังอย่างสังเกตการณ์ ทุกการกระทำจองหมออยู่ในสายตาของจาร์มาล์ตลอดเวลา จนริฏวานที่เฝ้ามองอยู่ด้านหลังจับพิรุธผู้เป็นนายได้อย่างรู้เท่าทัน ด้วยมือแกร่งที่กำแน่นอยู่ด้านหลังของจาร์มาล์ รับรู้ได้ว่าเขากำลังมีความกังวลไม่น้อย เพียงแต่ไม่แสดงความพะวงนั้นออกมาชัดเจน"หนักหนาแค่ไหน?" สายตาเพ่งพิศจ้องมองไม่วางตา เอ่ยปากถามหมอผู้รักษาด้วยความใคร่รู้"ร่างกายนางบอบช้ำ และอ่อนเพลียมาก มีไข้สูงน่าจะทรุดตัวอยู่หลายวันถึงตะมีอาการดีขึ้น ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ตอนนี้ยังไม่อาจวางใจได้ครับ" หมอที่ทำการรักษาหันมาประจันหน้าและให้คำตอบ"อืม...ดูแลนาง อย่าให้นางตายเสียล่ะ""ครับ"เป็นการรับรู้อย่างเข้าใจ แต่ปากที่แสนร้ายก็ยังเสียดสีแม้จัสซีเนียจะนอน
กรงรักราชาโจรตอนที่ 8 (ผิดสัญญา)"รถเตรียมพร้อมออกเดินทางกลับแล้วครับ" เมื่อได้เวลาอันควรแก่การเดินทาง ริฏวานก็ทำหน้าที่ด้วยความตั้งใจ แต่ฉไนเลยผู้เป็นนายกับยังนอนนิ่งอยู่บนเตียง"........" เสียงเรียกของริฏวานดังพอที่จะได้ยินชัดเจน แต่คนเจนจัดเล่ห์เหลี่ยมแสร้งทำเป็นนิ่ง เหมือนกับไม่ได้ยินมัน"ท่านจาร์มาล์" เรียกครั้งแรกไม่สนใจ ริฏวานเลยเดินขยับเข้าไปใกล้อีก".........." จาร์มาล์ก็ยังคงนิ่งเฉยดังเดิม ทำเพียงพลิกกายหันหลังให้ ทำดั่งกับคนหลับสนิทไม่รู้เรื่องราวอันใด"ท่านจะผิดคำสัญญาต่อมารดาอย่างนั้นหรือ?" ริฏวานพูดขึ้นเสียงเรียบเป็นการย้ำเตือน การทำแชเชือนของผู้เป็นนายที่ไม่ต่างจากเด็กในตอนนี้ เป็นท่าทีผิดแปลกจากแต่ก่อนโดยสิ้นเชิง ความเหี้ยมโหดและเด็ดเดี่ยวแทบจางหายไป แม้จะรู้ดีว่าเพราะเหตุผลใดถึงเป็นเฉกเช่นนี้พรึ่บ!! คำว่าสัญญาแว่วเข้ามาในหู ทำให้จาร์มาล์ปัดผ้าห่มผืนหนาออกจากกาย แล้วดีดตัวลุกนั่งอย่างวางท่า เพ่งพิศสายตามองริฏวานอย่างเคร่งขรึม"เราแค่หลับเพื่อพักสายตา แต่ว่าคงจะหลับลึกเกินไป ทำไมไม่เรียกเราดี ๆ""เรียกอยู่หลายที แต่ท่านไม่คิดสนใจ"ทำทีเป็นต่อว่าเสียงเข้ม ทว่านั่นกลับย
กรงรักราชาโจรตอนที่ 9 (เจ้าชีวิต)ยามราตรีผ่านพ้นไป แสงตะวันเจิดจ้าเปล่งรัศมีความร้อน คนที่จับไข้สูงทุเลาเบาลง และเริ่มคงสติรู้สึกตัว แต่ยังไม่หายดี เพราะอาการที่จัสซีเนียเป็นนั้นหนักหนาใช่ย่อย เปลือกตาค่อย ๆ ลืมขึ้น กะพริบปรับรับแสงดวงตะวันที่ ณ ตอนนี้ร้อนระอุแทบหลอมละลาย แต่สำหรับจัสซีเนีย ที่ร่างกายอ่อนเพลียกลับรู้สึกหนาวสั่นด้วยพิษไข้ที่มี หล่อนพยายามเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้ง