หลายเดือนถัดมาครืด ครืด ครืดโทรศัพท์เครื่องหรูของฮาน่าสั่นครืดขณะที่เธอกำลังนั่งทำงานและวางมือถือไว้ข้างๆ ตัวเอง ก่อนที่มือเรียวเล็กจะจับมือถือเครื่องหรูของตัวเองขึ้นมาและกดรับสาย“อืม ว่ามา” เธอกดรับสายพร้อมกับเปิดลำโพงและวางโทรศัพท์ไว้ตรงที่เดิม และก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารตรงหน้าต่อ( กลางวันไปกินข้าวกัน ไอ้มิลจะเลี้ยง )“…..” พอได้ยินอย่างนั้นแล้วฮาน่าก็เหลือบไปมองที่นาฬิกาตรงข้อมือของเธอเอง เพราะมัวแต่ทำงานจึงไม่ได้ดูเวลาพักเลยนี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว( ฮาน่า )“อะไร?”( เธองานยุ่งเหรอ )“นิดหน่อยอ่ะ”การถูกชักชวนในเรื่องแบบนี้น้อยนักที่เธอจะพลาด แต่ตอนนี้งานของเธอมันล้นตัวจริงๆ แทบจะกระดิกไปทางไหนไม่ได้แล้ว( ฮะ เฮ้ย! กูคุยอยู่เนี่ย!! ) เสียงของคนปลายสายดังขึ้นเหมือนกับว่ากำลังทะเลาะกับใครบางคน ทำให้ฮาน่ามองไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือโดยอัตโนมัติ( กูเองนะฮาน่า เดี๋ยวแวะไปหา ซื้อของกินไปด้วย ) น้ำเสียงนั้นเอ่ยขึ้นมาอย่างเอาจริงเอาจัง แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้อ้าปากพูดตอบอะไรกลับไป ปลายสายก็กดวางไปซะก่อนแล้ว แบบนี้เธอจะไปทำอะไรได้ล่ะ“วุ่นวายกันจริงๆ ไอ้พวกนี้” ฮาน่าพึมพำกับตัวเองอย่างจ
“สองคนนั้นทำไมไปนานจัง” ฮาน่าพึมพำออกมา เพราะคามิลและธารานั้นหายออกไปหยิบจานกันนานแล้ว หวังว่ามันจะไม่เกิดอะไรขึ้นหรอกนะถึงจะรู้จักนิสัยของคามิลเป็นอย่างดี แต่ก็ยังรู้ดีอีกว่า คามิลนั้นเป็นคนที่ปากปีจอใช้ได้เลยทว่าสิ้นสุดคำพูดของเธอเท่านั้นได้ไม่นานนักทั้งสองก็พากันเดินออกมา“รอนานไหมครับน้องฮาน่า”“ไม่นานเลยค่ะ”ธาราจัดการเตรียมอาหารใส่จานให้กับฮาน่าและเพื่อนของเธออีกสองคนอย่างพิถีพิถันตามประสาคนที่เป็นเชฟไม่นานนักเธอก็ได้ชิมรสชาติอาหารเหล่านั้น ดวงตากลมสวยเบิกกว้างพร้อมกับใบหน้าที่แสดงออกถึงความพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง“อย่ามัวแต่ยิ้มสิ พี่อยากรู้ว่าเป็นยังไง” ธาราที่กำลังรอคำตอบจากหญิงสาวก็เอ่ยถามขึ้น เพราะเธอเอาแต่ยิ้มอยู่แบบนั้นเขาเลยไม่รู้ว่ารสชาติมันเป็นยังไง“อร่อยมากค่ะ” มือสวยป้องปากตัวเองขณะที่กำลังเคี้ยวอาหารอยู่ ดวงตาของเธอนั้นเป็นประกายแวววับบ่งบอกถึงความสุขที่ได้ลิ้มลองรสชาติอาหารนี้ทว่าความสุขของเธอก็ถูกขัดจากเพื่อนสนิทอย่าง คามิล“จืดชืด เป็นเชฟได้ยังไงวะ สงสัยเรียนจากมหาลัยเถื่อนชัวร์” แม้จะเป็นคำพูดที่เหมือนกำลังพึมพำอยู่กับตัวเอง แต่การที่อยู่ใกล้กันแบบนี้ก็ไม่แปลก
