ตอนที่ 7
ประวัติ
สามวันผ่านไปหลังจากเกิดเรื่องคีอาร์พังร้านโคลเวอร์ วันนี้เป็นวันแรกที่ร้านอาหารโคลเวอร์จะได้เปิดร้านอีกครั้งหลังจากซ่อมแซมเสร็จ โคลว์และคีอาร์ตื่นกันแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวเปิดร้าน มีแค่ฉันที่ยังนอนจนถึงแปดโมงเช้าเพราะยังไงฉันก็ไม่มีบทบาทให้ทำอยู่แล้ว
เมื่อตื่นดีแล้วฉันก็ลงไปข้างล่างที่เป็นร้านอาหาร ฉันพบว่าทุกคนกำลังทำงานกันอยากหนัก เจนอส โคนี่ และโจนี่ที่หยุดงานไปสองวันขยันขันแข็งกันอยากมาก คีอาร์ที่ตัวเล็กก็ยังพยายามทำงานหนัก ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ได้เรื่องขึ้นมาเลยล่ะ
“อรุณสวัสดิ์ คีอาร์” ฉันทักทายน้องชายตัวน้อยที่กำลังนั่งเช็ดจานอยู่ “อรุณสวัสดิ์โคลว์” ฉันเอ่ยพลางเคาะนิ้วลงบนแก้วที่วางอยู่ตรงหน้าโคลว์ มันคือข้อตกลงของฉันและโคลว์ เมื่อฉันเข้าใกล้เขาฉันจะต้องส่งสัญญาณบางอย่างให้เขารู้ตัวว่าฉันอยู่ใกล้ๆ
เสียงเคาะแก้วทำให้โคลว์รู้ตัวว่าฉันอยู่ตรงนี้แล้ว เขามองเล็กน้อยและยิ้มเบาๆ เป็นเชิงรับรู้
“เลย์” คีอาร์หน้าบูดเมื่อฉันทักทายโคลว์ เขามักจะเป็นแบบนี้เพราะหวงฉัน นิสัยของเด็กติดแม่ชัดๆ ไม่สิ! พี่สาวต่างหาก!
ซึ่งวิธีที่จะทำให้เขาหยุดทำหน้าบูดก็มีวิธีเดียว
ฉันลอยเข้าไปกอดคอคีอาร์จากด้านหลังพร้อมกับลูบหัวของเขาไปด้วย คีอาร์อารมณ์ดีขึ้นมาทันที ฉันหัวเราะและอมยิ้ม เขาเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ ถึงเรื่องลักษณะนิสัยของเขายังไม่พัฒนามากแต่เรื่องสภาพร่างกายของเขาไม่เหมือนกับตอนที่เราเจอกันครั้งแรก ตัวไม่ผอมแห้ง ไม่สกปรก ร่างกายของเขามีน้ำมีนวลขึ้นมาก ลักษณะหน้าตาปรากฏออกมาอย่างชัดเจนเมื่อเขาโตขึ้นหน้าตาของเขาคงหล่อน่าดู
รอที่จะให้คีอาร์โตไม่ไหวแล้วสิ แต่ก็คงอีกนาน...