แล้วกวาดสายตามองโดยรอบอาณาบริเวณ จนสายตาบรรจบเข้ากับเขาคนนั้นที่หล่อนเกลียดขี้หน้า เดินเข้ามาในกระโจมที่พักพอดิบพอดี"หึ" ทว่าเสียงนั้นกลับทำให้เธอไม่อยากจะลืมตาตื่นแม้แต่น้อย จนค่อย ๆ เบือนหน้าหนีไปอีกทาง อีกทั้งร่างกายของหล่อนตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะปะทะกับจาร์มาล์ผู้ปากร้ายและป่าเถื่อน"ร่างกายนางดีขึ้นแล้วครับ พักผ่อนอีกสามสี่วันก็หายดีเป็นปกติ" เมื่อหมอตรวจดูอาการก็รีบรายงานจาร์มาล์ทันที"อืม ไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย ตอนนี้เราจะส่งหมอกลับ""แต่ว่าอาการของนาง...."แกร๊ก!!เสียงเข้มสั่งการอย่างเอาแต่ใจ แต่ทันใดนั้นเสียงของหมอก็พูดขัดขึ้น หวังจะชี้แจงอาการคนไข้ แต่มันกลับไม่ได้ดั่งใจคนอารมณ์ร้าย ทำให้จาร์มาล์กดปล
กรงรักราชาโจรตอนที่ 10 (ทรมานเจียนตาย)แม้จะเจ็บปวดตามร่างกายที่บอบช้ำ การกระทำที่ป่าเถื่อนไร้ความไยดี ทว่าก็ไม่สามารถสั่งน้ำตาให้รินไหล เพราะมันแสดงถึงความอ่อนแอ หล่อนอดกลั้นอย่างเข้มแข็ง หันไปประจันหน้ากับคนป่าเถื่อน ที่ตอนนี้เพ่งพิศสายตาจดจ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ"เดรัจฉานที่สุด!" หล่อนลุกขึ้นยืนอย่างท้าทาย ไม่ได้คิดเกรงกลัวสายตานั้นแต่อย่างใด พ่นคำด่าทอหยาบโลนใส่หน้า แม้ว่าร่างกายจะได้เรี่ยวแรง แต่หล่อนก็ยังอดทนฝืนกลั้นให้ลุกยืน"เราเป็นได้ยิ่งกว่านั้น!...จัสซีเนีย""อ๊ะ! ฉันเจ็บ...ปล่อย!"เมื่อคำพูดของจัสซีเนียเปล่งออกมา จาร์มาล์ไม่รอช้าปรี่ประชิดตัวของจัสซีเนีย และบีบคอเจ้าหล่อนทันที แววตามีความเกรี้ยวโกรธต่อคำตำหนินั้น แต่ก็ยังกัดฟันยอมผ่อนปรนน้ำหนักมือ การตายที่ง่ายดายมันยังไม่สาแก่ใจของคนเฉกเช่นเขา ในเมื่อเขาทรมานและเจ็บปวดเจียนตาย ผู้ที่กระทำแก่เขาก่อนย่อมได้รับผลที่มากกว่าหลายเท่า"เจ็บแค่นี้มันยังน้อยไป...เพราะสิ่งที่เธอทำกับเรามันหนักหนากว่านี้หลายเท่า!!""กะ แกหมายถึงอะไร แค่ก ๆ...ฉันไม่เข้าใจ"แววตาคมดุเปล่งประกายความแค้น ลงน้ำหนักมือบีบคอของจัสซีเนียแน่นกว่าเดิม
กรงรักราชาโจรตอนที่ 11 (เชลยบนเตียง!)"ฉัน!...ไม่กลัวแกหรอก ไอ้ฆาตกรใจโฉด""อย่าให้เราโกรธมากกว่านี้ เพราะชีวิตของเธออาจจะดับลงก่อนเวลาอันควร"ความแกร่งที่มีเกินหญิง แม้ร่างกายจะไม่เอื้ออำนวย จัสซีเนียก็ยังพยายามหยัดตัวลุกยืนประจันหน้าท้าทาย ไม่ได้กลัวตายแต่อย่างใด ความแค้นที่มันฝังใจ ภาพการตายของบิดาและพี่ชายมันยังติดตาเธอไม่เคยเลือนหาย แถมพี่สาวอีกคนก็ยังหายตัวไป