คนตัวเล็กถูกผลักให้นอนราบลงกับเตียง ก่อนที่ขาเรียวจะถูกจับกางออกเผยให้เห็นกายสาวที่มี่เลือดเปรอะอยู่ขุนเขาหันไปหยิบผ้าเปียกที่เขาไปเอามาก่อนหน้านี้เช็ดเลือดตรงนั้นให้แก่เธอจนสะอาด“สะ แสบจัง” คนตัวเล็กส่งเสียงพึมพำออกมา เพราะรู้สึกแสบทันทีที่ผ้าเปียกนั้นสำผัสโดนช่องทางของเธอ หัวใจดวงน้อยๆ นั้นเต้นรัวไม่หยุด มันทั้งตื่นเต้นและรู้สึกเขินอายเมื่อได้อยู่ต่อหน้าสองเพื่อนสนิทโดยที่ไร้อาภรณ์เช่นนี้“แล้วใครใช้ให้ใส่เข้าไปแบบนั้นเล่า!” ขุนเขาพูดเสียงแข็ง แต่ก็ปนความอบอุ่นให้เธอรู้สึกดีไปด้วยมันเป็นไปได้ยากเหมือนกันนะ กับการมีอะไรครั้งแรกและใส่เข้าไปได้ง่ายๆ เลย ขนาดของทั้งสองเองก็ใช้ว่าจะเล็กเมื่อไหร่กัน“ต้องเอานิ้วใส่เข้าไปก่อน” คามิลพูดเสียงแหบพร่า สายตาจ้องมองไปที่เรือนร่างสวยตรงหน้าไม่กระพริบ โดยเฉพาะตรงกายสาวที่กินท่อนเนื้อของเขาไปก่อนหน้านี้แคบขนาดนั้นจะตะบี้ตะบันใส่เข้าไปเลยได้ยังไงมือนุ่มยกขึ้นไปสัมผัสกับหน้าอกแกร่งของคามิล หัวใจดวงน้อยๆ นั้นเต้นรัวราวกับจะทะลุทะลวงออกมาจากอกให้ได้ ร่างกายก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปหมดเลยเช่นกันริมฝีปากร้อนประทับจูบลงไปบนริมฝีปากสีแดงเรื่อ แลกลิ้นเกี่ย
กึด~ขุนเขาพยายามสอดใส่แก่นกายของตัวเองเข้าไปในช่องทางแคบอย่างช้าๆ ข้างในมันแน่นเอามากๆกลีบเนื้อสวยมันอวบอูมเมื่อท่อนเอ็นรุกล้ำเข้าไปในช่องทางแคบ เอวหนาค่อยๆ โยกขยับอย่างช้าๆ เนิบตามจังหวะอารมณ์ในตอนนี้ร่างกายของเธอนั้นสั่นไปตามแรงที่กำลังถูกกระแทกอย่างไม่ยั้งบนที่นอนคิงส์ไซส์คนทั้งสามคนกำลังทำเรื่องอย่างว่ากันอย่างเมามัน พร้อมด้วยเสียงครวญครางกระเส่าที่ดังประสานกันอยู่ทั่วทั้งห้อง“ซี๊ดฮาน่า...อ่าส์เสียว” ขุนเขาครางเสียงกระเส่าออกมา ช่องทางแคบของเธอมันบีบรัดท่อนเนื้อของเขาจนรู้สึกปวดหนึบไปทั่วทั้งลำ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อยากจะกระแทกลงไปให้มากกว่านี้ ให้สมกับการถูกเธอยั่วยวนจนตบะแตกแบบนี้“อืม...ขะ ขุนเขา..” เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อของเขา แววตาประกายความเร่าร้อนเข้าไปในใจของอีกฝ่ายทันใด“โคตรอยากแตกข้างในเลยว่ะ!” น้ำเสียงนั้นเค้นออกมาอย่างเอาจริงเอาจัง สายตาจ้องไปที่ใบหน้าสวย ก่อนที่เอวจะเริ่มโยกขยับอีกครั้งด้วยไฟเสน่หาร้อนแรงในตัวเธอพั่ก! พั่ก! พั่ก!“อ๊ะอ๊ะ~ อยะ อย่าแตกในนะ” แม้จะกำลังถูกกระแทกเธอก็ยังคงประคองสติให้พูดกับคนตรงหน้าได้“จะกลัวอะไร ท้องก็รับผิดชอบไง""มะ ไม่เอา...""อ
