คีตะ
เมื่อเช้าเธอเดินชนผมเมื่อเช้า แต่ตอนนี้เธอกลับมาถามผมว่าเคยเจอกันมาก่อนคืออะไรวะ สมองเสื่อมใช่มั้ยถึงได้ถามผมแบบนี้ให้ตายเถอะ นอกจากผมจะอารมณ์เสียกับไอ้จอมพลแล้วผมยังมาอารมณ์เสียกับคนที่ยืนตรงหน้าผมอีก
"ขอโทษค่ะที่เสียมารยาท ทานขนมให้อร่อยนะคะ"เธอรีบบอกผมก่อนจะเลื่อนจานขนมให้ผม
"เดี๋ยว"
"คะ...คุณเรียกฉันหรอคะ"ผมหลับตาลงก่อนจะถอนหายใจ
"ขนมนี่ที่ร้านทำเองหรอครับ"ผมถามเพราะขนมที่อยู่ตรงหน้าผมมันเป็นขนมที่ผมชอบกินไง
"ขนมอันนี้ฉันทำเองค่ะ และที่ร้านไม่ได้มีขาย"เธอบอกผมก่อนจะยิ้มให้
ทำเองอย่างนั้นหรออายุน่าจะรุ่นเดียวกับจอมพลไม่น่าเชื่อว่าจะทำขนมไทยโบราณแบบนี้เป็น ผมหยิบขนมขึ้นมาก่อนจะชิมและรสชาติมันเป็นรสชาติเดียวกันกับที่ผมกินเมื่อวาน
"ทำเอง"ผมถาม
"ใช่ค่ะขนมพระพายฉันทำเอง ส่วนอย่างอื่นคุณยายฉันเป็นคนทำค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวนะคะ"
เธอพูดเสร็จก็เดินลงไปชั้นล่างโดยที่ไม่รอให้ผมถามต่อ ผู้หญิงของไอ้จอมพลสินะถ้าผมเดาไม่ผิด หลังจากที่กินขนมหมดผมก็เดินลงมาด้านล่างเพราะตอนนี้จะบ่ายสองแล้ว
"ขอบคุณสำหรับขนม อร่อยมากครับ"ผมเดินมาบอกเจ้าของร้าน
"มีแค่วันนี้แหละค่ะ เพราะคนทำไม่ค่อยได้มา"พี่เจ้าของร้านบอกพรางชี้ไปที่เธอ
"เธอเป็นลูกจ้างของที่ร้านหรอครับ"
"พอดีวันนี้น้องว่างก็เลยแวะมาหา พี่ก็เลยให้ช่วยงานสะเลย แต่ถ้าคุณจะถามเรื่องขนม ถามน้องได้เลยนะคะเพราะคุณยายของน้องทำขนมไทยอร่อยมาก"พี่เจ้าของร้านพูดแล้วยิ้มให้ผม
"มีเบอร์มั้ยครับพอดีผมชอบทาน"ผมถามไป
"ขอเจ้าตัวเลยดีกว่าค่ะ"
"จะกลับแล้วหรอคะ ขนมอร่อยมั้ยคะ"เธอถามแล้วยิ้มให้ผม
"ถ้าผมจะสั่งต้องทำยังไง"
"ขอโทษนะคะพอดีฉันไม่ได้ทำขาย แต่ถ้าคุณอยากกินเดี๋ยวฉันทำแล้วมาฝากไว้กับพี่เอินได้ค่ะ เดี๋ยวคุณให้เบอร์พี่เอินไว้"เธอบอกผมจนพี่เจ้าของร้านมองหน้าอย่างงงๆ
"ผมขอเบอร์คุณเลยแล้วกัน"ผมบอกไปตามตรง
"จะฝากไว้แล้วถ้าคุณเขาไม่ว่างล่ะเอสเทล"
เอสเทล เธอชื่อเอสเทลอย่างนั้นหรอชื่อแปลกดี และอย่าคิดว่าผมจะชอบเธอนะที่ผมขอเบอร์ก็เพราะเรื่องขนมเท่านั้นแหละ
"ถ้าไม่อยากให้ก็ไม่เป็นไรครับ งั้นผมยืมมือถือของคุณหน่อย"ผมบอกเธอ
"นี่ค่ะ"
หึ...ยัยเด็กโง่ ผมกดเบอร์โทรออกก่อนบันทึกเบอร์ตัวเองลงในเครื่องของเธอแล้วคืนให้ และคิดว่าคนอย่างผมโง่มากสินะแต่เปล่าเลยเพราะคนที่โง่คือเธอไม่ใช่ผม
"ถ้าวันไหนฉันทำขนม ฉันจะโทรบอกคุณนะคะ"เธอบอกแล้วยิ้มให้ผม
"กลับบ้านได้แล้วนะเอสเดี๋ยวคุณยายจะเป็นห่วง เดี๋ยวพี่ให้คนที่ร้านไปส่ง"พี่เจ้าของหันไปบอกเธอที่ยืนยิ้มอยู่
"ไม่เป็นไรค่ะ เอสเดินกลับแค่นี้เอง"
"ถ้าถึงบ้านโทรบอกพี่ด้วยเข้าใจมั้ย ไม่ต้องแวะช่วยใครเข้าใจหรือเปล่ากลับบ้านก็คือกลับบ้าน"ผมมองหน้าพี่เจ้าของร้านที่พูดเสียงดุ
ดูท่าเด็กคนนี้จะซื่อมาก เพราะไม่อย่างนั้นพี่เจ้าของร้านจะไม่พูดย้ำขนาดนี้ แต่มันจะมีคนซื่อขนาดนั้นด้วยหรอวะ
"เดี๋ยวเอสจะเดินตรงอย่างเดียวไม่แวะตรงไหนเลยค่ะ ถึงบ้านเอสจะโทรบอกพี่เอินทันทีค่ะ"
ตอนนี้ผมกำลังขับรถตามยัยเด็กโง่ที่เดินกลับบ้าน คือแม่งเดินตรงอย่างเดียวจริงๆ ไม่แวะซ้ายแวะขวาเลยคนอะไรมันจะซื่อได้ขนาดนี้กัน
"ยัยซื่อบื้อ"
ผมจอดรถเมื่อเห็นยัยเด็กนี่หยุดเดินอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งก่อนที่เธอจะหยิบมือถือขึ้นมาแล้วโทรหาใครสักคน หลังจากที่ยัยเด็กโง่เดินเข้าบ้านผมเองก็ขับรถออกมาทันที
.
.