โดยไม่รู้เห็นร่องรอยนับตั้งแต่ที่โจรร้ายป่าเถื่อนจุดไฟเผาบ้านจนวอดวาย และความเกลียดชังยังฝังใจไม่ลดเลือนหายไปแม้แต่น้อย"ตราบใดที่คนชั่วอย่างแกมีลมหายใจ จัสซีเนียคนนี้จะไม่มีวันตาย!" แววตาที่มุ่งมั่น น้ำเสียงที่หนักแน่น เปล่งออกมาอย่างไร้ความกลัว หล่อนค่อย ๆ ขยับขาเดินเข้าไปประจันหน้ากับจาร์มาล์ จ้องมองตาคมดุนั้นอย่างท้าทาย"ปากดี...งั้นก็จงรอรับความทรมานได้เลย!" ร่างกายสูงกำยำก้มมองคนที่ตัวเล็กกว่า ยกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน แม้นคำพูดที่หนักแน่นของหล่อน ก็ไม่อาจจะสะท้อนให้เขากลัว ก็แค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ มีหรือจะสู้ชายชาตรีเฉกเช่นเขาได้"โอ๊ะ! กะ แกจะทำอะไร?" จาร์มาล์ผู้โหดร้าย ก้าวขาเดินเผชิญหน้า แววตาเฉี่ยวดุดันเพ่งเพิศมองลึก
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 15(ภาพจำตลอดกาล)ถึงวันเวลาบุตรคนที่สองของจาห์มาล์ถือกำเนิด นับเป็นความยินดีปรีดาที่ได้มาซึ่งบุตรชาย พระโอรสตัวน้อยที่เค้าโครงใบหน้าค่อนไปทางมารดา ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกประการ และองค์หญิงจัสทีน่าก็ช่างแสนจะเห่อน้องชายที่เพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือน"ฮะมีสเรามีน้องแล้วนะ น้องของเราน่ารักเหมือนเราเลย" องค์หญิงจัสทีน่าว่าขึ้นอย่างอวดอ้าง ในขณะที่กำลังนั่งเล่นในสวน มีอัยนูนที่นอนนิ่งอยู่ข้างกาย อีกทั้งยังมีพี่เลี้ยงคอยดูแลปรนนิบัติในทุกย่างก้าว "เราตั้งชื่อน้องชายเองด้วยนะ ให้ชื่อว่าจาห์เนีย""ขอรับ...แล้วจาห์เนียแปลว่าอะไรหรือองค์หญิง" ฮะมีสในวัยเก้าขวบตอบรับอย่างเห็นตาม เขาไม่เคยขัดในสิ่งที่องค์หญิงจัสทีน่าปรารถนา ตามด้วยย้อนถามในพระนามขององค์ชาย"แปลเหรอ? เราก็ไม่รู้เหมือนกัน คิกคิก" องค์หญิงตัวน้อยพูดเจื้อยแจ้ว ทำเอาพี่เลี้ยงที่นั่งฟังถึงกับอมยิ้ม ชอบใจในจินตนาการที่เดียงสาของจัสทีน่า"อ้าว""ก็เราเอาชื่อท่านแม่กับท่านพ่อบวกกัน บวกเหมือนเลขที่โรงเรียนไงครูสอนมา อยากให้มันเยอะต้องบวก มีจาห์เนียมาเพิ่มก็ต้องเป็นบวก...เอ๊ะ! หรือจะบวกกันให้หมดเลยเป็น จัสซีมาล์จาห์เน