ริฮานน่า Talkบริษัทเกริกวิทย์กรุ๊ปกริ๊ง~( คุณฮาน่าคะ มีคนมาขอพบค่ะ )“ใครคะ?”( คุณคามิลค่ะ )“…..” ฉันเงียบและถอนหายใจอยู่เฮือกนึง ก่อนจะตอบกลับเลขาไป “ให้เขาเข้ามาเลยค่ะ”( ค่ะคุณฮาน่า )ยังไม่ทันที่ฉันจะได้เปลี่ยนอากัปกิริยาประตูห้องทำงานก็เปิดออก ตามด้วยคามิลเดินเข้ามา ฉันมองผ่านไปที่ด้านหลังด้วยแต่กลับไม่เห็นขุนเขา ปกติสองคนนี้จะค่อนข้างตัวติดกัน ไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด“ไอ้ขุนติดงาน ไม่มาด้วย”“…..” ฉันปรับสายตามองไปที่คามิลแทน เราสองคนจ้องมองกันอยู่ครู่นึง ก่อนที่คามิลมันจะเดินไปนั่งที่โซฟา “มึงมีอะไร?”“ไม่มีอะไร แล้วจะมาหาไม่ได้เลยหรือไง?”“งานไม่มีทำหรือไง?”“มีแต่ไม่อยากทำ” มันตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยตามประสาคนอย่างมันนั่นแหละ แต่ดูออกว่ากำลังพูดจากวนตีนฉันถอนหายใจออกมาอย่างแรงและนั่งทำงานต่อ พยายามที่จะไม่สนใจมันแต่ก็ทำไม่ได้ ไม่รู้ทำไมต้องคอยให้ความสนใจกับมันอยู่ตลอดด้วยนะ“ตกลงมา มีเรื่องอะไร?”“อยากมา ไม่รู้จะไปไหน?”“ปกติทุกครั้งที่ว่าง มึงก็จะออกไปหาสาวๆ นี่ ไม่ออกไปอีกหรือไง?” ฉันแกล้งเย้าถาม เพราะอยากรู้ว่ามันจะตอบยังไง แสดงท่าทางยังไงเวลาที่ฉันถามแบบนี้ เพราะทุก
คอนโดหรูใจกลางเมืองกรุงคามิลหยิบคีย์การ์ดแล้วแตะเปิดประตูห้องของตัวเอง ก่อนจะถอดเสื้อคลุมยีนส์ตัวโปรดของตัวเองพาดไว้กับราวแขวน จากนั้นก็พันแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นอย่างชำนาญ ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาเปิดทีวีดูรายการอะไรไปเรื่อยเปื่อยทว่าตอนนี้ไม่ได้จดจ่อฟังหรือดูเลยสักนิด เอาแต่นั่งเหม่อยิ้มและเอามือลูบริมฝีปากของตัวเองไปมาอยู่แบบนั้นและการกระทำที่ดูแปลกไปของคามิลก็ทำให้ขุนเขาสังเกตุเห็นถึงความผิดปกติของเพื่อนสนิททันที“เป็นห่าอะไรของมึง นั่งยิ้มคนเดียวอย่างกะคนบ้า!”“…..” เสียงที่ดังขึ้นทำให้คามิลหลุดจากภวังค์แต่ก็ไม่ได้ตื่นตูมอะไรมือที่กำลังลูบริมฝีปากของตัวเองเปลี่ยนไปหยิบมือถือขึ้นมาเล่นแทน“ทำไมมึงกลับเร็ว”“เสร็จแล้วกูก็กลับเลยสิ น่ารำคาญฉิบหาย” ขุนเขาพูดเสียงแข็ง ดูท่าจะเป็นแบบนั้นจริงๆ แต่อะไรกันล่ะที่ทำให้ขุนเขาเป็นแบบนี้ได้“มึงไม่ชอบเหรอวะ?”“ชอบห่าอะไร ทำตัวอย่างกะเด็ก”“มึงชอบไม่ใช่เหรอวะ แบบนี้อ่ะ” คามิลหันไปมองเพื่อนสนิทแล้วก็ยกยิ้มให้ เห็นขุนเขาชอบเด็กๆ มากกว่าก็คิดว่าแบบนี้น่าจะชอบ“เล่นๆ อะได้ แต่จริงจังกูไม่เอา” ขุนเขากลับทันควันครอบครัวของขุนเขาพาไปดูตัวกับลูกสาวคนรู้จัก ท
ณ ร้านอาหารธีร์ธารา“สวัสดีค่ะพี่ธารา รอนานหรือเปล่าคะ?”“ไม่นานเลยครับ”“ไปกันเถอะค่ะ”“เดี๋ยวพี่ขับรถให้นะครับ”“ได้เลยค่ะ”ฮาน่ายิ้มตอบรับพร้อมกับยื่นกุญแจรถให้แก่คนตรงหน้า วันนี้เธอนัดกับธาราออกไปดื่มด้วยกัน รู้อยู่หรอกว่าการทำแบบนี้มันอาจจะทำให้สองคนนั้นไม่พอใจและอาจจะทำให้ธาราคิดไปว่าเธอกำลังมีใจให้กับเขา แต่เรื่องนั้นเธอพูดไปชัดเจนแล้วมันไม่ได้มีอะไรไปมากกว่านั้น เธอและเขายังคงเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันเสมอไม่นานทั้งสองก็มาถึงยังคลับหรูที่ฮาน่ามักจะมาดื่มเวลาที่รู้สึกเบื่อๆ มันมีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะได้เจอคามิลและขุนเขา แต่เธอก็ไม่ได้นั่งตรงเคาน์เตอร์บาร์เหมือนเดิมคงจะไม่ได้เจอกับสองคนนั้นง่ายๆ หรอก“น้องฮาน่าจะดื่มอะไรดีครับ?”