งานที่ร้านอาหารโคลเวอร์วันนี้ปกติดี ลูกค้าประจำไม่ได้หายไปไหน พวกเขายังกลับมาทานอาหารที่ร้านแห่งนี้ โคลว์ทำอาหารอร่อยมากคงไม่มีลูกค้าคนไหนอยากทิ้งไปหรอก แต่ที่ลูกค้าไม่ถึงกับล้นร้านก็เพราะที่ตั้งร้านอาหารมันค่อนข้างลึก อย่างที่เคยบอกเขตที่พวกฉันอาศัยอยู่เป็นเขตที่เหมือนชนบททั้ง ๆ ที่เมืองมิลเลอร์ที่ตั้งอยู่ติดกันพัฒนาไปไกลราวกับเป็นโลกอนาคต
อีกทั้งใกล้ๆ นี้มีสลัมอยู่ด้วย มันน่าแปลกจริงๆ ทั้งที่โลกพัฒนาไปไกลแล้วแท้ๆ แต่กลับมีสถานที่แบบนี้อยู่
ดูเหมือนด้านมืดของโลกนี้จะใหญ่ไม่ธรรมดาเลย หรือตัวเอกควรเป็นมาเฟียสักคน? ไม่ๆ ฉันจะไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด! ตั้งใจจะเขียนแนวสืบสวนไปแล้วนี่นา แต่กว่าจะได้เขียนนิยายแนวสืบสวนที่ว่าฉันคงต้องรออีกสักเพราะเพราะตอนนี้คีอาร์ติดฉันมาก ฉันต้องทำให้เขาสบายใจก่อนว่าฉันจะไม่หายไปไหนฉันถึงจะสามารถไปตามติดซีโร่ พระเอกอีกเรื่องของฉันได้
“ทุกคนไปซื้อของบางอย่างให้กับผมได้รึเปล่า?” โคลว์โผล่ออกจากห้องครัวและถามขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มหวานประจำตัว ก็นะ หากเขาไม่ยิ้มคงน่ากลัวน่าดู ฉันที่เคยเห็นมาแล้วขอยืนยันเลย
“ได้ครับ” โจนี่ที่ประจำอยู่หน้าเคาน์เตอร์ตอบรับ และรับใบรายการของที่จะซื้อจากโคลว์มา
“พาคีอาร์ไปด้วยนะ ผมอยากให้คีอาร์ลองไปเรียนรู้การซื้อของ” โคลว์บอก
ด้วยเหตุนี้เองทำให้คีอาร์ต้องตามโจนี่ไปซื้อของ และเนื่องจากในร้านตอนนี้มีลูกค้าน้อยเจนอสจึงตามไปด้วยอีกคน ส่วนโคนี่ก็อยู่ดูแลร้านกับโคลว์ ส่วนฉันก็ตามเด็กสามคนไปซื้อของด้วย แถวนี้แม้จะเป็นชุมชนแต่ก็ไม่ได้ปลอดภัยเท่าไหร่อยู่ดี ฉันตรวจสอบมาแล้วว่ามีองค์กรหนึ่งที่มีฐานทัพอยู่ใกล้ๆ นี้
องค์กรนี้จะเป็นองค์กรแรกที่ฉันจะให้คีอาร์สู้ด้วยเนื่องจากพวกนี้อยู่ในระดับล่างๆ แต่เพราะคงอีกนานกว่าคีอาร์จะโต ฉันจึงได้แต่รวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด เมื่อคิดเรื่องรวบรวมข้อมูลขึ้นมาฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่าเรื่องข้อมูลของเด็กทั้งสามฉันยังไม่ได้อ่านรายละเอียดเลย ก่อนหน้านี้ฉันดูแค่อายุ ชื่อ และพลังพิเศษเท่านั้น
ฉันจึงเปิดดูข้อมูลของโจนี่เป็นคนแรก เขาเป็นเด็กที่ฉลาดแตกต่างจากเด็กที่เกิดในสลัมฉันจึงสงสัยว่าเขามีอดีตมากกว่านั้นรึเปล่า และฉันก็พบ
โจนี่ เคน เคยเป็นคุณชายน้อยในครอบครัวเศรษฐีในเมืองแห่งผู้วิเศษ หรือเมืองมิลเลอร์ที่อยู่ติดกันนี่ล่ะ ตอนเขาอายุครบสิบปีหรือสามปีก่อนหน้านี้ เขาต้องตกอับมาอยู่ในสลัมเพราะครอบครัวถูกลอบสังหารหมด ดูเหมือนเรื่องจะไปเกี่ยวข้องกับองค์กรใหญ่จึงสืบอะไรไม่ได้ แม้แต่ตำรวจก็ช่วยอะไรไม่ได้
เมื่อโจนี่ที่ไร้ญาติพี่น้อง เขาจึงถูกส่งไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
