“เป็นไงแก มีคนน่าสนใจมั้ย”
“ก็สนุกดี” ถ้าจะให้พูดตามตรงก็คงมี และเป็นผู้ชายที่เอาแต่มองเธออยู่บ่อยๆ แววตาของเขาดูน่าค้นหา ภายใต้หน้ากากนั้นคงซ่อนความหล่อเหลาเอาไว้
“ถ้าแกอยากรู้จักใครก็เข้าไปทำความรู้จักได้เลยนะ คนที่มางานปาร์ตี้แบบนี้โสดทั้งนั้นแหละ”
“แกรู้ได้ไงว่าโสดทุกคน แต่ละคนโปรไฟล์ดีขนาดนั้น”
“แกก็โปรไฟล์ดียังโสดเลยป้ะ?”
พรีมมีหน้าตาที่สวยงามแบบฉบับสาวลูกครึ่ง การศึกษาดี ฐานะทางบ้านไม่เป็นสองรองจากใคร แต่เพราะเธอโลกส่วนตัวค่อนข้างสูงจึงไม่เปิดรับใครเข้ามาในใจ ทั้งที่มีผู้ชายมากมายอยากทำความรู้จักกับเธอ
“ไม่มีใครมาหาแฟนในงานปาร์ตี้หรอก เขาก็หาแค่อยากวันไนต์สแตนด์ทั้งนั้นแหละ”
“แบบนั้นก็ยังน่าสนใจอยู่ดี อยากรู้เหมือนกันว่าเด็กเรียนจะแซ่บมั้ย” จูดี้ยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนจะนั่งลงข้างพรีม “แกเองก็อยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าเซ็กซ์เป็นยังไง”
“…” พรีมยักไหล่ยอมรับเพราะมันเป็นความจริงทุกประการ ด้วยเพราะเธอเป็นจิตรกรที่ชอบวาดภาพแนวอิโรติก ทำให้อยากรู้ว่ายามที่ต้องเปลือยเปล่าต่อหน้าผู้ชายและร่วมรักกัน…มีความรู้สึกอย่างไร
“คืนนี้ลองหาสักคนไปสร้างประสบการณ์สิ”
“แล้วถ้าเจอคนซาดิสม์ทำไง” หากเป็นเช่นนั้นประสบการณ์ครั้งแรกของเธอคงไม่น่าจดจำ
“แกก็ตกลงกับผู้ชายคนนั้นก่อนสิ เรื่องเซ็กซ์ต้องโอเคกันทั้งสองฝ่ายมันถึงจะสนุก”
“ไม่เอาหรอก” หญิงสาวปฏิเสธพลางยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบอย่างละเมียดละไม เบนสายตามองชายหนุ่มคนดังกล่าวผ่านแววตาเรียบเฉย ซึ่งอีกฝ่ายก็มองเธอด้วยแววตาที่ไม่ต่างกัน แวบหนึ่งเห็นมุมปากหนากดลึกเป็นรอยยิ้มที่ไม่ชัดเจนนัก
“เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงฉันกลับมานะ ขอไปแอ๊วหนุ่มๆ หน่อย”
“ตามสบายเถอะ” เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่จูดี้จะทิ้งเธอไปสนุกกับผู้ชาย ซึ่งพรีมมองว่ามันเป็นสิทธิ์ของเพื่อนที่จะทำอะไรก็ได้ให้ตนเองมีความสุข
เวลาดำเนินผ่านไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสติของพรีมที่ใกล้ถูกแอลกอฮอล์ครอบครองเต็มที เธอวางแก้วไวน์ที่ดื่มหมดแล้วลงบนโต๊ะเล็กๆ พลางลุกจากโซฟาเพื่อเดินออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก
เท้าเล็กหยุดกะทันหันเมื่อเดินเลี้ยวมาข้างบ้าน แล้วเห็นว่ามีใครคนหนึ่งยืนสูบบุหรี่อยู่ก่อนแล้ว เพราะเป็นมุมอับทำให้แสงสว่างมีไม่มากพอ
“มาสูบบุหรี่?”