“ค็อกเทลค่ะ”“โอเค น้องครับท็อกเทลที่นึงครับ” ธาราหันไปบอกกับพนักงานที่ยืนอยู่ใกล้ๆ“พี่ไม่ดื่มเหรอคะ?”“พี่ดื่มแล้วใครจะขับรถล่ะครับ”“จริงสิ ลืมไปเลย”ฮาน่าได้แต่ส่งยิ้มเจื่อนให้กับคนตรงหน้า เธอลืมไปเลยว่าธาราจะต้องเป็นคนขับรถกลับ คงต้องเป็นเธอคนเดียวสินะที่ดื่มได้“น้องฮาน่าคิดไว้หรือยังครับ ว่าจะเปิดร้านอาหารแนวไหน แบบรวมหรือแค่เฉพาะอาหารคาวเฉยๆ”“ฮาน่าค
ครืด ครืด ครืดเสียงโทรศัพท์ของขุนเขาดังขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์แปลกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งเบอร์นี้โทรเข้ามาเป็นครั้งที่สองเขาถึงได้ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มาและกดรับสาย"ใครครับ?"( ผมเป็นพนักงานโทรมาจากคลับนะครับ พอดีว่าคุณคามิลเมามากเลยครับ แถมยังเสียงดังอีกด้วย ผมกลัวว่าจะไปรบกวนลูกค้าท่านอื่นๆ ครับเลยอยากจะให้... )"ห้องทำงานมันก็มี ลากมันไปทิ้งไว้ที่ห้องทำงานสิ เดี๋ยวมันหายเมาแล้วมันก็กลับของมันเองแหละ"( พวกผมพยายามพาไปแล้วครับ แต่คุณคามิลไม่ยอมเลยแถมยังขู่อีกว่าจะไล่ออกให้หมด พวกผมก็เลย... )"งั้นก็ทิ้งมันไว้ตรงนั้นแหละ"พูดจบขุนเขาก็ตัดสายไปทันที ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องครั้งนั้นเขาก็แทบจะไม่ได้พูดคุยอะไรกับคามิลเลย แทบจะไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเมื่อก่อนแล้วด้วยแต่สุดท้ายคำว่าเพื่อนมันก็ยังค้ำคออยู่สูงกว่าทิฐิที่ตัวเองมี ขุนเขาเดินไปคว้ากุญแจรถของตัวเอง จากนั้นก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังคลับทันที.........ทางด้านฮาน่าเธอยังไม่ได้กลับถึงคอนโดแต่อย่างใด ตอนนี้อยากอยู่กับใครสักคนที่พอจะทำให้เธอรู้สึกคลายความกังวลลงมาบ้าง และพอได้มาอยู่กับธาราแบบนี้แล้ว เธอก็รู้สึกดีไม่น้อยเลย
“อึกอืม!” ฮาน่าพยายามที่จะผลักคนตรงหน้าออกไป แต่แล้วก็ถูกดึงรั้งกลับเข้ามาตามเดิม ริมฝีปากร้อนประกบเข้าหากันสัมผัสได้ถึงความร้อนรุ่มและความกระหายจากอีกฝ่ายแววตาของเธอสั่นเครือหัวใจเต้นตึกตักรุนแรงเหมือนประท้วงความรู้สึกอะไรบางอย่าง“แฮ่ก~ ไม่อยากตื่นจากฝันนี้เลยรู้ไหม” เสียงกระซิบแหบพร่าที่ทำเอาเธอนั้นถึงกับทำตัวไม่ถูก นี่เขากำลังคิดว่าตัวเองตกอยู่ในห้วงของความฝันงั้นเหรอมือนุ่มประคองใบหน้าหล่อเหลานั้นขึ้นมาก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายประทับจูบลงไปเองเธอแค่กำลังทำตามเสียงเรียกร้องจากหัวใจในจตอนนี้ต่างหาก“คามิล...”“หืม?”