สายๆ ของวันถัดมาใบหน้าสวยขยับเล็กน้อยพร้อมกับถอนหายใจออกมาเหมือนกำลังแสดงความรู้สึกรำคาญ ก่อนที่เปลือกตาหนักอึ้งจะค่อยๆ เปิดขึ้น แสงแดดที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาทำให้เธอรู้ว่านี่มันเช้าแล้วร่างบางค่อยๆ ยันตัวเองให้ลุกขึ้น ทันทีที่ขยับตัวส่วนล่างของเธอที่เพิ่งจะผ่านการกระทำที่หนักหน่วงความเจ็บปวดก็แล่นปรี๊ดเข้ามาทันที"อ๊ะ!" ฮาน่าร้องออกมาเสียงแผ่ว พร้อมกับชำเลืองมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ เธอทั้งสองข้าง ตอนนี้สองหนุ่มยังคงนอนหลับอยู่ร่างกายที่เปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ บวกกับสองหนุ่มที่นอนเปลื้องผ้าอยู่ข้างๆ เธอในตอนนี้มันทำให้เธอรู้ว่าเรื่องเมื่อคืนนั้นมันไม่ใช่แค่ความฝันแต่มันเป็นความจริงหัวใจของเธอเต้นระรัวขึ้นมาทันทีเมื่อนึกได้อย่างนั้น เธอเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองนั้นจะตัดสินใจทำเรื่องแบบนั้นได้เธออยากจะลุกออกไปจากตรงนี้เต็มทีแล้ว แต่ก็ไม่รู้จะขยับไปยังไงเหมือนกัน ถ้าขยับจนผ้าห่มมันเคลื่อนไหวมากกว่านี้ มีหวังทั้งสองคนได้ตื่นแน่ๆ"ตื่นนานแล้วเหรอ?" น้ำเสียงเข้มเอื่อยๆ เอ่ยดังขึ้นมา ทว่าเธอกลับไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมอง"....." เงียบไร้การตอบกลับ ฮาน่าได้แต่นั่งก้มหน้าเอาผ้าห่มปิดตรงส่วนหน้
บริษัทเกริกวิทย์กรุ๊ปตั้งแต่ที่แยกจากสองคนวันนั้นเธอก็ไม่ได้ติดต่อกลับไปอีกเลย แม้กระทั่งจะรับสายโทรศัพท์ ข้อความที่ทั้งสองส่งมาเธอก็ไม่อ่านเลยสักนิด ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะว่าโกรธหรือไม่พอใจอะไร แต่เพราะเธอทำตัวไม่ถูกต่างหากที่จู่ๆ สถานะจากเพื่อนมันเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น ทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่เคยคิดเลยว่าสุดท้ายแล้วมันจะมาลงเอยกันแบบนี้ติ๊ง~( คุณได้รับข้อความใหม่ )ฮาน่าชำเลืองตามองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างวาบขึ้นมาเพราะแจ้งเตือนจากข้อความ เพียงแค่เห็นว่าใครเป็นคนส่งมาเธอก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าจะไม่ตอบกลับหรืออ่านเด็ดขาดทว่าหน้าจอโทรศัทพ์มือถือของเธอยังคงสว่างวาบไม่หยุด เหมือนข้อความถูกส่งเข้ามาเรื่อยๆ อยู่แบบนั้นครืด ครืด ครืดสายเรียกเข้า >>> ขุนเขาฮาน่าถอนหายใจออกมาอย่างแรง สายตาเพ่งมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ขณะที่ยังคงสั่นเครือเพราะสายโทรเข้าไม่หยุด“รับสายหน่อยไหม?” เสียงหนึ่งดังขึ้นมา ทำให้ฮาน่าที่กำลังตั้งใจจ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่ถึงกับสะดุ้ง บุคคลที่เอ่ยเสียงดังขึ้นมาคือหนุ่มบัดดี้สุดหล่อของฮาน่าที่เคยเรียนด้วยกันตอนอยู่อเมริกา“ไม่ล่ะ ไม่มีอะไรจะพูด” เธอตอบกลับเพียงสั