แต่ที่นั่นดันเป็นสถานที่ไม่ค่อยดีนัก แม้จะมีอาหารและที่นอนดี ๆ แต่เวลากลางคืนเด็กบางส่วนจะถูกเรียกตัวออกไปในห้องใต้ดิน ที่แห่งนั้นคือสถานที่วิจัยพลังพิเศษ ค้นหาพลังที่แข็งแกร่ง
โจนี่รู้จึงได้หนีออกมาและไปอาศัยในสลัมกับโคนี่ที่โตมาจากสลัมแบบสมบูรณ์
ฉันถอนหายใจเมื่ออ่านจบ เป็นชีวิตที่...หากโจนี่เลือกเส้นทางแก้แค้นฉันจะไม่แปลกใจเลย แต่ดูจากนิสัยโจนี่เขาคงไม่สามารถดำเนินเรื่องราวที่น่าสนใจได้ ส่วนเรื่องราวของโจนี่น่าจะประมาณว่าพยายามใช้ชีวิตในโลกปกติและเก็บความเศร้าไว้ในใจ และอยู่มาวันหนึ่งก็มีสาวสวยที่สดใสร่าเริงมาช่วยเยียวยาจิตใจและช่วยผลักดันให้โจนี่ค้นหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเขา
ใช่ มันต้องเข้ากับหมวดนิยายรัก เป็นเรื่องที่ตัวเอกจะไม่วิ่งเข้าหาเรื่องแต่เรื่องจะวิ่งเข้าหาตัวเอกเอง
ฉันคิดอย่างนั้นก่อนจะหันไปสนใจเจนอส เด็กหนุ่มที่เหมือนจะขี้อาย ทั้งผมสีเทาที่ปกปิดใบหน้าไปกว่าครึ่งหน้าและปากที่ไม่เคยอ้าปากพูดอะไรสักคำ หากเป็นตัวเอกนิยายมันคงกลายเป็นนิยายเงียบที่ไม่มีบทพูดมีแต่บทบรรยาย
ประวัติของเขามีอยู่ว่า เจนอสเกิดในครอบครัวธรรมดาที่อาศัยอยู่ในเขตนอกเมือง ในตอนที่เขาอายุหนึ่งขวบเขาได้ฆ่าพ่อแม่ของเขาด้วยเสียงร้องไห้ของเขา...โอ้ มันน่ากลัวนะ แค่เสียงร้องไห้เองนะ!
หลังจากนั้นเจนอสก็ถูกส่งไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เดียวกับโจนี่นั่นล่ะแต่เจนอสมาก่อนนะ
เจนอสถูกจับทดลองแม้ตัวเขาจะยังเป็นเด็กอายุไม่กี่ขวบ เจนอสเติบโตที่นั่นจนอายุเจ็ดขวบ จนวันหนึ่งพวกนักวิจัยได้ไปทำอะไรบางอย่างกับเจนอสจนพลังของเขาระเบิดออกมา เขาฆ่าทุกคนในสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า
สำหรับเด็กอายุแค่นั้นคงช็อกและหวาดกลัว เขาเสียใจที่ฆ่าทุกคนจึงรีบหนีออกมา คงนับตั้งแต่วันนั้นที่เจนอสไม่ยอมส่งเสียงออกมาอีก เจนอสเร่ร่อนอยู่ในสลัมจนพบกับโคนี่ เขาจึงอาศัยอยู่กับโคนี่และเด็กกำพร้าคนอื่น ๆ ตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งนับตามช่วงเวลาโจนี่คงเข้าร่วมกลุ่มเด็กกำพร้าหลังจากนั้นหกปี
สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าคงก่อตั้งขึ้นใหม่หลังจากเกิดเรื่องของเจนอสด้วยสินะ
ประวัติพวกเขาไม่ธรรมดาเลย มันเลวร้ายยิ่งกว่าของคีอาร์ซะอีก
ฉันชักเดาไม่ออกแล้วว่าในอนาคตจะเป็นยังไง เจนอสนี่ยิ่งน่าระแวง เขาฆ่าทุกคนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่มีไว้สำหรับวิจัยพลังพิเศษ ฉันคิดว่าต้องมีคนเบื้องหลังที่สร้างสถานที่แบบนี้ออกมาแน่นอน ข้อมูลการทดลองของเจนอสอาจจะยังอยู่ สักวันต้องมีคนมาตามตัวเจนอสกลับไป
คิดแล้วเครียด
พวกเขาเหมาะจะเป็นพระเอกกันหมดเลยหรืออาจจะตัวร้าย? แต่ตอนนี้คีอาร์คือตัวเอกของฉัน ในอนาคตคีอาร์คงได้ไปเกี่ยวพันกับเรื่องราวของคนรอบตัวแน่ ๆ ในตอนนี้เดาเรื่องไม่ออกก็จริงแต่หากคีอาร์ได้เป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้นคงได้เรื่องราวที่น่าตื่นเต้นแน่นอน!