“หือ?” คำทักทายเป็นภาษาไทยทำเอาโครงคิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน ไม่เข้าใจว่าทำไมชายผู้มีดวงตาสีเทาหม่นเช่นชาวต่างชาติถึงได้ทักทายเธอแบบนี้
“ฟังไม่ออกเหรอ” เขาอ่านปากของเธอเวลาพูดคุยกับเพื่อนจึงได้รู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าพูดภาษาเดียวกัน
“ฟังออกค่ะ แต่ฉันนึกว่าคุณเป็นชาวต่างชาติ”
“ผมเป็นคนไทย...เหมือนคุณ”
“งั้นก็ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” พรีมคลี่ยิ้มบางส่งให้ชายหนุ่มแปลกหน้าที่เพิ่งเจอ ความสูงของเขาทำให้เธอต้องเงยหน้าพูดคุยในองศาที่มากกว่าปกติ
“ครับ” ไวซ์ตอบเสียงเรียบ ขณะพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก
“แล้วก็เมื่อกี้ที่คุณถาม...ฉันไม่ได้สูบบุหรี่ค่ะ แค่มารับอากาศเฉยๆ”
“คุณเมา?” ดวงตาคมพิจารณาใบหน้าภายใต้หน้ากากสีขาว แม้จะถูกบดบังแต่ก็รู้ว่าคงเป็นเช่นนั้น เพราะแววตาของเธอไม่เหมือนกับตอนแรกที่เขาเห็น
“นิดหน่อยค่ะ พอดีไม่ค่อยได้ดื่ม”
ร่างสูงหลุบตามองนาฬิกาข้อมือซึ่งบอกเวลาสี่ทุ่มสี่สิบหกนาที ก่อนจะเงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง “สนใจไปหาที่เงียบๆ คุยกับผมมั้ย?”
“ที่เงียบๆ เหรอคะ” พรีมไม่ใช่เด็กน้อยที่จะไม่รู้ว่าคำถามนั้นแฝงเร้นสิ่งใดไว้ และเธอก็กำลังใช้สติหยิบยกมันขึ้นมาพิจารณา
“อืม ที่ที่มีแค่ผมกับคุณ” ไวซ์ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากอวบอิ่มแผ่วเบาเพื่อขอคำตอบ ยิ่งพึงพอใจเมื่อมือบางเลื่อนขึ้นมากุมนิ้วโป้งของเขาไว้
“แล้วสถานที่ที่ว่า…คือที่ไหนล่ะคะ”
“…บ้านผม”
พรีมรู้ว่าอีกฝ่ายแค่ต้องการ ‘วันไนต์สแตนด์’ ส่วนเธอคิดว่ามันไม่มีอะไรเสียหาย เพราะตอนนี้เธออายุยี่สิบแปดปีแล้ว มันมากพอให้ตัดสินใจด้วยตนเอง“สนใจมั้ย?”“ข้อเสนอคุณก็น่าสนใจดีค่ะ แต่คิดว่าน่าจะต้องตกลงอะไรกับคุณก่อน”“ตกลง?”“คุณไม่ใช่พวกซาดิสม์อะไรแบบนี้ใช่มั้ย”“คุณชอบอะไรแบบนั้น?” วงคิ้วเหนือดวงตามีเสน่ห์เลิกขึ้นอย่างประหลาดใจ“เปล่าค่ะ ฉันไม่เคยวันไนต์ก็เลยถามป้องกันไว้ก่อน” นอกจากจะไม่เคยวันไนต์สแตนด์ พรีมก็ยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชายคนไหนเลยด้วยซ้ำ แต่ผ่านการใช้ชีวิตมาในระดับจึงต้องรู้เรื่องเหล่านี้ไว้บ้าง“ผมไม่ใช่แบบที่คุณกลัว” ไวซ์ไม่เคยทำร้ายร่างกายผู้หญิง แต่ถนัดทำให้พวกเธอดิ้นพล่านจากความเสียวมากกว่า“…” หญิงสาวสบตากับคนตรงหน้าอีกหนขณะใช้ความคิด แต่เพียงเสี้ยววินาทีใบหน้าคมคายก็ก้มลงมาใกล้ๆ จนลมหายใจอุ่นเป่ารดปลายจมูกไวซ์ถามหาคำตอบ “ไปมั้ย?”เสียงแหบพร่า และดวงตาทรงเสน่ห์ขับกล่อมให้พรีมตกลงอย่างเลื่อนลอย “ไปค่ะ”วินาทีที่ประตูคอนโดมิเนียมปิดลงร่างเล็กก็ถูกอุ้มกระเตงขึ้นจากพื้น เรียวขาเล็กเกี่ยวเอวสอบไว้อัตโนมัติ ใบหน้ากดลงสบตากับคนที่อยู่ต่ำกว่า ก่อนมือหนาจะรั้