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ตามเธอกลับไปที่คอนโด ดูเหมือนว่าจะห้ามอะไรไม่ฟังแล้วด้วย ทั้งที่ไม่ใช่ที่อยู่ของตัวเองเลยแต่กลับทำเป็นเหมือนกับว่าตัวเองคือเจ้าของห้องก๊อกๆๆๆ ~"มีอะไร?" ฮาน่าเดินไปเปิดประตู เพราะเธอเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จหลังจากที่กลับมาถึงคอนโด ส่วนสองคนนั้นเธอก็ทิ้งให้อยู่ข้างนอก ไม่ยอมให้เข้ามาหรอก"อาหารมาส่งแล้ว""อืม เดี๋ยวออกไป"จากนั้นเธอก็ปิดประตู และเดินกลับเข้ามาใส่เสื้อผ้าชุดลำลองของเธอ เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น คือชุดที่เธอจะใส่เป็นประจำ เวลาได้อยู่ที่บ้านหรือคอนโดไม่ได้ออกไปไหนไม่นานนักเธอก็เดินออกมา ทว่าเมื่อเธอเดินออกมานั้นกลับทำเอาทั้งสองนั่งจ้องกันไม่วางตาเลยเสื้อยืดที่มันรัดรูปจนเห็นสัดส่วนเว้าโค้ง กางเกงขาสั้นที่มันสั้นไปจนถึงแก้มก้น และก็ขาเรียวยาวขาวผ่องอีก"มองอะไรกันอยู่ได้?""ปะ เปล่าๆ" คามิลรีบหันมองไปที่อื่นทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองนั้นนั่งจ้องตรงนั้นมากเกินไปแล้ว"ทำไมใส่ชุดแบบนี้ล่ะ?" ขุนเขาถาม"ก็ชุดปกตินี่ แปลกตรงไหน""ไม่แปลกหรอก""แล้วนี่จะกลับกันตอนไหน ถ้าไม่มีคีย์การ์ดก็ลงไปเปิดประตูข้างล่างไม่ได้นะ อีกอย่างฉันก็มีแค่อันเดียวด้วย" ฮาน่าพูดจากนั้นก็หย
คอนโดของฮาน่า“กล่องอะไรเหรอ?” ฮาน่าเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคามิลยกกล่องคล้ายกล่องพัสดุเข้ามาในห้อง แสดงว่าเมื่อกี้ที่บอกว่ามีของมาส่งและลงไปเอาก็ของสิ่งนี้สินะ“พัสดุไง” คามิลตอบกลับพร้อมด้วยมองหน้าตาเฉย ก่อนที่จะยิ้มออกมาเพราะถูกฮาน่ายืนเท้าเอวจ้องตาแข็ง“รู้แล้วว่าพัสดุ แต่มันคืออะไร?”“…..” คามิลไม่ได้ตอบ แต่วางพัสดุลงบนโต๊ะหยิบมีดมากรีดปากกล่องและเปิดทันทีฮาน่าไปยืนอยู่ข้างๆ มองดูคามิลเปิดกล่องพัสดุด้วยความสงสัย เธออยากรู้ว่ามันคืออะไรทำไมถึงได้ดูลึกลับขนาดนั้นแต่พอเปิดกล่องอีกชั้นเท่านั้นแหละ เธอถึงคงกับตกใจเลย กล่องมันใช่ก็ว่าตกใจแล้วแต่ไปสะดุดกับตัวเลขตรงข้างกล่องมากกว่า 58 !!! “อะไรเนี่ย!” ฮาน่าร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เธอถึงกับทำตัวไม่ถูกเลย“ถุงยางไงครับคุณ”“รู้แล้ว แต่ซื้อมาทำบ้าอะไรเยอะขนาดนี้!?” ทั้งตกใจขนาดและก็ตกใจจำนวนที่ไม่รู้ว่าทำไมซื้อมาเยอะขนาดนี้ ของแบบนี้ลงไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อข้างล่างก็ได้แล้วไหม“ไม่ได้ซื้อสักหน่อย”“???” ฮาน่ายืนงง ไม่ได้ซื้อมาถ้างั้นไปเอามาจากไหนล่ะ“จำไอ้ตี๋ได้ไหม?”“ตี๋?”“ไอ้ตี๋แว่นไง เด็กเกียรตินิยมอะ”“อ๋อ จำได้ละ แล้วมันเกี่ยวไร?” พอ
เช้าวันต่อมาคามิลตื่นแต่งตัวไปทำงานตามปกติ เห็นฮาน่านอนหลับยังไม่ตื่นเขาก็ไม่ได้ปลุกแต่อย่างใดเพราะไม่อยากรบกวนเธอ ได้แต่ปล่อยให้เธอนอนพักผ่อนอยู่แบบนั้น และเขาก็ออกไปทำงานเงียบๆ เพราะถึงยังไงเดี๋ยวขุนเขาก็กลับมาอยู่ดีและช่วงสายๆ ขุนเขาก็กลับมาที่คอนโด เพราะเมื่อคืนค่อนข้างเมา ก็เลยนอนที่โรงแรมนั้นเลย และขับรถกลับคอนโดในตอนเช้าหลังจากที่สร่างเมาเรียบร้อยแล้วแกร๊ก~"อือ..." เสียงเปิดประตูทำให้หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา"นอนหลับต่อเถอะ" ขุนเขาพูดเบาๆ ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เธอตื่น แต่เขาไม่รู้ว่าเธอไม่ได้ออกไปทำงาน"กี่โมงแล้ว?""