ในขณะที่ฉันกำลังจินตนาการคำบรรยายเป็นฉากๆ คีอาร์ก็กำลังเรียนรู้ที่จะซื้อของในร้านค้าจากโจนี่อยู่ เขาเข้าใจอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องอธิบายมาก เรื่องการนับเลขของคีอาร์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เขาออกจะคำนวณเลขได้เร็วด้วยซ้ำ เรื่องการจ่ายเงินคงไม่ต้องเป็นห่วงว่าคีอาร์จะจ่ายผิด
โคลว์สอนมากับมือเลยเชียวนะไม่มีทางผิดหรอก
การพัฒนาของคีอาร์หายห่วง สิ่งที่ต้องห่วงคือ ฉันจะแยกตัวไปเขียนนิยายอีกเรื่องยังไง จะใช้การบันทึกวิดีโอก็ได้แต่มันก็ไม่ใช่แนวของฉัน หากมีช่วงที่ต้องตรวจอย่างละเอียดแล้วฉันพลาดไปมันคงไม่น่าสนุกเลยสำหรับฉัน
“เลย์” คีอาร์เรียกและกระตุกชายกระโปรงของฉัน ดูเหมือนพวกเขากำลังจะกลับคีอาร์เห็นฉันไม่ตามไปด้วยจึงเดินมาเรียก
“ไปแล้วๆ” ฉันยิ้มตอบและลอยตามพวกเขากลับร้านอาหารโคลเวอร์ ซึ่งในระหว่างทางกลับพวกเด็ก ๆ และฉันก็ได้พบกับชายคนหนึ่ง ขาเรียวยาวก้าวเดินมาขวางทางพวกเรา เสื้อคลุมสีขาวสะบัดเบาๆ เมื่อเขาหมุนตัวมาเผชิญหน้ากับพวกเด็ก ๆ
เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนปลิวไสว ดวงตาคมเข้มสีน้ำตาลเช่นเดียวกับเส้นผมมองลงข้างล่างเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาที่แฝงไปด้วยความเย็นชาแสดงอารมณ์อ่อนลงเล็กน้อยเมื่อมองไปยังเด็กน้อยทั้งสาม ริมฝีปากเรียวขยับพูดด้วยเสียงทุ้มของตนเอง
“แถวนี้มีร้านที่ชื่อว่าโคลเวอร์รึเปล่า?”
นั่นเขา นั่นเขา! ซีโร่ ริคเกอร์! ตัวละครเอกที่ฉันเลือก! เขามาอยู่ที่นี่ได้ไง!? แล้วเมื่อกี้เขาถามหาร้านของโคลว์งั้นเหรอ? ฉันรู้สึกว่านิยายของฉันคงได้มีตัวละครตัวเดียวกันปรากฏในนิยายทั้งสองเรื่องแล้วล่ะ
ซีโร่ได้เดินตามเด็กทั้งสามที่ช่วยนำทางเขาไปที่ร้านอาหารโคลเวอร์ เมื่อไปถึงซีโร่ก็ขอซื้อข่าวจากโคลว์ทันที โคลว์แปลกใจกับการปรากฏตัวของซีโร่และสงสัยว่าซีโร่รู้เรื่องของเขาได้ยังไง ซึ่งก็ได้คำตอบมาว่าซีโร่รู้เรื่องโคลว์มาจากเควิน
เควินบอกซีโร่ว่าหากอยากได้ข่าวอะไรโคลว์จะช่วยทุกอย่าง ฉันแอบเห็นอารมณ์หงุดหงิดของโคลว์เมื่อได้ยินแบบนั้น โคลว์คงไม่ได้คิดที่จะทำอาชีพเสริมเป็นคนขายข่าวแต่ตอนนี้เขากำลังโดนยัดเยียดโดยเควิน หัวหน้าหน่วยสืบสวนพิเศษคนนั้น
ฉันคิดว่าเควินคงเสียดายที่ต้องให้ความสามารถของโคลว์ไร้ประโยชน์จึงคิดจะบังคับให้โคลว์ใช้พลังเพื่อประโยชน์ในการสืบคดีทั้งหลาย
ไม่ถามโคลว์สักนิด! ดูสิ! หน้าตาเหมือนอยากจะฆ่าคนของเขานั่นน่ะ!