สามเดือนต่อมา...@Bangkok, Thailand ก๊อก ก๊อก ก๊อก~เสียงเคาะประตูปลุกให้หญิงสาวตื่นขึ้นมาการนอนหลับ เธอพยุงตัวลุกจากเตียงอย่างงัวเงีย แล้วเดินไปเปิดประตูทั้งที่ยังหลับตาข้างหนึ่ง“ปลุกพี่แต่เช้าเลยนะตัวเล็ก”“พี่พรีมยังไม่ตื่นเหรอคะ พี่ภามม์ให้รักมาตามไปทานข้าวเช้าค่ะ”“บอกพี่ภามม์ว่าพี่ขอนอนต่ออีกหน่อยแล้วกัน ยังเจ็ตแล็กอยู่เลย”“พี่ภามม์ฝากให้รักมาบอกด้วยว่ามีเรื่องจะคุยกับพี่พรีมค่ะ ถ้าอยากนอนต่อก็ลงไปคุยกับเขาก่อน”“งั้นพี่ขอล้างหน้าแปรงฟันสักสิบนาที เดี๋ยวพี่ตามลงไป”“รับทราบค่ะ” แสนรักคลี่ยิ้มอย่างสดใส ก่อนจะหันหลังเดินลงบันไดไป คล้อยหลังพรีมจึงเดินกลับมาทำธุระส่วนตัวของตนเองไม่ถึงสิบนาทีเธอก็ลงมายังห้องรับประทานอาหารของคฤหาสน์ ซึ่งเป็นบ้านของพี่ชายคนโตที่เธอมาขออาศัยหลังจากกลับมาจากอเมริกาได้เกือบหนึ่งอาทิตย์แล้ว“พี่มีอะไรจะคุยกับพรีม?” พรีมถามพี่ชายของตนเสียงเรียบ“คอนโดเราตกแต่งให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ย้ายเข้าไปอยู่ได้เลย”“แหม แค่ขอมาพักด้วยไม่กี่วันถึงกับต้องไล่น้องเลยเหรอ”“แล้วใครมันเป็นคนบอกพี่ว่าให้เร่ง?”“ขอบคุณค่าคุณพี่ชาย” หญิงสาวประนมยกมือไหว้อย่างทะเล้น ส่วนคนเป็
ความลุ่มหลงชั่วขณะ…มักจะพาเราไปจุดที่คาดไม่ถึงเสมอแต่ไม่คิดว่าจะชักนำหญิงสาวผู้รักความสงบอย่าง ‘พรีม’ จมดิ่งสู่ห้วงอารมณ์ร้อนแรงยามค่ำคืนกับ ‘ผู้ชายแปลกหน้า’ ที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกสองชายหญิงกอดเกี่ยวกันอย่างแนบชิด กลิ่นอายราคะอันแสนเข้มข้นลอยคละคลุ้งรอบตัว เสียงกระทบกระแทกดังก้องอยู่ภายในคอนโดมิเนียมหรูที่ถูกเปลี่ยนเป็นรังรักชั่วคราว“อะ…อ๊า” ความเสียวซ่านที่อาบไล้ทั่วเรือนกายขับกล่อมให้หญิงสาวครวญครางอย่างลืมอาย โดยมีชายหนุ่มร่างกายสูงใหญ่เคลื่อนไหวอยู่กลางหว่างขาดวงตาสีเทาหม่นประกายแวววาวในความมืด ยามจ้องมองเรือนร่างไร้ที่ติของคนเบื้องล่าง เมื่อหน้ากากหลุดออกจากใบหน้าเรียวเล็ก ทำให้เขาเห็นความเย้ายวนชวนปลุกเร้าอารมณ์กระสันได้เป็นอย่างดีของหญิงสาวเสียงคำรามต่ำดังสอดประสานกับเสียงกระเส่าของหญิงสาว ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะลากไล้จากลำคอระหงลงมานวดคลึงเนินอกใหญ่เกินขนาด พร้อมทั้งก้มลงไปตะโบมดูดดุนจนช่องทางด้านล่างบีบรัดกายแกร่งถี่รัว“คะ…คุณ อ๊าา” ปลายนิ้วจิกเล็บลงบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าเต็มแรง ทว่ายิ่งทำให้ชายหนุ่มกระแทกกระทั้นตัวตนเข้าใส่เธออย่างหนักหน่วงริมฝีปากหนาผละจากยอดอกสีหวาน ใช้ปล