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 14(สัตว์เลี้ยงขององค์หญิง)"ท่านแม่ขา" เสียงเจื้อยแจ้วขององค์หญิงตัวน้อยที่นอนหนุนขาของมารดาเอ่ยถาม หันหน้าเข้าหาท้องกลมใหญ่ที่ใกล้คลอด มือป้อม ๆ ขององค์หญิงจัสทีน่า ลูบคลำด้วยความแผ่วเบา"ว่าอย่างไรคะองค์หญิงของแม่" ผู้เป็นมารดาที่นั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียง มือหนึ่งลูบหัวเพื่อขับกล่อมบุตรสาว ขานรับเมื่อองค์หญิงจัสทีน่าพร่ำเรียก"เมื่อไหร่น้องจะออกมาเล่นเป็นเพื่อนลูกคะ" จินตนาการด้วยการเฝ้ารอน้องที่อยู่ในท้องของมารดา"อยากเจอหน้าน้องแล้วเหรอคะ" ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามด้วยความเอ็นดู"อยากเจอแล้วค่ะ" องค์หญิงจัสทีน่าให้คำตอบ พร้อมกับกดปลายจมูกเล็กเชิดรั้นสัมผัสลงท้องกลมของมารดา มีการขยับเคลื่อนไหวของทารกน้อยในครรภ์ เหมือนกับตอบรับพี่สาวที่เฝ้ารออยู่ด้านนอก"รออีกหน่อยนะคะ อีกไม่กี่วันน้องก็จะมาแล้ว องค์หญิงจะเลี้ยงน้องช่วยแม่ไหมคะ" ผู้เป็นมารดาให้คำตอบ จากนั้นจึงเอ่ยถามอย่างลองเชิงบุตรสาวที่ยังไร้เดียงสา"ต้องเลี้ยงค่ะท่านแม่ ลูกรักน้อง พี่น้องต้องรักกันค่ะ ท่านปู่กับท่านย่าบอกแบบนี้" คำสั่งสอนของปู่กับย่า องค์หญิงจัสทีน่าจดจำได้ดี ครั้นเข้าเฝ้าทีไรต้องได้สิ่งที่มีประ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 13(วุ่นทั้งวัง)วันเวลาล่วงใหญ่ผ่านไป การใช้ชีวิตคู่ก็ชื่นมื่นสุขสม ทุกอย่างดำเนินไปตามเจตนารมณ์ของคนทั้งสอง ลูกน้อยที่เคยอยู่ในท้อง ออกมาท่องโลกกว้างมาจนอายุครบสี่ปีและยังมีทารกน้อยในท้องอีกหนึ่งคนที่จวนจะคลอดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าองค์หญิงตัวน้อยเป็นที่รักของทุกคน ความสดใสเจื้อยแจ้วเดียงสา ทำให้ราชวังที่เงียบเหงามีสีสันสดใส และวุ่นวายในเวลาเดียวกัน“จัสทีน่า! องค์หญิงอยู่ไหนลูก” เสียงของบิดาตะโกนเรียกขาน เมื่อบุตรสาวตัวน้อยไม่รู้ว่าแอบหนีไปเล่นซุกซนที่ไหน“คิก คิก” เสียงหัวเราะชอบใจเมื่อคนที่อยู่บนต้นไม้ มองไปเห็นบิดากำลังเดินตรงมา สายตาก็กวาดมองหา ทว่าก็ไม่เจอคนที่หลบซ่อน มันทำให้หล่อนชอบใจ“องค์หญิงเพคะ องค์หญิง” เสียงของพี่เลี้ยงตะโกนเรียกหา ทว่าจัสทีน่าองค์หญิงตัวน้อยก็ไม่ยักจะขานรับ“จัสทีน่า” เสียงมารดาแว่วดังตามมา ความวุ่นวายในวังมีไม่หยุดหย่อน สีสันที่ทำเอาเหล่านางในถึงกับเหนื่อยหอบได้ทุกวี่วัน ก็องค์หญิงตัวน้อยชอบแอบหนีไปเล่นเพียงลำพัง แล้วให้คนไล่ตามหา เหมือนกับว่าหนูน้อยชอบใจที่ได้กลั่นแกล้งปั่นหัวผู้คน“ท่านพ่อเดินมาทางนี้แล้ว จะเห็นเราไหมนะ” จัสท