โคลว์พยายามยิ้มอย่างมากเพื่อไม่ให้ตัวเองหลุดท่าทางที่สง่างาม สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจและยอมที่จะขายข่าวให้กับซีโร่ที่ยืนรอด้วยสีหน้าจริงจังและมุ่งมั่น
และแล้ว โคลว์ ฟรีก ได้รับอาชีพเสริมเป็น นักขายข่าว ในอนาคตจะได้ฉายาว่า นักขายข่าวหูนรก แค่ก! เทพนักขายข่าว ฟังดูดีกว่านะ
หลังจากที่ได้ข่าวซีโร่ก็ขอตัวกลับทันที ฉันอดทนที่จะไม่ตามเขาไป ฉันเปิดระบบบันทึกวิดีโอแทน อย่างน้อยระหว่างที่อยู่กับคีอาร์ฉันควรทำความรู้จักกับนิสัย และการตัดสินใจของเขาไปด้วย ฉันเชื่อว่าซีโร่จะต้องกลายเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างแน่นอน
ตอนที่ 8นักสืบหมายเลขศูนย์ฉันได้ตัดสินใจแล้วว่าชื่อนิยายที่มีซีโร่เป็นตัวละครเอกจะมีชื่อเรื่องว่าอะไร เนื่องจากว่ามันเป็นนิยายแนวสืบสวนและซีโร่ก็ทำอาชีพเป็นนักสืบ ชื่อเรื่องก็ต้องเป็น นักสืบหมายเลขศูนย์ ที่เป็นหมายเลขศูนย์ก็เพราะเขาชื่อซีโร่นี่เองส่วนของคีอาร์คงต้องเลื่อนออกไปก่อนอีกยาวๆ เพราะคีอาร์ยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน หากเขาไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนเรื่องราวของคีอาร์คงเป็นอะไรที่ไม่น่าสนใจ ซึ่งฉันก็ไม่รีบร้อนเพราะคีอาร์พึ่งจะอายุแค่ห้าขวบเองแต่อย่างไรก็ตามฉันต้องการที่จะเริ่มเรื่องราวของซีโร่เร็วๆ ฉันจึงอธิบายกับคีอาร์ว่ามีธุระอื่นที่ต้องไปทำจึงขอแยกตัวออกไป แน่นอนคีอาร์ที่ติดฉันอย่างเหนียวหนึบไม่ยอมรับ ฉันจึงต้องให้สัญญาว่าจะกลับมาอยู่กับเขาเท่าที่จะทำได้เมื่อทำให้คีอาร์หายงอแงแล้วฉันก็ไปฝากฝังกับโคลว์ให้ดูแลคีอาร์ ฉันหวังว่าเขาจะสอนคีอาร์อย่างดีเมื่อหมดห่วงเรื่องคีอาร์แล้วฉันก็เข้าสู่โหมดจริงจังกับงาน การบอกเล่าเรื่องราวของคนอีกโลกไปให้คนอีกโลกได้รับรู้ผ่านตัวอักษรคือหน้าที่ของฉันที่เป็น นักเขียนฉันได้เริ่มเขียนบทนำของ ซีโร่ ริคเกอร์ขาเรียวก้าวเดินไปบนพื้นที่นองไปด้วยน้ำส
ตอนที่ 9เยี่ยมบ้านสองอาทิตย์แล้วที่ฉันติดตามซีโร่แทบตลอดเวลาเนื่องจากบางครั้งฉันก็กลับไปหาคีอาร์เหมือนในคืนแรก เพราะความเหนื่อยล้าฉันจึงต้องการเติมพลังจากคีอาร์ ฉันไม่สามารถจมอยู่กับคดีตลอดเวลาเหมือนกับนักสืบที่มีสมองเป็นเหมือนเขาวงกตพวกนั้นได้อย่างไรก็ตามตอนนี้ฉันเขียนได้สามตอนแล้ว ตอนละยี่สิบหน้า เพราะงั้นฉันสามารถที่จะพักได้แล้ว ยังมีเวลาอีกมากให้เขียนเพราะในโลกของฉันก็เพิ่งผ่านไปแค่ชั่วโมงกว่าเอง