ย้อนเหตุการณ์คืนเร่าร้อน…@Califonia, USAก๊อก ก๊อก ก๊อก~ใบหน้าหวานหันมองทางต้นเสียงอัตโนมัติ เมื่อได้ยินเสียงเคาะกระจกของสตูดิโอเล็กๆ ของตนเอง พลางเลิกคิ้วมองอย่างมีคำถาม“มาทำไร?”“ก็ฉันไปหาแกที่บ้านมา แต่แกไม่อยู่ก็เลยมาหาที่นี่”“นั่นแหละ แกมีธุระอะไรกับฉันเหรอ”“อย่าบอกนะว่าแกลืมปาร์ตี้คืนนี้อะอีพรีม”“…” หญิงสาวยักไหล่แทนการตอบคำถาม แท้จริงเธอไม่ได้ลืม เพียงแต่ตั้งใจว่าจะเบี้ยวนัดของเพื่อน“อย่ามาเทกันซึ่งหน้าแบบนี้นะ กลับบ้านไปแต่งตัวเลย ฉันเตรียมหน้ากากมาให้แกแล้ว” จูดี้รีบเดินมาฉุดพรีมลุกขึ้นจากเก้าอี้ แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับขืนตัวแล้วขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย“ปาร์ตี้อะไร ทำไมมีหน้ากากด้วย”“ถามได้ก็ปาร์ตี้คนโสดไง รายชื่อแต่ละคนก็คือแซ่บนัวสุด”“ฉันไม่ได้อยากนัวกับใคร อยากนอนโง่ๆ ดูเน็ตฟลิกซ์มากกว่า”“แกใช้ชีวิตน่าเบื่อกว่าที่คิดนะอีพรีม”หญิงสาวยอมรับว่าตนเป็นเช่นนั้นจริง เพราะวันๆ ถ้าไม่เรียนหนังสือ ก็มาขลุกตัวอยู่ในสตูดิโอวาดภาพของตนเอง ต่อให้รู้สึกอยากดื่มแอลกอฮอล์ก็จะซื้อมาดื่มคนเดียว“อีกไม่กี่เดือนแกก็จะทิ้งฉันกลับไทยแล้วนะ ถือว่าไปปาร์ตี้ส่งท้ายแล้วกัน”“ก็ได้” พรีมจำนนอย่าง
สามเดือนต่อมา...@Bangkok, Thailand ก๊อก ก๊อก ก๊อก~เสียงเคาะประตูปลุกให้หญิงสาวตื่นขึ้นมาการนอนหลับ เธอพยุงตัวลุกจากเตียงอย่างงัวเงีย แล้วเดินไปเปิดประตูทั้งที่ยังหลับตาข้างหนึ่ง“ปลุกพี่แต่เช้าเลยนะตัวเล็ก”“พี่พรีมยังไม่ตื่นเหรอคะ พี่ภามม์ให้รักมาตามไปทานข้าวเช้าค่ะ”“บอกพี่ภามม์ว่าพี่ขอนอนต่ออีกหน่อยแล้วกัน ยังเจ็ตแล็กอยู่เลย”“พี่ภามม์ฝากให้รักมาบอกด้วยว่ามีเรื่องจะคุยกับพี่พรีมค่ะ ถ้าอยากนอนต่อก็ลงไปคุยกับเขาก่อน”“งั้นพี่ขอล้างหน้าแปรงฟันสักสิบนาที เดี๋ยวพี่ตามลงไป”“รับทราบค่ะ” แสนรักคลี่ยิ้มอย่างสดใส ก่อนจะหันหลังเดินลงบันไดไป คล้อยหลังพรีมจึงเดินกลับมาทำธุระส่วนตัวของตนเองไม่ถึงสิบนาทีเธอก็ลงมายังห้องรับประทานอาหารของคฤหาสน์ ซึ่งเป็นบ้านของพี่ชายคนโตที่เธอมาขออาศัยหลังจากกลับมาจากอเมริกาได้เกือบหนึ่งอาทิตย์แล้ว“พี่มีอะไรจะคุยกับพรีม?” พรีมถามพี่ชายของตนเสียงเรียบ“คอนโดเราตกแต่งให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ย้ายเข้าไปอยู่ได้เลย”“แหม แค่ขอมาพักด้วยไม่กี่วันถึงกับต้องไล่น้องเลยเหรอ”“แล้วใครมันเป็นคนบอกพี่ว่าให้เร่ง?”“ขอบคุณค่าคุณพี่ชาย” หญิงสาวประนมยกมือไหว้อย่างทะเล้น ส่วนคนเป็