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 12(ยอมป้ะล่ะ?)หลังจากสร้างความสบายใจให้กับจัสซีเนียเสร็จสิ้น จาห์มาล์ก็กลับเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว เพื่อสะสางสิ่งที่ต้องทำ เตรียมพร้อมสำหรับการที่จะพาจัสซีเนียไปพักผ่อนตามคำบัญชาของมารดา ที่ห่วงลูกสะใภ้หนักหนา ทว่ากับมีบางอย่างให้ฉุกคิดขึ้นมาในหัว"ส่งมาหยาเรียบร้อยใช่ไหม?" เขาเอ่ยถามเมื่อรับรู้ถึงการเข้ามาในห้องของริฎวาน"ขอรับ" ตอบรับด้วยน้ำเสียงสุขุม"ได้ไปดูทาเธียน่าบ้างหรือไม่" มันคือสิ่งที่ฉุกคิดขึ้นมาได้เลยเอ่ยถาม ตั้งแต่วันที่เขาสำเร็จโทษของทาเธียน่า ก็ไม่มีทีท่าจะไปพบหน้าหล่อนอีกเลย ได้แต่ถามไถ่จากริฎวานเท่านั้น เป็นครั้งคราวที่นึกถึง"กระผมเพิ่งแวะไปเยี่ยมตอนไปส่งคุณมาหยาขอรับ" ริฎวานให้คำตอบ"นางเป็นอย่างไรบ้าง" จาห์มาล์ยืนมือไขว้หลัง ทอดสายตามองออกไปยังทัศนียภาพเบื้องหน้าอย่างไร้เป้าหมาย ครุ่นคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่พบเจอมา ดั่งกับว่าเป็นนิยายปลำปลา ไม่เคยคิดว่าชีวิตหนึ่งจะต้องมาเจอสิ่งเหล่านี้ ไม่เคยคิดว่าจะต้องพบกับความเจ็บปวดและมีปมในใจ ทั้งที่เกิดมาพร้อมศักดินาที่สูงส่งในเชื้อพระวงศ์ คิดแล้วก็ตลกสิ้นดี"เหมือนเดิมขอรับ เซื่องซึม ไม่พูดไม่จาและ
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 11(อธิบาย)"เธอ!""พระชายา"จัสซีเนียที่เดินมาหวังจะเข้าพบพระสวามี บรรจบพบเข้ากับมาหยาพอดิบพอดี กับที่หล่อนนั้นเปิดประตูออกมา มาหยาฉีกยิ้มให้แล้วโค้งตัวทำความเคารพ แต่กับจัสซีเนียหล่อนคิ้วขมวดชนกัน งุนงงกับการที่มาหยาเดินออกมาจากห้องทำงานของพระสวามีในยามนี้เพี๊ยะ! ไม่ทันจะได้ถามหาความจริง สิ่งที่เห็นทำให้จัสซีเนียเลือดขึ้นหน้า ปรี่ประชิดตัวมาหยาแล้วกระแทกฝ่ามือใส่จนใบหน้าสวยของมาหยาหันไปตามแรง ทำเอาคนสนิทที่เดินประกบหลังมาถึงกับเบิกตากว้างตกใจ ไม่คิดว่าพระชายาที่กำลังอารมณ์ดี จะมีความโมโหรุนแรงเช่นนี้เพียงชั่วพริบตาเดียว มันทำให้พวกหล่อนตั้งหลักไม่ทัน"ท่านพี่!" และสิ่งที่ทำให้ตะลึงยิ่งกว่านั้น คือจาห์มาล์เปิดประตูออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน มันทำให้หัวใจของจัสซีเนียวูบไหว คาดหวังว่าพระสวามีคงไม่ตลบหลังหล่อนใช่ไหม? ภาพที่เห็นทำให้คิดไกล ดวงตาสั่นไหวด้วยความหวาดหวั่น กระนั้นก็ย่างสามขุมเข้าหาจาห์มาล์ที่ยืนทำหน้างุนงง"โอ๊ย ๆ น้องใจเย็น ฟังพี่ก่อน...จัส จัส พี่เจ็บ ท้องอยู่นะ" แต่ต้องร้องโอดครวญด้วยความเจ็บแสบ จนเรียกชื่อของจัสซเนียเพียงพยางค์เดียว เมื่อหล่อนฟาดฝ่ามื