ฉันกำหนดไว้ว่าจะฉันจะลงนิยายวันละตอนสองตอนเพื่อให้ได้รับความสนใจก่อนด้วย หากลงรวดเดียวฉันจะไม่ได้เหรียญทองจากความคิดเห็น แต่จะได้แค่เหรียญเงินจากยอดวิวอย่างเดียว สาเหตุคงไม่พ้นนักอ่านดันอ่านเพลินจนลืมแสดงความคิดเห็นหรือไม่ก็ขี้เกียจพิมพ์ล้วน ๆ ไม่ไหวๆด้วยเหตุนี้เองเมื่อวานนี้ฉันจึงลงเรื่องย่อของนิยายเรื่อง นักสืบหมายเลขศูนย์ ลงในเว็บ Go - D นั่นก็เพื่อดูเสียงตอบรับว่ามันจะเป็นยังไง ซึ่งฉันก็ไม่ลืมลงรูปซีโร่ที่ถูกแปลงเป็นรูปวาดแล้วด้วยหวังว่านักอ่านของฉันจะไม่สนใจแต่หน้าตาของซีโร่นะ ควรสนใจเนื้อเรื่องสืบสวนที่ฉันพยายามบรรยายด้วยจะดีมาก!เรื่องการตอบรับฉันยังไม่รู้ผลทันทีเพราะโลกของฉั
ตอนที่ 10นั่นอาจจะเป็นนางเอกท้องฟ้าที่มืดครึ้มและพายุฝนที่โหมกระหน่ำลงมาไม่มีทีท่าจะหยุด พี่ใหญ่ทั้งสามของอะพาร์ตเมนต์แห่งนี้ยังไม่กลับมา ฉันเริ่มรู้สึกกังวลหนักกว่าเดิมที่พวกเขายังไม่กลับมาก็เพราะหาฮันนี่ไม่เจอแน่ มันอาจจะเกิดเรื่องบางอย่างกับเด็กคนนั้นฉันตัดสินใจที่จะออกไปช่วยตามหาอีกแรง ยังไงซะตอนนี้ฉันก็มีร่างกายเป็นจิตวิญญาณ หากฉันไม่ต้องการสัมผัสอะไร แม้แต่อากาศก็ไม่สามารถสัมผัสถึงตัวฉันได้ น้ำฝนก็เช่นกัน“คีอาร์ เดี๋ยวพี่สาวจะออกไปข้างนอกสักพักรออยู่ที่นี่อย่าไปไหนซะล่ะ” ฉันหันไปบอกกับคีอาร์และรีบลอยตัวออกไปข้างนอกเนื่องจากมีฝนตกหนักฉันจึงมองเห็นทางข้างหน้าไม่ค่อยจะชัดเจนนัก ฉันไม่รู้ว่าจะไปตามหาเด็กผมชมพูที่ไหนดีจึงคิดจะตามหารอบๆ ก่อน แต่พอมานึกดูดี ๆ พวกโจนี่น่าจะหาแล้ว คงต้องตามหาในที่อื่นที่คาดไม่ถึงฉันดึงความสามารถในการสืบคดีของตัวเองออกมา อย่างน้อยการที่ได้ติดตามซีโร่มันก็ทำให้ฉันได้เรียนรู้การสืบหาสิ่งของหรือคนได้จากการคำนวณข้อมูลที่เล็กน้อยฮันนี่ได้ออกมาเพื่อทำตามคำพูดของคีอาร์ ซึ่งคีอาร์ก็บอกให้ฮันนี่ออกตามหาดอกไม้ในตำนานที่ไม่มีอยู่จริง ซึ่งตามนิทานที่ฉันแต่งขึ้
ตอนที่11ความคืบหน้านับตั้งแต่วันที่ฉันได้พบคีอาร์นี่ก็ผ่านมาได้สองปีแล้ว นับตามเวลาโลกของฉันมันก็ผ่านไปได้ประมาณหกสิบชั่วโมงหรือเกือบสามวัน งานแข่งขันการเขียนนิยายของนักเขียนที่ได้รับดวงตาพระเจ้าก็เหลืออยู่สิบสองวัน หรือหากให้นับตามเวลาในโลกMPก็จะเหลือเวลาแปดถึงเก้าปีฉันจึงไม่รีบร้อนเขียนนิยายเรื่อง นักสืบหมายเลขศูนย์ ให้จบและยังพยายามตัดบทที่ไม่สำคัญออกจนเหลือแต่เนื้อหาส่วนสำคัญ ส่วนมากเป็นเนื้อหาการสืบคดีฉันจึงต้องตัดออกสักคดีเพื่อไม่ให้เรื่อง นักสืบหมายเลขศูนย์ ยาวเกินไปนับรวมแล้วนิยายเรื่อง นักสืบหมายเลขศูนย์ มีประมาณหกสิบตอนแล้ว เยอะเกินไปสำหรับนิยายที่ยังไม่ได้เบาะแสเป้าหมายหลักเป้าหมายของซีโร่ก็คือเป้าหมายของนิยาย ซึ่งเป้าหมายที่ว่านั้นก็คือล้มล้างองค์กรมาเฟีย ชาโดว์แฟมิลี่ ซีโร่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรนี้มาน้อยมาก เป