น้ำเสียงนุ่มละมุนนั้นพาให้หัวใจของคามิลเต้นรัวทันที ความฝันนี้มันช่างดีซะจนเขาอยากจะอยู่แบบนี้ไปตลอดเลยร่างกายที่นั่งทับอยู่บนตักมันสัมผัสได้ถึงร่างกายส่วนนั้นของเขา ลมหายใจที่หอบถี่พาให้เธอรู้สึกเสียววาบเป็นช่วงๆ ในอกมันร้อนรุ่มดั่งเปลวไฟร้อนแรงยากจะดับได้สุดท้ายแล้วไม่สามารถระงับอารมณ์ที่แสนจะเร่าร้อนลงได้ ทั้งสองจุมพิตกันอีกครั้งพร้อมด้วยลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดกันไปมาจนมีเสียงครางแผ่วๆ เล็ดลอดออกมาจากทั้งสองจังหวะส่วนล่างที่เคลื่อนไหวสัมผัสกันมันทำให้เธอรู้สึกถึงความร้
คนตัวเล็กถูกผลักให้นอนราบลงกับเตียง ก่อนที่ขาเรียวจะถูกจับกางออกเผยให้เห็นกายสาวที่มี่เลือดเปรอะอยู่ขุนเขาหันไปหยิบผ้าเปียกที่เขาไปเอามาก่อนหน้านี้เช็ดเลือดตรงนั้นให้แก่เธอจนสะอาด“สะ แสบจัง” คนตัวเล็กส่งเสียงพึมพำออกมา เพราะรู้สึกแสบทันทีที่ผ้าเปียกนั้นสำผัสโดนช่องทางของเธอ หัวใจดวงน้อยๆ นั้นเต้นรัวไม่หยุด มันทั้งตื่นเต้นและรู้สึกเขินอายเมื่อได้อยู่ต่อหน้าสองเพื่อนสนิทโดยที่ไร้อาภรณ์เช่นนี้“แล้วใครใช้ให้ใส่เข้าไปแบบนั้นเล่า!” ขุนเขาพูดเสียงแข็ง แต่ก็ปนความอบอุ่นให้เธอรู้สึกดีไปด้วยมันเป็นไปได้ยากเหมือนกันนะ กับการมีอะไรครั้งแรกและใส่เข้าไปได้ง่ายๆ เลย ขนาดของทั้งสองเองก็ใช้ว่าจะเล็กเมื่อไหร่กัน“ต้องเอานิ้วใส่เข้าไปก่อน” คามิลพูดเสียงแหบพร่า สายตาจ้องมองไปที่เรือนร่างสวยตรงหน้าไม่กระพริบ โดยเฉพาะตรงกายสาวที่กินท่อนเนื้อของเขาไปก่อนหน้านี้แคบขนาดนั้นจะตะบี้ตะบันใส่เข้าไปเลยได้ยังไงมือนุ่มยกขึ้นไปสัมผัสกับหน้าอกแกร่งของคามิล หัวใจดวงน้อยๆ นั้นเต้นรัวราวกับจะทะลุทะลวงออกมาจากอกให้ได้ ร่างกายก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปหมดเลยเช่นกันริมฝีปากร้อนประทับจูบลงไปบนริมฝีปากสีแดงเรื่อ แลกลิ้นเกี่ย
หลังจากที่กลับมาจากฝรั่งเศสจนถึงตอนนี้ก็ร่วมหลายเดือนได้แล้ว ชีวิตของฮาน่าก็ไม่ได้มีอะไรมากมายนอกจากทำงานและกลับมาอยู่กับสามีทั้งสองคนของเธอจากคนที่ไม่อยากมีลูก ไม่อยากเลี้ยงเด็ก ตอนนี้ความคิดของเธอมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว เธออยากมีลูก อยากมีเด็กสักคนสองคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของเธอและทั้งสองมีชีวิตชีวามากกว่านี้ถึงตอนนี้จะมีความสุขดี แต่ยังไงครอบครัวก็ต้องมีลูกไม่ใช่เหรอหลายครั้งที่เธอต้องผิดหวังเพราะทุกครั้งที่คิดว่ามีอาการและคิดว่าตัวเองท้องหรือเปล่า ผลตรวจมันก็ไม่ได้เป็นดั่งใจหวังเลยสักนิดเดียวร่างกายของเธอนั้นแข็งแรงดี พร้อมที่จะมีลูกได้ แต่เพราะฮอร์โมนที่ไม่คงที่ จึงทำให้ประจำเดือนคาดเคลื่อนและก็ไม่มีลูกสักที...............บริษัทเกริกวิทย์“กาแฟค่ะคุณฮาน่า”“หือ...เอากลับไปได้มั้ยคะ ฉันไม่อยากกินเลย รู้สึกเบื่อไปหมด” เธอนั่งเท้าคางมองดูแก้วกาแฟดำที่เลขาเอามาให้อย่างเช่นทุกวัน แต่วันนี้เธอกลับรู้สึกเบื่อชนิดที่ว่าไม่อยากจะกินอะไรเลยสักอย่าง“คุณฮาน่าเหม็นเหรอคะ?”“ไม่เหม็นหรอกค่ะ แค่ไม่อยากกิน”“คุณฮาน่ามีน้องหรือเปล่าคะ?”“เฮ้อ....” พอได้ยินอย่างนั้นแล้วเธอก็ถอนหายใจออกมาอย่