พรีมรู้ว่าอีกฝ่ายแค่ต้องการ ‘วันไนต์สแตนด์’ ส่วนเธอคิดว่ามันไม่มีอะไรเสียหาย เพราะตอนนี้เธออายุยี่สิบแปดปีแล้ว มันมากพอให้ตัดสินใจด้วยตนเอง“สนใจมั้ย?”“ข้อเสนอคุณก็น่าสนใจดีค่ะ แต่คิดว่าน่าจะต้องตกลงอะไรกับคุณก่อน”“ตกลง?”“คุณไม่ใช่พวกซาดิสม์อะไรแบบนี้ใช่มั้ย”“คุณชอบอะไรแบบนั้น?” วงคิ้วเหนือดวงตามีเสน่ห์เลิกขึ้นอย่างประหลาดใจ“เปล่าค่ะ ฉันไม่เคยวันไนต์ก็เลยถามป้องกันไว้ก่อน” นอกจากจะไม่เคยวันไนต์สแตนด์ พรีมก็ยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชายคนไหนเลยด้วยซ้ำ แต่ผ่านการใช้ชีวิตมาในระดับจึงต้องรู้เรื่องเหล่านี้ไว้บ้าง“ผมไม่ใช่แบบที่คุณกลัว” ไวซ์ไม่เคยทำร้ายร่างกายผู้หญิง แต่ถนัดทำให้พวกเธอดิ้นพล่านจากความเสียวมากกว่า“…” หญิงสาวสบตากับคนตรงหน้าอีกหนขณะใช้ความคิด แต่เพียงเสี้ยววินาทีใบหน้าคมคายก็ก้มลงมาใกล้ๆ จนลมหายใจอุ่นเป่ารดปลายจมูกไวซ์ถามหาคำตอบ “ไปมั้ย?”เสียงแหบพร่า และดวงตาทรงเสน่ห์ขับกล่อมให้พรีมตกลงอย่างเลื่อนลอย “ไปค่ะ”วินาทีที่ประตูคอนโดมิเนียมปิดลงร่างเล็กก็ถูกอุ้มกระเตงขึ้นจากพื้น เรียวขาเล็กเกี่ยวเอวสอบไว้อัตโนมัติ ใบหน้ากดลงสบตากับคนที่อยู่ต่ำกว่า ก่อนมือหนาจะรั้
“เป็นไงแก มีคนน่าสนใจมั้ย”“ก็สนุกดี” ถ้าจะให้พูดตามตรงก็คงมี และเป็นผู้ชายที่เอาแต่มองเธออยู่บ่อยๆ แววตาของเขาดูน่าค้นหา ภายใต้หน้ากากนั้นคงซ่อนความหล่อเหลาเอาไว้“ถ้าแกอยากรู้จักใครก็เข้าไปทำความรู้จักได้เลยนะ คนที่มางานปาร์ตี้แบบนี้โสดทั้งนั้นแหละ”“แกรู้ได้ไงว่าโสดทุกคน แต่ละคนโปรไฟล์ดีขนาดนั้น”“แกก็โปรไฟล์ดียังโสดเลยป้ะ?”พรีมมีหน้าตาที่สวยงามแบบฉบับสาวลูกครึ่ง การศึกษาดี ฐานะทางบ้านไม่เป็นสองรองจากใคร แต่เพราะเธอโลกส่วนตัวค่อนข้างสูงจึงไม่เปิดรับใครเข้ามาในใจ ทั้งที่มีผู้ชายมากมายอยากทำความรู้จักกับเธอ“ไม่มีใครมาหาแฟนในงานปาร์ตี้หรอก เขาก็หาแค่อยากวันไนต์สแตนด์ทั้งนั้นแหละ”“แบบนั้นก็ยังน่าสนใจอยู่ดี อยากรู้เหมือนกันว่าเด็กเรียนจะแซ่บมั้ย” จูดี้ยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนจะนั่งลงข้างพรีม “แกเองก็อยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าเซ็กซ์เป็นยังไง”“…” พรีมยักไหล่ยอมรับเพราะมันเป็นความจริงทุกประการ ด้วยเพราะเธอเป็นจิตรกรที่ชอบวาดภาพแนวอิโรติก ทำให้อยากรู้ว่ายามที่ต้องเปลือยเปล่าต่อหน้าผู้ชายและร่วมรักกัน…มีความรู้สึกอย่างไร“คืนนี้ลองหาสักคนไปสร้างประสบการณ์สิ”“แล้วถ้าเจอคนซาดิสม์ทำไง” หากเป็นเช่นนั้