"ไปไหนมาครับคุณคีตะ"ทันทีที่ผมเดินเข้าบ้านเสียงของไอ้น้องเวรก็ดังเข้าหูผมทันที
"กูต้องรายงานมึงด้วยหรือไง"ผมถาม
"อ่ะขนม"มันยื่นถุงขนมให้ผม
"ขอบใจ แต่กูกินมาแล้ว"ผมบอกแล้วยกยิ้มให้มัน
"กินมาจากไหน"
"จากผู้หญิงที่มึงเบลอภาพแล้วส่งให้กูไง ชื่ออะไรนะเอสเทลหรือเปล่า"ผมถามไอ้จอมพล
"อย่ายุ่งกับเธอ เพราะเธอซื่อเกินกว่าจะรู้จักพี่"ไอ้จอมพลรีบบอก และสีหน้าของมันเปลี่ยนไปจากเมื่อกี้จนผมรู้สึกได้
"กูเป็นคนไม่ดีหรือไงมึงถึงได้ห้าม"ผมถามมันไป
"เอสเทลเป็นผู้หญิงที่ซื่อมาก ทุกอย่างบนโลกใบนี้คือดีหมดจนผมไม่รู้ว่าเวลาเอสเทลเจอเรื่องไม่ดีเธอจะรับมือมันยังไง ผู้หญิงที่แม่เสียไปตั้งแต่สองขวบพ่อทิ้งตั้งแต่ยังไม่เกิดและอยู่กับยายสองคนมาตลอด คนที่ยิ้มตลอดเวลาแม้โดนด่าโดนแกล้งพี่คิดว่ายังไง"ไอ้จอมพลพูดยาวเหยียด
"ที่มึงพูดมาคือมึงจะบอกกูว่ามึงชอบเธอ และไม่ให้กูเข้าใกล้เธอ"ผมถามน้องไปตามตรง
"ใครอยู่ใกล้เอสเทลก็ชอบเธอหมดแหละ ผมแค่เป็นห่วงเพื่อนผมถึงได้คอยดูแลเอสเทลมากกว่าเพื่อนคนอื่น"
มันคิดว่าผมโง่มากหรือไงกับคำตอบที่มันตอบผม เป็นห่วงเพื่อนไอ้เวรแต่สายตาและน้ำเสียงในการพูดนี่มันไม่ใช่เลย
"จะชอบไม่ชอบก็เรื่องของมึง ส่วนเรื่องของกูก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกูนะน้องรัก"ผมบอกก่อนจะเดินขึ้นห้อง
"คนที่ทำให้คุณคีตะใจเต้นแรงสินะถึงได้พูดแบบนี้"
ไอ้จอมพลพูดไล่หลังผมคนที่ทำให้ผมใจเต้นแรงหรอ เธอไม่มีอะไรที่เหมือนแม่ผมเลยสักนิดแค่ซื่อบื้อก็ไม่เหมือนแล้ว
เอสเทล
"เคยเจอคุณเขาที่ไหนกันนะ เอสเทลทำไมแกถึงได้ขี้ลืมขนาดนี้"
ตอนนี้ฉันกำลังเดินวนรอบบ้านและนึกถึงใบหน้ากับน้ำเสียงของผู้ชายคนที่อยู่ร้านกาแฟแต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
"เป็นอะไรเอสเทลถึงได้เดินวนไปวนมาแบบนี้ลูก"ยายฉันเอ่ยถาม
"เอสจำคนๆ นึงไม่ได้ค่ะ นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก"ฉันบอกยายไป
"ก็ไม่ต้องคิดสิลูก ยายว่าเอาเวลาไปเตรียมตัวที่จะเปิดเทอมอาทิตย์หน้าดีกว่ามั้ย"ยายบอก
จริงสิอาทิตย์หน้าฉันก็เปิดเทอมแล้ว อยากจะบอกว่าตื่นเต้นมากที่จะได้เข้ามหาลัยและเจอเพื่อนใหม่ ที่จริงฉันเตรียมของทุกอย่างไว้หมดแล้ว ฉันเลือกเรียนบริหารเหมือนกับเพื่อนฉันอีกสองคนและจอมพลเองก็เรียนเหมือนกัน
ครืด ครืด
ฉันมองมือถือตัวเองที่ดังอยู่บนโต๊ะ ทำไมฉันถึงไม่คุ้นชื่อที่โชว์อยู่เลยล่ะฉันรู้จักกับคนที่โทรมาตอนไหนกัน
"คีตะ"ฉันพูดเสียงเบาก่อนจะกดรับสาย
"สวัสดีค่ะเอสเทลพูดค่ะ"
(ฉันรู้แล้ว)
"ฉันไม่รู้จักคุณนะคะแต่ทำไมมือถือของฉันถึงได้มีชื่อคุณ แล้วคุณโทรหาฉันมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ"
(ไม่มีแค่อยากโทร และเรารู้จักกันแล้วนะคุณจำไม่ได้หรือไง)
สะ..เสียงนี้อีกนี่มันเสียงของพี่ชายจอมพลและลูกค้าที่ร้านกาแฟที่ฉันเจอนี่
"พี่ชายจอมพลและลูกค้าที่ร้านกาแฟใช่มั้ยคะ"ฉันรีบถามเพราะเสียงมันเหมือนที่ฉันเคยได้ยิน
(อืม...)
"คุณโทรหาฉันมีอะไรหรือเปล่าคะ ถ้าจะโทรมาถามเรื่องขนมฉันอาจจะทำอีกทีเดือนหน้าเลยค่ะ เพราะอาทิตย์หน้าฉันเปิดเทอมแล้ว จะทำได้ก็ช่วงวันหยุดและฉันว่างจริงๆ ขอโทษด้วยนะคะ"
(ถ้าอย่างนั้นก็ไว้เจอกัน)
"คะ...คุณคะเจอกันที่ไหน"
อะไรของเขาเนี่ยไว้เจอกันแล้วให้เจอที่ไหนล่ะ คิดอยากจะโทรก็โทรคิดอยากจะวางก็วางฉันมองชื่อของเขา.....พี่ชายของจอมพลใช่แล้วฉันจำเสียงของเขาได้แล้ว
"คุยกับใครอยู่เอสเทล"
"พี่ชายของจอมพลค่ะ คนที่เอสบอกยายก่อนหน้านี้เขาเป็นพี่ชายของจอมพลค่ะ"ฉันบอกยายไป
"ดีใจกว่าเจอหน้าจอมพลอีกนะเรา"ยายบอกก่อนจะยิ้มให้ฉัน
"ก็เอสพึjงจำได้นี่คะ"
ติ้ง!