ตอนที่12ครองโลก?ข้อมูลที่ซีโร่ได้มานั้นก็คือรายชื่อของตำรวจที่เป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนขององค์กรชาโดว์แฟมิลี่ ซึ่งแต่ละชื่อก็จะมีหลักฐานการกระทำบันทึกไว้อย่างละเอียด ตำรวจเหล่านั้นทำอะไรบ้างในแต่ละวัน คดีไหนได้รับผิดชอบหรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวบ้าง ทำอะไรที่น่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมายบ้าง และที่สำคัญ ตำรวจที่ชื่อมาร์คคนนั้นเก็บคดีที่พวกชาโดว์แฟมิลี่ทำด้วยมีคดีฆาตกรรมหลายคดีที่ถูกเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้กลายเป็นคดีอุบัติเหตุและคดีฆ่าตัวตาย ต่อจากนี้ซีโร่จะทำอะไรต่อไปกับข้อมูลพวกนี้ก็รอดูกัน แต่ในตอนนี้ซีโร่เอาแต่ตรวจเช็กข้อมูลและอ่านรายละเอียดราวกับว่าต้องการจะจดจำทุกตัวอักษรฉันไม่รู้ว่าซีโร่จะจัดการกับตำรวจที่เป็นพวกเดียวกับองค์กรชาโดว์แฟมิลี่ยังไง แต่ขอแค่ไม่ให้เขาเข้าไปจัดการกับพวกนั้นด้วยตัวเอง หากหลักฐานไม่เพียงพอว่าพวกนั้นคือสายลับของพวกมาเฟียซีโร่จะกลายเป็นฆาตกรแทนพวกนั้น
ตอนที่13รางวัลพิเศษของนักอ่าน?คีอาร์ทำอย่างที่พูดจริงๆ เขาเกาะกลุ่มกับเด็กผู้ชายห้องเดียวกันแล้วไปท้าสู้กับเด็กที่อยู่ชั้นปีที่สูงกว่า ในแต่ละชั้นปีจะมีเด็กคนหนึ่งถูกยกย่องว่าเก่งที่สุด หากคีอาร์ชนะได้หมดทุกคนคีอาร์จะกลายเป็นคนที่เก่งที่สุดในโรงเรียนฉันพยายามห้ามปรามคีอาร์แล้ว แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทันแล้วจริงๆ หากคีอาร์ไม่ไปหาเรื่องใครตามที่ฉันบอกสุดท้ายก็จะมีเด็กคนอื่นมาขอท้าสู้ด้วยอยู่ดี ถึงจะเป็นการต่อสู้แบบเด็ก ๆ ที่ได้แผลถลอกกันเล็กน้อยแต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอยู่ดี เด็กที่มีพลังจิตน่ากลัวๆ มันยิ่งดูอันตรายใครเป็นคนเริ่มธรรมเนียมบ้าๆ นี้ขึ้นมานะ อยากปลูกฝังให้เด็ก ๆ กลายเป็นพวกใช้ความรุนแรงรึไงเรื่องพวกนี้ทำให้ฉันขัดใจอย่างมาก อาจารย์ของโรงเรียนรู้ว่าเด็ก ๆ ตีกัน แต่ก็ห้ามเฉพาะที่พบเห็นไม่คิดจะปราบปรามอย่างจริงจัง ก็รู้