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 10(ทางแยก)"คิดจะกำจัดฉันเหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก กว่าจะได้เข้ามาในนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ" มาหยาที่เผลอมาได้ยิน สิ่งที่พระนางเอื้อนเอ่ยทำให้มาหยากำมือแน่นด้วยความแค้นใจเรื่องราวที่องค์รัชทายาทบาดหมางกับพระชายานับว่าเป็นข่าวดีไม่น้อยที่จาห์มาล์พูดระบายตอนเมา เพราะมันทำให้หล่อนตะล่อมจาห์มาล์ได้ง่ายขึ้น จนเขายอมพาหล่อนเข้ามาในวัง นานทีเขาจะไปหาที่ฮาเร็ม หล่อนจะทิ้งโอกาสไปได้อย่างไรความว้าวุ่นก่อเกิดทำให้มาหยาถึงกับนั่งไม่ติดที่ เดินวนอย่างใช้ความคิด เพื่อหาทางได้อยู่ในวังต่อ เดินคิดทวนอยู่นานหลายนาที ความคิดมาดร้ายจึงบังเกิด"ฮึ! พระชายาคงไม่ถือสาหรอกมั้งที่จะใช้สามีร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาองค์รัชทายาทก็เคยร่วมเตียงกับหม่อมฉันนะเพคะ" มาหยาที่มีความคิดมาดร้ายในหัว หล่อนยืนพร่ำคนเดียวในห้องนอนรับรอง มโนภาพใบหน้าของพระชายาด้วยความปรีดา หากว่าได้เห็นในสิ่งที่จะผูกมัดให้ตนได้อยู่ต่อก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูทำให้มาหยาสะดุ้งตัวหลุดจากภวังค์ความคิด ไม่สบอารมณ์เมื่อมันเป็นการรบกวนสิ่งที่จินตนาการไว้อย่างสวยหรู"มีอะไรคะ" มาหยาเปิดประตูออกมา แล้
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ(คำบัญชา)"เป็นอย่างไรกันบ้าง แม่ได้ข่าวว่ามีปากเสียงกันหนักเลย" องค์ราชินีที่คอยดูบุตรชายและสะใภ้อยู่ห่าง รู้เห็นทุกอย่างแต่ไม่อยากก้าวก่าย พระนางเอ่ยถามเมื่อพบเจอกับลูกทั้งสองในสวนยามเย็น"ขอรับ" จาห์มาล์ขานรับ"แล้วทำไมต้องทะเลาะขนาดนั้น มันหนักหนามากมายเลยหรือจาห์มาล์" พระนางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุขุม จ้องมองไปยังบุตรชายและสะใภ้ ที่ตอนนี้มีสีหน้าแห่งความรู้สึกผิด กระนั้นก็ยังจับมือกันไม่ปล่อยห่าง ทุกความรู้สึกเผยแก่สายตาของมารดา ความรักที่ให้แก่กันยังแน่นแฟ้น แม้นจะมีปากเสียงกันลูกทั้งสองก็รีบเคลียร์ใจ ไม่ปล่อยไว้ให้มันยืดเยื้อ"ไม่ขอรับ" จาห์มาล์ขานรับ แต่จัสซีเนียนั้นยังเงียบ ใบหน้ายังมีความเศร้าที่ปะปนความรู้สึกผิด"อดทนข่มอารมณ์ไม่ได้เลยหรือลูกแม่ ลูกไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้กำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว หากวุฒิภาวะในการควบคุมอารมณ์ยังน้อยนิด ลูกจะเป็นพ่อที่ดีได้อย่างไร จะให้ลูกดูใครเป็นเยี่ยงอย่างถ้าไม่ใช่พ่อกับแม่" พระนางว่าขึ้นตักเตือนบุตรชาย"อย่าทรงตำหนิท่านพี่เลยนะเพคะ...หม่อมฉันผิดเองที่ดื้อรั้น ไม่ฟังสิ่งที่ท่านพี่ปรามด้วยความหวังดี ไม่รักษาความร