วันนี้นอนพักเถอะไม่ต้องไปทำงานหรอก""อือ..." เธอขยับตัวและพลิกไปมา ไล่อาการปวดเมื่อยตามร่างกายหลังจากที่นอนอยู่ท่าเดียวมาแทบทั้งคืน เมื่อคืนเธอสลบเหมือด หลังจากที่ทำกับคามิลอย่างหนักหน่วง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองผล็อยหลับไปตอนไหนขุนเขาเดินมาตรงข้างเตียง สายตาเหลือบไปเห็นกล่องถุงยางและซองถุงยาง ที่ถูกแกะเอาออกมาใช้ นั่นจึงทำให้เขารู้ว่าเมื่อคืนทั้งสองทำอะไรกัน แต่ก็ไม่ได้ถามไถ่อะไรไปมากกว่านั้น ได้แต่เก็บทิ้งลงถังขยะ"หิวหรือเปล่า เดี๋ยวสั่งอาห
ฮาน่า Talk#บ้านเกริกวิทย์"เรื่องงานเป็นยังไงบ้างล่ะลูก?""ก็ดีนะคะ เริ่มลงตัวแล้วล่ะค่ะ แต่งานก็ยังเยอะเหมือนเดิม"ตอนเด็กๆ ฉันก็เคยคิดในความคิดของเด็กๆ นะว่า ได้เป็นผู้บริหารเป็นเจ้าของบริษัทแล้วจะสบาย แบบว่าได้ออกคำสั่งกับลูกน้องอย่างเดียว ส่วนเราที่เป็นเจ้าของก็นั่งแบบสบายๆ รอรับเงินเพียงอย่างเดียว แต่พอได้มาอยู่ในจุดนี้จริงๆแล้วฉันถึงได้รู้ว่าตัวเองคิดผิดไปหมดเลย"แล้วเรื่องที่แม่เคยขอไว้ล่ะลูก" คุณแม่พูดขึ้นขณะที่ฉันกำลังนั่งคุยเรื่องบริษัทกับคุณพ่ออยู่ทุกครั้งที่ฉันได้กลับมาที่บ้านก็มักจะเจอเรื่องแบบนี้แหละ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับฉันแล้ว"ตอนนี้หนูอยากโฟกัสกับงานมากกว่านะคะคุณแม่" ฉันตอบคุณแม่กลับ ก็จริงอยู่ที่ฉันเรียนจบมีงานทำแล้ว ฉันโตพอที่จะมีครอบครัวได้แล้วก็จริง แต่ฉันก็ยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องพวกนั้นเลย"ให้แม่แนะนำคนรู้จักให้ไหมเพื่อนๆ ของแม่มีลูกชายกันบางคนก็เป็นนักธุรกิจ บางคนก็เป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ บางคนก็ได้เป็นดาราเชียวนะ ถ้าหนูสนใจเดี๋ยวแม่จะช่วยคุยเรื่องนี้กับเพื่อนๆ ของแม่ให้""คุณ..." เสียงของคุณพ่อเอ่ยดังขึ้นเหมือนกำลังปรามคุณแม่ แต่พอเจอสา
หลังจากที่กลับมาจากฝรั่งเศสจนถึงตอนนี้ก็ร่วมหลายเดือนได้แล้ว ชีวิตของฮาน่าก็ไม่ได้มีอะไรมากมายนอกจากทำงานและกลับมาอยู่กับสามีทั้งสองคนของเธอจากคนที่ไม่อยากมีลูก ไม่อยากเลี้ยงเด็ก ตอนนี้ความคิดของเธอมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว เธออยากมีลูก อยากมีเด็กสักคนสองคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของเธอและทั้งสองมีชีวิตชีวามากกว่านี้ถึงตอนนี้จะมีความสุขดี แต่ยังไงครอบครัวก็ต้องมีลูกไม่ใช่เหรอหลายครั้งที่เธอต้องผิดหวังเพราะทุกครั้งที่คิดว่ามีอาการและคิดว่าตัวเองท้องหรือเปล่า ผลตรวจมันก็ไม่ได้เป็นดั่งใจหวังเลยสักนิดเดียวร่างกายของเธอนั้นแข็งแรงดี พร้อมที่จะมีลูกได้ แต่เพราะฮอร์โมนที่ไม่คงที่ จึงทำให้ประจำเดือนคาดเคลื่อนและก็ไม่มีลูกสักที...............บริษัทเกริกวิทย์“กาแฟค่ะคุณฮาน่า”“หือ...เอากลับไปได้มั้ยคะ ฉันไม่อยากกินเลย รู้สึกเบื่อไปหมด” เธอนั่งเท้าคางมองดูแก้วกาแฟดำที่เลขาเอามาให้อย่างเช่นทุกวัน แต่วันนี้เธอกลับรู้สึกเบื่อชนิดที่ว่าไม่อยากจะกินอะไรเลยสักอย่าง“คุณฮาน่าเหม็นเหรอคะ?”“ไม่เหม็นหรอกค่ะ แค่ไม่อยากกิน”“คุณฮาน่ามีน้องหรือเปล่าคะ?”“เฮ้อ....” พอได้ยินอย่างนั้นแล้วเธอก็ถอนหายใจออกมาอย่