หลายเดือนต่อมาฮาน่าขับรถไปที่บริษัทของสองหนุ่มเพื่อที่จะบอกข่าวดี โดยที่ไม่ได้บอกทั้งสองคนนั้นก่อนว่าจะไปหาเมื่อขาเรียวก้าวเข้าไปในบริษัท ทุกช่วงจังหวะการสับเท้าเดินเธอถูกคนในบริษัทของคามิลนั้นจ้องมองไม่วางตา และก็ยังมีบางคนที่ยังไม่รู้ว่าเธอคือใคร“อย่างสวยเลย นั่นใครอ่ะ พนักงานใหม่เหรอ?” เสียงหนึ่งพึมพำออกมาท่ามกลางพนักงานคนอื่นไปที่กำลังมองไปที่หญิงสาว“ไอ้บ้า นั่นเมียประธานอยากโดนไล่ออกไง!”“หะ-ห๊ะ!”“คุณฮาน่า ภรรยาของประธานขุนเขาและประธานคามิล” เพราะทุกคนต่างก็รู้ถึงความสัมพันธ์นี้ของทั้งสาม และคนที่รู้แล้วจึงไม่ได้แปลกใจอะไรเลย จะมีก็แต่คนที่ยังไม่เคยรู้จักหรือพนักงานใหม่ๆ เท่านั้น“สวัสดีค่ะคุณฮาน่า”“สวัสดีค่ะ” เธอทักทายกลับด้วยรอยยิ้มที่สดใส“มาหาท่านประธานทั้งสองเหรอคะ?”“ใช่ค่ะ อยู่ใช่ไหมคะ เพราะเห็นรถจอดอยู่”“ค่ะอยู่ ให้แจ้งขึ้นไปไหมคะว่าคุณฮาน่ามา”“ไม่เป็นอะไรค่ะ พวกเขาไม่ได้ประชุมกันใช่ไหมคะ?”“ไม่มีค่ะ”“ขอบคุณมากค่ะ”ฮาน่าเข้าไปในลิฟท์และกดขึ้นไปยังชั้นบนสุดของตึก เพราะส่วนใหญ่ห้องทำงานของเจ้าของ หรือประธานบริษัทจะอยู่ด้านบน รวมถึงบริษัทของเธอด้วยเมื่อกี้เธอแอบเขิ
คนตัวเล็กยกสะโพกตัวเองขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจับแก่นกายใหญ่ของคนใต้ร่างนั้นจ่อเข้าไปที่ปากทางร่องรักของตนเอง ขณะที่หน้าอกอวบอิ่มนั้นกำลังถูกโลมเลียอยู่จากฝีมือของขุนเขาสวบ!ร่างบางกดตัวเองให้นั่งทับท่อนเนื้อใหญ่ลงมาอย่างไม่ทันได้ระวัง และลืมตัวไปว่ามันอาจจะทำให้เธอเจ็บได้“อ๊ะ...อ๊า...จะ จุก!!” เธอร้องครางเสียงหลง เพราะความจุกมันแล่นเข้ามาภายในชั่วพริบตา ก่อนที่มือเล็กรีบดันหน้าอกแกร่งตรงหน้าไว้พร้อมกับลมภายใจพะงาบๆ “อะ...อึก แฮ่ก แฮ่ก!”“ทำไมนั่งลงมาแบบนั้นล่ะ เจ็บไหม?” ขุนเขาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นสีหน้าของภรรยาตอนนี้แล้ว“จะ จุกนะ มันเข้ามา...” คำพูดขาดหายไป เพราะเธออธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลย ของใหญ่นั้นมันคับแน่นอยู่ในท้องน้อยของเธอจนอึดอัดไปหมด“อยู่เฉยๆ ก่อนนะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น” คามิลพูดเสียงแผ่ว มือของเขานั้นก็ยังจับเอวเล็กของเธอไว้แน่นเหมือนกันขุนเขาเริ่มโลมเลียหน้าอกของเธอต่อ ลิ้นร้อนตวัดเลียยอดถันที่แข็งตึงขึ้นมาอย่างเอร็ดอร่อย ปล่อยให้เธอนั้นค่อยๆ โยกสะโพกขึ้นลงอย่างเชื่องช้าเมื่ออาการจุกเสียดมันเริ่มจะบรรเทาลงเอวบางก็เริ่มโยกขยับขึ้นลงช้าๆ เนิบนาบ“อึกอ๊ะ...อื้ม...