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 8(ผิดทั้งคู่)กลางดึกที่ผู้คนในวังนอนหลับใหล แสงไฟที่เคยเจิดจ้าสว่างไสวดับมอดลง มีเพียงแสงสีนวลจากดวงจันทร์ทอแสงสว่างเลือนลาง เพื่อให้คนที่กำลังเดินกลับเข้ามาในตำหนักได้เห็นทางจาห์มาล์ค่อย ๆ ผลักประตูห้องนอนแผ่วเบา เขาไม่อยากให้จัสซีเนียรู้สึกตัวตื่น แสงจันทร์ที่สาดส่องกระทบกับใบหน้าคนที่นอนหลับ ทำให้เขาลอบยิ้มหากอยู่นิ่งก็ดูว่านอนสอนง่าย แต่พอรู้สึกตัวตื่นไฉนเลยถึงดื้อรั้นเอาแต่ใจ"ฝันดีนะจัสซีเนีย" จาห์มาล์ไล้ใบหน้าเนียนนั้นอย่างเบามือ โน้มตัวจูบลงกลางหน้าผากนูนนั้นด้วยความอ่อนโยน แตะริมฝีปากจูบซับบางเบา เพราะเขาห่วงว่าหล่อนจะสะดุ้งตื่น...แม้ปากจะไวแต่ถึงอย่างไรเขาก็ทำร้ายคนที่รักมากกว่านี้ไม่ลง"ฝันดีนะเจ้าตัวน้อย..." ตามด้วยแตะจูบลงหน้าท้องที่นูนออกมาเล็กน้อย ที่มีกลอยใจอาศัยอยู่ด้านในจากนั้นจึงเอนตัวนอนเคียงข้าง แทรกร่างกายหนาอุ่นในผ้าห่มผืนเดียวกัน สอดแขนให้จัสซีเนียนอนหนุน กระชับโอบกอดคนที่นอนนิ่งไม่รู้สึกตัว ได้ยินเพียงเสียงของลมหายใจที่พ่นเข้าออกเป็นจังหวะ"อื้อ~~" การถูกรบกวนทำให้คนที่อ่อนล้านอนหลับสนิท มีเพียงเสียงอู้อี้ในลำคอเล็ดลอดออกมาบางเบา แต่
กรงรักราชาโจรตอนพิเศษ 7(ที่หนึ่งไม่ไหว)นานราวยี่สิบนาทีตั้งแต่ที่จาห์มาล์ทิ้งหล่อนไว้ข้างหลังให้ร้องไห้น้ำตาไหลเพียงลำพัง จัสซีเนียก็ยังไม่ขยับขาก้าวเดินไปไหน มันจุกในอก มันเจ็บปวดเหมือนหัวใจตกหล่นลงสู่พื้นที่เต็มไปด้วยหนามแหลม ทิ่มแทงลงก้อนเนื้อหัวใจให้เจ็บร้าว ยิ่งเขาเมินเฉยใส่ ยิ่งสร้างความทรมานหัวใจแก่จัสซีเนียผู้มีความผิด"พระชายาเพคะ" ซัลมาเดินเข้าไปใกล้ เรียกขานคนที่เอาแต่ยืนร้องไห้หวังให้รู้สึกตัว"เสด็จเข้าด้านในเถิดเพคะ อากาศตอนนี้หนาวเย็นแล้วเพคะ" ลีนาว่าขึ้นอย่างนึกสงสาร สิ่งที่เห็นทำเอาหญิงรับใช้ทั้งสองน้ำตาซึมตามอย่างไม่อาจหักห้าม"ฉันไม่เคยแคร์ความรู้สึกของท่านพี่เลย ไม่เคยฟังในสิ่งที่เขาห้าม...ฉันเป็นคนที่แย่มาก ฮึก ฮึก ใช่ไหม?" จากที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยวาจาขึ้นถามความเห็นด้วยน้ำเสียงสะอื้น น้ำตารื้นขอบตาจนมาไหลรดอาบแก้มเป็นทางยาว"ที่องค์รัชทายาททรงห้ามปรามนั่นก็เพราะทรงห่วงพระชายานะเพคะ หม่อมฉันอยู่ในวังมาหลายปี ไม่เคยมีหญิงใดที่พระองค์จะทรงห่วงใยถึงเพียงนี้...ไม่ใช่สิเพคะ องค์รัชทายาทดูเหมือนจะแทบไม่มีใครเลยด้วยซ้ำไป" ลีนาคุกเข่ากับพื้นแล้วจับมือของจัสซีเนียแนบแก้