Kita : พรุ่งนี้ไปร้านกาแฟอีกหรือเปล่า
ฉันมองข้อความที่ถูกส่งมาจากคนที่วางสายไปเมื่อกี้ พรุ่งนี้ไปร้านกาแฟมั้ยฉันจะไปไม่ไปแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วยล่ะ ฉันรีบโทรหาคุณเขาทันที
(ว่าไง)
"พรุ่งนี้ทำไมฉันต้องไปร้านพี่เอินด้วยคะ"
(แล้วจะไปไม่ไป)
"คุณก็บอกมาสิคะว่าทำไมฉันต้องไปด้วย"
(ฉันอยากเจอเธอ ว่าไงจะไปหรือไม่ไป)
"ถ้าอยากเจอฉันไปก็ได้ค่ะ"
คีตะ"พ่อไม่เคยเห็นแกยิ้มแบบนี้เลยนะคีตะ"พ่อผมถาม"ก็แค่แกล้งคนแล้วมันสนุกดีเท่านั้นเองครับ"ผมบอกไปผมโทรหายัยเด็กซื่อบื้อและที่ผมถาม ผมก็แค่อยากลองใจเธอดูว่าเธอซื่อจริงเหมือนที่ไอ้จอมพลบอกผมหรือเปล่า ถามว่าผมเชื่อมั้ยไม่รู้สิผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน แต่เท่าที่ผมเห็นยัยเด็กนี่ไม่น่าเกิดมาเลย"พ่อชักอยากจะเห็นหน้าคนที่แกกำลังแกล้งแล้วสิ"พ่อผมถามก่อนจะมองหน้าอย่างจับผิด"งั้นๆ ครับ""ไม่งั้นแล้วมั้งพ่อว่า คนนั้นต้องมีอะไรพิเศษแน่ ถึงทำให้คนอย่างคีตะยิ้มได้แบบนี้"เนี่ยแล้วพ่อก็เป็นสะแบบนี้อ่ะ"เพื่อนของจอมพลครับ"ผมบอกไปตามตรง"อย่าให้มันมากเกินไปเพราะยังไงน้องก็เป็นผู้หญิง แกล้งไปแกล้งมาระวังจะตกหลุมรักน้องเข้าล่ะ"ตกหลุมรักยัยเด็กซื่อบื้อเนี่ยนะฝันไปเถอะ"เธอไม่มีอะไรที่เหมือนแม่เลยสักนิด"ผมบอกไป"ไม่มีใครเหมือนกันหมดหรอกนะคีตะ ทุกคนมีข้อดีข้อเสียกันทั้งนั้น ถ้าแกตั้งสเปคผู้หญิงที่จะเข้ามาว่าต้องเหมือนแม่ แล้วรู้หรือเปล่าว่าเวลาแม่โกรธมันน่ากลัวขนาดไหน"พ่อผมถามพรางชี้ไปในครัวผมไม่รู้หรอกนะว่าเวลาแม่โกรธเป็นยังไง เพราะคุณน้อยหน่าที่ผมเห็นคือเป็นผู้หญิงที่มีแต่รอยยิ้มแสนดีแถมยังฉลาดซึ่งต
คีตะ"หายโกรธหรือยัง"ผมถามคนที่ยืนยิ้มอยู่ คือแม่งนอกจากซื่อบื้อแล้วยังต่อปากต่อคำเก่งอีก มีอย่างที่ไหนบอกวิธีง้อตัวเองให้คนอื่นรู้ เพราะแบบนี้สินะเธอถึงได้ไม่เคยโกรธคนอื่นเลย"หายแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ"เธอบอกผม"จะไปไหนไปขึ้นรถเดี๋ยวไปส่ง"ผมรีบจับสายเป้ก่อนจะลากเธอมานั่งที่รถ"ขอบคุณค่ะที่จะไปส่ง ว่าแต่คุณคีตะผิดนัดทำไมคะ ถ้าไม่ว่างก็ควรจะโทรบอกฉันหน่อยก็ได้เบอร์ฉันคุณคีตะก็มี"นี่ถ้าผมตอบไปคิดว่ายัยเด็กนี่จะทำยังทำขนมให้ผมกินมั้ยวะ"ขอโทษ พอดีเล่นเกมส์เพลินไปหน่อย"ผมบอกไป"ไม่เป็นไรค่ะ คุณคีตะง้อฉันแล้วฉันไม่โกรธแล้วค่ะ ส่วนขนมฉันจะทำให้กินนะคะ"ผมก็ยังยืนยันคำเดิมนะว่าเธอไม่น่าเกิดมาเลยอ่ะคือคนอะไรแม่งซื่อเกิน มิน่าไอ้จอมพลถึงได้หวงนักหวงหนา"วันหยุดค่อยทำ พรุ่งนี้ต้องทำกิจกรรมอีก"ผมบอกไป"ก็ได้ค่ะ ถ้าทำเสร็จเดี๋ยวฉันโทรบอกนะคะ"หลังจากนั้นผมก็ขับรถมาส่งยัยเด็กซื่อบื้อ และตลอดทางคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมก็เอาแต่มองออกนอกรถแล้วยิ้ม ผมล่ะอยากรู้จริงๆ เลยว่าเธอเคยโมโหหรือโกรธใครเป็นบ้างหรือเปล่า"ถามจริงนะ เคยโกรธหรือโมโหใครคนเป็นมั้ย"ผมถาม"เคยค่ะโกรธและโมโหมากเลยจนอ
คีตะให้ตายเถอะแม่ง นี่ถ้าผมไม่เจอเพื่อนรักของยัยเด็กซื่อบื้อเที่ยงคืนเธอก็คงไม่ได้กลับบ้านหรอก และผมเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะเอาเอกสารอะไรไปให้อาจารย์ในเมื่อเธอยังไม่ได้เข้าเรียนเลยสักคาบ"เอสเทลไปทำอะไรที่ตึกห้าวะ อีกไม่ถึงสิบนาทีประตูก็จะปิดแล้ว"ไอ้หมอกหันมาบอกผม(อยู่ตรงนั้นเดี๋ยวฉันไปหา ห้ามเดินไปไหนเด็ดขาด) ผมพูดเสียงดุก่อนจะวิ่งไปที่อาคาร"ดะ..