“คะ คุณภรรยา!”“ฮะ ฮาน่า...”สองหนุ่มร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นภรรยาสาวเดินเข้ามาที่ห้องนอนใหญ่ชุดนอนลูกไม้สีดำ มันตัดกับสีผิวที่ขาวสะอาดของเธอ ทำให้เธอนั้นดูสวยเปล่งปลั่งขึ้นมาไม่น้อยเลยและก็ไม่ได้สวยเพียงอย่างเดียว เธอนั้นทั้งเซ็กซี่ จนน่าจับลงมารังแกเสียให้เข็ด“สวยไหมคะคุณสามีทั้งสอง” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวน พร้อมกับก้าวเดินเข้าไปหาสามีทั้งสองที่เตียงอย่างช้าๆ เพราะความสวยเซ็กซี่ทำเอาทั้งสองถึงกับกลืนน้ำลายกันอึกใหญ่ท่อนเนื้อส่วนล่างก็เริ่มรู้สึกปวดหนึบขึ้นมาทันทีร่างบางคลานขึ้นเตียงอย่างเชื่องช้า ก้นงอนสวยกำลังบิดส่ายไปมาเมื่อก้าวเข่าคลานเข้าหาคนตรงหน้ามือเล็กค่อยๆ วางลงจับเป้าตุงพร้อมกับลูบสัมผัสไปมาจนกระทั่งเสียงร้องซี๊ดดังออกมาจากปากของชายหนุ่ม“เสียวเหรอคะ คุณสามี...” เสียงหวานเอ่ยถามอีกครั้งอย่างยั่วยวน ก่อนที่เธอจะยิ้มมุมปากเล็กน้อย“อะ-อะไรวะเนี่ย!” เพราะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับภรรยา คามิลได้แต่ร้องอุทานออกมาเพราะความเสียวที่ได้รับจากเธอมันแปลกตั้งแต่ที่เธอเป็นฝ่ายร้องขอให้มีเซ็กซ์ด้วยกันแล้ว“ฮาน่า...ธะ เธอ..”พรึ่บ!~“อึก!” ขุนเขาที่กระเถิบเข้า
ตู๊ด ตู๊ด~ยังไม่ทันที่ตู๊ดที่สองจะสิ้นสุดปลายสายก็กดรับอย่างทันใจ( ค้าบที่รัก )“เสียงหวานเชียวนะ”( ก็ภรรยาโทรมาทั้งทีจะให้พูดห้วนๆ ได้ไงล่ะ )“นายทำอะไรอยู่?”( ทำงานครับ )“ฉันจะออกไปเอาของที่คอนโดเก่านะ ลูคานโทรมาบอกว่าจะมาแฟนมาอยู่ด้วย ฉันก็เลยจะไปเอาของที่เหลือกลับมาให้หมดน่ะ”( ...... ) ปลายสายเงียบไป ไม่มีการตอบกลับ นั่นจึงทำให้เธอเงียบเหมือนกัน เพราะไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ เขาจะไม่พอใจหรือเปล่า แต่ครั้งนี้เธอเลือกที่จะบอกเลยเพื่อตัดปัญหา และถ้าคามิลอยากจะไปด้วยเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เพราะเธอบริสุทธิ์ใจจริงๆ“ถ้านายไม่..”( เอาสิ เดี๋ยวไปรับนะ ยังเหลือของอีกเยอะเลยนี่ ขนลงมาคนเดียวเหนื่อยแย่ ) พอปลายสายตอบกลับมาแบบนั้นเธอก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที เพราะกลัวว่าจะมีปัญหากันอีก ต่อให้เธอจะไม่ได้คิดอะไรก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าคามิลหรือขุนเขาจะไม่คิดอะไรเลยพอตกบ่ายคามิลก็ขับรถมารับเธอที่บริษัทเพราะต้องไปเก็บของที่คอนโดเก่าของเธอด้วยกัน ส่วนขุนเขานั้นก็อยู่อีกบริษัทนึงและก็เลยมาด้วยไม่ได้“ยังเหลือเยอะไหม?” ขณะที่กำลังขับรถอยู่คามิลก็หันไปถามภรรยาคนสวยที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ
หลายเดือนต่อมางานแต่งจัดขึ้นอย่างใหญ่โตหลังจากวันที่ครอบครัวได้มารวมตัวกันและสู่ขอฮาน่าได้ไม่นาน จนถึงตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยและได้กลับมาอยู่ที่คอนโดกันตามเดิมแล้ว และก็ตั้งใจจะปักหลักอยู่ที่คอนโดกันแบบนี้ เพราะมันก็ค่อนข้างกว้าง มีทุกอย่างเพียบพร้อมไม่ต่างจากบ้าน แต่ถ้าวันไหนได้มีลูกก็คงต้องพิจารณากันอีกทีเพราะต้องมีพื้นที่ให้ลูกได้วิ่งเล่น“จะไปทำงานแล้วเหรอฮาน่า?” คามิลเดินเข้ามาถาม ขณะที่ภรรยาคนสวยของตัวเองนั้นกำลังนั่งแต่งหน้าอยู่“ใช่ๆ วันนี้มีประชุมกับพนักงานด้วยน่ะ”“ขยันจริงๆ เลยนะ”“ไม่ได้ขยัน แต่กลัวไม่มีกินว้อย!”“จะกลัวอะไร ผัวอยู่ตรงนี้ตั้งสองคน” คามิลยืนเท้าเอวมองหน้าของภรรยาผ่านกระจกที่เธอนั่งหันหน้าเข้าหา“จะเลี้ยงเหรอ ฉันกินเยอะนะ ชอบช็อปปิ้งด้วย ชอบซื้อแต่ของแพงๆ” เธอแกล้งพูดเล่น แต่ก็ไม่คิดจะทำแบบนั้นหรอก แม้จะได้เงินเดือนจากสามีสองคนแล้วแต่เธอก็ยังไม่ได้หยุดทำงาน“ถ้าเลี้ยงเธอไม่ได้ฉันจะแต่งงานกับเธอทำไมล่ะฮาน่า”“ใช่ๆ พูดถูกไอ้ขุน”“ไม่เอาหรอก ฉันชอบพึ่งพาตัวเอง อีกอย่างฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย อยู่บ้านก็ทำงานบ้านไม่เป็น ออกไปทำงานที่ตัวเองถนัดจะดีกว่า” เธอ
หลังจากที่ผ่านพ้นเรื่องราวร้ายๆ นั้นมาได้ ฮาน่าเองก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติของเธอ แม้จะมีคนรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเธอและสองคนนั้นมากขึ้นเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรส่วนเรื่องคนปล่อยข่าวก็จับตัวได้หลังจากที่ผ่านพ้นวันที่เกิดเรื่องไปได้ไม่ถึงสองอาทิตย์เขาคือคนที่เคยมีปัญหากับฮาน่าสมัยเรียน เป็นอดีตเพื่อนที่จบความสัมพันธ์แบบเพื่อนไม่สวยเท่าไหร่ และเธอคนนั้นก็เคยแอบชอบคามิลมาก่อน แต่พอไม่ถูกรักกลับก็คิดว่าฮาน่าเป็นคนพูดใส่ร้ายให้เธอดูไม่ดีในสายตาของคามิลแม้จะเคลียร์กันลงตัว แต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย อีกอย่างคามิลและขุนเขาก็ไม่ยอมง่ายๆ แน่ เพราะเธอคนนั้นตั้งใจลงข่าวให้ฮาน่าเสียหายและถูกโจมตีอย่างหนัก ต่อให้ฮาน่าจะให้อภัยแต่พวกเขาไม่มีวัน“ขุนเขา คามิล มาช่วยเลือกชุดหน่อยสิ” เสียงหวานๆ ดังออกมาจากห้องแต่งตัว ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังแต่งตัวอยู่พากันเดินตามเสียงมาทันที“ชุดนี้กับชุดนี้ อันไหนสวย?” ฮาน่าถือชุดเดรสกระโปรงสีขาวและสีโอรสชูให้กับสองหนุ่มได้ดู เพราะเธอยังเลือกชุดไม่ได้สักทีเลย จึงอยากให้สองคนนี้ช่วยเลือกคามิลและขุนเขามองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมามองฮาน่าที่กำลังถือชุดอ