หลายเดือนต่อมาฮาน่าขับรถไปที่บริษัทของสองหนุ่มเพื่อที่จะบอกข่าวดี โดยที่ไม่ได้บอกทั้งสองคนนั้นก่อนว่าจะไปหาเมื่อขาเรียวก้าวเข้าไปในบริษัท ทุกช่วงจังหวะการสับเท้าเดินเธอถูกคนในบริษัทของคามิลนั้นจ้องมองไม่วางตา และก็ยังมีบางคนที่ยังไม่รู้ว่าเธอคือใคร“อย่างสวยเลย นั่นใครอ่ะ พนักงานใหม่เหรอ?” เสียงหนึ่งพึมพำออกมาท่ามกลางพนักงานคนอื่นไปที่กำลังมองไปที่หญิงสาว“ไอ้บ้า นั่นเมียประธานอยากโดนไล่ออกไง!”“หะ-ห๊ะ!”“คุณฮาน่า ภรรยาของประธานขุนเขาและประธานคามิล” เพราะทุกคนต่างก็รู้ถึงความสัมพันธ์นี้ของทั้งสาม และคนที่รู้แล้วจึงไม่ได้แปลกใจอะไรเลย จะมีก็แต่คนที่ยังไม่เคยรู้จักหรือพนักงานใหม่ๆ เท่านั้น“สวัสดีค่ะคุณฮาน่า”“สวัสดีค่ะ” เธอทักทายกลับด้วยรอยยิ้มที่สดใส“มาหาท่านประธานทั้งสองเหรอคะ?”“ใช่ค่ะ อยู่ใช่ไหมคะ เพราะเห็นรถจอดอยู่”“ค่ะอยู่ ให้แจ้งขึ้นไปไหมคะว่าคุณฮาน่ามา”“ไม่เป็นอะไรค่ะ พวกเขาไม่ได้ประชุมกันใช่ไหมคะ?”“ไม่มีค่ะ”“ขอบคุณมากค่ะ”ฮาน่าเข้าไปในลิฟท์และกดขึ้นไปยังชั้นบนสุดของตึก เพราะส่วนใหญ่ห้องทำงานของเจ้าของ หรือประธานบริษัทจะอยู่ด้านบน รวมถึงบริษัทของเธอด้วยเมื่อกี้เธอแอบเขิ
คนตัวเล็กยกสะโพกตัวเองขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจับแก่นกายใหญ่ของคนใต้ร่างนั้นจ่อเข้าไปที่ปากทางร่องรักของตนเอง ขณะที่หน้าอกอวบอิ่มนั้นกำลังถูกโลมเลียอยู่จากฝีมือของขุนเขาสวบ!ร่างบางกดตัวเองให้นั่งทับท่อนเนื้อใหญ่ลงมาอย่างไม่ทันได้ระวัง และลืมตัวไปว่ามันอาจจะทำให้เธอเจ็บได้“อ๊ะ...อ๊า...จะ จุก!!” เธอร้องครางเสียงหลง เพราะความจุกมันแล่นเข้ามาภายในชั่วพริบตา ก่อนที่มือเล็กรีบดันหน้าอกแกร่งตรงหน้าไว้พร้อมกับลมภายใจพะงาบๆ “อะ...อึก แฮ่ก แฮ่ก!”“ทำไมนั่งลงมาแบบนั้นล่ะ เจ็บไหม?” ขุนเขาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นสีหน้าของภรรยาตอนนี้แล้ว“จะ จุกนะ มันเข้ามา...” คำพูดขาดหายไป เพราะเธออธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลย ของใหญ่นั้นมันคับแน่นอยู่ในท้องน้อยของเธอจนอึดอัดไปหมด“อยู่เฉยๆ ก่อนนะ เดี๋ยวก็ดีขึ้น” คามิลพูดเสียงแผ่ว มือของเขานั้นก็ยังจับเอวเล็กของเธอไว้แน่นเหมือนกันขุนเขาเริ่มโลมเลียหน้าอกของเธอต่อ ลิ้นร้อนตวัดเลียยอดถันที่แข็งตึงขึ้นมาอย่างเอร็ดอร่อย ปล่อยให้เธอนั้นค่อยๆ โยกสะโพกขึ้นลงอย่างเชื่องช้าเมื่ออาการจุกเสียดมันเริ่มจะบรรเทาลงเอวบางก็เริ่มโยกขยับขึ้นลงช้าๆ เนิบนาบ“อึกอ๊ะ...อื้ม...