ได้ค่ะ แต่ตอนนี้ไฟกำลังดับจะหมดแล้วนะคะ"(อย่าวางสายเข้าใจมั้ย)"ชั้นไหนวะ ตึกห้าแม่งใหญ่จะตายห่า"ไอ้คิมถามผม"เป็นห่วงเป็นใย"ไอ้หมอกเอ่ยแซวผม"ปกติไอ้จอมพลไม่ค่อยปล่อยน้องมัน แล้ววันนี้มันไปไหน""ไปรับเจ้าขา"ผมบอกเพื่อนไปผมกับเพื่อนรีบวิ่งมาที่ตึกห้าก่อนจะแยกย้ายกันไปตามหา ตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ชั้นไหน อย่าให้เจอนะจะด่าให้หายโง่เลยคอยดู(อยู่ตรงไหน) ผมถามคนที่อยู่ในสาย"ชั้นที่ห้าค่ะ"(กลัวมั้ย)"กลัวค่ะ คุณคีตะรีบมานะ"ผมวิ่งขึ้นมาชั้นที่ห้าก่อนจะมองหายัยเด็ดซื่อบื้อ ชั้นที่ห้าของเธอมันอยู่ฝั่งไหนของอาคารวะแม่ง"ฉันอยู่ชั้นที่ห้า เดินออกมาได้แล้ว"ผมบอกไปแต่เหมือนว่าจะไม่มีเสียงตอบรับจากเธอ ผมมองมือถือตัวเองที่ตอนนี้สายหลุดไปแล้ว ให้ม
เอสเทล'ก็เธอไง' ฉันนั่งคิดคำพูดของคุณคีตะตั้งแต่เมื่อคืนจนมาถึงตอนนี้ฉันก็ยังสงสัยอยู่เลย เธอไหนแล้วเธอคือใครกันเนี่ย และรู้มั้ยว่าตั้งแต่เมื่อคืนที่คุณคีตะพูดจบหลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง พอส่งฉันเสร็จคุณคีตะก็ขับรถออกไปเลย ฉันโทรหาก็ไม่รับสายด้วย โกรธคนอื่นแล้วมาลงกับฉันมันใช่หรอเนี่ย.."ต่อไปเราคงปล่อยเอสอยู่คนเดียวไม่ได้แล้ว"องศาพูดเสียงดุ"นั่นดินี่มาเรียนแค่ไม่กี่วันยังโดนแกล้ง อยากจะรู้จริงๆ เลยว่าเอสไปทำอะไรให้ถึงได้ถูกแกล้งอยู่คนเดียว"ตังเมกับองศาพูดพลางจ้องหน้าฉัน ฉันโดนพี่มายแกล้งอย่างนั้นหรอ แล้วพี่เขาจะแกล้งฉันไปเพื่ออะไรกันในเมื่อเราก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว"นี่ถ้าพี่คีตะไม่ถามหาเอสเมื่อวานนะ ป่านนี้เอสยังไม่ได้ออกจากตึกเลยเถอะ""นี่ภาพที่พี่คีตะตอนทำหน้าดุโคตรจะน่ากลัวเลยอ่ะ ยังติดตาอยู่เลยเนี่ย"ตังเมหันมาบอกฉัน"คอยดูเถอะแกล้งเพื่อนกู กูจะเอาคืนให้สาสมเลย"องศากัดฟันพูดจนฉันต้องขยับหนี"ไม่ต้องถึงองศาหรอกค่ะ เพราะแค่จอมพลพวกนั้นก็รับมือไม่ไหวแล้ว"ฉันรีบหันไปเมื่อตังเมชี้จอมพลที่กำลังเดินเข้ามาหาฉันและสีหน้าก็คงจะรู้เรื่องแล้ว"เอสมีอะไรเล่ามาให้หมดเลยนะ เพรา
เอสเทลฉันไม่เข้าใจคุณคีตะจริงๆ เลยนะว่าจะเอายังไงกับฉันกันแน่ เมื่อคืนนี่แทบจะกินหัวแต่พอมาวันนี้จะมาง้อฉัน วันนี้ฉันโกรธจริงๆ นะ โกรธจนแทบอยากจะฆ่าเขาเลย ฉันซื่อฉันโง่แล้วทำไมต้องว่าฉันด้วยล่ะ"งั้นเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยนะคะ"ฉันบอกคนที่ยืนหน้าบึ้งอยู่"อยากทำอะไรก็ทำเลย"แล้วดูเขาสิจะไม่ให้ฉันโกรธได้ยังไงกัน"เริ่มวันนี้เลยแล้วกัน"ฉันพูดเสียงดุหลังจากนั้นฉันก็เดินมารอรถกับเพื่อนรักเพื่อจะกลับบ้านโดยไม่สนใจคุณคีตะ ฉันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นและถ้าคุณคีตะยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองผิด ฉันจะเปลี่ยนจากห้าวันเป็นหนึ่งเดือนหรือไม่เราก็ไม่ต้องมาคุยกันอีกเลย"ยังไม่หายโกรธพี่คีตะอีกหรอเอส"ตังเมถามฉัน"เขาว่าเอสนะ เขานิสัยไม่ดี"ฉันบอกเพื่อนไป"แต่อย่างน้อยเขาก็รีบไปช่วยเอสนะ"องศาบอกฉัน"เอสไม่อยากฟัง และตอนนี้เอสกำลังทำโทษคุณคีตะอยู่ ไว้ครบห้าวันเมื่อไหร่ค่อยมาคุย""งอนเหมือนคนเป็นแฟนกันเลย"องศาพูดแล้วยิ้มให้ฉัน"ไม่ใช่สักหน่อย คุณคีตะเขามีคนของเขาอยู่แล้ว อีกอย่างเขาไม่มีวันที่จะมาชอบผู้หญิงอย่างเอสหรอก"ฉันบอกเพื่อนไปผู้หญิงอย่างฉันไม่มีใครชอบหรอก อาจจะเพราะฉันซื่อเกินไปแหละมั้งแถมยังไม่สวยอีกต่