สองวันถัดมาหลังจากที่ปล่อยให้ข่าวมันถูกพูดถึงแบบผิดๆ ไปอยู่นับสองวัน ก็ถึงเวลาที่จะต้องแก้ให้มันกระจ่างสักทีแล้วสินะฮาน่ากำลังแต่งตัวเตรียมที่จะเข้าไปที่บริษัทของเธอตอนนี้ เพราะเธอคือคนที่ถูกโจมตีหนักที่สุด และบริษัทของเธอนั้นก็ได้รับผลกระทบมากที่สุดด้วยฟึ่บ~มือหนาจับที่ไหล่เล็กนั้นเบาๆ เมื่อเห็นเธอกำลังยืนก้มหน้าอยู่หน้ากระจก ทั้งที่ปกติเธอเป็นคนที่ชอบมองดูตัวเองผ่านกระจก ขยับซ้ายขวามองดูชุดที่ใส่ในแต่ละวัน แต่วันนี้นั้นมันกลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย เธอไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด“ไม่เป็นอะไรแล้วนะ ทุกอย่างต้องเรียบร้อย” คามิลปลอบโยนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ฝ่ามืออุ่นนั้นโอบไหล่สองข้างของเธอไว้และออกแรงบีบเล็กน้อยเพื่อให้เธอได้รู้สึกถึงกำลังใจ“ฉันไม่มั่นใจเลย...กลัวว่า...” เสียงนั้นขาดหายไป ทิ้งไว้เพียงสีหน้าที่กำลังแบกความทุกข์ไว้หนักอึ้ง“ไม่มีอะไรต้องกลัวทั้งนั้น พวกฉันจะจับมือเธอเดินต่อเอง จะไม่มีวันทิ้งเธอ และทุกอย่างที่เธอพยายามรักษาไว้แน่นอน” ขุนเขาพูด“ขอบใจพวกนายมากนะ ขุนเขา คามิล”“เราไปกันได้แล้วนะ รถมารอแล้วล่ะ”“อื้ม...”ทั้งสามนั่งรถตู้ไปที่บริษัทของฮาน่าด้วยกัน และไม่นานก็มา
หลังจากที่ผ่านพ้นเวลานั้นมาร่วมสองเดือน ทั้งสองก็กลับมาอยู่กันแบบเดิม ความสัมพันธ์แบบเดิม เพิ่มเติมคือผู้ใหญ่ทุกคนรับรู้หมดแล้ว และก็ไม่ได้กีดกันอะไร เพราะแบบนั้นจึงทำให้ฮาน่ารู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อยเลย ต่างฝ่ายต่างก็รู้จักนิสัยกันเป็นอย่างดีแล้วจึงไม่ได้เป็นปัญหาอะไรทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ฮาน่าจะไม่ไปทำงาน และจะนอนพักผ่อนอยู่ที่ห้องของตัวเอง ส่วนทั้งสองคนนั้นก็เดาไม่ได้เลยว่าจะไปทำงานหรือจะอยู่พักผ่อนกับเธอที่คอนโดครืด~ ครืด~ ครืด~โทรศัพท์ของเธอนั้นสั่นไม่หยุด เพราะปิดเสียงไว้และเปิดการสั่นเตือน จึงทำให้ฮาน่าที่กำลังนอนหลับสบายรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่มือเล็กนั้นจะเอื้อมออกมาจากผ้าห่มและคว้าเอาโทรศัพท์มือถือตรงหัวเตียงไปกดรับสาย“อือ...ใครคะ?”( คุณฮาน่าคะ เกิดเรื่องแล้วค่ะ! ) เสียงปลายสายนั้นพูดอย่างร้อนรน ทำให้ฮาน่าตาสว่างขึ้นมาทันที ก่อนที่เธอนั้นจะรีบลุกขึ้นนั่ง“เกิดอะไรขึ้นคะ?!”( จู่ๆ ก็มีคนปล่อยข่าว หาว่าคุณฮาน่ากับคุณคามิลคุณขุนเขา เป็นรักสามเส้ากันค่ะ )“อะไรนะ!!”( ตอนนี้นักข่าวเต็มหน้าบริษัทเลยค่ะ ทำยังไงดีคะ )“บอกให้ทุกคนใจเย็นๆ นะคะ ไม่ต้องสนใจตรงนี้ ทำงานของ