“คะ คุณภรรยา!”“ฮะ ฮาน่า...”สองหนุ่มร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นภรรยาสาวเดินเข้ามาที่ห้องนอนใหญ่ชุดนอนลูกไม้สีดำ มันตัดกับสีผิวที่ขาวสะอาดของเธอ ทำให้เธอนั้นดูสวยเปล่งปลั่งขึ้นมาไม่น้อยเลยและก็ไม่ได้สวยเพียงอย่างเดียว เธอนั้นทั้งเซ็กซี่ จนน่าจับลงมารังแกเสียให้เข็ด“สวยไหมคะคุณสามีทั้งสอง” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวน พร้อมกับก้าวเดินเข้าไปหาสามีทั้งสองที่เตียงอย่างช้าๆ เพราะความสวยเซ็กซี่ทำเอาทั้งสองถึงกับกลืนน้ำลายกันอึกใหญ่ท่อนเนื้อส่วนล่างก็เริ่มรู้สึกปวดหนึบขึ้นมาทันทีร่างบางคลานขึ้นเตียงอย่างเชื่องช้า ก้นงอนสวยกำลังบิดส่ายไปมาเมื่อก้าวเข่าคลานเข้าหาคนตรงหน้ามือเล็กค่อยๆ วางลงจับเป้าตุงพร้อมกับลูบสัมผัสไปมาจนกระทั่งเสียงร้องซี๊ดดังออกมาจากปากของชายหนุ่ม“เสียวเหรอคะ คุณสามี...” เสียงหวานเอ่ยถามอีกครั้งอย่างยั่วยวน ก่อนที่เธอจะยิ้มมุมปากเล็กน้อย“อะ-อะไรวะเนี่ย!” เพราะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับภรรยา คามิลได้แต่ร้องอุทานออกมาเพราะความเสียวที่ได้รับจากเธอมันแปลกตั้งแต่ที่เธอเป็นฝ่ายร้องขอให้มีเซ็กซ์ด้วยกันแล้ว“ฮาน่า...ธะ เธอ..”พรึ่บ!~“อึก!” ขุนเขาที่กระเถิบเข้า
ตู๊ด ตู๊ด~ยังไม่ทันที่ตู๊ดที่สองจะสิ้นสุดปลายสายก็กดรับอย่างทันใจ( ค้าบที่รัก )“เสียงหวานเชียวนะ”( ก็ภรรยาโทรมาทั้งทีจะให้พูดห้วนๆ ได้ไงล่ะ )“นายทำอะไรอยู่?”( ทำงานครับ )“ฉันจะออกไปเอาของที่คอนโดเก่านะ ลูคานโทรมาบอกว่าจะมาแฟนมาอยู่ด้วย ฉันก็เลยจะไปเอาของที่เหลือกลับมาให้หมดน่ะ”( ...... ) ปลายสายเงียบไป ไม่มีการตอบกลับ นั่นจึงทำให้เธอเงียบเหมือนกัน เพราะไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ เขาจะไม่พอใจหรือเปล่า แต่ครั้งนี้เธอเลือกที่จะบอกเลยเพื่อตัดปัญหา และถ้าคามิลอยากจะไปด้วยเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร เพราะเธอบริสุทธิ์ใจจริงๆ“ถ้านายไม่..”( เอาสิ เดี๋ยวไปรับนะ ยังเหลือของอีกเยอะเลยนี่ ขนลงมาคนเดียวเหนื่อยแย่ ) พอปลายสายตอบกลับมาแบบนั้นเธอก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที เพราะกลัวว่าจะมีปัญหากันอีก ต่อให้เธอจะไม่ได้คิดอะไรก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าคามิลหรือขุนเขาจะไม่คิดอะไรเลยพอตกบ่ายคามิลก็ขับรถมารับเธอที่บริษัทเพราะต้องไปเก็บของที่คอนโดเก่าของเธอด้วยกัน ส่วนขุนเขานั้นก็อยู่อีกบริษัทนึงและก็เลยมาด้วยไม่ได้“ยังเหลือเยอะไหม?” ขณะที่กำลังขับรถอยู่คามิลก็หันไปถามภรรยาคนสวยที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ
หลายเดือนต่อมางานแต่งจัดขึ้นอย่างใหญ่โตหลังจากวันที่ครอบครัวได้มารวมตัวกันและสู่ขอฮาน่าได้ไม่นาน จนถึงตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยและได้กลับมาอยู่ที่คอนโดกันตามเดิมแล้ว และก็ตั้งใจจะปักหลักอยู่ที่คอนโดกันแบบนี้ เพราะมันก็ค่อนข้างกว้าง มีทุกอย่างเพียบพร้อมไม่ต่างจากบ้าน แต่ถ้าวันไหนได้มีลูกก็คงต้องพิจารณากันอีกทีเพราะต้องมีพื้นที่ให้ลูกได้วิ่งเล่น“จะไปทำงานแล้วเหรอฮาน่า?” คามิลเดินเข้ามาถาม ขณะที่ภรรยาคนสวยของตัวเองนั้นกำลังนั่งแต่งหน้าอยู่“ใช่ๆ วันนี้มีประชุมกับพนักงานด้วยน่ะ”“ขยันจริงๆ เลยนะ”“ไม่ได้ขยัน แต่กลัวไม่มีกินว้อย!”“จะกลัวอะไร ผัวอยู่ตรงนี้ตั้งสองคน” คามิลยืนเท้าเอวมองหน้าของภรรยาผ่านกระจกที่เธอนั่งหันหน้าเข้าหา“จะเลี้ยงเหรอ ฉันกินเยอะนะ ชอบช็อปปิ้งด้วย ชอบซื้อแต่ของแพงๆ” เธอแกล้งพูดเล่น แต่ก็ไม่คิดจะทำแบบนั้นหรอก แม้จะได้เงินเดือนจากสามีสองคนแล้วแต่เธอก็ยังไม่ได้หยุดทำงาน“ถ้าเลี้ยงเธอไม่ได้ฉันจะแต่งงานกับเธอทำไมล่ะฮาน่า”“ใช่ๆ พูดถูกไอ้ขุน”“ไม่เอาหรอก ฉันชอบพึ่งพาตัวเอง อีกอย่างฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย อยู่บ้านก็ทำงานบ้านไม่เป็น ออกไปทำงานที่ตัวเองถนัดจะดีกว่า” เธอ
หลังจากที่ผ่านพ้นเรื่องราวร้ายๆ นั้นมาได้ ฮาน่าเองก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติของเธอ แม้จะมีคนรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเธอและสองคนนั้นมากขึ้นเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรส่วนเรื่องคนปล่อยข่าวก็จับตัวได้หลังจากที่ผ่านพ้นวันที่เกิดเรื่องไปได้ไม่ถึงสองอาทิตย์เขาคือคนที่เคยมีปัญหากับฮาน่าสมัยเรียน เป็นอดีตเพื่อนที่จบความสัมพันธ์แบบเพื่อนไม่สวยเท่าไหร่ และเธอคนนั้นก็เคยแอบชอบคามิลมาก่อน แต่พอไม่ถูกรักกลับก็คิดว่าฮาน่าเป็นคนพูดใส่ร้ายให้เธอดูไม่ดีในสายตาของคามิลแม้จะเคลียร์กันลงตัว แต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย อีกอย่างคามิลและขุนเขาก็ไม่ยอมง่ายๆ แน่ เพราะเธอคนนั้นตั้งใจลงข่าวให้ฮาน่าเสียหายและถูกโจมตีอย่างหนัก ต่อให้ฮาน่าจะให้อภัยแต่พวกเขาไม่มีวัน“ขุนเขา คามิล มาช่วยเลือกชุดหน่อยสิ” เสียงหวานๆ ดังออกมาจากห้องแต่งตัว ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังแต่งตัวอยู่พากันเดินตามเสียงมาทันที“ชุดนี้กับชุดนี้ อันไหนสวย?” ฮาน่าถือชุดเดรสกระโปรงสีขาวและสีโอรสชูให้กับสองหนุ่มได้ดู เพราะเธอยังเลือกชุดไม่ได้สักทีเลย จึงอยากให้สองคนนี้ช่วยเลือกคามิลและขุนเขามองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมามองฮาน่าที่กำลังถือชุดอ