คีตะผมขับรถมาที่ร้านกาแฟก่อนจะรีบเข้ามาในร้าน ไม่รู้ว่ายัยเด็กซื่อบื้อกลับบ้านไปหรือยัง ผมเข้ามาก่อนจะมองหาเธอทันทีแต่ก็ไม่เจอ ให้ตายเถอะนี่โกรธจริงใช่มั้ยวะ"นั่งอยู่ชั้นสองค่ะ แต่หน้าตาไม่รับแขกเลย"พี่เจ้าของร้านเดินมากระซิบผม"ปกติเวลาโกรธเธอเป็นแบบนี้ตลอดเลยหรอครับ"ผมถาม"ปกติเอสเทลไม่เคยเป็นแบบนี้นะ นี่ครั้งแรกเลยที่พี่เห็น"ผมควรจะดีใจใช่มั้ยวะที่โดนยัยเด็กซื่อบื้อโกรธเป็นคนแรก"เธอโกรธผมครับและโกรธมากด้วย"ผมบอกพี่เจ้าของร้านไปตามตรง"งั้นก็โชคดีนะคะ พี่เอาใจช่วย"พี่เจ้าของร้านพูดแล้วยิ้มให้ผมผมเดินขึ้นมาชั้นสองของร้านก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ คนที่นั่งเล่นมือถืออยู่ ผมว่ายัยเด็กซื่อบื้อติดนิสัยของไอ้จอมพลแล้วนะเรื่องการมองคนด้วยหางตา"ขอบคุณที่แบ่งขนมให้นะ"ผมบอกเธอไปไม่ได้สนใจกูเลยเถอะ นี่เธอกำลังเอาคืนกับสิ่งที่ผมทำกับเธอไว้สินะ ผมว่าเธอไม่ได้ซื่อหรอกเธอแค่กวนตีนผมเท่านั้นเองแหละ"จะไม่คุยด้วยจริงๆใช่มั้ย"ผมถามเสียงเบาก่อนที่เธอจะเบือนหน้าหนีอย่าให้ถึงทีผมบ้างแล้วกัน คอยดูเถอะจะเอาคืนให้ร้องไห้กลับบ้านเลย ผมนั่งจ้องหน้าไอ้คนที่เล่นมือถืออยู่คือยอมแพ้เลยว่ะ และผมก็ไม่เคยอดทนอะ
คีตะยัยเด็กซื่อบื้อจะรู้มั้ยว่าใจของผมมันกำลังเต้นแรงขนาดไหน ยิ่งตอนนี้หน้าของเธอมันอยู่ใกล้ผมแค่นิดเดียวเอง และผมก็ไม่คิดว่าเธอจะกลับมาด้วยซ้ำแต่พอลืมตามาก็เจอเธอกำลังจ้องหน้าผมอยู่"กินยาหรือยังคะ"เธอถามผมเสียงเบา"ยังไม่กิน"ผมบอกไปที่ผมไม่สบายก็เพราะผมไม่ได้นอนเลยไง และสาเหตุก็มาจากเธอทั้งนั้นแหละ ผมจ้องหน้ายัยเด็กซื่อบื้อทำไมผมถึงได้ชอบเธอกันทั้งๆ ที่เธอก็เหมือนผู้หญิงทั่วไป"ตัวร้อนแล้วนะคะ"เธอเอามือมาแตะหน้าผากผมแล้วรีบบอก"อืม...รู้แล้ว"ผมบอกไปที่จริงก็อยากจะนอนอยู่คอนโดนะแต่เพราะวันนี้มันครบห้าวันแล้วไง"ไปหาหมอมั้ยคะ ถ้าไม่ไปก็กลับไปกินยาแล้วนอนพักผ่อน"เธอบอกผมและแววตาแบบนี้ผมพึ่งเคยเห็น"นอนพักเดี๋ยวก็หาย"ผมบอกไปและถ้าจะให้ผมไปหาหมอผมไม่ไปอยู่แล้ว"กลับบ้านกันค่ะ""บ้านใคร"ผมถาม"บ้านฉันค่ะ เดี๋ยวฉันทำข้าวต้มให้ ไม่สบายก็ต้องกินข้าวกินยารู้มั้ยคะ ลุกขึ้นค่ะกลับบ้านกัน"เธอลุกขึ้นก่อนจับมือผมสุดท้ายผมก็ต้องยอมกลับบ้านกับยัยเด็กซื่อบื้อ ที่ไอ้จอมพลเคยบอกว่าใครอยู่ใกล้เธอก็รักเธอหมด วันนี้ผมรู้แล้วว่าที่มันพูดเป็นเรื่องจริง เธอใช้เวลาเพียงไม่นานเลยในการทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นผม
คีตะผมคงไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองอีกแน่ ผมมองหน้าคนที่ยืนอยู่คือยัยเด็กซื่อบื้อวันนี้หน้าตาแม่งเอาเรื่องมาก แต่ก็ยังดีที่เธอไม่โกหกผมเพราะถ้าเป็นแบบนั้นผมจะจับเธอหักคอ"ขอบคุณค่ะ""ดูท่าแล้วพวกนั้นไม่ยอมจบหรอกค่ะ"องศาพูดแล้วมองหน้าผม"ทำไมเอสไม่สู้บ้างล่ะ จะไปยอมพวกนั้นทำไม เขาทำไม่ดีกับเรานะเอสเทล"ไอ้หมอกพูดเสียงดุ"ไม่ค่ะ ในเมื่อเอสมีคุณคีตะอยู่ข้างๆ ทำไมเอสต้องสู้ด้วยล่ะคะ อีกอย่างหน้าที่ของเอสคือเรียนหนังสือค่ะ"ยัยเด็กบ้านี่เอาอีกแล้วนะ พักหลังมานี้เธอทำผมใจสั่นไปไม่รู้กี่รอบแล้ว และถ้าผมยิ้มไอ้สองตัวที่นั่งอยู่ข้างผมมันต้องล้อผมอีกแน่"แล้วเอสไม่คิดจะมีแฟนเลยหรอ เรียนไปมีแฟนไปก็ได้คนอื่นเขาก็ทำกันนะ"ไอ้คิมถามก่อนที่มันจะเตะขาผม"นั่นสิเอส พี่คิมพูดถูกนะ"ตังเมรีบพูดแทรกก่อนจะยิ้มให้ผม"ก็จอมพลบอกว่าแฟนมีตอนไหนก็ได้ไม่ใช่หรอคะ หน้าที่เราคือเรียนหนังสือ"ไอ้เวรจอมพล"พี่ว่าจอมพลพูดถูกแล้วแหละ ไว้เอสเรียนจบแล้วค่อยมีเนาะ"เอาเข้าไป"เอสยังไม่มีดีกว่า อยู่ให้คุณคีตะดูแลแบบนี้ดีจะตาย"ยัยเด็กซื่อบื้อพูดแล้วเอานิ้วจิ้มหลังผม"พูดมากว่ะ ไปเรียนได้แล้วไป"ผมพูดเสียงดุ"งั้นพวกเ
คีตะคำถามแบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่มีใครบอกเธอ และถ้าผมคิดไม่ผิดคงเป็นไอ้จอมพลอีกแน่ ไอ้เวรนี่แม่งจะเล่นผมให้ได้เลยเถอะ แล้วผมควรจะตอบเธอยังไงดีล่ะ แล้วถ้าผมตอบเธอไปตามตรงเธอจะเป็นยังไง"แล้วเธอคิดว่ายังไง"ผมถามเสียงดุ"ไม่ทราบค่ะ ฉันไม่อยากรู้แล้วก็ได้ถ้าคุณคีตะไม่อยากตอบ"อย่างนี้ก็ได้หรอวะ"ไม่คิดจะถามกันบ้างเลยหรือไงว่าเป็นยังไงบ้าง"ผมถามคนที่เอาแต่นั่งมองนอกรถ"แล้วคุณคีตะได้ผลัดไหนคะ"แล้วแม่งดูยัยเด็กบ้านี่ถามผมดิ"ทำไมอยากให้ฉันไปขนาดนั้นเลย"ผมถามเสียงดุ"เปล่าสักหน่อยฉันไม่ได้อยากให้คุณคีตะไปไหนนะคะ ฉันอยากให้คุณคีตะอยู่ข้างฉันเพราะฉันรู้สึกปลอดภัย"คำพูดที่เธอพูดออกมาเธอคงไม่ได้คิดอะไรหรอกแต่เป็นผมเองที่กำลังยิ้มอยู่ในใจ"แต่ถึงเธออยากจะให้ฉันไป แต่เสียใจด้วยนะฉันได้ใบดำ"ผมบอกไปทั้งผมและเพื่อนรักของผมได้ใบดำกันหมด พอเสร็จธุระผมก็รีบมาหาเลยเพราะตอนนี้แม่งจะค่ำแล้วด้วย ตามจริงผมจะพาเธอไปเที่ยวหัวหินแต่คงต้องไว้วันหลัง"วันนี้จอมพลบอกว่าชอบฉันค่ะ"อยู่ๆ ยัยเด็กซื่อบื้อก็หันมาพูดกับผมทั้งน้ำเสียงทั้งแววตาคือจริงจัง ผมจอดรถข้างทางก่อนจะหันมองหน้าเธอ ไอ้จอมพลนี่มันจะเอายังไงของมั
คีตะ"ถืออะไรคะ แล้วจะถือทำไม"เฮ้อ...ผมได้แต่ถอนหายใจกับสิ่งที่เธอถาม ถึงผมจะไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนั้นแต่ก็กันไว้ก่อนไง และผมจะไม่มีทางยอมให้เธอไปด้วยเด็ดขาด อีกอย่างคือผู้ชายเยอะผมหวง"นะคะ คุณคีตะให้ฉันไปด้วยนะ ฉันสัญญาจะไม่วุ่นวายเลย"ให้ตายเถอะยัยเด็กบ้านี่จะมาอ้อนผมแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย"ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อน ยังไงก็ไม่ให้ไป รออยู่บ้านนี่แหละ"ผมพูดเสียงดุ"ก็ได้ค่ะ""เดี๋ยวพาไปเที่ยวโอเคมั้ย ถ้าเธอเชื่อฟังฉันจะรีบกลับมาพาเธอไปเที่ยว"ผมบอกไป"ไปเที่ยวหรอคะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังคุณคีตะค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะรอคุณคีตะอยู่ที่บ้านจะไม่ออกไปไหนเลย""เชื่อได้"ผมถาม"สัญญาค่ะ"เธอเกี่ยวก้อยผมแล้วยิ้มให้"แบบนี้ให้ทำแค่กับฉันคนเดียวพอนะ"ผมพูดเสียงดุ"ฉันเคยทำกับจอมพลแล้วค่ะ""ก็ต่อไปไงไม่ต้องไปทำกับใครแล้วเข้าใจมั้ย ส่วนเรื่องการบ้านไม่ต้องไอ้หมอกหรอก เดี๋ยวฉันสอนให้"ผมบอกไป"ไม่เอาอ่ะคุณคีตะดุ ฉันยังไม่อยากโดนหักคอหรอกนะ ดูสิแค่ยังไม่สอนก็ดุใส่ฉันแล้ว"เธอพูดพลางขยับออกห่างผมนับวันเธอยิ่งกวนประสาทผมและไม่ต้องถามหาคนสอนเลยมันมีอยู่คนเดียวนั่นแหละที่สามารถสอนเธอให้ต่อต้านผมได้ จะว่าไปช
คีตะผมคงไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองอีกแน่ ผมมองหน้าคนที่ยืนอยู่คือยัยเด็กซื่อบื้อวันนี้หน้าตาแม่งเอาเรื่องมาก แต่ก็ยังดีที่เธอไม่โกหกผมเพราะถ้าเป็นแบบนั้นผมจะจับเธอหักคอ"ขอบคุณค่ะ""ดูท่าแล้วพวกนั้นไม่ยอมจบหรอกค่ะ"องศาพูดแล้วมองหน้าผม"ทำไมเอสไม่สู้บ้างล่ะ จะไปยอมพวกนั้นทำไม เขาทำไม่ดีกับเรานะเอสเทล"ไอ้หมอกพูดเสียงดุ"ไม่ค่ะ ในเมื่อเอสมีคุณคีตะอยู่ข้างๆ ทำไมเอสต้องสู้ด้วยล่ะคะ อีกอย่างหน้าที่ของเอสคือเรียนหนังสือค่ะ"ยัยเด็กบ้านี่เอาอีกแล้วนะ พักหลังมานี้เธอทำผมใจสั่นไปไม่รู้กี่รอบแล้ว และถ้าผมยิ้มไอ้สองตัวที่นั่งอยู่ข้างผมมันต้องล้อผมอีกแน่"แล้วเอสไม่คิดจะมีแฟนเลยหรอ เรียนไปมีแฟนไปก็ได้คนอื่นเขาก็ทำกันนะ"ไอ้คิมถามก่อนที่มันจะเตะขาผม"นั่นสิเอส พี่คิมพูดถูกนะ"ตังเมรีบพูดแทรกก่อนจะยิ้มให้ผม"ก็จอมพลบอกว่าแฟนมีตอนไหนก็ได้ไม่ใช่หรอคะ หน้าที่เราคือเรียนหนังสือ"ไอ้เวรจอมพล"พี่ว่าจอมพลพูดถูกแล้วแหละ ไว้เอสเรียนจบแล้วค่อยมีเนาะ"เอาเข้าไป"เอสยังไม่มีดีกว่า อยู่ให้คุณคีตะดูแลแบบนี้ดีจะตาย"ยัยเด็กซื่อบื้อพูดแล้วเอานิ้วจิ้มหลังผม"พูดมากว่ะ ไปเรียนได้แล้วไป"ผมพูดเสียงดุ"งั้นพวกเ