ตอนที่ 1นักเขียนนิยายปลายนิ้วเรียวของฉันกดลงบนแป้นพิมพ์โปร่งใสที่ลอยอยู่บนอากาศอย่างรวดเร็วและไม่มีหยุดชะงัก แต่สายตาของฉันไม่ได้มองไปยังตัวอักษรที่พิมพ์ลงไปเลยแม้แต่น้อย นั่นก็เพราะว่าสายตาของฉันมองตรงไปยังภาพตรงหน้าเพียงอย่างเดียว นั่นก็เพื่อไม่ให้ตัวเองพลาดฉากสำคัญตรงหน้าและก็เพื่อไม่ให้ตัวเองพลาดการบันทึกเรื่องราวที่เห็นฉันจึงขยับนิ้วพิมพ์บรรยายอย่างรวดเร็วแวมไพร์สาวฝังเขี้ยวลงไปบนคอของเหยื่อและดูดเลือดแสนอร่อยเข้าปากอย่างเชื่องช้าเพื่อลิ้มรสเลือดอันแสนหวานของชายหนุ่ม และชายหนุ่มผู้ถูกกัดก็ครางออกมาอย่างพอใจ ความสุขที่โดนกัดทำให้เขาล่องลอยไปสู่โลกอื่น?ต่อด้วย...ทั้งสองพาร่างของกันและกันไปต่อที่เตียงโดยที่ไม่ยอมผละออกจากกันแม้แต่เสี้ยววินาที เสื้อผ้าของทั้งสองถูกกระชากออกโดยฝีมือของฝ่ายตรงข้าม ไม่นานพวกเขาก็ไม่มีเสื้อผ้าหลงเหลืออยู่บนร่างกาย แวมไพร์สาวคลอเคลียริมฝีปากไปทั่วแผงอกอันแข็งแกร่งของชายหนุ่มก่อนที่จะกัดไหล่ของชายหนุ่มอย่างรักใคร่(?) คู่รักที่มีแต่กลิ่นคาวเลือดและความดิบเถื่อนเช่นนี้มันช่างเร้าใจนัก มือของชายหนุ่มลูบไล้ไปทั่วร่างหญิงสาวและไปหยุดที่....ผลัวะ!!ยังไม่ท
ตอนที่ 2ฉันได้พระเอกแล้ว!ว้าว! ผู้ชายคนนั้นน่าสนใจจริงๆ!ชายหนุ่มผู้มีเส้นผมสีเทา ดวงตาคมกริบสีแดงและใบหน้าคมเข้ม ไม่มีหญิงใดที่ไม่เหลียวมองตามหลังเขาไป ขายาวของเขาก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงขณะที่ดวงตาคมกริบของเขายังคงกวาดสายตามองไปรอบด้านเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย ซึ่งมันคือหน้าที่ของเขา เขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้องประชาชนจากผู้ร้ายที่ใช้พลังจิตในทางที่ผิดกฎหมายโอ๊ะ! คนนั้นก็หล่อไม่น้อย!เขานั่งไขว่ขาด้วยท่าทีสุขุม มือเรียวยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบช้า ๆ ขณะที่มืออีกข้างกวาดนิ้วไปบนหน้าจอไอแพด แต่ดวงตาเรียวไม่ได้มองไปที่หน้าจอไอแพดแต่อย่างใด เขาจ้องมองไปยังบุคคลหนึ่งโดยไม่ละสายตาไปมองทางอื่น สายตาของเขาตรวจสอบทุกการเคลื่อนไหวของบุคคลนั้น เพราะเขาคือนักสืบ!โอ๊ย!! ไม่ว่าจะคนไหนก็เหมือนจะเป็นตัวเอกได้หมด นิรากลุ้มใจจังค่ะ!ฉันกำลังมองหาตัวเอกของนิยายที่จะเขียนอยู่ในขณะนี้ ชื่อเรื่องและทิศทางของเนื้อเรื่องก็คิดไว้แล้วเรียบร้อยเหลือเพียงตัวเอกนี่ล่ะ หายากมาก! ในโลกนี้กำลังวุ่นวายเพราะมีอาชญากรเพิ่มมากขึ้น แบบนี้มันต้องมีตัวเอกที่รักความถูกต้องและพยายามกำจัดพวกองค์กรมืด! ถ้าได้ตัวเอกที่