สองวันถัดมาหลังจากที่ปล่อยให้ข่าวมันถูกพูดถึงแบบผิดๆ ไปอยู่นับสองวัน ก็ถึงเวลาที่จะต้องแก้ให้มันกระจ่างสักทีแล้วสินะฮาน่ากำลังแต่งตัวเตรียมที่จะเข้าไปที่บริษัทของเธอตอนนี้ เพราะเธอคือคนที่ถูกโจมตีหนักที่สุด และบริษัทของเธอนั้นก็ได้รับผลกระทบมากที่สุดด้วยฟึ่บ~มือหนาจับที่ไหล่เล็กนั้นเบาๆ เมื่อเห็นเธอกำลังยืนก้มหน้าอยู่หน้ากระจก ทั้งที่ปกติเธอเป็นคนที่ชอบมองดูตัวเองผ่านกระจก ขยับซ้ายขวามองดูชุดที่ใส่ในแต่ละวัน แต่วันนี้นั้นมันกลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย เธอไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด“ไม่เป็นอะไรแล้วนะ ทุกอย่างต้องเรียบร้อย” คามิลปลอบโยนด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ฝ่ามืออุ่นนั้นโอบไหล่สองข้างของเธอไว้และออกแรงบีบเล็กน้อยเพื่อให้เธอได้รู้สึกถึงกำลังใจ“ฉันไม่มั่นใจเลย...กลัวว่า...” เสียงนั้นขาดหายไป ทิ้งไว้เพียงสีหน้าที่กำลังแบกความทุกข์ไว้หนักอึ้ง“ไม่มีอะไรต้องกลัวทั้งนั้น พวกฉันจะจับมือเธอเดินต่อเอง จะไม่มีวันทิ้งเธอ และทุกอย่างที่เธอพยายามรักษาไว้แน่นอน” ขุนเขาพูด“ขอบใจพวกนายมากนะ ขุนเขา คามิล”“เราไปกันได้แล้วนะ รถมารอแล้วล่ะ”“อื้ม...”ทั้งสามนั่งรถตู้ไปที่บริษัทของฮาน่าด้วยกัน และไม่นานก็มา
หลังจากที่ผ่านพ้นเวลานั้นมาร่วมสองเดือน ทั้งสองก็กลับมาอยู่กันแบบเดิม ความสัมพันธ์แบบเดิม เพิ่มเติมคือผู้ใหญ่ทุกคนรับรู้หมดแล้ว และก็ไม่ได้กีดกันอะไร เพราะแบบนั้นจึงทำให้ฮาน่ารู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อยเลย ต่างฝ่ายต่างก็รู้จักนิสัยกันเป็นอย่างดีแล้วจึงไม่ได้เป็นปัญหาอะไรทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ฮาน่าจะไม่ไปทำงาน และจะนอนพักผ่อนอยู่ที่ห้องของตัวเอง ส่วนทั้งสองคนนั้นก็เดาไม่ได้เลยว่าจะไปทำงานหรือจะอยู่พักผ่อนกับเธอที่คอนโดครืด~ ครืด~ ครืด~โทรศัพท์ของเธอนั้นสั่นไม่หยุด เพราะปิดเสียงไว้และเปิดการสั่นเตือน จึงทำให้ฮาน่าที่กำลังนอนหลับสบายรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่มือเล็กนั้นจะเอื้อมออกมาจากผ้าห่มและคว้าเอาโทรศัพท์มือถือตรงหัวเตียงไปกดรับสาย“อือ...ใครคะ?”( คุณฮาน่าคะ เกิดเรื่องแล้วค่ะ! ) เสียงปลายสายนั้นพูดอย่างร้อนรน ทำให้ฮาน่าตาสว่างขึ้นมาทันที ก่อนที่เธอนั้นจะรีบลุกขึ้นนั่ง“เกิดอะไรขึ้นคะ?!”( จู่ๆ ก็มีคนปล่อยข่าว หาว่าคุณฮาน่ากับคุณคามิลคุณขุนเขา เป็นรักสามเส้ากันค่ะ )“อะไรนะ!!”( ตอนนี้นักข่าวเต็มหน้าบริษัทเลยค่ะ ทำยังไงดีคะ )“บอกให้ทุกคนใจเย็นๆ นะคะ ไม่ต้องสนใจตรงนี้ ทำงานของ