คีตะยัยเด็กซื่อบื้อจะรู้มั้ยว่าใจของผมมันกำลังเต้นแรงขนาดไหน ยิ่งตอนนี้หน้าของเธอมันอยู่ใกล้ผมแค่นิดเดียวเอง และผมก็ไม่คิดว่าเธอจะกลับมาด้วยซ้ำแต่พอลืมตามาก็เจอเธอกำลังจ้องหน้าผมอยู่"กินยาหรือยังคะ"เธอถามผมเสียงเบา"ยังไม่กิน"ผมบอกไปที่ผมไม่สบายก็เพราะผมไม่ได้นอนเลยไง และสาเหตุก็มาจากเธอทั้งนั้นแหละ ผมจ้องหน้ายัยเด็กซื่อบื้อทำไมผมถึงได้ชอบเธอกันทั้งๆ ที่เธอก็เหมือนผู้หญิงทั่วไป"ตัวร้อนแล้วนะคะ"เธอเอามือมาแตะหน้าผากผมแล้วรีบบอก"อืม...รู้แล้ว"ผมบอกไปที่จริงก็อยากจะนอนอยู่คอนโดนะแต่เพราะวันนี้มันครบห้าวันแล้วไง"ไปหาหมอมั้ยคะ ถ้าไม่ไปก็กลับไปกินยาแล้วนอนพักผ่อน"เธอบอกผมและแววตาแบบนี้ผมพึ่งเคยเห็น"นอนพักเดี๋ยวก็หาย"ผมบอกไปและถ้าจะให้ผมไปหาหมอผมไม่ไปอยู่แล้ว"กลับบ้านกันค่ะ""บ้านใคร"ผมถาม"บ้านฉันค่ะ เดี๋ยวฉันทำข้าวต้มให้ ไม่สบายก็ต้องกินข้าวกินยารู้มั้ยคะ ลุกขึ้นค่ะกลับบ้านกัน"เธอลุกขึ้นก่อนจับมือผมสุดท้ายผมก็ต้องยอมกลับบ้านกับยัยเด็กซื่อบื้อ ที่ไอ้จอมพลเคยบอกว่าใครอยู่ใกล้เธอก็รักเธอหมด วันนี้ผมรู้แล้วว่าที่มันพูดเป็นเรื่องจริง เธอใช้เวลาเพียงไม่นานเลยในการทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นผม
คีตะผมขับรถมาที่ร้านกาแฟก่อนจะรีบเข้ามาในร้าน ไม่รู้ว่ายัยเด็กซื่อบื้อกลับบ้านไปหรือยัง ผมเข้ามาก่อนจะมองหาเธอทันทีแต่ก็ไม่เจอ ให้ตายเถอะนี่โกรธจริงใช่มั้ยวะ"นั่งอยู่ชั้นสองค่ะ แต่หน้าตาไม่รับแขกเลย"พี่เจ้าของร้านเดินมากระซิบผม"ปกติเวลาโกรธเธอเป็นแบบนี้ตลอดเลยหรอครับ"ผมถาม"ปกติเอสเทลไม่เคยเป็นแบบนี้นะ นี่ครั้งแรกเลยที่พี่เห็น"ผมควรจะดีใจใช่มั้ยวะที่โดนยัยเด็กซื่อบื้อโกรธเป็นคนแรก"เธอโกรธผมครับและโกรธมากด้วย"ผมบอกพี่เจ้าของร้านไปตามตรง"งั้นก็โชคดีนะคะ พี่เอาใจช่วย"พี่เจ้าของร้านพูดแล้วยิ้มให้ผมผมเดินขึ้นมาชั้นสองของร้านก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ คนที่นั่งเล่นมือถืออยู่ ผมว่ายัยเด็กซื่อบื้อติดนิสัยของไอ้จอมพลแล้วนะเรื่องการมองคนด้วยหางตา"ขอบคุณที่แบ่งขนมให้นะ"ผมบอกเธอไปไม่ได้สนใจกูเลยเถอะ นี่เธอกำลังเอาคืนกับสิ่งที่ผมทำกับเธอไว้สินะ ผมว่าเธอไม่ได้ซื่อหรอกเธอแค่กวนตีนผมเท่านั้นเองแหละ"จะไม่คุยด้วยจริงๆใช่มั้ย"ผมถามเสียงเบาก่อนที่เธอจะเบือนหน้าหนีอย่าให้ถึงทีผมบ้างแล้วกัน คอยดูเถอะจะเอาคืนให้ร้องไห้กลับบ้านเลย ผมนั่งจ้องหน้าไอ้คนที่เล่นมือถืออยู่คือยอมแพ้เลยว่ะ และผมก็ไม่เคยอดทนอะ
เอสเทลฉันไม่เข้าใจคุณคีตะจริงๆ เลยนะว่าจะเอายังไงกับฉันกันแน่ เมื่อคืนนี่แทบจะกินหัวแต่พอมาวันนี้จะมาง้อฉัน วันนี้ฉันโกรธจริงๆ นะ โกรธจนแทบอยากจะฆ่าเขาเลย ฉันซื่อฉันโง่แล้วทำไมต้องว่าฉันด้วยล่ะ"งั้นเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยนะคะ"ฉันบอกคนที่ยืนหน้าบึ้งอยู่"อยากทำอะไรก็ทำเลย"แล้วดูเขาสิจะไม่ให้ฉันโกรธได้ยังไงกัน"เริ่มวันนี้เลยแล้วกัน"ฉันพูดเสียงดุหลังจากนั้นฉันก็เดินมารอรถกับเพื่อนรักเพื่อจะกลับบ้านโดยไม่สนใจคุณคีตะ ฉันเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นและถ้าคุณคีตะยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองผิด ฉันจะเปลี่ยนจากห้าวันเป็นหนึ่งเดือนหรือไม่เราก็ไม่ต้องมาคุยกันอีกเลย"ยังไม่หายโกรธพี่คีตะอีกหรอเอส"ตังเมถามฉัน"เขาว่าเอสนะ เขานิสัยไม่ดี"ฉันบอกเพื่อนไป"แต่อย่างน้อยเขาก็รีบไปช่วยเอสนะ"องศาบอกฉัน"เอสไม่อยากฟัง และตอนนี้เอสกำลังทำโทษคุณคีตะอยู่ ไว้ครบห้าวันเมื่อไหร่ค่อยมาคุย""งอนเหมือนคนเป็นแฟนกันเลย"องศาพูดแล้วยิ้มให้ฉัน"ไม่ใช่สักหน่อย คุณคีตะเขามีคนของเขาอยู่แล้ว อีกอย่างเขาไม่มีวันที่จะมาชอบผู้หญิงอย่างเอสหรอก"ฉันบอกเพื่อนไปผู้หญิงอย่างฉันไม่มีใครชอบหรอก อาจจะเพราะฉันซื่อเกินไปแหละมั้งแถมยังไม่สวยอีกต่