ย้อนเหตุการณ์คืนเร่าร้อน…@Califonia, USAก๊อก ก๊อก ก๊อก~ใบหน้าหวานหันมองทางต้นเสียงอัตโนมัติ เมื่อได้ยินเสียงเคาะกระจกของสตูดิโอเล็กๆ ของตนเอง พลางเลิกคิ้วมองอย่างมีคำถาม“มาทำไร?”“ก็ฉันไปหาแกที่บ้านมา แต่แกไม่อยู่ก็เลยมาหาที่นี่”“นั่นแหละ แกมีธุระอะไรกับฉันเหรอ”“อย่าบอกนะว่าแกลืมปาร์ตี้คืนนี้อะอีพรีม”“…” หญิงสาวยักไหล่แทนการตอบคำถาม แท้จริงเธอไม่ได้ลืม เพียงแต่ตั้งใจว่าจะเบี้ยวนัดของเพื่อน“อย่ามาเทกันซึ่งหน้าแบบนี้นะ กลับบ้านไปแต่งตัวเลย ฉันเตรียมหน้ากากมาให้แกแล้ว” จูดี้รีบเดินมาฉุดพรีมลุกขึ้นจากเก้าอี้ แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับขืนตัวแล้วขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย“ปาร์ตี้อะไร ทำไมมีหน้ากากด้วย”“ถามได้ก็ปาร์ตี้คนโสดไง รายชื่อแต่ละคนก็คือแซ่บนัวสุด”“ฉันไม่ได้อยากนัวกับใคร อยากนอนโง่ๆ ดูเน็ตฟลิกซ์มากกว่า”“แกใช้ชีวิตน่าเบื่อกว่าที่คิดนะอีพรีม”หญิงสาวยอมรับว่าตนเป็นเช่นนั้นจริง เพราะวันๆ ถ้าไม่เรียนหนังสือ ก็มาขลุกตัวอยู่ในสตูดิโอวาดภาพของตนเอง ต่อให้รู้สึกอยากดื่มแอลกอฮอล์ก็จะซื้อมาดื่มคนเดียว“อีกไม่กี่เดือนแกก็จะทิ้งฉันกลับไทยแล้วนะ ถือว่าไปปาร์ตี้ส่งท้ายแล้วกัน”“ก็ได้” พรีมจำนนอย่าง
ความลุ่มหลงชั่วขณะ…มักจะพาเราไปจุดที่คาดไม่ถึงเสมอแต่ไม่คิดว่าจะชักนำหญิงสาวผู้รักความสงบอย่าง ‘พรีม’ จมดิ่งสู่ห้วงอารมณ์ร้อนแรงยามค่ำคืนกับ ‘ผู้ชายแปลกหน้า’ ที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกสองชายหญิงกอดเกี่ยวกันอย่างแนบชิด กลิ่นอายราคะอันแสนเข้มข้นลอยคละคลุ้งรอบตัว เสียงกระทบกระแทกดังก้องอยู่ภายในคอนโดมิเนียมหรูที่ถูกเปลี่ยนเป็นรังรักชั่วคราว“อะ…อ๊า” ความเสียวซ่านที่อาบไล้ทั่วเรือนกายขับกล่อมให้หญิงสาวครวญครางอย่างลืมอาย โดยมีชายหนุ่มร่างกายสูงใหญ่เคลื่อนไหวอยู่กลางหว่างขาดวงตาสีเทาหม่นประกายแวววาวในความมืด ยามจ้องมองเรือนร่างไร้ที่ติของคนเบื้องล่าง เมื่อหน้ากากหลุดออกจากใบหน้าเรียวเล็ก ทำให้เขาเห็นความเย้ายวนชวนปลุกเร้าอารมณ์กระสันได้เป็นอย่างดีของหญิงสาวเสียงคำรามต่ำดังสอดประสานกับเสียงกระเส่าของหญิงสาว ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะลากไล้จากลำคอระหงลงมานวดคลึงเนินอกใหญ่เกินขนาด พร้อมทั้งก้มลงไปตะโบมดูดดุนจนช่องทางด้านล่างบีบรัดกายแกร่งถี่รัว“คะ…คุณ อ๊าา” ปลายนิ้วจิกเล็บลงบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าเต็มแรง ทว่ายิ่งทำให้ชายหนุ่มกระแทกกระทั้นตัวตนเข้าใส่เธออย่างหนักหน่วงริมฝีปากหนาผละจากยอดอกสีหวาน ใช้ปล