เอสเทล'ก็เธอไง' ฉันนั่งคิดคำพูดของคุณคีตะตั้งแต่เมื่อคืนจนมาถึงตอนนี้ฉันก็ยังสงสัยอยู่เลย เธอไหนแล้วเธอคือใครกันเนี่ย และรู้มั้ยว่าตั้งแต่เมื่อคืนที่คุณคีตะพูดจบหลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง พอส่งฉันเสร็จคุณคีตะก็ขับรถออกไปเลย ฉันโทรหาก็ไม่รับสายด้วย โกรธคนอื่นแล้วมาลงกับฉันมันใช่หรอเนี่ย.."ต่อไปเราคงปล่อยเอสอยู่คนเดียวไม่ได้แล้ว"องศาพูดเสียงดุ"นั่นดินี่มาเรียนแค่ไม่กี่วันยังโดนแกล้ง อยากจะรู้จริงๆ เลยว่าเอสไปทำอะไรให้ถึงได้ถูกแกล้งอยู่คนเดียว"ตังเมกับองศาพูดพลางจ้องหน้าฉัน ฉันโดนพี่มายแกล้งอย่างนั้นหรอ แล้วพี่เขาจะแกล้งฉันไปเพื่ออะไรกันในเมื่อเราก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว"นี่ถ้าพี่คีตะไม่ถามหาเอสเมื่อวานนะ ป่านนี้เอสยังไม่ได้ออกจากตึกเลยเถอะ""นี่ภาพที่พี่คีตะตอนทำหน้าดุโคตรจะน่ากลัวเลยอ่ะ ยังติดตาอยู่เลยเนี่ย"ตังเมหันมาบอกฉัน"คอยดูเถอะแกล้งเพื่อนกู กูจะเอาคืนให้สาสมเลย"องศากัดฟันพูดจนฉันต้องขยับหนี"ไม่ต้องถึงองศาหรอกค่ะ เพราะแค่จอมพลพวกนั้นก็รับมือไม่ไหวแล้ว"ฉันรีบหันไปเมื่อตังเมชี้จอมพลที่กำลังเดินเข้ามาหาฉันและสีหน้าก็คงจะรู้เรื่องแล้ว"เอสมีอะไรเล่ามาให้หมดเลยนะ เพรา
คีตะให้ตายเถอะแม่ง นี่ถ้าผมไม่เจอเพื่อนรักของยัยเด็กซื่อบื้อเที่ยงคืนเธอก็คงไม่ได้กลับบ้านหรอก และผมเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะเอาเอกสารอะไรไปให้อาจารย์ในเมื่อเธอยังไม่ได้เข้าเรียนเลยสักคาบ"เอสเทลไปทำอะไรที่ตึกห้าวะ อีกไม่ถึงสิบนาทีประตูก็จะปิดแล้ว"ไอ้หมอกหันมาบอกผม(อยู่ตรงนั้นเดี๋ยวฉันไปหา ห้ามเดินไปไหนเด็ดขาด) ผมพูดเสียงดุก่อนจะวิ่งไปที่อาคาร"ดะ..ได้ค่ะ แต่ตอนนี้ไฟกำลังดับจะหมดแล้วนะคะ"(อย่าวางสายเข้าใจมั้ย)"ชั้นไหนวะ ตึกห้าแม่งใหญ่จะตายห่า"ไอ้คิมถามผม"เป็นห่วงเป็นใย"ไอ้หมอกเอ่ยแซวผม"ปกติไอ้จอมพลไม่ค่อยปล่อยน้องมัน แล้ววันนี้มันไปไหน""ไปรับเจ้าขา"ผมบอกเพื่อนไปผมกับเพื่อนรีบวิ่งมาที่ตึกห้าก่อนจะแยกย้ายกันไปตามหา ตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ชั้นไหน อย่าให้เจอนะจะด่าให้หายโง่เลยคอยดู(อยู่ตรงไหน) ผมถามคนที่อยู่ในสาย"ชั้นที่ห้าค่ะ"(กลัวมั้ย)"กลัวค่ะ คุณคีตะรีบมานะ"ผมวิ่งขึ้นมาชั้นที่ห้าก่อนจะมองหายัยเด็ดซื่อบื้อ ชั้นที่ห้าของเธอมันอยู่ฝั่งไหนของอาคารวะแม่ง"ฉันอยู่ชั้นที่ห้า เดินออกมาได้แล้ว"ผมบอกไปแต่เหมือนว่าจะไม่มีเสียงตอบรับจากเธอ ผมมองมือถือตัวเองที่ตอนนี้สายหลุดไปแล้ว ให้ม
คีตะ"หายโกรธหรือยัง"ผมถามคนที่ยืนยิ้มอยู่ คือแม่งนอกจากซื่อบื้อแล้วยังต่อปากต่อคำเก่งอีก มีอย่างที่ไหนบอกวิธีง้อตัวเองให้คนอื่นรู้ เพราะแบบนี้สินะเธอถึงได้ไม่เคยโกรธคนอื่นเลย"หายแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ"เธอบอกผม"จะไปไหนไปขึ้นรถเดี๋ยวไปส่ง"ผมรีบจับสายเป้ก่อนจะลากเธอมานั่งที่รถ"ขอบคุณค่ะที่จะไปส่ง ว่าแต่คุณคีตะผิดนัดทำไมคะ ถ้าไม่ว่างก็ควรจะโทรบอกฉันหน่อยก็ได้เบอร์ฉันคุณคีตะก็มี"นี่ถ้าผมตอบไปคิดว่ายัยเด็กนี่จะทำยังทำขนมให้ผมกินมั้ยวะ"ขอโทษ พอดีเล่นเกมส์เพลินไปหน่อย"ผมบอกไป"ไม่เป็นไรค่ะ คุณคีตะง้อฉันแล้วฉันไม่โกรธแล้วค่ะ ส่วนขนมฉันจะทำให้กินนะคะ"ผมก็ยังยืนยันคำเดิมนะว่าเธอไม่น่าเกิดมาเลยอ่ะคือคนอะไรแม่งซื่อเกิน มิน่าไอ้จอมพลถึงได้หวงนักหวงหนา"วันหยุดค่อยทำ พรุ่งนี้ต้องทำกิจกรรมอีก"ผมบอกไป"ก็ได้ค่ะ ถ้าทำเสร็จเดี๋ยวฉันโทรบอกนะคะ"หลังจากนั้นผมก็ขับรถมาส่งยัยเด็กซื่อบื้อ และตลอดทางคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมก็เอาแต่มองออกนอกรถแล้วยิ้ม ผมล่ะอยากรู้จริงๆ เลยว่าเธอเคยโมโหหรือโกรธใครเป็นบ้างหรือเปล่า"ถามจริงนะ เคยโกรธหรือโมโหใครคนเป็นมั้ย"ผมถาม"เคยค่ะโกรธและโมโหมากเลยจนอ